Advent of the Archmage – ตอนที่ 184: มือของผู้สังหาร

สถาบันเวทย์มนตร์ระดับสูงอีสโควฟ, เวลากลางดึก
ทาร์วิสเดินตรงไปยังหอคอยเวทย์มนตร์ที่เป็นจุดสำคัญอย่างดุร้าย ระหว่างทาง, เขาจะเหวี่ยงแขนของเขาอย่างบ้าคลั่งซึ่งทำให้พลังแห่งความมืดที่อยู่รอบตัวเขาทำลายทุกสิ่งในทัศนวิสัยไปด้วย หอคอยเวทย์มนตร์ธรรมดาถูกผ่าเป็นสองซีกในทันที, ทำให้บ่อธาตุระเบิดและเสียงร้องโหยหวนก็รุนแรงขึ้น ตอนนี้สถาบันเวทย์มนตร์ระดับสูงอีสโควฟตกอยู่ในความวุ่นวายอย่างสมบูรณ์

 

“ไบรอันท์, ถ้าแกยังซ่อนตัวไม่เลิก, ข้าจะทำลายสถานที่แห่งนี้ไปพร้อมกับผู้คนที่นี่!” ทาร์วิสตะโกน

แน่นอนว่าเขาไม่ได้รับการตอบสนอง; ไบรอันท์ไม่ได้อยู่ในโลกนี้อีกต่อไปแล้ว ซึ่งนี่ยิ่งทำให้ทาร์วิสเดือดดาลมากขึ้น

หอคอยเวทย์มนตร์ไม่ได้ตั้งอยู่นิ่งๆแล้วรอการถูกทำลายเพียงอย่างเดียว อันที่จริงพวกมันกำลังตอบโต้ด้วยเวทย์มนตร์โจมตี, เวทย์ยิงเลเวล 6 ใส่ทาร์วิสอย่างต่อเนื่อง, แต่ว่า, ด้วยความที่เผชิญหน้ากับปีศาจเลเวล 8, เวทย์เลเวล 6 พวกนี้จึงเป็นเหมือนแค่ประทัดกากๆเท่านั้น พวกมันเจาะทะลุพลังแห่งความมืดที่ปกคลุมร่างของทาร์วิสไม่ได้ด้วยซ้ำ

ณ ตอนนี้, นักเวทย์ทุกคนในสถาบันมีคำถามเดียวกันอยู่ในความคิดของพวกเขา

ใครจะสามารถหยุดปีศาจตนนี้ได้กัน? ผู้อาวุโสแอนโทนี่ยังมีชีวิตอยู่ไหม?

ผู้อาวุโสแอนโทนี่เป็นเสาหลักที่คอยค้ำจุนจิตใจของสถาบัน ไม่มีใครรู้ว่าเขารอดจากการโจมตีของเวทย์เลเวล 8 ได้รึเปล่า และการปรากฏตัวอันน่าหวาดหวั่นของปีศาจตนนี้ก็ได้ฉุดนักเวทย์จมลงไปในความเศร้า ดังนั้นพวกเขาหลายคนจึงยอมแพ้ให้กับความหวังไปแล้ว
แต่ว่า, แท้ที่จริงแล้วแอนโทนี่ยังมีชีวิตอยู่
ในช่วงเสี้ยววินาทีสุดท้าย, แอนโทนี่ได้เทเลพอร์ตหนีออกมาจากหนามแห่งสวรรค์ ตอนนี้เขาอยู่ห่างจากสถาบันประมาณ 0.6 ไมล์ แม้ว่าเขาจะหนีจากการโจมตีส่วนใหญ่มาได้, แต่เวทย์เทเลพอร์ตของเขาก็ยังใช้เวลาในการร่ายนานเกินไปอยู่ดี ดังนั้น, เขาจึงได้รับบาดเจ็บสาหัสบางจุดจากคลื่นกระแทกของเวทย์เลเวล 8
ในตอนที่คลื่นกระแทกมาถึงตัวเขา, เวทย์ป้องกันในบ่อธาตุได้ป้องกันแรงกระแทกบางส่วนโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม, เวทย์เลเวล 8 ก็ยังสามารถเจาะทะลุบาเรียมาได้และถากโดนร่างกายของเขา, ทำให้ขาของเขาสลายไปแทบจะทันที

ตอนนี้เขากำลังนอนอยู่ในป่าเกอร์เวนท์, อ้าปากพะงาบๆจากความเจ็บปวดที่ขาของเขา เขาเกือบจะหมดสติแล้ว

แต่ว่าเขาก็ฝืนเอาไว้

ห้าวินาทีต่อมา, แอนโทนี่ก็เริ่มขยับ คทาระดับตำนานในมือของเขาเปล่งแสงออกมาเล็กน้อยและสร้างปีกขึ้นมาคู่นึงบนหลังของเขา จากนั้นเขาก็ทำให้ปีกพวกนี้สั่นด้วยความเร็วสูงและบินกลับไปที่สถาบัน
เขาเป็นผู้อาวุโสของสถาบันเวทย์มนตร์อีสโควฟ ตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่, เขาจะต้องหยุดปีศาจเลเวล 8 ที่ก่อให้เกิดความหวาดกลัวและความเสียหายบนพื้นที่บ้านของเขาให้ได้ เขาต้องเอาชนะปีศาจตัวนี้, ต่อให้มันจะหมายถึงการเผาผลาญวิญญาณของเขาก็ตาม
คงจะมีบางสิ่งบางในโลกนี้ที่มีค่าพอให้เสียสละวิญญาณของคุณ และสำหรับแอนโทนี่นั่น, สถาบันเวทย์มนตร์ระดับสูงอีสโควฟก็คือชีวิตของเขา!

 

สถาบัน
เสือนภาได้หนีเข้าไปในป่าเกอร์เวนท์ตั้งนานแล้วในตอนที่ทาร์วิสปรากฏตัวขึ้น มันยอมทิ้งความคิดทั้งหมดในการล้างแค้นและหนีเพื่อเอาชีวิตรอด
ปีศาจตัวนี้ค่อนข้างน่ากลัว ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน, ดังนั้นมันจะดีกว่าถ้าข้าออกไปตามหาสาวงามทางตอนใต้
ปีศาจเลือดทาลอนยืนเฝ้ามองจากที่ไกลๆ ความแข็งแกร่งของเขานั้นไม่เพียงพอที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการต่อสู้นี้ เขาทำได้แค่สรรเสริญเท่านั้น “ช่างเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่จริงๆ, ท่านทาร์วิส ใช่แล้วครับ, ทำลายสถาบันบ้าๆนี่ให้พังพินาศไปเลย!”

ทาร์วิสไม่เคยได้รับการตอบสนองที่เขาต้องการจากไบรอันท์เลยและเขาก็เสียสติไปแล้ว เมื่อหอคอยเวทย์มนตร์อีกแห่งนึงเข้ามาในทัศนวิสัยของเขา, เขาก็เห็นนักเวทย์น่าสงสารคนนึงยืนอยู่บนชั้นดาดฟ้า

“ไอมนุษย์น่าสมเพช! ลิ้มรสความโกรธของข้าซะ!” ทาร์วิสแหกปากและพุ่งตรงไปยังหอคอยเวทย์มนตร์แห่งนั้น
ทาร์วิสนึกภาพสถานการณ์เอาไว้แล้ว เขาจะกระแทกหมัดของเขาลงไปที่หอคอยเวทย์มนตร์และขยี้มันให้เป็นจุณ ในระหว่างกระบวนการนี้, นักเวทย์จะคร่ำครวญออกมาด้วยความสิ้นหวังและความฉิบหาย, มันใช้ยืนยันความแข็งแกร่งของเขาได้อย่างดีเยี่ยม

ซึ่งหอคอยเวทย์มนตร์ที่ว่านี้ก็คือหอคอยเวทย์มนตร์ของเอร์เรร่า

เอร์เรร่าออกมาจากหอคอยเวทย์มนตร์พร้อมกับนักเวทย์ฝึกหัดของเธอแล้ว เธอจับมือของไรไลแน่นและวิ่งหนีออกมาจากปีศาจตัวนั้นให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ พวกเขาไม่มีปลายทางที่แน่นอน, สิ่งที่พวกเขาทุกคนสามารถคิดได้ในตอนนี้มีแค่การหนีเท่านั้น
ซึ่งนี่เป็นเช่นเดียวกันสำหรับหอคอยเวทย์มนตร์แห่งอื่นทั้งหมด เอร์เรร่ามองเห็นนักเวทย์ฝึกหัดคนอื่นๆอีกมากมายกำลังวิ่งหนี

และจู่ๆเธอก็ได้ยินไรไลร้องออกมา “อาจารย์อยู่ไหนคะ? ทำไมเขาไม่ได้อยู่ที่นี่?”

เอร์เรร่าตกตะลึงและเหลียวหลังไปมองและตระหนักได้ว่าลิงค์หายตัวไปจริงๆ ในเวลาเดียวกันนั้นเอง, เธอก็เห็นปีศาจกำลังวิ่งตรงไปที่หอคอยเวทย์มนตร์ของเธอ

เอร์เรร่าตื่นตระหนกขึ้นมาในทันที เธอไม่รู้ว่าลิงค์ไปไหน อย่างไรก็ตาม, เธอมีลางสังหรณ์ว่าเขายังอยู่ในหอคอยเวทย์มนตร์, ซึ่งกำลังจะถูกทำลายแล้ว!
พอได้เผชิญหน้ากับพลังอันล้นหลามของปีศาจเลเวล 8, เธอก็ทำอะไรไม่ถูก

ทันใดนั้นเอง, เอร์เรร่าก็รู้สึกได้ถึงความผันผวนของเวทย์มนตร์อันน่าเหลือเชื่อจากชั้นดาดฟ้าของหอคอยเวทย์มนตร์ของเธอ ความผันผวนนี้น่ากลัวมากๆ มันทำให้อากาศในรัศมี 30 ฟุตรอบชั้นดาดฟ้าบิดเบี้ยว คลื่นกระแทกจากความบิดเบี้ยวนี้ขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น, ทำให้เกิดผลกระทบต่อจิตวิญญาณของนักเวทย์ทุกคนในสถาบัน

และในชั่วอึดใจ, เสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวทั้งหมดก็ดูเหมือนจะหายไป

แม้กระทั่งทาร์วิสก็ยังคิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ในสายตาของเขา, นักเวทย์บนชั้นดาดฟ้านั้นเป็นแค่มดตัวนึง, แต่ว่าเขากลับแสดงความแข็งแกร่งอันน่าเหลือเชื่อขนาดนี้ออกมาอย่างกระทันหัน

นี่อาจจะให้ความรู้สึกเหมือนกับตอนที่กระทืบเท้าใส่มดและเพิ่งมารู้ที่หลังว่ามันคือตะปูโลหะ

จากนั้นทาร์วิสก็หยุดเคลื่อนไหวแล้วถาม “ไบร์อันท์หรอ?”
มันเป็นเวลานานมาก ความทรงจำของเขาเกี่ยวกับพลังของไบร์อันท์นั้นได้เลือนลางไปแล้ว อย่างไรก็ตาม, เด็กหนุ่มที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเขาก็ให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยบางอย่าง

ไม่มีการตอบกลับมา
หลังจากการระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวของพลังงานก็เป็นการรวมกันอย่างน่าเหลือเชื่อของพลังงานธาตุ พลังอันน่าดึงดูดนี้ยิ่งใหญ่มากจนแม้กระทั่งธาตุในบ่อธาตุก็แห้งเหือด ธาตุไฟแทบทั้งหมดในสถาบันดูเหมือนกับว่ากำลังบินตรงมายังหอคอยเวทย์มนตร์ของเอร์เรร่า

ในตอนนั้นเอง, หอคอยเวทย์มนตร์ที่กำลังร่ายเวทย์ไฟใส่ทาร์วิสก็หยุดลงในทันที นักเวทย์ธาตุไฟทุกคนก็รู้สึกประหลาดใจที่พบว่าพวกเขาไม่สามารถร่ายเวทย์ได้อีกต่อไปแล้ว
จากนั้นก็มีมือธาตุไฟขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นบนชั้นดาดฟ้า

ฝ่ามือนั้นหนาแน่นมากๆ, มันดูเหมือนกับคริสตัลสีแดงฉานเลย มันถูกล้อมรอบด้วยสนามพลังและแปรสภาพเป็นเส้นรูนอย่างช้าๆซึ่งพวกมันได้เชื่อมต่อกับนักเวทย์ที่เป็นคนร่าย ฝ่ามือนี้มีขนาดใหญ่มากจนนิ้วของมันมีความกว้าง 18 ฟุตและมีความยาวถึง 60 ฟุต แม้ว่าความจริงแล้วทาร์วิสจะตัวสูง 90 ฟุต, แต่เขาก็ดูตัวเล็กไปเลยเมื่อได้เผชิญหน้ากับฝ่ามือขนาดยักษ์นี้

 

ในตอนที่ฝ่ามือปรากฏขึ้น, มันก็พุ่งตรงไปหาทาร์วิส มันพุ่งไปด้วยความเร็วที่สูงจนน่าเหลือเชื่อแล้วมันก็คล่องแคล่วมากๆ

“ไบรอันท์, ในที่สุด!” ทาร์วิสแผดเสียงออกมา เขาคิดว่านี่คือศัตรูชาวมนุษย์ของเขา, ไบรอันท์ แล้วพุ่งเข้าไปหาฝ่ามือนั้น
การปะทะกันนั้นทำให้เกิดการระเบิดขนาดมหึมาในอากาศ คลื่นกระแทกขนาดยักษ์กระจายไปทั่วทั้งสถาบัน, และคลื่นสีขาวที่สามารถมองเห็นได้ก็ปรากฏขึ้นในอากาศ

นักเวทย์ฝึกหัดทุกคนเอามือปิดหูของตัวเองตามสัญชาติญาณ พวกที่มีร่างกายแข็งสามารถยึดมั่นอยู่กับที่ของตัวเองได้และยังยืนอยู่, อย่างไรก็ตาม, พวกที่มีร่างกายอ่อนแอต่างก็ล้มลงด้วยแรงอัดของคลื่นกระแทก

การปะทะกันนี้ได้สร้างม่านฝุ่นขึ้นมาซึ่งมันขัดขวางวิสัยทัศน์ของพวกเขาในฉากการต่อสู้

 

ท่ามกลางฝุ่นเมฆ, เสียงระเบิดยังสามารถได้ยินได้ คนที่อยู่ด้านนอกทำได้แค่จินตนาการถึงความรุนแรงของการต่อสู้ที่เกิดขึ้นข้างในเท่านั้น ประมาณหนึ่งนาทีให้หลัง, เมฆฝุ่นก็หายไปแล้วเวทย์แสงก็ปรากฏขึ้นที่เหนือสุดของหอคอยเวทย์มนตร์
ภายใต้ความสว่างของแสง, ในที่สุดทุกคนก็มองเห็นฉากการต่อสู้ได้อย่างชัดเจน พวกเขาทุกคนตกใจกับฉากที่อยู่เบื้องหน้าพวกเขา

มือสีแดงฉานกำลังจับตัวทาร์วิสเอาไว้แน่นในฝ่ามือของมัน ทาร์วิสดิ้นรนอย่างเต็มที่และปล่อยพลังปีศาจอันน่าสยดสยองของเขาออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถทำลายฝ่ามือแห่งความตายของมันได้

ทุกคนรู้ดีว่าทาร์วิสนั้นเป็นปีศาจที่ดุดันและชอบการทำลายขนาดไหน
แต่พอเห็นว่าเวทย์นี้สามารถเอาชนะทาร์วิสได้ในด้านพละกำลัง ทุกคนต่างก็คิดว่า นี่มันพลังอะไรกัน? นักเวทย์ที่สามารถสร้างเวทย์โจมตีแบบนี้ได้ต้องฉลาดเอามากๆ! เขาต้องเป็นนักเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน!
โอ้, นักเวทย์ผู้หญิงใหญ่!
“โอ้ท่านเทพแห่งแสง, ทาร์วิสถูกยับยั้งแล้ว!”

“มันทำได้มากกว่ายับยั้งทาร์วิสเสียอีก มันเห็นได้ชัดว่าทาร์วิสอ่อนแอกว่าหัตถ์แห่งพระเจ้านี้!”

“นักเวทย์คนนี้เป็นใครกัน?”

นักเวทย์ที่อยู่ในหอคอยเวทย์มนตร์และเตรียมที่จะทิ้งชีวิตของพวกเขาในการต่อสู้สุดท้ายกับทาร์วิสได้เห็นภาพสถานการณ์อย่างชัดเจน พวกเขาไม่ใช่แค่เห็นทาร์วิสอย่างชัดเจนเท่านั้น, แต่ยังเห็นนักเวทย์ที่ต่อสู้กับเขาได้สูสีด้วย
ผ้าคลุมสีน้ำเงินนั้นบอกได้อย่างเดียวว่าเขาอยู่ระดับกลาง แล้วนักเวทย์ขั้นกลางที่มีพลังขนาดนี้จะเป็นใครได้หล่ะ?

อย่างไรก็ตาม, ก็มีคนจำเขาได้จากสีผมของเขา

“ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นลิงค์นะ!”

“เป็นไปได้ยังไงกัน? เขาเพิ่งใช้เวทย์มนตร์เลเวล 9 ออกมานะ! มีแค่เวทย์เลเวล 9 เท่านั้นที่มีพลังน่ากลัวขนาดนี้!

เหล่านักเวทย์นั้นทั้งประหลาดใจและสับสน พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ในขณะนั้น, เสือนภาเกือบจะไปได้สุดเขตของสถาบันแล้ว ขณะที่มันเหลียวหลังไปและเห็นฉากอันหน้ากลัว, เหงื่อก็ไหลออกมาบนหน้าผากของมัน แม่xเอ้ย โชคดีที่ข้าไม่พุ่งเข้าไป ใครจะไปคิดกันว่าสถาบันที่เต็มไปด้วยมนุษย์แห่งนี้จะมีนักเวทย์เลเวล 9 ด้วย? นี่มันน่ากลัวยิ่งกว่าหุบเหวอีก!

ปีศาจเลือดทาลอนที่กำลังสรรเสริญทาร์วิสอยู่ก็พูดไม่ออกเหมือนกัน

ปีศาจเลเวล 8 แพ้ในการต่อสู้ตัวต่อตัวกับนักเวทย์จากสถาบันเวทย์มนตร์ระดับสูงอีสโควฟงั้นหรอ—ราชินีของไฮเอลฟ์มาเยี่ยมรึไงกัน?

ภายในเงามืด, นักเวทย์เลเวล 7 แวนซ์เฝ้าสังเกตุการต่อสู้ระดับตำนานนี้อย่างระมัดระวัง ไฟสีฟ้าในดวงตาของเขาดูตื่นเต้นมากๆ, พวกมันกำลังสั่นไหวอย่างรวดเร็ว

“อา, ช่างเป็นเวทย์ที่งดงามจริงๆ ข้าไม่คิดเลยว่าที่สถาบันจะมีคนแบบนี้อยู่ด้วย ดูเหมือนว่าทาร์วิสจะเจอปัญหาเข้าแล้วสินะ” จากนั้นเขาก็จากไปหลังจากที่พูดจบ
ผลของการต่อสู้ถูกตัดสินด้วยเวทย์เลเวล 9 ที่ร่ายโดยนักเวทย์สายต่อสู้ผู้มีพรสวรรค์ ไม่มีทางที่ทาร์วิสจะสามารถพลิกเกมส์ได้
ทาร์วิสกำลังเดือดพล่านด้วยความโกรธ เขาปล่อยพลังของเขาออกมาอีกครั้งพร้อมกับเสียงดังก้อง, พลังปีศาจที่เคยปกคลุมตัวเขาอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด
“ปล่อยข้าออกไปนะ!” เขาตะโกนขณะที่ขยับแขนของเขา, พยายามที่จะผลักมือยักษ์นี้ออก
ครั้งนี้, เขาทำได้สำเร็จ ฝ่ามือแบออกและทาร์วิสก็หนีไปได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็หันกลับมาแล้วพุ่งมายังหอคอยเวทย์มนตร์ที่นักเวทย์น่าชิงชังกำลังยืนอยู่ด้วยความเร็วสูงสุด

เขาอาจจะไม่สามารถเอาไปเปรียบกับเวทย์มนตร์ของนักเวทย์คนนี้ได้, แต่เขามีพลังมากพอในการทำลายร่างกายของเขา

อย่างไรก็ตาม, มันเห็นได้ชัดว่าทาร์วิสใสซื่อเกินไป

มือที่เขาเพิ่งจะหนีออกมาได้นั้นถอยกลับมาที่หอคอยเวทย์มนตร์ในทันที ขณะที่มันกำลังกลับไปที่หอคอย, มือก็ได้กำเป็นหมัด, และราวกับว่ามันถูกชาร์จพลังมาก่อน, มันอัดเข้ากับทาร์วิสด้วยพลังเต็มที่
การโจมตีนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเวทย์หมัดแห่งฟิโรมอซ!

ตูม! เสียงระเบิดดังก้องไปทั่วสถาบัน

ทาร์วิสรู้สึกเหมือนกับถูกหัวรถจักรชน เขาร่วงลงไปที่พื้นในทันที       อย่างไรก็ตาม, หมัดไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น, มันอัดทาร์วิสต่อจนเขาจมเข้าไปในพื้น

ปัง! โครม! ครืนนน!
พื้นดินสั่นสะเทือนและมีรอยแยกขนาดกว้าง 30 ฟุตลึก 12 ฟุตปรากฏขึ้นมา

การโจมตีนี้เป็นจุดชี้ขาด มันทำลายพลังปีศาจที่ปกคลุมทาร์วิสและทำลายกำลังใจของเขาอย่างสมบูรณ์ เขานอนราบกับพื้นและไม่สามารถลุกขึ้นมาได้
แล้วลิงค์ก็กำลังจะเผด็จศึกเขาแล้ว

หัตถ์แห่งไททันลงมาจากด้านบนและจับร่างของทาร์วิสแน่น จากนั้นมันก็เริ่มแน่นขึ้นขณะที่ลิงค์เปิดใช้เวทย์ระเบิดที่เขาเสริมพลังธาตุไฟใส่เข้าไปในใจกลางของฝ่ามือ
การโจมตีนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเวทย์เลเวล 5 หัตถ์เปลวเพลิง!
ทาร์วิสกำลังรู้สึกมึนจากการโจมตีก่อนหน้านี้และไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา ในตอนที่เขารู้สึกเจ็บปวดทางร่างกายจากการโจมตี, มันก็สายเกินไปแล้ว พลังของหัตถ์แห่งไททันได้ไปถึงจุดสูงสุดของขีดจำกัดของมันแล้ว

ทาร์วิสเข้าใจดีถึงพลังอันน่ากลัวของเวทย์ธาตุไฟเลเวล 9 เพราะเขาเคยเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานมาก่อน ในตอนที่เขารู้สึกว่าอุณหภูมิของมือเกินกว่าที่สิ่งมีชีวิตทุกชนิดจะทานทนได้, เขาก็รู้ว่าเขาจบแล้ว
ภายใต้การยับยั้งของหัตถ์แห่งไททันและพลังระเบิดของธาตุไฟ, สภาพแวดล้อมภายในหัตถ์ไททันก็คล้ายกับหม้อหลอมละลายอุณหภูมิสูงที่กำลังย่างปีศาจยักษ์เลเวล 8
ภายใต้ความกดดันของอุณหภูมิที่สูงขนาดนี้, ร่างของทาร์วิสก็เริ่มส่องแสง นี่เป็นเพราะธาตุไฟจำนวนมากกำลังวิ่งเข้ามาในร่างกายของเขาและทำลายเซลล์ของเขา

เขาแหกปากร้องออกมาแต่มันก็เปล่าประโยชน์ แทนที่จะมีเสียงร้องออกมาจากปากของเขา, กลับมีไฟออกมาจากปากของเขา, ตามมาด้วยดวงตา, หู, จมูก, และในที่สุดก็ผิวหนังของเขา

ประมาณสิบวินาทีต่อมา, ธาตุไฟในมือก็ถูกใช้จนหมดอย่างสมบูรณ์ จากนั้นหัตถ์ไททันก็คลายมือออก, แล้วของเหลวที่คล้ายกับลาวาก็เริ่มไหลออกมาจากที่ที่ทาร์วิสเคยอยู่ ของเหลวนั้นคือเศษซากของปีศาจที่เคยคุกคามโลกแห่งฟิรุแมน
ความจริงที่ทาร์วิสไม่ได้ระเหยด้วยความร้อนนั้นเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของร่างกายของเขา

 

นี่คือฉากที่ต้อนรับแอนโทนี่ในตอนที่เขามาถึงทางเข้าสถาบันในที่สุด ทั้งสถาบันเฝ้ามองฉากในตำนานนี้ด้วยความชมเชยและความไม่เชื่อ

รอบๆซากปรักหักพังของหนามแห่งสวรรค์, เซลาสซี, ที่ขาของเขาถูกเศษซากปรักหักพังทับคลานออกมาด้วยความพยายามอย่างมาก จากนั้นเขาก็เอาสมุดของเขาออกมาและเริ่มเขียนด้วยมือที่สั่นเทาของเขา, คำพูดของข้าเลือนลางเหลือเกินเมื่อเผชิญหน้ากับเหตุการณ์เช่นนี้ พวกมันไม่สามารถบรรยายความรู้สึกของข้าออกมาได้ อย่างไรก็ตาม, ข้ายืนยันได้สิ่งนึง, ข้าเชื่อว่า, ในอนาคตอันใกล้นี้, สถาบันเวทย์มนตร์ระดับสูงอิสโควฟจะเปิดตัวนักเวทย์ในตำนานคนแรกตั้งแต่ที่สถาบันเคยก่อตั้งมา!

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset