Advent of the Archmage – ตอนที่ 249: มีองค์หญิงไฮเอลฟ์มากกว่าหนึ่งคน

ที่รกร้างเฟิร์ด, ช่วงพลบค่ำ

 

ผู้บุกรุกพวกนี้มีประมาณ 15 คน พวกเขาเคลื่อนไหวได้รวดเร็วมากๆและกระจายตัวกันในตอนที่พวกเขาหนีเข้าดินแดน ในตอนที่ลิงค์กำลังขี่เฟนเรียสายลมขึ้นเนินเขาเล็กๆ, คนที่เร็วที่สุดก็หนีไปได้กว่า 150 ฟุตแล้ว

 

นอกจากนี้, ผู้บุกรุกพวกนี้ยังใช้ประโยต์จากภูมิประเทศของที่รกร้างเฟิร์ดในการซ่อนตัวจากทัศนวิสัยของลิงค์ด้วย

 

ลิงค์สอดส่องสายตาดูรอบๆก่อนที่จะตัดสินใจพุ่งเข้าใส่คนๆนึงที่อยู่ข้างหน้าอย่างแน่วแน่

 

จากการลอบโจมตีเมื่อก่อนหน้านี้, หัวหน้าของภารกิจนี้พูดออกมาแค่คำเดียวเท่านั้น แถมเขายังแฝงตัวเข้าไปอยู่ในฝูงชนก่อนที่จะให้สัญญาณเริ่มด้วยและยังสวมชุดเกราะหนังสีดำเหมือนกับลูกน้องคนอื่นๆของเขาอีก อย่างไรก็ตาม, ลิงค์ได้ตรวจจับความผันผวนอ่อนๆในออร่าต่อสู้ของเขาเอาไว้แล้วและล็อคเขาเป็นเป้าหมาย

 

ผู้บุกรุกที่สวมชุดเกราะหนังสีดำคนนี้กำลังวิ่งหนีเอาชีวิตรอดไปทั่วที่รกร้างเฟิร์ด เขาจะหันหลังมามองลิงค์เป็นพักๆในขณะที่มีสีหน้าตื่นตระหนก

 

ระยะห่างระหว่างลิงค์กับตัวเขานั้นกระชั้นชิดขึ้นเรื่อยๆจาก 150 ฟุตเป็น 135 ฟุต, แล้วก็, 120 ฟุต พื้นที่เบื้องหน้าพวกเขานั้นเป็นพื้นที่เปิดและไม่มีที่หลบสำหรับผู้บุกรุกเลย ดังนั้นลิงค์จึงเตรียมตัวที่จะเปิดการโจมตี

 

อย่างไรก็ตาม, เซลีน, ที่กำลังอยู่ในอ้อมแขนของเขาในตอนนี้ตะโกนขึ้นมากระทันหัน “ลิงค์, หยุด! มันอันตรายนะ!”

 

ลิงค์มีร่องรอยของความสงสัยในหัวใจของเขาในตอนที่เขาเห็นสีหน้าสับสนและการเคลื่อนไหวของผู้บุกรุกคนนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะแตกต่างจากตอนที่เขาสั่งการแผนบุกรุกอย่างใจเย็นโดยสิ้นเชิง เขาน่าจะมีความเยือกเย็นมากกว่านี้สิ

 

ดังนั้นลิงค์จึงสงสัยว่าเขาแค่กำลังแสดงอยู่

 

ซึ่งคำเตือนของเซลีนก็ยิ่งเพิ่มความสงสัยของเขาขึ้นไปอีก, แล้วเขาก็หยุดเฟนเรียสายลมในทันที

 

ในตอนที่เขาหยุดการเคลื่อนไหวของเขา, ลิงค์ก็สัมผัสได้ถึงความผันผวนของเวทมนตร์อ่อนๆที่กำลังแผ่ออกมาจากพื้น ดังนั้นเขาจึงร่ายเวทย์ตาอินทรีใส่ตัวเองและตรวจสอบความผิดปกติบนพื้น ซึ่งสิ่งที่เขาเห็นนั้นสร้างความตกใจให้เขาอย่างมหาศาล

 

ชั้นหิวกรวดบางๆที่อยู่บนพื้นนั้นได้ถูกใช้เป็นสิ่งอำพรางอันแยบยล, ลิงค์เห็นแสงสีดำอันชั่วร้ายซึ่งแผ่พลังงานความมืดออกมาลางๆ จากความผันผวนของมัน, มันคือวงเวทย์ที่มีความแข็งแกร่งเลเวล 6!

 

ถ้าเซลีนไม่เตือนเขาถึงอันตรายนี้, เขาก็คงจะไม่สังเกตุเห็นความผันผวนอันริบหรี่นี้และคงจะมุ่งหน้าเข้าไปหาวงเวทย์นี้ จากนั้น, พวกเขาทั้งคู่ก็จะได้รับบาดเจ็บอย่างร้ายแรงถ้าเขาตอบสนองต่อกับดักนี้ไม่ทัน

 

ลิงค์รู้สึกหนาวไปถึงสันหลัง

 

จากนั้นเขาก็มองหาหัวหน้าผู้บุกรุก, แต่เขาก็หายตัวไปแล้ว หัวหน้าคนนั้นได้เก็บซ่อนพลังของเขาเอาไว้เมื่อก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม, ในตอนที่เขารู้ตัวว่าไพ่ตายของเขาไม่ได้ผล, เขาก็ตัดสินใจที่จะหนีในทันที

 

ความเร็วในการเดินทางของผู้บุกรุกพวกนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน; พวกเขาเร็วพอๆกับกลูในป่าแบล็คฟอเรสเลย

 

ไอคนพวกนี้มันเป็นใครกัน? พวกมันแข็งแกร่งแค่ไหน? ลิงค์ยังมีคำถามอีกมากมายที่เขายังหาคำตอบไม่ได้ แม้ว่าจะมีชื่อของเวเวอร์อยู่บนจดหมาย, แต่ลิงค์ก็รู้สึกว่ามันเป็นแค่เทคนิคการใส่ร้ายที่ผู้บุกรุกพวกนี้สร้างขึ้นมา

 

“ช่างน่ากลัวจริงๆ!” ลิงค์ขมวดคิ้ว จากนั้นเขาก็ถอยกลับมา 30 ฟุตก่อนที่จะยิงลูกแก้วใส่วงเวทย์แห่งความมืด

 

ตูม! วงเวทย์ถูกเปิดใช้, และเสาเพลิงวิญญาณสีน้ำเงินสูง 15 ฟุตก็ปรากฎขึ้นจากพื้น จากนั้นมันก็สูงขึ้นไปอีก 90 ฟุตก่อนที่จะสลายไปอย่างช้าๆ แม้ว่าจะอยู่ห่างจากวงเวทย์นี้กว่า  30 ฟุต, แต่ลิงค์ก็ยังรู้สึกได้ถึงคลื่นความร้อนที่ผิวหนังของเขา

 

“เวทย์เลเวล 6, หัวใจแห่งนรก” ลิงค์ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและรู้สึกถึงได้ถึงความสั่นเทาของเซลีนที่อยู่ข้างหลัง จากนั้นเขาก็จับมือของเธอและปลอบโยน “ไม่เป็นไรนะ ต่อให้พวกเราก้าวเข้าไป, ฉันก็จะใช้เวทย์เทเลพอร์ทพาเธอหนีออกมาอยู่ดี”

 

เซลีนแค่พยักหน้าก่อนที่จะพูดออกมา “ลิงค์, ฝันร้ายของฉันจะกลายเป็นเรื่องจริงใช่ไหม?”

 

เธอเริ่มที่จะเข้าใจพลังใหม่ของเธอมากขึ้น เธอตระหนักได้ว่าในการเผชิญหน้ากับอันตรายที่ใกล้จะเกิดขึ้น, นิมิตที่ชัดเจนมากๆจะปรากฎขึ้นในหัวของเธอ, มันถึงกับแสดงออกมาเป็นภาพที่ชัดเจนในหัวของเธอ ก่อนหน้านี้, ที่เธอหยุดลิงค์ก็เพราะว่าเธอเห็นเสาเพลิงวิญญาณสีฟ้าในหัวของเธอ

 

จากนั้นลิงค์ก็รับประกัน “มันจะไม่เกิดขึ้นหรอก ตั้งแต่ตอนที่เธอเล่าเรื่องฝันร้ายให้ฉันฟัง, อนาคตก็ได้เปลี่ยนแปลงไปเรียบร้อยแล้ว”

 

ในขณะที่ลิงค์พูด, สายตาของเขาก็มองไปทางท่าเรือ จากทางนั้น, เขาสัมผัสตัวตนขององค์หญิงมิลด้าไม่ได้เลย ดังนั้นเขาจึงไม่มีเบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับตำแหน่งที่จะค้นหาต่อไป

 

จากนั้นลิงค์ก็ขี่เฟนเรียสายลมลงเนินเขาและสั่งให้มันเดินวนรอบพื้นที่ในขณะที่ลิงค์สังเกตุบริเวณโดยรอบอย่างระมัดระวัง

 

“มีลูกดอกหน้าไม้บนพื้น 35 ดอก ก่อนหน้านี้ศัตรูยิ่งมาแค่ 22 ดอกเท่านั้น อีก 13 ดอกที่เหลือน่าจะเป็นดอกที่ยิงในตอนที่มิลด้าผ่านทางมา แต่ว่า, ไม่มีความผันผวนของมานาหลงเหลืออยู่ในพื้นที่แห่งนี้เลย มันดูเหมือนกับว่าไฮเอลฟ์สองคนหายตัวไปเฉยๆ…เดี๋ยวก่อนนะ, นี่มันคราบเลือดนี่!”

 

ลิงค์รวบรวมสมาธิและจดจ่ออยู่กับหินกรวดที่อยู่บนพื้นเบื้องหน้าเขา จากนั้นเขาก็สังเกตุคราบเลือดที่อยู่บนก้อนหิน พวกมันเป็นสีแดงเข้ม, คล้ายกับคราบเลือดของมนุษย์ จากนั้นเขาก็เอาพวกมันมาดมใกล้ๆแล้วได้กลิ่นอ่อนๆของป่าจากหินพวกนี้

 

“นี่มันเลือดของไฮเอลฟ์นี่ พวกเขาต้องได้รับบาดเจ็บแน่ๆ”

 

“แต่ว่าพวกเขาไปที่ไหนกันหล่ะ?” เซลีนถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

 

“พวกเขาต้องใช้เวทย์เคลื่อนย้ายแน่ๆ แต่ว่า, ระยะทางที่ไกลที่สุดของเวทย์เคลื่อนย้ายไม่น่าเกินหนึ่งไมล์นะ พวกเขาต้องเดินเท้าหนีต่อหลังจากนั้นแน่ๆ ซึ่งพวกเราไม่รู้เลยว่าพวกเขาไปที่ไหน”

 

แม้ว่าระยะทางหนึ่งไมล์นั้นจะไม่ไกล, แต่ว่าอีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บและตกอยู่ในสภาพตื่นตระหนก พวกเขาคงจะคิดถึงแต่การเอาตัวรอดของตัวเองและคงจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อปกปิดตัวตนของพวกเขา พวกเขาคงจะหนีไปจากเขตการต่อสู้ให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้, และทำให้มันเป็นเรื่องยากในการที่จะค้นหาพวกเขา

 

ลิงค์สงสัยว่ามิลด้าคงจะกำลังกล่าวหาว่าเขาเป็นคนบงการที่อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารนี้, ทำให้เธอหลีกเลี่ยงเขามากกว่าเดิมอีก

 

อย่างไรก็ตาม, ปัญหานั้นอยู่ที่นักฆ่า พวกเขาต้องกำลังตามหาไฮเอลฟ์แน่ๆ ตัดสินจากอาการบาดเจ็บของพวกเขา, พวกเขาคงจะไม่รอดแน่ถ้าพวกเขาถูกศัตรูเจอตัว

 

พวกเขาหายตัวไปในดินแดนของเขา, และองค์หญิงมิลด้าก็บังเอิญเป็นลูกสาวคนโตของราชินีไฮเอลฟ์ แล้วเธอก็เป็นผู้ที่มีสิทธิมากที่สุดในการเป็นราชินิเอลฟ์คนต่อไปด้วย ถ้าเขาไม่สามารถพาเธอกลับไปที่เกาะรุ่งอรุณได้อย่างปลอดภัย, เขาก็คงจะไม่จบกับไฮเอลฟ์ง่ายๆแน่

 

หลังจากที่คิดอยู่พักนึง, ลิงค์ก็เตรียมมุ่งหน้าไปทางฝั่งทะเล

 

เขาเอาเลือดสดๆของไฮเอลฟ์ไปด้วย แม้ว่านี่อาจจะไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ในมือของเขา, แต่แวนซ์อาจจะสามารถสะกดรอยโดยใช้เลือดนี้ได้ ตราบใดที่เขาสามารถหาตำแหน่งที่แน่นอนของมิลด้าได้, เขาก็สามารถไปที่นั่นและช่วยเหลือเธอได้ในทันที

 

ขณะที่ลิงค์คิด, เขาก็เพิ่มความเร็วของเฟนเรียสายลมและมุ่งหน้าไปหาแวนซ์เต็มสปีด

 

อย่างไรก็ตาม, ลิงค์ก็หยุดหลังจากเดินทางไปได้แค่ไม่กี่ก้าว จากนั้นเขาก็ลังเลอยู่พักนึงก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังทิศทางตรงกันข้ามเพื่อไปยังเทือกเขามอดไหม้

 

“นายไม่ได้เตรียมตัวไปหาแวนซ์หรอกหรอ? นายหันกลับทำไม?” เซลีนถาม เธอเป็นผู้หญิงที่ฉลาดจริงๆ เธอคาดเดาความตั้งใจของลิงค์ได้แม้ว่าเขาจะเงียบมาโดยตลอดก็ตาม

 

แล้วลิงค์ก็ส่ายหัวในขณะที่พูด “การเดินทางกลับมาที่เทือกเขามอดไหม้ของฉันเป็นการตัดสินใจอย่างกระทันหัน และแน่นอนว่าการลอบโจมตีของศัตรูก็เป็นการตัดสินใจอย่างกระทันหันเหมือนกัน แต่ว่า, ฝันร้ายของเธอทำนายว่าดินแดนจะตกอยู่ในอันตรายครั้งยิ่งใหญ่ การช่วยเหลือองค์หญิงไฮเอลฟ์เพียงคนเดียวเพื่อแลกกับ 8,000 ชีวิตในดินแดนนั้นไม่คุ้มกันหรอก”

 

ผู้ลี้ภัยจากอาณาจักรเดลอนก้านั้นได้เดินทางขึ้นเหนือตรงมายังที่รกร้างเฟิร์ดเป็นกลุ่มใหญ่ พ่อค้าวาร์เตอร์เองก็พาทาสมาเพิ่มเป็นจำนวนมากซึ่งทำให้จำนวนประชากรของดินแดนนั้นพุ่งสูงขึ้นเหมือนติดจรวจ ดังนั้น, ตอนนี้เทือกเขามอดไหม้จึงกลายเป็นหมูบ้านเล็กๆที่มีผู้อาศัยเกือบ 10,000 คนแล้ว

 

“แต่ถ้าองค์หญิงไฮเอลฟ์ตาย, นายจะงานเข้านะ”

 

“ฉันคงจะงานเข้าจริงๆนั่นแหล่ะ, แต่ไฮเอลฟ์มีองค์หญิงมากกว่าหนึ่งคนนะ” ลิงค์มีความคิดที่ชัดเจนในเรื่องนี้

 

นี่เป็นการโจมตีอย่างกระทันหัน  ศัตรูได้วางกลุ่มลอบโจมตีเอาไว้แล้วและยังวาดวงเวทย์เลเวล 6 เอาไว้ด้วย ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้ต้องการแผนการที่ละเอียดอ่อน, ทักษะฝีมือ,และที่สำคัญกว่านั้น, เวลา พวกเขาไม่น่าจะสามารถโจมตีสองฝ่ายได้ในระยะเวลาอันสั้น

 

ในเมื่อมิลด้าประสบกับการโจมตีร้ายแรงไปแล้ว, โรมิลสันก็น่าจะปลอดภัย จอมเวทย์ทั้งสองคนน่าจะพาเขากลับไปยังดินแดนได้อย่างปลอดภัยแล้ว

 

จากนั้นโรมิลสันก็จะกลายเป็นข้อแก้ตัวอันสมบูรณ์แบบของลิงค์ ซึ่งนี่เป็นเพราะลิงค์อยู่กับพวกเขาตลอดเวลาตั้งแต่ที่สถาบันเวทมนตร์ระดับสูงอีสโควฟและไม่มีเวลาที่จะจัดการอะไรที่ซับซ้อนแบบนี้ได้

 

มันเป็นเพราะความคิดนี้จริงๆที่ช่วยให้ลิงค์ตัดสินใจเลิกช่วยเหลือองค์หญิงและปกป้องดินแดนของตัวเองแทน ยังไงซะ, ในเรื่องของการเมืองนั้นทั้งหมดก็คือผลประโยชน์ ในฐานะลอร์ดของดินแดน, ลิงค์มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของผู้พักอาศัยของเขา

 

การเดินทางกลับดินแดนนั้นราบลื่น ด้วยความเร็วสูงสุดของเฟนเรียสายลม, พวกเขาจึงมาถึงประตูตะวันออกของค่ายในเวลาห้านาทีต่อมา

 

ณ ตอนนี้, ท้องฟ้าได้มืดลงแล้ว, และประตูตะวันออกก็ปิดไปแล้ว มีทหารจำนวนมากกำลังเดินลาดตระเวนรอบกำแพงปราสาท จากนั้นลิงค์ก็ร่ายเวทย์แสงใส่ตัวเองเพื่อเปิดเผยตัวตนของเขา

 

“ฉันเอง”

 

ลิงค์ไม่ได้รอให้ทหารเปิดประตู เขาสั่งให้เฟนเรียสายลมกระโดดข้ามไป ในตอนที่เฟนเรียสายลมอยู่กลางอากาศ, เขาก็ร่ายเวทย์ลดน้ำหนักใส่มัน, ทำให้มันกระโดดได้สูงถึงหกสิบฟุต จากนั้นเฟนเรียสายลมก็กระโดดข้ามกำแพงปราสาทได้อย่างสบายๆโดยไม่มีอุปสรรคใดๆ

 

ความปลอดภัยข้างในค่ายเองก็สูงมาก ในตอนที่ลิงค์เข้ามาในค่าย, เขาก็ยกเลิกเฟนเรียสายลมในทันทีแล้วกระซิบบอกเซลีน “ตามฉันมาใกล้ๆนะ, อย่าหายตัวไปไหนหล่ะ”

 

เขารู้สึกว่าทั่วทั้งเทือกเขามอดไหม้นั้นไม่ปลอดภัย

 

“รู้แล้ว” เซลีนเดินตามหลังลิงค์ไปติดๆ

 

หลังจากที่เดินไปได้ไม่กี่ก้าว, กิลเดิร์นก็ตรงเข้ามาต้อนรับพวกเขา จากนั้นลิงค์ก็ถามขึ้น “มาสเตอร์เกรนซี่กลับมารึยัง?”

 

แล้วกิลเดิร์นก็รายงานข่าวดี “มาสเตอร์เกรนซี, มาสเตอร์เฟอร์ดินันด์, และไฮเอลฟ์ชื่อโรมิลสันได้กลับมาอย่างปลอดภัยทุกคนครับ”

 

ลิงค์รู้สึกใจชื้นขึ้นมาในทันทีแล้วพูด “เยี่ยมเลย ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหนหล่ะ?”

 

“ข้างในที่พำนักของมาสเตอร์เกรนซี่ครับ”

 

จากนั้นลิงค์ก็รู้สึกได้ว่าความกดดันที่ไหล่ของเขาถูกยกออกแล้วถาม “แล้วดอเรียสหล่ะ, เขากลับมารึยัง?”

 

กิลเดิร์นมีสีหน้ากังวลในขณะที่พูด “ดูเหมือนว่าพวกเราจะหาตัวเขาไม่เจอเลยครับ ปกติเขาน่าจะกลับมาเวลานี้ พวกเราไม่รู้เลยว่าเขาไปที่ไหน”

 

“เข้าใจแล้ว” ลิงค์ทำอะไรไม่ได้กับปัญหานี้เหมือนกัน เสือที่ทั้งตัวใหญ่และมีความเร็วที่ไม่มีใครสู้ได้แบบนี้คงเป็นไปไม่ได้ที่จะตามหาในคืนนี้ เขาทำได้แค่ภาวนาให้เขาปลอดภัย

 

จากนั้นลิงค์ก็พาเซลีนตรงไปยังเขตที่พักของนักเวทย์ในเทือกเขามอดไหม้ เทือกเขามอดไหม้นั้นมีรัศมีแค่ไม่กี่ร้อยฟุต พวกเขาไปถึงที่พักของมาสเตอร์เกรนซี่ในเวลาสามนาที

 

หลังจากเคาะประตูไปไม่กี่ที, ประตูก็เปิดออกในขณะที่มีใบหน้าหย่อนหยานของเกรนซี่ปรากฎขึ้นที่หลังประตู จากนั้นเขาก็มองไปรอบๆ, ดูเหมือนกับกำลังมองหาไฮเอลฟ์ จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วในขณะที่พูด “มีอะไรเกิดขึ้นหรอ?”

 

ลิงค์พยักหน้าในขณะที่เขาเอาหินเปื้อนเลือดออกมาแล้วพูด “ผมกับเซลีนไล่ตามไปและถูกทีมนักฆ่าลอบโจมตีครับ หลังจากเอาชนะพวกมันได้, ผมก็พบสิ่งนี้บนพื้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่าองค์หญิงมิลด้ากับอัลลาร์ได้รับบาดเจ็บจากการลอบโจมตีและหนีไปโดยใช้เวทย์เคลื่อนย้าย ส่วนเรื่องตำแหน่งที่แน่นอนของพวกเขานั้น, พวกเรายังไม่สารถระบุได้ครับ”

 

“เข้ามาก่อนเถอะ” จากนั้นเกรนซี่ก็เชิญพวกเขาเข้ามา

 

ลิงค์เห็นโรมิลสันในตอนที่เขาเข้ามาในห้อง โรมิลสันมีใบหน้าซีดเผือดและมีรอยเลือดที่ข้อศอกของเขาด้วย เขาดูกระเซอะกระเซิงและดูเหมือนจะผ่านช่วงเวลาอันเลวร้ายมา พอได้เห็นลิงค์, เขาก็ตรวจสอบรอบๆห้องตามสัญชาติญาณและถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “องค์หญิงอยู่ที่ไหน? ทำไมพระองค์ถึงไม่ได้กลับมาด้วย?”

 

“นี่คือทั้งหมดที่ฉันพบในตอนที่ฉันไปถึง” จากนั้นลิงค์ก็วางหินเปื้อนเลือดลงบนโต๊ะ

 

ใบหน้าของโรมิลสันซีดเผือดยิ่งกว่าเดิมในขณะที่เขาคว้าหินพวกนี้และดมพวกมันราวกับตกอยู่ในภวังค์ ครึ่งนาทีต่อมา, ด้วยวิธีที่มีแต่พระเจ้าที่รู้, เขาก็พึมพำออกมา “อัลลาร์ตายแล้ว, เลือดของเขาไม่แสดงสัญญาณชีวิตออกมาเลย ส่วนองค์หญิงยังมีชีวิตอยู่, แต่เธอก็ได้รับบาดเจ็บหนัก นี่มันไม่ดีเลย; ข้าต้องออกไปตามหาพระองค์เดี๋ยวนี้”

 

“นายจะทำยังไงหล่ะ? ฉันเชื่อว่านายเองก็พบนักฆ่าพวกนั้นเหมือนกัน; นายจะจัดการกับนักฆ่า 15 คนพร้อมกันได้ยังไง?” ลิงค์ถาม

 

“พวกมันมี 15 คนเลยหรอ?” โรมิลสันแทบหมดสติจากความตกใจ เขาเจอนักฆ่าสี่คนระหว่างทางไปสถาบันและโชคดีเอาชีวิตรอดมาได้ ถ้าไม่ใช่เพราะมาสเตอร์เกรนซี่กับมาสเตอร์เฟอร์ดินันด์มาได้ถูกจังหวะ, เขาก็คงจะตายไปแล้วอย่างแน่นอน  การฝ่าภารกิจนี้พร้อมกับรู้ว่ามีนักฆ่า 15 คนกำลังรออยู่นั้นก็คงจะเป็นเพียงการฆ่าตัวตาย

 

อย่างไรก็ตาม, องค์หญิงต้องไม่ตาย ถ้าองค์หญิงตายทั้งๆที่เขายังมีชีวิตอยู่, เขาก็จะกลายเป็นความเสื่อมเสียของตระกูล!

 

“ข้าต้องไปช่วยพระองค์! เลือดขององค์หญิงสามารถนำทางข้าไปหาพระองค์ได้; ข้าสามารถตามหาตัวพระองค์ได้!” โรมิลสันยืนขึ้นและเตรียมตัวที่จะออกไป

 

ลิงค์กำลังจะห้ามเขาในตอนที่มีเสียงตะโกนดังขึ้นจากนอกประตู “ศัตรู…!”

 

หลังจากพูดไปได้แค่ครึ่งประโยค, เสียงนั้นก็ดูเหมือนจะถูกตัดไปด้วยพลังชั่วร้ายบางอย่าง

 

“อ้ากกก! เอื้อ!”

 

จากนั้นเสียงกรีดร้องดังลั่นก็สามารถได้ยินได้ ความถี่และความสิ้นหวังของเสียงกรีดร้องเหล่านี้เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนขนลุก

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset