Advent of the Archmage – ตอนที่ 229: ตัวตนที่แท้จริง

กลุ่มไปถึงตีนหน้าผาอย่างรวดเร็ว

 

หน้าผานั้นสูงหกฟุตและมีรอยบุ๋มลึกเข้าไปสามฟุต รอยบุ๋มนี้สามารถป้องกันพื้นข้างล่างจากหิมะเอาไว้ได้ซึ่งเหลือเป็นโพลงตรงกลางเอาไว้, ก่อให้เกิดถ้ำหิมะตามธรรมชาติ มันเป็นสถานที่ที่ดีสำหรับการหลบซ่อนจากลมหนาวเป็นการชั่วคราว

 

ทุกคนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกในตอนที่พวกเขาเข้ามาในสวรรค์อันแสนอบอุ่นนี้

 

จากนั้นเฟลิน่าก็มีโอกาสระเบิดคำถามในใจของเธอออกมา เธอเข้าสู่การปะทุ, แล้วรัวคำถามออกมาเป็นชุด “ฉันอยู่ที่ไหน? พวกเจ้าเป็นใคร? แล้วไอพวกชาติชั่วนั่นอยู่ที่ไหน?”

 

แน่นอนว่าลิงค์ตอบคำถามพวกนั้นตามลำดับ

 

หลังจากได้ฟัง, เฟลิน่าก็จ้องไปที่มนุษย์รอบๆเธอด้วยความไม่เชื่อ, “พวกเจ้ามีออร่าต่อสู้แค่เลเวล 4 ดูร่างกายอันอ่อนแอของพวกเจ้าสิ! นอกจากนี้, ออร่าต่อสู้ของพวกเจ้าก็สามารถสนับสนุนทักษะการต่อสู้ได้มากที่สุดก็แค่ห้าทักษะเท่านั้น และนักเวทย์ที่อยู่ที่นี่, แม้ว่าเจ้าจะมีความแข็งแกร่งเท่ากับเลเวล 6, แต่มันดูเป็นไปไม่ได้เลยที่เจ้าจะจัดการสัตว์ประหลาดพวกนั้นได้ในที่เดียว พวกเจ้าไม่คิดงั้นหรอ?”

 

เธอได้รับประสบกับพลังในการต่อสู้ของสิ่งมีชีวิตพวกนั้นมากับตัว พวกมันจัดการได้ไม่ง่ายเอาซะเลยแล้วต่อให้ได้รับบาดแผลร้ายแรงนับไม่ถ้วนก็ยังไม่ตาย พวกมันจะลุกขึ้นมาในเวลาไม่กี่นาทีหลังจากที่ได้รับบาดเจ็บร้ายแร็ง

 

พวกมันนั้นเห็นได้ชัดว่ามีความแข็งแกร่งแค่เลเวล 6 เพียงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม,  พวกมันสามารถเอาชนะเธอที่เป็นนักรบอัจฉริยะของเผ่ามังกรได้อย่างราบคาบ, แล้วมนุษย์ที่อ่อนแอและไม่เป็นระเบียบพวกนี้สามารถเอาชนะพวกมันทั้งๆที่เธอทำไม่ได้ได้ยังไงกัน?

 

แอนนี่โกรธเคืองขึ้นมาในทันที นักรบมังกรคนนี้หยิ่งทะนงมาตั้งแต่แรกแล้วและดูเหมือนว่าจะเรียกพวกเขาว่ามนุษย์และชอบพูดคำพูดเสื่อมเสียที่ฟังแล้วระคายหู และตอนนี้, เธอยังมีข้อสงสัยถึงความแข็งแกร่งของพวกเขา มันถึงเวลาสำหรับเธอที่จะสู้กลับแล้ว

 

“เธอดูถูกพวกเราหรอ ท่านมิโรสเคยกำจัดกลูสามตัวในเวลาไม่ถึงนาทีมาแล้วนะ กลูสองตัวที่สามารถจับเธอได้ก็ถูกพวกเรากำจัดในเวลาไม่ถึง 20 วินาที ร่างของพวกมันอย่างนอนอยู่ในบ้านไม้ที่พวกเราเพิ่งออกมาอยู่เลย ถ้าเธอไม่เชื่อพวกเรา, เธอก็กลับไปดูด้วยตาของตัวเองสิ!”

 

หน่วยสอดแนมเองก็เริ่มปกป้องตัวเอง

 

ตอนแรก, พวกเขามีเจตคติที่ดีต่อนักรบมังกรหญิงคนนี้เพราะเกราะนักรบอันงดงามและรูปร่างที่ดีของเธอ อย่างไรก็ตาม, ทั้งหมดที่เธอพูดนั้นมีแต่คำพูดที่ดูถูกและไม่ไว้วางใจ มันเป็นฟางเส้นสุดท้ายแล้วในตอนที่เธอเริ่มตั้งคำถามถึงความแข็งแกร่งของท่านมิโรส

 

“องค์หญิงพูดถูก เธอจะดูถูกพวกเราก็ได้, แต่อย่ามาดูถูกท่านมิโรส! ท่านเป็นคนที่เพิ่งจะช่วยชีวิตของเธอเอาไว้นะ!”

 

“เผ่ามังกรไม่รู้จักแนวคิดของการขอบคุณหรอ?”

 

“ฉันเป็นมนุษย์ก็ได้ แต่เธอเองก็ถูกพวกกลูจับตัวได้เหมือนกัน เธอจะแข็งแกร่งแค่ไหนกันเชียว!”

 

ทุกคนเริ่มวิจารณ์พฤติกรรมที่หยิ่งทะนงของเฟลิน่า จากนั้นเธอก็ตกอยู่ในความเงียบก่อนที่จะขอโทษ, “เข้าใจแล้ว, ข้าไม่ควรพูดคำพูดพวกนั้นออกมา ข้าขอโทษ แต่ข้ายังสงสัยอยู่—พวกเจ้าทำมันได้ยังไง?”

 

แอนนี่กำลังจะพูดในตอนที่ดูเหมือนว่าเธอจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จากนั้นเธอก็หันไปมองลิงค์ที่พยักหน้าเป็นการอนุญาติ

 

จากนั้นแอนนี่ก็เอามีดที่ถูกเคลือบด้วยแร่เงินศักดิ์สิทธิ์ออกมาแล้วพูด “เธอเห็นบางสิ่งที่แตกต่างในมีดเล่มนี้ไหม? มีแร่เงินศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่พื้นผิวของมัน, ซึ่งสามารถทำลายความสามารถในการฟื้นตัวของไอกลูบ้าพวกนั้นได้ แล้วพวกเรายังมีหน้าไม้กับลูกศรที่เคลือบแร่เงินศักดิ์สิทธิ์ด้วย มันสามารถยิงลูกศรแร่เงินศักดิ์ออกมาได้สิบดอกในเวลาสี่วินาที นอกจากนี้, พวกเราก็มีนักเวทย์ที่แข็งแกร่งอยู่กับพวกเรา ดังนั้นในตอนนี้, เธอยอมรับว่าพวกเรามีพลังที่จะเอาชนะพวกกลูได้รึยังหล่ะ?

 

เฟลิน่าตรวจสอบอาวุธแร่เงินศักดิ์สิทธิ์ด้วยความสนใจ อาวุธเงินพวกนี้ดูเหมือนจะถูกห่อหุ้มเอาไว้ด้วยแสงที่เจิดจ้าและคมกริบ มันพิเศษ, อบอุ่น, แต่ก็ดุดัน

 

จากนั้นเธอก็พยักหน้า “ถ้าธาตุเงินศักดิ์สิทธิ์เป็นคำตอบที่แท้จริงสำหรับไอพวกเอ่อ…กลู, ข้าก็คงเชื่อว่าพวกเจ้าสามารถเอาชนะพวกมันได้ ข้าขอโทษอีกครั้งนะสำหรับการกระทำของข้า ขอบคุณที่ช่วยชีวิตของข้าเอาไว้”

 

ตอนนี้พอความหยิ่งทะนงของเฟลิน่าถูกยับยั้งแล้ว, ลิงค์ก็พูดออกมา “จากที่ผมรู้มา, นักรบมังกรไม่ค่อยติดต่อกับโลกภายนอก, เว้นเสียแต่ว่าจะมีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้น ถ้าคุณเชื่อใจพวกเรา, บางทีพวกเราน่าจะช่วยคุณได้นะ”

 

ภารกิจของเขาคือการขอความช่วยเหลือจากเฟลิน่าให้ได้

 

แม้ว่าเขาจะสามารถใช้ประโยชน์จากนิสัยภาคภูมิใจในตัวเองของเผ่ามังกรเพื่อขอให้เธอช่วยเป็นการตอบแทนที่ช่วยชีวิตของเธอได้, แต่มันก็คงจะทิ้งเจตคติแย่ๆให้กับฝั่งของเฟลิน่าอย่างแน่นอน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ลิงค์ไม่ต้องการ; เขาอยากให้อีกฝ่ายเสนอความช่วยเหลือด้วยความยินยอมของตัวเอง

 

ดังนั้นเขาจึงต้องทอดสะพานบางอย่างระหว่างพวกเขา

 

พอได้ยินคำพูดพวกนี้, เฟลิน่าก็เกิดลังเลขึ้นมา

 

ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในตอนที่เธอเพิ่งจะมาถึงป่าแบล็คฟอเรสหล่ะก็, เธอก็คงจะเยาะเย้ยและไม่สนใจพวกเขาอย่างแน่นอน เธออาจจะดูถูกพวกเขาแล้วมุ่งหน้าเข้าไปในป่าแบล็คฟอเรสคนเดียวก็ได้ อย่างไรก็ตาม, ตอนนี้เธอได้เห็นความน่ากลัวที่แท้จริงของนรกนี้แล้ว, ดังนั้นคู่หูที่เชื่อถือได้คงจะมีประโยชน์อย่างยิ่ง

 

มนุษย์กลุ่มนี้เพิ่งจะช่วยชีวิตของเธอเอาไว้และดูเหมือนว่าจะมีอุปกรณ์ที่เอาไว้จัดการกับพวกกลูด้วย พวกเขาสามารถให้ความช่วยเหลือได้ตลอดทาง

 

อย่างไรก็ตาม, เธอยังไม่สามารถวางความภาคภูมิใจของเธอลงได้ “ภารกิจของข้าอันตรายมากๆ พวกเจ้าอาจจะเสียชีวิตเพราะมันก็ได้…เดี๋ยวนะ”

 

จากนั้นเธอก็มีความคิดบางอย่างแล้วมองตรงไปที่ลิงค์ก่อนที่จะถาม “สถานที่แห่งนี้เป็นใจกลางของอาณาจักรพาลิค ตอนนี้อาณาจักรนอร์ตันกำลังมีสงครามกับดาร์คเอลฟ์อยู่ไม่ใช่หรอ? ในเมื่อพวกเจ้าอยู่ที่นี่, แสดงว่าพวกเจ้าอาจจะอยู่ในระหว่างทำภารกิจใช่ไหม? บางทีข้าอาจจะสามารถช่วยได้เหมือนกันนะ”

 

มันเป็นเรื่องจริงที่ลิงค์ได้ช่วยชีวิตของเธอเอาไว้ เธอคงจะโล่งใจถ้าเธอสามารถตอบแทนบุญคุณนี้ได้

 

พอได้ยินคำพูดพวกนี้, หน่วยสอดแนมก็ดีใจขึ้นมา ลิงค์เองก็ดีใจมาก; ดูเหมือนว่ามังกรหญิงคนนี้จะมีนิสัยดีกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้

 

แล้วเขาก็พูดออกมา “นักดาบรุ่งอรุณคาร์โนสถูกพวกดาร์คเอลฟ์จับตัวไป เดิมที, พวกเรามาที่นี่เพื่อช่วยเขา แต่ดูเหมือนว่า, โอกาสจะน้อยมาก”

 

ในขณะที่เขาอธิบาย, ลิงค์ก็เริ่มยิ้มอย่างขมขื่น, และหน่วยสอดแนมรอบตัวเขาเองก็เริ่มมีสีหน้าจริงจัง

 

“นักดาบรุ่งอรุณ? เจ้าหมายถึงนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรนอร์ตัน, คาร์โนสหน่ะหรอ?” เฟลิน่าตกใจ แม้ว่าเผ่ามังกรจะซ่อนตัวจากโลกภายนอก, แต่พวกเขาก็ยังสนใจเหตุการณ์สำคัญที่กำลังเกิดขึ้น, รวมทั้งการปรากฎตัวของผู้มีสวรรค์อันโดดเด่นในเผ่าพันธุ์อื่นๆด้วย ซึ่งนักดาบรุ่งอรุณก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น

 

เขามีอายุแค่สามสิบห้าปีแต่ก็มีความแข็งแกร่งถึงเลเวล 8 แล้ว เขามีสิทธิ์อย่างเต็มที่ในการที่ถูกเรียกว่านักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรนอร์ตัน, หรือแม้กระทั่งทั้งเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขาเป็นผู้มีพรสวรรค์ที่หาตัวได้ยากจริงๆ

 

แม้กระทั่งเผ่ามังกรที่มีความภาคภูมิใจในตัวเองก็ยังรู้สึกประหลาดใจกับการเติบโตของนักดาบรุ่งอรุณ อันที่จริง, เฟลิน่าอยากจะท้ายทายนักดาบรุ่งอรุณในตอนที่เธออยู่ในหมู่บ้านมังกร เธอหวังเอาไว้เสมอว่าสักวันนึงเธอจะได้ประลองกับอัจฉริยะที่กล่าวขาวกันนี้และตัดสินกันว่าใครกันแน่ที่แข็งแกร่งกว่ากัน

 

พอคิดว่าเขาน่าจะถูกจับ; พวกกลูแข่งแกร่งขนาดนั้นจริงๆหรอ?

 

ลิงค์พยักหน้าเพื่อยืนยันความสงสัยของเธอ “ผมคิดว่าไม่มีคนอื่นหรอกที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นนักรบในตำนานในทวีปฟิรุแมน”

 

เฟลิน่าตกตะลึงจริงๆ ดวงตาของเธอเปล่งรัศมีสีเงินตามธรรมชาติออกมา; ดังนั้น, ไม่ว่าใครก็สามารถสังเกตุได้อย่างง่ายดายว่าเธอกระพริบตารึเปล่า อย่างไรก็ตาม, ดวงตาของเธอในตอนนี้ไม่ได้กระพริบแต่เบิกกว้าง เธอพบว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับ

 

“แม้แต่เขาก็ยังหยุดพวกกลูไม่ได้หรอ?”

 

ลิงค์พูดต่อ “นั่นก็ไม่ใช่เรื่องจริงเหมือนกัน เขาแค่ถูกจับหลังจากที่เผชิญหน้ากับกองทัพของพวกมัน พวกเราพบว่าเขาถูกส่งไปยังสถานที่ที่ชื่อว่าป้อมโครงกระดูก, แล้วก็มีพลังอำนาจอันชั่วร้ายที่จะทำให้เขากลายเป็นปีศาจ, เปลี่ยนเขาให้เป็นบางสิ่งที่เหมือนกับกลู ถ้าผมคิดไม่ผิด, พวกมันอาจจะจับคุณไปเพื่อเหตุผลเดียวกัน”

 

“ป้อมโครงกระดูกหรอ?” เฟลิน่าจ้องลิงค์ คำพูดของลิงค์ทำให้เธอหนาวไปจนถึงสันหลัง

 

“ใช่, ฐานของดาร์คเอลฟ์ที่เป็นที่อยู่ของหัวหน้าพวกกลู พลังของเธอนั้น…ผมเกรงว่ามันจะไปถึงจุดที่มนุษย์ไม่สามารถหวังที่จะเข้าใจได้แล้ว”

 

“ความแข็งแกร่งที่ไม่สามารถเข้าใจได้หรอ? กลูอมตะรึไง?” ดูเหมือนว่าเฟลิน่าจะหมกมุ่นอยู่ในความคิดของเธอ เธอพึมพำ “ถ้านักดาบรุ่งอรุณกลายเป็นปีศาจ, นั่นก็คงจะเป็นฝันร้ายเลยหล่ะ…พวกกลูก็แข็งแกร่งมากแล้ว; หัวหน้าของพวกมันจะมีพลังแบบไหนกัน? โลกนี้มีพลังที่น่าหวาดกลัวขนาดนั้นได้ยังไง?”

 

ไม่มีใครตอบเธอ ลิงค์กับหน่วยสอดแนมยังคงเงียบอยู่

 

เฟลิน่าไม่คิดว่าคำถามของเธอจะได้รับคำตอบเช่นกัน เธอได้ข้อสรุปบางอย่างของตัวเอง, แล้วพึมพำออกมา “ราชินีบอกว่ามีพลังทำลายล้างกำลังสร้างความเสียหายให้กับสมดุลของโลกนี้อยู่ เธอส่งฉันมาที่โลกมนุษย์เพื่อสอบสวนเรื่องนี้ ป้อมโครงกระดูกน่าจะเป็นต้นตอของพลังนั้น! กลูไม่ควรมีตัวตนอยู่ในโลกนี้!”

 

ลิงค์ตั้งใจฟัง, แล้วพอเธอมาถึงจุดนี้, เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างจนปัญญา กลูไม่ควรมีตัวตนอยู่ในโลกนี้จริงๆ, แต่ถึงกระนั้น, นั่นก็เป็นพลังของอุปกรณ์ระดับพระเจ้า

 

โลกแห่งฟิรุแมนกำลังใช้พลังของมันเพื่อปฏิเสธตัวตนของอุปกรณ์ระดับพระเจ้าชิ้นนี้ เพื่อที่จะรักษาความเสถียรของอุปกรณ์ระดับพระเจ้าชิ้นนี้, ดาร์คเอลฟ์จึงได้สังเวยชีวิตอย่างน้อยหนึ่งแสนคน!

 

ทันใดนั้น, เฟลิน้าก็จ้องมาที่ลิงค์ “เจ้ารู้ตำแหน่งที่แน่นอนของป้อมโครงกระดูกไหม?”

 

“ผมพอรู้พิกัดคร่าวๆ อันที่จริง, พวกเรากำลังวางแผนบุกรุกเข้าไปในฐานของศัตรูหลังจากที่พักผ่อนหนึ่งคืน” ลิงค์ตอบ

 

ดวงตาของเฟลิน่าเบิกกว้างอีกครั้งกับคำประกาศที่กล้าหาญนี้, รัศมีสีเงินในดวงตาของเธอเปล่งประกายเจิดจ้าในขณะที่เธอพูด “ตรงเข้าไปในฐานเพื่อช่วยใครสักคนหรอ? พวกเจ้าแค่นี้เนี่ยนะ? นี่มันเป็นภารกิจฆ่าตัวตายชัดๆ!”

 

จากนั้นแอนนี่ก็พูด “นักดาบรุ่งอรุณจะกลายเป็นปีศาจไม่ได้ พวกเราไม่มีทางเลือกนอกจากทำให้ดีที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น”

 

ลิงค์ผายมืออย่างจนปัญญาแล้วพูด “ไม่มีทางเลือกในยามสงครามหรอก”

 

เฟลิน่าถอนหายใจออกมาแล้วส่ายหัวของเธออีกครั้ง “ภารกิจนี้ล้มเหลวแน่ๆ ข้าไม่อยากจะบอกกับพวกเจ้าหรอกนะ แต่พวกเจ้าอ่อนแอเกินไป และเจ้า, นักเวทย์มิโรส, หากพลังของเจ้าไม่ได้ทัดเทียมกับนักล่าปีศาจ, ข้าแนะนำให้เจ้าทิ้งภารกิจนี้ไปเถอะ อย่าเอาชีวิตไปทิ้งอย่างไร้ค่าเลย”

 

คำพูดของเธอฟังดูแปลกเล็กน้อย เธอหมายความว่ายังไงที่ว่าทัดเทียมกับนักล่าปีศาจ? นักล่าปีศาจคนนี้เป็นใครกัน?

 

ลิงค์สับสนเล็กน้อยกับคำพูดพวกนี้ เขารู้สึกราวกับว่าเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนจากที่ไหนสักแห่ง, แม้ว่าเขาจะจำไม่ได้แล้วว่ามันหมายถึงใครก็ตาม

 

นี่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้เช่นกัน หลังจากเอาชนะทราวิสมาได้, เขาก็ยุ่งมากกับการวิจัยเวทย์มนตร์หรือไม่ก็การพัฒนาดินแดนของเขา เขาไม่ได้สนใจว่าคนอื่นจะประเมินความสำเร็จของเขายังไง ถึงแม้ว่าชื่อนักล่าปีศาจอาจจะฟังดูคุ้นเคย, แต่เขาก็ไม่ได้เอามาโยงกับตัวเองเลย

 

ในอีกด้านนึง, ดวงตาของแอนนี่เบิกกว้างด้วยความร่าเริง แล้วเธอก็พูดกับเฟลิน่า “เธอบอกว่าถ้านักล่าปีศาจอยู่ที่นี่, พวกเราอาจจะมีโอกาสใช่ไหม?”

 

เฟลิน่าพยักหน้า “ถ้าเขาอยู่ที่นี่จริงๆ, ผนวกกับความแข็งแกร่งเลเวล 7 ของฉัน, มันก็อาจจะคุ้มที่จะลองนะ”

 

พอได้ยินคำพูดพวกนี้, หน่วยสอดแนมที่เหลือก็ถอนหายใจออกมาอย่างจนปัญญา นักล่าปีศาจเป็นชนชั้นสูงที่มีดินแดนเป็นของตัวเอง แล้วเขาก็เป็นจอมเวทย์ของสถาบันเวทมนตร์ระดับสูงอีสโควฟด้วย คนที่มีตำแหน่งสำคัญอย่างเขาคงจะไม่เอาชีวิตมาเสี่ยงในนรกแบบนี้อย่างแน่นอน

 

ความหวังที่มหัศจรรย์แบบนั้นคงมีแค่ในความฝันของพวกเขาเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม, ดวงตาของแอนนี่เปล่งประกายสดใสยิ่งขึ้นในขณะที่เธอหันไปหาลิงค์ สายตานี้คาดหวังมากจนลิงค์รู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย

 

“ใครคือนักล่าปีศาจ?” ลิงค์ถามเพราะเขารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ

 

“เขาเป็นใครไปไม่ได้นอกจากลอร์ดแห่งที่รกร้างเฟิร์ด” แอนนี่พูดอย่างตื่นเต้น

 

“อ้อ…” ลิงค์ลูบหัวของเขาแล้วเข้าใจสถานการณ์ขึ้นมาในทันที เขาได้รู้แล้วว่าพวกเขากำลังหมายถึงเขามาโดยตลอด ในตอนที่ชื่อนักล่าปีศาจออกมาจากปากของนักรบปีศาจ, เขาก็เชื่อมโยงมันกับบุคคลที่เป็นวีรบุรุษในประวัติศาสตร์ เขาไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเป็นเขา

 

ในเมื่อเฟลิน่าพูดถึงมันด้วยตัวเอง, ลิงค์ก็ไม่อยากปกปิดตัวตนของเขาอีกต่อไป เขาหันไปหาเฟลิน่าแล้วพูด “ผมคิดว่าผมสามารถลองดูได้นะ”

 

“นี่ไม่ตลกนะ, นักเวทย์” เฟลิน่าขมวดคิ้วในขณะที่เธอเยาะเย้ย

 

ลิงค์ยิ้มแล้วพูด “มิโรสเป็นแค่นามแฝงของผม ชื่อจริงของผมคือ…ลิงค์ โมรานี่”

 

หน่วยสอดแนมกลืนน้ำลายพอได้ยินคำพูดพวกนี้ แอนนี่มองลิงค์ด้วยความภาคภูมิใจที่เขียนอยู่บนใบหน้าขาวเนียนและน่ารักของเธอ นักเวทย์หนุ่มคนนี้เป็นฮีโร่ในใจเธอ

 

จากนั้นเฟลิน่าก็อ้าปากเหวอด้วยความตกใจอีกครั้ง มันใช้เวลาสักพักก่อนที่เธอจะพูดต่อ “ไม่แปลกใจเลย…สรุปเป็นเจ้าเองสินะ”

 

มันสมเหตุสมผลแล้วที่ทำไมพวกเขาถึงสามารถจัดการกับพวกกลูได้ เธอแค่กำลังคิดว่ามีนักเวทย์มนุษย์ที่แข็งแกร่งปรากฎตัวขึ้นมาโดยที่เผ่ามังกรไม่รู้เรื่องได้ยังไง

 

นักดาบรุ่งอรุณเป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่ามนุษย์, และเฟลิน่ายังมีความกล้าที่จะท้าดวลกับเขา อย่างไรก็ตาม, เธอไม่มีความตั้งใจที่จะทำแบบเดียวกันถ้าเธอกำลังเผชิญหน้ากับนักล่าปีศาจ ซึ่งนี่เป็นเพราะเขาเคยเอาชนะทราวิสมาแล้ว เธอคงจะไม่สามารถเอาชนะทราวิสได้ต่อให้เธอแข็งแกร่งกว่านี้อีกเท่านึง

 

ในตอนที่เธอพูดประโยคนี้, ก็มีแสงปรากฎขึ้นในทัศนวิสัยของลิงค์ มันคือภารกิจ

 

ภารกิจขั้นที่สอง: สำเร็จ

ผู้เล่นได้รับค่าโอมนิ 100 แต้ม

ภารกิจขั้นที่สาม: ลักลอบหรือใช้กำลัง?

รายละเอียดภารกิจ: ฝ่าสิ่งกีดขวางของดาร์คเอลฟ์แล้วไปให้ถึงป้อมโครงกระดูก

รางวัลภารกิจ 1 : ค่าโอมนิ 100 แต้ม

รางวัลภารกิจ 2 : พลังสายเลือดความสัมพันธ์ธาตุ (หมายเหตุ: ภายใต้ผลของพลังสายเลือดนี้, เวทย์ธาตุทั้งหมดที่ถูกร่ายโดยผู้ใช้จะแรงขึ้น 50%)

 

ลิงค์ถอนหายใจและรับภารกิจอีกครั้ง

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset