แม้ว่าลิงค์จะตัดสินใจแล้วว่าเขาจะลงใต้เพื่อออกไปตามหาเซลีน, แต่เขาก็ทิ้งดินแดนไปเฉยๆไม่ได้ การพัฒนาทั้งหมดของพื้นที่แห่งนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขา ดังนั้นเขาต้องจัดการบางอย่างให้เสร็จก่อนเขาถึงจะสามารถออกไปได้
ซึ่งนี่ทำให้เขาต้องใช้เวลาถึงสามวันเต็ม, เขาทิ้งเหรียญทองเอาไว้จำนวนนึงและจัดทำแผนขั้นพื้นฐานสำหรับการพัฒนาในอีกสามเดือนข้างหน้านี้
แต่ก็โชคไม่ดีเอาซะเลย, หลังจากที่เขาเตรียมการเสร็จ, ที่รกร้างเฟิร์ดก็ถูกโจมตีด้วยเฮอริเครนขนาดยักษ์ มันเป็นเฮอริเคนที่ร้ายแรงมากๆซึ่งมีข่าวลือว่าผู้คนต่างพากันหนีป่าราบ คลื่นทะเลถาโถมเข้าใส่กันอย่างรุนแรง, ห่าฝนโหมกระหน่ำใส่แผ่นดิน แถมยังมีลูกเห็บเข้ามาทักทายอีกด้วย ทุกคนต่างก็พากันมาอาศัยอยู่ที่เทือกเขามอดไหม้, ตัวสั่นอยู่ในบ้านของพวกเขาในขณะที่สวดภาวนาต่อพระเจ้า พวกเขากลัวว่าเฮอริเคนลูกนี้จะทำลายบ้านไม้อันบอบบางของพวกเขา
ลิงค์ไม่ฟังคำแนะนำของลูซี่กับคนอื่นๆและเริ่มออกเดินทางในสภาพอากาศอันโหดร้ายนี้อย่างดื้อดึง เขาอัญเชิญเฟนเรียร์สายลมออกมาและเริ่มมุ่งหน้าไปทางใต้ ตลอดการเดินทาง, ภาพของเซลีนได้แวบเข้ามาในหัวของเขา ความทรงจำเกี่ยวกับเธอในตอนที่อยู่ในเกมส์และในความเป็นจริงนี้ได้ผสานเข้าด้วยกัน
นายไม่กลัวฉันหรอ? นายก็รู้นี่ว่าฉันเป็นปีศาจนะ! บนชั้นดาดฟ้าของหอนาฬิกาเมืองแกลดสโตน, เซลีนแกล้งเขาในขณะที่แผ่เสน่ที่ไม่เหมือนใครออกมา
ฉันไม่สามารถเลือกเกิดได้ แต่, ฉันสามารถเลือกเส้นทางที่ฉันอยากเดินได้! ดวงตาของเซลีนเปล่งประกายด้วยการตกลงใจภายในเกมส์ในขณะที่เธอพูดประโยคนี้ออกมา
พ่อของฉันหน่ะหรอ? เขาก็เป็นแค่เศษขี้ในหุบเหวเท่านั้นแหล่ะ! เธอขมวดคิ้วทุกครั้งที่เธอพูดประโยคนี้
โอ้, ลิงค์, นายเป็นนักเวทย์ที่น่าสนใจจริงๆ ฉันคิดว่าฉันอาจจะตกหลุมรักนายแล้วหล่ะ หืม, นี่นายเก็บไปคิดจริงจังงั้นหรอ?
โง่จริง, ฉันชอบเห็นสีหน้าสับสนของมนุษย์อย่างนายต่างหากเล่า
ความทรงจำได้สะท้อนเข้ามาในหัวของเขาด้วยภาพที่ชัดมาก ลิงค์รู้สึกว่าหัวใจของเขากำลังลุกไหม้
“เซลีน, ฉันกำลังไปหาเธอแล้วนะ!”
เขาเร่งความเร็วจนถึงจุดสูงสุดของเขา
สายลมแผดเสียงดังลั่นในขณะที่เขาพุ่งเข้าไปในเส้นขอบฟ้าอันไร้ที่สิ้นสุด
ทันใดนั้นเองแสงวาบก็ปรากฏขึ้นบนฟ้าในขณะที่สายฟ้าฟาดลงมาที่พื้น ลูกเห็บได้ผสมเข้ามาในเม็ดฝนซึ่งตกใส่ลิงค์อย่างไร้ความปราณี แม้ว่าจะได้รับการป้องกันจากเวทย์เอเดลไวส์, แต่ก็ดูเหมือนว่าลิงค์กำลังฝืนต่อสู้กับพลังธรรมชาติ หลายครั้ง, เขาจะปลิวออกจากหลังของเฟนเรียร์เนื่องจากภาพของภูมิประเทศอันเลวร้าย
หลังจากการตกแต่ละครั้ง, ลิงค์จะอัญเชิญเฟนเรียร์ตัวใหม่ออกมากลางอากาศเพื่อป้องกันตัวเองจากการได้รับบาดเจ็บ จากนั้นเขาก็จะพุ่งไปข้างหน้าต่อโดยไม่ลดความเร็วของเขาลง
ในตอนนี้, ลิงค์ไม่ใช่นักเวทย์ที่สั่นสะเทือนไปทั่วโลกด้วยชื่อของเขาอีกต่อไป แล้วเขาก็ไม่ใช่ดยุคหรือเจ้าของที่ดินด้วย เขาเป็นแค่ชายหนุ่มที่กำลังทำตามหัวใจของเขา
มีหกประเทศทางตอนใต้, ซึ่งแต่ละประเทศนั้นมีขนาดเล็กกว่าอาณาจักรนอร์ตันมาก ขนาดทั้งหมดของทั้งหกอาณาจักรนั้นกว้างแค่ 1.5 เท่าของอาณาจักรนอร์ตันเพียงเท่านั้น ดังนั้นเพื่อที่จะป้องกันตัวเองจากราชสีทางเหนือ, ทั้งหกประเทศจึงรวมตัวกันจัดตั้งพันธมิตรขึ้นมาซึ่งมีชื่อว่าสมาพันธ์การค้าทางใต้
ในหกประเทศนี้, อาณาจักรสิงโตอยู่ในอันดับสุดท้ายในแง่ของความแข็งแกร่งทั่วไปและยังมีขนาดเล็กที่สุดด้วย มันมีเนื้อที่ครอบคลุมแค่ 800,000 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น อย่างไรก็ตาม, แม้ขนาดของมันจะเล็ก, แต่สมาคมนนักเวทย์ก็ตั้งอยู่ทางใต้ของเขตเมืองหลวงของมัน, เมืองโอปอล, และชื่อเสียงของมันนั้นก็แพร่กระจายไปทั่วทวีปฟิรุแมน ซึ่งองค์กรนี้ก็คือสมาพันธ์นักเวทย์ทางใต้
ไม่เหมือนกับหอคอยเวทย์มนตร์สูงตระหง่านที่ผู้คนทางเหนือคุ้นเคย, นักเวทย์ทางใต้นั้นจะไม่มีสิ่งก่อสร้างที่น่าดึงดูดแบบนั้น, แต่พวกเขาจะสร้างปราสาทอันงดงามแทน
ฐานของสมาคมนักเวทย์ทางใต้นั้นโดยหลักแล้วถูกสร้างขึ้นจากกลุ่มของปราสาทขนาดมหึมา มันมีเนื้อที่ 30,000 หลาและมีปราสาทที่เป็นจุดสำคัญหกแห่งซึ่งตั้งอยู่ในรูปแบบดาวหกฉาก ระแวกโดยรอบของประสาทนั้นจะเต็มไปด้วยบ้านพักอาศัย, ที่ซึ่งคนงานและพ่อค้าที่มีความสัมพันธ์กับสมาคมนักเวทย์อาศัยอยู่ มีคนพวกนี้ประมาณ 5,000 คน, รวมทั้งคนใช้, คนขับรถม้า, คนฝึกม้า, พ่อค้าขายคำภีร์และอื่นๆ ซึ่งมันดูเหมือนกับเมืองแห่งเวทย์มนตร์เลย และที่นี่ก็เป็นสถานที่ที่นักเวทย์อัจฉริยะที่เด็กที่สุดของสมาคม, เวเวอร์, เรียนเวทย์มนตร์อยู่ด้วย
เวเวอร์มีอายุ 21 ปีและมีผมกับดวงตาสีเงินงดงาม เขาคาดเอาไว้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จและไปถึงเลเวล 5 ในเวลาสามเดือน ซึ่งความสำเร็จนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของสมาคม ดังนั้นเขาจะได้รับสิทธิ์ในการใช้คทาเมอลิน
ถ้าทั้งหมดเป็นไปตามแผน, เส้นทางแห่งความสำเร็จของเวเวอร์ก็จะถูกเซทเอาไว้เรียบร้อย ความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ, และอาจจะไปถึงเลเวล 8 ได้เลยด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าเขาสามารถแข็งแกร่งขนาดนั้นได้จริงๆ, เขาก็น่าจะได้เป็นผู้อาวุโสคนต่อไปของสมาคม
อย่างไรก็ตาม, เหตุการณ์เมื่อสองเดือนก่อนก็ได้ทำให้จังหวะความก้าวหน้าของเขายุ่งเหยิง
เวเวอร์ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเหมือนปกติและรับประทานอาหารเช้าตามปกติ จากนั้น, เขาก็ตรงไปที่ห้องสมุดในสมาคม ซึ่งเขาได้ค้นพบเรื่องเวทย์มัลติแคสท์เมื่อคืนก่อนและต้องการจะตรวจสอบพวกมันด้วยความรู้ของบรรพบุรุษของเขาเพื่อให้มั่นใจว่าพวกมันใช้งานได้ เขาเดินไปตามทางเดินนอกห้องของเขา; มีนักเวทย์คนอื่นอีกหลายคนที่ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าตรู่ หลังจากได้เห็นเวเวอร์, พวกเขาทุกคนก็คำนับเขาด้วยความเคารพซึ่งเวเวอร์ก็โค้งกลับไปด้วยความใจดี และพอเขาไปถึงจตุรัสเอลอทติสันที่อยู่นอกปราสาท, ก็มีประโยคนึงดึงดูดความสนใจของเขา
“นายรู้ไหมว่าทีมสืบสวนกลับมาแล้ว?” นี่มาจากนักเวทย์ฝึกหัดคนหนึ่ง
“หรอ, แล้วสถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?” อีกคนนึงถาม เวเวอร์รู้สึกสนใจขึ้นมาในทันทีและชะลอฝีเท้าของเขา
“พวกเราส่งคนออกไปกว่าสิบคน, แต่มีแค่สามคนเท่านั้นที่รอดชีวิตกลับมาได้! พวกเขาบอกว่าพวกเขาพบความสัมพันธ์ระหว่างปีศาจกับสมาคม ไอพวกโจรชั่วนั่นกำลังปกปิดร่องรอยของปีศาจอยู่”
“ไอพวกสมาคมนี่มันน่ารังเกียจจริงๆ!” นักเวทย์ฝึกหัดอีกคนเดือดขึ้นมาในทันที เขาชูหมัดของขึ้นมา
นักเวทย์ฝึกหัดสองคนจากไปหลังจากบทสนทนาสั้นๆนี้ ในอีกด้านนึง, เวเวอร์ก็เปลี่ยนจุดมุ่งหมายในทันทีและมุ่งหน้าไปหาอาจารย์ของเขา, มาสเตอร์แฮนลอทธ์
มาสเตอร์แฮนลอทธ์เป็นนักเวทย์เลเวล 6 อย่างไรก็ตาม, เขาอายุ 60 ปีแล้วและไม่ได้มีเรี่ยวแรงเหมือนแต่ก่อน; ซึ่งเขาจะตื่นนอนในเวลา 9 โมงของทุกวัน ดังนั้นเวเวอร์อาจจะต้องรอพักนึงก่อนที่เขาจะได้เข้าพบกับเขา
ห้องของมาสเตอร์แฮนลอทธ์อยู่ที่ชั้นหนึ่ง คนใช้หญิงคนนึงกำลังยืนอยู่หน้าห้องของเขา และพอเธอเห็นเวเวอร์, เธอก็พูดออกมาด้วยความเคารพ “ท่านคะ, นายท่านยังหลับอยู่ค่ะ กรุณารอสักพักนึงนะคะ”
“โอเค” เวเวอร์หาที่นั่งในห้องโถงและเริ่มอ่านหนังสือเวทย์มนตร์
ก่อนหน้านี้, เขาสามารถหมุกมุ่นอยู่กับหนังสือเวทย์มนตร์ได้อย่างรวดเร็ว, จนถึงจุดที่เขาจะไม่สนใจสภาพแวดล้อมรอบตัวเขา อย่างไรก็ตาม, ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถทำแบบนั้นได้ในวันนี้ สองเดือนก่อน, ร่องรอยของปีศาจได้ปรากฏขึ้นในเมืองหลวง เขาได้เข้าร่วมในการสอบสวนนั้นด้วยตัวเอง; และครั้งนึง, เขาได้เห็นหญิงสาวคนนึง แม้ว่าจะเห็นแค่แวบเดียว, แต่เขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าเขาได้สะดุดกับอะไรบางอย่างที่น่ามหัศจรรย์ ซึ่งโลกทั้งใบดูหม่นหมองไปเลยเมื่อเอามาวางไว้ข้างๆเด็กสาวที่ฉลาดและเข้มแข็งคนนี้
หลังจากนั้น, เขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าเขามักจะเดินละเมอและทำเรื่องผิดพลาดตลอด ซึ่งพอตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดพลาด, เขาก็อาสาถอนตัวจากทีมสอบสวน แม้ว่าเด็กสาวคนนั้นจะได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นปีศาจ, แต่มันก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนความประทับใจของเวเวอร์ที่มีให้เธอได้
เด็กสาวที่งดงามคนนั้นเป็นปีศาจไปได้ยังไงกัน? แม้ว่าสายตาของเวเวอร์จะจ้องหนังสือเวทย์มนตร์อยู่, แต่เขาก็กำลังย้อนภาพการค้นพบแห่งโชคชะตานั้นในหัวของเขา
เหตุการณ์นั้นมันอยู่ที่ตลาดธรรมดาๆในเมืองโอปอล เด็กสาวคนนั้นสวมชุดผ้าลินินสีฟ้าอ่อนพร้อมกับถือตระกร้าสาน เธอกำลังต่อรองกับชาวสวนจำนวนนึงอยู่และดูเหมือนกับเด็กผู้หญิงแถวบ้านคนนึง มีเด็กสาวมากมายในเมืองโอปอล –แต่เธอแค่น่ารักกว่าคนอื่นเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม, เวเวอร์เหมือนถูกเธอสะกดจิตในตอนที่พวกเขาสบตากัน
ดวงตาคู่นั้นฉายออกมาด้วยความงดงาม รูปทรงจมูกที่ดูยั่วเย้าของเธอและวิธีที่เธอยักคิ้วส่งสายตามาในตอนที่เธอสังเกตุเห็นเขาด้วยความงุนงง—มันเป็นเหมือนกับคิวปิดที่แผลงศรตรงมาที่หัวใจของเขา
ฉันสงสัยจังว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน? เธอถูกนักเวทย์ทำร้ายไหม? เธอ…ฆ่าใครไปรึเปล่า? ความเป็นไปได้มากมายผุดขึ้นมาในหัวของเขา เขารู้สึกไม่สบายใจ
และทันใดนั้นเอง, ก็มีเสียงดังเข้ามาในหูของเขา “ท่านคะ ท่านคะ”
“ห้ะ? เวเวอร์หลุดออกมาจากความคิดของเขาและเงยหน้ามองคนใช้
“นายท่านตื่นแล้วค่ะ ตอนนี้ท่านสามารถเข้าพบเขาได้แล้ว”
“อ้อ, โอเค” เวเวอร์ตอบกลับไปในขณะที่เขาเก็บหนังสือเวทย์มนตร์ที่เขาแทบไม่ได้อ่าน เขาตามคนใช้เข้าไปในห้องของอาจารย์ของเขา
ห้องของแฮนลอทธ์นั้นตกแต่งแบบเรียบง่าย เขาไม่ใช่คนที่ชอบความเริศหรูหรือการออกแบบที่สูญเปล่า การใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายและพื้นฐานนั้นเป็นสิ่งที่เขามักจะยึดถือ เสื้อคลุมตัวโปรดของเขาเองก็เป็นสีขาวเรียบซึ่งเขากำลังสวมอยู่ในตอนนี้
ในตอนที่เขาเห็นลูกศิษย์มากพรสวรรค์ของเขา แฮนลอทธ์ก็ยิ้มออกมา “นั่งสิ, พ่อหนุ่มคนโปรดของข้า”
เขาชอบเรียกนักเวทย์หนุ่มที่เขาสนิทด้วยว่าพ่อหนุ่ม เขาชื่นชอบพลังหนุ่มสาวที่แผ่ออกมาจากตัวพวกเขา
เวเวอร์นั่งบนม้านั่งไม้ที่อยู่ข้างเตียงแล้วพูด “อาจารย์ครับ, ผมได้ยินมาว่าทีมสืบสวนได้ประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ในครั้งนี้”
ใบหน้าของแฮนลอทธ์หดหู่ในตอนที่เขาได้ยินข่าวนี้ เขาพยักหน้า “ปีศาจมันแข็งแกร่งจริงๆ”
“พวกเราฆ่าปีศาจได้ไหมครับ?” เวเวอร์ถาม
แฮนลอทธ์ส่ายหัว “พวกเราทำให้หนึ่งในพวกมันบาดเจ็บร้ายแรงได้ แต่ว่า, ปีศาจมันมีพวกอีกสองคน แม้ว่าพวกเราจะเปิดใช้เวทย์บาเรียผนึก, แต่พวกเราก็ไม่สามารถหยุดพวกมันจากการหลบหนีได้”
“พะ…พวกเขาเห็นปีศาจผู้หญิงไหมครับ?” นี่เป็นคำถามที่ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์, แต่เวเวอร์ก็อดถามไม่ได้
แฮนลอทธ์ขมวดคิ้วและจ้องไปที่เวเวอร์, พร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง “พ่อหนุ่ม, คิดแบบนี้มันอันตรายนะ”
“อาจารย์…” เวเวอร์พยายามแก้ตัวแต่ก็ถูกแฮนลอทธ์ขัดจังหวะ
ใบหน้าของชายแก่เข้มงวดและมีสีหน้าเอาจริงเอาจัง; ดวงตาของเขาฉายออกมาด้วยความเฉียบแหลมที่ครั้งนึงเขาเคยมีในวัยหนุ่มของเขา “เวเวอร์, เจ้ามีอนาคตที่สดใส; อย่าทำลายมันทิ้งสิ! ข้าต้องการให้เจ้าสาบานต่อเทพแห่งแสง สาบานว่าเจ้าจะไม่มีวันไปยุ่งเกี่ยวกับปีศาจสาวคนนั้น!”
“อาจารย์!” เวเวอร์ต้องการจะพูดปกป้องตัวเอง, แต่แฮนลอทธ์ก็จ้องเขาต่อด้วยสีหน้าดุดัน
ในการประลองจิตใจนี้, เวเวอร์ยอมจำนนในที่สุดและกระซิบออกมา “ท่านเทพแห่งแสง, ข้าขอสาบานว่าข้าจะไม่มีวันไปยุ่งเกี่ยวกับปีศาจสาวคนนั้น และถ้าข้าเห็นเธออีก, ข้าจะ…ข้าจะฆ่าเธอซะโดยไม่คิดอะไร”
ในที่สุดแฮนลอทธ์ก็พอใจ เขาตบไหล่ของเวเวอร์แล้วพูด “ดีแล้ว, พ่อหนุ่ม จำเอาไว้นะ, ปีศาจยิ่งงดงามเท่าไหร่, เธอก็ยิ่งน่าเย้ายวนละนำพาโชคร้ายมามากเท่านั้น ผู้คนที่ถูกสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายพวกนั้นหลอกล่อมักจะไม่ได้รับจุดจบที่ดีหรอกนะ ข้าไม่อยากให้ลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์ของข้าตกอยู่ในกำมือของปีศาจ”
“ขอบคุณครับ, อาจารย์” เวเวอร์รู้สึกข้องใจเล็กน้อย, แม้ว่าเขาจะรู้สึกขอบคุณสำหรับคำแนะนำของอาจารย์ของเขาด้วยก็ตาม
“เอาหล่ะ, ไปตั้งใจค้นคว้าเวทย์มนตร์ของเจ้าเถอะ ไปถึงเลเวล 6 ให้ได้และจงกลายเป็นจอมเวทย์ซะ อย่าปล่อยให้ไอพวกหลงตัวเองที่สถาบันเวทย์มนตร์ระดับสูงอีสโควฟดูถูกพวกเราได้” แฮนลอทธ์พูดขณะที่ตบบ่าของเวเวอร์ในเชิงให้กำลังใจ
เวเวอร์พยักหน้าและออกจากห้องของแฮนลอทธ์ไป ในตอนที่ประตูที่อยู่ข้างหลังเขาปิดลง, เขาก็ถอนหายใจออกมาและรู้สึกว่าเรี่ยวแรงกำลังไหลออกมาจากร่างของเขา มันเป็นราวกับว่าเขาได้สูญเสียบางสิ่งที่สำคัญอย่างมากในชีวิตของเขาไป
เธอเป็นปีศาจ; เรื่องระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้…ลืมมันไปซะ เวเวอร์ส่ายหัวและเดินตรงไปที่ห้องสมุด
เมืองโอปอล, ตลาด ที่พักอาศัยของสามัญชน
…
แม้ว่านักเวทย์จะพบร่องรอยของเธอแล้ว แต่เซลีนก็ไม่ได้ออกไปจากเมืองโอปอล, อันที่จริงเธอไม่ได้ออกไปจากเขตตลาดที่มีคนพลุกพล่านด้วยซ้ำ เธอแค่เปลี่ยนที่ซ่อนของเธอเฉยๆ
มันเป็นเรื่องที่อันตรายจริงๆในการอยู่ใกล้กับสมาคมนักเวทย์ขนาดนี้ อย่างไรก็ตาม, นักเวทย์เหล่านี้ก็เป็นผู้พิทักษ์ของเธอ ตัวตนของพวกเขาจะเป็นสิ่งที่ช่วยรับรองว่าปีศาจที่ตามเธอมาจะไม่ทำอะไรห่ามๆ
เซลีนอยู่ที่ชั้นสองของบ้าน, ดูแลแขนที่บาดเจ็บของเธอ นี่เป็นบาดแผลที่เกิดขึ้นจากมีดเวทย์มนตร์เมื่อเที่ยงวานนี้ บาดแผลนั้นลึกมาก—มากเสียจนมองเห็นกระดูกได้ แต่ก็โชคดีที่, นักเวทย์มาถึงทันเวลาและช่วยเธอเอาไว้จากสถานการณ์ฉุกเฉินของเธอ ซึ่งหากพวกเขาไม่มา, เธอก็คงจะถูกส่งกลับไปที่หุบเหวแล้ว
บาดแผลแปดเปื้อนด้วยออร่าของหุบเหว, และเนื้อรอบๆก็โดนกัดกร่อน ซึ่งเธอต้องตัดชิ้นเนื้อพวกนี้ออกไปอย่างรวดเร็ว, ไม่อย่างนั้นเธอก็คงจะเป็นบ้าจากผลของออร่า
ด้วยการใช้มีดของเธอ, เธอตัดชื้นเนื้อเน่าที่อยู่รอบๆบาดแผลของเธอออกไปอย่างระมัดระวัง ซึ่งนี่เจ็บปวดอย่างมาก, ทำให้เธอตัวสั่นจนไม่สามารถควบคุมได้และมีเหงื่อไหลออกมาบนหน้าผากของเธอ อย่างไรก็ตาม, เธอกัดฟันของตัวเองเอาไว้และทำต่อจนกระทั่งเธอมั่นใจว่าเนื้อเน่าทั้งหมดถูกกำจัดออกไป พอจัดการเรียบร้อยแล้วเธอก็พิงกำแพงอย่างอ่อนแรงและถอนหายใจออกมา
เธอผูกผมซึ่งชุ่มไปด้วยเหงื่อของเธออย่างลวกๆและจ้องไปที่หลังคาด้วยดวงตาอันงดงามและชุ่มชื้นของเธอ มีใยแมงมุมอยู่ตรงมุมหลังคาซึ่งมันได้จับแมลงที่ไม่ระวังตัวเอาไว้ แม้ว่าแมลงตัวนั้นจะดิ้นรนอย่างเจ็บปวด, แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่สามารถหนีไปจากชะตากรรมของมันได้ ในขณะที่, แมงมุมกำลังเข้าใกล้เหยื่อของมัน
ฉันเป็นแมลงที่ติดอยู่ในใยรึเปล่านะ?
เซลีนรู้สึกเสียใจ เธออยู่ตัวคนเดียวในโลกที่ต้องดิ้นรนนี้ เพื่อนเพียงคนเดียวของเธออยู่ทางเหนือจึงไม่สามารถมาช่วยเธอได้ เธอเกือบจะถึงขีดจำกัดแล้ว
ลิงค์, ฉันควรจะทำยังไงดี? เด็กหนุ่มผมสีดำดูเหมือนจะปรากฏขึ้นมาเบื้องหน้าเธอ ในเวลาเดียวกันนั้น, เธอก็ดูเหมือนจะได้ยินเสียงของเขากำลังกระซิบอยู่ “คนเราไม่สามารถเลือกเกิดได้, แต่เราสามารถเลือกเส้นทางที่อยากเดินได้นะ”
แต่ว่าทำไมเส้นทางของฉันถึงขรุขระและคดเคี้ยวขนาดนี้หล่ะ? เซลีนหลับตาของเธอในขณะที่น้ำตาล่วงลงมาที่แก้มของเธอ