หมู่เกาะใจกลางมหาสมุทรแห่งนี้อยู่ห่างจากที่รกร้างเฟิร์ด ถ้าเซลีนต้องเดินทางเป็นระยะ 380 ไมล์เพื่อพาพวกเขากลับไป, เธอคงจะหมดแรงอย่างแน่นอน แต่ก็โชคดี, ที่มีกลุ่มกริฟฟินป่าอยู่บนเกาะแห่งนี้
พวกเขาคว้ากริฟฟินคนละตัวหลังจากข่มขู่ด้วยพลังของพวกเขาแล้วสั่งให้พวกมันบินกลับไปยังทิศทางของแผ่นดินหลัก
กริฟฟินนั้นรวดเร็ว ภายในเวลาสองชั่วโมง, พวกเขาทั้งสามก็มาถึงทางเข้าพระราชวังใต้ดินอีกครั้ง ในตอนนี้พอกริฟฟินทั้งสามได้รับอิสระกลับมา, พวกมันก็บินออกไปในทันที, พวกมันดูตกตะลึงและหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปในส่วนที่ลึกที่สุดของพระราชวังใต้ดินโดยไม่มีอะไรมาขัดขวาง
แวนซ์สังเกตุเครื่องมือเครื่องใช้ในพระราชวังใต้ดินอย่างระมัดระวังแล้วพูดด้วยความไม่เชื่อ
“นี่มันช่างน่าประหลาดใจจริงๆ ทุกอย่างที่อยู่ที่นี่ไม่มีบุบสลายเลย แม้กระทั่งตำแหน่งของเก้าอี้ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าไม่ใช่เพราะความทรงจำของข้าบอกว่าผ่านมา 400 ปีแล้ว, ข้าคงจะรู้สึกว่าพึ่งออกไปจากสถานที่แห่งนี้แค่วันเดียวเอง”
ลิงค์หัวเราะ “นี่เป็นฝีมือของหุ่นเชิดเวทย์มนตร์ของคุณหน่ะสิ สถานที่แห่งนี้เป็นวิหารของเธอ, และเป้าหมายเดียวของเธอก็คือการปกป้องความมั่นคงของวิหารแห่งนี้”
พอพูดถึงนานะ, แวนซ์ก็ถอนหายใจออกมา “เธอปกป้องมันมากเกินไปจนเธอลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าข้าเป็นใคร”
ภายใต้อิทธิพลของเครื่องมือเครื่องใช้และทัศนียภาพอันแสนคุ้นเคยนี้, ความทรงจำของแวนซ์ก็เริ่มฉายย้อนกลับไป เขาเคยวิ่งไปทั่วห้องโถงอันยิ่งใหญ่นี้ในขณะที่พึมพำกับตัวเองหลายๆอย่าง
“โอ้…คำภีร์นี้! มันคือเวทย์ที่ยังไม่เสร็จนี่ พอคิดดูแล้วมันยังเปิดอยู่ครึ่งนึง, เหมือนกับตอนที่ข้าทิ้งมันในตอนที่ข้าออกไปจากสถานที่แห่งนี้เลย!”
“เก้าอี้ตัวนี้เป็นเก้าอี้ตัวโปรดของเขา ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย, ไม่แม้กระทั่งฝุ่นที่เกาะอยู่…โอ้, กับดักก็ยังทำงานอยู่ มันยังไม่มีสนิมเกาะเลย”
เขากดกลไก, แล้วทันใดนั้นเอง, เสียงเครื่องจักรก็ดังจนสามารถได้ยินได้จากด้านหลังกำแพง ไม่กี่วินาทีต่อมา, กำแพงฝั่งซ้ายของห้องโถงก็เริ่มขยับไปข้างหลังก่อนที่จะเผยให้เห็นทางใต้ดินที่ลึกขึ้นไป
ข้างหลังกำแพงนั้นเป็นพื้นที่ลึก 15 ฟุต มีหีบสมบัติเก่าๆวางอยู่ในนั้นสามหีบ แต่ละหีบนั้นมีขนาดใหญ่มาก, มันมีความสูงประมาณสามฟุตและความกว้างหกฟุต จากการออกแบบของตัวหีบ, มันสามารถบอกได้เลยว่าพวกมันถูกวาดเอาไว้เมื่อ 500 ปีก่อนสมัยที่ราชวงศ์อัสซีเรียยังมีอำนาจอยู่
แวนซ์กวักมือเรียกลิงค์กับเซลีน “มานี่สิ, มาดูสมบัติของข้า”
เขาเดินเข้าไปในห้องนั้นแล้วเปิดหีบฝั่งซ้าย จากนั้นชั้นไม้ก็เผยออกมาจากหีบ, มันมีจำนวนถึง 20 ชั้น แล้วทุกชั้นก็มีช่องกว่า 40 ช่องซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งของ
“นี่คือหีบสมบัติสไตล์โวซิท มันคือหีบต่างมิติที่เสถียรที่สุดซึ่งสามารถบีบอัดไอเท็มได้ในอัตราส่วน 50:1 มีช่องทั้งหมด 800 ช่องในหีบนี้ซึ่งเต็มไปด้วยโลหะและวัสดุหายากมากมาย ยกตัวอย่างเช่น, ทอเรียมชิ้นนี้, มันมีน้ำหนักเกือบ 1.5 กิโลกรัม”
จากนั้นแวนซ์ก็เอาทอเรียมออกมาชิ้นนึง ตอนแรกมันมีขนาดเท่ากับนิ้วโป้ง อย่างไรก็ตาม, ในตอนที่มันเผยรูปร่างที่แท้จริงออกมา, มันก็ขยายขนาดจนใหญ่เท่ากับกำปั้น, มันส่องประกายสีเงินที่แทบจะทำให้คนที่เห็นตาบอดได้ ลิงค์เคยเห็นหีบที่คล้ายกันนี้ในห้องของเอร์เรร่า อย่างไรก็ตาม, หีบใบนั้นไม่สามารถเทียบกับอันที่เขาเห็นอยู่ในตอนนี้ได้เลย พอเห็นแสงอันสดใสที่แผ่ออกมาจากวัสดุหายากทั้งหมด, ลิงค์ก็เข้าใจได้ในที่สุดว่าทำไมแวนซ์ถึงบอกว่าความมั่งคั่งของเขามากพอที่จะสร้างหอคอยเวทย์มนตร์ในอัตราส่วนเท่ากับหนามแห่งสวรรค์ได้
เซลีนแค่มองพร้อมกับอ้าปากเล็กน้อย เธอไม่สามารถทำใจเชื่อได้เลยว่าชายคนนึงจะสามารถสะสมความมั่งคั่งได้มากมายขนาดนี้
แวนซ์รู้สึกพอใจมากแล้วหัวเราะออกมาดังลั่น, กระดูกของเขาส่งเสียงออกมาในขณะที่ร่างกายของเขาสั่น “ข้าสร้างทรัพย์สมบัติพวกนี้ขึ้นมาได้ในสมัยที่ข้าขายหนังสือออร่าต่อสู้ของข้า พวกชนชั้นสูงซื้อมันจากข้าโดยไม่สนราคา ข้าเคยเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดในโลก”
จากนั้นเขาก็เดินไปยังหีบใบที่สองแล้วเปิดมัน ในครั้งนี้, มีชั้นหนังสือปรากฎขึ้นในกล่อง หนังสือทุกเล่มนั้นถูกออกแบบมาได้อย่างประณีตพร้อมกับมีอัญมณีติดอยู่ที่ปกแข็งและกระดาษคุณภาพสูง เราสามารถรู้สึกความผันผวนของมานาได้จากหนังสือพวกนี้, หากสังเกตุดีๆจะเห็นว่าหนังสือบางเล่มได้บันทึกรูปแบบเวทย์มนตร์ที่ทรงพลังเอาไว้ด้วย
มีหนังสือทั้งหมดอย่างน้อย 300 เล่ม ลิงค์สุ่มหยิบหนังสือที่มีชื่อว่า จุลจักรวาลขั้นสูงออกมา หลังจากไล่ดูแต่ละหน้า, ลิงค์ก็เห็นสูตรนึงที่ดึงดูดความสนใจของเขา มันแทบจะเหมือนกับสูตรที่เขาเคยทรมานสมองของเขาในวิทยานิพนธ์ของเขาเลย หลังจากเปิดไปได้ไม่กี่หน้า, ลิงค์ก็ยิ่งเห็นเนื้อหาที่คล้ายกัน เขามีความคิดที่คล้ายกันกับผู้เขียนหนังสือเล่มนี้, และมีแม้กระทั่งรายละเอียดที่เขาไม่ได้คิดด้วย
ลิงค์รู้สึกได้รับแรงบันดาลใจหลังจากที่เปิดไปแค่ไม่กี่หน้า “หนังสือเล่มนี้มันประเมินค่าไม่ได้เลยนะเนี่ย!”
ลิงค์มีสีหน้าสนุกสนานอย่างแท้จริง วัสดุหายากซึ่งเกือบจะทำให้เขาตาบอดนั้นทำให้เขาตื่นเต้นได้แค่เล็กน้อย, อย่างไรก็ตาม, หนังสือเวทมนตร์พวกนี้อย่างกับดินแดนมหัศจรรย์เลย
แวนซ์หัวเราะด้วยความภาคภูมิใจอีกครั้ง มันนับว่าเป็นความสำเร็จที่ทำให้อัจฉริยะอย่างลิงค์สูญเสียท่าทีเยือกเย็นตามปกติของเขาได้ จากนั้นเขาก็เปิดหีบใบสุดท้าย หีบใบนี้มีที่ว่างมากมาย, มันเก็บไว้แค่คำภีร์ที่ออกแบบมาอย่างประณีตเพียงไม่กี่เล่มเท่านั้น แวนซ์ไล่ดูคำภีร์พวกนี้ที่ละเล่มด้วยมือกระดูกของเขา ดูเหมือนว่าเขากำลังรื้อฟื้นความทรงจำที่ดีบางอย่างอยู่
เขายิ้มอย่างสะเทือนใจ “คำภีร์ออร่าต่อสู้และบันทึกการวิจัยทั้งหมดของเขาถูกเก็บเอาไว้ที่นี่ แม้ว่ามันจะมีไม่เยอะเหมือนกับหีบสองใบก่อนหน้านี้, แต่มันก็ทำให้ข้าใช้เวลาอย่างน้อย 200 ปีกว่าจะสำเร็จ ข้าถึงกับต้องแบกรับชื่อเสียในฐานะนักชำแหละไร้หัวใจก็เพราะมัน”
ลิงค์เดินไปแล้วเปิดคำภีร์ดู คำภีร์นี้มีชื่อว่ารูปแบบพายุปฐพีสะเทือน ช่างเป็นชื่อที่เว่อวังจริงๆ! จากนั้นเขาก็เปิดดูคำภีร์เล่มอื่นๆแล้วนับมันได้ทั้งหมด 16 เล่ม, ซึ่งส่วนใหญ่นั้นมีคุณภาพระดับอีพิค, บางเล่มก็ยังเขียนไม่จบ
หลังจากแนะนำสมบัติทั้งหมดของเขา, แวนซ์ก็หันไปหาลิงค์แล้วพูด “ตอนนี้ข้าไม่จำเป็นต้องใช้ของพวกนี้แล้ว; เจ้าเอาพวกมันไปได้ทั้งหมดเลย”
แม้ว่าลิงค์จะกะเอาไว้แล้ว, แต่พอเขาได้ยินจากปากของแวนซ์, เขาก็ยังรู้สึกท่วมท้นไปด้วยความขอบคุณ “ผู้เฒ่า, ผมไม่รู้เลยว่าจะขอบคุณคุณยังไงดี”
แวนซ์หัวเราะ “วิธีที่ดีที่สุดที่จะขอบคุณข้าก็คือใช้มันให้ดีๆ ใช้ความรู้และความมั่งคั่งนี้สร้างที่ดินที่ดีที่สุดที่เคยมีมาซะ!”
พอมาถึงตอนนี้, ดูเหมือนว่าแวนซ์จะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาเคาะหัวของเขาก่อนที่จะเดินไปยังกล่องที่อยู่ตรงกลางแล้วเอาหนังสือเวทย์มนตร์ออกมาสามเล่ม จากนั้นเขาก็เอาคำภีร์ออกมาอีกบางส่วนและบันทึกจากกล่องทางขวา, แล้วส่งพวกมันทั้งหมดให้กับลิงค์ “ความรู้ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับหุ่นเชิดเวทย์มนตร์ เอาพวกมันกลับไปค้นคว้าซะ แล้วก็, พระราชวังใต้ดินของข้าได้ถูกบุคคลด้านมืดอันแข็งแกร่งรู้เข้าแล้ว มันไม่ปลอดภัยที่จะเก็บหีบสมบัติพวกนี้อีกต่อไป เจ้าต้องเอาพวกมันออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
แน่นอนว่า, ลิงค์จะทำแบบนั้นอยู่แล้ว
จากนั้น, ลิงค์กับเซลีนก็วุ่นมากขึ้นเพราะพวกเขาได้เดินทางหลายครั้งเพื่อขนของออกมาจากพระราชวัง มันไม่ใช่จำนวนน้อยๆ, และมีขีดจำกัดที่อุปกรณ์ต่างมิติของพวกเขาสามารถเก็บได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเดินทางสามรอบก่อนที่สมบัติของแวนซ์จะโล่ง
หลังจากงานอันหนักหน่วง, พวกเขาทั้งสามก็มานัดพบกันที่อ่าวฉลาม ณ ตอนนี้, แวนซ์มีหนังสือเขียนมืออยู่ในมือของเขา หนังสือเล่มนี้หนามากๆและมีชื่อว่าประวัติศาสตร์สงครามของผู้วายชนม์
เขายิ้มในตอนที่เขาเห็นลิงค์ “สิ่งสุดท้ายก็คือปัญหาด้านสภาพอากาศของที่รกร้างเฟิร์ด”
ลิงค์ตกตะลึงในตอนที่เขาเห็นชื่อหนังสือ “คุณกำลังจะบอกผมว่าคำตอบนั้นอยู่ในหนังสือเล่มนี้หรอ?”
แวนซ์ยิ้ม “น่าจะใช่นะ” เขาเปิดหนังสือหนาๆเล่มนี้ไปยังที่ใดสักแห่งนึงในช่วงกลางเล่มแล้วชี้ไปที่วรรคๆนึง “วันนี้, ลอร์ดพายุและลอร์ดปฐพีได้ต่อสู้กันที่ชายหาด การต่อสู้นี้กินเวลาทั้งสิ้นสามวัน ลอร์ดผู้แข็งแกร่งทั้งสองได้รับบาดเจ็บหนักทั้งคู่เพราะพวกเขาได้ปล่อยการโจมตีสุดท้ายของพวกเขาออกมา ลอร์ดพายุได้ทำลายร่างกายของลอร์ดปฐพีด้วยการเหวี่ยงดาบของเขาหนึ่งครั้ง อย่างไรก็ตาม, ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยอมจำนนให้กับอาการบาดเจ็บร้ายแรงของเขาแล้วล้มลงในที่เดียวกัน”
หลังจากอ่านมัน, เขาก็เงยหน้าขึ้นมามองลิงค์ “เจ้าเข้าใจมันไหม? ที่รกร้างเฟิร์ดก็คือตำแหน่งที่แน่นอนของการต่อสู้ของพวกเขา กรวดที่เกลื่อนไปทั่วที่รกร้างเฟิร์ดก็คือร่างไร้ชีวิตของลอร์ดปฐพี, ในขณะที่เฮอริเคนอันโหดร้ายที่รบกวนดินแดนแห่งนี้ก็เกิดจากวิญญาณที่หลงเหลืออยู่ของลอร์ดพายุ”
เซลีนรู้สึกว่ามันแปลกๆ “นี่มันไม่ใช่แค่ตำนานหรอกหรอ? คุณเชื่อมันจริงๆหรอ?”
แวนซ์ไม่ได้มีอารมณ์ขัน เขาแค่มองเซลีนแล้วพูด “สาวน้อย, ตำนานก็คือประวัติศาสตร์จริงๆที่ถูกทำเป็นละครหรือไม่ก็ปรับแต่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ซึ่งความจริงนั้นมักจะอยู่เบื้องหลังตำนานเหล่านี้”
ลิงค์หายเข้าไปในความคิด ในฐานะนักเวทย์, เขาเคยอ่านเรื่องราวประวัติศาสตร์ของโลกฟิรุแมน เขารู้ว่าโลกฟิรุแมนนั้นได้เปลี่ยนไปตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ เมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน, มียุคทองที่เป็นตำนานมากมายเกิดขึ้นบนโลก เหล่าผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดในตำนานจะถูกเรียกว่าลอร์ด
ลอร์ดพายุกับลอร์ดปฐพีนั้นก็ถือว่าเป็นผู้แข็งแกร่งเช่นกัน แม้ว่าจะไม่มีใครรู้เหตุผลที่แท้จริงในการต่อสู้ของพวกเขา, แต่มันก็สามารถอธิบายภูมิศาสตร์และสภาพอากาศที่แปลกประหลาดของที่รกร้างเฟิร์ดได้ในระดับที่ดีเยี่ยมจริงๆ
หลังจากที่คิดอยู่พักนึง, ลิงค์ก็พูดออกมา “ผมเคยได้ยินมาว่าในยุคทอง, ลอร์ดนั้นเป็นผู้ที่มีพลังแข็งแกร่งมากๆ พวกเขาส่วนใหญ่จะบรรลุถึงขั้นที่วิญญาณไม่สามารถทำลายได้ซึ่งทำให้พวกเขายังเหลืออยู่บนโลกในรูปแบบใดรูปแบบนึงแม้ว่าร่างกายภาพของพวกเขาจะตายไปแล้วก็ตาม นี่ก็หมายความว่าถ้าพวกเราสามารถหาวิญญาณที่หลงเหลืออยู่ของลอร์ดพายุได้, พวกเราก็สามารถหยุดปรากฎการณ์เฮอริเคนที่เกิดขึ้นบ่อยๆได้ใช่ไหม?”
“เจ้าพูดถูกที่สุดเลย!” แวนซ์ตบมือด้วยนิ้วกระดูกของเขา จากนั้นเขาก็เปิดไปอีกหน้านึงของหนังสือแล้วชี้ไปที่กลุ่มคำกลุ่มนึง “กษัตริย์ไลออนฮาร์ทเคยมายังที่รกร้างนี้แล้วในตอนนั้นจู่ๆ, ก็เกิดพายุเฮอริเคนขึ้นแล้วพัดเอาทรายกระจายไปทั่วพื้นที่แห่งนี้ จากนั้นกษัตริก็หลงทางแล้วเดินทางไปถึงหุบเขาลึกลับแห่งนึงในขณะที่พยายามหนีจากสภาพอากาศอันเลวร้าย”
กษัตริย์ไลออนฮาร์ทนั้นเป็นบุคคลจากเมื่อ 2,000 ปีก่อน เขาเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่รักการผจญภัย, และตำนานความสามารถของเขาก็ยังสามารถพบได้ในโลกแห่งฟิรุแมน แม้ว่าเรื่องบางเรื่องจะแต่งขึ้นมา, แต่ข้อความที่แวนซ์อ่านนั้นได้เปิดเผยข้อมูลที่สำคัญสองชิ้น: ชิ้นแรก, วิญญาณที่เหลืออยู่ของลอร์ดพายุอาจจะยังอยู่ดี ชิ้นที่สอง, มันอาจจะยังซ่อนอยู่ในหุบเขาสักแห่งนึง ซึ่งลิงค์ได้เตรียมที่จะติดตามเบาะแสนี้และตามหาหุบเขาที่มีธาตุลมอันแข็งแกร่ง
จากนั้นเซลีนก็ถามคำถามขึ้นมา “ที่รกร้างเฟิร์ดกว้างขวางมาก แต่ว่า, ดูเหมือนจะไม่เคยไม่ใครได้ยินเรื่องหุบเขาพายุมาก่อนเลยนะ”
แวนซ์พยักหน้า “หุบเขาแห่งนี้ไม่ได้อยู่ในที่รกร้างเฟิร์ดอย่างแน่นอน แต่ว่า, ตำนานนี้ได้ชี้ให้เห็นถึงตำแหน่งที่ดูเหมือนจะเป็นจุดกำเนิดของเฮอริเคนพวกนี้
การมีหนทางที่อาจจะไม่ถูกต้องนั้นก็ยังดีกว่าไม่มีหนทางอะไรเลย ถ้ามีคนสามารถมองผ่านหมอกที่ปกคลุมความจริงนี้ได้, พวกเขาก็จะสามารถเปิดเผยประวัติศาสตร์ที่แท้จริงได้
ลิงค์ขมวดคิ้วแล้วคิดอยู่พักใหญ่ๆก่อนที่จะพูดออกมา “มีเสือนภาอยู่ในดินแดนของผมที่สัมผัสธาตุลมได้ดีเป็นพิเศษ บางทีผมน่าจะสามารถขอให้เขาหาจุดกำเนิดนี้ให้ผมได้”
“นั่นเป็นความคิดที่ดีเลย” แวนซ์ปิดหนังสือประวัติศาสตร์สงครามของผู้วายชนม์แล้วส่งมันให้กับลิงค์ “นี่เป็นแค่เล่มคัดลอก เจ้าสามารถอ่านส่วนที่เหลือของเรื่องราวได้ในเวลาว่างเช่นกัน เรื่องราวต่างๆพวกนี้มีคุณค่าในตัวพวกมันเอง”
“ได้สิ” ลิงค์สนใจหนังสือเล่มนี้แล้ว
หลังจากนั้นลิงค์กับเซลีนก็กลับไปที่ค่าย แล้วแวนซ์ก็พบสถานที่ห่างไกลในที่รกร้างเฟิร์ดที่เรียกว่าบ้าน ส่วนตำแหน่งอยู่ตรงไหนนั้น, เขาไม่ยอมบอก อย่างไรก็ตาม, เขาได้มอบรูนสื่อสารให้กับลิงค์เพื่อติดต่อเขาเมื่อไหร่ก็ตามที่ต้องการ พวกเขาได้ตกลงที่จะวิจัยทฤษฎีหุ่นเชิดเวทย์มนตร์ร่วมกันในอนาคต
แน่นอนว่าลิงค์ไม่มีความคิดเห็นกับการจัดการนี้ หลังจากกลับไปที่เทือกเขามอดไหม้, เขาก็ตรงไปที่เมืองริเวอร์โควฟเพื่อรักษาบาดแผลของเขาเป็นอันดับแรก จากนั้นเขาก็ไปหาดอเรียสและมอบภารกิจให้เขา
“อะไรนะ? ต้นกำเนิดเฮอริเคน?” ดอเรียสกำลังใช้ชีวิตอย่างสุขสบายและดูเหมือนจะค่อนข้างผ่อนคลาย ในตอนที่เขาได้ยินคำพูดของลิงค์, เขาก็เริ่มดมอากาศรอบๆโดยไม่รู้ตัว
หลังจากนั้นพักนึง, เขาก็พยักหน้า “สายลมที่นี่แตกต่างจริงๆ ข้าจะตรวจสอบมันเดี๋ยวนี้เลย”
เขามีประโยชน์อย่างมากๆ พอเขาพูดจบ, เขาก็กระโดดจากพื้นแล้วดมอากาศในขณะที่เดินไปยังทิศทางที่แน่นอน, จากนั้นเขาก็เดินทางออกไปจากเทือกเขามอดไหม้อย่างรวดเร็ว
มันไม่ดีสำหรับเขาด้วยที่ไม่ทำอะไรเลยในขณะที่เขาอาศัยทรัพยากรของลิงค์ในการใช้ชีวิต นอกจากนี้, เขาก็รู้สึกเบื่อมากๆในช่วงไม่กี่วันมานี้ ซึ่งเขาสามารถใช้โอกาสนี้ออกไปเดินเล่นข้างนอกได้