ที่รกร้างเฟิร์ด, ชายฝั่งตะวันออก
อากาศดีมากๆ สายลมเย็นฉ่ำพัดผ่านชายหาดในขณะที่แสงอาทิตย์สีทองส่งแสงลงมาทั่วโลกแห่งฟิรุแมน มีนกนางนวลมากมายกำลังอาบแดดอยู่ริมชายหาด, และในสถานที่ที่คลื่นมาไม่ถึง, ต้นไม้เขียวขจีก็เข้ามาแทนที่ เราสามารถมองเห็นได้แม้กระทั่งต้นไม้กำลังพริ้วไหวในสายลมอันแสนผ่อนคลายนี้
“นี่, ตาแก่, ได้เวลาตื่นแล้ว พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว” ลิงค์เดินมาที่ชายหาดแล้วเตะขากระดูกที่ยื่นออกมาจากทรายสีขาวละเอียดเบาๆ
ไม่กี่วินาทีต่อมา, ก็มีเสียงดังขึ้นจากใต้ทราย “เจ้ามาที่นี่คนเดียวหรอ? เจ้าไม่กลัวว่าจะมีคนสงสัยสิ่งที่เจ้ากำลังทำอยู่รึไง?”
ลิงค์แตกต่างจากคนที่เขาเคยเป็น ตอนนี้, ทุกการกระทำของเขานั้นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ มันคงจะเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักที่นึงแม้ว่าเขาจะต้องการก็ตาม นี่เป็นปัญหาที่คนที่ประสบความสำเร็จมากเกินไปอย่างลิงค์กำลังเผชิญ
จากนั้นลิงค์ก็ยิ้มในขณะที่พูดขึ้น “ผมมาที่นี่กับเซลีนหน่ะ, ผมอ้างว่ามาฝึกเธอให้เป็นนักแม่นปืน”
ฟู่วว, โครงกระดูกปรากฎขึ้นจากพื้นในขณะที่ทรายสีขาวละเอียดรอบตัวเขาถูกโยนไปข้างๆ จากนั้นแวนซ์ก็พูดด้วยน้ำเสียงขี้เซา “นักแม่นปืนหรอ? นักแม่นปืนอะไรกัน?”
การระเบิดของผิวน้ำอย่างกระทันหันนี้ได้ตอบคำถามของเขา ระเบิดนี้เดินทางเป็นเส้นตรงและสลายไปหลังจากที่พุ่งผ่านน้ำไปได้ 150 ฟุต
ขณะที่มองตามทิศทางของการระเบิดที่เป็นเส้นตรงนี้, แวนซ์ก็เห็นคนๆนึงยืนอยู่บนก้อนหินในระยะที่ห่างออกไปประมาณนึง ตรงนั้นเซลีน, ที่สวมชุดเกราะสีเทา, กำลังโบกมือให้เขาพร้อมกับหมวกในมือของเธอ
“ในช่วงเวลานี้, เซลีนจะมาฝึกเป็นนักแม่นปืนที่นี่และจะเพิ่มการเฝ้าระวังขึ้นเป็นสองเท่าด้วย ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลหรอกว่าจะมีคนมาเจอพวกเรา”
“ถ้าอย่างงั้นก็โอเค” จากนั้นแวนซ์ก็ยืนขึ้นแล้วเอาผ้าคลุมสีดำมาสวม ด้วยวิธีนี้, ต่อให้มีคนมาเจอเขาอยู่ด้วยกันกับลิงคจากที่ไกลๆ, ลิงค์ก็ยังพอมีพื้นที่ให้อธิบาย
“ไปกันเถอะ ที่นี่มันโล่งเกินไป ไปคุยกันต่อในถ้ำน่าจะสะดวกกว่า” แวนซ์พูดในขณะที่เขามุ่งหน้าตรงไปยังถ้ำที่อยู่ริมฝั่งทะเล
จากนั้นลิงค์ก็ตามหลังเขาไปในขณะที่พูด “ตาแก่, ช่วงนี้ผมได้อ่านหนังสือหุ่นเชิดเวทมนตร์ที่เป็นของไฮเอลฟ์มาหลายเล่ม หนึ่งในนั้นได้พูดถึงบางสิ่งที่เรียกว่าหุ่นเชิดเวทมนตร์เหมือนมนุษย์ ร่างกายที่ว่านี้เหมือนจริงมากจนคนธรรมดาคงจะไม่สามารถแยกความแตกต่างได้เลย บางทีผมน่าจะสามารถสร้างมันให้คุณได้ตัวนึงนะ”
แล้วแวนซ์ก็สบัดมือในขณะที่พูด “ข้าแค่อยากนอนอยู่ริมหาดและพักผ่อน ข้าไม่สนใจเรื่องที่เหลือหรอก”
จากนั้นลิงค์ก็พูดต่อ “หุ่นเชิดเวทมนตร์ชนิดนี้มีร่างกายที่ละเอียดอ่อนและซับซ้อนมากๆ, ทำให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับทุกสิ่งที่คนมีชีวิตสามารถทำได้ คุณจะได้ลิ้มลองรสชาติอาหาร, รู้สึกถึงความหนาวเย็นอันขมขื่นและความร้อนที่ยากจะทานทนได้อีกครั้งนะ แล้วคุณก็ยังสามารถหาคนรักให้ตัวเองได้อีกด้วย…”
ก่อนที่ลิงค์จะพูดจบ, แวนซ์ก็หยุดเดินแล้วพูดขึ้น “มันไม่มีทางที่หุ่นเชิดเวทมนตร์แบบนั้นจะมีตัวตนอยู่ในโลกหรอก!”
เหตุผลสำหรับการดูถูกชีวิตของเขานั้นจริงๆแล้วเป็นเพราะเขาไม่สามารถสัมผัสกับความรู้สึกที่คนมีเลือดเนื้อสามารถทำได้ แล้วเขาก็ไม่เต็มใจที่จะเข้าสู่ด้านมืดเพื่อได้รับความสุขจากการกระทำที่น่ากลัวเหล่านั้นด้วย ดังนั้น, เขาจึงทำได้แค่พักผ่อนอยู่ริมหาดเพื่อฆ่าเวลาในตอนที่เขาว่างเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม, ด้วยหุ่นเชิดเวทมนตร์เหมือนมนุษย์อันซับซ้อนนี้, เขาจะสามารถเพลิดเพลินกับความสุขที่คนมีเลือดเนื้อทำได้อีกครั้ง เขาเกือบจะลืมความรู้สึกเหล่านั้นไปแล้ว เขาจำได้แค่ว่ามันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดและมหัศจรรย์มาก, บางสิ่งที่เขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มันมา
“เผ่ามนุษย์ไม่สามารถทำได้ แต่ว่า, ไฮเอลฟ์ทำได้นะ พวกเขามีประสบการณ์ด้านเวทมนตร์มาเป็นหมื่นๆปี ในช่วงเวลาเหล่านี้, มีตัวอย่างอันน่าอัศจรรย์นับไม่ถ้วนที่นำไปสู่ขุมทรัพย์ทางปัญญาอันยิ่งใหญ่ แล้วผมก็หาวิธีสร้างหุ่นเชิดเวทมนตร์ประเภทนี้ได้แล้วด้วย”
“พอได้แล้ว ข้าอยากได้ ข้าต้องทำยังไงหล่ะ?” แวนซ์ตอบในทันที
แล้วลิงค์ก็พูดต่อ “ผมยังทำให้ไม่ได้หรอก มีสิ่งที่ต้องจ่ายสำหรับร่างกายนี้”
“มันคืออะไรหล่ะ? ข้าสามารถจ่ายได้ทุกอย่าง, ตราบใดที่ข้าสามารถทำได้”
“อย่างแรก, หุ่นเชิดเวทมนตร์เหมือนมนุษย์นี้มีความละเอียดอ่อนมากๆ เพื่อที่จะทำให้หุ่นเชิดตัวนี้ทำงานได้อย่างเต็มที่, วิญญาณของคุณจะต้องถูกหลอมรวมเข้ากับหุ่นเชิดอย่างสมบูรณ์ นี่เป็นขั้นแรกในการปรับความรู้สึกของคุณกับหุ่นเชิด ซึ่งกระบวนการนี้จะไม่สามารถย้อนกลับได้, สรุปก็คือ, เมื่อวิญญาณของคุณหลอมรวมเข้ากับหุ่นเชิดแล้ว, มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะดึงวิญญาณของคุณออกมาอีกครั้ง”
“แล้วข้าจะอยากออกมาจากมันอีกทำไมหล่ะในเมื่อข้าได้ความรู้สึกกลับมาแล้ว? นั่นไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิด!” แวนซ์ตะโกน
“อีกประเด็นนึง” ลิงค์พูดต่อ “เนื่องจากต้องหลอมรวมวิญญาณของคุณอย่างสมบูรณ์, ถ้าหุ่นเชิดได้รับความเสียหายไม่ว่าในกรณีใดๆ, วิญญาณของคุณก็จะได้รับความเสียหายในจำนวนที่เท่ากันด้วย คุณจะตายได้เหมือนกับคนทั่วๆไป หากคุณไม่ได้แข็งแกร่งพอที่จะจุดไฟศักดิ์สิทธิ์ในตัวคุณและกลายเป็นพระเจ้าก่อนที่คุณจะตาย, คุณก็คงไม่มีทางที่จะได้รับชีวิตอมตะอีกครั้ง”
มีราคาที่ต้องจ่ายสำหรับทุกการตัดสินใจ, ซึ่งนี่คือวิธีการที่โลกแห่งฟิรุแมนใช้ในการรักษาสมดุลของโลก ในตอนนี้, มีแค่อุปกรณ์ระดับพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถทำลายสมดุลนี้ได้บางส่วน
อย่างไรก็ตาม, แวนซ์ไม่ได้แสดงความลังเลเลย เขาแค่หัวเราะเบาๆแล้วพูด “ตอนนี้, ข้าก็ไม่ต่างอะไรจากคนตาย การที่สามารถเพลิดเพลินกับโลกได้ด้วยความรู้สึกเต็มที่อีกครั้งก็คุ้มค่าให้เสียสละแล้ว!”
ลิงค์ไม่ได้ประหลาดใจกับการตัดสินใจนี้แล้วพูดขึ้น “ถ้างั้นก็ถือว่าไม่มีปัญหานะ พอพวกเราปรับปรุงนานะเสร็จ, ผมจะสร้างร่างกายนั้นให้คุณ”
หลังจากที่เข้ามาในถ้ำ, ลิงค์ก็ตระหนักได้ว่าแวนซ์ได้ขยายพื้นที่แห่งนี้ให้กว้างขึ้นอีกเมื่อเทียบกับครั่งสุดท้ายที่เขาเข้ามา มันกลายเป็นพื้นที่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางกว่า 30 ฟุตและสูงเก้าฟุตแล้ว และข้างในก็เจ๋งมากๆด้วย
ที่กลางถ้ำมีโต๊ะเรียบๆที่ทำจากหินตั้งอยู่ มีรูเล็กๆที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติอยู่บนโต๊ะด้วย, ซึ่งอนุญาติให้แสงเข้ามาในช่องได้ แล้วก็มีเลนส์หักเหแสงตั้งอยู่บนพื้นอย่างมีแบบแผน, หักเหแสงตรงไปยังโต๊ะหิน ซึ่งหลักในการติดตั้งนี้ทำงานคล้ายกับโคมไฟบนโลก
“เป็นโต๊ะเสริมพลังที่ใช้ได้เลยนะ” ลิงค์แสดงความคิดเห็น
“ข้าทำมันในเวลาว่างหน่ะ เอาหล่ะ, ข้ารู้ว่านานะต้องได้รับความเสียหายแน่ๆ เอาชิ้นส่วนมาให้ข้าดูซิ” แวนซ์พูด
จากนั้นลิงค์ก็เอาชิ้นส่วนโลหะต่างๆออกมาจากจี้ต่างมิติ แล้วโต๊ะหินก็เต็มอย่างรวดเร็ว, และเขาก็พูดขึ้น “เธอถูกอสรพิษทมิฬทำความเสียหายจากด้านหลัง นอกจากหัวของเธอที่ยังอยู่, ส่วนอื่นๆก็กลายเป็นซากหมดแล้ว ผมได้ตรวจสอบหัวใจที่ติดตั้งอยู่ในสมองของเธอ, และดูเหมือนว่ามันจะเสียหายเล็กน้อย พวกเราน่าจะซ่อมเธอได้อยู่นะ”
แวนซ์แค่สังเกตุชิ้นส่วนบนโต๊ะและอยู่เงียบๆ เขาให้ความสนใจกับชิ้นส่วนที่ถูกอุปกรณ์ระดับพระเจ้าโจมตีโดยตรง เขาใช้เวลาพักใหญ่ๆก่อนที่เขาจะส่ายหัวแล้วพูดขึ้น “พลังของอุปกรณ์ระดับพระเจ้านี่มันน่าอัศจรรย์จริงๆ!”
จากนั้น, เขาก็หยิบหัวของนานะขึ้นมาแล้วใช้เวทย์สนามพลังฮิกที่มือของเขา ด้วยพลังเพียงเล็กน้อย, ด้านนอกของส่วนหัวของนานะก็ถูกถอดออก, และคริสตัลสีไพลินก็หลุดออกมาจากข้างใน
คริสตัลนี้มีขนาดประมาณสองกำปั้นและเก็บรูนเอาไว้มากมาย ซึ่งรูนพวกนี้หนาแน่นมากจนพวกมันดูเหมือนกับชั้นเคลือบที่ไม่มีรอยต่อ
จากนั้นแวนซ์ก็ระลึกถึงอดีต “ในตอนที่ข้าเพิ่งจะสร้างนานะ, มีวงรูนแค่ประมาณ 1,000 วงในหัวใจของเธอเท่านั้นเอง แต่ว่า, หลังจากการศึกษาหลายร้อยปีของข้า, จำนวนของวงรูนที่อยู่ในหัวใจของเธอก็เพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า ดูที่จุดต่อพวกนี้สิ นี่คือประสบการณ์การต่อสู้ทั้งหมดของนานะตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ ก่อนหน้านี้ข้าได้ตรวจสอบมันไปแล้วในตอนที่ข้ากำลังปรับแต่ง ซึ่งนานะได้เอาชนะผู้บุกรุกเกือบ 200 คนในช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมานี้เพื่อปกป้องพระราชวังใต้ดินของข้า และหนึ่งในคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของเธอก็เป็นนักฆ่าเลเวล 9 ดูนี่, มันได้บันทึกชื่อของนักฆ่าคนนั้นเอาไว้ได้ มันมีชื่อว่ามอร์เฟียส”
ลิงค์ตกใจ
มอร์เฟียสหรอ? นั่นหัวหน้าของสมาคมไม่ใช่รึไง? คนที่เคยได้รับสถานะตำนานและเกือบจะได้กลายเป็นพระเจ้า, นักสะกดรอยแห่งความมืดคนนั้นอะนะ?
ดูเหมือนว่าเขาเองก็ถูกนานะเอาชนะได้เหมือนกัน นอกจากนี้, เขาก็ไม่ได้กลับมาแก้แค้นเลยด้วยต่อให้ผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม และถึงแม้ว่านี้อาจจะเป็นเพราะมอร์เฟียสยุ่งกับปัญหาอื่นอยู่, แต่นี่เองก็สื่อว่ามอร์เฟียสกลัวนานะได้เช่นกัน
ความแข็งแกร่งของนานะนั้นช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ
“โอ้, ดูตรงนี้สิ, มันแตกนี่ หัวใจยังได้รับความเสียหายอยู่บ้าง แต่โชคดีที่, มันไม่ได้ทำอันตรายกับโครงสร้างหลักของหัวใจ ข้าสามารถซ่อมส่วนนี้ได้อยู่”
ในขณะที่เขาพูด, แสงก็ปกคลุมมือของแวนซ์เนื่องจากเขากำลังเตรียมตัวที่จะซ่อมหัวใจ อย่างไรก็ตาม, เขาก็ถูกลิงค์ขัดขวาง
“เดี๋ยวก่อนสิ, ไม่ต้องรีบหรอก” แล้วลิงค์ก็กางคำภีร์เปล่าแผ่นใหญ่ที่โต๊ะหิน จากนั้นเขาก็ใส่มานาเข้าไปเพื่อเปิดใช้มัน
ด้วยเสียงกระหึ่มเบาๆ, ภาพโฮโลแกรมที่ชัดเจนก็ปรากฎขึ้นบนคำภีร์ มันคือรายละเอียดโครงสร้างหัวใจของหุ่นเชิด ลิงค์ชี้ไปที่ภาพโฮโลแกรมแล้วพูด “ผมมีความคิดใหม่ๆเยอะแยะเลย ซึ่งผมรู้สึกว่าพวกเราสามารถปรับปรุงนานะได้ผ่านวิธีพวกนี้ แต่ว่า, ผมไม่เคยลองทำจริงเลย ดังนั้นผมก็เลยไม่มั่นใจในความเป็นไปได้ของพวกมัน คุณช่วยผมดูหน่อยได้ไหม?”
แวนซ์ไม่ได้พูด เขาสนใจแต่ภาพโฮโลแกรมที่อยู่เบื้องหน้าเขาเรียบร้อยแล้ว เขาหมุนโฮโลแกรมวนไปวนมาและตรวจสอบโครงสร้างรูนทั้งหมดที่อยู่ในหัวใจอย่างระมัดระวัง
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงเต็ม, เขาก็ชี้ไปที่โครงสร้างอันซับซ้อนแล้วถาม “ข้าไม่เข้าใจส่วนนี้เลยจริงๆ มันมีไว้เพื่ออะไรหรอ?”
“นี่เป็นโครงสร้างสติปัญญาที่ไฮเอลฟ์คิด หน้าที่ของมันคือการทำให้กระบวนการคิดของหุ่นเชิดเวทมนตร์ที่มีแต่เหตุผลล้วนๆนั้นเหมือนมนุษย์มากขึ้น” ลิงค์ตอบ
“เหมือนมนุษย์หรอ?” แวนซ์ยังสับสนอยู่เล็กน้อย
“ใช่” ลิงค์พยักหน้าแล้วพูดต่อ “ยกตัวอย่างเช่น, ถ้าผมถามนานะว่าหนึ่งบวกหนึ่งได้เท่าไหร่, เธอก็จะตอบกลับมาแค่สองและจะไม่ตอบคำถามแบบอื่น แต่ว่า, หลังจากที่ใช้โครงสร้างอันซับซ้อนนี้, นานะจะสามารถเลือกที่จะไม่ตอบคำถามง่ายๆแบบนี้ได้ ซึ่งประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมันก็คือการป้องกันไม่ให้นานะติดกับดักวังวนของเหตุผลอันไร้ที่สิ้นสุด”
แล้วแวนซ์ก็คิดลึกลงไปอีกในขณะที่เขากระซิบ “วังวนไม่รู้จบหรอ? ข้าเคยพิจารณาถึงเรื่องนี้และได้ทำการดัดแปลงนานะไปบางส่วน แต่ว่า, มันก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ ดูเหมือนว่าโครงสร้างของเจ้าจะละเอียดพอและน่าจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างสมบูรณ์นะ มันวิเศษมาก, วิเศษจริงๆ, พวกไฮเอลฟ์นี้มันอัจฉริยะชัดๆ”
จากนั้นเขาก็สังเกตุโครงสร้างต่อ เวลาไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว, แล้วแวนซ์ก็ศึกษาโครงสร้างเสร็จในที่สุดหลังจากที่ผ่านไปสามชั่วโมง จากนั้นเขาก็ถอนหายใจในขณะที่พูด, “พอมาเปรียบเทียบกับหัวใจหุ่นเชิดเวทมนตร์ของเจ้าแล้ว, ของข้านี่แทบจะเหมือนตะแกรงเลย มันเต็มไปด้วยรู, และข้าคงจะต้องโชคดีมากจริงๆที่นานะรอดมาได้จนถึงวันนี้”
ลิงค์ส่ายหัวแล้วพูด “นั่นก็เกินไป ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของนานะอยู่ที่ประสบการณ์การต่อสู้กว่าหลายร้อยปีของเธอ ซึ่งมันเป็นสมบัติอันล้ำค่าอย่างแท้จริง ส่วนที่เหลือนั้นก็เป็นแค่ส่วนที่ช่วยเสริมจุดเด่นนี้เท่านั้น ดังนั้นโครงสร้างที่ผมพัฒนาขึ้นนั้นก็แค่เอาไว้ช่วยให้นานะใช้ข้อเปรียบของเธอได้อย่างเต็มที่เท่านั้นแหล่ะ”
ในขณะที่ลิงค์พูด, เขาก็เอาคำภีร์ออกมาอีกแผ่นแล้วใส่มานาเข้าไป ไม่นานนัก, โฮโลแกรมอีกภาพก็ปรากฎขึ้นในอากาศ ครั้งนี้, มันคือพิมพ์เขียวของโครงสร้างร่างกายของนานะ
แล้วแวนซ์ก็ตรวจสอบมันอย่างระมัดระวัง ประสบการณ์ในการสร้างหุ่นเชิดเวทมนตร์ของเขานั้นมีมากมายจริงๆ, เขาพบจุดบกพร่องที่มีอยู่มากมายในแบบได้อย่างรวดเร็ว
ลิงค์ยืนอยู่ข้างๆเขาแล้วเริ่มทำการแก้ไขแบบในตอนที่แวนซ์ชี้ไปที่จุดบกพร่อง และบ่อยครั้งมาก, ที่พวกเขาจะพูดถึงวิธีการพัฒนาแบบ
แม้ว่าแวนซ์อาจจะดูเหมือนคนซึมเศร้าและขาดแรงบันดาลใจ, แต่เขาเองก็เคยเป็นอัจฉริยะในยุคสมัยของเขา
การแลกเปลี่ยนไอดีและความคิดของพวกเขานั้นดำเนินไปได้อย่างลื่นไหลมากๆ ความคิดใหม่ๆผุดขึ้นมาในสมองของพวกเขาอย่างต่อเนื่องเหมือนกับฟองในน้ำที่กำลังเดือด จุดบกพร่องแต่ละจุดนั้นถูกพวกเขาทั้งคู่แก้ไขอย่างรวดเร็ว
เวลาล่วงเลยไป, และท้องฟ้าก็มืดลง ลิงค์ต้องกลับไปยังดินแดนของเขา แล้วแวนซ์ก็พูดด้วยความผิดหวัง “มันผ่านมานานมากแล้วนะที่ข้าไม่ได้รู้สึกเพลิดเพลินขนาดนี้ ถึงกระนั้น, ข้าก็ดันเกิดเร็วไป 1,000 ปี ถ้าเจ้าอยู่ด้วยในตอนนั้น, ข้าคงจะไม่ต้องทำการวิจัยอันแสนเจ็บปวดอย่างออร่าต่อสู้นั่นหรอก!”
ลิงค์เองก็รู้สึกเพลิดเพลิน, เขาพูดออกมา “พวกเรายังมีปัญหาอีกมากมายที่ยังไม่ได้แก้ ถ้าพรุ่งนี้ผมไม่มีธุระอะไร, ผมจะมาตอนสิบโมงเช้า แต่ถ้าผมมาเวลานั้นไม่ได้, ผมจะฝากเซลีนมาแจ้งตำแหน่งของผมให้คุณทราบนะ”
“ก็ได้, ข้ารอให้ถึงวันพรุ่งนี้ไม่ไหวแล้วสิ” แวนซ์พูด
หลังจากบอกลากันสั้นๆ, ลิงค์ก็ออกจากถ้ำไป พอมาถึงทางออก, เขาก็เห็นเซลีนกำลังฝึกดาบอยู่ที่ชายหาด
จากนั้นลิงค์ก็ได้รับแรงบันดาลใจจากฉากนี้ “ออร่าต่อสู้ของเซลีนยังค่อนข้างอ่อนแออยู่ แม้ว่าปื่นเพลิงยักษ์จะแข็งแกร่ง, แต่เธอก็ยังตกอยู่ในอันตรายได้ถ้าที่ซ่อนของเธอถูกเปิดเผย เธอน่าจะต้องใช้อะไรบางอย่างที่สามารถปกป้องเธอได้ในการต่อสู้ระยะใกล้…ใช่แล้วปืนลูกซองน่าจะดีนะ”
แล้วลิงค์ก็ตัดสินใจที่จะสร้างปืนลูกซองคู่ที่มีอำนาจการยิงสูงให้กับเซลีนในตอนที่เขามีเวลาว่าง
หลังจากนั้น, ลิงค์ก็เรียกเซลีนที่จดจ่ออยู่กับการฝึกของเธอแล้วพูด, “ไปกันเถอะ”
“ก็ได้” แล้วเซลีนก็เก็บดาบของเธอ
“เธอใช้กระสุนไปหมดแล้วหรอ?” ลิงค์ถาม
“มันมีแค่ 150 นัดเองนะ ฉันใช้หมดไปตั้งนานแล้ว” เซลีนผายมือออกมาอย่างช่วยไม่ได้ มันรู้สึกสดชื่อและเร้าใจมากๆในขณะที่ยิงปืน อย่างไรก็ตาม, กระสุนมันก็มีน้อยเกินไป
“พรุ่งนี้ฉันจะเตรียมกระสุนให้เธอเพิ่มอีกนะ…” ลิงค์พูดในขณะที่เขาสาบานว่าจะหาวิธีที่ง่ายกว่านี้ในการสร้างกระสุน มันเป็นงานที่น่าเบื่อมากเกินไปในการทำเรื่องเดิมๆทุกวัน
“เอาสิ” เซลีนพูดอย่างคาดหวังพร้อมกับรอยยิ้มบนหน้าของเธอ
ชายหาดนั้นอยู่ไม่ไกลจากเทือกเขามอดไหม้; พวกเขาทั้งคู่กลับไปถึงค่ายอย่างรวดเร็ว และในตอนที่พวกเขามาถึงทางเข้า, พวกเขาก็เห็นกิลเดิร์นกำลังเดินมาหาพวกเขา
พอได้เห็นสีหน้าจริงจังของกิลเดิร์น, ลิงค์ก็รู้สึกหนาวไปถึงสันหลังในขณะที่เขาถาม “เกิดอะไรขึ้น?”
กิลเดิร์นเอาจดหมายออกมาแล้วพูดขึ้น “นายท่าน, MI3 ได้ส่งจดหมายด่วนมาจากสนามรบ มีตราดาบโลหิตประทับอยู่หน้าซองด้วยครับ”
ตอนนี้ลิงค์ได้เป็นสมาชิกหลักของกลุ่มตำแหน่งสูงในอาณาจักรนอร์ตันแล้ว เขามีหน้าที่ในการตรวจสอบข้อมูลเหมือนกับผู้อาวุโสแอนโทนี่ ซึ่งเขาจะได้รับสำเนาที่เกี่ยวกับสถานการณ์ในสนามรบ
และถ้ามีตราดาบโลหิตประทับอยู่หน้าซอง, มันก็หมายความว่าข้อมูลในจดหมายนั้นสำคัญมากๆ, มันคือจุดที่อาจจะเปลี่ยนแปลงกระแสสงครามได้ กิลเดิร์นก็รู้ความจริงนี้เช่นกัน
นี่หมายความว่าบางสิ่งบางอย่างที่อาจจะส่งผลเสียต่อสงครามทางตอนเหนืออาจจะเกิดขึ้น