ถ้ำใกล้ชายฝั่ง
หลังจากที่นานะตื่นขึ้น เธอก็มองลิงค์สลับกับแวนซ์ แล้วในที่สุดเธอก็มองไปที่ลิงค์พร้อมกับอ้าแขนออก “เสื้อผ้าหายไป” เธอพูด “นานะ อยากได้เสื้อผ้า”
ลิงค์นั้นเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดของนานะ และเธอก็จะไปหาเขาเมื่อไหร่ก็ตามที่เธอต้องการอะไรบางอย่าง ลิงค์ได้หยิบเกราะหนังสำหรับผู้หญิงที่เขาได้เตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้ออกมาอย่างรวดเร็ว จริงๆแล้วนานะนั้นไม่มีเพศ แต่ว่ารูปร่างภายนอกที่เป็นผู้หญิงของเธอนั้นมีไว้เพื่อหลอกล่อศัตรู ซึ่งมันคงจะไม่ดีแน่หากปล่อยให้เธอไปไหนมาไหนโดยไม่ใส่เสื้อผ้า
จากนั้นก็เกิดเรื่องคาดไม่ถึงขึ้น นานะส่ายหน้าของเธอ “กะโปรงสงคราม นานะอยากได้กะโปรงสงคราม”
ลิงค์ไม่เข้าใจว่าทำไมหุ่นเชิดเวทมนตร์ถึงกังวลเรื่องเสื้อผ้านัก
ในขณะที่กำลังคิดอยู่ แวนซ์ก็พูดขึ้น “ข้าเข้าใจแล้ว ในการต่อสู้ เสื้อผ้านั้นมีผลต่อการเคลื่อนไหวเป็นอย่างมาก ในประสบการณ์การต่อสู้ของหุ่นเชิดเวทมนตร์นั้นมักจะใช้กะโปรงสงครามหลายรูปแบบ ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมเธอถึงเลือกตัวเลือกนี้ตามสัญชาตญาณ”
ยังไงก็ตาม กะโปรงสงครามนั้นไม่ได้ดีที่สุดในด้านการเคลื่อนไหว ลิงค์ใส่เกราะหนังให้นานะ “ตอนนี้พวกเราต้องใส่อันนี้นะ”
นี่เป็นคำสั่งจากผู้ที่มีอำนาจสูงสุด ดังนั้นนานะจึงยอมรับมัน และสิ่งที่น่าสนใจก็คือเธอนั้นยอมปล่อยให้ลิงค์ใส่เสื้อผ้าให้โดยที่เธอไม่ขยับแต่ว่าเธอนั้นเอาแต่ทำแก้มป่อง ดูเหมือนว่าจะไม่มีความสุข
“เดี๋ยวเธอก็ชินเองแหละ” ลิงค์รู้ว่าสิ่งนี้มาจากการถูกโปรแกรมไว้ แต่นานะก็ชวนหลงใหลมากเกินไป เมื่อเห็นเธอเป็นแบบนี้ เขาก็รู้สึกผ่อนคลาย
เกราะนั้นมีสีน้ำเงินเช่นกัน มันดูเหมือนกับหนัง แต่จริงๆแล้วมันคือเหล็กชนิดพิเศษ มันทนทานและมีความต้านทานเวทมนตร์สูง มันมีความสามารถต้านทานต่อการโจมตีจากภายนอกสูงและมันก็เป็นปราการป้องกันชั้นแรกของร่างกายของนานะ
หลังจากที่ใส่เกราะ ลิงค์ก็ช่วยนานะใส่รองเท้าและถุงมือ เขาเหน็บดาบทั้งสองกับตะขอเกี่ยวอาวุธที่อยู่ที่เอวของเธอ และหลังจากนั้นเขาก็ถอยออกมา “โอเค” เขาพูด “ลองลุกขึ้นเดินดูนะ”
นานะกระโดดลงมาจากโต๊ะเสริมพลังอย่าคล่องแคล่ว เธอลงมาถึงพื้นและเดินไปรอบๆ
ตอนนี้เธอสูง 5 ฟุต 5 นิ้ว และส่วนโค้งเว้าของเธอก็สมบูรณ์แบบ เธอสวมเกราะหนังสีน้ำเงินเข้มที่ทำมาอย่างดีพร้อมกับอาวุธอันเยี่ยมยอด 2 ชิ้น เธอนั้นดูเหมือนกับนักรบที่เพียบพร้อมเลย
ที่ด้านข้าง แวนซ์แสดงความเห็น “การเคลื่อนไหวของเธอไหลลื่นมาก ไม่มีร่องรอยของความฝืดเลย ดวงตาของเธอก็เท่ากัน และผิวหนังของเธอก็เหมือนกับมนุษย์เลย จากภายนอก เธอดูเหมือนกับคนทั่วๆไปเลย”
ลิงค์เองก็พึงพอใจเช่นกัน เขาหันไปหาแวนซ์และพูด “ผมจะพาเธอกลับไปที่เทือกเขามอดไหม้ หอคอยเวทมนตร์ของผมน่าจะเสร็จแล้ว ผมจะหาเวลาว่างสร้างหุ่นเชิดเวทมนตร์เหมือนมนุษย์ให้กับคุณ ส่งแบบร่างมาให้ผมทีว่าคุณต้องการมีลักษณะภายนอกแบบไหน”
“ข้ารู้สึกยินดีจริงๆ” แวนซ์หัวเราะอยู่พักนึง เขาชี้คทาไปบนอากาศ และภาพก็ปรากฏขึ้นมา มันคือภาพของชายที่ดูปกติดี “นี่คือรูปร่างของข้าในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ใช้มันสิ”
ลิงค์ศึกษามันและพยักหน้า “เข้าใจแล้ว” โดยไม่ให้เสียเวลา เขากวักมือเรียกนานะ “ไปกันเถอะ”
“ค่ะ นายท่าน” นานะตามหลังลิงค์ไป โดยเดินเป็นจังหวะเดียวกับเขา
แต่ในตอนที่ลิงค์มาถึงทางเข้าถ้ำ เสียงที่ไม่คาดคิดก็ได้ดังขึ้น “ลอร์ด ท่านมาซ่อนตัวอยู่ที่นี่นี่เอง! ข้าใช้เวลาตั้งนานแหน่ะกว่าจะตามหาท่านเจอ!”
ลิงค์ตกใจ แวนซ์อยู่ในท่าตั้งรับในทันที เขาพร้อมที่จะสู้กับใครก็ตามที่อยู่ข้างนอก ลิงค์ห้ามเขาและโบกมือ “มาทดสอบความสามารถของนานะกัน”
เขารู้ว่าใครอยู่ข้างนอกเพราะเสียงนั้น แต่เขาต้องการที่จะทดสอบนานะ เขาถอยและพูดกับนานะ “จับชายที่อยู่ข้างนอกกดพื้นซะแต่อย่าทำให้เขาบาดเจ็บหล่ะ”
“ค่ะ นายท่าน”
ด้วยเสียงเหล็กดังกระทบ นานะก็หยิบดาบสั้นและเปิดใช้งานมัน มีเสียงระเบิดดังขึ้น และเธอก็หายไปจากข้างๆลิงค์ นี่เป็นความเร็วและการกระทำอันเด็ดขาดที่เขาคุ้นเคย
เสี้ยววินาทีต่อมา ก็มีเสียงร้องด้วยความตกใจจากด้านนอก “เห้ย ใครกัน? ไม่สิ อะไรกันวะเนี่ย..!”
เมื่อประโยคเริ่มไปได้ครึ่งนึง ก็มีเสียงการปะทะกันของอาวุธ และ 3 วินาทีต่อมา ก็มีเสียงอู้อี้ดังขึ้น “เป็นไปไม่ได้!” ชายที่อยู่ข้างนอกร้องออกมา “อะไรกันเนี่ย? ปล่อยนะ! ปล่อยข้า! โอ้ย!”
ลิงค์เดินออกไปข้างนอก เขาเห็นนานะที่สวมเกราะหนังสีน้ำเงินเข้มอยู่ริมชายหาด ผมของเธอเป็นทรงหางม้า (เพื่อลดความเสียหายต่อหัวใจของหุ่นเชิด) พร้อมกับเท้าของเธอที่อยู่บนอกของสคินอร์ส
ขาของเธอนั้นเรียวยาว มันยิ่งดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้นเมื่อเธอใส่กางเกงหนัง ยังไงก็ตามขาเรียวๆพวกนี้ก็มีพลังอันมหาศาล ใต้เท้าของเธอนั้น สคินอร์สดิ้นอย่างสิ้นท่า เขานั้นขยับตัวไม่ได้เลยเพราะถูกตรึงอยู่ริมหาด
เมื่อเห็นลิงค์ เขาก็ยิ้มอย่างเจื่อนๆ “มันก็แค่ลิซ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ท่านคงไม่ฆ่าข้าหรอกใช่มั้ย?”
“นานะ ปล่อยเขา” นานะถอยหลังและจิ๊ปากสีแดงของเธอ “นายท่าน” เธอพูด “ศัตรูคนนี้อ่อนแออย่างกับไก่เลย”
สคินอร์สพูดไม่ออก เขาเอามือกำที่หน้าอกของเขา ด้วยหัวใจที่แหลกสลาย
ลิงค์เองก็พูดไม่ออกเช่นกัน เขานั้นออกแบบภาษาให้เธอเพื่อให้เธอสามารถสื่อสารได้ ซึ่งประโยคดูถูกเหล่านี้ถูกใช้ในการทำลายความมั่นใจของคู่ต่อสู้ แล้วเขาก็คิดไม่ถึงเลยว่านานะจะใช้มันในตอนที่จังหวะเหมาะเจาะแบบนี้ มันทำลายความมั่นใจของสคินอร์สอย่างสมบูรณ์
สคินอร์สที่หน้าซีดเผือดมองไปที่นานะด้วยความสงสัยเหมือนกับกลัวว่าเธอจะทำอะไรบางอย่าง นานะจ้องกลับแล้วเบ้ปากใส่ เธอยื่นคางออกมาด้วยความรังเกียจ “ไออ่อน นายกลัวราชินีอย่างฉันหล่ะสิ?”
เสียงของเธอนั้นสดใสและฟังดูน่าหลงใหล เธอมองลงมาที่เขาและดูสนุกสนาน สคินอร์สจับหน้าอกของตัวเองอีกครั้ง เขาดูหลงใหลและเขาก็ถอนหายใจด้วยความเศร้าโศก “ถ้าเกิดว่าเธอไม่ใช่หุ่นเชิดเวทมนตร์หล่ะก็นะ!”
ลิงค์หัวเราะ “ชื่อของเธอคือนานะ อย่างที่นายเห็น เธอเป็นหุ่นเชิดเวทมนตร์ เธอช่วยชีวิตของฉันเอาไว้ตอนที่อยู่ทางเหนือ”
“นานะ? นั่นเป็นชื่อที่ดีนะ ลักษณะภายนอกของเธอช่างเสียเปล่าจริงๆ ข้าเกือบจะแพ้เธอแล้ว” หลังจากนั้น สคินอร์สก็เดินผ่านนานะไปหาลิงค์ เขามองดูลิงค์อย่างสงสัย “ทำไมท่านถึงมาอยู่กับลิซหล่ะ? พูดตามตรงเลยนะ ส่วนใหญ่ไอพวกที่ฆ่าไม่ตายเนี่ยมีแต่คนไม่ดีทั้งนั้น”
นี่ทำให้ลิงค์สนใจ ภายในเกม สคินอร์สได้เดินทางไปทั่วโลกและมีความรู้มากมาย เขาเป็นคนที่เปิดกว้างมากและจะไม่รีบตัดสินคนๆนึงอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ ดูจากคำพูดของเขา ลิงค์ก็รู้สึกตัวว่านิสัยของเขานั้นยังเหมือนกับตอนที่อยู่ในเกม
เขาหัวเราะ “นายเป็นคนบอกเองนะว่า ‘ส่วนใหญ่’ ดังนั้นมันก็ต้องมีส่วนน้อยด้วยสิ”
“โอเค ลิซคนนี้ดูแตกต่าง” สคินอร์สมองไปที่แวนซ์ ที่อยู่ที่ทางออกถ้ำ และแตะหมวกของเขา
แวนซ์สงสัยในตัวนักฆ่าหนุ่มคนนี้ เขายิ้มและถาม “ไอหนู เจ้าเคยเจอลิซนิสัยดีมาก่อนหรอ?”
“แน่นอนสิ ในตอนที่ข้ายังเด็กมันมีสุสานโบราณอยู่แห่งนึง ข้าเผลอเข้าไปข้างในนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ และเขาก็ช่วยพาข้าออกมา หนำซ้ำเขายังให้เงินข้ามาอีก 100 เหรียญทองด้วย มันน่าจดจำมากจริงๆ… แต่ว่านั่นมันไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอก ขอข้าทราบชื่อของท่านได้มั้ย?”
“ข้าชื่อแวนซ์”
“แวนซ์หรอ เป็นชื่อที่ดีนะ” สคินอร์สพูดอย่างสุภาพ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่รู้จักผู้ให้กำเนิดศิลปะการต่อสู้ หลังจากปฏิบัติตัวอย่างสุภาพ เขาก็หันไปหาลิงค์ “ข้าตรวจสอบอาณาจักรเดลอนก้าเสร็จแล้ว ท่านต้องการจะดูมันมั้ย?”
“แน่นอนสิ” ลิงค์พยักหน้า
สคินอร์สโยนคัมภีร์ให้เขา “ทุกอย่างอยู่ในนี้ ดังนั้นดูเอาเองนะ หากท่านว่างเมื่อไหร่ก็เรียกข้า แล้วพวกเราจะออกเดินทางกัน”
ลิงค์เปิดคัมภีร์ออกและแสกนอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเขาบีบลง แต่สีหน้าของเขาก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง “โอเค, แต่เร็วๆนี้คงไม่ได้หรอกนะ” เขาพูด “สนามรบทางเหนือต้องการฉัน อย่างน้อยฉันก็ต้องรอจนสถานการณ์ทางเหนืออยู่ตัวก่อน”
สคินอร์สตกใจ เขาขมวดคิ้วและพูด “ข้าได้ยินมาว่าดาร์กเอลฟ์ทางตอนเหนือได้นำอุปกรณ์ระดับพระเจ้ามา มันเป็นเรื่องจริงหรอครับ?”
ข่าวลือแพร่กระจายไปทุกที่ แต่ว่าสคินอร์สนั้นไม่ค่อยเชื่อข่าวลือสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจมัน
ลิงค์พยักหน้า “ตามนั้น ฉันได้สู้กับมันมาแล้วและเกือบเอาตัวไม่รอดด้วย”
“มันเลวร้ายขนาดนั้นเลยหรอ?…” สคินอร์สดูกังวล หากฟังจากคนอื่นก็คงจะเป็นแค่ข่าวลือ แต่ว่าจากลิงค์นั้นมันจะต้องเป็นความจริงอย่างแน่นอน หลังจากผ่านไปหลายวินาที นักฆ่าผมแดงก็มองไปที่ลิงค์ “งั้นท่านก็กำลังเตรียมตัวขึ้นเหนือหน่ะสิ?”
“อีกไม่นานนี้ฉันคงจะต้องไปหล่ะ นายก็รู้ว่ากำแพงเหล็กไม่สามารถถูกทำลายได้” ในตอนที่ลิงค์พูด เขาก็รู้สึกได้ว่านักฆ่าคนนี้ไม่เพียงแค่อยู่ข้างเขาเท่านั้น
ตามที่คาดไว้ สคินอร์สเงียบลงอีกครั้ง หลังจากนั้นซักพัก เขาก็พูดขึ้น “เห้อ ไอพวกดาร์กเอลฟ์นี่บ้ากันไปหมดจริงๆ รวมข้าเข้าไปได้เลย..ไม่สิ แค่ข้าคงจะไม่พอ ข้าจะไปพาเพื่อนบางส่วนไปด้วย”
ถ้ากำแพงเหล็กของอาณาจักรนอร์ตันถูกตีฝ่าได้ มันก็จะเป็นภัยพิบัติของแผ่นดินใหญ่ ใครก็ตามที่มีคอมมอนเซ้นก็คงสามารถเข้าใจความรุนแรงของมันได้ สคินอร์สอาจจะดูเหมือนไม่ค่อยน่าไว้ใจและไม่สนใจ แต่จริงๆแล้วเขานั้นเป็นคนมองการณ์ไกล
ที่ด้านข้าง แวนซ์ถอนหายใจ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเสียใจ “อ้า ถ้าไม่ใช่เพราะว่าข้าเป็นแบบนี้ ข้าก็คงขึ้นเหนือไปด้วยแล้ว”
ถ้าเกิดว่าเขาเปิดเผยร่างอันเดดของเขา เขาก็คงจะถูกราชาจัดการก่อนที่เขาจะสามารถทำอะไรได้ซะอีก
ลิงค์ปลอบใจเขา “ไม่ต้องห่วงหน่า ตาเฒ่า คุณจะไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้วหลังจากที่ผมสร้างหุ่นเชิดเหมือนมนุษย์ให้คุณ “จากนั้นเขาก็พูดกับสคินอร์ส” ฉันจะกลับไปที่ดินแดนแล้ว ถ้านายต้องการจะขึ้นเหนือไปกับเพื่อนจริง นายจะไปกับฉันก็ได้นะ อย่างน้อยฉันก็สามารถคุยกับพวกระดับสูงได้ นายจะได้ไม่ต้องโดนดูถูกในตอนที่นายไป”
สคินอร์สพยักหน้า “ไม่มีปัญหา เวลามีน้อยแล้ว งั้นตอนนี้ข้าขอตัวไปบอกพวกเขาก่อนนะ”
นักฆ่าเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ในตอนที่เขาพูดจบ เขาก็กระโดดถอยหลัง ออกไปอย่างรวดเร็ว ยังไงก็ตาม เขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ในตอนที่เขาผ่านนานะ เขาก็ส่งจูบให้ “นี่ สาวน้อย จับข้าให้ได้สิถ้าเธอแน่จริง!”
นานะเห็นว่านั่นเป็นการท้าทาย ด้วยเสียงระเบิดอากาศ เธอก็พุ่งไปข้างหน้าโดยไม่มีการเตือนและเตะก้นของสคินอร์ส แต่ก็โชคดีที่ เธอควบคุมพลังของเธอเอาไว้เพื่อไม่ทำให้เขาบาดเจ็บ
สคินอร์สถูกส่งลอยไป 300 ฟุต เขาตกลงไปในน้ำอย่างน่าสงสาร
“แล้วข้าจะกลับมาหาเธอในซักวันนึงนะ!” เสียงตะโกนอันโศกเศร้าดังมาจากนักฆ่าผู้เซ่อซ่า จากนั้นเขาก็ว่ายน้ำไป
ในอีกด้านนึง แวนซ์มองไปที่ลิงค์และถาม “นี่สถานการณ์ทางใต้แย่หรือเปล่า?”
ลิงค์พยักหน้าและแสดงคัมภีร์ให้แวนซ์ดู “รอยที่5เป็นบ้าไปแล้ว” เขาพูด “เขารวบรวมศพจากสนามรบและในตอนนี้ เขามีกองทัพอันเดดอยู่ประมาณ 30,000คน”
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของกองทัพอันเดดก็คือจำนวนของพวกมัน ใครก็ตามที่ตายในการต่อสู้จะกลายเป็นพวกของมัน ในสงคราม กองทัพอันเดดนั้นได้เติบโตขึ้นในทุกๆการต่อสู้ เหมือนกับบอลหิมะ มันสามารถเปลี่ยนเป็นสุดยอดกองทัพที่มีเป็นล้านคนได้ภายในช่วงเวลาสั้นๆ
และถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ มันก็จะเป็นภัยพิบัติที่น่ากลัวยิ่งกว่าดาร์กเอลฟ์ทางตอนเหนือเสียอีก ทางออกเดียวที่ใช้จัดการกองทัพอันเดดได้ก็คือหยุดพวกมันก่อนที่พวกมันจะเริ่มเพิ่มจำนวน เพราะเมื่อมันไปถึงระดับนึง มันจะสามารถจัดการใครก็ได้ด้วยจำนวนของพวกมัน!
แวนซ์มองไปที่คัมภีร์ด้วยความไม่เชื่อ “ข้าไม่เชื่อเลยว่าอัจฉริยะอย่างเวเวอร์จะกลายเป็นหุ่นเชิดของเทพปีศาจทาบิโนสหนำซ้ำยังไปเข้าร่วมกับสมาคมอีก ช่างน่าเสียดายจริงๆ”
เทพปีศาจทาบิโนสนั้นเป็นกึ่งเทพของทะเลแห่งความว่างเปล่า เขานั้นเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ปกครองและผู้ควบคุมความตาย เขานั้นทรงพลังมากจนอยู่อันดับ 1 ใน 10 ของเทพปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุด
ลิงค์ถอนหายใจ “ไม่ว่ายังไง ผมก็จะต้องทำบางอย่างกับมัน ก่อนที่จะขึ้นเหนือ ผมจะต้องไปเยี่ยมอาณาจักรเซาท์มูนก่อน”
ในตอนนี้ ศัตรูของอาณาจักรเดลอนก้าก็คืออาณาจักรเซาท์มูน ถ้าเกิดว่าอาณาจักรเซาท์มูนไม่มีหนทางที่จะสู้กับกองทัพอันเดดในตอนที่พวกมันปรากฏตัวขึ้นมาหล่ะก็ พวกเขาจะต้านเอาไว้ไม่ได้ และถ้าเกิดว่าเซาท์มูนล่มสลาย ที่รกร้างเฟิร์ดก็จะเป็นที่ต่อไป
ในตอนนี้ อาณาจักรนอร์ตันต้องเผชิญหน้ากับดาร์กเอลฟ์ทางตอนเหนือและกองอัพอันเดดทางตอนใต้ พวกเขาจะต้องโดนรุกฆาตแน่ๆ! ดังนั้น เขาจะต้องหยุดกองทัพอันเดดก่อนที่พวกมันจะเริ่มขยายตัวได้!
เวลามีไม่มากแล้ว และลิงค์ก็ไม่อยากเสียเวลาอีก เขาเรียกนานะและรีบกลับไปที่ดินแดนของเขา
เขามองเห็นยอดหอคอยเวทมนตร์ก่อนที่จะถึงดินแดนของเขา มันมีบอลแสงมานากว้าง 10 ฟุตอยู่บนยอด รอบๆลูกบอล เส้นมานาจำนวนมากพุ่งขึ้นไปบนอากาศ จากระยะไกลๆ มันดูเหมือนกับใยแมงมุม ซึ่งนั่นหมายความว่าหอคอยเวทมนตร์ได้เริ่มทำงานและได้รวบรวมมานาเอาไว้ในที่รกร้างได้สำเร็จ
ในที่สุดหอคอยเวทมนตร์ก็เสร็จสักที มันเป็นข่าวดี ลิงค์รู้สึกดีขึ้นมาในทันที
เขาเร่งความเร็วขึ้น ในตอนที่เขามาถึงเทือกเขามอดไหม้ มีบางคนจำเขาได้ ซึ่งนั่นก็คือเอเลียร์ด ที่มองมาที่ลิงค์ด้วยความประหลาดใจ “ลิงค์ นายรู้สึกดีขึ้นแล้วเหรอ?”
“เอ่อ ใช่ ตอนนี้ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว” ลิงค์ตอบพึมพำ
“งั้นให้ฉันพานายดูรอบๆหอคอยเวทมนตร์นะ ในครั้งนี้ฉันมีส่วนร่วมกับทุกกระบวนการของมันเลย” เอเลียร์ดพูดด้วยรอยยิ้ม
ลิงค์เองก็ตั้งใจอย่างนั้น ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าตามปกติ