ลิงค์ได้เจอเข้ากับปัญหาจดหมายเวทมนตร์แห่งความมืดไม่นานหลังจากที่เขากลับมายังดินแดน เขาไม่คุ้นเคยกับสถานการณ์ในตอนนี้ของดินแดนเลย
พอได้ยินว่าดอเรียสออกไปลาดตระเวณ, เขาก็ตกใจเล็กน้อย แทนที่จะรีบด่วนสรุป, เขาก็ถามต่อ “ดอเรียสออกไปบ่อยไหม?”
“เขาออกไปลาดตระเวนเป็นพักๆนะครับ, โดยเฉพาะในตอนที่เขาอิ่ม แล้วเมื่อกี้เขาก็เพิ่งกินวัวไปตัวนึง” ทหารไม่ได้สังเกตุเห็นอะไรผิดปกติ
โอเค, ในเมื่อดอเรียสไม่อยู่ที่นี่, ลิงค์ก็เหลือที่พึ่งแค่เวทมนตร์เท่านั้นในการไล่ตามมิลด้าให้ทัน โชคดีที่, เธอเพิ่งออกไปได้แค่ห้านาที เธอไม่น่าจะไปได้ไกลนัก พอคิดแบบนี้, ลิงค์ก็เดินตรงไปยังประตูตะวันออกของค่าย ณ เทือกเขามอดไหม้ หลังจากที่เดินไปได้สักพัก, เขาก็เห็นลูซี่กำลังเดินมาหาจากเขตชุมชนที่อยู่นอกค่าย แล้วเขาก็เรียกเธอ”
“นายท่านกลับมาแล้วหรอคะ?” ลูซี่มองด้วยความดีใจ
“ใช่ ฉันเพิ่งกลับมาเมื่อไม่นานนี้หน่ะ ฉันอยากให้เธอช่วยอะไรสักหน่อย!” ลิงค์พูดอย่างจริงจัง
“บอกมาได้เลยค่ะ” ลูซี่ก็เริ่มจริงจังตาม
“ไปหาแจ็คเกอร์แล้วบอกให้เขาเพิ่มการลาดตระเวนในเขตนักเวทย์ขึ้นในคืนนี้ บอกเขาว่าคืนนี้อาจจะมีคนมาโจมตีนักเวทย์ เขาต้องไม่ปล่อยให้มีอะไรเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด!”
การโจมตีนั้นเป็นการคาดเดาของลิงค์และอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้แต่กันไว้ก็ดีกว่ามาเสียใจทีหลัง
ลูซี่มีสีหน้าตึงเครียด เธอพยักหน้าแล้วพูด “ไม่ต้องห่วงค่ะ จะไม่มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นอย่างแน่นอน!”
“ดี”
ลิงค์มุ่งหน้าไปยังประตูตะวันออกต่อ ในตอนที่เขาผ่านกระท่อม, เขาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยอย่างกระทันหัน
“ลิงค์, นี่, ทางนี้”
เขาหันไปเห็นเซลีน เธอกำลังพิงหน้าต่างกระท่อมพร้อมกับโผล่หัวออกมา, แล้วโบกมือให้เขา จากการบดบังของหน้าต่าง, และด้วยใบหน้าของเธอที่โผล่มาแค่ครึ่งเดียวนั้น, เธอดูเหมือนกับโจรเลย
ลิงค์พบว่ามันเป็นภาพที่ตลกดี ความเครียดของเขาลดลงไปเล็กน้อย ในขณะที่เดินไปทางหน้าต่าง, เขาก็หัวเราะแล้วพูด “เธอกำลังทำอะไรหน่ะ?”
เซลีนไม่มีอารมณ์ตลก เธอวิ่งไปที่ประตูแล้วเปิดมันพร้อมกับส่งเสียง, “เข้ามาสิ ฉันมีบางอย่างจะบอกนาย”
ลิงค์มีปัญหาอยู่ เขากำลังจะออกไปตามมิลด้ากลับมา, ดังนั้นเขาจึงพูดขึ้น “รอแปบได้ไหม? ฉันกำลังยุ่งอยู่หน่ะ”
เซลีนเบ้ปากไม่พอใจ “แต่เรื่องนี้ก็สำคัญเหมือนกันนะ”
โอเค, ก็ได้ ลิงค์พักเรื่ององค์หญิงเอาไว้ก่อน เขาเข้าไปในกระท่อม “โอเค, แต่ฉันให้เธอได้แค่ห้านาทีเท่านั้นนะ”
“ห้านาทีก็พอแล้ว” รอยยิ้มเบ่งบานบนใบหน้าของเซลีน เธอดึงลิงคเข้ามาในมุมๆหนึ่งแล้วเอาคทาพื้นฐานออกมา เธอรวบรวมสมาธิ, แล้วคทาก็เปล่งแสงสีขาวออกมาในทันที; ซึ่งมันเป็นออร่าที่แปลกประหลาดมาก
ลิงค์หวั่นไหว เขาได้รับผลกระทบจากมันจริงๆ
มีเสียงดังขึ้นในหัวของเขา มันคือวิญญาณของดาบลอร์ดพายุ
“พรสวรรค์ทางสายเลือดของเด็กสาวคนนี้กำลังตื่นขึ้น นี่คือพลังลึกลับ”
ลิงค์ตบไหล่ของเซลีนเบาๆแล้วชื่นชม “เก่งมากเลยนี่”
“ฮึ, มันไม่ใช่แค่นั้น” เซลีนยังกังวลอยู่ เธอพูด “ประเด็นหลักมันไม่ใช่พลัง มันคือการเปลี่ยนแปลงที่มันนำมาต่างหากเล่า ด้วยเหตุผลบางอย่าง, ช่วงไม่กี่วันมานี้ฉันฝันร้ายตลอดเลย”
“ฝันร้ายหรอ?” หัวใจของลิงค์เต้นรัว
มีสองสถานการณ์ถ้าคนๆนึงฝันร้ายอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์แรกคือปัญหาด้านสุขภาพ แม้ว่าจะหลับอยู่, สมองก็ยังได้รับสัญญาณอ่อนๆจากร่างกายและตอบสนองด้วยฝันร้าย ซึ่งนี่เห็นได้ตามปกติในหมู่คนทั่วไป
ส่วนสถานการณ์ที่สองก็คือวิญญาณของคนๆนั้นมีลางสังหรณ์ถึงเรื่องเลวร้าย, แต่ด้วยความที่อนาคตมักจะเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ, มันจึงสร้างภาพที่น่ากลัวและไม่ชัดเจนในระหว่างที่หลับ ซึ่งนี่มักจะเกิดขึ้นกับนักเวทย์ บางคนที่มีพรสวรรค์พิเศษจะสัมผัสเรื่องแบบนี้ได้ไวมาก
ก่อนที่ปีศาจเลเวล 8 ทาร์วิสจะหลุดออกมา, ลิงค์กับเอร์เลล่าก็ฝันร้ายเหมือนกัน ซึ่งความจริงได้พิสูจน์แล้วว่าพวกมันถูกต้อง
เซลีนไม่มีปัญหาด้านสุขภาพอย่างเห็นได้ชัด แก้มของเธอเป็นสีแดง, และผิวของเธอก็สดใส ร่างกายของเธออวบอั๋น, และดวงตาของเธอก็เป็นประกาย เธอสุขภาพดีมากๆ, ดังนั้นมันต้องเป็นสถานการณ์แบบที่สองแน่ๆ
เธอยังฝันร้ายอยู่เรื่อยๆ เธอพูดอย่างกังวล “ฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆฉันถึงมีพลังนี้ได้ นายคิดว่าฝันร้ายพวกนี้มีอะไรเกี่ยวข้องกับมันไหม?”
ในสายตาของเซลีน ลิงค์เป็นผู้รอบรู้ด้านเวทมนตร์ และพวกเขาก็สนิทกันมากๆด้วย, ดังนั้นเธอจึงตั้งใจมาหาเขาเพื่อปรึกษาเรื่องส่วนตัวอย่างการฝันร้าย
ลิงค์ปลอบเธอ “มันน่าจะมีความเกี่ยวข้องบางอย่างนะ, แต่ไม่น่าจะใช่ปัญหาใหญ่หรอก บอกฉันมาสิ, เธอฝันว่าอะไร?”
“พวกมันน่ากลัวมากเลย” ดวงตาของเซลีนหวาดกลัว “ฉันฝันว่าเทือกเขามอดไหม้กลายเป็นทะเลเลือด มีศพนอนกองอยู่ทั่วทุกที่ มีกลุ่มเงาดำๆวิ่งไปทั่วเลย พวกมันเร็วมากและฆ่าทุกคนที่พวกมันเห็น มีเงานึงเห็นฉัน, ฉันก็เลยวิ่งหนี, แต่ว่าฉันหนีไม่ทัน แล้วฉันก็เห็นนายด้วย, ตัวนายชุ่มไปด้วยเลือด นายกำลังกรีดร้อง, และลูซี่ก็นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น เธอลืมตาอยู่, แต่ว่าเธอตายไปแล้ว…ฮืออ, ฉันพูดต่อไม่ได้แล้ว!”
ขณะที่เธอพูด, เซลีนก็รู้สึกสะเทือนใจกับฉากอันน่ากลัวในฝันร้ายของเธอ น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเธอ
ลิงค์เสียวสันหลังขึ้นมา พอได้เห็นเซลีนเป็นแบบนี้, เขาก็รู้สึกอยากมอบความอ่อนโยนให้เธอ เขาดึงเธอเข้ามากอดโดยไม่ได้ตั้งใจแล้วพึมพำออกมา “ไม่เป็นไรนะ, มันก็แค่ความฝัน ฉันอยู่กับเธอแล้วนี่ไง”
เซลีนพยักหน้าเล็กน้อย
ลิงค์ดูใจเย็น, แต่ภายในใจเขานั้นตรงข้ามกันเลย ในหัวของเขา, เสียงของดาบลอร์ดพายุดังขึ้นอีกครั้ง
“ไอหนู, สายเลือดที่ถูกครอบงำด้วยวิญญาณนั้นมีความสามารถในการทำนายที่แม่นยำมากๆ ความฝันนี้อาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้นะ”
“ผมรู้” ในฐานะนักเวทย์, เขาคงจะมองข้ามลางสังหรณ์ถึงอันตรายที่ชัดเจนแบบนี้ไม่ได้ พอคิดอยู่พักนึง, ลิงค์ก็พูดออกมา “เซลีน, ไปกันเถอะ ฉันจะพาเธอไปหาคนๆนึง”
ตอนแรก, เขาอยากจะออกไปตามหามิลด้า แต่พอได้ฟังเรื่องความฝันนี้, เขาก็ไม่กล้าทิ้งเซลีนเอาไว้ในเทือกเขามอดไหม้คนเดียว
โดยไม่คิดอะไรให้มากนัก, เซลีนก็พยักหน้า
ลิงค์พาเซลีนออกมาจากกระท่อมแล้ววิ่งไปหาแจ็คเกอร์ ดูเหมือนว่าชายร่างใหญ่คนนี้จะได้รับข้อความจากลูซี่แล้วและกำลังยุ่งอยู่กับการจัดการการป้องกันเทือกเขามอดไหม้ พอเห็นลิงค์, เขาก็เดินมาหาและทำความเคารพอย่างจริงจัง “นายท่าน”
ขณะที่มองเขา, ลิงค์ก็ตระหนักได้ว่าออร่าต่อสู้ของแจ็คเกอร์นั้นได้ขึ้นไปถึงเลเวล 5 แล้ว ศิลปะการต่อสู้ระดับอีพิคนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ภายในช่วงสั้นๆ, แจ็คเกอร์ก็ก้าวหน้าขึ้นไปได้แล้ว นี่มันเยี่ยมไปเลย!
ลิงค์พูด “ฉันรู้สึกว่าอาจจะมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น และมันอาจจะเป็นปัญหาก็ได้ เตือนที่ค่ายให้นักเวทย์ทุกคนตื่นตัวเอาไว้ตลอดนะ”
“เข้าใจแล้วครับ”
ลิงค์คิดเรื่องอื่นอีก “เอเลียร์ดยังอยู่ที่เทือกเขามอดไหม้รึเปล่า?”
แจ็คเกอร์พยักหน้า “เขาอยู่ที่นี่ตลอดเลยครับ ช่วงนี้, เขากำลังช่วยสร้างหอคอยเวทมนตร์อยู่”
“ดี, แล้วก็ถ้า—ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น, ปกป้องเขาด้วยนะ”
“ครับ” แจ็คเกอร์ทำความเคารพ เขาสัมผัสถึงอันตรายได้ในน้ำเสียงของลิงค์
“ดีมาก องค์หญิงไฮเอลฟ์มิลด้าได้ออกจากค่ายไป, แต่มันสายเกินไปแล้ว ฉันกังวลว่าเธอจะตกอยู่ในอันตราย, ดังนั้นฉันจะไปพาตัวเธอกลับมา ความปลอดภัยของค่ายในช่วงนี้ก็ขอฝากนายด้วยนะ”
แจ็คเกอร์เอากำปั้นทุบหน้าออกของเขา, เป็นการสัญญาแบบทหาร ลิงค์พยักหน้าแล้วเรียกเฟนเรียสายลมออกมา เขาช่วยพาเซลีนขึ้นขี่มันแล้วจากนั้นก็ปีนขึ้นซ้อนข้างหลังเธอ
ด้วยเสียงคำรามเบาๆ, เฟนเรียสายลมก็พุ่งไปข้างหน้า
ความเร็วของเฟนเรียสายลมนั้นอยู่ที่ประมาณเจ็ดสิบหลาต่อวินาที แต่ถึงแม้ว่าความเร็วจะสูงขนาดนี้, ลิงค์ก็เดินทางมาได้กว่าสิบไมล์แล้วโดยที่ไม่เจอองค์หญิงไฮเอลฟ์เลย เขาสัมผัสได้แค่มานาอ่อนๆเท่านั้น
“ดูเหมือนว่าองค์หญิงเองก็ใช้เวทมนตร์เพื่อเร่งความเร็วในการเดินทางนะ” ลิงค์พูดกับเซลีนที่อยู่ในอ้อมอกของเขา
เทือกเขามอดไหม้นั้นเล็กมากๆ เซลีนเองก็ได้เห็นคณะผู้ติดตามของมิลด้า, ดังนั้นเธอจึงสงสัย “นี่นายกำลังพูดถึงกลุ่มไฮเอลฟ์หัวสูงนั่นหน่ะหรอ? ฉันเห็นว่าพวกนั้นไม่ให้เกียรตินายเลยนะ”
ลิงค์พยักหน้า “พวกเขาไม่ให้เกียรติฉันจริงๆ, และฉันก็ไม่ชอบพวกเขาด้วย แต่เมื่อเปรียบเทียบกับพันธมิตรระหว่างเผ่าพันธุ์ของพวกเราแล้ว, นั่นมันก็แค่เรื่องเล็กๆ ฉันไม่สามารถปล่อยให้เธอเจอปัญหาในขณะที่อยู่ในดินแดนของฉันได้หรอก”
ลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่จะไม่มีวันปล่อยให้อารมณ์ส่วนตัวมีผลกับการเมือง ในแง่ของการเมืองนั้น, ไม่มีความสัมพันธ์, มีแค่ผลประโยชน์เท่านั้น หากไม่มีผลประโยชน์, แม้กระทั่งครอบครัวก็สามารถตัดขาดได้ แน่นานว่า, ลิงค์จะไม่ทำถึงขนาดนั้น เขามีขอบเขตของตัวเองอยู่ สำหรับองค์หญิงมิลด้า, ขอบเขตของเขาก็คือการทำให้มั่นใจว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเธอในขณะที่เธออยู่ที่นี่เพื่อที่เขาจะได้ไม่เจอปัญหา
พวกเขาเดินทางมาได้อีกหนึ่งไมล์ในขณะที่กำลังคุยกัน แล้วลิงค์ก็หยุดอย่างกระทันหัน “หา? ไหงมานาถึงหายไปได้หล่ะ?”
เหลืออีกกว่าสี่กิโลก่อนที่จะถึงท่าเรือ มันเป็นที่ราบรุ่มที่มีเทือกเขาเล็กๆอยู่ทุกที่และมีทัศนวิสัยที่ไม่ชัดเจน ด้วยความที่ไม่มีการชี้นำของมานา, ลิงค์จึงหยุดลง จากนั้น, เขาก็กำลังจะขี่เฟนเรียสายลมขึ้นเขาเพื่อตรวจสอบ
อย่างไรก็ตาม, พอเขาคิดที่จะทำแบบนั้น, ก็มีเงาสีดำออกมาจากเทือกเขา, แล้วลิงค์ก็ได้ยิงเสียงคำสั่งที่แหบแห้ง “ยิง!”
มีเสียงลั่นไกแล้วจากนั้นก็มีห่าธนูตัดผ่านอากาศออกมา
“ระวังนะ!” เซลีนตะโกนบอกก่อนที่จะตกลงสู่ความเงียบ เธอเคยเป็นนักรบที่แข็งแกร่งพร้อมกับประสบการณ์ในการต่อสู้มากมาย ดังนั้นเธอจึงรู้ว่าเธอไม่ควรรบกวนสมาธิของลิงค์ในตอนนี้
ลิงค์ตอบสนองได้รวดเร็วมากๆ ในตอนที่เงาดำปรากฎตัว, สายตาของเขาก็จริงจังขึ้น, แล้วเขาก็เปิดใช้เอเดลไวซ์, เวทย์ป้องกันเลเวล 5 จากนั้น, เขาก็ปล่อยระเบิดเพลิงทิศทางเดียวไปทางเงานั้น
ในตอนที่ศัตรูยิงธนูออกมา, ระเบิดเพลิงก็ระเบิดเช่นกัน ด้วยเสียงดังตูม, เพลิงรูปโคนก็ถาโถมใส่เงานั้น
อย่างไรก็ตาม, สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนั้นก็ทำให้ลิงค์ตกใจ
เงานั้นก็เร็วมากเหมือนกัน ลิงค์ใช้เวลาแค่ 0.3 วินาทีในการปล่อยระเบิดเพลิงระยะ 32 หลา เวทมนตร์นี้มีระยะกว่า 20 หลา, แต่ศัตรูก็ยังหลบมันได้
แถมไม่ใช่แค่หลบได้อย่างเดียว, เขายังโจมตีกลับมาด้วย
ลิงค์ตกตะลึง เขาคิด ทำไมพวกมันถึงมั่นใจมากจนถึงขนาดที่คิดว่าลูกธนูสามารถทะลุเวทย์ป้องกันของฉันได้?
ลิงค์ได้เข้าสถานะสมาธิอย่างสมบูรณ์เผื่อเอาไว้ก่อน เวลาเดินช้าลงในทันที เขาพบว่าลูกธนูพวกนี้ไม่ใช่ลูกธนูธรรมดา พวกมันมีสีช้ำๆและมีเปลวเพลิงสีน้ำเงินอันน่าหวาดกลัวอยู่รอบๆมัน ผ่านเปลวเพลิงนี้, เขามองเห็นรูนเล็กๆจำนวนมาก
ไม่นะ! เขาคิด นี่มันลูกธนูต่อต้านเวทมนตร์ขั้นสุดยอด! เอเดลไวซ์ของฉันหยุดพวกมันไม่ได้แน่
ลูกธนูต่อต้านเวทมนตร์ขั้นสุดยอดนั้นทำมาจากทองคำเวทมนตร์ที่ได้มาจากการปรุงยา พวกมันมีรูนรบกวนมานาที่แข็งแกร่งพอๆกับเลเวล 5 สลักเอาไว้อยู่ พวกมันแตกต่างจากลูกธนูต่อต้านเวทมนตร์ทั่วๆไป แทนที่จะใช้กำลังในการเจาะเวทย์ป้องกัน, พวกมันจะใช้การทำลายเวทมนตร์ด้วยการรบกวนโครงสร้างของมานาแทน
โดยปกติ, ลูกธนูพวกนี้สามารถทำลายวทย์ป้องกันตั้งแต่เลเวล 6 ลงมาได้ เพราะความเร็วที่สูงมากๆของมัน, นักเวทย์ส่วนใหญ่จึงไม่มีเวลาที่จะเปิดใช้เวทย์ที่สูงกว่านั้น นั่นคือเหตุผลที่ทำไมลูกธนูต้านทานเวทมนตร์ระดับสูงนี้ถึงเป็นที่รู้จักกันในฐานะคริปโตไนท์ของนักเวทย์
ลิงค์ตอบสนองอย่างรวดเร็ว พอสัมผัสได้ถึงอันตราย, เขาก็ใช้สิบวินาทีสุดท้ายเพื่อใช้เวทย์ที่เขาคิดค้นขึ้น—เลนส์มิติ
ด้วยเสียงหึ่มเบาๆ, อากาศก็เริ่มบิดเบี้ยว มีคลื่นปรากฎขึ้นในอากาศรอบๆลิงค์กับเซลีน
จากนั้น, ลูกธนูก็ยิ่งเข้ากับอากาศที่บิดเบี้ยว
พลังมิตินั้นส่งผลกับทุกสิ่ง ตราบใดที่พลังของมันไม่ผ่านขีดจำกัดของเวทมนตร์, ลิงค์ก็สามารถควบคุมความบิดเบี้ยวเพื่อหยุดลูกธนูได้
ขีดจำกัดของมันนั้นอยู่ที่เลเวล 7 ซึ่งนี่ไม่ใช่เพราะเวทย์มิติไม่สามารถทำมันได้, แต่เป็นเพราะเวทย์เลเวล 7 ขึ้นไปนั้นจะส่งผลต่อโครงสร้างของมิติมานา, ทำให้มันสลายไปได้
เห็นได้ชัดว่า, ลูกธนูพวกนี้ห่างไกลจากเลเวล 7
ในพื้นที่บิดเบี้ยว, พวกมันแฉลบลิงค์กับเซลีนและออกไปโดยไม่ทำอันตรายอะไรเลย
“ถอย!” เงาดำเป็นคนตรงๆ พอเห็นว่าลูกธนูไม่โดนเป้าหมายเลย, เขาก็พยายามถอยในทันที
แต่ว่าลิงค์จะปล่อยพวกเขาไปง่ายๆได้ยังไงกันหล่ะ?