Advent of the Archmage – ตอนที่ 273: ของขวัญจากสตรีแห่งความจริง

ที่รกร้างเฟิร์ด

 

ดอเรียสพุ่งผ่านป่าเกอแวนท์มาพร้อมกับเจ้าชายทมิฬวอลเตอร์ด้วยความเร็วสูงสุด เขานั้นเร็วมากๆและเดินทางไปได้ไกลกว่า 30 ไมล์ภายในเวลา 20 นาที เขากำลังจะมุ่งหน้าไปที่เทือกเขามอดไหม้ในตอนที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่เบื้องหน้าของเขา

 

ดอเรียสสงสัยและเร่งความเร็วไปที่ยอดเนิน จากนั้นเขาก็เห็นผู้หญิง 2 คนกำลังขี่ม้ามาด้วยความเร็วสูงสุดตรงมาทางเขา

 

เขากวาดสายตามองและจำได้ในทันทีว่าพวกเขาเป็นใคร คนแรกมีผมสีม่วงและใส่เกราะเบาสีน้ำตาล เธอมีปืนเวทมนตร์ห้อยอยู่ตรงข้างเอวของเธอด้วย-เธอคือเซลีน

 

และข้างๆเธอยังมีหญิงสาวอีกคนที่ไว้ผมทรงหางม้าด้วย เธอดูไร้เดียงสาและสวมชุดเกราะอันประณีต เธอคือหุ่นเชิดเวทมนตร์ของลิงค์นานะ

 

ในตอนที่เขาเห็นใบหน้าอันคุ้นเคย ดอเรียสก็รู้สึกดีใจ เขากระโดดไปข้างหน้าแล้วทิ้งเจ้าชายทมิฬลงเบื้องหน้าพวกเธอ จากนั้นเจ้าชายทมิฬก็ทำหน้าบูดเบี้ยวเล็กน้อย และมีเลือดออกมาจากปากของเขา ดูเหมือนว่าดอเรียสจะไม่ได้ปล่อยเขาลงมาเบาๆ

 

ยังไงก็ตาม ดอเรียสก็ไม่ได้สนใจและถามด้วยความสงสัย “เซลีน ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?”

 

สถานที่แห่งนี้อยู่ห่างจากเทือกเขามอดไหม้อย่างน้อย 30 ไมล์  ต่อให้ถ้าเซลีนต้องการมาฝึกทักษะการยิงปืนของเธอ แต่เธอก็ไม่ควรมาไกลขนาดนี้

 

 

จากนั้นเซลีนก็มองดาร์กเอลฟ์ที่อยู่บนพื้นก่อนที่จะแสดงความกังวลออกมาในดวงตาของเธอ จากนั้นเธอก็พูด “ถ้านายกลับมากับตัวประกัน ฉันคงบอกได้ว่าตอนนี้ลิงค์อยู่ตัวคนเดียวสินะ?”

 

ดูเหมือนว่าดอเรียสจะมีความกังวลในตอนที่เขาพูด “ใช่ แต่ว่าไม่เป็นไรหรอกหน่า ลิงค์สู้กับพวกมันได้; พวกมันไม่มีทางเอาชนะเขาได้หรอก”

 

ดูเหมือนว่าเซลีนจะคิดถึงเรื่องอื่นและถามอย่างเร่งรีบ “นายรู้รึเปล่าว่าเขาไปทางไหน?”

 

“เรื่องนี้…ข้าไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ มันผ่านมา 20 นาทีแล้วตั้งแต่ที่ข้าแยกจากเขา”

 

เซลีนกังวลยิ่งกว่าเดิม ในตอนนี้ นานะได้พูดขึ้นและชี้ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ “มาสเตอร์อยู่ทางทิศนั้น เขากำลังเดินทางด้วยความเร็วสูง”

 

“เธอมั่นใจเหรอ?” เซลีนสงสัย ยังไงซะ นานะก็เป็นแค่หุ่นเชิดเวทมนตร์ เธอจะสามารถระบุตำแหน่งที่แน่นอนของลิงค์แบบนี้ได้ยังไง?

 

“เลือดของมาสเตอร์มีสัมผัสอันคุ้นเคย นานะรู้สึกได้”

 

ในตอนที่นานะพูดออกมาแบบนี้ เซลีนก็นึกถึงตอนที่พวกเขาเจอนานะเป็นครั้งแรก ลิงค์ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของนานะในตอนนั้น และโลหะไมโครในดาบของเธอก็ได้รวมเข้ากับเลือดของเขา ทำให้นานะสามารถไล่ตามเขาได้ เธอนั้นทำได้แม้กระทั่งวิ่งอยู่ใต้น้ำในขณะที่พยายามจะกำจัดลิงค์

 

ดูเหมือนว่าเธอจะยังคงมีความสามารถนั้นอยู่

 

“มันจะต้องมีใครบางคนไล่ตามเขาอยู่แน่ๆ ถ้าเขาวิ่งด้วยความเร็วสูงแบบนี้ ไปกันเถอะ! พวกเราจะไล่ตามเขา!” เซลีนโบกมือของเธอและพุ่งไปข้างหน้า แล้วนานะก็ตามหลังเธอไปติดๆ

 

“แล้วข้าล่ะ?” ดอเรียสถูกทิ้งไว้คนเดียวอีกครั้ง

 

“พาตัวประกันคนนั้นกลับไปที่เทือกเขามอดไหม้” เซลีนพูด

 

“โอเคได้เลย” ดอเรียสใช้ปากคาบวอลเตอร์ขึ้นมาอีกครั้งและพุ่งไปทางเทือกเขามอดไหม้

 

 

ภพวิญญาณ

 

ลิงค์กำลังวิ่งหนีเอาชีวิตรอดในขณะที่แบกอัลโลวาไว้ที่หลัง

 

ในมิตินี้ พลังของเวทมนตร์ทั่วๆไปจะถูกทำให้ลดลงในขณะที่พลังของวิญญาณจะเพิ่มขึ้น ลิงค์นั้นคุ้นเคยกับมิตินี้อย่างประหลาด เขาสามารถวิ่งได้อย่างรวดเร็วแม้ว่าเขาจะแบกของที่หนักมากอยู่ก็ตาม

 

ยังไงก็ตาม, กลุ่มคนที่ตามเขานั้นก็รวดเร็วเช่นกัน ในกลุ่มนั้น คนที่น่ากลัวที่สุดก็คือเวเวอร์

 

วิญญาณของเขาแข็งแกร่งผิดปกติ ลิงค์มองไปที่ด้านหลังของเขาและเห็นเงาขนาดมหึมากำลังบดบังทัศนวิสัยของเขา แม้กระทั่งท้องฟ้าที่เป็นสีเทาดำก็ยังถูกออร่าแห่งความมืดจากวิญญาณของเขาปกคลุม

 

จากนั้นลิงค์ก็พูดด้วยความหวาดกลัว “ทาบินอสนี่ใจกว้างจริงๆ พอมาคิดว่าเขาเพิ่มพลังให้กับวิญญาณของเวเวอร์มากมายขนาดนี้”

 

 

มีอยู่ทั้งหมด 2 วิธีในการเพิ่มพลังวิญญาณของตัวเองในโลกแห่งฟิรุแมน วิธีที่หนึ่งคือการฝึกฝน ซึ่งนักเวทย์จะใช้การทำสมาธิเพื่อทำให้วิญญาณแข็งแกร่งขึ้นในขณะที่นักรบจะใช้หยาดเหงื่อและน้ำตาของพวกเขาในการพัฒนาความเข้มแข็ง  พลังของวิญญาณของพวกเขาก็จะเพิ่มขึ้นพร้อมกับพลังของพวกเขาในภพกายภาพ โดยที่พลังวิญญาณของนักเวทย์เลเวล 9 จะแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปประมาณ 1,000 เท่า พวกเขาสามารถทำให้คนธรรมดาขวัญกระเจิงได้ตลอดเวลาถ้าพวกเขาต้องการ

 

ส่วนวิธีที่ 2 ก็คือผ่านการรับพรศักดิ์สิทธ์ ลิงค์นั้นได้รับพรจากเทพเจ้าแห่งแสง เมื่อพรนี้มาผนวกกับการฝึกฝนของเขาจึงทำให้เขามีวิญญาณที่แข็งแกร่งมากๆ

 

ยังไงก็ตาม วิญญาณของเวเวอร์นั้นน่ากลัวกว่าของลิงค์ถึง 10 เท่า!

 

มันน่าหงุดหงิดจริงๆ

 

แต่ก็โชคดีที่ ถึงแม้วิญญาณของเวเวอร์จะแข็งแกร่ง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่คุ้นเคยกับการใช้พลังนี้  และเขาก็ยังไม่คุ้นเคยกับกฏของภพวิญญาณด้วย ซึ่งนั่นทำให้ความเร็วในการเคลื่อนไหวของเขาช้าลงมาก ที่เขาเร็วกว่าลิงค์นั้นเพียงเพราะว่าเขามีวิญญาณที่แข็งแกร่งกว่าเท่านั้น และยิ่งไปกว่านั้น ลิงค์กำลังแบกน้ำหนักเพิ่มอยู่ด้วยจึงทำให้ความเร็วของเขาลดลง

 

หลังจากที่อัลโลวาได้ยินคำพูดของลิงค์ เธอก็พูดด้วยสีหน้าเฉยเมย “แน่นอนอยู่แล้วว่าทาบินอสต้องใจดี เจ้าไม่รู้หรอกว่าเวเวอร์ทำอะไรลงไปบ้าง”

 

ลิงค์นั้นตกตะลึงไปพักนึงก่อนที่เขาจะถามขึ้น “เขาบูชายัญผู้คนไปมากขนาดไหน?”

 

เพื่อที่จะทำให้เทพปีศาจพึงพอใจ เขาจะต้องทำพิธีบูชายัญ ยิ่งไปกว่านั้น มันจะต้องเป็นการบูชายัญวิญญาณด้วย

 

“อย่างน้อยก็ 50,000 ดวง!” อัลโลวาพูดตัวเลขที่น่ากลัวออกมา

 

วิญญาณ 50,000 ดวงเลยหรอ? ลิงค์หวาดกลัว

 

ดาร์กเอลฟ์บูชายัญวิญญาณไป 15,000 ดวงเพื่อให้ได้อุปกรณ์ระดับพระเจ้าของพวกเขามา แต่นี่เวเวอร์ไปหาดวงวิญญาณจำนวนมากขนาดนี้ภายในเวลาอันสั้นแบบนี้มาบูชายัญได้ยังไง?

 

อัลโลวานั้นช่างสังเกตและสามารถเดาได้ว่าลิงค์กำลังคิดอะไรอยู่จากการกระทำของเขา จากนั้นเธอก็หัวเราะในใจและพูด “เจ้าคิดว่าทำไมอาณาจักรเดลอนก้ากับอาณาจักรเซาท์มูนถึงเกิดสงครามที่รุนแรงขึ้นหล่ะ? นักรบและประชาชนที่ตายไปนั้นต่างถูกนับรวมเข้ากับตัวเลข 50,000 นั้นด้วย นี่เป็นการประมาณที่น้อยที่สุดแล้ว”

 

ชีวิตนั้นเป็นสิ่งไร้ค่าในตอนที่เกิดความวุ่นวาย ผู้คนนั้นทำได้แค่ประมาณจำนวนผู้เสียชีวิตในการต่อสู้เมื่อเกิดสงครามอันโหดร้ายขึ้น  ยังไงก็ตาม ลิงค์นั้นคิดไม่ถึงเลยว่าจะมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้แอบแฝงอยู่ภายในเงาเบื้องหลังสงคราม

 

ในตอนนี้ เขาได้เข้าใจอย่างลึกซึ้งแล้วถึงความมืดมิดในโลกแห่งฟิรุแมน ในโลกนี้ พลังจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกทุกอย่าง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ชัดเจนว่าทำไมพลังแห่งความมืดถึงหลุดการควบคุมได้อย่างง่ายดาย และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์อันน่ากลัว

 

“นี่มันบ้าไปแล้ว! ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น มันเกิดขึ้นที่ทางใต้ ตรงฝั่งล่างของดินแดนของฉันเลย!”

 

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทำไมประชาชนจากอาณาจักรเดลอนก้าถึงได้มาขอลี้ภัยในดินแดนของเขา ผู้คนธรรมดาพวกนี้ไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นภายในอาณาจักรของพวกเขา ยังไงก็ตามนี่ก็ไม่ได้ป้องกันพวกเขาจากความอันตราย

 

จากนั้นอัลโลวาก็ถอนหายใจแล้วพูด “นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมข้าถึงได้หนีมาจากพวกดาร์กเอลฟ์ พวกนั้นน่ากลัวและบ้าเกินไป การกระทำของพวกเขาไม่เพียงแค่จะทำลายเผ่าพันธุ์ทั้งหมดเท่านั้น แต่มันยังรวมถึงทั่วทั้งฟิรุแมนด้วย!”

 

จากนั้นเธอก็จ้องมาที่เขาแล้วพูด “ข้าตั้งใจที่จะมาหาเจ้าในตอนที่ข้าหนีออกมาจากแบล็คฟอเรส ข้าพบเจอกับอุบัติเหตุนิดหน่อยระหว่างทางและถูกคนที่ไล่ตามข้ามาขัดขวางในตอนที่มาถึงป่าเกอแวนท์ แต่ว่า ผลลัพธ์ก็ยังคงเป็นที่น่าพอใจ เพราะเจ้ายังคงมาตามหาข้า”

 

“ทำไมถึงเป็นฉันล่ะ?” ลิงค์สับสน ในขณะที่เขาพูด เขาก็หันไปดูข้างหลังอีกครั้งนึง

 

ในตอนนั้นเอง เขาก็ได้วิ่งผ่านป่าเกอแวนท์มาถึงที่รกร้างเฟิร์ดแล้ว ในพื้นที่นี้ไม่มีสิ่งกีดขวางเลย เขาสามารถเห็นเวเวอร์ได้ชัดเจนในระยะห่างออกไปประมาณ 900 ฟุต โดยที่มีไอมอนส์ตามหลังเวเวอร์อยู่ 15 ฟุตและอัศวินอันเดธตามหลังไอมอนส์อยู่ 80 ฟุต

 

เวเวอร์นั้นจะเข้ามาใกล้ 150 ฟุตในทุกๆหนึ่งนาที ถ้าเกิดว่าพวกเขายังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่ากับตอนนี้ ลิงค์ก็จะเข้าสู่ระยะการร่ายเวทย์ของเวเวอร์ภายในเวลา 4 นาที

 

ลิงค์นั้นสามารถเคลื่อนที่ไปได้ 3 ไมล์ภายในเวลา 4 นาที ซึ่งเขานั้นยังคงอยู่ห่างจากเทือกเขามอดไหม้และไม่สามารถที่จะเรียกกำลังเสริมมาได้ทัน ยังไงก็ตาม เขาก็ไม่ได้ตื่นตระหนก เขายังคงมีมานาเหลืออยู่ 7,000 แต้ม ซึ่งนั่นมันมากพอที่จะให้เขาร่ายเวทย์ข้ามมิติ พอเวเวอร์ใกล้จะไล่เขาทัน เขาก็แค่ร่ายมันเพื่อหลบหนี

 

ถ้าพวกเขากล้าที่จะไล่ตามเขาไปเรื่อยๆจนถึงเทือกเขามอดไหม้ ลิงค์ก็แค่เรียกนานะมาและให้พวกเขาได้รู้ถึงพลังของหุ่นเชิดเวทมนตร์ที่เขาภาคภูมิใจ

 

จากนั้นอัลโลวาก็ตอบคำถามของลิงค์อย่างจริงจัง “เพราะว่าเจ้ารู้วิธีใช้เวทย์มิติ”

 

“เวทย์มิติหรอ? แล้วมันมีผลยังไงกับเธอ?”

 

จากนั้นอัลโลวาก็พยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจังและพูดด้วยความเสียใจ “มีผลสิ มีผลมากด้วย สิ่งที่ข้ากำลังวิจัยอยู่นั้นมันข้ามไปเกินกว่าขอบเขตความรู้ของมนุษย์ เจ้าเป็นคนๆเดียวในโลกแห่งฟิรุแมนที่สามารถเข้าใจงานวิจัยของข้าได้ เพราะอย่างนั้น เจ้าจึงเป็นคนๆเดียวที่ข้าจะไปหาได้”

 

ลิงค์นั้นพูดไม่ออก ผู้หญิงคนนี้แสดงความรู้ของเธอออกมาราวกับว่าเธอต้องการที่จะอยู่เหนือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ

“เธอค้นพบอะไรกันแน่?” ลิงค์ถาม เขาคาดว่าการค้นพบนี้จะทำให้ทุกคนต้องตกตะลึง และนั่นก็อธิบายถึงเหตุผลที่ทำไมพวกดาร์กเอลฟ์ถึงได้ไล่ตามเธอมาตลอดจากทางใต้และถึงขนาดส่งไอมอนส์มาทำภารกิจนี้ด้วย

 

ระหว่างที่เขาพูดเขาก็หันไปดูข้างหลังอีกครั้ง เวเวอร์นั้นยังคงไล่ตามเขามาและอยู่ห่างไป 600 ฟุต อีกด้านหนึ่งไอมอนส์ก็ตามหลังเวเวอร์อยู่ 60 ฟุต

 

ถ้าเกิดว่าเวเวอร์อยู่คนเดียว ลิงค์ก็คงจะเริ่มต่อสู้กับเขาไปแล้ว ยังไงก็ตาม มีนักเวทย์ 2 คนไล่ตามเขาอยู่ ไอมอนส์เองก็เป็นนักเวทย์ที่แข็งแกร่งจนน่ากลัว เมื่อรวมเข้ากับอัศวินอันเดธ ลิงค์นั้นไม่มีความมั่นใจเลยว่าจะจัดการพวกเขาทุกคนได้ เพราะอย่างนั้นเขาจึงทำได้แค่หนี

 

เมื่อลิงค์หันไปรอบๆ เขาก็สังเกตได้ถึงบรรยากาศแปลกๆ เขารู้สึกว่ามีบางอย่างบดบังทัศนวิสัยของเขาอยู่ เมื่อเขาตรวจสอบดูใกล้ๆ เขาก็ตกใจ มันคือหน้าอกของอัลโลวา

 

เขาไม่ได้รู้สึกถึงมันมาก่อน แต่อันโลวานั้นมีหน้าอกที่สวยงามมาก และมันยิ่งสวยเป็นพิเศษในตอนที่เขาแบกเธอวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด ทำให้มันเด้งอย่างน่าดึงดูดในทุกๆก้าว ลิงค์เบือนสายตาหนีและเพิ่มความเร็วในการวิ่ง

 

ในอีกด้านนึง อัลโลวาไม่ได้รู้สึกตัวถึงสายตาของลิงค์เพราะเธอกำลังอยู่ในห้วงความคิด หลังจากเงียบไปประมาณ 10 วินาทีเธอก็กระซิบ “พ่อของข้าเป็นสมาชิกของตระกูลซิลเวอร์มูน เพราะอย่างนั้น สายเลือดของซิลเวอร์มูนจึงอยู่ในตัวข้าด้วย แต่ว่า ด้วยความที่สายเลือดของข้านั้นไม่บริสุทธิ์ ข้าจึงถูกเลือกให้โดนบูชายัญเพื่อเป็นภาชนะของอสรพิษทมิฬ”

 

“งั้นทำไมเธอถึง? นี่เธอได้เอาอุปกรณ์ระดับพระเจ้ามาด้วยรึเปล่า? ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่นะ”

 

“แน่นอนว่าข้านั้นได้รวมเข้ากับอุปกรณ์ระดับพระเจ้าแล้ว แต่ว่า ข้าได้สร้างหุ่นเชิดขึ้นมาเพื่อผ่านกระบวนการส่วนใหญ่ในที่อยู่ของข้า ซึ่งนั่นทำให้ข้าหลุดจากการควบคุมของอุปกรณ์ระดับพระเจ้ามาได้  และในขั้นตอนนี้ ข้าก็ได้ค้นพบหลักการควบคุมอุปกรณ์ระดับพระเจ้า…อย่างที่เจ้าเห็น ข้าได้กลายเป็นอมตะและไม่ถูกทำให้แปดเปื้อนด้วยพลังแห่งความมืด”

 

ลิงค์นั้นตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดพวกนี้ การที่ปลดปล่อยตัวเองออกมาจากการควบคุมของอุปกรณ์ระดับพระเจ้าได้ก็ถือว่าสุดยอดมากแล้ว แต่นี่ยังค้นพบหลักการควบคุมมันในเวลาเดียวกันอีก เรื่องพวกนี้คงต้องใช้สติปัญญาที่เหนือกว่าการคาดเดาของเขาไปเป็นอย่างมาก

 

ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมเธอถึงเป็นสตรีแห่งความจริงและแสดงท่าทีว่ามีความรู้มาก เธอนั้นไม่ได้หยิ่ง แต่แค่มุมมองต่อโลกของเธอนั้นแตกต่างจากคนธรรมดามากเกินไปเท่านั้นเอง

 

“แล้วเป้าหมายที่เธอมาหาฉันหล่ะ?”

 

“อย่างที่เจ้ารู้ อุปกรณ์ระดับพระเจ้านั้นมีเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถกลืนกินวิญญาณได้ ข้าได้พยายามแก้ไขมันแล้วแต่ก็ไม่ได้ผล และข้าก็พบว่าข้าทำมันด้วยตัวเองไม่ได้ ข้าจึงต้องการคนอื่นที่มีความรู้มากกว่าคนธรรมดามาช่วยข้าอีกแรงนึง เจ้าเป็นคนแรกที่เข้ามาในหัวข้า เพราะอย่างนั้นข้าจึงนำขุมทรัพย์อย่างสถิติของอุปกรณ์ระดับพระเจ้ามาด้วย”

 

ลิงค์นั้นตะลึง แต่มันก็ตามมาด้วยความสบายใจในภายหลัง เขาพูด “ผักพ่อนเถอะ ฉันจะรับรองความปลอดภัยของเธอเอง!”

 

 

นี่คงจะเป็นเหตุผลที่ทำไมระบบเกมถึงให้ภารกิจที่มีเวลาจำกัดขึ้นมาอย่างกะทันหัน อัลโลวานั้นมีคุณค่ามาก ถ้าเกิดว่าเขารู้ว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นล่วงหน้า  เขาก็คงเต็มใจที่จะเข้าไปในแบล็คฟอเรสอีกครั้ง!

 

ดูเหมือนว่าอัลโลวาจะพึงพอใจในความตั้งใจของลิงค์และพยักหน้า จากนั้นเธอก็พูด “ความกระตือรือร้นเป็นอาจารย์ที่ดีที่สุด แต่ว่า ก่อนหน้านั้นพวกเราต้องจัดการกับคนที่ไล่ตามมาก่อน พวกมันไล่เข้ามาแล้ว”

 

ลิงค์พยักหน้าและมองไปข้างหลังอีกครั้ง เวเวอร์ได้เข้ามาใกล้เข้าถึงระยะเพียงแค่ 150 ฟุตแล้ว ภายใน 1 นาที ลิงค์จะเข้าสู่ระยะร่ายเวทย์ของเขา

 

ลิงค์นั้นไม่กล้าที่จะเสี่ยงและเตรียมพร้อมที่จะใช้เวทย์ข้ามมิติหนีในทันที

 

ข้ามมิตินั้นเป็นเวทย์ระดับตำนานซึ่งมันไม่ถูกลดพลังลงโดยภพวิญญาณ และนี่เองก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ลิงค์กล้าพาอัลโลวาเข้ามาในภพวิญญาณในตอนแรก

 

ยังไงก็ตาม สิ่งที่แปลกๆก็ได้เกิดขึ้น

 

เมื่อเห็นแสงสว่างสีขาวที่คุ้นเคยรอบตัวลิงค์ ออร่าสีดำรอบๆตัวเวเวอร์ก็ได้ขยายขนาดขึ้นเช่นกัน จากนั้นเขาก็หัวเราะเยาะ “ลิงค์ ฉันรู้ว่านายจะใช้วิธีสกปรกนี้! แต่ว่า เจ้านายของฉันได้บอกอะไรบางอย่างมา มาดูหน่อยสิว่านายจะหนีได้รึเปล่าหลังจากนี้!”

 

หมอกสีดำพุ่งไปหาพวกเขาด้วยความเร็วแสง ปกคลุมลิงค์อยู่ภายในอุ้งมือของปีศาจ หลังจากนั้น แสงสว่างรอบๆลิงค์ก็ถูกเป่าหายไปราวกับแสงเทียนที่โดนลมพัด อัลโลวากับลิงค์ยังคงยืนอยู่ที่เดิม

 

ลิงค์พูดไม่ออก เขาได้ทำผิดพลาดไปโดยการดูถูกพลังของเวเวอร์  เขานั้นควรจะใช้เวทย์ข้ามมิติตั้งแต่ก่อนหน้านี้ในตอนที่เขายังคงนำหน้าอยู่ สถานการณ์ในตอนนี้ไม่สู้ดีเลย

 

“นั่นน่าจะเป็นพลังของเทพปีศาจทาบินอส เขาได้ผนึกทั่วทั้งมิติแล้ว เจ้าจะต้องจัดการพวกเขาถึงจะไปต่อได้” อัลโลวาอธิบายด้วยสีหน้าเฉยเมย โดยไม่แสดงอาการกลัวหรือตกใจเลย เพราะว่าเธอนั้นคาดเอาไว้แล้วว่ามันจะต้องเกิดขึ้น

 

 

“ดูเหมือนว่ามันจะเป็นการต่อสู้ที่หนักหน่วงอีกแล้วสินะ” ลิงค์หยิบคัมภีร์มิติออกมา แม้ว่าพวกเขาจะต้องสู้ แต่เขาก็พึงพอใจในการสู้ที่ภพกายภาพมากกว่า มีเพียงภพกายภาพเท่านั้นที่เขาจะสามารถปลดปล่อยพลังทั้งหมดของเขาได้

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset