Advent of the Archmage – ตอนที่ 188: เส้นทางที่ถูกเลือกของอัจฉริยะทั้งสอง

แม้ว่าลิงค์จะตัดสินใจแล้วว่าเขาจะลงใต้เพื่อออกไปตามหาเซลีน, แต่เขาก็ทิ้งดินแดนไปเฉยๆไม่ได้ การพัฒนาทั้งหมดของพื้นที่แห่งนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขา ดังนั้นเขาต้องจัดการบางอย่างให้เสร็จก่อนเขาถึงจะสามารถออกไปได้

 

ซึ่งนี่ทำให้เขาต้องใช้เวลาถึงสามวันเต็ม, เขาทิ้งเหรียญทองเอาไว้จำนวนนึงและจัดทำแผนขั้นพื้นฐานสำหรับการพัฒนาในอีกสามเดือนข้างหน้านี้

 

แต่ก็โชคไม่ดีเอาซะเลย, หลังจากที่เขาเตรียมการเสร็จ, ที่รกร้างเฟิร์ดก็ถูกโจมตีด้วยเฮอริเครนขนาดยักษ์ มันเป็นเฮอริเคนที่ร้ายแรงมากๆซึ่งมีข่าวลือว่าผู้คนต่างพากันหนีป่าราบ คลื่นทะเลถาโถมเข้าใส่กันอย่างรุนแรง, ห่าฝนโหมกระหน่ำใส่แผ่นดิน แถมยังมีลูกเห็บเข้ามาทักทายอีกด้วย ทุกคนต่างก็พากันมาอาศัยอยู่ที่เทือกเขามอดไหม้, ตัวสั่นอยู่ในบ้านของพวกเขาในขณะที่สวดภาวนาต่อพระเจ้า พวกเขากลัวว่าเฮอริเคนลูกนี้จะทำลายบ้านไม้อันบอบบางของพวกเขา

 

ลิงค์ไม่ฟังคำแนะนำของลูซี่กับคนอื่นๆและเริ่มออกเดินทางในสภาพอากาศอันโหดร้ายนี้อย่างดื้อดึง เขาอัญเชิญเฟนเรียร์สายลมออกมาและเริ่มมุ่งหน้าไปทางใต้ ตลอดการเดินทาง, ภาพของเซลีนได้แวบเข้ามาในหัวของเขา ความทรงจำเกี่ยวกับเธอในตอนที่อยู่ในเกมส์และในความเป็นจริงนี้ได้ผสานเข้าด้วยกัน

 

นายไม่กลัวฉันหรอ? นายก็รู้นี่ว่าฉันเป็นปีศาจนะ! บนชั้นดาดฟ้าของหอนาฬิกาเมืองแกลดสโตน, เซลีนแกล้งเขาในขณะที่แผ่เสน่ที่ไม่เหมือนใครออกมา

 

ฉันไม่สามารถเลือกเกิดได้ แต่, ฉันสามารถเลือกเส้นทางที่ฉันอยากเดินได้! ดวงตาของเซลีนเปล่งประกายด้วยการตกลงใจภายในเกมส์ในขณะที่เธอพูดประโยคนี้ออกมา

 

พ่อของฉันหน่ะหรอ? เขาก็เป็นแค่เศษขี้ในหุบเหวเท่านั้นแหล่ะ! เธอขมวดคิ้วทุกครั้งที่เธอพูดประโยคนี้

 

โอ้, ลิงค์, นายเป็นนักเวทย์ที่น่าสนใจจริงๆ ฉันคิดว่าฉันอาจจะตกหลุมรักนายแล้วหล่ะ หืม, นี่นายเก็บไปคิดจริงจังงั้นหรอ?

 

โง่จริง, ฉันชอบเห็นสีหน้าสับสนของมนุษย์อย่างนายต่างหากเล่า

 

ความทรงจำได้สะท้อนเข้ามาในหัวของเขาด้วยภาพที่ชัดมาก ลิงค์รู้สึกว่าหัวใจของเขากำลังลุกไหม้

 

“เซลีน, ฉันกำลังไปหาเธอแล้วนะ!”

 

เขาเร่งความเร็วจนถึงจุดสูงสุดของเขา

 

สายลมแผดเสียงดังลั่นในขณะที่เขาพุ่งเข้าไปในเส้นขอบฟ้าอันไร้ที่สิ้นสุด

 

ทันใดนั้นเองแสงวาบก็ปรากฏขึ้นบนฟ้าในขณะที่สายฟ้าฟาดลงมาที่พื้น ลูกเห็บได้ผสมเข้ามาในเม็ดฝนซึ่งตกใส่ลิงค์อย่างไร้ความปราณี แม้ว่าจะได้รับการป้องกันจากเวทย์เอเดลไวส์, แต่ก็ดูเหมือนว่าลิงค์กำลังฝืนต่อสู้กับพลังธรรมชาติ หลายครั้ง, เขาจะปลิวออกจากหลังของเฟนเรียร์เนื่องจากภาพของภูมิประเทศอันเลวร้าย

 

หลังจากการตกแต่ละครั้ง, ลิงค์จะอัญเชิญเฟนเรียร์ตัวใหม่ออกมากลางอากาศเพื่อป้องกันตัวเองจากการได้รับบาดเจ็บ จากนั้นเขาก็จะพุ่งไปข้างหน้าต่อโดยไม่ลดความเร็วของเขาลง

 

ในตอนนี้, ลิงค์ไม่ใช่นักเวทย์ที่สั่นสะเทือนไปทั่วโลกด้วยชื่อของเขาอีกต่อไป แล้วเขาก็ไม่ใช่ดยุคหรือเจ้าของที่ดินด้วย เขาเป็นแค่ชายหนุ่มที่กำลังทำตามหัวใจของเขา

 

มีหกประเทศทางตอนใต้, ซึ่งแต่ละประเทศนั้นมีขนาดเล็กกว่าอาณาจักรนอร์ตันมาก ขนาดทั้งหมดของทั้งหกอาณาจักรนั้นกว้างแค่ 1.5 เท่าของอาณาจักรนอร์ตันเพียงเท่านั้น ดังนั้นเพื่อที่จะป้องกันตัวเองจากราชสีทางเหนือ, ทั้งหกประเทศจึงรวมตัวกันจัดตั้งพันธมิตรขึ้นมาซึ่งมีชื่อว่าสมาพันธ์การค้าทางใต้

 

ในหกประเทศนี้, อาณาจักรสิงโตอยู่ในอันดับสุดท้ายในแง่ของความแข็งแกร่งทั่วไปและยังมีขนาดเล็กที่สุดด้วย มันมีเนื้อที่ครอบคลุมแค่ 800,000 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น อย่างไรก็ตาม, แม้ขนาดของมันจะเล็ก, แต่สมาคมนนักเวทย์ก็ตั้งอยู่ทางใต้ของเขตเมืองหลวงของมัน, เมืองโอปอล, และชื่อเสียงของมันนั้นก็แพร่กระจายไปทั่วทวีปฟิรุแมน ซึ่งองค์กรนี้ก็คือสมาพันธ์นักเวทย์ทางใต้

 

ไม่เหมือนกับหอคอยเวทย์มนตร์สูงตระหง่านที่ผู้คนทางเหนือคุ้นเคย, นักเวทย์ทางใต้นั้นจะไม่มีสิ่งก่อสร้างที่น่าดึงดูดแบบนั้น, แต่พวกเขาจะสร้างปราสาทอันงดงามแทน

 

ฐานของสมาคมนักเวทย์ทางใต้นั้นโดยหลักแล้วถูกสร้างขึ้นจากกลุ่มของปราสาทขนาดมหึมา มันมีเนื้อที่ 30,000 หลาและมีปราสาทที่เป็นจุดสำคัญหกแห่งซึ่งตั้งอยู่ในรูปแบบดาวหกฉาก ระแวกโดยรอบของประสาทนั้นจะเต็มไปด้วยบ้านพักอาศัย, ที่ซึ่งคนงานและพ่อค้าที่มีความสัมพันธ์กับสมาคมนักเวทย์อาศัยอยู่ มีคนพวกนี้ประมาณ 5,000 คน, รวมทั้งคนใช้, คนขับรถม้า, คนฝึกม้า, พ่อค้าขายคำภีร์และอื่นๆ ซึ่งมันดูเหมือนกับเมืองแห่งเวทย์มนตร์เลย และที่นี่ก็เป็นสถานที่ที่นักเวทย์อัจฉริยะที่เด็กที่สุดของสมาคม, เวเวอร์, เรียนเวทย์มนตร์อยู่ด้วย

 

เวเวอร์มีอายุ 21 ปีและมีผมกับดวงตาสีเงินงดงาม เขาคาดเอาไว้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จและไปถึงเลเวล 5 ในเวลาสามเดือน ซึ่งความสำเร็จนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของสมาคม ดังนั้นเขาจะได้รับสิทธิ์ในการใช้คทาเมอลิน

 

ถ้าทั้งหมดเป็นไปตามแผน, เส้นทางแห่งความสำเร็จของเวเวอร์ก็จะถูกเซทเอาไว้เรียบร้อย ความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ, และอาจจะไปถึงเลเวล 8 ได้เลยด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าเขาสามารถแข็งแกร่งขนาดนั้นได้จริงๆ, เขาก็น่าจะได้เป็นผู้อาวุโสคนต่อไปของสมาคม

 

อย่างไรก็ตาม, เหตุการณ์เมื่อสองเดือนก่อนก็ได้ทำให้จังหวะความก้าวหน้าของเขายุ่งเหยิง

 

เวเวอร์ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเหมือนปกติและรับประทานอาหารเช้าตามปกติ จากนั้น, เขาก็ตรงไปที่ห้องสมุดในสมาคม ซึ่งเขาได้ค้นพบเรื่องเวทย์มัลติแคสท์เมื่อคืนก่อนและต้องการจะตรวจสอบพวกมันด้วยความรู้ของบรรพบุรุษของเขาเพื่อให้มั่นใจว่าพวกมันใช้งานได้ เขาเดินไปตามทางเดินนอกห้องของเขา; มีนักเวทย์คนอื่นอีกหลายคนที่ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าตรู่ หลังจากได้เห็นเวเวอร์, พวกเขาทุกคนก็คำนับเขาด้วยความเคารพซึ่งเวเวอร์ก็โค้งกลับไปด้วยความใจดี และพอเขาไปถึงจตุรัสเอลอทติสันที่อยู่นอกปราสาท, ก็มีประโยคนึงดึงดูดความสนใจของเขา

 

“นายรู้ไหมว่าทีมสืบสวนกลับมาแล้ว?” นี่มาจากนักเวทย์ฝึกหัดคนหนึ่ง

 

“หรอ, แล้วสถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?” อีกคนนึงถาม เวเวอร์รู้สึกสนใจขึ้นมาในทันทีและชะลอฝีเท้าของเขา

 

“พวกเราส่งคนออกไปกว่าสิบคน, แต่มีแค่สามคนเท่านั้นที่รอดชีวิตกลับมาได้! พวกเขาบอกว่าพวกเขาพบความสัมพันธ์ระหว่างปีศาจกับสมาคม ไอพวกโจรชั่วนั่นกำลังปกปิดร่องรอยของปีศาจอยู่”

 

“ไอพวกสมาคมนี่มันน่ารังเกียจจริงๆ!” นักเวทย์ฝึกหัดอีกคนเดือดขึ้นมาในทันที เขาชูหมัดของขึ้นมา

 

นักเวทย์ฝึกหัดสองคนจากไปหลังจากบทสนทนาสั้นๆนี้ ในอีกด้านนึง, เวเวอร์ก็เปลี่ยนจุดมุ่งหมายในทันทีและมุ่งหน้าไปหาอาจารย์ของเขา, มาสเตอร์แฮนลอทธ์

 

มาสเตอร์แฮนลอทธ์เป็นนักเวทย์เลเวล 6 อย่างไรก็ตาม, เขาอายุ 60 ปีแล้วและไม่ได้มีเรี่ยวแรงเหมือนแต่ก่อน; ซึ่งเขาจะตื่นนอนในเวลา 9 โมงของทุกวัน ดังนั้นเวเวอร์อาจจะต้องรอพักนึงก่อนที่เขาจะได้เข้าพบกับเขา

 

ห้องของมาสเตอร์แฮนลอทธ์อยู่ที่ชั้นหนึ่ง คนใช้หญิงคนนึงกำลังยืนอยู่หน้าห้องของเขา และพอเธอเห็นเวเวอร์, เธอก็พูดออกมาด้วยความเคารพ “ท่านคะ, นายท่านยังหลับอยู่ค่ะ กรุณารอสักพักนึงนะคะ”

 

“โอเค” เวเวอร์หาที่นั่งในห้องโถงและเริ่มอ่านหนังสือเวทย์มนตร์

 

ก่อนหน้านี้, เขาสามารถหมุกมุ่นอยู่กับหนังสือเวทย์มนตร์ได้อย่างรวดเร็ว, จนถึงจุดที่เขาจะไม่สนใจสภาพแวดล้อมรอบตัวเขา อย่างไรก็ตาม, ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถทำแบบนั้นได้ในวันนี้ สองเดือนก่อน, ร่องรอยของปีศาจได้ปรากฏขึ้นในเมืองหลวง เขาได้เข้าร่วมในการสอบสวนนั้นด้วยตัวเอง; และครั้งนึง, เขาได้เห็นหญิงสาวคนนึง แม้ว่าจะเห็นแค่แวบเดียว, แต่เขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าเขาได้สะดุดกับอะไรบางอย่างที่น่ามหัศจรรย์ ซึ่งโลกทั้งใบดูหม่นหมองไปเลยเมื่อเอามาวางไว้ข้างๆเด็กสาวที่ฉลาดและเข้มแข็งคนนี้

 

หลังจากนั้น, เขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าเขามักจะเดินละเมอและทำเรื่องผิดพลาดตลอด ซึ่งพอตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดพลาด, เขาก็อาสาถอนตัวจากทีมสอบสวน แม้ว่าเด็กสาวคนนั้นจะได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นปีศาจ, แต่มันก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนความประทับใจของเวเวอร์ที่มีให้เธอได้

 

เด็กสาวที่งดงามคนนั้นเป็นปีศาจไปได้ยังไงกัน? แม้ว่าสายตาของเวเวอร์จะจ้องหนังสือเวทย์มนตร์อยู่, แต่เขาก็กำลังย้อนภาพการค้นพบแห่งโชคชะตานั้นในหัวของเขา

 

เหตุการณ์นั้นมันอยู่ที่ตลาดธรรมดาๆในเมืองโอปอล เด็กสาวคนนั้นสวมชุดผ้าลินินสีฟ้าอ่อนพร้อมกับถือตระกร้าสาน เธอกำลังต่อรองกับชาวสวนจำนวนนึงอยู่และดูเหมือนกับเด็กผู้หญิงแถวบ้านคนนึง มีเด็กสาวมากมายในเมืองโอปอล –แต่เธอแค่น่ารักกว่าคนอื่นเล็กน้อย

 

อย่างไรก็ตาม, เวเวอร์เหมือนถูกเธอสะกดจิตในตอนที่พวกเขาสบตากัน

 

ดวงตาคู่นั้นฉายออกมาด้วยความงดงาม รูปทรงจมูกที่ดูยั่วเย้าของเธอและวิธีที่เธอยักคิ้วส่งสายตามาในตอนที่เธอสังเกตุเห็นเขาด้วยความงุนงง—มันเป็นเหมือนกับคิวปิดที่แผลงศรตรงมาที่หัวใจของเขา

 

ฉันสงสัยจังว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน? เธอถูกนักเวทย์ทำร้ายไหม? เธอ…ฆ่าใครไปรึเปล่า? ความเป็นไปได้มากมายผุดขึ้นมาในหัวของเขา เขารู้สึกไม่สบายใจ

 

และทันใดนั้นเอง, ก็มีเสียงดังเข้ามาในหูของเขา “ท่านคะ ท่านคะ”

 

“ห้ะ? เวเวอร์หลุดออกมาจากความคิดของเขาและเงยหน้ามองคนใช้

 

“นายท่านตื่นแล้วค่ะ ตอนนี้ท่านสามารถเข้าพบเขาได้แล้ว”

 

“อ้อ, โอเค” เวเวอร์ตอบกลับไปในขณะที่เขาเก็บหนังสือเวทย์มนตร์ที่เขาแทบไม่ได้อ่าน เขาตามคนใช้เข้าไปในห้องของอาจารย์ของเขา

 

ห้องของแฮนลอทธ์นั้นตกแต่งแบบเรียบง่าย เขาไม่ใช่คนที่ชอบความเริศหรูหรือการออกแบบที่สูญเปล่า การใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายและพื้นฐานนั้นเป็นสิ่งที่เขามักจะยึดถือ เสื้อคลุมตัวโปรดของเขาเองก็เป็นสีขาวเรียบซึ่งเขากำลังสวมอยู่ในตอนนี้

 

ในตอนที่เขาเห็นลูกศิษย์มากพรสวรรค์ของเขา แฮนลอทธ์ก็ยิ้มออกมา “นั่งสิ, พ่อหนุ่มคนโปรดของข้า”

 

เขาชอบเรียกนักเวทย์หนุ่มที่เขาสนิทด้วยว่าพ่อหนุ่ม เขาชื่นชอบพลังหนุ่มสาวที่แผ่ออกมาจากตัวพวกเขา

 

เวเวอร์นั่งบนม้านั่งไม้ที่อยู่ข้างเตียงแล้วพูด “อาจารย์ครับ, ผมได้ยินมาว่าทีมสืบสวนได้ประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ในครั้งนี้”

 

ใบหน้าของแฮนลอทธ์หดหู่ในตอนที่เขาได้ยินข่าวนี้ เขาพยักหน้า “ปีศาจมันแข็งแกร่งจริงๆ”

 

“พวกเราฆ่าปีศาจได้ไหมครับ?” เวเวอร์ถาม

 

แฮนลอทธ์ส่ายหัว “พวกเราทำให้หนึ่งในพวกมันบาดเจ็บร้ายแรงได้ แต่ว่า, ปีศาจมันมีพวกอีกสองคน แม้ว่าพวกเราจะเปิดใช้เวทย์บาเรียผนึก, แต่พวกเราก็ไม่สามารถหยุดพวกมันจากการหลบหนีได้”

 

“พะ…พวกเขาเห็นปีศาจผู้หญิงไหมครับ?” นี่เป็นคำถามที่ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์, แต่เวเวอร์ก็อดถามไม่ได้

 

แฮนลอทธ์ขมวดคิ้วและจ้องไปที่เวเวอร์, พร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง “พ่อหนุ่ม, คิดแบบนี้มันอันตรายนะ”

 

“อาจารย์…” เวเวอร์พยายามแก้ตัวแต่ก็ถูกแฮนลอทธ์ขัดจังหวะ

 

 

ใบหน้าของชายแก่เข้มงวดและมีสีหน้าเอาจริงเอาจัง; ดวงตาของเขาฉายออกมาด้วยความเฉียบแหลมที่ครั้งนึงเขาเคยมีในวัยหนุ่มของเขา “เวเวอร์, เจ้ามีอนาคตที่สดใส; อย่าทำลายมันทิ้งสิ! ข้าต้องการให้เจ้าสาบานต่อเทพแห่งแสง สาบานว่าเจ้าจะไม่มีวันไปยุ่งเกี่ยวกับปีศาจสาวคนนั้น!”

 

“อาจารย์!” เวเวอร์ต้องการจะพูดปกป้องตัวเอง, แต่แฮนลอทธ์ก็จ้องเขาต่อด้วยสีหน้าดุดัน

 

ในการประลองจิตใจนี้, เวเวอร์ยอมจำนนในที่สุดและกระซิบออกมา “ท่านเทพแห่งแสง, ข้าขอสาบานว่าข้าจะไม่มีวันไปยุ่งเกี่ยวกับปีศาจสาวคนนั้น และถ้าข้าเห็นเธออีก, ข้าจะ…ข้าจะฆ่าเธอซะโดยไม่คิดอะไร”

 

ในที่สุดแฮนลอทธ์ก็พอใจ เขาตบไหล่ของเวเวอร์แล้วพูด “ดีแล้ว, พ่อหนุ่ม จำเอาไว้นะ, ปีศาจยิ่งงดงามเท่าไหร่, เธอก็ยิ่งน่าเย้ายวนละนำพาโชคร้ายมามากเท่านั้น ผู้คนที่ถูกสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายพวกนั้นหลอกล่อมักจะไม่ได้รับจุดจบที่ดีหรอกนะ ข้าไม่อยากให้ลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์ของข้าตกอยู่ในกำมือของปีศาจ”

 

“ขอบคุณครับ, อาจารย์” เวเวอร์รู้สึกข้องใจเล็กน้อย, แม้ว่าเขาจะรู้สึกขอบคุณสำหรับคำแนะนำของอาจารย์ของเขาด้วยก็ตาม

 

“เอาหล่ะ, ไปตั้งใจค้นคว้าเวทย์มนตร์ของเจ้าเถอะ ไปถึงเลเวล 6 ให้ได้และจงกลายเป็นจอมเวทย์ซะ อย่าปล่อยให้ไอพวกหลงตัวเองที่สถาบันเวทย์มนตร์ระดับสูงอีสโควฟดูถูกพวกเราได้” แฮนลอทธ์พูดขณะที่ตบบ่าของเวเวอร์ในเชิงให้กำลังใจ

 

เวเวอร์พยักหน้าและออกจากห้องของแฮนลอทธ์ไป ในตอนที่ประตูที่อยู่ข้างหลังเขาปิดลง, เขาก็ถอนหายใจออกมาและรู้สึกว่าเรี่ยวแรงกำลังไหลออกมาจากร่างของเขา มันเป็นราวกับว่าเขาได้สูญเสียบางสิ่งที่สำคัญอย่างมากในชีวิตของเขาไป

 

เธอเป็นปีศาจ; เรื่องระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้…ลืมมันไปซะ เวเวอร์ส่ายหัวและเดินตรงไปที่ห้องสมุด

 

เมืองโอปอล, ตลาด ที่พักอาศัยของสามัญชน

 

 

แม้ว่านักเวทย์จะพบร่องรอยของเธอแล้ว แต่เซลีนก็ไม่ได้ออกไปจากเมืองโอปอล, อันที่จริงเธอไม่ได้ออกไปจากเขตตลาดที่มีคนพลุกพล่านด้วยซ้ำ เธอแค่เปลี่ยนที่ซ่อนของเธอเฉยๆ

 

มันเป็นเรื่องที่อันตรายจริงๆในการอยู่ใกล้กับสมาคมนักเวทย์ขนาดนี้ อย่างไรก็ตาม, นักเวทย์เหล่านี้ก็เป็นผู้พิทักษ์ของเธอ ตัวตนของพวกเขาจะเป็นสิ่งที่ช่วยรับรองว่าปีศาจที่ตามเธอมาจะไม่ทำอะไรห่ามๆ

 

เซลีนอยู่ที่ชั้นสองของบ้าน, ดูแลแขนที่บาดเจ็บของเธอ นี่เป็นบาดแผลที่เกิดขึ้นจากมีดเวทย์มนตร์เมื่อเที่ยงวานนี้ บาดแผลนั้นลึกมาก—มากเสียจนมองเห็นกระดูกได้ แต่ก็โชคดีที่, นักเวทย์มาถึงทันเวลาและช่วยเธอเอาไว้จากสถานการณ์ฉุกเฉินของเธอ ซึ่งหากพวกเขาไม่มา, เธอก็คงจะถูกส่งกลับไปที่หุบเหวแล้ว

 

บาดแผลแปดเปื้อนด้วยออร่าของหุบเหว, และเนื้อรอบๆก็โดนกัดกร่อน ซึ่งเธอต้องตัดชิ้นเนื้อพวกนี้ออกไปอย่างรวดเร็ว, ไม่อย่างนั้นเธอก็คงจะเป็นบ้าจากผลของออร่า

 

ด้วยการใช้มีดของเธอ, เธอตัดชื้นเนื้อเน่าที่อยู่รอบๆบาดแผลของเธอออกไปอย่างระมัดระวัง ซึ่งนี่เจ็บปวดอย่างมาก, ทำให้เธอตัวสั่นจนไม่สามารถควบคุมได้และมีเหงื่อไหลออกมาบนหน้าผากของเธอ อย่างไรก็ตาม, เธอกัดฟันของตัวเองเอาไว้และทำต่อจนกระทั่งเธอมั่นใจว่าเนื้อเน่าทั้งหมดถูกกำจัดออกไป พอจัดการเรียบร้อยแล้วเธอก็พิงกำแพงอย่างอ่อนแรงและถอนหายใจออกมา

 

เธอผูกผมซึ่งชุ่มไปด้วยเหงื่อของเธออย่างลวกๆและจ้องไปที่หลังคาด้วยดวงตาอันงดงามและชุ่มชื้นของเธอ มีใยแมงมุมอยู่ตรงมุมหลังคาซึ่งมันได้จับแมลงที่ไม่ระวังตัวเอาไว้ แม้ว่าแมลงตัวนั้นจะดิ้นรนอย่างเจ็บปวด, แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่สามารถหนีไปจากชะตากรรมของมันได้ ในขณะที่, แมงมุมกำลังเข้าใกล้เหยื่อของมัน

 

ฉันเป็นแมลงที่ติดอยู่ในใยรึเปล่านะ?

 

เซลีนรู้สึกเสียใจ เธออยู่ตัวคนเดียวในโลกที่ต้องดิ้นรนนี้ เพื่อนเพียงคนเดียวของเธออยู่ทางเหนือจึงไม่สามารถมาช่วยเธอได้ เธอเกือบจะถึงขีดจำกัดแล้ว

 

ลิงค์, ฉันควรจะทำยังไงดี? เด็กหนุ่มผมสีดำดูเหมือนจะปรากฏขึ้นมาเบื้องหน้าเธอ ในเวลาเดียวกันนั้น, เธอก็ดูเหมือนจะได้ยินเสียงของเขากำลังกระซิบอยู่ “คนเราไม่สามารถเลือกเกิดได้, แต่เราสามารถเลือกเส้นทางที่อยากเดินได้นะ”

 

แต่ว่าทำไมเส้นทางของฉันถึงขรุขระและคดเคี้ยวขนาดนี้หล่ะ? เซลีนหลับตาของเธอในขณะที่น้ำตาล่วงลงมาที่แก้มของเธอ

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset