ตลาดเมืองโอปอล
มีร้านจำนำในพื้นที่ที่มีชื่อแปลกๆอยู่ร้านหนึ่ง มันถูกเรียกว่า “จำนำปลาน้อย” ผู้ช่วยจะมีใบหน้าที่ดูหน้าเชื่อถือขณะที่เจ้าของร้านมักจะมีรอยยิ้มเชื้อเชิญอยู่เสมอ พวกเขาดูเหมือนกับคนธรรมดาทั่วไป
อย่างไรก็ตาม, ทั้งหมดนี้ก็เป็นแค่เปลือกนอก ร้านแห่งนี้มีความลับซ่อนอยู่บนชั้นสอง ชั้นสองนั้นดูเหมือนกับห้องนอนของเจ้าของร้านกับผู้ช่วย อย่างไรก็ตาม, พอสังเกตุดูให้ดีจะเผยให้เห็นว่าชั้นสองนั้นดูเหมือนจะเล็กกว่าที่ควรจะเป็น มันไม่สามารถบอกได้อย่างเจาะจงว่าส่วนไหนที่แปลก, แม้ว่าจะมีบางอย่างที่ดูไม่ถูกต้องในตึกหลังนี้อย่างชัดเจนก็ตาม
ร้านจำนำนั้นไม่มีลูกค้าในวันนี้ ซึ่งนี่ก็เป็นภาพที่เห็นได้ตามปกติ เราคงจะไม่เห็นคนมาต่อแถวยาวที่ร้านจำนำหรอก อย่างไรก็ตาม, หากพวกเขาสามารถทำข้อตกลงกับลูกค้าได้, พวกเขาก็อาจจะได้รับเงินมากพอที่จะสนับสนุนพวกเขาไปนานหลายวัน ดังนั้น, จึงมีลูกค้าแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่จะเข้ามาที่ร้านเป็นครั้งคราวในเรื่องธุรกิจ
การเข้าไปที่ร้านจำนำแห่งนี้นั้นมักจะเป็นแบบตั๋วเที่ยวเดียว ผู้คนที่เข้ามาที่ทำข้อตกลงที่ร้านมักจะไม่ปรากฏตัวออกมาอีก มันไม่สามารถสืบหาร่องรอยของผู้คนที่เข้าไปในร้านได้เลย มันเป็นราวกับว่าพวกเขาระเหยไปในอากาศ
พวกเขาไปที่ไหนกันหล่ะ? ไม่มีใครสนใจหรอก ตลาดเต็มไปด้วยผู้คนที่มาจากเขตและพื้นที่ยากจนอื่นๆ ทุกคนห่วงแค่เรื่องความเป็นอยู่ของตัวเองเท่านั้น
ในตอนนั้นเอง, ก็มีคนสวมผ้าคลุมสีเทาเต็มตัวเดินเข้ามาในร้าน จากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “เงาครอบงำโลก!”
พอได้ยินคำพูดพวกนี้, เจ้าเข้าร้านก็ทักทายเขาอย่างเคารพแล้วพูด “ท่านครับ, เชิญทางนี้ได้เลยครับ”
บุคคลลึกลับพยักหน้าแล้วมุ่งหน้าไปที่ชั้นสอง พวกเขาเดินตามทางเดินไปเรื่อยๆจนถึงทางตัน จากนั้นบุคคลลึกลับก็กดกำแพงอย่างนุ่มนวลด้วยนิ้วที่ซีดเซียวและน่ากลัวของเขา และทันใดนั้นเอง, กำแพงเรียบๆก็กลายเป็นกำแพงที่เปล่งประกายด้วยรูนสดใส จากนั้นชายคนนั้นก็ผลักกำแพงด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดของเขา, ทำให้กำแพงเลื่อนไปด้านหลัง, เผยให้เห็นบันไดแคบๆที่นำลงไปที่ชั้นใต้ดิน ซึ่งมีเสียงเบาๆสามารถได้ยินได้จากข้างล่าง
นี่เป็นทางเข้าห้องโถงลับใต้ดิน ใครจะไปคิดกันว่าทางเข้าห้องใต้ดินจะถูกสร้างขึ้นที่ชั้นสองแทนที่จะเป็นชั้นหนึ่ง? ทางเดินนั้นถูกซ่อนเอาไว้ในระหว่างช่องหวางของกำแพงทั้งสองได้เป็นอย่างดี มันแคบมากๆ อย่างไรก็ตาม, บุคคลลึกลับคนนี้ก็ตัวผอมมากๆเช่นกัน, ดังนั้นเขาสามารถเดินผ่านบันไดได้อย่างสบายๆ
มีทางโค้งตลอดทางเดินบันได พอเดินผ่านทางโค้งก็จะมองเห็นแสงเทียนสลัวๆ, และเสียงจากข้างล่างก็จะชัดขึ้น มันยังสามารถได้ยินเสียงหายใจแปลกๆด้วย
จากนั้นบุคคลลึกลับก็เดินตรงไปที่ห้องโถงลับใต้ดิน
ห้องโถงนี้มีขนาดใหญ่มาก—มันมีความกว้างและความยาวอย่างน้อย 60 ฟุต มีโต๊ะอยู่กลางห้องพร้อมกับมีเทียนตั้งอยู่ ภายใต้แสงสลัวๆของแสงเทียง, มีเงาคนอยู่ห้าคนนั่งอยู่รอบโต๊ะ
ที่ให้ถูกก็คือ, มนุษย์สองคนและปีศาจอีกสามตน
ปีศาจสามตนนี้มีสัดส่วนคล้ายกับมนุษย์นอกเสียจากว่าพวกมันมีหน้าตาน่าเกลียด หนึ่งในพวกมันมีขวานขนาดใหญ่แทนมือของมันทั้งสองข้าง อีกตนก็เป็นกิ้งก่าในร่างมนุษย์, ในขณะที่อีกตนเป็นคางคกยักษ์ที่อยู่ในร่างมนุษย์เช่นกัน ในตอนที่สิ่งมีชีวิตตัวนี้หายใจ, จะสามารถได้ยินเสียงฟองแปลกๆขณะที่ถุงลมที่อยู่ข้างแก้มของมันขยายออก ถุงลมนี้ดูเหมือนจะเก็บของเหลวสีดำที่ดูน่ากลัวเอาไว้ด้วย
ในตอนที่บุคคลลึกลับปรากฏตัว, นักฆ่าที่สวมเกราะสีแดงฉานก็กระซิบบอกเขา “แอนดรู, นายมาสายนะ”
หนังที่ใช้ในการผลิตเกราะตัวนี้นั้นพิเศษมากๆ ขณะที่เขาขยับตัว, จะเห็นร่องรอยของหมอกเลือดแผ่ออกมาจากมัน ตัวตนของหมอกนี้ได้ปกปิดร่องรอยส่วนใหญ่ของนักฆ่าเอาไว้และทำให้ร่างกายของเขาเลือนลาง ถึงแม้ว่าจะอยู่ใกล้กันขนาดนี้, มันก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะระบุตำแหน่งที่แน่นอนของเขา
“นายโทษฉันไม่ได้นะ, เบรน มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นระหว่างทางหน่ะ”
บุคคลลึกลับคนนี้ก็คือแอนดรู, เนโครแมนเซอร์ที่เพิ่งจะพ่ายแพ้ให้กับลิงค์
“อุบัติเหตุหรอ? แล้วโล่เงาสองคนที่ฉันส่งไปปกป้องนายหล่ะ?” นักฆ่าที่ชื่อเบรนถามด้วยความไม่เชื่อ แอนดรูเป็นเนโครแมนเซอร์เลเวล 7 นอกจากนี้, เขายังมีนักรับถือโล่เลเวล 6 สองคนตามประกบด้วย ดังนั้นไม่น่าจะมีใครในอาณาจักรสิงโตที่สามารถต่อกรกับความแข็งแกร่งระดับนี้ได้ อุบัติเหตุแบบไหนที่เกิดขึ้นกันนะ?
แอนดรูนั่งลงแล้วถอนหายใจออกมา “มีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นในตอนที่พวกเรากำลังไล่จับเสือนภาตัวนั้น จู่ๆก็มีนักเวทย์ที่แข็งแกร่งจนน่ากลัวปรากฏตัวออกมา พวกเราสามคนจับร่องรอยของมันไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นักรบโล่เงาสองคนตายไปแล้ว ส่วนฉันก็ต้องใช้พลังทั้งหมดเพื่อที่จะหนีออกมา”
“นักเวทย์หรอ? หนึ่งต่อสามเนี่ยนะ? นายรู้จักมันไหม?” เบรนไม่ได้โทษแอนดรู เขารู้ว่าคนเราไม่ได้ดูผลลัพธ์กันได้ง่ายๆ แม้ว่าแอนดรูจะทำแผนการของพวกเขายุ่งเหยิงในครั้งนี้, แต่เขาก็เผยให้เห็นถึงภัยคุกคามที่กำลังจะมาหาพวกเขา
แอนดรูผายมือออกมาอย่างจนปัญญาแล้วพูด “การต่อสู้มันเร็วเกินไป มันเป็นการลอบโจมตี, และฉันก็ไม่ได้เห็นเวทย์ของมันดีเท่าไหร่นัก แต่ว่า, มันใช้แค่เวทย์เดียวตลอดการต่อสู้ มันคือมือธาตุไฟขนาดยักษ์ มันดูเหมือนกับเวทย์เลเวล 6 หมัดแห่งฟิโรมอซเลย แม้ว่าในระหว่างการต่อสู้มันจะเปลี่ยนรูปร่างได้ก็ตาม…”
“หัตถ์เพลิงหรอ?” อีกคนที่อยู่ใต้ผ้าคลุมพูดออกมาอย่างกระทันหัน เสียงที่ออกมานั้นมีความนุ่มนวลเป็นพิเศษเหมือนกับหญิงสาว
“ใช่, ลีน่า มันคือหัตถ์เพลิง” แอนดรูยักไหล่ขณะที่เขาแสดงความคิดเห็น แม้ว่านักเวทย์คนนี้จะยังสาวอยู่, แต่เธอก็เป็นไฮเอลฟ์, เผ่าพันธุ์ที่มีพรสวรรค์ทางด้านเวทย์มนตร์ตามธรรมชาติ เธออายุแค่ 40 ปีแต่ก็ไปถึงเลเวล 6 แล้ว ซึ่งเขาปฏิบัติกับเธอด้วยความเคารพอย่างเต็มที่
พอได้ยินคำพูดของแอนดรู, ไฮเอลฟ์ที่ชื่อว่าลีน่าก็หันไปหาเบรนแล้วพูด “ดูเหมือนว่าคนจากทางเหนือจะมาถึงแล้วนะ”
เบรนตกใจ “คนจากทางเหนือหรอ? เธอหมายถึงผู้สังหารปีศาจ, ผู้บงการเพลิง, ลิงค์ งั้นหรอ?”
ลีน่าพยักหน้า
แอนดรูเข้าใจความพ่ายแพ้ของเขาในทันที “ไม่แปลกใจเลยที่เขาแข็งแกร่งขนาดนั้น”
คืนนั้นเขาหนีออกมาตั้งแต่เนิ่นๆและไม่ได้เห็นการต่อสู้ทั้งหมด หลังจากที่ได้ยินข่าวอันน่าหวาดกลัวของการปรากฏตัวของนักเวทย์เลเวล 9, เขาก็มุ่งหน้ามาทางใต้ด้วยความเร็วสูงสุด ดังนั้น, จึงเป็นธรรมดาที่เขาไม่รู้ถึงการเคลื่อนไหวที่เป็นเอกลักษณ์ของลิงค์
จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขาคิดว่าเขาแก่และอ่อนแอแล้วจริงๆถึงโดนนักเวทย์ที่ไหนไม่รู้มาล้อเล่นกับเขาได้ง่ายๆ เขารู้สึกผิดหวังและเศร้าโศกตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ อย่างไรก็ตาม, หลังจากที่ได้รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของคู่ต่อสู้ของเขา, เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาก
เขายังแข็งแกร่งอยู่ เหตุผลเดียวที่เขาแพ้ก็เพราะคู่ต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งกว่า!
เบรนไม่มีอะไรจะพูดเช่นกัน ในการเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่เพิ่งจะขยี้ปีศาจเลเวล 8 มาได้นั้น, แอนดรูได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของเขาแล้วด้วยการหนีมาได้โดยไร้รอยขีดข่วน การได้เจอกับคนแบบนี้ในระหว่างภารกิจนั้นถือว่าเป็นโชคร้ายของพวกเขาจริงๆ
และในเวลาเดียวกันนั้น, เขาก็พบกับปัญหาใหม่ เขามองไปที่ปีศาจที่อยู่หน้าเขาแล้วพูด “บาลลี่, นี่เป็นข่าวร้ายแล้วหล่ะ, นักเวทย์ที่เพิ่งฆ่าทาร์วิสอาจจะมาที่นี่เพราะองค์หญิงเซลีนก็ได้”
ปีศาจมือขวานนั้นเป็นหัวหน้าของปีศาจทั้งสามตน เขามีเลเวล 6 ซึ่งแข่งแกร่งที่สุดในบรรดาสามตนนี้ ถ้าเขาต้องสู้กับมนุษย์เลเวลเท่ากัน เขาก็อาจจะสามารถรับมือในคราวเดียวได้ถึงหาคนเนื่องจากพรสวรรค์ทางด้านการต่อสู้ในฐานะปีศาจของเขา
อย่างไรก็ตาม, เขาไม่มีความมั่นใจพอที่จะเผชิญหน้ากับนักเวทย์ที่สามารถเอาชนะทาร์วิสได้ เขาไม่มีความเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเองแล้วพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “มีหลักฐานอะไรที่บอกว่ามันมาที่นี่เพราะองค์หญิง
เบรนเอาคำภีร์ออกมาแล้วโยนมันไปให้บาลลี่ “นี่เป็นข้อมูลของเขา, พวกเราได้รับมาจากมือแห่งความตาย ในเมืองแกลดสโตน, องค์หญิงเซลีนเคยช่วยชีวิตของมันเอาไว้ อันที่จริงเหตุที่แม่ทัพลอร์ดล้มเหลวในการพยายามฆ่ามันก็มีส่วนมาจากการแทรกแซงขององค์หญิงเช่นกัน จากความสัมพันธ์ที่พวกเขามีนี้และแรงจูงใจที่เป็นปริศนาของมันในการลงมาทางใต้, นายคิดว่ายังไงหล่ะ?”
บาลลี่ตกอยู่ในความเงียบ มันสามารถบ่งบอกความไม่สบายใจและความกลัวของเขาได้จากลมหายใจที่หนักหน่วงของเขา
จากนั้นปีศาจกิ้งก่าก็กระซิบ “หัวหน้าครับ, มันมาคนเดียว แต่พวกเรามีกันเป็นกลุ่มนะครับ”
จากนั้นปีศาจกิ้งก่าก็หันไปหาเบรนแล้วพูด “ครั้งนี้เจ้าเฝ้าดูอยู่เฉยๆไม่ได้แล้วหล่ะ เจ้าก็ต้องมาช่วยด้วย”
เบรนอยู่เงียบๆขณะที่ลีน่า, ที่นั่งอยู่ข้างเขาเริ่มส่ายหัว “พวกเราจะไม่แทรกแซงโดยตรง อย่างมากที่สุดที่พวกเราทำได้ก็คือช่วยพวกนายหนีถ้าจำเป็น นายควรจะรู้เอาไว้นะว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้แค่คนเดียวของพวกเรา ถ้าพวกเราจัดการกับเขา, พวกเราก็จะทำให้พันธมิตรนักเวทย์เป็นศัตรูด้วย, และเมืองโอปอลก็เป็นศูนย์ใหญ่ของมัน!”
เบรนยอมรับคำแถลงของลีน่าอย่างเงียบๆ
อย่างไรก็ตาม, แอนดรูแสดงความคิดเห็นออกมาอย่างกระทันหัน “ฉันคิดว่านี่คือโอกาสนะ!”
“โอกาสอะไร?”
“มันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไง?” ทุกคนในห้องมองเขา, เฝ้ารอคำตอบจากเขา
“พวกนายก็รู้นี่, ลิงค์มาที่นี่เพื่อองค์หญิงเซลีน เขามาที่นี่เพื่อช่วยเธออย่างแน่นอน แต่ว่า, องค์หญิงเป็นปีศาจนะแล้วก็เป็นเป้าหมายของพันธมิตรนักเวทย์ด้วย หากพวกเราสามารถสร้างความไม่ลงรอยระหว่างสองฝ่ายนี้ได้, ลิงค์ก็จะกลายเป็นศัตรูกับพันธมิตรนักเวทย์ พวกเราแค่รอโอกาสที่เหมาะสมในตอนที่ทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วพวกเราก็อาจจะชนะทั้งสองฝ่ายเลยก็ได้นะ!”
แสงแห่งความหวังปรากฏขึ้นในดวงตาของทุกคน อย่างไรก็ตาม, ลีน่าแค่เยาะเย้ยแล้วพูดอย่างเหยียดหยัน “แอนดรู, ถ้านายคิดว่าเขาโดนหลอกง่ายขนาดนั้น, ฉันคิดว่านายคงจะดูถูกพลังของเขาเกินไปหน่อยนะ”
แอนดรูยึดมั่นในมุมมองของเขา, แล้วเขาก็พูดปกป้องพวกมัน “ทุกอย่างล้วนมีความเสี่ยง ซึ่งนี่เป็นเรื่องจริงอย่างมากสำหรับเป้าหมายของเจ้านาย ถ้าพวกเราไม่เสี่ยงอะไรเลย, พวกเราก็ไม่มีทางได้ผลลัพธ์อะไรเลยนะ! เบรน, นายว่าไงหล่ะ”
ก่อนที่เบรนจะพูดออกมา, ปีศาจขวานก็ตอบกลับไปในทันที “สัญญาของอาจารย์ของข้ายังคงอยู่ ตราบเท่าที่เซลีนถูกพาตัวกลับไปได้อย่างปลอดภัย, เขาก็จะสนับสนุนเจ้านายของเจ้าด้วยพลังทั้งหมดของเขา”
นี่เป็นคำกล่าวที่เหมือนกับมีดอันคมกริบที่ตัดความลังเลในหัวใจของเบรนออกไปในทันที “ขอให้เงาครอบงำโลก แผนการนี้เป็นไปได้, แม้ว่าพวกเราจะจำเป็นต้องลงรายละเอียดให้ดีๆก็เถอะนะ”
จากนั้นใบหน้าของแอนดรูก็เผยรอยยิ้มพอใจและชั่วร้ายออกมา แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเอาชนะลิงค์ได้ด้วยตัวคนเดียว, แต่ด้วยความช่วยเหลือของผู้ที่แข็งแกร่งมากมายขนาดนี้และพันธมิตรนักเวทย์, มันก็อาจจะเป็นไปได้ และต่อให้ลิงค์จะเอาชนะทุกคนได้, แต่ชื่อเสียงของเขาก็คงจะลดลงไปมาก ซึ่งมันจะเป็นการทำลายเขาทั้งสองทาง
แม้ว่าลีน่าจะเห็นต่าง, แต่เธอก็รู้ว่าแผนการนี้ตายตัวแล้ว, มันไม่มีอะไรที่เธอจะพูดเพื่อเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของพวกเขาได้ จากนั้นเธอก็ดึงฮูดเลง, เผยให้เห็นผิวหนังที่ไร้ที่ติและใบหน้าไร้อารมณ์ของเธอ
เบรนไม่สนใจความระมัดระวังที่มากเกินไปของนักเวทย์สาวแล้วหัวเราะ “นี่จะเป็นเทศกาลแห่งการฆ่าอันไร้ที่สิ้นสุดครั้งยิ่งใหญ่!”
…
ทีมสอบสวนของพันธมิตรนักเวทย์นั้นได้มาถึงพื้นที่ด้านนอกตลาดโอปอลแล้ว พวกเขาเริ่มกระจายกันเป็นกลุ่มสี่คนยกเว้นกลุ่มนึงซึ่งมีแค่แฮนลอทธ์กับเวเวอร์เท่านั้น มีกลุ่มทั้งหมดแปดกลุ่ม
“แหล่งข่าวของเราได้ระบุที่ซ่อนของปีศาจหญิงมาแล้ว พวกเราจะปิดกั้นเส้นทางหนีทั้งหมดของเธอ จำเอาไว้นะ, พอเห็นเป้าหมาย, ให้ดำเนินการกำจัดเธอซะ ไม่ต้องลังเล!”
แฮนลอทธ์ชำเลืองตามองลูกศิษย์ของเขา, เวเวอร์ขณะที่เขาพูดคำพูดพวกนี้ แรงจูงใจของเขาที่พาเขามาทำภารกิจนี้ด้วยก็เพื่อตัดความคิดอันไม่บริสุทธิ์ที่แล่นอยู่ในหัวของนักเรียนผู้มีพรสวรรค์ของเขาในคราเดียว
มันเป็นความรับผิดชอบของเขาในการชี้ทางที่ถูกต้องให้กับลูกศิษย์ของเขา
เวเวอร์รู้สึกได้ถึงสายตากดดันที่มาจากอาจารย์ของเขา เขาไม่ได้หลบมันในครั้งนี้แล้วจ้องกลับไป, ดวงตาของเขาฉายออกมาด้วยความยึดมั่น
“ดีๆ” แฮนลอทธ์พอใจ “เริ่มการโจมตีได้!”