Advent of the Archmage – ตอนที่ 239: นี่คืออะไรกัน?

คุณไม่มีทางเข้าใจว่าอาเซเลียนั้นน่ากลัวขนาดไหนถ้าเกิดว่าคุณไม่เคยเผชิญหน้ากับเธอในการต่อสู้!

 

เมื่อคุณต้องสู้กับเธอ แรงกดดันอันมหาศาลจากอุปกรณ์ระดับเทพเจ้านั้นมันมากเพียงพอที่จะทำให้ทุกๆคนต้องนั่งคุกเข่าลงกับพื้นด้วยความกลัว แม้กระทั่งผู้ที่แข็งแกร่งอย่างเฟลิน่าและคาร์โนสก็ยังรู้สึกเลยว่าหัวใจของพวกเขาหนักมากในตอนที่เห็นเธอ มันราวกับว่ามีหินก้อนใหญ่มาทำลายกำลังใจของพวกเขา

 

“ไปซะ ทาสรับใช้ของข้า สอนบทเรียนให้พวกมันซะ!”เธอตะโกน

 

อาเซเลียไม่ได้ไปที่แนวหน้า กลับกัน เธอยืนอย่างระมัดระวังอยู่ที่ด้านหลังในขณะที่สั่งพวกกูลให้บุกไปข้างหน้า

 

พวกกูลนั้นรวดเร็วมาก โดยเฉพาะในตอนที่พวกมันพุ่งไปข้างหน้า พวกมันสามารถเร่งความเร็วได้ 250 ถึง 300 ฟุตต่อวินาที คนธรรมดาสามารถเห็นได้เพียงภาพหลอนจากร่างกายของพวกมันเท่านั้น

 

แต่ก่อน กูลอาจจะใช้ข้อได้เปรียบนี้ในการฆ่าทหารชาวมุนษย์ไปมากมาย ยังไงก็ตาม ในครั้งนี้มันคงไม่ได้ง่ายเหมือนกับครั้งก่อนๆ

 

ในตอนที่กูลที่เร็วที่สุดได้ไปถึงครึ่งทางของเป้าหมาย คลื่นลมก็ได้ปรากฏขึ้นที่ข้างๆพวกมัน คลื่นลมนั้นกว้าง6ฟุตและยาว15ฟุต ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า

 

ตู้ม!ตู้ม!พวกกูลไม่ได้เตรียมตัวรับการโจมตีนี้เลย กูลที่เร็วที่สุดเสียหลักและปลิวออกจากทิศทางที่เขาพุ่งอยู่

 

จากนั้นเขาก็กระแทกเข้ากับกูลอีกประมาณ5ตัวและทำให้พวกมันเสียหลักเช่นกัน

 

หลังจากนั้น เสียงของลูกศรที่ถูกยิงออกจากหน้าไม้ธาตุเงินศักดิ์สิทธ์ก็ดังขึ้นทั่วชั้นบรรยากาศ หน่วยสอดแนมนั้นได้ร่วมมือต่อสู้กับลิงค์มาหลายครั้งแล้วและได้สร้างเคมีบางอย่างขึ้นในจังหวะการต่อสู้ของเขา พวกเขาสามารถหาโอกาสที่เหมาะสมในการยิงลูกศร จัดการกูลที่ถูกทำให้ลอยไปในอากาศโดยการโจมตีของลิงค์ได้อย่างเหมาะสม

 

ในตอนที่กูลตกลงพื้น พวกมันก็ได้บาดเจ็บสาหัสและสูญเสียความเร็วของพวกมันไปแล้ว

 

“ฆ่ามันให้หมด!”

 

ความสามารถในการหาโอกาสที่เหมาะสมในการโจมตีของคาร์โนสเองก็มีประโยชน์มากๆในสถานการณ์นี้ ครึ่งวินาทีก่อนที่กูลตัวแรกจะตกลงถึงพื้น เขาก็ได้พุ่งเข้ามาถึงใจกลางของสนามรบแล้ว ในตอนที่กูลมาถึงพื้นและกำลังพยายามที่จะลุกขึ้น คาร์โนสก็ได้ชักดาบของเขาออกมาต่อหน้าพวกมันแล้ว

 

ด้วยการเหวี่ยงดาบอย่างสวยงาม หัวของกูลก็ถูกตัดออกอย่างไร้ความปราณี

 

กูลนั้นมีพลังชีวิตที่แข็งแกร่งมาก ยังไงก็ตาม นั้นก็เป็นตอนที่ร่างกายของพวกมันยังสมบูรณ์อยู่ เมื่อพวกมันไม่มีหัว การทำงานและการประสานงานของอวัยวะหลักก็ไร้ประโยชน์ลงในทันที

 

ร่ายกายของคาร์โนสนั้นเหมือนดั่งลมกรด เขาหมุนตัวหลบการโจมตีในขณะที่เขาตัดหัวของกูลที่ขวางทางของเขาไปด้วย

 

การเคลื่อนไหวของเขานั้นสอดคล้องกันมาก การหลบและการโจมตีนั้นผสานเข้าด้วยกันอย่างนุ่มนวล ทำให้เกิดเป็นการร่ายรำแห่งสงครามอันงดงาม

 

ทักษะของออร่าต่อสู้ของเขาก็เรียกได้ว่าแทบจะสมบูรณ์เช่นกัน ก่อนที่เขาจะเหวี่ยงดาบนั้นไม่มีร่องรอยของออร่าต่อสู้อยู่บนมันเลย มันอยู่ที่เดิมแม้กระทั่งหลังจากที่เขาเหวี่ยงดาบแล้ว มันมีแค่ในจังหวะที่ดาบของเขาสัมผัสเข้ากับศัตรูเท่านั้นที่เขาจะปล่อยออร่าต่อสู้ออกมา เขาปล่อยพลังของเขาออกมาในทันที

 

นักรบคนนี้รู้วิธีจัดการพลังงานของเขาอย่างแม่นยำในขณะที่เขาก็รักษามันเอาไว้ในเวลาเดียวกัน!

 

ภายในเวลา 3 วินาที คาร์โนสเหวี่ยงดาบไป 5 ครั้ง มันไม่มีท่าดาบที่สวยงามหรือสกิลมาเกี่ยวข้องเลย แต่มันกลับมีประสิทธิภาพมากๆ เขาตัดหัวกูล 1 ตัวทุกครั้งที่เขาเหวี่ยงดาบของเขาและก็ฆ่ากูลทั้งหมดที่ขวางทางของเขา

 

“หึ หึ คาร์โนส เจ้าเป็นนักรบที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง” ตาของอาเซเลียเป็นประกายในตอนที่เธอมองคาร์โนสต่อสู้ จากนั้นเธอหันไปหาบรูธตันและพูด “บรูธตันที่รัก ช่วยไปหยุดการอาละวาดอันซุกซนของเขาก่อนที่เขาจะก่อปัญหาไปมากกว่านี้ที”

 

บรูธตันพยักหน้าพร้อมกับออร่าต่อสู้ปีศาจของเขาที่แผ่กระจายออกมา ร่างกายของเขาถูกห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงสีดำในทันที และดาบคู่ที่ยาว 9 ฟุตของเขาก็กลายเป็นเสาพลังงานธาตุมืดอันบริสุทธ์ในทันที

 

“ตายซะ นักรบ!”ปีศาจยักษ์ทำการโจมตีใส่คาร์โนส

 

ยังไงก็ตาม ในตอนที่เขาไปได้แค่ครึ่งทาง เงาสีแดงเพลิงก็ได้มขวางเส้นทางของเขา ซึ่งนั่นก็คือนักรบมังกรแดงเฟลิน่า

 

โดยพื้นฐานเธอนั้นมีความสูงมากกว่า 5.7 ฟุต ซึ่งมันเป็นความสูงอันน่าตกใจเมื่อเทียบกับผู้หญิงชาวมนุษย์  ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังมีรูปร่างทางกายภาพที่แข็งแกร่ง เมื่อเธอมายืนอยู่ต่อหน้าบรูธตัน เธอนั้นได้เพิ่มส่วนสูงของเธอเป็น 10.5 ฟุตและปกคลุมตัวเองด้วยออร่าต้องสู้มังกรสีชาด เธอพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับเหวี่ยงกรงเล็บมังกรของเธอด้วยความโกรธ ทำให้เกิดเป็นร่องรอยสีแดงเพลิงในทางที่มันผ่าน

 

“ไอปีศาจ คู่ต่อสู้ของแกคือข้าต่างหากหล่ะ!” หลังจากเพิ่มขนาดตัว เสียงของเฟลิน่าก็สดใสและดังขึ้นเป็นพิเศษ

 

บรูธตันผงะและป้องกันการโจมตีด้วยดาบของเขาในทันที

 

เคร้ง!เสียงการปะทะกันของเหล็กทั้งสองนั้นสามารถได้ยินได้จากการปะทะกันของออร่าต่อสู้ของทั้งสอง  ทั้งบรูธตันและเฟลิน่าต่างก็ถอยออกมา ดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งคู่จะเสมอกัน

 

อาเซเลียจ้องมาและดวงตาของเธอก็ยิ่งเป็นประกายมากขึ้น “นักรบที่แข็งแกร่งอีกคน ดูเหมือนว่าวันนี้จะเป็นวันแห่งการเก็บเกี่ยวนะ”

 

ในตอนนี้ มันดูเหมือนว่าพวกเขาจะมาถึงทางตันแล้ว

 

คาร์โนสนั้นได้ผนึกกำลังสู้กับพวกกูลอยู่อย่างสมบูรณ์ในขณะที่ลิงค์นั้นยุ่งอยู่กับการแทรกแซงการต่อสู้ด้วยสนามพลังเวกเตอร์ ในอีกด้านนึง หน่วยลาดตระเวก็จะเป็นคนปิดฉาก ในขณะที่บรูธตันก็ติดอยู่กับการต่อสู้อันดุเดือดกับเฟลิน่า

 

นักรบเลเวล 7 ทั้งสองนั้นดูเหมือนกับว่าจะมีออร่าต่อสู้ไม่จำกัด พวกเขาปล่อยออร่าต่อสู้ออกมาอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องคิดเลย หลายครั้ง พวกกูลได้เข้ามาใกล้บรูธตันเพื่อที่จะให้ความช่วยเหลือ ยังไงก็ตาม ก่อนที่มันจะได้ช่วยเหลือใดๆ มันก็ได้บาดเจ็บสาหัสและถูกเป่าให้กระเด็นโดยออร่าต่อสู้ บางส่วนของพวกมันนั้นมีชิ้นส่วนของร่างกายที่หลุดไปเพราะคลื่นกระแทกอันน่ากลัวด้วยซ้ำ

 

หลังจากพยายามอยู่หลายครั้ง แม้กระทั่งพวกกูลก็ยังต้องยอมแพ้ในการที่จะมายุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้อันไร้สาระพวกนี้

 

ในอีกด้านหนึ่ง คาร์โนสนั้นฆ่าพวกกูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก

 

ก่อนหน้านี้ ในตอนที่เขาต่อสู้กับพวกกูล ไม่มีใครกล้าที่จะยั่วเขาและวิ่งหนีในทันทีที่พวกมันเห็นเขาในสนามรบ ยังไงก็ตาม ตอนนี้พวกกูลได้พุ่งตรงมายังเขา

 

โดยปกติแล้ว เขาจะบดขยี้พวกมันด้วยพละกำลังอันมหาศาลของเขา

 

พวกกูลถูกตัดศีรษะอย่างเป็นระบบราวกับถูกส่งเข้าโรงเชือด หัวของพวกเขากลิ้งกับพื้นอย่างไร้ชีวิต ในขณะที่ร่างไร้ศีรษะของพวกเขายังคงดิ้นและล้มลงไปกับพื้น  ฉากนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังของนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์

 

ภายในเวลา1นาที คาร์โนสตัดหัวกูลไป 15 ตัว ซึ่งนี่หมายความว่าอัตราเฉลี่ยก็คือกูล 1 ตัวในทุก 4 วินาที

 

นี่เป็นผลลัพธ์ที่น่าตกใจ และหน่วยสอดแนมทุกคนที่อยู่รอบๆเขาต่างก็จ้องมองฉากนี้ด้วยความตกใจ พวกเขาได้ใช้ลูกธนูของพวกเขาหมดแล้วและตอนนี้ก็กำลังคุ้มกันหลังของคาร์โนสด้วยมีดธาตุเงินศักดิ์สิทธ์ที่อยู่ในมือ

 

ในอีกด้านหนึ่ง คาร์โนสรู้ดีว่านี่ไม่ใช่เพราะพละกำลังของเขาเพียงอย่างเดียว เขารู้ว่าเหตุผลที่เขาฆ่าพวกกูลได้อย่างง่ายดายนั้นส่วนมากมันจะมาจากสนามพลังเวทย์อันซับซ้อนที่ปรากฏขึ้นมาเป็นบางครั้ง

 

แม้ว่าสนามพลังนี้จะไม่ค่อยเด่นนัก แต่มันมักจะโผล่มาในช่วงที่เหมาะสมที่สุด ส่งผลให้พวกกูลเสียหลักกลางอากาศ มันสามารถพูดได้เลยว่าพวกกูลนั้นบินมาหาดาบของเขาเองด้วยซ้ำ

 

สถานการณ์ในตอนนี้ดีมากๆ ยังไงก็ตาม ลิงค์ที่ตอนนี้ซ่อนตัวอยู่ภายในเงานั้นรู้สึกได้แค่เพียงความสิ้นหวังและความกังวล ตาของเขาจ้องไปที่อาเซเลีย ผู้ซึ่งไม่ได้ขยับเลยจนถึงตอนนี้ เขานั้นกำลังหาวิธีตอบโต้อยู่ภายในใจ

 

ยังไงก็ตาม เขานั้นแทบจะไม่เหลือตัวเลือกแล้ว ลิงค์นั้นไม่ใช่พระเจ้าและกำลังจะถึงขีดจำกัดของเขาแล้ว

 

นี่คือจุดจบแล้วงั้นเหรอ? ลิงค์ขมวดคิ้วแน่น

 

ยังไงก็ตาม อยู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงใบไม้ไหวจากระยะไกล จากนั้นเขาก็ให้ความสนใจกับมันมากขึ้น หลังจากที่ฟังเสียงอยู่พักนึง รอยยิ้มก็ผุดขึ้นมาบนใบหน้าของเขา แวนซ์ตาแก่บ้านั่น…พอมาคิดว่าเขาทำอย่างนี้โดยไม่ปรึกษากับฉันก่อน ฉันจะต้องคุยกับเขาแน่เมื่อฉันกลับไป  

 

เมื่อมีผู้ช่วยเหลือที่แข็งแกร่งกำลังมา สิ่งเดียวที่เขาต้องทำในตอนนี้ก็คือการยื้อเวลา

 

อาเซเลียเองก็เข้าใจถึงเหตุผลของทางตันนี้แล้วเหมือนกัน

 

เธอถอนหายใจ “นี่ไม่ดีแน่ ทาสสุดที่รักของฉันกำลังถูกฆ่ามากขึ้นเรื่อยๆ  ลิงค์ที่รักดูเหมือนว่าข้าจะต้องลงโทษเจ้าเป็นการส่วนตัวซะแล้วสิ”

 

เมื่อเธอพูดจบ เธอก็หันหน้าไปทางต้นไม้ที่อยู่ข้างๆกับสนามรบแล้วก็หัวเราะ “เจ้าจะออกมาด้วยตัวเอง หรือว่าเจ้าจะให้ข้าลากเจ้าออกมากันล่ะ?”

 

เวทย์ไร้ร่องรอยของลิงค์นั้นไร้ผลกับอาเซเลียผู้กวัดแกว่งอุปกรณ์ระดับเทพเจ้า ยังไงก็ตาม เขานั้นก็ไม่สามารถยอมแพ้ได้ เขาขยับร่างกายของเขาและไปซ่อนที่ต้นไม้ต้นอื่น

 

“เด็กหนุ่มตัวเล็กๆแค่คนเดียวไม่เพียงพอต่อการป้องกันลูกๆข้องข้าหรอก”

 

อาเซเลียยิ้มอีกครั้งก่อนที่ร่างกายของเธอจะหายไปจากตรงนั้นในทันที ในเวลาต่อมา เธอได้ปรากฏตัวขึ้นที่ขอบต้นไม้ เหวี่ยงแส้ของเธออย่างน่ากลัว จากนั้นเธอก็จ้องไปทางลิงค์ก่อนที่จะโจมตีไปเต็มแรง

 

มันไม่มีที่ให้หลบจากการโจมตีของอุปรณ์ระดับเทพเจ้าหรอกนะ!

 

แกร๊ง! อยู่ๆก็มีเงามารับการโจมตีของอสรพิษทมิฬ นั่นคือคาร์โนส เขารีบพุ่งกลับมาอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสำคัญเพื่อปกป้องลิงค์จากการโจมตีของอาเซเลีย

 

ยังไงก็ตามเขาก็ต้องรับผลของการกระทำนี้

 

ดาบโคเรี่ยมในมือของเขานั้นทนทานมากๆ ยังไงก็ตาม มันก็ยังเป็นวัตถุดิบของโลกคนเป็น หลังจากป้องกันการโจมตี รอยแตกคล้ายกับใยแมงมุมก็ปรากฏขึ้นบนดาบ มันดูราวกับว่ามันสามารถแตกได้ทุกเวลาเลย

 

คาร์โนสมองไปที่ดาบด้วยความตกใจและหันกลับไปมองอาเซเลียอย่างรวดเร็ว ในขณะที่กำลังตั้งท่าป้องกันเขาก็พูด “ท่านนักเวทย์ โปรดถอยไปเถิด ข้าจะหยุดเธอเอาไว้เอง!”

 

“หยุดข้า?เจ้ามีคุณสมบัตินั้นด้วยหรอ?” อาเซเลียหัวเราะพร้อมกับปล่อยการโจมตีมาอีกรอบ

 

คาร์โนสยกดาบขึ้นป้องกันการโจมตี

 

ด้วยเสียงของโลหะที่คมชัด ดาบโคเรี่ยมก็แตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในทันที จากนั้นแส้ก็ยังคงพุ่งต่อไปเต็มแรงและโดนเข้ากับร่างกายของคาร์โนส

 

คาร์โนสอ้วกออกมาเป็นเลือดในทันทีก่อนที่ร่างกายของเขาจะกระตุกอย่างรุนแรง จากนั้นเขาก็ล้มลงกับพื้น เพียงแค่การโจมตีเดียวจากอุปกรณ์ระดับเทพเจ้าก็ทำให้เขาปางตายได้แล้ว

 

“คาร์โนสที่รัก เจ้านี่มันน่ารำคาญเสียจริง ข้าจะต้องลงโทษเจ้าซักหน่อยแล้วหล่ะ”

 

อาเซเลียยิ้มในขณะที่ฟาดแส้ของเธอ ด้วยการกระทำนี้ ปลายของแส้ได้กลายร่างเป็นหัวของงู งูได้อ้าปากของมันออกเผยให้เห็นเขี้ยวพิษ ที่ส่องแสงแวววาวในความมืด จากนั้นมันก็พุ่งตรงไปหาคาร์โนส

 

“ปีศาจ เจ้าต้องผ่านข้าไปก่อน!” ด้วยเสียงตะโกนดังสนั่น เฟลิน่าก็ปลดปล่อยตัวเองออกจากกำมือของบรูธตันและพุ่งมาหาอาเซเลียจากด้านหลัง

 

พรึ่บ!อาเซเลียดึงแส้ของเธอกลับมา มันเป็นความเร็วที่สูงมากๆ

 

เฟลิน่าผงะกับความเร็วการตอบสนองของเธอและยกกรงเล็บมังกรของเธอขึ้นมาป้องกันตัวเองในทันที

 

แกร๊ง!กรงเล็บมังกรแตกเป็นเสี่ยงๆพร้อมกับตามมาด้วยเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของเฟลิน่า มือของเธอโชกไปด้วยเลือดและสั่นอย่างรุนแรงจากแรงกระแทก

 

เฟลิน่าสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ทั้งหมดของเธอด้วยการโจมตีเดียว

 

บรูธตันมาถึงในอีกไม่ช้า เขาเหวี่ยงดาบยักษ์ในมือเขาอย่างรุนแรง ดาบนั้นโดนเข้าตรงที่หัวของเฟลิน่า จากนั้นเฟลิน่าก็อ้วกออกมาเป็นเลือดจากแรงกระแทกอันหนักหน่วงก่อนที่เธอจะหมดสติไป

 

หน่วยสอดแนมต่างหวาดกลัวเมื่อเห็นฉากนี้และตัดสินใจถอยไปตั้งหลักป้องกันตามสัญชาติญาณ ยังไงก็ตาม แม้ว่าพวกกูลจะไม่สามารถจัดการกับคาร์โนสได้ แต่พวกเขาก็สามารถจัดการกับหน่วยสอดแนมเลเวล 4 ได้ ในเวลาไม่กี่วินาที พวกหน่วยสอดแนมก็ได้พ่ายแพ้ให้กับพวกกูล และพวกเขาก็นอนลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่รึเปล่าหลังจากโดนโจมตีอย่างรุนแรง แอนนี่เป็นเพียงคนเดียวที่โชคดีพอที่จะวิ่งมาหาลิงค์ได้ก่อนที่กูลจะมาถึงตัวเธอ

 

เมื่อเห็นฉากพวกนี้ ลิงค์ก็ถอนหายใจอย่างหมดหนทางและพูด “ปล่อยพวกเขาไปแล้วฉันจะกลับไปกับเธอเอง”

 

“โอ้?บอกเหตุผลให้ข้าฟังซิ” อาเซเลียจ้องลิงค์ด้วยความสนใจ

 

ลิงค์พูดอย่างใจเย็น “อสรพิษทมิฬสามารถทำให้ฉันกลายเป็นทาสของเธอได้ แต่ว่า มันจะเอาความรู้และสติสัมปชัญญะไปจากสมองของฉันด้วย แต่ถ้าเธอปล่อยพวกเขาไป ฉันขอสาบานในนามของสตรีแห่งความมืดเลยว่าจะรับใช้พวกดาร์กเอลฟ์”

 

“โอ้?นั่นเป็นความคิดที่ดีมาก”อาเซเลียทึ่งอย่างเห็นได้ชัด

 

ถ้านักเวทย์กลายเป็นทาสที่ไร้จิตใจของเธอ เขาก็จะหมดประโยชน์อย่างแท้จริง แต่ถ้าเกิดว่าเขายอมรับที่จะรับใช้เธอ ดาร์กเอลฟ์ก็จะได้นักเวทย์ที่มีความเป็นไปได้อันนับไม่ถ้วนเข้าร่วมด้วย ในการที่จะได้นักเวทย์ที่มีความสามารถขนาดนี้แลกกับชีวิตของนักรบเพียงไม่กี่คนนั้นเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่ดีมากๆ

 

คาร์โนสตะโกน”ไม่ นายท่าน!ท่านจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!”

 

แอนนี่นั้นมีปฏิกิริยาอันรุนแรงที่สุด เธอหยิบมีดออกมาและพร้อมที่จะแทงเข้าไปที่หัวใจของตัวเอง ลิงค์จะไม่มีข้อต่อรองอีกต่อไปถ้าพวกเขาตายทั้งหมด

 

มันจะต้องเป็นหายนะแน่ถ้าลิงค์ไปเป็นนักเวทย์ของพวกดาร์กเอลฟ์ เทียบกันแล้ว ชีวิตของเธอนั้นก็ไม่มีค่าอีกต่อไป

 

ยังไงก็ตาม ในตอนที่เธอกำลังพยายามที่จะฆ่าตัวตาย อาเซเลียก็ได้หยุดเธอซะก่อน

 

อาเซเลียจับมือของแอนนี่อย่างอ่อนโยนและพูด”ที่รักของข้า เจ้าจะตายไม่ได้ ถ้าเจ้าตายตอนนี้ ลิงค์อาจจะไม่อยากไปกับข้าอีกแล้วก็ได้ ”

 

แอนนี่จ้องไปที่ลิงค์ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาและส่ายหัวของเธอ

 

คาร์โนสจ้องไปบนท้องฟ้าและทุบหมัดของเขาลงบนพื้นดินด้วยแรงที่เหลืออยู่ทั้งหมด เสียงของเขานั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความไร้กำลัง

 

ยังไงก็ตาม อาเซเลียนั้นสนใจเพียงแค่ลิงค์ นักเวทย์นั้นเป็นตัวทดลองชั้นเยี่ยม ถ้าเกิดว่าสมบัติอย่างนั้นตกเป็นของดาร์กเอลฟ์ มันก็จะเป็นการเก็บเกี่ยวที่ดีที่สุดของเธอเลย

 

“สาบานสิ” อาเซเลียจ้องลิงค์อย่างคมกริบ

 

“ปล่อยพวกเขาไปก่อน!” เสียงของลิงค์สงบนิ่ง และใบหน้าของเขาก็ไม่มีความกลัวเลย ไม่มีใครรู้ได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

 

หลังจากผ่านไป 10 วินาที ในที่สุดอาเซเลียก็ยอมเห็นด้วยกับคำขอร้องของลิงค์ ตราบใดที่นักเวทย์เต็มใจที่จะกลับไปป้อมโครงกระดูกกับเธอ เธอก็พึงพอใจ จากนั้นเธอก็จ้องไปที่ลิงค์อยางใกล้ชิดเผื่อในกรณีที่เขามีอะไรซ่อนเอาไว้อีก

 

”โอเค…”

 

ก่อนที่เธอจะพูดจบ หญิงสาวที่สวมชุดรบสีเขียวที่มีรูปร่างอันสวยงามก็ได้ปรากฏขึ้นในแบล็คฟอเรส เสียงอันสดใสดังออกมาจากร่างกายของเธอ “พบมาสเตอร์แล้ว….ระดับ, ความอันตรายของมาสเตอร์:5ดาว เริ่มต้นภารกิจช่วยเหลือ!”

 

“นี่มันอะไรกัน?หุ่นเชิดเวทมนตร์?” อาเซเลียตกใจ

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset