Advent of the Archmage – ตอนที่ 220: พลังกระจ้อยร่อยที่ง่ายต่อการปัดเป่า

กิลเดิร์นนั้นค่อนข้างฉลาด ดังนั้นเขาจึงสามารถเข้าใจเจตนาของลิงค์ได้ในทันที เขารู้สึกชื่นชมลิงค์ที่ได้ตัดสินใจทำแบบนี้ เขาไม่รู้สึกว่าพวกเขานั้นเป็นกลุ่มทหารรับจ้างเล็กๆอย่างที่เคยเป็นอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้พวกเขารับผิดชอบการพัฒนาดินแดนที่มีอนาคตอันยิ่งใหญ่อยู่ การตัดสินใจของพวกเขานั้นสามารถตัดสินชะตากรรมของคนได้เป็นพันคน ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกเขาต้องจัดการเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในดินแดนให้รอบคอบมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน

 

พอนึกถึงวิธีจัดการสถานการณ์ของลิงค์ เขาก็รู้สึกว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงรีบวิ่งไปจัดการมันในทันที

 

หลังจากที่ลิงค์ไปถึงห้องประชุมที่อยู่บนชั้น 2 สมาชิกคนสำคัญอย่างเช่น แจ็คเกอร์, ลูซี่, กิลเดิร์น, คาร์ลิโด้และเซลีนก็มาถึงภายในเวลา 15 นาที

 

ในบรรดาพวกเขาทั้ง 5 คน มี 4 คนที่ได้ติดตามลิงค์มาตั้งแต่ที่เขาเพิ่งเริ่มการเดินทาง เซลีนนั้นเป็นเพียงคนเดียวที่เพิ่งมาเข้าร่วมได้ไม่นาน แม้ว่าเธอจะไม่ได้แสดงความสามารถในการต่อสู้ของเธอ แต่เธอก็ดูเป็นคนที่ฉลาดมากๆแล้วก็เข้ากับลูซี่ได้ดี  เซลีนมักจะให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์กับลูซี่และแก้ไขปัญหามากมายที่เกี่ยวกับดินแดน เธอได้แสดงให้เห็นว่าเธอนั้นเป็นคนที่มีความสามารถ

 

“นั่งที่เถอะ”

 

ลิงค์พยักหน้าให้กับพวกเขาทั้ง 5 คนเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาเห็นพวกเขาแล้ว ในตอนที่เขาเห็นเซลีน เขาก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในใจและยิ้มออกมา

 

ลิงค์พูดตรงเข้าประเด็นในทันที “ฉันต้องออกไปนอกดินแดนซักพักนึง และก่อนที่ฉันจะออกไป มีบางอย่างที่ฉันจะต้องสะสางให้เรียบร้อยก่อน”

 

ทุกคนฟังอย่างระมัดระวัง

 

“อย่างแรกเลยคือฉันได้เห็นพวกผู้ลี้ภัยแล้ว พวกเขาส่วนใหญ่เป็นคนธรรมดา แต่ว่า, การฝ่าฟันผ่านทะเลสาบดำและเดินทางมาจนถึงที่นี่ได้ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงจิตวิญญาณและความกล้าหาญของพวกเขา ถ้าพวกเราจัดการกับพวกเขาดีๆ พวกเขาก็จะกลายเป็นประชาชนที่ยอดเยี่ยมของพวกเราได้อย่างแน่นอน”

 

ลิงค์ไม่มีเหตุผลที่จะไม่รับผู้ลี้ภัยเหล่านี้เข้ามา

 

หลังจากที่ได้ฟังเรื่องนี้ลูซี่ก็พูด “แต่ฉันกลัวว่าพวกเราจะต้องมีปัญหากับอาณาจักรเดลอนก้าหน่ะสิ พวกเขายังเป็นประชาชนของอาณาจักรนั้นอยู่ ถ้าเกิดว่าพวกเขาขอให้เราส่งผู้ลี้ภัยกลับไปหล่ะ พวกเราก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธได้เลยนะ”

 

นี่เป็นความจริง แม้ว่าที่รกร้างเฟิร์ดจะสามารถปฏิเสธได้ในทันที, แต่พวกเขาก็ยังคงต้องทำการแลกเปลี่ยนกับอาณาจักรเดลอนก้าในอนาคตอยู่ดี ซึ่งมันไม่คุ้มค่าที่จะทำอย่างนั้น กองกำลังทหารรับจ้างนั้นเติบโตขึ้นอย่างมากในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้  ตอนนี้พวกเขาทุกคนรับรู้ได้ถึงอันตรายโดยที่ไม่ต้องให้ใครมาคอยเตือนพวกเขาแล้ว ยังไงก็ตาม ประสบการณ์ในการจัดการกับปัญหาเหล่านี้ของพวกเขาก็ยังมีขีดจำกัด แจ็คเกอร์ กิลเดิร์นและคาร์ลิโด้จึงขมวดคิ้วในตอนที่พวกเขาคิดถึงเรื่องนี้

 

จากนั้นเซลีนก็พูดขัดขึ้นมา “ฉันมีความคิดอยู่”

 

ลิงค์ยิ้มแล้วพูด “เชิญพูดต่อได้เลย”

 

 

เซลีนพูด “ลองคิดดูสิ อาณาจักรเดลอนก้าได้ประสบกับการแพ้สงคราม พวกเขาอาจจะต้องจ่ายค่าปฏิกรรมสงครามให้กับอาณาจักรเซาท์มูนในอนาคตก็ได้และจะต้องเจอวิกฤตการณ์ทางการเงินอย่างแน่นอน ถ้าอาณาจักรเดลอนก้าต้องการให้ประชาชนของพวกเขากลับจริงๆ พวกเราเพียงแค่ต้องซื้อพวกเขาด้วยเหรียญทองก็พอแล้ว พวกเขาน่าจะดีใจกับการแลกเปลี่ยนนี้แน่ๆ”

 

ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศนั้นต่างก็คำนึงถึงผลประโยชน์เป็นสำคัญ ตราบใดที่ผลประโยชน์ของพวกเขาสอดคล้องกัน อะไรๆก็เกิดขึ้นได้

 

ยังไงซะที่รกร้างเฟิร์ดก็ไม่เคยขาดเหรียญทองอยู่แล้ว

 

ลูซี่คิดอยู่พักนึงและให้ความเห็น “นั่นเป็นความคิดที่ดีเลย งั้นพวกเราก็ไม่มีปัญหาแล้วหน่ะสิ”

 

ลิงค์ก็พยักหน้าเช่นกัน จากนั้นเขาก็พูดต่อ “พวกสมาคมที่อยู่ทางเหนือกำลังพยายามอะลาวาดและเผยแพร่ลัทธิอันชั่วร้ายของพวกมัน พวกมันอาจจะพยายามจะลอบเข้ามายังดินแดนของเราก็ได้  แจ็คเกอร์ ทำให้มั่นใจด้วยนะว่าสมาคมจะไม่ขยายขอบเขตมาถึงดินแดนของพวกเรา”

 

“รับทราบครับ!” เสียงของแจ็คเกอร์นั้นทุ้มและเต็มไปด้วยความมั่นใจ ในฐานะที่เป็นผู้บัญชาการทหารของดินแดนแห่งนี้ เขาได้ฝึกฝนหนักยิ่งกว่าเดิมเพื่อเติมเต็มความคาดหวังนั้น ตอนนี้เขาได้มาถึงเลเวล 4 แล้วและกำลังจะขึ้นไปถึงเลเวล 5 และเขาก็ได้กลายเป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนแห่งนี้  นี่เป็นความแข็งแกร่งที่มากพอแล้ว ยังไงก็ตาม ในฐานะที่เป็นผู้ที่กุมอำนาจสูงสุดทางการทหารในดินแดนแห่งนี้  เขารู้สึกว่ามันยังไม่พอ

 

ข้อจำกัดพลังของแจ็คเกอร์นั้นอยู่ในออร่าต่อสู้ลับเลเวล 3 ที่ลิงค์สอนให้เขา มันเป็นเพียงแค่ออร่าต่อสู้เลเวลต่ำ และเลเวล 5 นั้นก็คือขั้นสูงสุดที่ผู้ฝึกฝนสกิลสามารถไปถึงได้ มันเป็นเรื่องบ้ามากที่จะพยายามขึ้นไปให้สูงกว่านั้นอีก

 

 

ก่อนหน้านี้ลิงค์ไม่มีทางเลือก เขาสามารถหาได้เพียงแค่ออร่าต่อสู้ลับเลเวล 3 จากระบบเกม ยังไงก็ตาม ตอนนี้เขามีคัมภีร์ออร่าต่อสู้ระดับอีพิค 7 เล่มและแบบธรรมดาอีกมากมายอยู่กับตัว มันถึงเวลาที่จะต้องนำมันออกมาแล้ว

 

“เอาหล่ะงั้น, เรื่องผู้ลี้ภัยก็ขอจบลงเพียงเท่านี้ จากนี้เราจะไปเรื่องอื่นต่อ”

 

ในขณะที่ลิงค์พูด เขาก็เอาคัมภีร์ออกมาและส่งมันให้แจ็คเกอร์ “เปิดมันสิ”

 

แจ็คเกอร์รู้สึกสับสนกับการกระทำของลิงค์ หลังจากที่เขาตรวจสอบคัมภีร์อย่างคร่าวๆ ดวงตาของเขาก็เปิดกว้างและลุกขึ้นในทันที “นายท่าน หนะ นี่มัน…นี่มันมากเกินสำหรับข้า!”

 

แจ็คเกอร์นั้นมีธาตุประจำตัวคือธาตุดิน ลิงค์จึงให้คัมภีร์ที่มีชื่อว่ากลยุทธ์เทพสงครามกับเขา มันเป็นออร่าต่อสู้ธาตุดินระดับอีพิคที่เน้นเทคนิคด้านการป้องกัน ตอนนี้แจ็คเกอร์ได้เรียนรู้การอ่านแล้ว แต่ว่าเขาก็ยังคงไม่เข้าใจเทคนิคนี้ด้วยการมองครั้งแรก เขารู้เพียงแค่ว่ามันเป็นออร่าต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากในตอนที่เขาเห็นชื่อของมัน, กลยุทธ์เทพสงคราม เขานั้นรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับสมบัติล้ำค่าชิ้นนี้มา

 

ลิงค์ยิ้มให้เฉยๆก่อนที่จะส่งคัมภีร์ออร่าต่อสู้ธาตุลม-การประลองแห่งราชัน ให้ลูซี่ และสำหรับกิลเดิร์น คัมภีร์ออร่าต่อสู้ธาตุไฟ-จ้าวแห่งเล่ห์กล

 

“นี่สำหรับพวกนาย 3 คนเท่านั้น ห้ามเอาไปเผยแพร่กับคนอื่นนอกจากจะได้รับอนุญาติจากฉันก่อน” ลิงค์สั่ง

 

“ครับ/ค่ะ นายท่าน!” พวกเขาทั้งสามขานรับในทันที คัมภีร์เล่มเดียวนั้นสามารถส่งต่อกันเป็นมรดกตกทอดในหมู่ตระกูลขุนนางที่แข็งแกร่งได้  แต่ลิงค์นั้นกลับให้พวกเขาถึง 3 เล่มในครั้งเดียว ยังไงก็ตาม ลิงค์ยังไม่จบแค่นั้น เขาหยิบคัมภีร์ออร่าต่อสู้แบบธรรมดาออกมาอีก 10 กว่าเล่มแล้วส่งให้กิลเดิร์นกับแจ็คเกอร์

 

“ในอนาคตจะมีผู้คนอีกมากมายเดินทางมาดินแดนของเรา พวกเราจะต้องเพิ่มระดับของกองกำลังและหน่วยลาดตระเวนของพวกเรา ถ้าพวกนายเห็นว่ามีใครที่แข็งแกร่งหรือฉลาด พวกนายสามารถให้รางวัลกับพวกเขาด้วยคัมภีร์เหล่านี้ได้เลย และคนที่ได้รับพิจารณาว่ามีทักษะมากเป็นพิเศษจะสามารถอ่านคัมภีร์ระดับอีพิคได้ชั่วคราว ซึ่งพวกนายจะต้องส่งรายชื่อมาให้ฉันเพื่อให้ฉันทำการพิจารณาขั้นสุดท้าย”

 

แจ็คเกอร์นั้นเป็นหัวหน้ากองทหารในขณะที่กิลเดิร์นเป็นหัวหน้าหน่วยลาดตระเวน ดวงตาของพวกเขาเป็นประกายในตอนที่ได้ยินคำพูดพวกนี้ ด้วยการใช้เทคนิคออร่าต่อสู้เหล่านี้เป็นฐาน พวกเขาทั้งสองคนมั่นใจว่าความแข็งแกร่งของกองกำลังของพวกเขาจะต้องเพิ่มขึ้นมากอย่างแน่นอน

 

จากนั้นพวกเขาก็เริ่มพูดคุยกันถึงเรื่องที่เกินความจำเป็นอื่น ๆ ซึ่งมันใช้เวลาที่เหลือของช่วงกลางวัน และการประชุมก็จบลงในตอนเย็น

 

ลิงค์นั้นไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่มานานแล้ว หลังจากมื้อเย็น เขาก็เตรียมที่จะพักผ่อนและกำลังจะเข้านอนเพื่อเตรียมตัวเดินทางขึ้นเหนือในวันพรุ่งนี้ ในตอนที่เขานอนลงบนเตียง เขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตู  เสียงนั้นเบามากๆ จนเหมือนกับว่ามันไม่อยากที่จะรบกวนคนอื่นๆ ดูจากความผันผวนของมานา ลิงค์สามารถบอกได้เลยว่าคนที่อยู่หลังประตูนั้นคือเซลีน เขาเปิดประตูด้วยมือแห่งนักเวทย์โดยที่ไม่ลังเลเลย

 

จากนั้นเซลีนก็รีบเข้าห้องมาอย่างรวดเร็วและปิดประตูที่อยู่ข้างหลังเธอ ในตอนที่เธอเห็นลิงค์สวมแค่ชุดนอนอยู่บนเตียง เธอก็รู้สึกอายขึ้นมา และเธอก็ปล่อยให้เรื่องพวกนี้ผ่านไปในหัวก่อนที่จะถาม “นี่นายจะขึ้นเหนือจริงๆหรอ?”

 

ลิงค์พูดไม่ออก เขารู้สึกว่ากษัตริย์ลีออนนั้นทำงานได้ไม่ดีในการปกปิดภารกิจของเขาให้เป็นความลับ คนที่อยู่รอบตัวเขารู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงกัน?

 

“เธอไปได้ยินเรื่องนี้มาจากใคร? มันไม่ใช่เรื่องจริงซะหน่อย…” ลิงค์ปฏิเสธ

 

 

“ฉันให้ขาแกะย่างกับดอเรียส แล้วเขาก็เล่าทุกอย่างให้ฉันฟัง” เซลีนทำให้ลิงค์เงียบด้วยคำพูดเพียงประโยคเดียว

 

 

“เจ้าแมวอ้วนจอมตะกละเอ๊ย” ลิงค์ยิ้มอย่างขมขื่น ยังไงก็ตาม ที่ดอเรียสทำอย่างนั้นก็เพราะว่าอีกฝ่ายเป็นเซลีน ถ้าเกิดว่าเป็นคนอื่นหล่ะก็ เขาคงยังเงียบอยู่ ต่อให้พวกเขาย่างวัวมาให้ 100 ตัวก็ตาม

 

เซลีนพูด “ให้ฉันไปกับนายด้วยนะ”

 

ลิงค์ส่ายหน้าในทันที “ไม่ได้ นั่นเป็นความคิดที่ไม่ดีเลย เธอจะถูกเปิดโปงไม่ได้ โดยเฉพาะทางตอนเหนือ ถ้าเกิดว่ามันเกิดขึ้นหล่ะก็ ทั้งอาณาจักรนอร์ตันและพวกดาร์กเอลฟ์จะกลายเป็นศัตรูของเธอ”

 

เซลีนโต้แย้ง “แต่ว่านายไม่คิดหรอว่าจะมีอะไรจะเกิดขึ้นถ้าฉันยังอยู่ที่นี่? พ่อฉันอาจจะส่งปีศาจดุร้ายมายังดินแดนของนายแล้วมีโศกนาฏกรรมเกิดขึ้นก็ได้นะ”

 

เขาตกอยู่ในความเงียบและขมวดคิ้วในทันที นั่นเป็นปัญหาที่เขาไม่เคยคิดถึงมาก่อน แม้ว่าการส่งกองกำลังปีศาจจำนวนมหาศาลมายังฟิรุแมนจะใช้ทรัพยากรเป็นจำนวนมาก แต่เซลีนก็มีสายเลือดพิเศษที่จนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้คุณค่าของมันเลย ถ้าเกิดว่ามันมีค่าพอที่จะทำให้โนโซม่ายอมเสี่ยงทุกอย่างเพื่อเอามันมาหล่ะ?

 

พอเห็นท่าทีของลิงค์ เซลีนก็จับมือของเขาและอ้อนวอน “ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก ฉันจะคอยตามนายและซ่อนตัวอยู่ในเงาเท่านั้น ฉันจะออกมาก็ต่อเมื่อนายพบกับอันตราย นายคิดว่ายังไง? ”

 

 

ลิงค์ยังคงเงียบอยู่ แม้ว่าการมีเซลีนอยู่ข้างๆจะทำให้เขาสบายใจและใช้พลังได้อย่างเต็มที่ แต่ภารกิจนี้อันตรายเกินไป ยังไงก็ตาม ถ้าเกิดว่าเขาไม่ได้อยู่ใกล้กับเซลีน เธอก็อาจจะตกอยู่ในอันตรายจากการตามล่าของพ่อเธอก็ได้

 

 

ขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้นเอง ก็มีเสียงดังขึ้นมาในจิตใจของเขา “ช่างเป็นสาวน้อยที่แปลกเหลือเกิน”

 

เสียงนี้มาจากดาบวิญญาณที่บอกว่าตัวเองนั้นขี้เกียจเกินกว่าที่จะพูดกับลิงค์และเข้าสู้สภาวะนิพพานไป โดยปกติแล้วลิงค์นั้นไม่ค่อยสนใจเรื่องแบบนี้มากนัก แต่ในตอนที่เขาได้ยินมัน เขาก็นึกถึงตอนที่แวนซ์พูดถึงเลือดของเซลีน จากนั้นเขาก็ถามด้วยความตื่นเต้น “ท่านหมายความว่ายังไง?”

 

“เธอทำให้ข้านึกถึงชายที่มีชื่อว่าผู้ปกครองวิญญาณ เธอมีออร่าที่ใกล้เคียงกับเขามากและอาจจะเป็นลูกหลานของผู้มีพลังนั้นก็ได้….ข้าไม่มั่นใจนักเว้นแต่ว่าข้าจะได้ลองชิมเลือดของเธอ”

 

ลิงค์เองก็รู้สึกสงสัยเกี่ยวกับปริศนาเรื่องเลือดของเซลีนอยู่เหมือนกัน จากนั้นเขาก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมาได้และเอาดาบของลอร์ดพายุที่เขาวางไว้ข้างเตียงขึ้นมา และถาม “เซลีน เธอคิดว่าดาบเล่มนี้เป็นไง?”

 

เซลีนคิดว่าลิงค์กำลังลังเลในตอนที่เขาเงียบไปหลังจากที่ได้ยินข้อเสนอของเธอ  เธอนั้นรู้สึกตกใจมากที่อยู่ๆเขาก็เปลี่ยนหัวข้อแบบนี้  แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังคงรับมันมาและลองกวัดแกว่งมันดูเล็กน้อยก่อนที่จะส่งมันคืนให้กับลิงค์ “ก็ไม่แย่นะ แต่อย่าพยายามเปลี่ยนเรื่องเลย นายไม่เห็นด้วยเรื่องที่ฉันจะไปด้วยใช่ไหม”

 

ลิงค์ยิ้มแปลกๆแล้วพูดต่อ “ดาบนี้ไม่ได้แค่สวยอย่างเดียวนะ แต่มันยังคมมากด้วย ดูที่ใบมีดของมันสิ”

 

“มันจะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง ดาบนี้ดูยังไงก็ทื่อนะ” เซลีนถูกลิงค์ดึงความสนใจมาที่เรื่องดาบอีกครั้ง เธอหยิบดาบของลอร์ดพายุขึ้นมาอีกครั้งแล้วเอานิ้วของเธอลูบผ่านคมดาบเบาๆ มันมนและทื่อมากๆ อันที่จริง เธอรู้สึกสงสัยมานานแล้วว่าทำไมลิงค์ถึงพกมันไปไหนมาไหนตลอด

 

ทันใดนั้นเอง เธอก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่นิ้วของเธอและหุบนิ้วของเธอกลับไป จากนั้นเธอก็มองไปที่ดาบที่ควรจะทื่อและเห็นหยดเลือดของเธอติดอยู่

 

“แปลกจัง มันคมจริงๆด้วย” ตอนนี้เซลีนถูกดึงดูดไปที่ดาบอย่างเต็มที่แล้ว เธอสังเกตุมันด้วยความสนใจและหยุดกดดันลิงค์เรื่องที่เขาจะขึ้นเหนือ

 

ในตอนนั้นเอง ลิงค์ก็กำลังรอคำตอบอย่างใจเย็น

 

ครึ่งนาทีต่อมา ดาบวิญญาณก็พูด “ข้าพูดถูกจริงๆด้วย เธอเป็นลูกหลานของชายคนนั้น และเป็นเชื้อสายตรงด้วย มันคงไม่มีเหตุผลอื่นแล้วที่จะทำให้สายเลือดของเธอมีพลังแข็งแกร่งขนาดนี้”

 

ความสงสัยของลิงค์ได้มาถึงจุดพีค “ผู้ปกครองวิญญาณเป็นคนแบบไหนหรอครับ?”

 

“เขาไม่ได้เป็นทั้งฝ่ายความมืดและแสงสว่าง ในหมู่พวกระดับตำนาน เขาเป็นคนที่มีความเข้าใจในหลักการของวิญญาณมากที่สุด เขาสามารถสร้างวิญญาณหรือสามารถทำลายวิญญาณได้โดยตรง เจ้านายของข้าและผู้ปกครองวิญญาณนั้นเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ความจริงแล้ว ข้าติดหนี้เขาด้วยซ้ำที่ทำให้ข้าสามารถพูดคุยกับเจ้าได้ในตอนนี้…ดูเหมือนว่าข้าจะเป็นหนี้เขานะ”

 

ดาบวิญญาณพูดด้วยการหวนรำลึกถึงอดีต เขาตกอยู่ในความเงียบก่อนที่จะพูดต่อ “สาวน้อยคนนี้ยังมีพลังงานความมืดผสมอยู่ในเลือดของเธอด้วย นี่มันแย่มาก มันเป็นการดูหมื่นผู้ปกครองวิญญาณ ข้าจะไม่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด; ข้าจะปัดเป่ามันเพื่อตอบแทนบุญคุณ”

 

ท่านทำได้งั้นหรอ? ท่านจะไม่ทำให้เธอเจ็บใช่ไหม? ลิงค์ไม่มั่นใจ

 

“หึ! เจ้ามนุษย์โง่เขลา!”

 

ในตอนที่เขาพูด ดาบของลอร์ดพายุที่อยู่ในมือของเซลีนก็เริ่มเปล่งแสงสีขาว  แสงจางๆนั้นได้เข้าไปในร่างกายของเซลีนผ่านมือของเธอ จากนั้น เซลีนก็หมดสติไปในทันที

 

ลิงค์รีบไปรับเธอและอุ้มไปไว้ที่เตียงทันที

 

ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่เซลีนสลบไป ดาบของลอร์ดพายุก็ลอยขึ้นกลางอากาศและแทงทะลุหัวใจของเซลีนในฉับเดียว จากนั้นก็มีสายฟ้ารอบๆดาบไหลเข้าไปในหัวใจของเซลีนอย่างต่อเนื่อง

 

ลิงค์มองเหตุการณ์นี้ด้วยความหวาดกลัว ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าเซลีนยังมีลมหายใจอยู่และไม่มีบาดแผลกับเลือดให้เห็น เขาก็คงจะทำลายดาบนี้ไปเรียบร้อยแล้ว

 

เพื่อป้องกันไม่ให้ความผันผวนของเวทมนตร์เล็ดลอดออกไป ลิงค์จึงร่ายบาเรียปกปิดไว้ทั่วบ้านไม้ และสถานการณ์ในบ้านไม้ก็เริ่มรุนแรงขึ้นกว่าเดิม

 

พลังงานแห่งความมืดไหลออกมาจากหัวใจของเซลีนอย่างต่อเนื่อง ยังไงก็ตาม ในตอนที่มันออกมา มันก็ถูกปัดเป่าด้วยแสงที่อยู่รอบๆดาบในทันที ในตอนแรกพลังงานความมืดนั้นรุนแรงและหนาแน่นมากๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป มันก็ค่อยๆอ่อนแอลงจนมันไม่เหลือร่องรอยเลย

 

ในตอนนั้นเอง ดาบของลอร์ดพายุก็เอาตัวเองออกมาจากหน้าอกของเซลีน ลิงค์รีบไปดูและตกใจที่ไม่เห็นบาดแผลหรือแม้แต่ร่องรอยที่เสื้อผ้าของเธอเลย มันเหมือนกับว่าการโจมตีของลอร์ดพายุนั้นเป็นการโจมตีจากวิญญาณที่สามารถทะลุทุกอย่างได้

 

 

เสียงที่อ่อนแอดังขึ้นในจิตใจของลิงค์ “พลังงานความมืดนี้แข็งแกร่งมาก ข้าคิดว่ามันคงมาจากปีศาจที่ทรงพลังมาก ถ้าเกิดว่าเด็กสาวคนนี้เป็นระดับตำนานหล่ะก็ มันคงจะไม่มีหวังแล้ว แต่ยังดีที่มันยังอยู่ในขอบเขตพลังของข้าทำให้ข้าสามารถปัดเป่าพลังความมืดที่อยู่ในร่างกายของเธอได้ในตอนนี้ ข้าได้ลบพลังงานความมืดออกไปเกือบทั้งหมดแล้วและผนึกที่เหลือเอาไว้ ในตอนนี้ไม่มีใครสามารถสะกดรอยตามเธอจากเลือดของเธอได้อีกแล้ว”

 

“แล้วพลังของเธอหล่ะ?” ลิงค์ถาม

 

“พลัง? เจ้าหมายถึงพลังกระจ้อยร่อยนั่นหน่ะหรอ? ข้าได้ปัดเป่ามันไปพร้อมกับพลังงานความมืดแล้ว แต่ว่ามันก็แค่ชั่วคราวเท่านั้นแหล่ะ หากไม่มีพลังงานความมืดคอยข่มแล้วหล่ะก็ พลังที่เธอได้รับสืบทอดมาจากผู้ปกครองวิญญาณก็จะตื่นขึ้นในไม่ช้า ”

 

จากนั้นลิงค์ก็จ้องไปที่เซลีนและสังเกตเห็นว่าเธอมีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพด้วย ผมของเธอได้เปลี่ยนจากสีดำสนิทกลายเป็นสีม่วงเข้ม ในขณะที่ผิวของเธอกลายเป็นสีขาวสดใส ออร่าปีศาจจางๆที่ปล่อยออกมาจากตัวเธอก่อนหน้านี้ก็หายไปโดยสิ้นเชิง

 

จากนั้นลิงค์ก็เปิดเปลือกตาของเซลีนอย่างระมัดระวังและเห็นว่าม่านตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้ม แม้กระทั่งจุดเด่นของเซลีนที่เป็นเขี้ยวปีศาจเล็กๆที่อยู่ในปากเธอก็หายไปเช่นกัน

 

เซลีนเริ่มที่จะหายใจเร็วขึ้น ไม่นานนัก เธอก็ตื่นขึ้น

 

“เกิดอะไรขึ้น?” เซลีนลุกขึ้นนั่งพร้อมกับเอามือของเธอแตะหน้าผากในตอนที่พูด เธอรู้สึกสับสนเล็กน้อยในตอนแรก แต่หลังจากที่เธอรู้สึกตัวว่าเธออยู่บนเตียงของลิงค์ แก้มของเธอก็แดงขึ้นมาในทันที และเธอก็รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

“เธอหมดสติไปจากนั้นฉันก็…”

 

“อย่าพูดอะไรเกี่ยวกับข้านะ!” ดาบเตือนเขา

 

“ผนึกพลังงานความมืดที่อยู่ในตัวของเธอ ตอนนี้เธอเป็นแค่คนธรรมดาแล้ว” ลิงค์หาข้ออ้างเพื่อปกปิด

 

เซลีนสามารถรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในร่างกายเธอเช่นกัน คลื่นพลังความมืดที่อยู่ในร่างกายของเธอได้หายไปอย่างสมบูรณ์ เธอมีหลายความรู้สึกผสมกันในตอนแรก ความดีใจที่ในที่สุดก็ได้จัดการกับอดีตที่มืดมนและน่ารังเกียจของเธอ และก็ความผิดหวังที่พลังที่เธอได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการพัฒนาได้หายไป

 

ลิงค์ปลอบเธอ “ในเมื่อเลือดที่มีพลังแห่งความมืดของเธอหายไปแล้ว พวกปีศาจก็จะไม่สามารถตามเธอได้อีกแล้ว ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเธอจะปลอดภัยในดินแดนนี้ และตอนนี้เธอก็ไม่จำเป็นต้องไปทางเหนือแล้ว ฉันพูดถูกไหม?”

 

“นี่นาย…เฮ้อ น่ารำคาญจริงๆ!” เซลีนไม่รู้ว่าจะแสดงอาการยังไงแล้วเดินตึงตังออกจากห้องไป

 

“ฉันจะกลับมาอย่างแน่นอน!”

 

ลิงค์ไม่ได้ขอให้เธออยู่ต่อและมองเธอหายไปในโถงทางเดิน จากนั้นเขาก็คิดอยู่พักนึงและยังคงกังวลเรื่องที่จะทิ้งเซลีนไว้คนเดียวในดินแดนนี้ จากนั้นเขาก็ออกไปหาดอเรียส

 

 

“อะไรนะ เจ้าจะไม่ให้ข้าขึ้นเหนือไปด้วยงั้นหรอ? ข้าไม่ยอมหรอกนะ!” เจ้าเสือตะโกน “ปกป้องเซลีนงั้นหรอ? โอ้ มั่นใจได้เลยว่าจะไม่มีอันตรายอะไรเกิดขึ้นกับเธอ!”

 

จากนั้นลิงค์ก็กลับไปพักผ่อนด้วยความพอใจ

 

 

ในเช้าวันต่อมา ลิงค์ก็บอกลาทุกคนในดินแดนและอัญเชิญเฟนเรียสายลมออกมาต่อหน้าผู้คนก่อนที่เขาจะขี่มันขึ้นทางเหนือ การกระทำอันอ่อนโยนนี้ทำให้ผู้อพยพและผู้ลี้ภัยที่เข้ามาใหม่มองเขาด้วยความชื่นชมและความเคารพ

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset