Advent of the Archmage – ตอนที่ 253: โดนดูถูก

ที่รกร้างเฟิร์ด

เวลาทุกวินาทีได้ผ่านไป, โรมิลสันรู้สึกกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ มันเหลืออีกแค่ประมาณหนึ่งไมล์เท่านั้นก่อนที่เขาจะพลาดจุดซ่อนตัวขององค์หญิงไป

 

สัมผัสของเลือดเธอกำลังเบาบางลงเรื่อยๆ, ซึ่งบ่งบอกว่าชีวิตของเธอนั้นกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย เธอต้องได้รับบาดเจ็บร้ายแรงแน่ๆ

 

ถ้าข้าไปที่นั่นไม่ทันเวลาหล่ะก็, ข้าเกรงว่าองค์หญิงจะ…โรมิลสันไม่กล้าคิดแบบนี้ต่อ

 

หลังจากผ่านไปอีกสิบวินาที, โรมิลสันก็อดมองไปข้างหลังเขาไม่ได้ จากนั้นเขาก็เห็นลิงค์กำลังตามเขามาอย่างช้าๆในระยะที่ห่างออกไป 150 ฟุต โรมิลสันมองเห็นสีหน้าอันสงบนิ่งของลิงค์ได้อย่างชัดเจนในขณะที่ระยะทางระหว่างพวกเขากำลังสั้นลง ลิงค์ดูเหมือนจะมีสติในสถานการณ์แบบนี้และไม่ได้ตื่นเต้นอะไร, ราวกับว่าเรื่องทั้งหมดนี้ไม่ได้สำคัญกับเขา

 

พอได้เห็นท่าทีเยือกเย็นของเขา, โรมิลสันก็อดตะโกนออกมาไม่ได้ “ลิงค์, องค์หญิงได้รับบาดเจ็บหนัก เธอทนได้อีกแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น!”

 

จากนั้นโรมิลสันก็หันกลับมาในขณะที่มานาในตัวเขาแผ่ออกมาในทันที, เขาเปิดใช้กำไลป้องกันที่ข้อมือของเขา ด้วยเสียงกระหึ่มเบาๆ, บาเรียคริสตัลแสงสีเขียวก็ปรากฎขึ้นรอบตัวเขา นี่คือเวทย์ป้องกันเลเวล 5, บาเรียรูนธรรมชาติ

 

จากนั้น, เขาก็เห็นร่างสีดำกำลังยืนอยู่บนหินก้อนใหญ่ที่อยู่ห่างออกไป 150 ฟุต

 

คนๆนี้สวมชุดเกราะหนังสีดำและถูกห้อมล้อมด้วยพิษสีแดงฉาน

 

แล้วเขาก็ถือมีดสองเล่มที่เปล่งประกายสีแดงเลือดออกมา

 

เขาไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร, เขาแค่ยืนอยู่บนยอดหินสูง 12 ฟุตแล้วพูดออกมา “มาวิ่งทั่วที่รกร้างในเวลาแบบนี้มันไม่ปลอดภัยเลยนะ, นักเวทย์ที่น่ารักทั้งสองคนของข้า”

 

“เจ้าเป็นใคร?” โรมิลสันดึงม้าของเขาให้หยุด

 

โดยไม่หยุดตอบนักฆ่า, ลิงค์ก็ไล่ตามมาทันแล้วและวิ่งผ่านโรมิลสันไปโดยไม่ลดความเร็วของเขาลง แล้วเขาก็ไม่สนใจนักฆ่าคนนี้ด้วย, เขาพูดออกมา “นายจะมัวมาหยอกล้อกับมันไปทำไม? การช่วยชีวิตเป็นเรื่องที่สำคัญกว่านะ!”

 

“แต่ว่ามัน…” โรมิลสันอยากจะบอกว่าอาจมีการซุ่มโจมตีรอพวกเขาอยู่ก็ได้

 

อย่างไรก็ตาม, ลิงค์วิ่งผ่านเขาไปแล้วในขณะที่พูด “มันก็แค่ถ่วงเวลาเท่านั้นแหล่ะ, นายมองไม่ออกหรอ?”

 

โรมิลสันรู้ตัวขึ้นมาในทันทีและรู้สึกว่าใบหน้าของเขาร้อนฉ่า จากนั้นเขาก็เร่งความเร็วม้าเต็มสปีดแล้วไล่ตามลิงค์ไปในทันที

 

จากนั้นเขาก็มองนักฆ่าที่อยู่บนยอดหินแล้วรู้สึกว่าคลื่นความโกรธพลุ่งพล่านในตัวเขา จากนั้นเขาก็ยกคทาของเขาขึ้นแล้วยิงเวทย์ไปที่หินก้อนนั้น

 

“บอลพิษ!”

 

บอลพิษ

เวทย์เลเวล 5

ผล: รวบรวมธาตุธรรมชาติเพื่อสร้างบอลแสงที่มีฤทธิ์กัดกร่อยอย่างรุนแรง

(หมายเหตุ: เวทย์พิเศษสำหรับไฮเอลฟ์)

 

จากนั้นแสงสีเขียวก็เริ่มมารวมกันที่ปลายคทาของโรมิลสันแล้วบอลสีมรกตที่มีความยาวกว่าหนึ่งฟุตก็ปรากฎขึ้น จากนั้นโรมิลสันก็ยิงลูกบอลตรงไปทางหินโดยไม่ลังเล

 

“ไปลงนรกซะ!” บอลพิษพุ่งไปด้วยความเร็วอันบ้าคลั่ง

 

นักฆ่าหัวเราะในใจแล้วกระโดดถอยหลังไปก่อนที่บอลพิษเกือบจะโดนร่างกายของเขา จากนั้นเขาก็ตกลงมาจากก้อนหินอย่างรวดเร็วและหลบเวทย์นี้ได้อย่างฉิวเฉียด

 

ความเร็วของนักฆ่านั้นสูงมากจนโรมิลสันไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา บอลพิษลอยผ่านหินไปแล้วและโดนพื้นที่อยู่ห่างออกไป 180 ฟุต

 

ปัง! บอลพิษระเบิด, และพื้นที่ในรัศมี 15 ฟุตก็กลายเป็นดินเละๆสีเขียวเข้มในทันที แถมมันยังมีฟองและปล่ออยควันสีฟ้าครามออกมาด้วย, ซึ่งนี่แสดงให้เห็นพลังทำลายล้างและพลังกัดกร่อนของมัน

 

จากนั้นนักฆ่าก็เหลียวหลังมองและรู้สึกหนาวจนถึงสันหลัง เขาโชคดีที่หนีการโจมตีนั้นมาได้อย่างรวดเร็ว เพราะไม่อย่างนั้น, แม้แต่กระดูกของเขาก็อาจจะถูกพลังทำลายล้างนี้ละลายได้

 

จากนั้นเขาก็มองไปทางนักเวทย์สองคนที่อยู่ไกลๆแล้วขมวดคิ้ว ไฮเอลฟ์คนนี้เป็นแค่เด็กเหลือขอไม่รู้จักโตคนนึง; มันคงจะจัดการได้ง่ายๆ แต่ว่า, ลิงค์เนี่ยแหล่ะที่เป็นตัวปัญหา

 

นักฆ่ารู้สึกขมขื่นมากๆในขณะที่เขามองพวกลิงค์เดินทางไกลออกไป จากนั้นเขาก็ตะโกนออกมา “ลิงค์, เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะโจมตีเทือกเขามอดไหม้ตอนนี้หรอ?”

 

แล้วลิงค์ก็ตอบกลับ “ถ้าแกแข็งแกร่งจริงๆ, แกจะมามัวพูดพล่ามกับฉันทำไมหล่ะ?”

 

ในขณะที่ตอบกลับ, ลิงค์ก็ได้ทักทายนักฆ่าด้วยเวทย์นกหวีดสองดอกด้วย เวทย์นี้รวดเร็วมากๆและถูกยิงออกมาในมุมที่แม่นยำ นักฆ่าใช้มีดของเขาปกป้องตัวเองจากแรงระเบิดโดยตรงของการโจมตีนี้

 

อย่างไรก็ตาม, ก่อนที่มีดจะโดนนกหวีด, พวกมันก็ระเบิดกลางอากาศทำให้เศษธาตุเงินศักดิ์สิทธิ์กระจายออกมารอบๆเขา, ห่อหุ้มเขาเอาไว้ในฝนเศษโลหะแห่งความตาย ซึ่งเขาไม่สามารถหลบหนีได้

 

เมื่อไม่เหลือทางเลือก, นักฆ่าก็ทำได้แค่ถอยเท่านั้นในขณะที่ใช้มือปกป้องใบหน้าของเขา

 

ธาตุเงินศักดิ์สิทธิ์ส่วนใหญ่นั้นถูกขัดขวางด้วยเกราะหนังของเขา อย่างไรก็ตาม, บางส่วนก็สามารถทะลุผ่านช่องว่างในเสื้อเกราะของเขาไปได้และเจาะเข้าไปในร่างกายของเขา จากนั้นความเจ็บปวดอันคมกริบก็เผาไหม้ไปจนถึงจิตใจของเขา

 

นักฆ่ารู้สึกหวาดกลัวและซ่อนหลังก้อนหินในทันที

 

ข้างหลังก้อนหิน, เขาตรวจสอบบาดแผลของเขาแล้วตระหนักได้ว่ามีหลุมขนาดเท่าปลายนิ้วในมือของเขาอยู่สองสามจุด ของเหลวสีเงินกำลังไหลอยู่ในบาดแผลพวกนี้, และควันสีฟ้าครามก็กำลังฟุ้งออกมาจากบาดแผลพวกนี้เช่นกัน

 

“นี่คือธาตุเงินศักดิ์สิทธิ์ที่ล่ำลือกันสินะ; มันแข็งแกร่งมากจริงๆ!” นักฆ่าควักมีดออกมาอย่างแน่วแน่แล้วถลกเนื้อสดๆที่ได้รับผลกระทบจากธาตุเงินศักดิ์สิทธิ์ออก

 

ในตอนที่ของเหลวสีเงินถูกกำจัดออกไป, บาดแผลที่เต็มไปด้วยเลือดก็เริ่มดิ้นยั้วเยี้ยและรักษาตัวเองด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

 

จากนั้นบาดแผลพวกนี้ก็หายไปในเวลาห้าวินาที

 

นักฆ่าถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกและพูดด้วยความพอใจ “พลังของของเหลวศักดิ์สิทธ์นั้นน่าอัศจรรย์จริงๆ”

 

จากนั้นเขาก็โผล่ออกมาจากหลังก้อนหินแล้วตระหนักได้ว่าลิงค์กับไฮเอลฟ์เดินทางไปได้ไกลเป็นร้อยฟุตแล้ว เขาเพิ่มความเร็วของเขาแล้วไล่ตามไปในทันที

 

แม้ว่าลิงค์จะเป็นคนที่จัดการได้อยาก, แต่เขาก็จะยื้อเวลาให้นานที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ ตราบใดที่เขาสามารถฆ่าองค์หญิงไฮเอลฟ์ได้, ภารกิจของเขาก็จะสำเร็จ

 

ในอีกด้านนึง

 

โรมิลสันไม่ได้ทำตัวหยิ่งทะนงอีกต่อไปแล้ว เขาวิ่งข้างๆลิงค์ในขณะที่พวกเขามุ่งหน้าไปหาเป้าหมายด้วยกัน

 

“ลิงค์, ชายคนนั้นไล่ตามมาอีกแล้ว” โรมิลสันพูด

 

“รู้แล้ว ให้มันตามมาเถอะ พวกเรามีกันสองคน มันก็แค่มายั่วโมโหพวกเราเท่านั้นแหล่ะ” ลิงค์มองสถานการณ์ได้อย่างชัดเจน

 

โรมิลสันยังอดเหลียวหลังมองไม่ได้แล้วเขาก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ

 

“ไหงมันถึงเร็วขนาดนี้เนี่ย? มันน่าจะได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีก่อนหน้านี้สิ นี่มันดูเหมือนไม่มีรอยขีดข่วนอะไรเลยนะ”

 

จากนั้นลิงค์ก็สังเกตุดูรอบๆ, และหลังจากที่มั่นใจว่ามันปลอดภัย, เขาก็อธิบายกับโรมิลสัน

 

“นักฆ่าคนนั้นค่อนข้างแข็งแกร่ง มันน่าจะมีเลเวลประมาณ 6 มาตั้งแต่ก่อนที่จะได้รับการปลุกพลังแล้ว และตอนนี้พอมันได้รับพรจากอสรพิษทมิฬ, มันก็น่าจะอยู่ที่ขั้นสูงสุดของเลเวล 7 ซึ่งนี่ทำให้มันมีพลังชีวิตที่แข็งแกร่งมาก บาดแผลเล็กๆที่ฉันทำก่อนหน้านี้อาจจะรักษาได้ในเวลาแค่ไม่กี่วินาที เพื่อที่จะจัดการกับสิ่งมีชีวิตพวกนี้, นายต้องทำลายร่างของพวกมันให้สิ้นซาก ต่อให้ขยี้หัวใจของพวกมันก็คงจะฆ่าพวกมันไม่ได้ในทันที พวกมันจะยังต่อสู้ได้อีกสองสามวินาทีหลังจากที่ได้รับบาดเจ็บถึงชีวิต”

 

“แล้วอาวุธของมันคืออะไรหล่ะ? เจ้าดูออกไหม?” โรมิลสันถามอีกครั้ง ทัศนคติของเขาที่มีต่อลิงค์ได้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น และบางทีเขาอาจจะไม่รู้ตัวก็ได้

 

“ฉันก็มองไม่ออก แต่ว่า, สำหรับนักฆ่าการใช้อาวุธที่เด่นสะดุดตาแบบนั้น, หากมันไม่โง่อาวุธนั้นก็คงจะแข็งแกร่งมากๆหล่ะ ถ้าพวกเราจำเป็นต้องสู้กันเข้าจริงๆ, พวกเราก็ควรระวังเอาไว้”

 

อันที่จริง, ลิงค์รู้จักมีดสองเล่มนี้ เขาเคยเห็นมันมาก่อนตอนที่อยู่ในเกมส์

 

ตัวมีดสีแดงเข้มและออร่าสีแดงเพลิง—มีดคู่นี้คืออาวุธระดับอีพิคที่มีชื่อเสียงมากๆ พวกมันมีชื่อว่าสายตาของผู้เก็บเกี่ยว เขาจำได้ว่าอาวุธมีดสองชิ้นนี้มีพลังที่พิเศษมากๆ ถ้าพวกเขาถูกบังคับให้ต่อสู้กับนักฆ่าคนนี้, ลิงค์ก็น่าจะสามารถจัดการกับมันได้ อย่างไรก็ตาม, ถ้าโรมิลสันไม่ระวังตัว, เขาก็อาจจะถูกศัตรูข้าเอาได้อย่างง่ายดาย

 

พอคิดได้แบบนี้, ลิงค์ก็พูดเสริม “หลังจากที่พวกเราพบองค์หญิง, ฉันคิดว่าคนๆนี้จะต้องพยายามขัดขวางพวกเราแน่ๆ อย่าพยายามโจมตีมันหล่ะ, แค่ปกป้องตัวเองก็พอ”

 

นี่เป็นความหวังดีของลิงค์และเขาก็พยายามทำให้ดูใจดีที่สุดแล้ว อย่างไรก็ตาม, มันฟังดูเหมือนกับการดูถูก ซึ่งก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าในด้านระดับความแข็งแกร่งนั้น, โรมิลสันเป็นนักเวทย์เลเวล 7 ในขณะที่ลิงค์เป็นแค่นักเวทย์เลเวล 6 ซึ่งการถูกนักเวทย์ที่มีระดับต่ำกว่าเตือนนั้นถือว่าเป็นการดูถูกสำหรับโรมิลสัน ดังนั้นเขาจึงเยาะเย้ยออกมา “เจ้าไม่ต้องมาเป็นห่วงข้าหรอก”

 

ลิงค์แค่จ้องไปที่เขาแล้วยิ้มออกมาบางๆ

 

โรมิลสัลไม่สามารถรับมันได้อีกแล้วและเขาก็ตะโกนออกมา “มองแบบนี้หมายความว่ายังไง? ดูถูกหรอ? หรือว่าเหยียดหยาม?  ให้ข้าบอกเจ้านะ, ถึงแม้ว่าข้าอาจจะยังไม่แข็งแกร่งเท่าเจ้า, แต่ข้ายังสามารถจัดการกับนักฆ่าหนึ่งคนด้วยตัวเองได้”

 

“ก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นนะ” ลิงค์ส่ายหัวในขณะที่พูด เขาได้ปะมือกับไฮเอลฟ์คนนี้มาเมื่อสักครู่นี้และเข้าใจทักษะพื้นฐานของเขาแล้ว ลิงค์พูดได้แค่ว่าไฮเอลฟ์หนุ่มคนนี้ประเมินความสามารถของตัวเองสูงเกินไปจริงๆและแทบไม่มีประสบการณ์การต่อสู้อย่างเห็นได้ชัด

 

“หืม, นี่พวกเจ้าทั้งคู่กลัวข้าจริงๆสินะ?” เสียงของนักฆ่าดังขึ้นจากด้านหลังอีกครั้ง เสียงของเขาฟังดูยั่วโมโห

 

จากนั้นเสียงก็ยังดังขึ้นอีก “ข้าบอกว่า, พวกเจ้าทั้งคู่ขี้ขลาดหรอ? 55, ผู้ควบคุมเพลิงที่มีชื่อเสียงไปทั่วฟิรุแมนกำลังเงียบกริบต่อหน้าข้าจริงๆหรอเนี่ย”

 

ลิงค์ทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดพวกนี้ในขณะที่เขาคำนวนตำแหน่งที่แน่นอนของมิลด้าในหัวของเขา

 

โรมิลสัน, ในอีกด้านนึง, ไม่สามารถทนมันได้อีกต่อไปแล้ว, เขาตะโกนออกมา “ไอหนูขี้ขลาด! รับเวทย์มนตร์ของข้าไปสักดอกสิถ้าเจ้ากล้า!”

 

“โห, เจ้าคิดว่าข้าโง่รึไง? ถ้าเจ้าสามารถยิงโดนข้าได้ก็เข้ามาสิ” ในขณะที่เขาพูด, นักฆ่าคนนี้ก็หลบหลังหินก้อนใหญ่อย่างรวดเร็ว, โผล่ออกมาแค่หัวของเขา

 

โรมิลสันกัดฟันของเขาในขณะที่ในที่สุดเขาก็มองเจตนาของชายคนนี้ออก ดังนั้นเขาจึงเริ่มเรียนรู้จากลิงค์ในการไม่สนใจและไม่โต้ตอบการยั่วโมโหของเขา

 

หลังจากผ่านไปอีกสองนาที, ลิงค์ก็พูดออกมาอย่างกระทันหัน “เตรียมตัวซะ!”

 

“อะไร? ให้ข้าทำอะไร?” โรมิลสันไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา

 

ลิงค์ไม่ได้อธิบาย, เขาแค่แผ่มานาออกมาทั่วร่างของเขาและร่ายเวทย์ข้ามมิติ

 

ในแสงสว่างจ้า, ลิงค์กับโรมิลสันหายไปจากตำแหน่งปัจจุบันของพวกเขา, และในทันทีทันใด, พวกเขาก็ย้ายไปยังพื้นที่ที่ห่างออกไปหนึ่งไมล์

 

ในตอนที่พวกเขาถึงพื้น, ลิงค์ก็พูดขึ้น “องค์หญิงอยู่ที่นี่…ไม่ต้องห่วง, ฉันเจอเธอแล้ว”

 

ระยะห่างออกไปแค่ 60 ฟุตระหว่างหินก้อนใหญ่สองก้อน, องค์หญิงมิลด้านอนอยู่บนพื้นที่เปียกโชกไปด้วยเลือด ใบหน้าของเธอกลายเป็นสีน้ำเงิน, และลมหายใจของเธอก็รวยริน ลูกกระสุนหน้าไม้ได้เจาะลึกเข้าไปในอวัยวะภายในด้านขวาของเธอ

 

แล้วลิงค์ก็รีบเดินไปหาอย่างรวดเร็ว, และหลังจากที่ตรวจสอบดูคร่าวๆ, เขาก็พูดออกมา “ลูกกระสุนหน้าไม้ไม่ได้ทำให้อวัยวะภายในที่สำคัญของเธอบาดเจ็บเลย แต่ว่า, มีพิษร้ายแรงอาบกระสุนหน้าไม้เอาไว้อยู่!”

 

ในขณะที่เขาพูดออกมา, เขาก็ดึงลูกดอกหน้าไม่ออกมาจากบาดแผลโดยไม่ลังเล จากนั้นเลือดก็พุ่งออกมาจากบาดแผล, และมิลด้าก็พึมพำออกมาด้วยความเจ็บปวดอย่างครึ่งหลับครึ่งตื่น

 

โรมิลสันรู้สึกใจหายกับฉากนี้แล้วตะโกนออกมา “เจ้ากำลังทำอะไร? เจ้าพยายามฆ่าองค์หญิงหรอ?”

 

“หุบปากไปเถอะหน่า! ฉันพยายามช่วยเธออยู่นะ!” ลิงค์เอามือกดบาดแผลและร่ายเวทย์หิมะเพื่อรวบรวมธาตุน้ำ, แล้วห่อหุ้มแผลของเธอเอาไว้ด้วยน้ำแข็ง ขั้นตอนเหล่านี้เสร็จสิ้นในเวลาสามวินาที

 

แม้ว่านี่จะไม่ได้ช่วยรักษาบาดแผลของมิลด้า, แต่มันก็สามารถชะลอการแพร่กระจายของพิษที่อยู่ในร่างกายของเธอได้อย่างมาก

 

ลิงค์ใช้เวลาไม่ถึงห้าวินาทีในการจัดการเรื่องทั้งหมดนี้ จากนั้นเขาก็ร่ายเวทย์ลอยใส่มิลด้าแล้วหันไปพูดกับโรมิลสัน “นายพาองค์หญิงไปด้วยซะ; พวกเราจะมุ่งหน้ากลับไปที่เทือกเขามอดไหม้เดี๋ยวนี้เลย!”

 

“เอ่อ, อ้า โอเค!” โรมิลสันเรียกอาชาทมิฬออกมาแล้วใช้มือแห่งนักเวทย์ยกองค์หญิงมิลด้ามาไว้บนหลังม้า จากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปทางเทือกเขาหมอดไหม้

 

ในทำนองเดียวกัน, ลิงค์เองก็อัญเชิญเฟนเรียสายลมของเขาออกมาแล้วอยู่ข้างโรมิลสันตลอดเวลา, และรักษาสภาพตื่นตัวของเขาเอาไว้

 

ในอีกด้านนึงของป่า, นักฆ่าจ้องมองพื้นที่ว่างเปล่าที่ลิงค์กับโรมิลสันเคยยืนอยู่ด้วยความตกใจจนพูดไม่ออก เขาใช้เวลาหลายวินาทีก่อนที่จะเรียกสติกลับมาได้และตบต้นขาของเขาด้วยความเจ็บปวด ลิงค์, เจ้าเล่นข้าซะอยู่หมัดเลย, ข้ายังตกหลุมพลางของเจ้าอีกหรอเนี่ย!

 

ไม่จำเป็นต้องพูดถึง, เส้นทางแรกที่ไฮเอลฟ์มุ่งหน้าไปนั้นเป็นเส้นทางที่ถูกต้อง การเปลี่ยนทิศทางนั้นเป็นแผนการของลิงค์อย่างไม่ต้องสงสัย เขาตั้งใจเลือกขยับทิศทางไปยิ่สิบองค์ศาจากตำแหน่งเดิมเพื่อสร้างภาพลวงตาว่าพวกเขาแค่กำลังปรับทิศทางการเดินทาง

 

เขาได้ข้อมูลมาจากดาร์คเอลฟ์มาว่าเวทย์เคลื่อนย้ายของลิงค์นั้นมีระยะสูงสุดที่หนึ่งไมล์ แม้ว่าพวกเขาจะปรับองค์ศาการเดินทางเล็กน้อยจากวิถีเดิมของพวกเขา, แต่การขยับทิศทางของพวกเขาก็ยังห่างแค่หนึ่งไมล์จากตำแหน่งดั้งเดิมของพวกเขาอยู่ดี หลังจากที่ปรับแต่งเวทมนตร์เล็กน้อย, มันก็จะกลายเป็นระยะที่เหมาะสมสำหรับลิงค์ในการร่ายเวทย์ข้ามมิติของเขา

 

ลิงค์ได้จัดการใช้เวทย์เคลื่อนย้ายหมู่นี้เพื่อสร้างข้อได้เปรียบครั้งยิ่งใหญ่ให้ตัวเองอีกแล้ว

 

“บ้าชะมัด! ข้าโคตรเกลียดไอหมอนี่เลย!” นักฆ่านึกถึงท่าทีของลิงค์ตลอดเวลามานี้และตระหนักได้ว่าลิงค์มองแผนการของเขาออกอย่างทะลุปรุโปร่ง ซึ่งนี่มันเป็นการดูถูกอย่างแท้จริง

 

ในตอนนี้, เขาเห็นลูกน้องของตัวเองอยู่เบื้องหน้าเขา แล้วเขาก็ตะโกนออกมาในทันที “ตามข้ามา; เราจะไปขัดขวางพวกมันกัน!”

 

ลิงค์ได้ใช้เวทย์เคลื่อนย้ายกลุ่มไปแล้วหนึ่งครั้ง เขาไม่เชื่อว่าลิงค์สามารถร่ายมันได้อีกครั้ง! และต่อให้เขาทำได้, พวกเขาก็อยู่ห่างออกไปแค่หนึ่งไมล์ พวกเขายังสามารถไล่ตามได้ถ้าพวกเขาใช้ความเร็วสูงสุด

 

เขาสนใจอยากเห็นว่าลิงค์นั้นเหลือมานาอยู่แค่ไหนหลังจากศึกใหญ่ที่เทือกเขามอดไหม้!

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset