Advent of the Archmage – ตอนที่ 205: หุ่นเชิดเวทมนตร์อันไร้เทียมทาน ส่วนที่5

มันต้องใช้มานา 10 แต้มต่อวินาทีเพื่อคงสภาพอินทรีวายุเอาไว้ ซึ่งนั่นหมายความว่าจะต้องใช้แต้มมานา 36,000 แต้มภายในเวลา 1 ชั่วโมง แล้วมานาสูงสุดของลิงค์ในตอนนี้ก็คือ 5,200 แต้ม  แต่เพราะว่าการโจมตีที่เขาปล่อยไปก่อนหน้านี้ทำให้ตอนนี้เขาเหลือมานาอยู่เพียงแค่ 2,400 แต้มเท่านั้น

 

หรือพูดอีกนัยนึงก็คือ ถ้าเกิดว่าเขายังคงอินทรีวายุเอาไว้ในอากาศ มานาของเขาก็จะหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่ถึง 4 นาที อัตราการใช้มานาของเวทย์บินนั้นปกติจะอยู่ในอัตราที่สูงมาก ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลหลักๆที่ทำไมเวทย์บินถึงไม่ค่อยถูกใช้ในการต่อสู้จริง

 

แต่ก็โชคดีที่ ลิงค์มีวิธีจัดการกับหุ่นเชิดเวทมนตร์นานะแล้ว

 

ลิงค์สั่งให้อินทรีวายุบินขึ้นไปบนท้องฟ้า

 

“คุณใช้เวลาเท่าไหร่ในการร่ายเวทย์สลายเหล็ก?” ลิงค์หันไปถามแวนซ์

 

 

“อืม…น่าจะประมาณ 1.8 วินาทีนะ” แวนซ์ตอบคำถามขณะที่เขาเกาหน้าหัวกะโหลกของเขา เขาสามารถเดาได้ว่าลิงค์ต้องการที่จะทำอะไร “ถึงแม้ว่าเวทย์ของข้าจะสามารถสร้างความเสียหายให้นานะได้จริงๆ แต่เธอจะไม่มีวันปล่อยให้ข้ามีเวลามากพอที่จะร่ายเวทย์ได้หรอกนะ””

 

“ผมก็คิดว่าอย่างนั้น” ลิงค์พูด, พร้อมกับพยักหน้า “แล้วนั่นก็คือเหตุผลที่ทำไมคุณถึงต้องเพิ่มความเร็วการร่ายเวทย์ของคุณ”

 

แวนซ์พูดไม่ออกไปซักพักนึง

 

“เจ้าจะให้ข้าร่ายเวทย์เร็วกว่านี้ได้ยังไง?” เขาถามลิงค์

“นั่นเป็นขีดจำกัดของข้าแล้วนะ!”

 

“คุณจำคทาตุลาการทมิฬของโมเรสเทริ์นได้ไหม?” ลิงค์ถาม “มันอยู่ในพระราชวังใต้ดิน และตอนนี้คนที่อยู่ข้างในก็มีแค่โดเรี่ยนที่หมดสภาพแล้วเท่านั้น-“

 

“ลิงค์กับฉันจะล่อนานะให้เอง” เซลีนพูดในทันทีที่เธอตามแผนของลิงค์ทัน “แล้วนายก็ไปเอาคทาซะ!”

 

“ถูกต้อง!” ลิงค์มองไปที่เซลีนด้วยความดีใจ มันเป็นความรู้สึกอันยอดเยี่ยมในตอนที่มีใครบางคนในหมู่พวกของเขาสามารถเข้าใจสิ่งที่เขาคิดจะทำได้เร็วขนาดนี้

 

แวนซ์กัดฟันของเขาอยู่ซักพัก แล้วเขาก็ไม่พูดอะไรออกมาเพราะกำลังคิดแผนการอยู่

 

“นั่นดูเหมือนจะเป็นแผนที่ดีนะ” ในที่สุดเขาก็พูดออกมา “แต่ว่าคทาอันนั้นต้องใช้เวลาทั้งวันในการชาร์จหลังจากที่ร่ายเวทย์เลเวล 7 แล้ว นอกจากนี้เจ้าก็เหลือมานาไม่มากแล้วไม่ใช่หรอ; เจ้ามั่นใจนะว่าเจ้าจะสามารถยื้อนานะเอาไว้ที่อ่าวได้?”

 

“ฉันสามารถแบกเขาได้” เซลีนพูด ยังไงซะเธอก็สามารถบินได้นานกว่า 10 ชั่วโมงโดยที่ใช้พลังงานแค่นิดเดียว

 

“นั่นไม่จำเป็นหรอก” ลิงค์พูด “ฉันมีทางที่จะขัดขวางเธอได้อยู่  เซลีน, คทาคือกุญแจสู่ชัยชนะของพวกเรา เธอจะต้องไปเอามันกับแวนซ์”

 

มันอันตรายเกินไปที่จะให้คนๆเดียวเข้าไปในพระราชวังใต้ดินที่มีโครงสร้างเหมือนกับเขาวงกต  ถ้าโดเรี่ยนมีสมองหน่อย เขาก็จะสามารถจัดการแวนซ์ได้อย่างง่ายดายด้วยการลอบโจมตี แต่ว่าด้วยความช่วยเหลือของเซลีน มันจะไม่มีปัญหาสำหรับพวกเขาเลยสำหรับการเข้าไปเอาคทา

 

แม้ว่าเซลีนจะกังวลเรื่องความปลอดภัยของลิงค์ แต่พอเธอเห็นว่าลิงค์มีความแน่วแน่แค่ไหนเธอจึงไม่คัดค้านอะไร แล้วพยักหน้าเป็นการเห็นด้วยกับแผนการ

 

ณ จุดๆนี้ อินทรีวายุก็ทะยานขึ้นไปจนถึงขีดจำกัดความสูงที่ประมาณ 20,000 ฟุตแล้ว ซึ่งมันใช้เวลา 20 วินาทีในการบินขึ้นไป เมื่อมองลงมาจากตรงนี้ทะเลสีดำสนิทนั้นดูกว้างใหญ่และไม่มีที่สิ้นสุดและมีกลุ่มก้อนเมฆมากมายลอยอยู่รอบๆ  ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะว่าตอนนี้เป็นสถานการณ์อันตรายหล่ะก็ มันคงจะเป็นภาพที่สวยงามมากเลยทีเดียว

 

“งั้นมาเริ่มกันเถอะ” ลิงค์พูด “เซลีน, พาแวนซ์กลับไปที่พระราชวังใต้ดินแล้วเอาคทามาให้ได้ แล้วก็เอาป้ายรูนนี่ไปด้วย เธอจะได้รู้ที่อยู่ที่แน่นอนของฉันไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนก็ตาม”

 

“ระวังตัวด้วยนะ, ลิงค์” เซลีนพูดในตอนที่เธอรับป้ายรูนมาจากลิงค์

 

ลิงค์พยักหน้า จากนั้นเซลีนก็กางปีกสีดำของเธอออกมาและพาแวนซ์ที่แทบไม่มีน้ำหนักบินออกไปจากอินทรีวายุ

 

หลังจากนั้นในทันที ลิงค์ก็ยกเลิกอินทรีวายุแล้วร่ายเวทย์ลอยตัวใส่ตัวเอง

 

ลอยตัว

เวทย์เลเวล 0

มานาที่ใช้: 2 แต้ม

ผล: ทำให้ผู้ใช้ตัวเบาเหมือนกับขนนกจนสามารถเดินบนน้ำได้ เมื่ออยู่ในอากาศ ผู้ใช้จะตกลงด้วยความเร็วสูงสุดที่ 1.6 ฟุตต่อวินาทีเป็นเวลา 10 นาที

 

ทำไมถึงเป็น 1.6 ฟุตต่อวินาทีงั้นหรอ? เพราะนี่คือความเร็วเท่ากับการเดินแบบปกติยังไงหล่ะ แล้วมันก็ต้องใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่งในการตกลงมาจากความสูง 20,000 ฟุตเพื่อที่จะลงมาถึงทะเล และด้วยความเร็วที่ช้าขนาดนี้ ลิงค์สามารถอัญเชิญอินทรีวายุออกมาอีกครั้งแล้วบินขึ้นไปที่ความสูง 20,000 ฟุตได้ภายในเวลา 20 วินาทีก่อนที่จะตกถึงน้ำได้อย่างง่ายดาย ด้วยเทคนิคนี้ ลิงค์จะไม่มีปัญหาในเรื่องการลอยบนอากาศอีกเลย!

 

ยิ่งไปกว่านั้น ลิงค์ไม่ได้อยู่ห่างจากพระราชวังใต้ดินมากนักด้วย เขาห่างแค่ประมาณ 20 ไมล์เท่านั้นเอง ดังนั้นเซลีนกับแวนซ์คงใช้เวลาไม่มากในการไปเอาคทามา และเมื่อพวกเขากลับมา ทั้งหมดที่ต้องทำก็คือล่อนานะเป็นเวลา 1 วันเพื่อให้คทาตุลาการทมิฬฟื้นพลัง จากนั้นพวกเขาก็จะจัดการหุ่นเชิดที่น่าสะพรึงกลัวนี้ได้

 

ในตอนที่เขาลอยอยู่ในอากาศ ลิงค์ก็ได้ใช้เวทย์ตาเหยี่ยวเพื่อที่จะตรวจสอบสถานการณ์บนพื้นทะเล เขาจะต้องทำให้มั่นใจว่านานะยังตามเขาอยู่ ไม่อย่างนั้นแวนซ์กับเซลีนจะตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง

 

จากที่พวกเขาได้สังเกตุเห็นมาเป็นเวลานาน เห็นได้ชัดว่าหุ่นเชิดเวทมนตร์นั้นมีความสามารถในการต่อสู้ที่แทบจะสมบูรณ์แบบ แต่ว่าความสามารถในการวางแผนของเธอยังมีบางสิ่งที่ขาดไปอยู่ จากจุดนี้ลิงค์เลยสามารถระบุจุดอ่อนของเธอที่เขาสามารถใช้ในการจัดการเธอได้

 

นานะนั้นยังคงตามลิงค์ด้วยความเร็วสูง เห็นได้ชัดว่าเธอล็อคเป้าหมายของเธอมาที่ลิงค์ เพราะว่าเธอนั้นคิดว่าเขาคือคู่ต่อสู้ที่อันตรายที่สุดที่มีภัยคุกคามระดับ 5 ดาว ดังนั้นเป้าหมายอันดับแรกของเธอก็คือการกำจัดลิงค์

 

555 ถ้างั้นก็ตามฉันมาให้ได้เรื่อยๆนะ ลิงค์คิด

 

 

เวทย์ลอยตัวเลเวล 0 นั้นใช้มานาเพียงแค่ 2 แต้มและไม่ต้องการมานาเพิ่มเติมในการคงสภาพมันไว้ และด้วยความที่เขาไม่มีอะไรทำ ลิงค์จึงหยิบคัมภีร์แห่งความรู้ของไบรอันออกมาอ่านอย่างสบายใจเฉิบ

 

เขาศึกษาคัมภีร์เล่มนี้ไปมากกว่าครึ่งแล้วและค้นพบหลายๆสิ่งจากมัน อ้างอิงจากเอเลนอร์ คนที่สามารถศึกษาทั้งคัมภีร์ได้นั้นจะได้รับอัตราการฟื้นฟูมานาเป็นสองเท่า ซึ่งนั่นเหมาะเหม็งสำหรับลิงค์ในตอนนี้เลยเพราะว่ามานาเขาเหลือน้อย และนั่นก็คือเหตุผลที่ทำไมเขาถึงตัดสินใจที่จะศึกษาคัมภีร์ในตอนนี้

 

หลังจากที่ลอยอยู่บนอากาศได้พักนึง ก็ดูเหมือนว่าโชคจะเข้าข้างเขาเพราะพายุเริ่มพัดเข้ามาทางทะเล และด้วยร่างกายที่เบาเหมือนกับขนนกของลิงค์ภายใต้ผลของเวทย์ลอยตัว เพียงแค่ลมกรรโชกเล็กน้อยจากพายุก็ทำให้เขาลอยได้นานและสูงกว่าเดิมขึ้นไปอีก

 

จากนั้นเขาก็ใช้เวทย์ตาเหยี่ยวแล้วมองลงไปที่พื้นผิวทะเลที่อยู่ข้างล่างเขา เขาสังเกตเห็นนานะกำลังดิ้นรนที่จะไล่ตามเขาแล้วเขาก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ ช่างเป็นหุ่นเชิดที่ดื้อรั้นเสียจริง!

 

แต่หลังจากนั้นไม่นาน ลิงค์ก็พบว่าสถานการณ์นี้ไม่น่าตลกอีกต่อไปแล้ว

 

ลมนั้นค่อยๆแรงขึ้นเรื่อยๆเพราะพายุเข้า แล้วเมฆก็ค่อยๆหนาขึ้นแล้วเปลี่ยนจากก้อนสีขาวเป็นสีดำ แล้วเกิดเสียงฟ้าร้องดัง

 

ร้อยยิ้มเจื่อนๆผุดขึ้นมาบนใบหน้าของลิงค์ในตอนที่เขานึกขึ้นได้ว่าเขาลืมความจริงที่ร้ายแรงที่สุดของแผนการที่เขาจะใช้สู้กับนานะ เขาลืมที่จะนับความจริงที่ว่าพวกเขานั้นอยู่ที่เขตชายฝั่งของที่รกร้างเฟิร์ดที่ซึ่งสภาพอากาศนั้นแปรปรวนอย่างมาก

 

ไม่นานนักฟ้าก็ผ่าลงมาที่ก้อนเมฆ และเสียงฟ้าผ่านั้นก็ดังก้องอยู่ในลำไส้ของลิงค์ เมื่ออยู่ต่อหน้าธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ลิงค์ก็แทบไม่ต่างอะไรกับก้อนฝุ่น ฟ้าผ่าตามปกตินั้นมีพลังเท่ากับเวทมนตร์เลเวล 7 เขาจะตายในทันทีถ้าเกิดว่าเขาโดนฟ้าผ่าพวกนี้เข้าไปแม้แต่ครั้งเดียว

 

ดังนั้นเพื่อกันไว้ก่อน ลิงค์จึงร่ายเวทย์เอเดลไวซ์เพื่อป้องกันตัวเอง  จากนั้นเขาก็อัญเชิญอินทรีวายุออกมาแล้วบินขึ้นไปที่จุดสูงสุดที่ 20,000 ฟุตที่ซึ่งเขาจะปลอดภัยจากการโดนฟ้าผ่า แต่เพราะว่าพายุด้านล่างนั้นรุนแรงมากและร่างกายของลิงค์ก็ปลิวเหมือนกับใบไม้ ทำให้เขาไม่มีทางที่จะตรวจดูสถานการณ์ที่พื้นผิวทะเลได้เลย  แล้วเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าลมพายุนั้นจะพัดเขาไปไหน

 

 

และแล้วหลังจากที่ลิงค์ลอยอยู่บนท้องฟ้านานกว่า 3 ชั่วโมงในที่สุดพายุก็สงบลง และท้องฟ้าก็สว่างขึ้น ทำให้เขาสามารถเห็นพื้นผิวทะเลที่อยู่เบื้องล่างได้อีกครั้ง  จากนั้นลิงค์ก็ร่ายเวทย์ตาเหยี่ยวในทันทีและตรวจสอบสถานการณ์ด้านล่างของเขา หลังจากนั้นพักนึง เขาก็รู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นว่านานะยังคงไล่ตามเขาอยู่จากด้านล่าง

 

ช่างเป็นหุ่นเชิดเวทมนตร์ที่ทรหดอะไรอย่างนี้ เขาคิด เธอไม่ได้ละสายตาจากเขามาโดยตลอด ไม่เลวแม้แต่ครั้งเดียว

 

ในตอนนี้ ลิงค์สังเกตเห็นเกาะต่างๆมากมายอยู่ด้านหน้าเขา ที่นั่นมีเกาะประมาณ 30 แห่งที่มีขนาดต่างกัน ภายในเกาะเหล่านั้น มีเกาะที่ใหญ่ที่สุดที่มีพื้นที่ประมาณ 5 ไมล์ ซึ่งป่าอันเขียวชอุ่มปกคลุมไปเกือบทั้งเกาะและมีนกหลากหลายสีเต้นระบำอยู่รอบๆ ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงนกร้อง จากนั้นที่มุมนึงของป่า ลิงค์ก็เห็นกริฟฟินกำลังล่าเหยื่อของมันอยู่

 

ลิงค์ไม่มีความตั้งใจจะลงไปที่เกาะแห่งนั้น เขาเพียงแค่ลอยอย่างเอื่อยเฉื่อยอยู่ข้างบน และใช้เวลาเพลิดเพลินไปกับภาพอันสวยงาม

 

ช่างเป็นเกาะที่แปลกจริงๆ เขาคิด

 

เกือบทั้งเกาะนั้นเต็มไปด้วยสัตว์ป่า แต่ว่าที่มุมนึงทางทิศตะวันออกเฉียงใต้นั้นมีเกาะสีดำที่ไม่มีแม้แต่ต้นหญ้าเลย มันดูเหมือนกับว่าทั้งเกาะนั้นถูกสาป ลิงค์พยายามที่จะสัมผัสออร่าจากเกาะแปลกๆนั่น แต่เขาก็ไม่สามารถตรวจหาอะไรที่ผิดปกติจากเกาะนั้นได้เลย

 

แปลกจริงๆ ถ้าเกิดว่าเขาไม่ได้ถูกตามล่าอยู่ เขาก็คงจะพุ่งลงไปและสำรวจมันทุกซอกทุกมุมแล้ว แต่น่าเสียดายที่นานะยังคงไล่ตามเขาอยู่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถลงไปที่นั่นได้

 

 

แต่ว่าในตอนนั้นเอง ภาพอันหน้าตกใจก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา เขาเห็นนานะขึ้นมาที่ชายฝั่งของเกาะและความเร็วของเธอก็เพิ่มขึ้นอย่างมากบนพื้นดิน มันไม่มีร่องรอยของความเหนื่อยล้าในท่าทางของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ลิงค์ตกใจมาก เขาลอยอยู่เหนือเกาะแค่ 2,000 ฟุตเท่านั้น ซึ่งนานะสามารถกระโจนจากพื้นมาหาเขาได้อย่างง่ายดายจากความสูงเท่านี้! ดังนั้นลิงค์จึงอัญเชิญอินทรีวายุออกมาอย่างรวดเร็วและบินพุ่งขึ้นไปบนฟ้า

 

ไม่นานนักเขาก็มาถึงความสูงที่ 20,000 ฟุต เกาะต่างๆนั้นมีขนาดเท่ากับก้อนหินที่ความสูงขนาดเท่านี้และลิงค์ก็ไม่เห็นหุ่นเชิดเวทมนตร์อีกต่อไปแล้ว

 

ฉันน่าจะปลอดภัยจากเธอที่นี่ เขาคิด

 

จากนั้นเขาก็ร่ายเวทย์ลอยใส่ตัวเองอีกครั้งเพื่อที่จะลอยบนอากาศต่อ

 

ทันใดนั้นเอง ลิงค์ก็ได้ยินเสียงลมพัดแปลกๆจากด้านหลังของเขา เขาสูดหายใจเข้าอย่างรวดเร็วและหันหลังไปเห็นกริฟฟินกำลังบินมาทางเขาอย่างรวดเร็ว และที่นั่งอยู่บนหลังของมันนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากนานะ!

 

โอเค เธอเป็นหุ่นเชิดที่ฉลาด ลิงค์คิดอย่างขมขื่น ตอนนี้เธอมีกริฟฟินที่เอาไว้บินแล้ว เรื่องมันคงไม่ง่ายเหมือนตอนแรกแล้ว!

 

ความเร็วของกริฟฟินนั้นไม่ได้สูงไปกว่า 200 ไมล์ต่อชั่วโมง แต่ว่าจุดเด่นของมันก็คือมันมีความอดทนสูงและไม่มีปัญหาในการบินบนท้องฟ้านานกว่า 12 ชั่วโมง

 

ลิงค์นั้นอาจจะได้ฟื้นฟูมานาขึ้นมาเล็กน้อยในตอนที่เขาใช้เวทย์ลอย แต่ตอนนี้เขาได้อัญเชิญอินทรีวายุออกมาแล้ว เขาสามารถรักษามันไว้ได้ไม่ถึง 5 นาทีก่อนที่มานาของเขาจะหมดลงอีกครั้ง

 

ณ จุดๆนี้ อีกไม่นานนานะก็จะตามเขาทันแล้ว!

 

ฉันจะต้องฆ่ากริฟฟิน! ลิงค์คิด

 

เขาไม่พยายามหนีนานะต่อแล้วรอให้เธอเข้ามาใกล้เขากลางอากาศ

 

ครึ่งนาทีต่อมา นานะก็ได้ขี่กริฟฟินมาอยู่ห่างกับเขาประมาณ 300 ฟุต เขาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่ากริฟฟินตัวนั้นทำตามคำสั่งของนานะอย่างไม่เต็มใจเพราะว่าพลังของเธอนั้นมากว่ามันและบังคับให้ทำตามใจเธอ 300 ฟุตนั้นเป็นระยะสูงสุดของนกหวีดของลิงค์ กริฟฟินนั้นไม่มีอุปกรณ์ป้องกันอยู่รอบตัวของมัน ดังนั้นนกหวีดก็น่าจะเพียงพอแล้วที่จะสร้างความเสียหายให้กับมันได้

 

ลิงค์จ้องอย่างมีสมาธิแล้วเปิดใช้เอเดลไวซ์สีแดงเผื่อกรณีฉุกเฉิน จากนั้น, เขาก็ยกคทาของเขาขึ้นมาและส่งมานาเข้าไป, เพื่อร่ายเวทย์นกหวีด 5 ครั้งติดกัน โดยใช้เวลา 0.08 วินาทีในแต่ละอัน

 

ฟิ้ว!ฟิ้ว!ฟิ้ว!…

 

นกหวีดพุ่งผ่านอากาศและพุ่งตรงเข้าไปหากริฟฟิน

 

หุ่นเชิดเวทมนตร์นานะนั้นได้บล็อกนกหวีดด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ มีเสียงดังขึ้นเป็นชุดในอากาศ นานะแทบไม่ได้ใช้ความพยายามเลยในการปัดนกหวีดทั้งหมดออกจากกริฟฟิน

 

และสิ่งที่ลิงค์พบว่ามันน่าตกใจมากกว่านั้นก็คือความว่องไวและปราดเปรียวของนานะ ไม่เพียงแค่เธอจะตัดมานาของลิงค์ออกจากเวทย์นกหวีดเท่านั้น แต่เธอยังทำให้เขาไม่สามารถควบคุมพวกมันได้ด้วย แถมเธอยังใช้เรี่ยวแรงอันมหาศาลของเธอในการปัดการโจมตีก่อนที่นกหวีดจะระเบิดอีกด้วย

 

นกหวีดได้กระเด็นออกไปประมาณ 50 ฟุตก่อนที่โครงสร้างเวทมนตร์ของมันจะพังและเกิดการระเบิด ที่ระยะนั้น ต่อให้เป็นเศษเหล็กที่อยู่ในอากาศ ก็ไม่ได้สร้างภัยคุกคามอะไรกับกริฟฟินเลย

 

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของเขาโดนปัดออกอย่างง่ายดาย!

 

 

อย่างที่คาดเอาไว้ว่าหุ่นเชิดเวทมนตร์ที่ได้วิวัฒนาการณ์มานานกว่า 400 ปีนั้น ลิงค์คิดว่า ความสามารถในการต่อสู้ของเธอ, ทำให้เธอไม่สามารถถูกทำลายได้!

 

แต่โดยปกติแล้ว ลิงค์ยังมีแผนการโจมตีอื่นอยู่ในคลังของเขานอกจากนกเวทย์หวีด เขายังคงมีลูกแก้ว ซึ่งนั่นอาจจะสามารถสร้างความเสียหายให้กับกริฟฟินได้ใกล้เคียงกับนกหวีด

 

มานาไหลเข้าไปในคทาของเขาอีกครั้ง แล้วลูกแก้วก็ก่อร่างขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ด้วยความช่วยเหลือของโดมิงโก้คริสตัล ลิงค์จึงสามารถร่ายลูกแก้วได้ 50 ลูกต่อ 1 วินาที

 

ภายในชั่วพริบตา ก็มีเส้นของแสงจำนวนมากอยู่ระหว่างลิงค์กับกริฟฟิน

 

นานะป้องกันการโจมตีด้วยดาบของเธอเหมือนกับก่อนหน้านี้  ลูกแก้วระเบิดออกเหมือนกับฟองสบู่ในตอนที่มันแตะกับคมดาบ และภายในเวลาไม่นานนักก็ไม่มีลูกแก้วเหลืออยู่เลย

 

การใช้ดาบของนานะนั้นไร้ที่ติจริงๆ แต่ก็มีปัญหาอยู่เล็กน้อย ซึ่งปัญหานั่นเป็นปัญหาที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเธอ

 

ด้วยความที่การระเบิดนั้นเกิดขึ้นใกล้กับกริฟฟินมาก มันจึงตกใจมากๆ และได้บินหนีไปจากลิงค์ตามสัญชาติญาณ โดยไม่สนใจคำสั่งของนานะไม่ว่าเธอจะพยายามทำให้มันสงบแค่ไหนก็ตาม

 

กริฟฟินนั้นค่อยๆหนีออกห่างจากลิงค์ไปเรื่อยๆ และนานะก็ส่งสายตาของเธอมาที่เขาเหมือนกับว่าเธอตัดสินใจอะไรบางอย่างได้แล้ว เธอลุกขึ้นยืนแล้วใช้ร่างกายของกริฟฟินเป็นเหมือนแท่นกระโดดแล้วพุ่งมาหาลิงค์

 

นานะได้เห็นการตอบสนองอันรวดเร็วของลิงค์มาหลายครั้งแล้วเธอจึงรู้ว่าถ้าเธอทำอย่างนี้มันก็มีโอกาสที่จะถูกเขาโจมตีได้ แต่ว่ายังไงซะ นี่ก็เป็นเพียงแค่โอกาสเดียวของเธอ!

 

 

ในขณะเดียวกัน ลิงค์ก็เข้าสู่สถานะสงบอย่างสมบูรณ์เพื่อเตรียมร่ายเวทย์แล้วเช่นกัน เขารวบรวมพลังงานและสมาธิทั้งหมดและไม่ผ่อนลงแม้แต่เสี้ยววินาที เขารู้ว่าข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้เขาตายได้เมื่อเจอกับคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวเช่นนี้

 

นานะนั้นเร็วมากๆ;เธออยู่ห่างกับลิงค์แค่ 16 ฟุต เมื่อเห็นเช่นนั้นลิงค์จึงยกคทาของเขาขึ้นมาและร่ายเวทย์ป้องกัน สนามพลังป้องกันเวคเตอร์

 

เวทย์เลเวล 1 นี้ทำงานในทันทีและผลักหุ่นเชิดเวทมนตร์นานะออกไปจากลิงค์ และในเวลาเดียวกัน ลิงค์ก็เห็นก้อนหินสีดำถูกโยนมาทางเขาด้วยฝีมือของนานะ เห็นได้ชัดว่าเป็นการโจมตีโดยตรง แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่ก้อนหินธรรมดาๆ แต่เมื่อมันอยู่ในมือของหุ่นเชิดเวทมนตร์อันน่ากลัวนี้ มันก็กลายเป็นอาวุธอันตรายที่พุ่งมาหาลิงค์ผ่านอากาศด้วยความเร็ว 2,600 ฟุตต่อวินาที

 

อันที่จริง ความเร็วของหินที่ถูกขว้างมานั้นมักจะเร็วกว่าความเร็วการเคลื่อนที่ของผู้ปา แล้วด้วยความที่นานะมีความเร็วการเคลื่อนที่ 2,000 ฟุตต่อวินาที มันจึงสมเหตุสมผลที่หินที่เธอขว้างนั้นจะมีความเร็วเหมือนกับกระสุนปืน!

 

แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับลิงค์ เพราะว่าเขามั่นใจว่าเอเดลไวซ์สีแดงจะสามารถป้องกันหินได้ เมื่อหินมาปะทะเข้ากับขอบของโล่ มันก็เจอกับวงแหวนแสงแผดเผา  ความร้อนของวงแหวนแสงนั้นทำให้มันช้าลงในตอนแรก จากนั้นมันก็ไหม้และเริ่มสลายไปใน 0.01 วินาทีต่อมา ลิงค์พบว่ามันมีบางอย่างแปลกๆกับหินก้อนนี้  พื้นผิวมันดูปกติ แต่ว่าภายในของมันนั้นมีสายฟ้าสีฟ้าเล็กๆอยู่

 

ลิงค์เคยเห็นสายฟ้าแบบนี้มาก่อน มันอยู่บนดาบสีน้ำเงินเข้มที่เธอใช้เมื่อก่อนหน้านี้ และมันก็มีความสามารถต้านทานเวทย์อันแข็งแกร่ง

 

ดูเหมือนว่าเอเดลไวซ์สีแดงเพียงอย่างเดียวจะไม่สามารถหยุดก้อนหินนี้ได้แล้ว!

 

“…”

 

ดูท่าจะไม่ดีแล้ว!

 

ในตอนนี้ ลิงค์ไม่มีเวลาที่จะตอบโต้การโจมตีแล้ว ในช่วงเวลาสุดท้าย เขาได้ร่ายเวทย์ป้องกันเลเวล 0 เกราะนักเวทย์ใส่ตัวเอง และในทันใดนั้นเกราะสีเขียวก็เริ่มห่อหุ้มร่างกายของเขา

 

ปัง!

 

หินกระแทกเข้ากับท้องของลิงค์ มันหนักไม่ถึง 2 ปอนด์ แล้วในตอนที่มันมาถึงตัวลิงค์หลังจากที่ทะลุผ่านเอเดลไวซ์สีแดง ความเร็วของมันก็ไม่ได้มากไปกว่า 30 ฟุตต่อวินาทีเลย

 

แต่ปัญหาก็คือร่างกายของลิงค์นั้น…ไม่ได้แข็งแรงไปมากกว่าคนธรรมดาเลย

 

แรงกระแทกนั้นทำให้เขาเสียศูนย์อย่างสมบูรณ์ และทุกอย่างที่เขารู้สึกได้ก็คือความเจ็บปวดที่ท้อง ดวงตาสีดำของเขาพร่ามัว และเขาก็เกือบจะหมดสติไปแต่ว่าไม่นานนักเขาก็ฟื้นตัวขึ้นมาได้

 

สิ่งที่น่ากลัวอย่างมากก็คือความรู้สึกแปลกๆที่ลิงค์รู้สึกได้ในท้องของเขา มันเหมือนกับว่ามีพลังแปลกๆเจาะเข้าไปในร่างกายของเขาและแทรกแซงมานาของเขา

 

จากนั้นก็มีหน้าจออินเตอเฟสแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาจากระบบเกม

 

ผู้เล่นได้รับผลกระทบ สถานะปัจจุบัน: มานาผิดปกติ

 

คาดการณ์ระยะเวลาในการฟื้นฟู: 3ชั่วโมง

 

 

ภายในชั่วพริบตา ฟังก์ชั่นเวทย์มนตร์ทั้งหมดในตัวของลิงค์ก็ถูกปิด เขาสามารถทำได้แค่รักษาเวทย์ลอยเอาไว้และเปิดใช้เวทย์ป้องกันในกำไลของเขา เผื่อในกรณีที่นานะปาดาบของเธอมาที่เขาในตอนที่เขากำลังอยู่ในสภาพที่อ่อนแอที่สุด

 

แต่ก็โชคดีที่ นานะนั้นหวงดาบของเธอมากเกินไปที่จะเอามาปาใส่ลิงค์ ดังนั้นเขาจึงปลอดภัย ลิงค์ถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วก็ลอยลงมาที่เกาะด้านล่าง ในระหว่างที่เขาอยู่กลางอากาศ เขาได้สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วผ่อนคลายร่างกายของเขาเพื่อเร่งความเร็วในการฟื้นฟูขึ้น

 

ช่างเป็นหุ่นเชิดเวทมนตร์ที่น่ากลัวอะไรอย่างนี้ ลิงค์คิด ความสามารถในการต่อสู้ของเธอนั้นสุดยอดมาก! ฉันไม่สามารถเสียเวลาเล่นแมวไล่จับหนูกับเธอไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว

 

ลิงค์ตัดสินใจที่จะไม่หนีอีกแล้ว มันจะต้องมีกริฟฟินมากกว่า 1 ตัวในเกาะแห่งนี้ ดังนั้นมันจึงมีโอกาสสูงที่นานะจะจับกริฟฟินตัวใหม่มาเพื่อไล่ตามเขา แล้วเมื่อเธอตามเขาทันก็คงไม่ต้องถามว่าเธอจะทำอะไรกับเขา

 

มันถึงเวลาที่จะจบการต่อสู้นี้แล้ว ลิงค์หยิบหินนักปราชญ์สีขาวออกมาจากจี้ต่างมิติของเขา ถ้าเกิดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นภายใน 2 ชั่วโมงนี้ เขาก็จะใช้มันจบการต่อสู้เมื่อขาของเขาแตะพื้น

 

ในตอนแรกเขาวางแผนว่าจะเก็บเวทย์เลเวล 9 เอาไว้; แต่ดูเหมือนว่าเขาจะทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว

 

ในขณะเดียวกัน นานะก็กำลังตกลงสู่พื้นเพราะว่าเธอโดนแรงกระแทกจากเวทย์สนามพลังป้องกันเวคเตอร์ของลิงค์ ความเร็วในการร่วงของเธอนั้นสูงมาก แล้วเธอก็ตกลงไปที่หนึ่งในเกาะที่อยู่ด้านล่าง

 

ตู้ม!

 

 

ร่องหินที่กว้างประมาณ 8 ฟุตและลึก 5 ฟุตได้ถูกสร้างขึ้นในจุดที่ร่างของนานะตกลงไปจากนั้น เธอก็ลุกขึ้นมาแล้วปัดฝุ่นออกเหมือนกับว่าเธอไม่ได้บาดเจ็บอะไรเลย จากนั้นเธอก็หันไปรอบๆและเข้าป่าไปตามหากริฟฟิน โดยไม่ลืมที่จะมองไปที่ลิงค์ที่กำลังลอยลงมาจากฟ้าอย่างช้าๆด้วย

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset