Advent of the Archmage – ตอนที่ 263: ถึงเวลาชุบชีวิตนานะแล้ว (ส่วนที่ 2)

ที่รกร้างเฟิร์ด, ชายฝั่งตะวันออก

 

อากาศดีมากๆ สายลมเย็นฉ่ำพัดผ่านชายหาดในขณะที่แสงอาทิตย์สีทองส่งแสงลงมาทั่วโลกแห่งฟิรุแมน มีนกนางนวลมากมายกำลังอาบแดดอยู่ริมชายหาด, และในสถานที่ที่คลื่นมาไม่ถึง, ต้นไม้เขียวขจีก็เข้ามาแทนที่ เราสามารถมองเห็นได้แม้กระทั่งต้นไม้กำลังพริ้วไหวในสายลมอันแสนผ่อนคลายนี้

 

“นี่, ตาแก่, ได้เวลาตื่นแล้ว พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว” ลิงค์เดินมาที่ชายหาดแล้วเตะขากระดูกที่ยื่นออกมาจากทรายสีขาวละเอียดเบาๆ

 

ไม่กี่วินาทีต่อมา, ก็มีเสียงดังขึ้นจากใต้ทราย “เจ้ามาที่นี่คนเดียวหรอ? เจ้าไม่กลัวว่าจะมีคนสงสัยสิ่งที่เจ้ากำลังทำอยู่รึไง?”

 

ลิงค์แตกต่างจากคนที่เขาเคยเป็น ตอนนี้, ทุกการกระทำของเขานั้นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ มันคงจะเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักที่นึงแม้ว่าเขาจะต้องการก็ตาม นี่เป็นปัญหาที่คนที่ประสบความสำเร็จมากเกินไปอย่างลิงค์กำลังเผชิญ

 

จากนั้นลิงค์ก็ยิ้มในขณะที่พูดขึ้น “ผมมาที่นี่กับเซลีนหน่ะ, ผมอ้างว่ามาฝึกเธอให้เป็นนักแม่นปืน”

 

ฟู่วว, โครงกระดูกปรากฎขึ้นจากพื้นในขณะที่ทรายสีขาวละเอียดรอบตัวเขาถูกโยนไปข้างๆ จากนั้นแวนซ์ก็พูดด้วยน้ำเสียงขี้เซา “นักแม่นปืนหรอ? นักแม่นปืนอะไรกัน?”

 

การระเบิดของผิวน้ำอย่างกระทันหันนี้ได้ตอบคำถามของเขา ระเบิดนี้เดินทางเป็นเส้นตรงและสลายไปหลังจากที่พุ่งผ่านน้ำไปได้ 150 ฟุต

 

ขณะที่มองตามทิศทางของการระเบิดที่เป็นเส้นตรงนี้, แวนซ์ก็เห็นคนๆนึงยืนอยู่บนก้อนหินในระยะที่ห่างออกไปประมาณนึง ตรงนั้นเซลีน, ที่สวมชุดเกราะสีเทา, กำลังโบกมือให้เขาพร้อมกับหมวกในมือของเธอ

 

“ในช่วงเวลานี้, เซลีนจะมาฝึกเป็นนักแม่นปืนที่นี่และจะเพิ่มการเฝ้าระวังขึ้นเป็นสองเท่าด้วย ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลหรอกว่าจะมีคนมาเจอพวกเรา”

 

“ถ้าอย่างงั้นก็โอเค” จากนั้นแวนซ์ก็ยืนขึ้นแล้วเอาผ้าคลุมสีดำมาสวม ด้วยวิธีนี้, ต่อให้มีคนมาเจอเขาอยู่ด้วยกันกับลิงคจากที่ไกลๆ, ลิงค์ก็ยังพอมีพื้นที่ให้อธิบาย

 

“ไปกันเถอะ ที่นี่มันโล่งเกินไป ไปคุยกันต่อในถ้ำน่าจะสะดวกกว่า” แวนซ์พูดในขณะที่เขามุ่งหน้าตรงไปยังถ้ำที่อยู่ริมฝั่งทะเล

 

จากนั้นลิงค์ก็ตามหลังเขาไปในขณะที่พูด “ตาแก่, ช่วงนี้ผมได้อ่านหนังสือหุ่นเชิดเวทมนตร์ที่เป็นของไฮเอลฟ์มาหลายเล่ม หนึ่งในนั้นได้พูดถึงบางสิ่งที่เรียกว่าหุ่นเชิดเวทมนตร์เหมือนมนุษย์ ร่างกายที่ว่านี้เหมือนจริงมากจนคนธรรมดาคงจะไม่สามารถแยกความแตกต่างได้เลย บางทีผมน่าจะสามารถสร้างมันให้คุณได้ตัวนึงนะ”

 

แล้วแวนซ์ก็สบัดมือในขณะที่พูด “ข้าแค่อยากนอนอยู่ริมหาดและพักผ่อน ข้าไม่สนใจเรื่องที่เหลือหรอก”

 

จากนั้นลิงค์ก็พูดต่อ “หุ่นเชิดเวทมนตร์ชนิดนี้มีร่างกายที่ละเอียดอ่อนและซับซ้อนมากๆ, ทำให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับทุกสิ่งที่คนมีชีวิตสามารถทำได้ คุณจะได้ลิ้มลองรสชาติอาหาร, รู้สึกถึงความหนาวเย็นอันขมขื่นและความร้อนที่ยากจะทานทนได้อีกครั้งนะ แล้วคุณก็ยังสามารถหาคนรักให้ตัวเองได้อีกด้วย…”

 

ก่อนที่ลิงค์จะพูดจบ, แวนซ์ก็หยุดเดินแล้วพูดขึ้น “มันไม่มีทางที่หุ่นเชิดเวทมนตร์แบบนั้นจะมีตัวตนอยู่ในโลกหรอก!”

 

เหตุผลสำหรับการดูถูกชีวิตของเขานั้นจริงๆแล้วเป็นเพราะเขาไม่สามารถสัมผัสกับความรู้สึกที่คนมีเลือดเนื้อสามารถทำได้ แล้วเขาก็ไม่เต็มใจที่จะเข้าสู่ด้านมืดเพื่อได้รับความสุขจากการกระทำที่น่ากลัวเหล่านั้นด้วย ดังนั้น, เขาจึงทำได้แค่พักผ่อนอยู่ริมหาดเพื่อฆ่าเวลาในตอนที่เขาว่างเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม, ด้วยหุ่นเชิดเวทมนตร์เหมือนมนุษย์อันซับซ้อนนี้, เขาจะสามารถเพลิดเพลินกับความสุขที่คนมีเลือดเนื้อทำได้อีกครั้ง เขาเกือบจะลืมความรู้สึกเหล่านั้นไปแล้ว เขาจำได้แค่ว่ามันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดและมหัศจรรย์มาก, บางสิ่งที่เขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มันมา

 

“เผ่ามนุษย์ไม่สามารถทำได้ แต่ว่า, ไฮเอลฟ์ทำได้นะ พวกเขามีประสบการณ์ด้านเวทมนตร์มาเป็นหมื่นๆปี ในช่วงเวลาเหล่านี้, มีตัวอย่างอันน่าอัศจรรย์นับไม่ถ้วนที่นำไปสู่ขุมทรัพย์ทางปัญญาอันยิ่งใหญ่ แล้วผมก็หาวิธีสร้างหุ่นเชิดเวทมนตร์ประเภทนี้ได้แล้วด้วย”

 

“พอได้แล้ว ข้าอยากได้ ข้าต้องทำยังไงหล่ะ?” แวนซ์ตอบในทันที

 

แล้วลิงค์ก็พูดต่อ “ผมยังทำให้ไม่ได้หรอก มีสิ่งที่ต้องจ่ายสำหรับร่างกายนี้”

 

“มันคืออะไรหล่ะ? ข้าสามารถจ่ายได้ทุกอย่าง, ตราบใดที่ข้าสามารถทำได้”

 

“อย่างแรก, หุ่นเชิดเวทมนตร์เหมือนมนุษย์นี้มีความละเอียดอ่อนมากๆ เพื่อที่จะทำให้หุ่นเชิดตัวนี้ทำงานได้อย่างเต็มที่, วิญญาณของคุณจะต้องถูกหลอมรวมเข้ากับหุ่นเชิดอย่างสมบูรณ์ นี่เป็นขั้นแรกในการปรับความรู้สึกของคุณกับหุ่นเชิด ซึ่งกระบวนการนี้จะไม่สามารถย้อนกลับได้, สรุปก็คือ, เมื่อวิญญาณของคุณหลอมรวมเข้ากับหุ่นเชิดแล้ว, มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะดึงวิญญาณของคุณออกมาอีกครั้ง”

 

“แล้วข้าจะอยากออกมาจากมันอีกทำไมหล่ะในเมื่อข้าได้ความรู้สึกกลับมาแล้ว? นั่นไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิด!” แวนซ์ตะโกน

 

“อีกประเด็นนึง” ลิงค์พูดต่อ “เนื่องจากต้องหลอมรวมวิญญาณของคุณอย่างสมบูรณ์, ถ้าหุ่นเชิดได้รับความเสียหายไม่ว่าในกรณีใดๆ, วิญญาณของคุณก็จะได้รับความเสียหายในจำนวนที่เท่ากันด้วย คุณจะตายได้เหมือนกับคนทั่วๆไป หากคุณไม่ได้แข็งแกร่งพอที่จะจุดไฟศักดิ์สิทธิ์ในตัวคุณและกลายเป็นพระเจ้าก่อนที่คุณจะตาย, คุณก็คงไม่มีทางที่จะได้รับชีวิตอมตะอีกครั้ง”

 

มีราคาที่ต้องจ่ายสำหรับทุกการตัดสินใจ, ซึ่งนี่คือวิธีการที่โลกแห่งฟิรุแมนใช้ในการรักษาสมดุลของโลก ในตอนนี้, มีแค่อุปกรณ์ระดับพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถทำลายสมดุลนี้ได้บางส่วน

 

อย่างไรก็ตาม, แวนซ์ไม่ได้แสดงความลังเลเลย เขาแค่หัวเราะเบาๆแล้วพูด “ตอนนี้, ข้าก็ไม่ต่างอะไรจากคนตาย การที่สามารถเพลิดเพลินกับโลกได้ด้วยความรู้สึกเต็มที่อีกครั้งก็คุ้มค่าให้เสียสละแล้ว!”

 

ลิงค์ไม่ได้ประหลาดใจกับการตัดสินใจนี้แล้วพูดขึ้น “ถ้างั้นก็ถือว่าไม่มีปัญหานะ พอพวกเราปรับปรุงนานะเสร็จ, ผมจะสร้างร่างกายนั้นให้คุณ”

 

หลังจากที่เข้ามาในถ้ำ, ลิงค์ก็ตระหนักได้ว่าแวนซ์ได้ขยายพื้นที่แห่งนี้ให้กว้างขึ้นอีกเมื่อเทียบกับครั่งสุดท้ายที่เขาเข้ามา มันกลายเป็นพื้นที่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางกว่า 30 ฟุตและสูงเก้าฟุตแล้ว และข้างในก็เจ๋งมากๆด้วย

 

ที่กลางถ้ำมีโต๊ะเรียบๆที่ทำจากหินตั้งอยู่ มีรูเล็กๆที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติอยู่บนโต๊ะด้วย, ซึ่งอนุญาติให้แสงเข้ามาในช่องได้ แล้วก็มีเลนส์หักเหแสงตั้งอยู่บนพื้นอย่างมีแบบแผน, หักเหแสงตรงไปยังโต๊ะหิน ซึ่งหลักในการติดตั้งนี้ทำงานคล้ายกับโคมไฟบนโลก

 

“เป็นโต๊ะเสริมพลังที่ใช้ได้เลยนะ” ลิงค์แสดงความคิดเห็น

 

“ข้าทำมันในเวลาว่างหน่ะ เอาหล่ะ, ข้ารู้ว่านานะต้องได้รับความเสียหายแน่ๆ เอาชิ้นส่วนมาให้ข้าดูซิ” แวนซ์พูด

 

จากนั้นลิงค์ก็เอาชิ้นส่วนโลหะต่างๆออกมาจากจี้ต่างมิติ แล้วโต๊ะหินก็เต็มอย่างรวดเร็ว, และเขาก็พูดขึ้น “เธอถูกอสรพิษทมิฬทำความเสียหายจากด้านหลัง นอกจากหัวของเธอที่ยังอยู่, ส่วนอื่นๆก็กลายเป็นซากหมดแล้ว ผมได้ตรวจสอบหัวใจที่ติดตั้งอยู่ในสมองของเธอ, และดูเหมือนว่ามันจะเสียหายเล็กน้อย พวกเราน่าจะซ่อมเธอได้อยู่นะ”

 

แวนซ์แค่สังเกตุชิ้นส่วนบนโต๊ะและอยู่เงียบๆ เขาให้ความสนใจกับชิ้นส่วนที่ถูกอุปกรณ์ระดับพระเจ้าโจมตีโดยตรง เขาใช้เวลาพักใหญ่ๆก่อนที่เขาจะส่ายหัวแล้วพูดขึ้น “พลังของอุปกรณ์ระดับพระเจ้านี่มันน่าอัศจรรย์จริงๆ!”

 

จากนั้น, เขาก็หยิบหัวของนานะขึ้นมาแล้วใช้เวทย์สนามพลังฮิกที่มือของเขา ด้วยพลังเพียงเล็กน้อย, ด้านนอกของส่วนหัวของนานะก็ถูกถอดออก, และคริสตัลสีไพลินก็หลุดออกมาจากข้างใน

 

คริสตัลนี้มีขนาดประมาณสองกำปั้นและเก็บรูนเอาไว้มากมาย ซึ่งรูนพวกนี้หนาแน่นมากจนพวกมันดูเหมือนกับชั้นเคลือบที่ไม่มีรอยต่อ

 

จากนั้นแวนซ์ก็ระลึกถึงอดีต “ในตอนที่ข้าเพิ่งจะสร้างนานะ, มีวงรูนแค่ประมาณ 1,000 วงในหัวใจของเธอเท่านั้นเอง แต่ว่า, หลังจากการศึกษาหลายร้อยปีของข้า, จำนวนของวงรูนที่อยู่ในหัวใจของเธอก็เพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า ดูที่จุดต่อพวกนี้สิ นี่คือประสบการณ์การต่อสู้ทั้งหมดของนานะตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ ก่อนหน้านี้ข้าได้ตรวจสอบมันไปแล้วในตอนที่ข้ากำลังปรับแต่ง ซึ่งนานะได้เอาชนะผู้บุกรุกเกือบ 200 คนในช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมานี้เพื่อปกป้องพระราชวังใต้ดินของข้า และหนึ่งในคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของเธอก็เป็นนักฆ่าเลเวล 9 ดูนี่, มันได้บันทึกชื่อของนักฆ่าคนนั้นเอาไว้ได้ มันมีชื่อว่ามอร์เฟียส”

 

ลิงค์ตกใจ

 

มอร์เฟียสหรอ? นั่นหัวหน้าของสมาคมไม่ใช่รึไง? คนที่เคยได้รับสถานะตำนานและเกือบจะได้กลายเป็นพระเจ้า, นักสะกดรอยแห่งความมืดคนนั้นอะนะ?

 

ดูเหมือนว่าเขาเองก็ถูกนานะเอาชนะได้เหมือนกัน นอกจากนี้, เขาก็ไม่ได้กลับมาแก้แค้นเลยด้วยต่อให้ผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม และถึงแม้ว่านี้อาจจะเป็นเพราะมอร์เฟียสยุ่งกับปัญหาอื่นอยู่, แต่นี่เองก็สื่อว่ามอร์เฟียสกลัวนานะได้เช่นกัน

 

ความแข็งแกร่งของนานะนั้นช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ

 

“โอ้, ดูตรงนี้สิ, มันแตกนี่ หัวใจยังได้รับความเสียหายอยู่บ้าง แต่โชคดีที่, มันไม่ได้ทำอันตรายกับโครงสร้างหลักของหัวใจ ข้าสามารถซ่อมส่วนนี้ได้อยู่”

 

ในขณะที่เขาพูด, แสงก็ปกคลุมมือของแวนซ์เนื่องจากเขากำลังเตรียมตัวที่จะซ่อมหัวใจ อย่างไรก็ตาม, เขาก็ถูกลิงค์ขัดขวาง

 

“เดี๋ยวก่อนสิ, ไม่ต้องรีบหรอก” แล้วลิงค์ก็กางคำภีร์เปล่าแผ่นใหญ่ที่โต๊ะหิน จากนั้นเขาก็ใส่มานาเข้าไปเพื่อเปิดใช้มัน

 

ด้วยเสียงกระหึ่มเบาๆ, ภาพโฮโลแกรมที่ชัดเจนก็ปรากฎขึ้นบนคำภีร์ มันคือรายละเอียดโครงสร้างหัวใจของหุ่นเชิด ลิงค์ชี้ไปที่ภาพโฮโลแกรมแล้วพูด “ผมมีความคิดใหม่ๆเยอะแยะเลย ซึ่งผมรู้สึกว่าพวกเราสามารถปรับปรุงนานะได้ผ่านวิธีพวกนี้ แต่ว่า, ผมไม่เคยลองทำจริงเลย ดังนั้นผมก็เลยไม่มั่นใจในความเป็นไปได้ของพวกมัน คุณช่วยผมดูหน่อยได้ไหม?”

 

แวนซ์ไม่ได้พูด เขาสนใจแต่ภาพโฮโลแกรมที่อยู่เบื้องหน้าเขาเรียบร้อยแล้ว เขาหมุนโฮโลแกรมวนไปวนมาและตรวจสอบโครงสร้างรูนทั้งหมดที่อยู่ในหัวใจอย่างระมัดระวัง

 

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงเต็ม, เขาก็ชี้ไปที่โครงสร้างอันซับซ้อนแล้วถาม “ข้าไม่เข้าใจส่วนนี้เลยจริงๆ มันมีไว้เพื่ออะไรหรอ?”

 

“นี่เป็นโครงสร้างสติปัญญาที่ไฮเอลฟ์คิด หน้าที่ของมันคือการทำให้กระบวนการคิดของหุ่นเชิดเวทมนตร์ที่มีแต่เหตุผลล้วนๆนั้นเหมือนมนุษย์มากขึ้น” ลิงค์ตอบ

 

“เหมือนมนุษย์หรอ?” แวนซ์ยังสับสนอยู่เล็กน้อย

 

“ใช่” ลิงค์พยักหน้าแล้วพูดต่อ “ยกตัวอย่างเช่น, ถ้าผมถามนานะว่าหนึ่งบวกหนึ่งได้เท่าไหร่, เธอก็จะตอบกลับมาแค่สองและจะไม่ตอบคำถามแบบอื่น แต่ว่า, หลังจากที่ใช้โครงสร้างอันซับซ้อนนี้, นานะจะสามารถเลือกที่จะไม่ตอบคำถามง่ายๆแบบนี้ได้ ซึ่งประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมันก็คือการป้องกันไม่ให้นานะติดกับดักวังวนของเหตุผลอันไร้ที่สิ้นสุด”

 

แล้วแวนซ์ก็คิดลึกลงไปอีกในขณะที่เขากระซิบ “วังวนไม่รู้จบหรอ? ข้าเคยพิจารณาถึงเรื่องนี้และได้ทำการดัดแปลงนานะไปบางส่วน แต่ว่า, มันก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ ดูเหมือนว่าโครงสร้างของเจ้าจะละเอียดพอและน่าจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างสมบูรณ์นะ มันวิเศษมาก, วิเศษจริงๆ, พวกไฮเอลฟ์นี้มันอัจฉริยะชัดๆ”

 

จากนั้นเขาก็สังเกตุโครงสร้างต่อ เวลาไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว, แล้วแวนซ์ก็ศึกษาโครงสร้างเสร็จในที่สุดหลังจากที่ผ่านไปสามชั่วโมง จากนั้นเขาก็ถอนหายใจในขณะที่พูด, “พอมาเปรียบเทียบกับหัวใจหุ่นเชิดเวทมนตร์ของเจ้าแล้ว, ของข้านี่แทบจะเหมือนตะแกรงเลย มันเต็มไปด้วยรู, และข้าคงจะต้องโชคดีมากจริงๆที่นานะรอดมาได้จนถึงวันนี้”

 

ลิงค์ส่ายหัวแล้วพูด “นั่นก็เกินไป ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของนานะอยู่ที่ประสบการณ์การต่อสู้กว่าหลายร้อยปีของเธอ ซึ่งมันเป็นสมบัติอันล้ำค่าอย่างแท้จริง ส่วนที่เหลือนั้นก็เป็นแค่ส่วนที่ช่วยเสริมจุดเด่นนี้เท่านั้น ดังนั้นโครงสร้างที่ผมพัฒนาขึ้นนั้นก็แค่เอาไว้ช่วยให้นานะใช้ข้อเปรียบของเธอได้อย่างเต็มที่เท่านั้นแหล่ะ”

 

ในขณะที่ลิงค์พูด, เขาก็เอาคำภีร์ออกมาอีกแผ่นแล้วใส่มานาเข้าไป ไม่นานนัก, โฮโลแกรมอีกภาพก็ปรากฎขึ้นในอากาศ ครั้งนี้, มันคือพิมพ์เขียวของโครงสร้างร่างกายของนานะ

 

แล้วแวนซ์ก็ตรวจสอบมันอย่างระมัดระวัง ประสบการณ์ในการสร้างหุ่นเชิดเวทมนตร์ของเขานั้นมีมากมายจริงๆ, เขาพบจุดบกพร่องที่มีอยู่มากมายในแบบได้อย่างรวดเร็ว

 

ลิงค์ยืนอยู่ข้างๆเขาแล้วเริ่มทำการแก้ไขแบบในตอนที่แวนซ์ชี้ไปที่จุดบกพร่อง และบ่อยครั้งมาก, ที่พวกเขาจะพูดถึงวิธีการพัฒนาแบบ

 

แม้ว่าแวนซ์อาจจะดูเหมือนคนซึมเศร้าและขาดแรงบันดาลใจ, แต่เขาเองก็เคยเป็นอัจฉริยะในยุคสมัยของเขา

 

การแลกเปลี่ยนไอดีและความคิดของพวกเขานั้นดำเนินไปได้อย่างลื่นไหลมากๆ ความคิดใหม่ๆผุดขึ้นมาในสมองของพวกเขาอย่างต่อเนื่องเหมือนกับฟองในน้ำที่กำลังเดือด จุดบกพร่องแต่ละจุดนั้นถูกพวกเขาทั้งคู่แก้ไขอย่างรวดเร็ว

 

เวลาล่วงเลยไป, และท้องฟ้าก็มืดลง ลิงค์ต้องกลับไปยังดินแดนของเขา แล้วแวนซ์ก็พูดด้วยความผิดหวัง “มันผ่านมานานมากแล้วนะที่ข้าไม่ได้รู้สึกเพลิดเพลินขนาดนี้ ถึงกระนั้น, ข้าก็ดันเกิดเร็วไป 1,000 ปี ถ้าเจ้าอยู่ด้วยในตอนนั้น, ข้าคงจะไม่ต้องทำการวิจัยอันแสนเจ็บปวดอย่างออร่าต่อสู้นั่นหรอก!”

 

ลิงค์เองก็รู้สึกเพลิดเพลิน, เขาพูดออกมา “พวกเรายังมีปัญหาอีกมากมายที่ยังไม่ได้แก้ ถ้าพรุ่งนี้ผมไม่มีธุระอะไร, ผมจะมาตอนสิบโมงเช้า แต่ถ้าผมมาเวลานั้นไม่ได้, ผมจะฝากเซลีนมาแจ้งตำแหน่งของผมให้คุณทราบนะ”

 

“ก็ได้, ข้ารอให้ถึงวันพรุ่งนี้ไม่ไหวแล้วสิ” แวนซ์พูด

 

หลังจากบอกลากันสั้นๆ, ลิงค์ก็ออกจากถ้ำไป พอมาถึงทางออก, เขาก็เห็นเซลีนกำลังฝึกดาบอยู่ที่ชายหาด

 

จากนั้นลิงค์ก็ได้รับแรงบันดาลใจจากฉากนี้ “ออร่าต่อสู้ของเซลีนยังค่อนข้างอ่อนแออยู่ แม้ว่าปื่นเพลิงยักษ์จะแข็งแกร่ง, แต่เธอก็ยังตกอยู่ในอันตรายได้ถ้าที่ซ่อนของเธอถูกเปิดเผย เธอน่าจะต้องใช้อะไรบางอย่างที่สามารถปกป้องเธอได้ในการต่อสู้ระยะใกล้…ใช่แล้วปืนลูกซองน่าจะดีนะ”

 

แล้วลิงค์ก็ตัดสินใจที่จะสร้างปืนลูกซองคู่ที่มีอำนาจการยิงสูงให้กับเซลีนในตอนที่เขามีเวลาว่าง

 

หลังจากนั้น, ลิงค์ก็เรียกเซลีนที่จดจ่ออยู่กับการฝึกของเธอแล้วพูด, “ไปกันเถอะ”

 

“ก็ได้” แล้วเซลีนก็เก็บดาบของเธอ

 

“เธอใช้กระสุนไปหมดแล้วหรอ?” ลิงค์ถาม

 

“มันมีแค่ 150 นัดเองนะ ฉันใช้หมดไปตั้งนานแล้ว” เซลีนผายมือออกมาอย่างช่วยไม่ได้ มันรู้สึกสดชื่อและเร้าใจมากๆในขณะที่ยิงปืน อย่างไรก็ตาม, กระสุนมันก็มีน้อยเกินไป

 

“พรุ่งนี้ฉันจะเตรียมกระสุนให้เธอเพิ่มอีกนะ…” ลิงค์พูดในขณะที่เขาสาบานว่าจะหาวิธีที่ง่ายกว่านี้ในการสร้างกระสุน มันเป็นงานที่น่าเบื่อมากเกินไปในการทำเรื่องเดิมๆทุกวัน

 

“เอาสิ” เซลีนพูดอย่างคาดหวังพร้อมกับรอยยิ้มบนหน้าของเธอ

 

ชายหาดนั้นอยู่ไม่ไกลจากเทือกเขามอดไหม้; พวกเขาทั้งคู่กลับไปถึงค่ายอย่างรวดเร็ว และในตอนที่พวกเขามาถึงทางเข้า, พวกเขาก็เห็นกิลเดิร์นกำลังเดินมาหาพวกเขา

 

พอได้เห็นสีหน้าจริงจังของกิลเดิร์น, ลิงค์ก็รู้สึกหนาวไปถึงสันหลังในขณะที่เขาถาม “เกิดอะไรขึ้น?”

 

กิลเดิร์นเอาจดหมายออกมาแล้วพูดขึ้น “นายท่าน, MI3 ได้ส่งจดหมายด่วนมาจากสนามรบ มีตราดาบโลหิตประทับอยู่หน้าซองด้วยครับ”

 

ตอนนี้ลิงค์ได้เป็นสมาชิกหลักของกลุ่มตำแหน่งสูงในอาณาจักรนอร์ตันแล้ว เขามีหน้าที่ในการตรวจสอบข้อมูลเหมือนกับผู้อาวุโสแอนโทนี่ ซึ่งเขาจะได้รับสำเนาที่เกี่ยวกับสถานการณ์ในสนามรบ

 

และถ้ามีตราดาบโลหิตประทับอยู่หน้าซอง, มันก็หมายความว่าข้อมูลในจดหมายนั้นสำคัญมากๆ, มันคือจุดที่อาจจะเปลี่ยนแปลงกระแสสงครามได้ กิลเดิร์นก็รู้ความจริงนี้เช่นกัน

 

นี่หมายความว่าบางสิ่งบางอย่างที่อาจจะส่งผลเสียต่อสงครามทางตอนเหนืออาจจะเกิดขึ้น

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset