มีลำธารแห่งนึงที่ขั้นระหว่างที่รกร้างเฟิร์ดกับป่าเกอร์เวนท์ มันมีชื่อว่าลำธารจันทรา
ดอเรียสตามออร่าในอากาศและเดินไปตามชายฝั่งของลำธาร หลังจากเดินมาได้หนึ่งไมล์, เขาก็เพิ่มความเร็วอีกครั้ง หลังจากที่วิ่งไปได้อีกหนึ่งไมล์, ลิงค์ก็มองเห็นศพอยู่ในกอหญ้าสูงริมลำธาร
เสื้อผ้าของศพนั้นขาดรุ่งริ่งและดูเก่า เขาไม่ใช่หน่วยสอดแนมจากที่รกร้างเฟิร์ด และจากสภาพของเขา, ดูเหมือนว่าเขาน่าจะเป็นผู้ลี้ภัยจากเดลอนก้า
ดอเรียสเข้าไปใกล้ขึ้น แล้วในที่สุด, เขาก็หยุดอยู่ที่ระยะห่างจากศพประมาณ 15 ฟุต เขาพูดด้วยความสงสัยเล็กน้อย “ข้าไม่คิดว่าเขาตายสนิทนะ”
ลิงค์ก็มีความรู้สึกคล้ายๆกัน ชายคนนี้ถูกปกคลุมด้วยเลือดแห้งๆและมีหลุมขนาดใหญ่ที่ท้องของเขา, แต่ว่าผิวหน้าของเขานั้นยังสดใสเหมือนกับมีชีวิตอยู่ และดวงตาที่ลืมขึ้นมาเล็กน้อยก็ดูเหมือนกับคนมีชีวิตด้วย
แม้กระทั่งคนแปลกหน้า, ก็ยังเห็นได้ชัดว่าเขาไม่หายใจแล้ว, แต่ว่ายังมีหัวใจเต้นอ่อนๆอยู่ แล้วเส้นเลือดก็นูนอย่างเห็นได้ชัด, ซึ่งมันบ่งบอกว่าเลือดกำลังไหลเวียนอยู่
“ดอเรียส, แกสัมผัสได้ไหมว่าเขามีออร่าแห่งความมืดรึเปล่า? ฉันสัมผัสไม่ได้เลย” นี่เป็นส่วนที่ยากที่สุดในการอธิบาย
ดอเรียสก็ส่ายหัวเหมือนกัน “ไม่มีออร่าแห่งความมืดเลย มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเขาแค่หลับไปแต่แค่มีเครื่องในทะลักออกมาด้วยเท่านั้น…”
ก่อนหน้านี้, กิลเดิร์นได้รายงานกับลิงค์ว่ากองทัพอันเดธที่ว่านี้พิเศษมากๆ พวกมันเป็นอันเดธหประเภทที่ไม่เคยปรากฎในเกมส์ และศพที่อยู่เบื้องหน้าลิงค์ในตอนนี้ก็ดูเหมือนจะอยู่นอกเหนือขอบเขตความรู้ของเขา
นี่มันทำลายความสมดุลของโลกอย่างสมบูรณ์!
พอได้ความคิด, ลิงค์ก็ใช้มือแห่งนักเวทย์หยิบก้อนหินขนาดเท่ากำปั้นขึ้นมาก้อนนึงแล้วปาใส่ศพ
ผัวะ! หินกระแทกศพ, กระดอนออกมา, แล้วกลิ้งมาอยู่ข้างๆ จากนั้นศพก็ตัวสั่น ซึ่งการกระทำนี้ไม่ได้เกิดจากความรุนแรงของหิน; มันเหมือนกับการตอบสนองด้วยการชักมากกว่า
“เขายังไม่ตายจริงๆด้วย, แต่เขาก็ไม่ได้มีชีวิตเหมือนกัน นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย?” ดอเรียสรู้สึกเหมือนกับว่าเขาได้เห็นผีจริงๆ นี่มันอยู่เหนือหลักเหตุผลของเขา เขาไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิตของเขา
ลิงค์ก็ไม่รู้เหมือนกัน เขาลองร่ายเวทย์ลูกแก้วใส่ศพ ด้วยเสียงดังตูม, ไฟก็ระเบิดออกมาแล้วเผาศพ ชายคนนี้ดูเหมือนจะตกอยู่ในความเจ็บปวด เขาลุกขึ้นนั่งอย่างกระทันหันเป็นเวลาสามวินาทีก่อนที่จะกลับไปนอนต่อ
นอกจากการที่ไม่มีสติแล้ว, เขาดูเหมือนกับคนมีชีวิตหมดเลย อย่างไรก็ตาม, การกระทำของเขาได้เปิดเผยบาดแผลของเขาเพิ่มขึ้น ซึ่งมันคือแผลที่อยู่หลังหัวของเขา ดอเรียสมีสายตาแหลมคมและเห็นมันเป็นคนแรก “โอ้พระเจ้า, ดูสิ!” เขาร้อง “เขาถูกแทงที่หัว, และสมองของเขาก็ไหลออกมาหมดเลย!”
ถ้าเขามีบาดแผลพวกนี้แต่ยังไม่ตายสนิทแล้วก็ไม่ได้มีออร่าแห่งความมืดหล่ะก็, มันก็หมายความว่าเขาไม่ใช่อันเดธ อย่างไรก็ตาม, ลิงค์ยังไม่มีคำอธิบายสำหรับเรื่องนี้
เขากระโดดลงจากหลังของดอเรียสและศึกษารอบๆศพ “ดูจากรอยเท้า, มีกองทหารม้าได้ผ่านไปครั้งนึง ขอฉันนับก่อนนะ…มีรูปแบบของเกือกม้าหนึ่ง, สอง, สาม…37 รูปแบบ ดูเหมือนว่าส่วนใหญ่จะตรงกับรายงานของกิลเดิร์นนะ”
นี่หมายความว่ามีอัศวินอันเดธ 37 ตัว
ลิงค์สืบสวนต่อ เขาใช้ร่องรอยที่อยู่รอบๆเพื่อจำลองสถานการณ์การต่อสู้ที่เกิดขึ้นที่ลำธารขึ้นมา
“มีรอยเท้าของมนุษย์อยู่ที่นี่ด้วย…มีทั้งหมดสามคน—เป็นผู้ชายสองคนและผู้หญิงอีกหนึ่งคน คนนึงสูงประมาณหกฟุต, อ้ะ…นี่รอยเท้าจากศพนี่หน่า ถ้างั้นก็เหลือสองคน คนนึงเป็นผู้ชายที่น่าจะมีรูปร่างคล้ายกับศพ เขาอาจจะได้รับบาดเจ็บ, ดูสิ, นั่นเลือดของเขา, จากรูปแบบและตำแหน่งของคราบเลือด, เขาน่าจะได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้ายนะ บาดแผลน่าจะค่อนข้างลึกเลยหล่ะ เขาอาจจะกำลังปกป้องผู้หญิงแล้วเอาแขนออกมารับดาบของนักรบอันเดธก็ได้ เขาน่าจะกันมันแบบนี้…แล้วจากนั้น…พวกเขาก็กระโดดลงไปในน้ำ”
ลิงค์ตามรอยเท้าไปจนถึงริมฝั่งลำธารและในที่สุดก็พบรอยเท้าสองคู่ที่ลึกมากๆ พวกมันไม่ปกติและมาจากคนสองคน
“ลำธารจันทรามีความกว้าง 33 ฟุต, แต่สองคนนี้ข้ามมันได้ด้วยการกระโดดแค่ครั้งเดียว พวกเขามีร่างกายที่แข็งแกร่งมากๆและอาจจะเป็นพวกอันเดธแปลกๆที่เหมือนกับศพนี่…ลองข้ามแม่น้ำไปดูกันเถอะ”
สถานการณ์นั้นชัดเจนแล้วจากการตรวจสอบในตอนนี้ อัศวินอันเดธพวกนี้ไม่ได้มุ่งเป้ามายังที่รกร้างเฟิร์ด พวกเขากำลังไล่ตามเป้าหมายพวกนี้อยู่ แล้วอันเดธสามตัวนี้เป็นใครกัน? ทำไมอัศวินอันเดธถึงอยากจะฆ่าพวกเขาหล่ะ?
ลิงค์รู้สึกสงสัยมากๆ เขาปีนขึ้นหลังดอเรียสอีกครั้ง แล้วจากนั้นดอเรียสก็กระโดดข้ามลำธารจันทราไป
“ออร่าในอากาศชัดเจนมากจริงๆ พวกมันไล่ตามเข้าไปในป่าเกอร์เวนท์” ดอเรียสตามกลิ่นในอากาศและมุ่งหน้าต่อไป
หลังจากเดินไปได้ประมาณครึ่งชั่วโมง, พวกเขาก็พบศพอีกศพนึงระหว่างทาง!
แขนเสื้อข้างซ้ายของศพขาดและมีบาดแผลตื้นๆอยู่หนึ่งแผล เหมือนกับศพก่อนหน้านี้, เขาดูเหมือนมีชีวิต แล้วเขาก็ถูกแทงที่หลังหัวเหมือนกันด้วย, ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่นอนอยู่บนพื้นไม่สามารถขยับไปไหนได้เหมือนอยู่ในสภาพเป็นผัก
ลิงค์เริ่มตรวจสอบพื้นอีกครั้ง โดยไม่สนใจเครื่องหมายที่อัศวินอันเดธทำไว้, เขาจดจ่ออยู่กับรอยเท้าของผู้หญิง สิบวินาทีต่อมา, เขาก็พบร่องรอยของเธอ
“เธอวิ่งไปทางนั้นแถมยังเร็วมากๆด้วย มาเถอะ, รีบไล่ตามเธอกัน”
ดอเรียสกระโจนไปทางที่ลิงค์ชี้ หลังจากวิ่งไปได้ประมาณหนึ่งไมล์, สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน มีศพอัศวินอันเดธนอนอยู่บนถนน พวกมันสวมชุดเกราะสีเงินเข้มและแผล่ออร่าแห่งความมืดออกมา หลังจากที่ตายแล้ว, ออร่าแห่งความมืดก็ทะลักออกมาจากร่างของพวกมัน พืชที่อยู่ในระยะ 30 ฟุตของพวกมันเหี่ยวเฉาหมด
ลิงค์จำลองสถานการณ์จากหลักฐานที่เขาหาได้ “ผู้หญิงวิ่งมาที่นี่, อัศวินอันเดธอยู่ข้างหลังเธอ 65 ฟุต เธอมาถึงทางตัน, แล้วจากนั้น, ก็มีระเบิดพลังมาจากทางป่า มันฆ่าอัศวินอันเดธสามตัวที่อยู่ใกล้ผู้หญิงมากที่สุดแล้วพาเธอหนีไปในเวลาเดียวกัน จากนั้นอัศวินอันเดธก็ไล่ตามเธอต่อแทนที่จะหนี”
เขาไม่สามารถมองภาพได้ชัดเจนนักจากบนหลังของดอเรียส เขาร่ายดวงตานกอินทรีย์ใส่ตัวเองและพบรายละเอียดของการต่อสู้เพิ่มอีกมากมาย
“ผู้มาใหม่นี้ควบคุมธาตุไฟได้ เขาน่าจะเป็นนักดาบเวทย์นะ เขาไม่ได้แข็งแกร่งเท่าไหร่, น่าจะอยู่ที่เลเวล 6 หลังจากฆ่าอัศวินอันเดธสามตัวนี้, เขาเองก็ได้รับบาดเจ็บหนักเหมือนกัน… ห้ะ? ทำไมเลือดถึงเป็นสีม่วงหล่ะ? เขาเป็นดาร์คเอลฟ์หรอ?”
กลุ่มอัศวินอันเดธไล่ตามอันเดธสามคน, แล้วจู่ๆก็มีดาร์คเอลฟ์นักดาบเวทย์โผล่ขึ้นมาช่วยอันเดธผู้หญิง สถานการณ์ดูซับซ้อนและน่าสงสัยมากขึ้นอีกนิดนึง
ดอเรียสตกใจ “ลิงค์, ชุดเกราะของอัศวินอันเดธมีตรานกอินทรีย์ด้วย นั่นเป็นตราราชวงศ์ของเดลอนก้านี่ พวกมันมาจากเดลอนก้า!”
ลิงค์ไม่ได้ประหลาดใจกับเรื่องนี้ “กษัตริย์รอยที่ห้าของเดลอนก้าเป็นบ้าไปแล้ว” เขาอธิบาย “เขาร่วมมือกับเวเวอร์, คนบ้าอีกคนนึง, เพื่อสร้างกองทัพอันเดธ และตอนนี้มันก็มีทหารถึง 30,000 คนแล้ว”
“นี่มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่กัน? ไม่มีทางหน่า!” ดอเรียสตกใจอย่างเต็มที่ เขายังไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเดลอนก้า
“มันเป็นความจริง…เถอะหน่า, ฉันจะเล่ารายละเอียดให้แกฟังทีหลัง ตอนนี้, พวกเราไม่มีเวลาแล้วนะ ดาร์คเอลฟ์นักดาบเวทย์ไม่สามารถทนได้นานนักหรอก ไล่ตามพวกเขาไปต่อเถอะ”
“โอเค” ดอเรียสกระโจนไปทางที่ลิงค์ชี้
ครั้งนี้, พวกเขาวิ่งมาได้หนึ่งไมล์, และมีศพของอัศวินอันเดธปรากฎขึ้นอีกสองศพ ลิงค์ตรวจสอบพวกเขาแล้วขมวดคิ้ว “มันแปลกๆนะ อันเดธพวกนี้ถูกนักดาบเวทมนตร์ฆ่าหมดเลย, แต่เขาไม่น่าจะแข็งแกร่งขนาดนั้นนี่…ดูนี่สิ, เขากำลังจะตายอยู่แล้วชัดๆ, แต่อัศวินอันเดธก็ทำผิดพลาดอย่างกระทันหันแล้วก็ถูกฆ่า”
ดอเรียสสับสนกับสถานการณ์อย่างเต็มที่ “เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?” เขาถาม “นี่มันซับซ้อนเกินไปแล้ว!”
ลิงค์ไม่ได้ตอบกลับ เขาตรวจสอบต่อและพบรอยสดๆบนต้นไม้ในครึ่งนาทีต่อมา
“ดูนั่นสิ, เปลือกไม้หายไป มีใครบางคนอยู่ที่นี่…เขา เกาะอยู่บนต้นไม้เพื่อเฝ้าดูการต่อสู้บนพื้นแล้วลงมือตรงนั้น…ฉันเข้าใจแล้ว มันคือก้อนหิน เขาโยนก้อนหิน, ทำให้พวกอัศวินอันเดธทำพลาด”
“มีคนโผล่ออกมาอีกแล้วสินะ?” ในที่สุดดอเรียสก็เข้าใจอะไรบางอย่าง
ลิงค์พยักหน้า เขามองดูป่าอันมืดมิดที่น่าขนลุกแล้วขมวดคิ้ว “มีคนแข็งแกร่งปรากฎขึ้นมาเพียบเลย นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ ผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นคนสำคัญแล้วเกี่ยวข้องกับอะไรบางอย่างที่มีประโยชน์มากๆ มีหลายคนพุ่งเป้าไปที่เธอ ดอเรียส, ข้างหน้านี้คงจะมีอันตรายที่คาดไม่ถึงมากมาย พวกเราต้องระวังตัวให้ดีนะ”
“ข้าเข้าใจแล้ว” ดอเรียสมีสีหน้าจริงจัง เรื่องในวันนี้มันซับซ้อนเกินไปและเขาก็สัมผัสได้ถึงอันตราย
ในการเดินทางที่เหลือ, เขาลดความเร็วลงเล็กน้อยเพื่อความปลอดภัย
ครั้งนี้, พวกเขาเดินทางไปได้ประมาณสองไมล์ในตอนที่หูของดอเรียสกระตุก “ฟังสิ” เขากระซิบกับลิงค์ “มีความปั่นป่วนในป่าข้างหน้านี้ ดูเหมือนว่าจะเป็นการต่อสู้ที่รุนแรงนะ!”
“ก้มต่ำไว้…ระวังด้วยหล่ะ!” ก่อนที่ลิงค์จะพูดจบ, เขาก็หัวใจเต้นรัว มันคือสัญญาณอันตรายถึงชีวิต
โดยไม่คิดอะไรอีก, เขาขยับคทา มิติบิดเบือน!
เลนส์มิติปรากฎขึ้นทุกทิศทาง, ล้อมรอบดอเรียสกับลิงค์เอาไว้ และในเวลาเดียวกันนั้นเอง, ลำแสงสีม่วงก็ปรากฎขึ้นข้างหลังเขา มันยิงเข้ามาในมิติบิดเบือนและหักเลี้ยวไปด้านข้าง ด้วยเสียงซู่ว, มันก็ยิ่งโดนเข้ากับต้นไม้หนา
ต้นไม้ถูกลำแสงเจาะทะลุในทันที, แต่ลำแสงไม่ได้หยุด มันทะลุต้นไม้ไปอีกห้าต้นก่อนที่มันจะดับลงในที่สุด
พอเห็นภาพนี้, ลิงค์ก็รู้สึกตกใจมากๆ “ความแข็งแกร่งของลำแสงนี้อย่างน้อยก็น่าจะอยู่ที่จุดสุดยอดของเลเวล 7 นะ, แต่ว่าไปเอานักเวทย์เลเวล 7 มากมายขนาดมาจากที่ไหนกัน?”
ด้วยความคิดนี้, สัญญาณเตือนภัยในจิตใจของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง อันตรายมาจากข้างหลัง เหมือนกับก่อนหน้านี้, มันคือลำแสงสีม่วง เขาสามารถบอกได้เลยว่าศัตรูได้ปรับทิศทางการโจมตีของเขา โดยอิงการบิดเบือนจากเวทย์บิดเบือนมิติก่อนหน้านี้, ลำแสงจะโดนดอเรียสหลังจากการปรับทิศทางของศัตรู
แต่ก็โชคดีที่, ความแข็งแกร่งของเวทย์บิดเบือนมิตินั้นคือการที่ลิงค์สามารถปรับความถี่ได้ตามที่เขาต้องการ
ตูม! ลำแสงปิดชีพหักเลี้ยวผ่านดอเรียสอีกครั้ง, แต่ลิงค์ก็ไม่มีความสุขเลย แม้ว่าจะถูกโจมตีติดกันสองครั้ง, แต่เขาก็ยังไม่สามารถหาตำแหน่งที่แน่นอนของศัตรูได้! ลำแสงนี้ดูเหมือนกับออกมาเฉยๆ ไม่มีใครอยู่ที่ต้นลำแสงเลย!
ซึ่งนี่ก็หมายความว่าเขาไม่สามารถต่อสู้กลับได้; เขาทำได้แค่เป็นฝ่ายตั้งรับเท่านั้น
“เวทย์เลเวล 7 สองครั้งในทันทีเลยหรอ นี่น่าจะเป็นอุปกรณ์เวทมนตร์บางอย่างและคนๆนี้ก็ซ่อนตัวได้เก่งมากด้วย มันเป็นใครกันแน่นะ?”
ลิงค์มีความรู้สึกว่าเขาติดอยู่ในวังวนขนาดยักษ์, และผู้หญิงแปลกหน้าก็เป็นหัวใจของเรื่องทุกอย่าง