ไม่แปลกใจเลยที่ปีศาจมิติเป็นศัตรูตัวฉกาจของนักเวทย์ มันรวดเร็วมากๆ—เร็วเกินขีดจำกัดของสิ่งมีชีวิตในฟิรุแมน!
แม้กระทั่งความเร็วของนานะ, ก็ยังแทงได้แค่สามครั้งเท่านั้น ซึ่งครั้งแรกถูกปีศาจมิติกันเอาไว้ได้ ครั้งที่สองถูกผิวหนังชั้นนอกของมันกันเอาไว้ มีแค่ครั้งที่สามเท่านั้นที่สามารถก่อให้เกิดอันตรายได้, และมันก็ประมวนผลทุกอย่างได้อย่างเต็มที่ในตอนที่เธอแทงครั้งที่สี่
แกร้ง, แกร้ง, แกร้ง มีการปะทะกันนับไม่ถ้วน, และมันก็ป้องกันการโจมตีทั้งหมดของนานะได้ ในขณะที่มันป้องกัน, ร่างกายของมันก็เริ่มเลือนลางราวกับว่ามันกำลังจะหนีเข้าไปในมิติอีกครั้ง
นานะไม่สามารถจัดการมันได้!
ปีศาจมิติกำลังจะหายไปในเร็วๆนี้
“ยับยั้ง!” ด้วยจังหวะที่เหมาะสม, ลิงค์ก็โยนลูกแก้วมิติออกไป ในตอนที่มันปรากฎขึ้น, มันมีขนาดแค่กำปั้นเท่านั้น มันไปอยู่ข้างปีศาจมิติในทันที, แล้วมันก็ระเบิดออก, ห่อหุ้มปีศาจเอาไว้ข้างใน
ปีศาจมิติติดอยู่ข้างใน, และร่างของมันก็ชัดเจนขึ้นอีกครั้ง
“ตัดจันทร์เสี้ยว!”
อัศวินศักดิ์สิทธิ์โจเซฟตอบสนองในที่สุด มันไม่ใช่ว่าเขามีความเร็วในการตอบสนองช้าแต่ว่านานะ, ลิงค์, แล้วก็ปีศาจมิตินั้นเร็วเกินไป! ดาบของเขาตัดผ่านอากาศ เกิดแสงครึ่งเสี้ยวสีขาวจ้าพุ่งไปทางฝ่ายตรงข้าม
“รัศมีป้องกัน!”
อัศวินศักดิ์สิทธิ์คนอื่นๆก็ไม่ได้ยืนอยู่เฉยๆเช่นกัน แต่ละคนเปล่งแสงจ้าออกมา แสงนี้กระจายออกไปจากคนๆนึงไปหาอีกคนนึง แล้วทันใดนั้นเอง, ทุกคนก็ถูกห้อมล้อมด้วยรูนเมฆสีขาวนวล
รัศมีป้องกัน
เทคนิคออร่าต่อสู้
ผล: หลังจากที่รัศมีปรากฎขึ้น, สิ่งมีชีวิตธาตุแสงในระยะ 150 ฟุตทั้งหมดจะมีความสามารถในการป้องกันพลังแห่งความมืดเพิ่มขึ้น 50% ความสามารถในการป้องกันการโจมตีทางชีวภาพเพิ่มขึ้น 100%, และความเร็วเพิ่มขึ้น 50%
(หมายเหตุ: พลังศักดิ์สิทธิ์นี้มาจากจอกศักดิ์สิทธิ์!)
ด้วยการกระทำเหล่านี้, ปีศาจมิติก็ถูกโจมตีในที่สุด มันกำลังจะถูกฆ่า, แต่ทันใดนั้นเอง, ก็มีเสียงคำรามดังขึ้น จากนั้นร่างที่กำลังลุกไหม้ก็พุ่งออกมาจากต้นไม้ที่อยู่ด้านหลัง เป้าหมายของมันเป็นใครไปไม่ได้นอกจากลิงค์
มันคือปีศาจเพลิงโฟดอร์!
ปีศาจเพลิงตัวนี้แข็งแกร่งและรวดเร็วมากๆ ที่ความเร็วสูงสุดของมัน, มันจะทิ้งร่องรอยไฟเอาไว้ในอากาศ การปรากฎตัวของมันนั้นเหมาะเจาะมาก—มันคือจังหวะที่ลิงค์ปล่อยลูกแก้วมิติออกมาจับปีศาจมิติ
“นายท่าน!” นานะอยากจะแทงปีศาจมิติให้ตาย, แต่ด้วยความที่ลิงค์ตกอยู่ในอันตราย, เป้าหมายของเธอจึงย้ายไปที่ปีศาจเพลิงโฟดอร์
ตูม! อากาศระเบิด, แล้วนานะก็หายไป ในตอนที่เธอปรากฎตัวขึ้นมาอีกครั้ง, เธอก็ขวางทางปีศาจเพลิงโฟดอร์เอาไว้
ดูเหมือนว่าปีศาจตัวนี้จะเตรียมตัวเอาไว้แล้ว; มันใช้สปาต้าเพลิงของมันสับลงมา
เกร้ง, เกร้ง, เกร้ง,เกร้ง เสียงโลหะกระแทกกันดังขึ้น ทักษะดาบของปีศาจเพลิงตัวนี้ค่อนข้างจะสมบูรณ์แบบ มันไม่ได้เร็วเท่านานะ, แต่การเคลื่อนไหวแต่ละครั้งของมันนั้นก็เป็นทั้งการรุกและรับในเวลาเดียวกัน ดาบของมันไม่ได้ขยับมากนัก, และมันก็วางตำแหน่งที่จะเฉือนเอาไว้แล้ว ด้วยทักษะพวกนี้, มันจึงป้องกันการโจมตีของนานะได้อย่างต่อเนื่อง!
พวกเขาประลองกันเป็นเวลาสิบเสี้ยววินาที, แต่ดาบของพวกเขาก็กระแทกกันกว่า 30 ครั้งแล้ว และในที่สุด, มันก็มาถึงจุดจบ
แขนซ้ายของนานะถูกดาบของปีศาจเพลิงเฉือน เกราะหนังที่แข็งแรงของเธอแตกในทันที, แล้วเธอก็กระเด็นไปข้างหลัง ในเวลาแทบจะเท่ากัน, ดาบอีกเล่มของเธอ, เสียงเพรียกแห่งป่า, ก็แทงเข้าที่อกขวาของปีศาจเพลิง มันเจาะทะลุผิวหนังและทิ้งรูเลือดกว้างสิบเซนติเมตรเอาไว้
อย่างไรก็ตาม, ปีศาจเพลิงนั้นมีพลังชีวิตที่แข็งแกร่ง ต่อให้มีบาดแผลที่อกของมัน, มันก็ยังเป็นแค่บาดแผลเล็กๆ มันแทบจะไม่ส่งผลกับการต่อสู้ของมันเลย
พวกเขาสูสีกัน: ทักษะดาบของปีศาจเพลิงโฟดอร์นั้นช่างเหลือเชื่อจริงๆ!
แต่ที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้น, หลังจากที่นานะถูกอัดกระเด็น, ปีศาจเพลิงก็พุ่งเข้าหาลิงค์ต่อ, โดยไม่สนใจบาดแผลของมัน
ณ เวลานี้, ปีศาจมิติเริ่มดิ้นรนอย่างรุนแรง ออร่าต่อสู้หนาปรากฎขึ้นบนร่างกายของมัน ซึ่งนี่ไม่ได้ช่วยกันแค่ตัดจันทร์เสี้ยวเท่านั้น, มันยังลดพลังของเวทย์ยับยั้งมิติของลิงค์ด้วย
ลิงค์ถูกบังคับให้ใช้มานามากขึ้นในการคงสภาพยับยั้งมิติเอาไว้ และในส่วนของปีศาจเพลิงนั้น, เขาไม่ได้กังวลเลยเพราะเขามีพรรคพวก
“ป้อมคริสตัล!”
มิลด้าเก็บเวทย์เลเวล 7 เอาไว้ตลอดเวลา ในชั่วพริบตา, คริสตัลโค้งกึ่งโปร่งแสงสามอันก็ปรากฎขึ้นเบื้องหน้าปีศาจเพลิงที่กำลังพุ่งเข้ามา
ตูม! ทันทีหลังจากนั้น, ปีศาจเพลิงโฟดอร์ก็ชนเข้ากับป้อมชั้นแรก มันชนกำแพงจนกระจายเป็นเสี่ยงๆ, แต่มันก็ช้าลงอย่างมาก
ตูม! วินาทีต่อมา, มันก็ชนเข้ากับป้อมชั้นที่สอง ความเร็วของมันช้ากว่าคนทั่วไปแล้ว
นานะรีบวิ่งมาในช่วงเวลานี้
เกร้ง, เกร้ง, เกร้ง, เกร้ง!
มีเสียงโลหะปะทะกันดังขึ้นอีกครั้ง หลังจากผ่านไปสิบเสี้ยววินาที, ปีศาจเพลิงโฟดอร์ก็คำรามด้วยความเจ็บปวด ในขณะเดียวกัน, เศษโลหะจำนวนมากก็ระเบิดออก
มันไม่ใช่ว่าทักษะดาบของมันไม่ดีพอหรือดาบของมันไม่แข็งแกร่งพอ แต่หลังจากประทะกันอย่างรุนแรงหลายร้อยครั้ง, ดาบของปีศาจก็ถูกดาบหลักของนานะ, ฝันร้ายสิ้นสุด, ทำให้แตกเป็นเสี่ยงๆ ปีศาจเพลิงโฟดอร์จ่ายหนักมากสำหรับเหตุการณ์นี้
แกร๊ก นานะเจาะแขนขวาของมัน, แล้วทำลายกระดูก
ปีศาจเพลิงคำรามออกมาอย่างทรงพลัง ดาบที่แขนซ้ายของมันนั้นปักอยู่ในมุมที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ แสงหนาเหมือนกับเลือดไหลผ่านดาบ และจู่ๆก็มีกลิ่นกำมะถันในอากาศที่สร้างความเจ็บปวดให้กับผู้ที่สูดดมมัน
นานะถอยกลับในทันที ประสบการณ์ในอดีตบอกเธอว่าไฟพวกนี้ไม่ใช่แค่มีอุณหภูมิสูงเท่านั้น, แต่พวกมันยังมีฤทธิ์กัดกร่อนสูงด้วย เธออาจจะไม่สามารถทนพวกมันได้
ในขณะที่เธอถอยออกมา, โรมิลสันก็เคลื่อนไหวในที่สุด มันคือหนามงูหลาม!
ตูมม! พื้นแตกกระจาย แล้วสิ่งที่เหมือนกับงูหลามกว้างสามฟุตที่ทำมาจากหนามนับไม่ถ้วนก็พุ่งออกมาจากรอยแตกนั้น มีเถาวัลคมกริบจำนวนนับไม่ถ้วนที่ปลายของมัน, กำลังพุ่งเข้าใส่ปีศาจเพลิงโฟดอร์เหมือนกับหอก
ปีศาจเพลิงโฟดอร์ยอมแพ้ให้กับการโจมตีลิงค์ในที่สุด มันเหวี่ยงดาบของมันเพื่อป้องกันเถาวัลในขณะที่ล่าถอย
ในอีกด้านหนึ่ง, ปีศาจมิติก็จมลงสู่ความเศร้าในที่สุด อัศวินศักดิ์สิทธิ์ทั้งแปดคน, รวมทั้งโจเซฟ, ได้วิ่งเข้าไปหามัน แล้วดาบกางเขนที่เต็มไปด้วยธาตุเงินศักดิ์สิทธิ์ก็แทงมันเข้าไปพร้อมกันห้าเล่ม
ในช่วงเวลานี้, ลิงค์ได้ส่งมานาเข้าไปเต็มที่ แล้วความแข็งแกร่งของยับยั้งมิติก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว!
ปีศาจมิติถูกยับยั้งอย่างรุนแรงในทันที มันใช้พลังได้ไม่ถึง 10% ด้วยซ้ำ และในการเผชิญหน้ากับการโจมตีรอบๆมัน, มันสามารถป้องกันได้แค่สามดาบแต่ก็หมดพลังในอีกห้าดาบที่เหลือ
ดาบห้าเล่มแทงมันในทันที และภายใต้พลังของออร่าต่อสู้, แร่เงินศักดิ์สิทธิ์ก็ไหลเข้าไปในร่างของปีศาจมิติ
มันปล่อยเสียงหวีดแหลมออกมา ร่างกายของมันเริ่มบิดตัวแล้วดิ้นพล่านด้วยความเจ็บปวด นี่ไม่ใช่การดิ้นรนเพื่อหลบหนี; แต่เป็นการดิ้นรนเพื่อชีวิตของมัน
แม้กระทั่งปีศาจก็ไม่สามารถทนกับบาดแผลพวกนี้ได้
พอเห็นฉากนี้, ปีศาจเพลิงโฟดอร์ก็ยอมแพ้ ด้วยการระเบิดออร่าต่อสู้สีแดงเข้ม, มันก็ตัดหนามงูหลามของโรมิลสัน และใช้โอกาสนี้เพื่อล่าถอยแล้วหนีไป
นานะไล่ตามไปพร้อมกับดาบของเธอ, พวกเขาแลกเปลี่ยนกันสามดาบ, และปีศาจเพลิงก็ถูกแทงทะลุหลัง, ในขณะที่นานะถูกอัดกระเด็นอีกครั้ง
มันไม่ใช่ว่านานะอ่อนแอเกินไป; แต่ร่างกายของเธอเบาเกินไปต่างหาก แม้ว่ามันจะทำมาจากโลหะ, แต่เป้าหมายของมันก็เพื่อเพิ่มความเร็วและความคล่องแคล่ว และถึงแม้ว่ามันจะแข็งแรงพอ, แต่โลหะส่วนใหญ่นั้นก็มีโครงสร้างเหมือนกับฟองน้ำ นานะหนักแค่ประมาณ 200 ปอนด์เท่านั้นในขณะที่ปีศาจเพลิงตัวนี้หนักอย่างน้อยครึ่งตัน ดังนั้นนานะจึงไม่สามารถทนต่อพลังโจมตีทั้งหมดได้และต้องกระโดดถอยกลับไป
แน่นอนว่า, เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือการเคลื่อนไหวของปีศาจเพลิงได้กลับไปสู่แก่นแท้แห่งดาบแล้ว มันเร็วจนผิดปกติ, เกือบจะ 50% ของความเร็วของนานะ, และมันก็มีประสิทธิภาพมากๆ การโจมตีแต่ละครั้งนั้นอาจดูเหมือนสะเพร่าและไร้หัวคิดแต่มันก็ไม่มีจุดอ่อนเลย
ทักษะดาบอันสมบูรณ์แบบที่สามารถป้องกันการโจมตีของนานะได้นี้เร็วกว่าความเร็วเสียงซะอีก!
ปีศาจเพลิงโฟดอร์ก็กำลังอยู่ในระดับความเร็วสูงสุดเช่นกัน, มันเคลื่อนที่ประมาณ 650 ฟุตต่อวินาที แล้วมันก็คล่องแคล่วจนผิดปกติเช่นกัน หลังจากที่เลี้ยวซิกแซกเข้าไปในป่า, มันก็หายตัวไปจริงๆ
นานะไล่ตามไปตามสัญชาติญาณ, แต่ก็ถูกลิงค์เรียกเอาไว้, “นานะกลับมานี่!”
หนทางข้างหน้ายังมีปีศาจอยู่อีก ถ้าพวกมันแข็งแกร่งพอๆกับปีศาจเพลิงโฟดอร์หล่ะก็, นานะคงจะตกอยู่ในอันตราย ซึ่งมันไม่คุ้มเอาซะลย
นานะหยุดแล้วกลับมาหาลิงค์ในทันที “นายท่าน, เป้าหมายยังไม่ถูกจัดการเลยค่ะ” น้ำเสียงของเธอยังคงสดใสและน่ารักพร้อมกับไร้ซึ่งอารมณ์เหมือนเช่นเคย, แต่มันก็มีความไม่พอใจเจือปนอยู่อ่อนๆด้วย
“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวก็มีโอกาสอีกหน่า”
ลิงค์หันกลับไปมองปีศาจมิติ ปีศาจตัวนี้กำลังจะตายและที่รอดอยู่ได้นั้นก็เพราะพลังชีวิตอันแข็งแกร่งในฐานะปีศาจระดับสูง
ที่ระยะหกฟุตครึ่ง, ปีศาจตัวนี้ไม่ได้สูงนัก มันตัวเล็กเมื่อเทียบกับปีศาจตัวอื่นๆ แต่กล้ามเนื้อและร่างกายของมันก็สมบูรณ์แบบ ถ้าการโจมตีอย่างกระทันหันของลิงค์ไม่สำเร็จและปีศาจตัวนี้สามารถใช้ความเร็วสูงสุดของมันได้หล่ะก็, บางทีแม้กระทั่งนานะก็คงจะต่อกรได้อย่างยากลำบาก
โจเซฟเดินเข้ามา เขาเดินไปเหยียบหน้าอกของปีศาจมิติ, แล้วชี้ดาบกางเขนไปที่หน้าผากของมัน “บอกข้ามา” เขาสั่ง “เมืองผีอยู่ที่ไหน?”
ปีศาจมิติไม่ได้ตอบ มันแค่หัวเราะออกมา—ด้วยเสียงแหลมที่เหมือนกับงูกำลังร้อง
โจเซฟแทงดาบทะลุหน้าอกของปีศาจ, แล้วตอกมันกับพื้น จากนั้นเขาก็บิดดาบอย่างรุนแรง “จะบอกข้าดีๆไหม?”
“ฝ่อววว…นายท่านจะแก้แค้นให้ข้า!” พอพูดจบ, ปีศาจมิติก็ตัวสั่นแล้วระเบิดด้วยเสียงดังตูม จากนั้นเลือดสีดำก็สาดกระจายไปทุกทิศทาง
มันเลือกฆ่าตัวตาย!
โชคดีที่, ทุกคนยังถูกปกคลุมด้วยรัศมีป้องกันของอัศวินศักดิ์สิทธิ์ นอกจากโจเซฟ, พวกเขาทุกคนก็อยู่ห่างกันหมดดังนั้นจึงมีแค่เขาที่ได้รับผลกระทบ ส่วนคนอื่นๆไม่เป็นอะไร
ปีศาจมิติอันแข็งแกร่งถูกฆ่าแล้ว, แต่ก็ไม่มีความสุขเลย, ทุกคนมีแต่จะเศร้าหมองขึ้น
พวกเขาได้เปรียบเนื่องจากได้โจมตีปีศาจสองตัวนี้ก่อน, และทุกคนก็ได้ใช้เทคนิคทั้งหมดของพวกเขาแล้ว แต่พวกเขากลับจับได้แค่ตัวเดียว, ส่วนอีกตัวหนีไปได้ แม้กระทั่งนานะ, นักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขา, ก็ยังไม่สามารถจับมันได้
ถ้ามีปีศาจที่คล้ายๆกันในเมืองผี—พวกเขาจะทำยังไงหล่ะ?
ทุกคนตกอยู่ในความเงียบ
ครึ่งนาทีต่อมา, ลิงค์ก็พูดขึ้น “ภารกิจนี้ไม่มีทางเลือกหรอก ทั้งหมดที่พวกเราทำได้ก็คือยอมรับมันเพราะฉะนั้นไปกันต่อเถอะ!”
ภารกิจนี้ไม่มีทางเลือกจริงๆ ถ้าเวเวอร์ไม่ตาย, กองทัพอันเดธก็จะบุกแผ่นดินใหญ่ ซึ่งพวกเขาคงจะตายในสนามรบอยู่ดี ดังนั้นแทนที่จะเผชิญหน้ากับกองทัพอันเดธที่กำลังทำลายบ้านของพวกเขา, มันจะดีกว่าถ้าทำให้ดีที่สุดในตอนนี้!
ทั้งกลุ่มเดินหน้าต่อ ครั้งนี้, พวกเขารู้สึกหนักอึ้งแต่ก็แน่วแน่
ผลลัพธ์มันไม่รุ่งก็ร่วง!
…
เมืองผี
ปีศาจเพลิงโฟดอร์วิ่งกลับมาแล้วคุกเข่าเบื้องหน้าซักคิวบัสที่มีขนาดแค่ครึ่งนึงของมัน “นายท่าน” มันพูดอย่างเงียบๆ “พวกมันแข็งแกร่งมาก มิโลธถูกฆ่าไปแล้ว”
“โอ้, แม้กระทั่งมิโลธก็ล้มเหลวรึ?” ซัคคิวบัสถอนหายใจกับข่าวอันน่าตกใจนี้ หลังจากผ่านไปไม่กี่วินาที, เธอก็มองเวเวอร์, ที่ยุ่งอยู่กับการบูชายัญ เธอเพิ่มเสียงของเธอแล้วบ่น “เวเวอร์, รีบมานี่แล้วคิดวิธีแก้ปัญหาซะ นักรบที่แข็งแกร่งที่สุดสองคนของข้าไม่สามารถหยุดพวกมันได้”
เวเวอร์หัวเราะ “เมียสเมอร์, ช่วยฉันหน่อยเถอะหน่า ไม่นานมากหรอก, แค่ชั่วโมงเดียว แล้วฉันจะให้พวกมัน, โดยเฉพาะลิงค์, ได้รู้ว่าความแข็งแกร่งของพระเจ้ามันเป็นยังไง!”
เขาหัวเราะดังลั่นแล้วโบกมือ จากนั้นอัศวินอันเดธที่อยู่ข้างๆเขาก็ลากประชาชนเดลอนก้าอีกกลุ่มนึงมาที่แท่นบูชา เขายกมือขึ้นแล้วปล่อยดาบลง หัวกลิ้งลงมา; แล้วเลือดก็ไหลไปทั่วแท่นบูชา
จากนั้นพลังอันงดงามก็ลงมาจากฟ้า เวเวอร์มองอย่างมัวเมา ด้วยการอาบพลังนี้, หน้าตาของเวเวอร์ก็กลับไปเป็นอายุ 20 ปี เขาดูหล่อเหลา, หยิ่งทะนง, และมีชีวิตชีวา—นอกจากนั้นก็คือดวงตาอันบ้าคลั่งและกระหายเลือด
“ก็ได้, แต่ข้าจะช่วยยื้อพวกมันให้อีกแค่ชั่วโมงเดียวนะ” เมียสเมอร์ยืนขึ้น แล้วเธอก็เดินสะบัดเอวตรงเข้าไปในป่าที่ถูกปกคลุมด้วยหมอกสีขาว