แวนซ์ต้องการเลือดแค่หยดเดียว พอได้ยินคำขอนี้, เซลีนก็มอบให้เขาโดยที่ไม่ได้ลังเลเลย เธอปล่อยออร่าต่อสู้ที่แขนของเธอและบีบมันเล็กน้อย จากนั้นเลือดสดๆหนึ่งหยดก็เกิดขึ้นที่ปลายนิ้วมือ
เธอทำได้เร็วเกินไป มันสายเกินไปแล้วที่ลิงค์จะห้ามเธอ จากนั้นลิงค์ก็ถอนหายใจออกมาขณะที่เขาคิดว่าเซลีนเชื่อใจลิซตนนี้ขนาดนี้ได้ยังไง
ถ้าลิซเลเวล 7 ขอเลือดของเขาหนึ่งหยด, เขาก็จะคิดมันให้รอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะทำตามคำขอของเขารึเปล่า การกระทำนี้มันเสี่ยงมากๆ เพราะเลือดหนึ่งหยดก็สามารถใช้เวทย์มนตร์แห่งความมืดเล่นอุบายกับเหยื่อได้มากมาย
โชคดีที่, แวนซ์นั้นไม่ได้มีเจตนาร้าย พอได้หยดเลือดมา, เขาก็ชี้นิ้วของเขาไปที่ด้วงแห่งความตายแล้วกระซิบ “หมอกเลือด”
หยดเลือดลอยไปหาด้วงแล้วระเบิดกลางอากาศเป็นบอลหมอกเลือดสีแดงจางๆ ด้วงคลานไปรอบๆอย่างเป็นอิสระก่อนที่จะถูกหมอกปกคลุม อย่างไรก็ตาม, หลังจากที่มันถูกโจมตีด้วยหมอก…ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย
ลิงค์กับเซลีนมองไปที่แวนซ์, รอคำอธิบายจากเขา พวกเขาทั้งคู่มีพื้นฐานทางด้านเวทย์มนตร์; ดังนั้นมันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะไม่สังเกตุเห็นว่าเวทย์นี้เกิดผลกระทบ
แวนซ์รู้สึกเขินกับความล้มเหลวของเขาแล้วเกากะโหลกเรียบๆของเขาด้วยนิ้วกระดูกของเขา, มันเกิดเสียงก๊อกแก๊กออกมา หลังจากนั้นครู่นึง, เขาก็มองไปที่เซลีนแล้วพูด “เลือดของเจ้ามีปัญหา เจ้าไม่ใช่ปีศาจสายเลือดแท้”
“แม่ของฉันเป็นมนุษย์” เซลีนพยักหน้า การที่แวนซ์สามารถบอกเรื่องนี้ได้จากเลือดเพียงหยดเดียวนั้นเป็นสิ่งที่พิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของเขา
“ไม่, ไม่ใช่แค่นั้นหรอก!” แวนซ์มองไปยังหยดเลือดที่เหลืออยู่บนนิ้วของเซลีนแล้วเอานิ้วของเขาไปปาดมันในทันทีแล้วเอาใส่ปากของเขา
จากนั้น, เขาก็ขบฟันของเขา หลังจากผ่านไปครึ่งวินาที, แวนซ์ก็ตะโกนออกมา “เป็นไปได้ยังไง? นี่มันไม่น่าเหลือเชื่อ! โอ้ พระเจ้า!”
ลิงค์กับเซลีนมองหน้ากันเพราะพวกเขาไม่รู้ว่าอะไรทำให้ลิซพันปีอย่างแวนซ์ตื่นเต้นขนาดนี้ได้
แวนซ์เริ่มเดินวนรอบเซลีนขณะที่เขาถาม “เซลีน, เจ้ายังจำแม่ของเจ้าได้อยู่ไหม? เธอหน้าตาเป็นยังไง? เธอมีนิสัยแบบไหน?”
“แม่ของฉันหรอ? เธอน่ารักแล้วก็ดูค่อนข้างคล้ายกับฉัน แล้วก็, เวลาส่วนใหญ่นั้นเธอใจดีกับฉันมากๆ แต่ว่า, ในบางครั้งเธอก็จะโกรธฉันโดยไม่มีเหตุผล ก็…มีเท่านี้หล่ะ! จากสิ่งที่ฉันจำได้, เธอเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆคนนึงนะ”
ขณะที่เวลาผ่านไป, เมื่อเซลีนระลึกถึงแม่ของเธอ, เธอก็ไม่รู้สึกถึงไฟแห่งความเกลียดชังที่เธอมีต่อพ่อของเธออีก ตอนนี้, เธอรักและใส่ใจแค่ความทรงจำที่เธอมีกับแม่ของเธอ มันไม่ใช่ว่าความเกลียดชังนั้นหายไปอย่างสมบูณณ์—มันก็แค่ถูกฝังเอาไว้ลึกขึ้นในฐานะส่วนหนึ่งของประสบการณ์ชีวิตของเธอ
“ไม่, ไม่ใช่หรอก เธอไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาอย่างแน่นอน เลือดของเจ้ามีพลังที่ลึกลับอย่างมาก ข้ารู้สึกว่าข้าเคยเห็นมันมาก่อนนะ ข้าขอคิดแปบ…บ้าจริง ข้าจำไม่ได้! โอ้พระเจ้า, ความทรงจำของข้าช่างน่ากลัวจริงๆ มันนานเกินไป”
แวนซ์เคาะกระโหลกของเขาอย่างเต็มแรง, ทำให้เกิดเสียงกลวงๆออกมาดังลั่น จากที่ดูนั้น, มันเหมือนกับว่าเขาจะยอมแพ้ก็ต่อเมื่อเขากระแทกกระโหลกของเขาจนเป็นเศษเล็กเศษน้อย
ลิงค์ต้องห้ามเขา “เอาเถอะ, แวนซ์, ไม่เป็นไรหรอก สิ่งที่พวกเราต้องทำในตอนนี้ก็คือการจัดการกับด้วงตัวนี้!”
แวนซ์หยุดทำแล้วมองกลับไปที่เซลีน, เขาไม่สนใจคำพูดของลิงค์เลย แม้ว่ามันจะเป็นแค่ดวงไฟสีเขียวที่กำลังจ้องเธอ, แต่ลิงค์ก็ยังรู้สึกถึงความหลงใหลและแรงผลักดันในดวงตาคู่นี้
“เซลีน, ฟังข้านะ, เจ้าเป็นคนพิเศษ! เลือดของเจ้ามีพลังที่น่าอัศจรรย์สองแบบ แบบแรกคือพลังปีศาจที่บริสุทธิ์มากๆ, ขณะที่อีกแบบนึงคือพลังที่ลึกลับจนผิดธรรมดา ข้าไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร, แต่ข้ามั่นใจว่าเจ้าจะไปถึงระดับที่สูงจนน่ากลัวได้ในอนาคต”
ลิงค์ก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน เขารู้แค่ว่าพ่อของเซลีนนั้นเป็นบุคคลที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม, เขาคิดไม่ถึงเลยว่าแม่ของเธอก็เป็นคนที่โดดเด่นมากเช่นกัน
ดูเหมือนว่าเซลีนจะรู้สึกประหลาดใจน้อยกว่าที่คาดไว้ เธอตกอยู่ในความเงียบไปพักนึงก่อนที่จะหันไปหาลิงค์แล้วพูด “ฉันเชื่อเรื่องนี้นะ นี่คงเป็นเหตุผลที่ทำไมพ่อของฉันถึงตามรังควานฉันขนาดนี้แม้ว่าเขาจะทิ้งลูกเอาไว้มากมายบนโลกฟิรุแมนก็ตาม”
ลิงค์แหงนหน้าขึ้นราวกับว่าเขานึกถึงบางสิ่งได้แล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง “นั่นสินะ, พ่อของเธออาจจะรู้ถึงความแข็งแกร่งในตัวแม่ของเธอก็ได้”
ประโยคเหล่านี้ดูไม่ประติดประต่อกันมากๆสำหรับคนที่ไม่รู้พื้นเพของเซลีน จากนั้นแวนซ์ก็ถามด้วยความรู้สึกค่อนข้างสับสน “เจ้าหมายความว่ายังไง? พ่อของเซลีนเป็นใคร? ถ้ามีพลังปีศาจที่บริสุทธิ์ขนาดนี้, ข้าเกรงว่าเขาต้องเป็นบุคคลในตำนานใช่ไหม?”
ลิงค์มองไปที่เซลีน, และพอได้รับการอนุญาติจากเธอ, ลิงค์ก็พูดออกมา “พ่อของเซลีนก็คือเจ้าแห่งความลึก, โนโซม่า”
ในตอนที่ลิงค์พูดชื่อนี้ออกมา, แวนซ์ก็อ้าปากค้างในขณะที่อากาศอันหนาวเย็นพุ่งผ่านกระโหลกของเขา, ปล่อยเสียงหวีดแหลมเบาๆออกมา ไม่มีใครรู้ว่าเขาทำแบบนี้ได้ยังไงด้วยโครงกระดูกเปล่าๆสองแถวของเขา
แวนซ์ใช้เวลาถึงสามนาทีเต็มในการฟื้นสติจากสภาพตกใจของเขา จากนั้นเขาก็จ้องไปที่ลิงค์แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังมากๆ “ข้าสามารถรับรองกับเจ้าได้เลยว่าพอโนโซม่าได้ครอบครองเซลีน, เรื่องร้ายแรงบางอย่างจะเกิดขึ้น ลิงค์, เจ้าต้องห้ามเรื่องนี้ไม่ให้เกิดขึ้นให้ได้นะ!”
“ผมจะพยายามอย่างเต็มที่”
“ไม่, ไม่ใช่แค่พยายามอย่างเต็มที่ เรื่องนี้มันผิดพลาดไม่ได้นะ ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าเธอเป็นเด็กนิสัยดี, ข้าคงแนะนำให้เจ้าฆ่าเธอซะเดี๋ยวนี้แล้ว” แวนซ์พูดคำพูดเหล่านี้ออกมาโดยไม่คิดจะขอโทษ
ลิงค์ตกอยู่ในความเงียบพอได้ยินคำพูดพวกนี้ขณะที่ใบหน้าของเซลีนเปลี่ยนเป็นซีดเผือด เธอตระหนักได้ว่าตลอดเวลามานี้เธอดูถูกความมุ่งมั่นของพ่อของเธอในการครอบครองเธอ
พ่อของเธอจะยอมเลิกลาหรอถ้าเธอมีค่าขนาดนี้? แล้วลิงค์จะมีเวลาพอที่จะเติบโตจนแข็งแกร่งขึ้นไหม?
เธอไม่รู้เลย
อย่างไรก็ตาม, นี่ไม่ใช่สิ่งที่ลิงค์กำลังคิด เขามองโลกในแง่ดีกว่ามาก เขาจะจัดการกับสถานการณ์ที่อยู่ข้างหน้าก่อนเสมอ และในส่วนของปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตนั้น, เขาจะจัดการกับพวกมันในตอนที่พวกมันมาถึง
ยังไงซะ, ใครจะรู้หล่ะว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น? สำหรับทุกสิ่งที่คุณอาจจะรู้นั้น, ความพยายามในตอนนี้ของคุณก็อาจจะเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับความล้มเหลวของคุณก็ได้
เขาชี้ไปที่ด้วงแล้วพูดกับแวนซ์ “มันไม่เป็นไรหรอกหน่า; มาจัดการกับดวงตัวนี้กันต่อเถอะ”
“ถ้าพวกเราไม่มีสายเลือดปีศาจหล่ะก็, ขอข้าคิดแปบนะ…” แวนซ์เริ่มตบกระโหลกของเขาอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่นาน, รอยบุ๋มก็หายไปในหัวของเขา
ครั้งนี้, มันใช้เวลาแค่ครึ่งนาที จากนั้นแวนซ์ก็พูดออกมา “ข้ามีอีกความคิดนึง”
จากนั้น, เขาก็ยื่นนิ้วออกมาแล้วลูบมันบนดาบคริสตัลไพลินของเซลีน เขาขูดละอองกระดูกออกมาในทันที หลักจากที่รวบรวมละอองได้, แวนซ์ก็โยนมันไปทางด้วงแล้วพูด “ป่าโครงกระดูก”
ละอองกระดูกพวกนี้ปกคลุมด้วงอย่างสมบูรณ์ และในที่สุด, เปลือกนอกของด้วงก็ถูกปกคลุมด้วยชั้นของผงขาวอย่างสมบูรณ์ ซึ่งเวทย์มนตร์ในครั้งนี้นั้นได้ผล ด้วงเริ่มหมุนตัวไปรอบๆในทันที, ขณะที่หนวดรับความรู้สึกบนหัวของมันกระตุกจนไม่สามารถควบคุมได้ จากนั้นมันก็ร่วงลงมาจากหินหลังจากที่ดิ้นรนอยู่พักนึง
“เอาหล่ะ, ตอนนี้ไอเจ้านี่ก็ตาบอดแล้ว”
แวนซ์ยิ้มอย่างภาคภูมิใจแล้วส่งสัญญาณให้ลิงค์กับเซลีนตามมา จากนั้นเขาก็นำทางต่อ
หลังจากเดินไปได้ 60 ฟุต, พวกเขาก็เห็นด้วงแห่งความตายอีกตัว จากนั้นแวนซ์ก็ใช้แผนเดิมอย่างช่ำชองเพื่อทำให้ด้วงตาบอดก่อนที่จะเดินหน้าต่อ
ประมาณ 150 ฟุตต่อมา, หินสูง 15 ฟุตก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าพวกเขา มีหน้าผาที่สูงกว่าตั้งอยู่บนหินก้อนนี้ จากนั้นแวนซ์ก็พูดออกมา “ทางเข้าพระราชวังใต้ดินอยู่หลังหินก้อนนี้ มันเต็มไปด้วยวิญญาณมฤตยูและเวทย์ตรวจจับที่ข้าวางเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน แม้แต่เวทย์ไร้ร่องรอยของข้าก็ยังไม่ได้ผลอย่างเต็มที่ในสถานที่แห่งนี้ ดังนั้นพวกเราต้องเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้
“ผมเข้าใจแล้ว” ลิงค์เอาคทาคว้าดาวของเขาออกมาในขณะที่เซลีนกำดาบคริสตัลไพลินของเธอแน่น, แล้วเดินนำไป
พวกเขาเดินไปรอบๆหินก้อนยักษ์แล้วมันก็จริงตามที่แวนซ์พูด, พวกเขาเห็นทางเข้าที่มีความกว้างและความยาวสี่ฟุต จากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปในพระราชวังใต้ดิน, และหลังจากที่เดินไปได้ 30 ฟุตแล้วเลี้ยว, พวกเขาก็เห็นบอลแสงลึกลับสีม่วงบนกำแพง ภายใต้ความสว่างของแสงอันน่ากลัวนี้, เราสามารถเห็นช่องที่สม่ำเสมอได้บนกำแพง ซึ่งภายในช่องแต่ละช่องนั้นก็คือโครงกระดูกที่ยืนอยู่อย่างไร้อารมณ์
แวนซ์เตือนในทันที “ระวังด้วยนะ, พวกมันมีชีวิตทั้งหมดและมีความแข็งแกร่งอยู่ที่เลเวล 3 อย่าไปรบกวนพวกมันถ้าเป็นไปได้ ไม่งั้นเจ้าจะไปกระตุ้นโครงกระดูกนักรบทุกตัวที่อยู่ในพื้นที่ถ้าเจ้าปลุกหนึ่งในนั้นให้ตื่นขึ้นมา”
เซลีนก้าวเท้าไปอย่างระมัดระวังมากๆขณะที่เธอกำลังนำทาง ลิงค์ก็ช่วยระวังกับดักเช่นกัน, แล้วเขาก็มีคำถาม “แล้วคนที่บุกรุกเข้ามาก่อนหน้านี้หล่ะ? ทำไมเขาถึงไม่ได้ปลุกโครงกระดูกนักรบพวกนี้ให้ตื่นขึ้นมา?”
แวนซ์กระซิบ “ข้าเกรงว่าเขาจะรู้ทักษะการบุกรุกระดับสูงบางอย่าง เจ้าต้องรู้นะว่าวิธีการที่ดีที่สุดในการจัดการกับโครงกระดูกนักรบก็คือการไม่ไปปลุกพวกมัน ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำหรอก, โดยเฉพาะในตอนที่พวกมันเป็นอันเดดระดับต่ำทั้งหมด”
“ผมเข้าใจแล้ว”
จากนั้นพวกเขาทั้งสามก็เดินหน้าต่อไปอย่างระมัดระวัง ยิ่งพวกเขาเดินเข้าไปในพระราชวังลึกเท่าไหร่, ถ้ำก็ยิ่งกว้างขึ้นเท่านั้น และพอพวกเขาเดินลึกเข้ามาได้ประมาณ 300 ฟุต, ทางเดินก็ขยายขึ้นจนสูง 15 ฟุตและกว้าง 30 ฟุต เสาหินทั้งสองด้านก็เรียบเนียนขึ้น มีแม้กระทั่งไฟติดอยู่ที่กำแพง, ทำให้มีแสงสว่างมากขึ้น
“ฟังนะ; ห้องรักษาความปลอดภัยตั้งอยู่ข้างหน้า มีสัตว์ป่าคุ้มกันที่ข้าสร้างเอาไว้อาศัยอยู่ในนั้น จริงๆแล้วพวกมันเป็นอันเดดที่สร้างขึ้นมาจากชิ้นส่วนร่างกายของสัตว์ดุร้ายมากมาย พวกเจ้าอาจจะไม่ชอบหน้าตาของพวกมัน, แต่อย่าดูถูกความแข็งแกร่งของพวกมันหล่ะ! พวกมันสามารถต่อสู้กับนักรบเลเวล 5 ตรงๆได้เลยนะ!”
ขณะที่แวนซ์กำลังพูด, พวกเขาทั้งสามก็มาถึงทางเข้าห้องรักษาความปลอดภัย
มีสัตว์คุ้มกันอยู่ที่ทางเข้า สิ่งมีชีวิตพวกนี้ไม่ได้ไร้อารมณ์เหมือนกับโครงกระดูกนักรบ พวกมันเดินลาดตระเวณพื้นที่อย่างต่อเนื่อง, ขวางกั้นเส้นทางของพวกเขาอย่างสมบูรณ์
สัตว์คุ้มกันเหล่านี้ดูแปลกประหลาดจริงๆ ลิงค์สามารถมองเห็นปากของหมาป่า, กงเล็บของเสือ, และหางของจระเข้ติดอยู่ด้วยกันได้อย่างชัดเจน พวกมันถูกสร้างขึ้นมาจากชิ้นส่วนร่างกายของสัตว์ที่แตกต่างกันอย่างน้อย 10 ชนิด, และข้อต่อที่เชื่อมต่อชิ้นส่วนเหล่านั้นก็ดูทำออกมาได้อย่างมือใหม่และหยาบมากๆ มันดูราวกับว่าพวกมันแค่ถูกผูกเอาไว้ด้วยเชือกเส้นเดียว แล้วยังมีสารสีเขียวหนาๆหนืดๆหยดลงมาจากข้อต่อด้วย
ลิงค์อดแสดงความคิดเห็นออกมาไม่ได้ “แวนซ์, ผมมีปัญหากับรสนิยมของคุณจริงๆ”
แวนซ์โต้แย้ง “นี่ไม่ใช่เรื่องรสนิยมนะ ข้าต้องให้ความสำคัญกับความเป็นไปได้ของสัตว์คุ้มกันเหล่านี้ก่อนไม่ใช่ความสวยงาม หลังจากผ่านมา 400 ปี, จำนวนของสัตว์คุ้มกันก็ลดลงมาถึง 90% แล้ว เคยมีพวกมันเดินลาดตระเวณไปมาตั้ง 300 ตัว แต่ตอนนี้, เหลือแค่ 30 ตัวเท่านั้นเอง”
“พวกเราจะผ่านพวกมันไปยังไงดี? พวกเราจะย่องผ่านไป, หรือใช้กำลัง?” เซลีนถาม
“ไม่มีทางย่องผ่านไปได้หรอก; สิ่งมีชีวิตพวกนี้ความรู้สึกไว…”
“แล้วคนอื่นผ่านไปได้ยังไงหล่ะ?” ลิงค์ถามอย่างงุนงง
“นั่นก็หมายความได้อย่างเดียวว่าคนๆนั้นเป็นเพื่อนของนักดาบเวทย์มนตร์ เขาไม่ใช่ศัตรูของพวกมัน” แวนซ์ยื่นมือออกมาอย่างหมดหนทางขณะที่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
จากนั้นลิงค์ก็จ้องไปที่สัตว์คุ้มกันแล้วประเมินความแข็งแกร่งของพวกมัน จากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงกังวล “รอบๆนี้มีสัตว์คุ้มกันอยู่ 30 ตัว นั่นก็หมายความว่ามีนักรบเลเวล 5 ทั้งหมด 30 ตัว แล้วพวกมันยังกระจัดกระจายได้อย่างดีด้วย มันคงจะเป็นเรื่องยากในการจัดการกับพวกมัน
“ไม่ต้องห่วง, ข้าคิดวิธีออกแล้ว เซลีนกับเจ้าจะเป็นคนขัดขวางพวกมันเอาไว้ เจ้าต้องยื้อพวกมันแค่ 10 วินาทีเท่านั้น แล้วข้าจะร่ายเวทย์ควบคุมเลเวล 6 เพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของพวกมัน…”
“ชู่วว…” เซลีนขัดขวางแวนซ์ก่อนที่จะหันหูของเธอไปทางห้องรักษาความปลอดภัย จากนั้นเธอก็พูดออกมา “ฟังสิ, มีใครบางคนกำลังพูดอยู่ เสียงมันใกล้ขึ้น, คุณคิดว่าพวกเขากำลังออกมาไหม?”
“นั่นก็เป็นไปได้นะ” แวนซ์รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาในทันที
“ถ้างั้นพวกเราก็รอดูกันเถอะ” ลิงค์ยิ้มขณะที่เขาพูดออกมา