ลิงค์ มองลงมาจากหอคอยนักธนูไปที่ ลอร์ด, ที่กำลังพุ่งเข้ามาหาเขา แล้วเขาก็ถาม เซลีน อย่างใจเย็น “เธอช่วยหยุดมันได้ไหม?”
เซลีน ขมวดคิ้วที่สวยงามของเธอ “มันแข็งแกร่งกว่าฉัน ฉันยั้งดาบของมันได้แค่สามดาบ”
ด้วยคำพูดนี้, ลิงค์ ก็รู้ได้เลยว่า เซลีน น่าจะเลเวล 5 ซึ่งมันเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะรับมือกับ ลอร์ด, ที่อยู่เลเวล 6 ได้
ความสามารถในการรับดาบได้ถึงสามดาบนั้นอาจจะเป็นเพราะสายเลือดปีศาจของเธอ
เขาตรวจสอบมานาของเขา เนื่องจากมานาของเขาฟื้นฟูอย่างรวดเร็วด้วยผลของยาพร่ำบ่น, ทำให้ตอนนี้เขามีมานาอยู่ 1010, ซึ่งเพียงพอสำหรับเขาที่จะใช้ระเบิดเพลิงได้มากกว่า 3 ครั้ง
เขาครุ่นคิดอยู่คู่หนึ่ง, จากนั้นทางออกก็เข้ามาในหัวเขาแทบจะทันที
“ยื้อมันไว้ได้สักทีก็น่าจะพอแล้ว”
เขาหันไปหานักธนูที่อยู่บนหอคอย “ออกไปจากที่นี่ บอกนักรบทุกคนด้วยให้ออกไปห่างๆจากที่นี่!”
ระเบิดเพลิงจากก่อนหน้านี้ได้ปิดผนึกพลังอำนาจของ ลิงค์ เอาไว้ในหิน นักธนูรีบทำตามคำสั่งของเขา นักรบชาวมนุษย์เองก็รีบถอยไปให้ห่างจากหอคอยนักธนู
ลอร์ด ได้มาถึงข้างล่างกำแพงเมืองแล้ว ด้วยความที่จอมพลของพวกมันยังปลอดภัยและไม่ได้รับอันตราย, พวกดาร์กเอลฟ์นักรบจึงเริ่มบุกเข้ามาอีกครั้ง, ด้วยการนำของ ลอร์ด อย่างไรก็ตาม, การเดินทัพของพวกมันก็ช้ากว่าตอนแรกเยอะ, ด้วยความที่ต้องแบกความรู้สึกของความไม่แน่นอนและความหวาดกลัวต่อผลของเวทย์มนตร์อันน่ากลัว
ยังไงซะ, ศพที่ถูกย่างเกรียมก็ยังคงวูบวาบด้วยเปลวเพลิงอยู่ข้างใต้พวกมัน ซึ่งนั่นก็บ่งบอกถึงความน่ากลัวในพลังของเวทย์มนตร์ พวกมันจะยังคงกลัวต่อไปตราบเท่าที่ภัยอันตรายของนักเวทย์ยังคงอยู่
แล้วถ้านักเวทย์นั่นใช้ระเบิดเพลิงอีกครั้งหล่ะ?
ลอร์ด รีบกระโดดขึ้นไปคว้าหนึ่งในเชือกที่ห้อยอยู่และรีบปีนขึ้นกำแพง ขณะที่นักรบดาร์กเอลฟ์ตัวอื่นๆก็ตามมาเป็นชุด, และพยายามปัดความกดดันจากการโจมตีของพวกมนุษย์ออกจากจอมพลของพวกมัน ส่วนด้านบน, นักรบชาวมนุษย์ก็พยายามโยนก้อนหินลงมาจากกำแพงเพื่อหยุดการเดินทัพของพวกมัน
ครั้งนี้, ลอร์ด เลือกที่จะหลบการโจมตีแทนที่จะใช้คลื่นออร่าของมัน
มันได้รับบทเรียนมาก่อนหน้านี้แล้ว มันต้องจับตามองการโจมตีของนักเวทย์เอาไว้ดีๆ
ขณะที่มันปีน, ลิงค์ ก็รีบอธิบายแผนการให้ เซลีน ฟัง เขาพูดอย่างรวดเร็ว, แต่ก็ชัดเจน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สะทกสะท้านเลยสักนิดแม้ว่าจะมีศัตรูที่แข็งแกร่งกำลังมุ่งหน้ามาหาพวกเขา
เซลีน ฟังอย่างตั้งใจขณะที่ดวงตาของเธอฉายออกมาด้วยความสดใส เธอแอบมองชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆเธอ, แล้วเธอก็ได้เห็นคู่ดวงตาสีดำ, ที่ดำพอๆกับของเธอ
ในช่วงเวลานั้น, ดวงตาคู่นั้นดูลึกซึ้งและชัดเจน, พวกมันเต็มไปด้วยแสงอันเย็นยะเยือกที่เหมือนกับคมมีดในน้ำที่เย็นเฉียบ มันคือแสงแห่งปัญญา
หัวใจของ เซลีน ถูกกระตุ้น ชายหนุ่มที่ดูธรรมดาๆคนนี้ดูหล่อเหลาขึ้นมากระทันหัน
“เธอเข้าใจไหม?” ลิงค์ ถามหลังจากที่สรุป
“อืม” เซลีน พยักหน้า
เพียงแค่นั้น, ลอร์ด ก็มาถึงด้านบนของกำแพงเมืองและฆ่านักรบชาวมนุษย์ที่อยู่รอบๆมันด้วยการเหวี่ยงดาบของมันแค่ทีเดียว แล้วมันก็พุ่งตรงมาที่หอคอยนักธนู
“พายุลูกเห็บระดับต้น!” น้ำเสียงของ ลิงค์ ราบเรียบ, ราวกับว่าตัวที่พุ่งมาหาเขาเป็นแค่ทหารธรรมดาๆไม่ใช่ศัตรูที่น่ากลัวอะไร
แสงสีขาวเปล่งออกมาจากปลายคทาของเขาและห่อหุ้มหอคอยนักธนูไว้ด้วยพายุน้ำแข็ง
พายุไม่ได้ร่ายมาเพื่อทำให้ ลอร์ด บาดเจ็บ, แต่ร่ายมาเพื่อปิดบังทัศนวิสัยของมัน
ลอร์ด พบว่ามันไม่สามารถระบุตำแหน่งของนักเวทย์ได้ด้วยความที่มีพายุรุนแรงอยู่ระหว่างพวกเขา แต่มันก็ไม่สามารถใช้คลื่นออร่าของมันออกมาง่ายๆได้
ถ้าคลื่นออร่าของมันไม่โดนนักเวทย์, มันก็จะเสียออร่าของมันไปเป็นจำนวนมากและก็จะต้องตกเป็นฝ่ายป้องกัน
“ฮื่ม, แกคิดว่าแค่นี้จะหยุดข้าได้หรอ?” ลอร์ด เยาะเย้ย
มันสามารถเอาชีวิตของนักเวทย์ได้ แม้ว่าจะไม่ต้องใช้คลื่นออร่าของมันก็ตาม และมันไม่ได้กลัวว่านักเวทย์จะใช้ระเบิดเพลิงอีกครั้งเช่นกัน ครั้งนี้, มันเตรียมตัวมาแล้ว มันจะดับไฟนั่นด้วยการตวัดดาบของมันตอนที่ไฟนั่นพุ่งมาหามัน
ลอร์ด ย่นระยะทางระหว่างพวกเขา แต่นักเวทย์ก็ไม่ได้ขยับตัวตั้งแต่ตอนที่ร่ายเวทย์พายุลูกเห็บระดับต้นแล้ว
ทหารทั้งหมดที่อยู่ในสนามรบต่างก็จับตามองการต่อสู้ระหว่างจอมพลดาร์กเอลฟ์กับนักเวทย์ชาวมนุษย์ การสู้รบชะลอตัวอย่างมากเพราะเหตุนี้
ความหวังที่จอมพลของพวกมันจะฆ่านักเวทย์ชาวมนุษย์ได้เติบโตขึ้นมาในหัวใจของเหล่านักรบดาร์กเอลฟ์
แต่ทหารชาวมนุษย์กลับเริ่มรู้สึกกังวล
ลอร์ด เร็วเกินไป พวกเขาไม่สามารถไล่ตามได้ ไม่สามารถช่วยได้, พวกเขาทำได้แค่เฝ้ามอง
มิ้งซ์ ชำเลืองตามองไปที่หอคอยนักธนูขณะที่เขาต่อสู้กับดาร์กเอลฟ์นักรบ ความเงียบของนักเวทย์ได้กลืนกินเขา
หรือว่าเขาจะไม่มีมานาแล้ว? เขายังเด็กมาก เขาต้องใช้พลังทั้งหมดของเขาเพื่อร่ายระเบิดเพลิงแน่ๆ แต่เขาจะแพ้ไม่ได้นะ
ถ้านักเวทย์ตาย, ขวัญกำลังใจของทหารชาวมนุษย์ก็จะตายไปด้วยกันกับเขา, และนั่นก็จะเป็นสาเหตุให้การป้องกันของพวกเขาถูกทำลายลง!
มิ้งซ์ เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นบนสนามรบ, แต่เขาก็เป็นเพียงแค่ผู้สังเกตุการณ์ที่ไร้พลัง
มันเป็นเรื่องที่เจ็บปวด ความรู้สึกไร้ประโยชน์อย่างรุนแรงกำลังครอบงำเขา
แอนนี่ เคลื่อนไหวในทันที, เธอกำมีดของเธอ, แล้วพุ่งไปด้วยระเบิดความเร็ว, เธอพุ่งไปทางหอคอยโดยไม่สนใจรอบๆตัวเธอ แม้ว่าจะซื้อเวลาให้ ลิงค์ ได้แค่เสี้ยววินาที, เธอก็เต็มใจที่จะจ่ายมันด้วยชีวิตของเธอ
ชีวิตของเธอเป็นของเขา เพราะเธอเป็นหนี้ชีวิตเขาถึงสองครั้ง
แต่เธอก็ยังคงช้าเกินไป การที่นักรบเลเวล 6, พุ่งไปด้วยความเร็วสูงสุดนั้นมันเกินกว่าที่เธอจะไล่ทัน
ภายในชั่วพริบตา, ลอร์ด ได้มาถึงหอคอยนักธนู ด้วยการใช้แรงดันจากการพุ่งของมัน, มันกระโดดขึ้นไปกลางอากาศ, ดาบที่มันถืออยู่, บลัดดี้ไพรด์, ส่องแสงขึ้นมารุนแรงกว่าที่เคยเป็น
ตอนที่อยู่กลางอากาศนั้น, มันได้เตรียมตัวที่จะใช้คลื่นออร่าของมันได้ตลอดเวลา
แต่เพียงแค่นั้น, ลิงค์ ก็กระโดดออกมาจากพายุลูกเห็บระดับต้นในทิศทางตรงกันข้าม เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเหมือนลูกดอก
เวทย์มนตร์เลเวล 1, รวดเร็วดั่งแมว!
ขณะที่เขาตกลงมา, ลิงค์ ได้ร่ายเวทย์มนตร์อีกเวทย์นึงตรงไปที่หอคอยนักธนู – สนามต้านแรงโน้มถ่วง!
ปัง! หอคอยนักธนูสั่นเล็กน้อย แรงดีดกลับโยน ลิงค์ ออกมาข้างนอกและห่างจากหอคอยเป็นวงกว้าง
ตลอดเวลานี้, คทาที่เขาถืออยู่ได้มีแสงสีน้ำเงินออกมา เขากำลังร่ายเวทย์อีกเวทย์นึง! ครั้งนี้, มันคือระเบิดเพลิงอีกลูก
แต่ ลอร์ด, อยู่ท่ามกลางพายุลูกเห็บระดับต้น, ทำให้มันมองไม่เห็น ลิงค์ ในความเป็นจริง, มันถูกโจมตีอย่างรุนแรงตอนที่มันเข้ามาในหอคอย
ดาบคริสตัลสีฟ้าอันแวววับได้แทงไปที่มัน มันรวดเร็วจนน่าตกใจ ครึ่งทางของการโจมตี, ประกายไฟที่ถักทอขึ้นมาอย่างหนาแน่นจากฟ้าแล็บฟ้าคะนองได้มารวมกันรอบๆดาบที่กำลังจะเข้ามา
การโจมตีนี้ทรงพลังจนน่ากลัว!
เห้ย, ใครกันเนี่ย? ลอร์ด ประหลาดใจ, มันไม่มีทางเลือกนอกจากเอาดาบของมันมารับ
ติ๊ง! เสียงระเบิดจากการปะทะกันดังขึ้น ลอร์ด รู้สึกว่าข้อมือของมันชา, แต่มันก็สามารถต้านทานดาบของฝ่ายตรงข้ามของมันได้ เซลีน ไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับมัน
ด้วยความที่เหนือกว่า, ลอร์ด จึงฝ่าออกมาจากพายุลูกเห็นได้ในทีสุด และเข้าไปยังหอคอยนักธนู
พายุลูกเห็บระดับต้นเป็นเพียงแค่ลมธรรมดาและเศษน้ำค้างแข็งสำหรับมัน— มันไม่สามารถฝ่าการป้องกันของมันได้โดยสิ้นเชิง มันทำได้แค่ปิดบังทัศนวิสัยของมันเพียงเท่านั้น
นักเวทย์อยู่ที่ไหนกัน? ลอร์ด สับสน
มีเพียงแค่หญิงสาวคนนึงที่งดงามเหนือมนุษย์เท่านั้นที่ยืนเผชิญหน้ากับมัน เธอถือดาบที่เคยหยุดมันไว้ก่อนหน้านี้
“แล้วแกเป็นใคร?” ลอร์ด ถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
เซลีน ไม่ได้ตอบคำถาม, แต่ร่ายพรสวรรค์ทางสายเลือดของเธอ, โล่ออบซิเดียนเลเวล 5 แทน ด้วยความที่เป็นเวทย์มนตร์ทางสายเลือด, มันจึงฝังเอาไว้ในเลือดทุกๆหยดที่ไหลเวียนอยู่ในตัวเธออย่างลึกซึ้ง เธอร่ายมันแทบจะทันที, แล้วโล่คริสตัลอันแข็งแกร่งก็ห่อหุ้มร่างกายของเธอไว้ด้วยเวลาไม่ถึง 1 ใน 10 วินาที
ลอร์ด ตกตะลึง รับการโจมตีดาบนึงจากนั้นก็ซ่อนเข้าไปในกระดองเต่าอย่างงั้นหรอ? นี่มันสไตล์การต่อสู้อะไรกัน?
ตลอดการแลกดาบนี้, ลำแสงสีน้ำเข้มได้ยิงข้ามผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืนพุ่งตรงไปยังหอคอยนักธนูอย่างเต็มที่
ตู้ม!
ระเบิดเพลิงอีกลูกได้แยกอากาศจนเกิดแผ่นดินไหว
หอคอยนึกธนูบนกำแพงเมืองถูกกลืนเข้าไปในประกายไฟและเปลวงเพลิง
เปลวไฟลุกโชน, เศษหินกระเด็นออกมาจากมัน, และมีรูปร่างของคนสองคนถูกดีดออกมาจากข้างในความวุ่นวาย
หนึ่งในนั้นคือ เซลีน โล่ออบซิเดียนของเธอได้ปกป้องเธอเอาไว้จากแรงปะทะส่วนใหญ่, ทำให้ออร่าปีศาจของเธอสามารถจัดการกับส่วนที่เหลือได้อย่างง่ายดาย เธอได้เตรียมรับแรงระเบิดของระเบิดเพลิงเอาไว้แล้ว จากนั้นเธอก็ทิ้งระยะห่างระหว่าง ลอร์ด กับตัวเธอ โดยอาศัยแรงจากการระเบิด
อีกคนนึงที่กระเด็นออกมา, แน่นอนว่าคือ, ลอร์ด
การที่ต้องเผชิญหน้ากับการลอบโจมตีด้วยระเบิดเพลิง, บังคับให้มันต้องป้องกันด้วยการปลดปล่อยออร่าต่อสู้ของมันอย่างเต็มที่อีกครั้ง, มันใช้พลังส่วนที่เหลืออยู่ของมันไปเป็นจำนวนมาก
ขณะที่มันตกไปในกลางอากาศ, ลอร์ด รู้สึกได้ว่าออร่าของมันดิ่งลงไปน้อยกว่าสามส่วนของที่มันมีมาก่อน; เหงื่อมันไหลออกมาด้วยความกลัว
ออร่าของมันหมดเกลี้ยงได้ทุกขณะ ซึ่งมันไม่เพียงพอสำหรับมันในการโจมตีเมืองต่อ มันจำเป็นต้องหยุดการโจมตี— ไม่อย่างนั้น, มันอาจจะตายในเมืองแกลดสโตนเนื่องจากออร่าหมดได้
ถ้าเรื่องนั้นเกิดขึ้นจริงๆ, ชื่อเสียงของมันก็จะแปดเปื้อนไปตลอดการ
ในฐานะนักรับ, มันสามารถตายจากการต่อสู้ได้, แต่ไม่ใช่การตายที่น่าอับอายแบบนั้น
ขณะที่มันล่วงลงมา, ในที่สุดมันก็มองเห็นนักเวทย์ที่หายไปก่อนหน้านี้
เหมือนกับมัน, นักเวทย์คนนั้นกำลัง‘บิน’อยู่ อย่างไรก็ตาม, นักเวทย์คนนั้นก็กำลังจะลงพื้น จากวิถีการลง, ดูเหมือนว่านักเวทย์หนุ่มคนนั้นจะลงไปที่กำแพงเมือง
นักเวทย์ก็มองไปที่มันเช่นกัน ดวงตาสีดำเข้มพวกนั้นไม่สามารถหยั่งถึงได้ ลอร์ด ไม่เห็นระลอกคลื่นหรืออารมณ์อยู่ข้างในพวกมัน
นักเวทย์นั่นสงบนิ่งอย่างสมบูรณ์ ข้าไม่มีทางสู้ได้เลย! ด้วยการมองเพียงครั้งเดียว, ความคิดของ ลอร์ด ที่จะฆ่านักเวทย์คนนั้นก็ดับไป
แต่นักเวทย์ก็ไม่ได้คิดที่จะปล่อยมันไปเฉยๆ
แสงสีน้ำเงินรวมตัวกันรอบๆคทาของนักเวทย์, ก่อตัวขึ้นมาเป็นระเบิดเพลิงที่ยิงไปที่ ลอร์ด จากระยะห่างออกไปกว่า 130 ฟุต
หัวใจของ ลอร์ด สั่นระรัว ระเบิดเพลิงไม่ได้พุ่งมาเป็นเส้นตรง; ลอร์ด ไม่สามารถคาดการณ์เส้นทางของมันได้อย่างสมบูรณ์
“แม่งเอ้ย!”
มันไม่กล้าที่จะใช้คลื่นออร่าเนื่องจากมันใช้พลังงานงานสูง ถ้ามันใช้, มันก็จะแทบไม่มีออร่าเหลืออยู่เลย นอกจากนี้, ถ้ามันพลาด, และนักเวทย์ใช้ระเบิดเพลิงใส่มันอีกครั้ง, มันก็จะได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง
มันไม่สามารถใช้คลื่นออร่าใส่นักเวทย์ได้ ต่อให้มันจะมีออร่าพอก็ตาม พวกเขาอยู่ห่างกันเกินไป มีระยะห่างกว่า 150 ฟุตระหว่างพวกเขา, แต่ระยะของคลื่นออร่าของ ลอร์ด มีแค่ 100 ฟุต!
ลอร์ด ไม่เหลือทางเลือกอื่นนอกจากกอดตัวเองรับการโจมตี
ตู้ม! ระเบิดเพลิงกระแทกเข้าใส่ ลอร์ด ราวกับว่าดวงอาทิตย์ปรากฏขึ้นมา— แสงของเปลวเพลิงสว่างไปทั่วทั้งสนามรบ
ร่างกายของ ลอร์ด กระเด็นออกมาเหมือนกับลูกศรที่ผ่านคลื่นของเปลวเพลิง, ร่อนลงบนพื้นที่ห่างออกไป 200 ฟุต อย่างรุนแรงด้วยเสียงดังกระหึ่ม
มันได้รับบาดเจ็บหนักบางส่วนจากระเบิดเพลิงที่โดนมัน ครั้งนี้, มันใช้ออร่าของมันไปแทบทั้งหมด ตอนที่มันลงพื้น, มันรู้สึกถึงรสชาติอะไรบางอย่างที่ขมเฝื่อนที่คอของมัน มันไม่สามารถควบคุมตัวเองได้, แล้วมันก็อ้วกออกมาเป็นเลือดจำนวนมาก
ดาร์กเอลฟ์นักรบ มารวมตัวรอบๆมันในทันที ใบหน้าของพวกมันหม่นหมองตอนที่เห็นจอมพลของพวกมันมีสภาพแบบนี้
“ท่านจอมพล, ท่านไหวไหมครับ?” ผู้ช่วยที่ใกล้ชิดที่สุดของ ลอร์ด เดินมาหามันเพื่อช่วยพยุงมันขึ้นมา
“ข้าไม่เป็นไร” ลอร์ด ห้ามผู้ช่วยของมันแล้วลุกขึ้นมาด้วยตัวเอง แต่ครั้งนี้, การเคลื่อนไหวของมันช้าลงและน้ำเสียงของมันก็อ่อนแอ อาการบาดเจ็บของมันไม่ใช่น้อยๆ
หลังจากที่มันยืนขึ้น, มันก็มองตรงไปที่กำแพงเมืองแกลดสโตนที่นักเวทย์คนนั้นยืนอยู่เงียบๆ
คทาคริสตัลเพลิงที่เขาถืออยู่เปล่งประกายออกมาด้วยเปลวเพลิง ขณะที่เสื้อคลุมของเขาดูเหมือนจะมีกระแสของเวทย์มนตร์ที่สดใสเปล่างประกายอยู่ ใบหน้าของนักเวทย์เฉยเมยและไร้อารมณ์
ในตอนนั้น, นักเวทย์หนุ่มคนนั้นดูเหมือนกับเทพพระเจ้าที่อยู่บนฟากฟ้า!
เสียงแตรดังขึ้นมากระทันหันจากทางด้านเหนือของเมืองแกลดสโตน แม้ว่าเสียงนั้นจะเปล่าเปลี่ยวและอ้างว้าง, แต่ก็เจาะเข้าไปในหัวใจของทหารชาวมนุษย์ พวกเขารู้สึกดีใจขณะที่ใบหน้าของพวกดาร์กเอลฟ์เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
กำลังเสริมของพวกมนุษย์มาถึงแล้ว!
ในเวลาเดียวกันนั้น, ช่วงเวลาที่มืดที่สุดก่อนรุ่งสางก็สิ้นสุดลง แสงสีทองเปล่งออกมาจากเส้นขอบฟ้า, อาบกำแพงเมืองแกลดสโตนไว้ด้วยสีทอง
ติ้ง ติ้ง ติ้ง เสียงระฆังดังขึ้น มันเป็นเวลาตี 5 แล้ว
คำคื่นที่ยาวนานได้สิ้นสุดลงในที่สุด, และนำมาซึ่งวันใหม่
“ถอยทัพ!” ลอร์ด ตะโกนขึ้น มันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่, ความภาคภูมิใจของมันถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกของการยอมจำนนอย่างลึกซึ้ง