Advent of the Archmage – ตอนที่ 198: สาวน้อยคนนี้มีสายเลือดที่น่าสนใจจริงๆ!

แวนซ์ต้องการเลือดแค่หยดเดียว พอได้ยินคำขอนี้, เซลีนก็มอบให้เขาโดยที่ไม่ได้ลังเลเลย เธอปล่อยออร่าต่อสู้ที่แขนของเธอและบีบมันเล็กน้อย จากนั้นเลือดสดๆหนึ่งหยดก็เกิดขึ้นที่ปลายนิ้วมือ

 

เธอทำได้เร็วเกินไป มันสายเกินไปแล้วที่ลิงค์จะห้ามเธอ จากนั้นลิงค์ก็ถอนหายใจออกมาขณะที่เขาคิดว่าเซลีนเชื่อใจลิซตนนี้ขนาดนี้ได้ยังไง

 

ถ้าลิซเลเวล 7 ขอเลือดของเขาหนึ่งหยด, เขาก็จะคิดมันให้รอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะทำตามคำขอของเขารึเปล่า การกระทำนี้มันเสี่ยงมากๆ เพราะเลือดหนึ่งหยดก็สามารถใช้เวทย์มนตร์แห่งความมืดเล่นอุบายกับเหยื่อได้มากมาย

 

โชคดีที่, แวนซ์นั้นไม่ได้มีเจตนาร้าย พอได้หยดเลือดมา, เขาก็ชี้นิ้วของเขาไปที่ด้วงแห่งความตายแล้วกระซิบ “หมอกเลือด”

 

หยดเลือดลอยไปหาด้วงแล้วระเบิดกลางอากาศเป็นบอลหมอกเลือดสีแดงจางๆ ด้วงคลานไปรอบๆอย่างเป็นอิสระก่อนที่จะถูกหมอกปกคลุม อย่างไรก็ตาม, หลังจากที่มันถูกโจมตีด้วยหมอก…ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย

 

ลิงค์กับเซลีนมองไปที่แวนซ์, รอคำอธิบายจากเขา พวกเขาทั้งคู่มีพื้นฐานทางด้านเวทย์มนตร์; ดังนั้นมันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะไม่สังเกตุเห็นว่าเวทย์นี้เกิดผลกระทบ

 

แวนซ์รู้สึกเขินกับความล้มเหลวของเขาแล้วเกากะโหลกเรียบๆของเขาด้วยนิ้วกระดูกของเขา, มันเกิดเสียงก๊อกแก๊กออกมา หลังจากนั้นครู่นึง, เขาก็มองไปที่เซลีนแล้วพูด “เลือดของเจ้ามีปัญหา เจ้าไม่ใช่ปีศาจสายเลือดแท้”

 

“แม่ของฉันเป็นมนุษย์” เซลีนพยักหน้า การที่แวนซ์สามารถบอกเรื่องนี้ได้จากเลือดเพียงหยดเดียวนั้นเป็นสิ่งที่พิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของเขา

 

“ไม่, ไม่ใช่แค่นั้นหรอก!” แวนซ์มองไปยังหยดเลือดที่เหลืออยู่บนนิ้วของเซลีนแล้วเอานิ้วของเขาไปปาดมันในทันทีแล้วเอาใส่ปากของเขา

 

จากนั้น, เขาก็ขบฟันของเขา หลังจากผ่านไปครึ่งวินาที, แวนซ์ก็ตะโกนออกมา “เป็นไปได้ยังไง? นี่มันไม่น่าเหลือเชื่อ! โอ้ พระเจ้า!”

 

ลิงค์กับเซลีนมองหน้ากันเพราะพวกเขาไม่รู้ว่าอะไรทำให้ลิซพันปีอย่างแวนซ์ตื่นเต้นขนาดนี้ได้

 

แวนซ์เริ่มเดินวนรอบเซลีนขณะที่เขาถาม “เซลีน, เจ้ายังจำแม่ของเจ้าได้อยู่ไหม? เธอหน้าตาเป็นยังไง? เธอมีนิสัยแบบไหน?”

 

“แม่ของฉันหรอ? เธอน่ารักแล้วก็ดูค่อนข้างคล้ายกับฉัน แล้วก็, เวลาส่วนใหญ่นั้นเธอใจดีกับฉันมากๆ แต่ว่า, ในบางครั้งเธอก็จะโกรธฉันโดยไม่มีเหตุผล ก็…มีเท่านี้หล่ะ! จากสิ่งที่ฉันจำได้, เธอเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆคนนึงนะ”

 

ขณะที่เวลาผ่านไป, เมื่อเซลีนระลึกถึงแม่ของเธอ, เธอก็ไม่รู้สึกถึงไฟแห่งความเกลียดชังที่เธอมีต่อพ่อของเธออีก ตอนนี้, เธอรักและใส่ใจแค่ความทรงจำที่เธอมีกับแม่ของเธอ มันไม่ใช่ว่าความเกลียดชังนั้นหายไปอย่างสมบูณณ์—มันก็แค่ถูกฝังเอาไว้ลึกขึ้นในฐานะส่วนหนึ่งของประสบการณ์ชีวิตของเธอ

 

“ไม่, ไม่ใช่หรอก เธอไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาอย่างแน่นอน เลือดของเจ้ามีพลังที่ลึกลับอย่างมาก ข้ารู้สึกว่าข้าเคยเห็นมันมาก่อนนะ ข้าขอคิดแปบ…บ้าจริง ข้าจำไม่ได้! โอ้พระเจ้า, ความทรงจำของข้าช่างน่ากลัวจริงๆ มันนานเกินไป”

 

แวนซ์เคาะกระโหลกของเขาอย่างเต็มแรง, ทำให้เกิดเสียงกลวงๆออกมาดังลั่น จากที่ดูนั้น, มันเหมือนกับว่าเขาจะยอมแพ้ก็ต่อเมื่อเขากระแทกกระโหลกของเขาจนเป็นเศษเล็กเศษน้อย

 

ลิงค์ต้องห้ามเขา “เอาเถอะ, แวนซ์, ไม่เป็นไรหรอก สิ่งที่พวกเราต้องทำในตอนนี้ก็คือการจัดการกับด้วงตัวนี้!”

 

แวนซ์หยุดทำแล้วมองกลับไปที่เซลีน, เขาไม่สนใจคำพูดของลิงค์เลย แม้ว่ามันจะเป็นแค่ดวงไฟสีเขียวที่กำลังจ้องเธอ, แต่ลิงค์ก็ยังรู้สึกถึงความหลงใหลและแรงผลักดันในดวงตาคู่นี้

 

“เซลีน, ฟังข้านะ, เจ้าเป็นคนพิเศษ! เลือดของเจ้ามีพลังที่น่าอัศจรรย์สองแบบ แบบแรกคือพลังปีศาจที่บริสุทธิ์มากๆ, ขณะที่อีกแบบนึงคือพลังที่ลึกลับจนผิดธรรมดา ข้าไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร, แต่ข้ามั่นใจว่าเจ้าจะไปถึงระดับที่สูงจนน่ากลัวได้ในอนาคต”

 

ลิงค์ก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน เขารู้แค่ว่าพ่อของเซลีนนั้นเป็นบุคคลที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม, เขาคิดไม่ถึงเลยว่าแม่ของเธอก็เป็นคนที่โดดเด่นมากเช่นกัน

 

ดูเหมือนว่าเซลีนจะรู้สึกประหลาดใจน้อยกว่าที่คาดไว้ เธอตกอยู่ในความเงียบไปพักนึงก่อนที่จะหันไปหาลิงค์แล้วพูด “ฉันเชื่อเรื่องนี้นะ นี่คงเป็นเหตุผลที่ทำไมพ่อของฉันถึงตามรังควานฉันขนาดนี้แม้ว่าเขาจะทิ้งลูกเอาไว้มากมายบนโลกฟิรุแมนก็ตาม”

 

ลิงค์แหงนหน้าขึ้นราวกับว่าเขานึกถึงบางสิ่งได้แล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง “นั่นสินะ, พ่อของเธออาจจะรู้ถึงความแข็งแกร่งในตัวแม่ของเธอก็ได้”

 

ประโยคเหล่านี้ดูไม่ประติดประต่อกันมากๆสำหรับคนที่ไม่รู้พื้นเพของเซลีน จากนั้นแวนซ์ก็ถามด้วยความรู้สึกค่อนข้างสับสน “เจ้าหมายความว่ายังไง? พ่อของเซลีนเป็นใคร? ถ้ามีพลังปีศาจที่บริสุทธิ์ขนาดนี้, ข้าเกรงว่าเขาต้องเป็นบุคคลในตำนานใช่ไหม?”

 

ลิงค์มองไปที่เซลีน, และพอได้รับการอนุญาติจากเธอ, ลิงค์ก็พูดออกมา “พ่อของเซลีนก็คือเจ้าแห่งความลึก, โนโซม่า”

 

ในตอนที่ลิงค์พูดชื่อนี้ออกมา, แวนซ์ก็อ้าปากค้างในขณะที่อากาศอันหนาวเย็นพุ่งผ่านกระโหลกของเขา, ปล่อยเสียงหวีดแหลมเบาๆออกมา ไม่มีใครรู้ว่าเขาทำแบบนี้ได้ยังไงด้วยโครงกระดูกเปล่าๆสองแถวของเขา

 

แวนซ์ใช้เวลาถึงสามนาทีเต็มในการฟื้นสติจากสภาพตกใจของเขา จากนั้นเขาก็จ้องไปที่ลิงค์แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังมากๆ “ข้าสามารถรับรองกับเจ้าได้เลยว่าพอโนโซม่าได้ครอบครองเซลีน, เรื่องร้ายแรงบางอย่างจะเกิดขึ้น ลิงค์, เจ้าต้องห้ามเรื่องนี้ไม่ให้เกิดขึ้นให้ได้นะ!”

 

“ผมจะพยายามอย่างเต็มที่”

 

“ไม่, ไม่ใช่แค่พยายามอย่างเต็มที่ เรื่องนี้มันผิดพลาดไม่ได้นะ ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าเธอเป็นเด็กนิสัยดี, ข้าคงแนะนำให้เจ้าฆ่าเธอซะเดี๋ยวนี้แล้ว” แวนซ์พูดคำพูดเหล่านี้ออกมาโดยไม่คิดจะขอโทษ

 

ลิงค์ตกอยู่ในความเงียบพอได้ยินคำพูดพวกนี้ขณะที่ใบหน้าของเซลีนเปลี่ยนเป็นซีดเผือด เธอตระหนักได้ว่าตลอดเวลามานี้เธอดูถูกความมุ่งมั่นของพ่อของเธอในการครอบครองเธอ

 

พ่อของเธอจะยอมเลิกลาหรอถ้าเธอมีค่าขนาดนี้? แล้วลิงค์จะมีเวลาพอที่จะเติบโตจนแข็งแกร่งขึ้นไหม?

 

เธอไม่รู้เลย

 

อย่างไรก็ตาม, นี่ไม่ใช่สิ่งที่ลิงค์กำลังคิด เขามองโลกในแง่ดีกว่ามาก เขาจะจัดการกับสถานการณ์ที่อยู่ข้างหน้าก่อนเสมอ และในส่วนของปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตนั้น, เขาจะจัดการกับพวกมันในตอนที่พวกมันมาถึง

 

ยังไงซะ, ใครจะรู้หล่ะว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น? สำหรับทุกสิ่งที่คุณอาจจะรู้นั้น, ความพยายามในตอนนี้ของคุณก็อาจจะเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับความล้มเหลวของคุณก็ได้

 

เขาชี้ไปที่ด้วงแล้วพูดกับแวนซ์ “มันไม่เป็นไรหรอกหน่า; มาจัดการกับดวงตัวนี้กันต่อเถอะ”

 

“ถ้าพวกเราไม่มีสายเลือดปีศาจหล่ะก็, ขอข้าคิดแปบนะ…” แวนซ์เริ่มตบกระโหลกของเขาอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่นาน, รอยบุ๋มก็หายไปในหัวของเขา

 

ครั้งนี้, มันใช้เวลาแค่ครึ่งนาที จากนั้นแวนซ์ก็พูดออกมา “ข้ามีอีกความคิดนึง”

 

จากนั้น, เขาก็ยื่นนิ้วออกมาแล้วลูบมันบนดาบคริสตัลไพลินของเซลีน เขาขูดละอองกระดูกออกมาในทันที หลักจากที่รวบรวมละอองได้, แวนซ์ก็โยนมันไปทางด้วงแล้วพูด “ป่าโครงกระดูก”

 

ละอองกระดูกพวกนี้ปกคลุมด้วงอย่างสมบูรณ์ และในที่สุด, เปลือกนอกของด้วงก็ถูกปกคลุมด้วยชั้นของผงขาวอย่างสมบูรณ์ ซึ่งเวทย์มนตร์ในครั้งนี้นั้นได้ผล ด้วงเริ่มหมุนตัวไปรอบๆในทันที, ขณะที่หนวดรับความรู้สึกบนหัวของมันกระตุกจนไม่สามารถควบคุมได้ จากนั้นมันก็ร่วงลงมาจากหินหลังจากที่ดิ้นรนอยู่พักนึง

 

“เอาหล่ะ, ตอนนี้ไอเจ้านี่ก็ตาบอดแล้ว”

 

แวนซ์ยิ้มอย่างภาคภูมิใจแล้วส่งสัญญาณให้ลิงค์กับเซลีนตามมา จากนั้นเขาก็นำทางต่อ

 

หลังจากเดินไปได้ 60 ฟุต, พวกเขาก็เห็นด้วงแห่งความตายอีกตัว จากนั้นแวนซ์ก็ใช้แผนเดิมอย่างช่ำชองเพื่อทำให้ด้วงตาบอดก่อนที่จะเดินหน้าต่อ

 

ประมาณ 150 ฟุตต่อมา, หินสูง 15 ฟุตก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าพวกเขา มีหน้าผาที่สูงกว่าตั้งอยู่บนหินก้อนนี้ จากนั้นแวนซ์ก็พูดออกมา “ทางเข้าพระราชวังใต้ดินอยู่หลังหินก้อนนี้ มันเต็มไปด้วยวิญญาณมฤตยูและเวทย์ตรวจจับที่ข้าวางเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน แม้แต่เวทย์ไร้ร่องรอยของข้าก็ยังไม่ได้ผลอย่างเต็มที่ในสถานที่แห่งนี้ ดังนั้นพวกเราต้องเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้

 

“ผมเข้าใจแล้ว” ลิงค์เอาคทาคว้าดาวของเขาออกมาในขณะที่เซลีนกำดาบคริสตัลไพลินของเธอแน่น, แล้วเดินนำไป

 

พวกเขาเดินไปรอบๆหินก้อนยักษ์แล้วมันก็จริงตามที่แวนซ์พูด, พวกเขาเห็นทางเข้าที่มีความกว้างและความยาวสี่ฟุต จากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปในพระราชวังใต้ดิน, และหลังจากที่เดินไปได้ 30 ฟุตแล้วเลี้ยว, พวกเขาก็เห็นบอลแสงลึกลับสีม่วงบนกำแพง ภายใต้ความสว่างของแสงอันน่ากลัวนี้, เราสามารถเห็นช่องที่สม่ำเสมอได้บนกำแพง ซึ่งภายในช่องแต่ละช่องนั้นก็คือโครงกระดูกที่ยืนอยู่อย่างไร้อารมณ์

 

แวนซ์เตือนในทันที “ระวังด้วยนะ, พวกมันมีชีวิตทั้งหมดและมีความแข็งแกร่งอยู่ที่เลเวล 3 อย่าไปรบกวนพวกมันถ้าเป็นไปได้ ไม่งั้นเจ้าจะไปกระตุ้นโครงกระดูกนักรบทุกตัวที่อยู่ในพื้นที่ถ้าเจ้าปลุกหนึ่งในนั้นให้ตื่นขึ้นมา”

 

เซลีนก้าวเท้าไปอย่างระมัดระวังมากๆขณะที่เธอกำลังนำทาง ลิงค์ก็ช่วยระวังกับดักเช่นกัน, แล้วเขาก็มีคำถาม “แล้วคนที่บุกรุกเข้ามาก่อนหน้านี้หล่ะ? ทำไมเขาถึงไม่ได้ปลุกโครงกระดูกนักรบพวกนี้ให้ตื่นขึ้นมา?”

 

แวนซ์กระซิบ “ข้าเกรงว่าเขาจะรู้ทักษะการบุกรุกระดับสูงบางอย่าง เจ้าต้องรู้นะว่าวิธีการที่ดีที่สุดในการจัดการกับโครงกระดูกนักรบก็คือการไม่ไปปลุกพวกมัน ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำหรอก, โดยเฉพาะในตอนที่พวกมันเป็นอันเดดระดับต่ำทั้งหมด”

 

“ผมเข้าใจแล้ว”

 

จากนั้นพวกเขาทั้งสามก็เดินหน้าต่อไปอย่างระมัดระวัง ยิ่งพวกเขาเดินเข้าไปในพระราชวังลึกเท่าไหร่, ถ้ำก็ยิ่งกว้างขึ้นเท่านั้น และพอพวกเขาเดินลึกเข้ามาได้ประมาณ 300 ฟุต, ทางเดินก็ขยายขึ้นจนสูง 15 ฟุตและกว้าง 30 ฟุต เสาหินทั้งสองด้านก็เรียบเนียนขึ้น มีแม้กระทั่งไฟติดอยู่ที่กำแพง, ทำให้มีแสงสว่างมากขึ้น

 

“ฟังนะ; ห้องรักษาความปลอดภัยตั้งอยู่ข้างหน้า มีสัตว์ป่าคุ้มกันที่ข้าสร้างเอาไว้อาศัยอยู่ในนั้น จริงๆแล้วพวกมันเป็นอันเดดที่สร้างขึ้นมาจากชิ้นส่วนร่างกายของสัตว์ดุร้ายมากมาย พวกเจ้าอาจจะไม่ชอบหน้าตาของพวกมัน, แต่อย่าดูถูกความแข็งแกร่งของพวกมันหล่ะ! พวกมันสามารถต่อสู้กับนักรบเลเวล 5 ตรงๆได้เลยนะ!”

 

ขณะที่แวนซ์กำลังพูด, พวกเขาทั้งสามก็มาถึงทางเข้าห้องรักษาความปลอดภัย

 

มีสัตว์คุ้มกันอยู่ที่ทางเข้า สิ่งมีชีวิตพวกนี้ไม่ได้ไร้อารมณ์เหมือนกับโครงกระดูกนักรบ พวกมันเดินลาดตระเวณพื้นที่อย่างต่อเนื่อง, ขวางกั้นเส้นทางของพวกเขาอย่างสมบูรณ์

 

สัตว์คุ้มกันเหล่านี้ดูแปลกประหลาดจริงๆ ลิงค์สามารถมองเห็นปากของหมาป่า, กงเล็บของเสือ, และหางของจระเข้ติดอยู่ด้วยกันได้อย่างชัดเจน พวกมันถูกสร้างขึ้นมาจากชิ้นส่วนร่างกายของสัตว์ที่แตกต่างกันอย่างน้อย 10 ชนิด, และข้อต่อที่เชื่อมต่อชิ้นส่วนเหล่านั้นก็ดูทำออกมาได้อย่างมือใหม่และหยาบมากๆ มันดูราวกับว่าพวกมันแค่ถูกผูกเอาไว้ด้วยเชือกเส้นเดียว แล้วยังมีสารสีเขียวหนาๆหนืดๆหยดลงมาจากข้อต่อด้วย

 

ลิงค์อดแสดงความคิดเห็นออกมาไม่ได้ “แวนซ์, ผมมีปัญหากับรสนิยมของคุณจริงๆ”

 

แวนซ์โต้แย้ง “นี่ไม่ใช่เรื่องรสนิยมนะ ข้าต้องให้ความสำคัญกับความเป็นไปได้ของสัตว์คุ้มกันเหล่านี้ก่อนไม่ใช่ความสวยงาม หลังจากผ่านมา 400 ปี, จำนวนของสัตว์คุ้มกันก็ลดลงมาถึง 90% แล้ว เคยมีพวกมันเดินลาดตระเวณไปมาตั้ง 300 ตัว แต่ตอนนี้, เหลือแค่ 30 ตัวเท่านั้นเอง”

 

“พวกเราจะผ่านพวกมันไปยังไงดี? พวกเราจะย่องผ่านไป, หรือใช้กำลัง?” เซลีนถาม

 

“ไม่มีทางย่องผ่านไปได้หรอก; สิ่งมีชีวิตพวกนี้ความรู้สึกไว…”

 

“แล้วคนอื่นผ่านไปได้ยังไงหล่ะ?” ลิงค์ถามอย่างงุนงง

 

“นั่นก็หมายความได้อย่างเดียวว่าคนๆนั้นเป็นเพื่อนของนักดาบเวทย์มนตร์ เขาไม่ใช่ศัตรูของพวกมัน” แวนซ์ยื่นมือออกมาอย่างหมดหนทางขณะที่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น

 

จากนั้นลิงค์ก็จ้องไปที่สัตว์คุ้มกันแล้วประเมินความแข็งแกร่งของพวกมัน จากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงกังวล “รอบๆนี้มีสัตว์คุ้มกันอยู่ 30 ตัว นั่นก็หมายความว่ามีนักรบเลเวล 5 ทั้งหมด 30 ตัว แล้วพวกมันยังกระจัดกระจายได้อย่างดีด้วย มันคงจะเป็นเรื่องยากในการจัดการกับพวกมัน

 

“ไม่ต้องห่วง, ข้าคิดวิธีออกแล้ว เซลีนกับเจ้าจะเป็นคนขัดขวางพวกมันเอาไว้ เจ้าต้องยื้อพวกมันแค่ 10 วินาทีเท่านั้น แล้วข้าจะร่ายเวทย์ควบคุมเลเวล 6 เพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของพวกมัน…”

 

“ชู่วว…” เซลีนขัดขวางแวนซ์ก่อนที่จะหันหูของเธอไปทางห้องรักษาความปลอดภัย จากนั้นเธอก็พูดออกมา “ฟังสิ, มีใครบางคนกำลังพูดอยู่ เสียงมันใกล้ขึ้น, คุณคิดว่าพวกเขากำลังออกมาไหม?”

 

“นั่นก็เป็นไปได้นะ” แวนซ์รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาในทันที

 

“ถ้างั้นพวกเราก็รอดูกันเถอะ” ลิงค์ยิ้มขณะที่เขาพูดออกมา

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset