เมืองผี
ภารกิจสำเร็จ: การต่อสู้ครั้งสุดท้าย
ผู้เล่นได้รับหนังสือเวทมนตร์ผู้สังหารปีศาจ
ข้อมูลนี้โผล่ขึ้นมาในทัศนวิสัยของลิงค์ ในสายตาของเขา, หนังสือเวทมนตร์นี้มีปกสีแดงเข้ม มันลอยผ่านสายตาของเขาแล้วแล่นลงไปยังจุดที่อยู่มุมขวาของอินเตอร์เฟสเกมส์
มีหนังสือเวทมนตร์เก็บเอาไว้ในพื้นที่นี้อยู่แล้วสองแล่ม หนึ่งในพวกมันคือแก่นแท้แห่งเพลิง, ส่วนอีกเล่มก็คือไฟและการชำระล้าง พวกมันเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับธาตุไฟทั้งหมด
ระบบเกมส์มอบรางวัลให้ดีจริงๆ ฉันต้องศึกษาพวกมันให้ดีหลังจากที่กลับไปยังที่รกร้างเฟิร์ด, ลิงค์คิด
ในขณะเดียวกัน, โจเซฟก็กำลังแบกเวเวอร์เอาไว้บนหลังแล้วโยนร่างอันน่าสยดสยองของเขาด้วยเสียงดังตุ้บ
เวเวอร์มีวิญญาณอมตะดังนั้นเขาจึงยังมีชีวิตอยู่ อย่างไรก็ตาม, เขาก็ปิดปากเงียบตลอดเวลา ไม่มีสัญญาณชีวิตในดวงตาของเขาและเขาก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมาเลย มันดูเหมือนกับว่าไม่มีพลังชีวิตไหลอยู่ในร่างของเขา
“ข้าอยากฉีกมันให้เป็นชิ้นๆจะแย่อยู่แล้ว!” โจเซฟกัดฟันพูด มีศพหลายพันคนอยู่ในเมืองผี มันเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นของเนื้อสดๆและซากศพ ซึ่งโศกนาฎกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นด้วยฝีมือของคนๆเดียว และนั่นก็คือนักเวทย์ผู้ล่วงหล่นที่อยู่เบื้องหน้าของพวกเขาในตอนนี้!
จากนั้นเวเวอร์ก็เยาะเย้ย “อัศวินศักดิ์สิทธิ์, นายมันก็แค่ไอกากที่ติดสอยห้อยตามมาด้วย ถ้าไม่ได้ลิงค์, นายคิดจริงๆหรอว่าฉันจะแพ้?”
จากนั้นเขาก็จ้องลิงค์แล้วตะโกน “ถ้าไม่ใช่เพราะยาโง่ๆของนาย, นายจะเอาชนะฉันได้ยังไง? ไม่มีทางซะหรอก! นี่มันเป็นการต่อสู้ที่ไม่ยุติธรรมเอาซะเลย! พวกนายภาวนาให้ฉันหนีไปไม่ได้จะดีกว่านะ เพราะไม่อย่างนั้น, ฉันจะแสดงให้พวกนายได้เห็นความสิ้นหวังที่แท้จริงๆ!”
ผัวะ! โจเซฟเดินมาเตะอัดหน้าเวเวอร์ก่อนที่จะตะโกนออกมา “ไอเวรระยำเอ้ย! ดูผู้บริสุทธิ์ทุกคนที่ถูกแกฆ่าไปสิ แกคิดว่านี่คือเกมส์รึยังไง? นี่แกยังเอาแต่พูดเรื่องแพ้ชนะอยู่อีกหรอ? แกคิดจริงๆหรอว่าคำพูดเพียงไม่กี่คำจะช่วยให้แกหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้? ไร้เดียงสาจริงๆ! ข้าขอบอกให้รู้เอาไว้เลยนะ ในตอนที่แกเลือกเดินทางนี้, แกก็ทำผิดมหันต์แล้ว!”
จากนั้นโรมิลสันก็จ้องไปที่เวเวอร์ด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อยแล้วพูดออกมา “ไอหมอนี่มันบ้าจริงๆ พวกเราอาจจะต้องหาวิธีทำลายวิญญาณของมันนะ”
จากนั้นมิลด้าก็ส่ายหัวแล้วพูด “ใจเย็นโรมิลสัน อย่าให้ความกลัวครอบงำจิตใจของเจ้าสิ พวกเราไม่จำเป็นต้องวิจัยเวทมนตร์แห่งความมืดเพื่อทำลายวิญญาณของนักเวทย์ชั่วร้ายแค่คนเดียวหรอกนะ ชะตากรรมของมันได้ถูกกักขังตลอดไปแล้ว!” ในตอนนี้, ใบหน้าของมิลด้าซีดมากๆจนแทบจะหมดสติแล้ว ร่างกายของเธอก็อ่อนแอมากๆเช่นกัน ถ้าไม่ได้ความช่วยเหลือของโรมิลสัน, เธอคงไม่สามารถยืนได้ด้วยซ้ำ
เธอควบคุมวิญญาณต้นไม้สีทองสามตัวในระหว่างการต่อสู้และอยู่แนวหน้าของการต่อสู้ตลอดเวลา ถ้าไม่ใช่เพราะความช่วยเหลืออันมีค่าของเธอและเวทย์ป้องกันของโรมิลสัน, ลิงค์ก็คงจะไม่สามารถจดจ่ออยู่กับการต่อสู้กับเวเวอร์ได้
สรุปแล้วก็คือ, ความสำเร็จของภารกิจนี้นั้นส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะไฮเอลฟ์สองคนนี้เช่นกัน
ครั้งนี้, ลิงค์เองก็จ่ายไปเยอะเพื่อความสำเร็จนี้ เขาดื่มยาพรของราชินีมังกรแดงเข้าไป และในตอนนี้, ผลของยาก็หมดไปแล้ว, และตามสัญญา, เขาถูกสาปด้วยสถานะปฏิเสธธาตุ
เขาพยายามสร้างเวทย์ลูกแก้ว อย่างไรก็ตาม, ดูเหมือนว่าธาตุไฟจะไม่ยอมตอบสนองการเรียกของเขา, ทำให้เวทย์นี้ล้มเหลว ดูเหมือนว่าธาตุจะปฏิเสธเขาราวกับว่าเขาเป็นเชื้อโรค
หนึ่งปีเต็มสำหรับสถานะอันแสนยากลำบาก, ที่ทำให้เวทย์ธาตุทั้งหมดไร้ผล นี่ค่อนข้างจะนานนะ ดูเหมือนว่าฉันต้องทำการค้นคว้าเวทมนตร์ประเภทอื่นเพื่อชดเชยพลังหลักที่เสียไปแล้วหล่ะ ลิงค์ถอนหายใจ
พลังของเขาจะลดลงไปประมาณ 90% ในบรรดาเวทมนตร์อันแข็งแกร่งที่อยู่ในคลังแสงของเขา, เขามีแค่เวทย์มิติสองบทเท่านั้นที่สามารถใช้ได้
“ที่นี่ไม่ปลอดภัย มีอันเดธอยู่ทั่วทุกที่ แถมซัคคิวบัสตัวนั้นก็อาจจะยังอยู่ใกล้ๆด้วย รีบกลับกันเถอะ” ลิงค์พูด
ทุกคนพยักหน้า นอกจากนานะและโรมิลสัน, ทุกคนต่างก็เหนื่อยล้าอย่างเต็มที่ ความคิดเดียวที่อยู่ในหัวของพวกเขาก็คือการกลับไปยังที่ปลอดภัยที่ไหนซักที่นึงแล้วอาบน้ำให้สบายตัวจากนั้นก็นอนหลับให้เต็มอิ่ม
“แล้วจะเอายังไงกับเมืองผีหล่ะ?” โรมิลสันถาม
“เผามัน”
สิบนาทีต่อมา, ทั่วทั้งเมืองผีก็ถูกปกคลุมด้วยทะเลเพลิง จากนั้นลิงค์และพรรคพวกก็มุ่งหน้ากลับไปที่เรือเหาะ
หลังจากที่พวกเขาเดินทางไปได้ประมาณสามไมล์, พวกเขาก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์หมุนเหนือหัวพวกเขา ดูเหมือนว่าเรือเหาะจะพบตัวพวกเขาแล้วและมาต้อนรับพวกเขากลับไปยังสวรรค์ที่ปลอดภัย
ในตอนที่กำลังขึ้นเรือ, ทุกคนยังเงียบอยู่ พวกเขาเพิ่งจะได้เห็นนรกบนดินของแท้มาและต้องการเวลาอยู่คนเดียวสักพักเพื่อฟื้นสภาพจิตใจของตัวเอง
พวกยับบ้าเองก็พยายามลดเสียงของพวกเขาให้ได้มากที่สุด พวกเขามองลิงค์กับคนที่เหลือด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคารพ
จากนั้นนักบวชทั้งสองก็เริ่มรักษาบาดแผลและฟื้นฟูเรี่ยวแรงที่เสียไปของพวกเขา
ซึ่งลิงค์เองก็ถือโอกาสนี้เอารูปสลักของนักบวชราฟาเอลออกมา “ขอบคุณนะครับ, มันช่วยได้มากเลย”
นักบวชส่ายหัวของพวกเขาแล้วพูดออกมา “ท่านได้ทำเพื่อโลกฟิรุแมนมามาก นี่มันก็แค่เรื่องเล็กๆน้อยๆครับ”
ลิงค์แค่ยิ้มออกมาเขาไม่อยากพูดเรื่องนี้ต่ออีก “ผมขอตัวไปพักซักหน่อยนะ”
จากนั้นนักบวชก็ให้พื้นที่ส่วนตัวกับเขา
ไม่มีใครพูดอะไรเลยตลอดการเดินทางนี้ ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมา, เรือเหาะก็ได้กลับมาที่เทือกเขามอดไหม้ในที่รกร้างเฟิร์ด
ภารกิจลอบสังหารสำเร็จแล้ว ดังนั้น, จึงไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเก็บเรื่องเรือเหาะเอาไว้ให้เป็นความลับอีก เรือเหาะหยุดจอดที่ใจกลางเทือกเขามอดไหม้อย่างโจ่งแจ้งและดึงดูดสายตาของผู้คนมากมาย
ในบรรดาผู้คนที่มามึงดู มาสเตอร์เกรนซี่และมาสเตอร์เฟอร์ดินันด์ก็อยู่ในนั้นด้วย พวกเขาจ้องมองเรือเหาะด้วยสีหน้ากังวล ในตอนที่พวกเขาเห็นลิงค์และคนที่เหลือกลับมาได้โดยไร้รอยขีดขวด, ใบหน้าของพวกเขาก็เปี่ยมไปด้วยความสุข อย่างไรก็ตาม, ในตอนที่พวกเขาเห็นโจเซฟออกมาจากเรือเหาะพร้อมกับเวเวอร์ที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา, สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นจริงจังในทันที
มันถึงเวลาจัดการกับเนโครแมนเซอร์คนนี้แล้ว
หลังจากทักทายเหล่าจอมเวทย์, พวกเขาก็มุ่งหน้าไปที่หอคอยเวทมนตร์ แน่นอนว่าเผ่ายับบ้าเองก็ได้รับการบริการและการดูแลที่ดี ในฐานะลอร์ดของดินแดน, ลิงค์ได้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับทุกคนก่อนที่จะกลับไปพักที่ห้องของเขา
พอมาถึงห้อง, ลิงค์ก็ตระหนักได้ว่าเซลีนกำลังนอนรอเขาอยู่
“กลับมาแล้วหรอ” เซลีนถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วรีบเดินมาหา เธอมีสีหน้าโล่งอกและมีความสุขในขณะที่เธอพูด “นี่, ฉันเตรียมน้ำอุ่นๆให้นายอาบด้วยหล่ะ”
ลิงค์รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ห่างหายไปนานจากหัวใจของเขาและเข้าไปอาบน้ำด้วยการกวักมือเรียกของเซลีน
มันเป็นค่ำคืนอันแสนวิเศษ มันเริ่มด้วยเวลาอาบน้ำส่วนตัวของลิงค์ที่กลายเป็นกิจกรรมคู่รัก, และในที่สุดก็จบลงที่เตียงของลิงค์
ลิงค์ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นในวันนี้ เขาใช้เวลาอันมีค่ากับเซลีนและพักผ่อนให้มากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
เช้าวันต่อมา, ลิงค์รู้สึกสดชื่นมากในขณะที่เขาลืมตาตื่น, มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนไปแล้ว
เขานอนอยู่บนเตียงในขณะที่ลูบไล้ร่างกายอันอ่อนนุ่มของเซลีน จากนั้นเขาก็มองออกไปนอกหน้าต่างแล้วเห็นแสงอาทิตย์สีทองสาดส่องมายังทุ่งเขียวขจีของที่รกร้างเฟิร์ด หุ่นเชิดเวทมนตร์ขุดดินยังคงทำงานอย่างขยันขันแข็งในขณะที่พลเมืองต่างก็ทำงานเพาะปลูกหรือไม่ก็ทำงานก่อสร้าง และทางเดินอันกว้างขวางในเขตเมืองที่พลุกพล่านนั้นก็เต็มไปด้วยพ่อค้าจากทั่วทุกมุมโลก
ที่รกร้างเฟิร์ดกำลังคึกคัก
พอเห็นภาพนี้, เมฆแห่งความมืดก้อนสุดท้ายและความชอกช้ำที่อยู่ในหัวใจของลิงค์ก็ได้สลายไป
ด้วยความที่เซลีนยังไม่ตื่น, ลิงค์จึงค่อยๆเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ หลังจากอาบน้ำเสร็จ, เขาก็เพลิดเพลินกับอาหารเช้าแสนอร่อยแล้วตรงไปที่ห้องทำงานของเขา พลังธาตุของเขาถูกปิดผนึกไปชั่วคราว อย่างไรก็ตาม, สงครามทางตอนเหนือนั้นกำลังใกล้เข้ามาแล้ว; เขาต้องรีบหาวิธีฟื้นฟูพลังของเขา
เขาสั่งให้ระบบเกมส์อัญเชิญหนังสือเวทมนตร์ออกมา
ทันใดนั้นเอง, หนังสือเวทมนตร์ที่เขาได้รับมาจากภารกิจก็ปรากฎขึ้นในทัศนวิสัยของเขา หนังสือทุกเล่มนั้นเป็นสีแดงเข้ม ลิงค์ไม่ได้สนใจหนังสือพวกนี้มากนักในระหว่างที่เขากำลังทำภารกิจ อย่างไรก็ตาม, พอมาตรวจสอบดูดีๆในตอนนี้, เขาก็ตระหนักได้ว่าหนังสือแต่ละเล่มนั้นมีความเก่าแก่แล้วยังมีสัญลักษณ์รูนอันโดดเด่นเขียนอยู่ด้วย
โดยที่หนังสือเล่มแรกแก่นแท้แห่งเพลิงมีสัญลักษณ์รูปดวงตาที่มีไฟล้อมรอบอยู่ ส่วนเล่มที่สองไฟและการชำระล้างมีสัญลักษณ์รูปมือไฟ และเล่มที่สามผู้สังหารปีศาจมีสัญลักษณ์เป็นรูปดาบที่มีมังกรเพลิงพันอยู่
ตอนแรกลิงค์ตั้งใจจะอ่านหนังสือพวกนี้โดยตรงจากหน้าอินเตอร์เฟส อย่างไรก็ตาม, หลังจากที่คิดอยู่พักนึง, ห้องสมุดในหอคอยเวทมนตร์ของฉันยังไม่ค่อยมีอะไรเลย หนังสือที่ฉันมีในตอนนี้ต่างก็เป็นหนังสือทั่วๆไปที่สามารถหาซื้อได้จากท้องตลอด ฉันจำเป็นต้องมีหนังสือที่เป็นคอลเล็คชันส่วนตัวของฉันด้วย ใช่แล้ว, ฉันจะคัดลอกหนังสือพวกนี้
จากนั้นเขาก็เอากระดาษกับปากกาออกมาแล้วเริ่มเขียนโดยใช้เวทคัดลอกเพื่อคัดลอกข้อมูลลงบนกระดาษ ในตอนที่เขาเริ่มเล่มแรกนั้น, เขาคัดลอกไปและอ่านหนังสือไปด้วย ซึ่งเห็นได้ชัดว่า, มันเป็นงานง่ายๆสำหรับเขา
เขานั่งเหยียดขาบนโต๊ะอย่างสบายๆ กระดาษลอยอยู่เบื้องหน้าเขาในขณะที่ปากกากำลังเขียนด้วยความเร็วสูง, และปล่อยเสียง แกรก, แกรก ออกมา
อย่างไรก็ตาม, สภาพผ่อนคลายนี้ก็อยู่ได้แค่ประมาณห้านาทีเท่านั้น ห้านาที่ต่อมา, ลิงค์ก็หมกมุ่นอยู่กับหนังสือเล่มนี้อย่างสมบูรณ์ เขาเริ่มด้วยหนังสือเล่มแรก, แก่นแท้แห่งเพลิง ซึ่งมุมมองและเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้นั้นมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและเปิดโลกทัศน์มากๆ ตามชื่อที่มันเขียนเอาไว้, มันได้อธิบายถึงแก่นแท้ของเวทมนตร์ธาตุไฟอย่างแท้จริง!
“หืม, หนังสือเล่มนี้ไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับธาตุไฟเลยนะ ทั้งหมดมันคือสูตรกับทฤษฎี…อือหือ! นี่มันคือหลักการควบคุมเวทมนตร์ธาตุไฟนี่หน่า!”
ในตอนที่สูตรเวทมนตร์แรกอันซับซ้อนปรากฎขึ้น, ลิงค์ก็ตกตะลึง
ในตอนที่คนๆนึงใช้เวลามากพอในเวทมนตร์สาขาใดสาขาหนึ่ง, พวกเขาจะเข้าใจหลักการควบคุมเวทมนตร์นั้นในที่สุด ลิงค์ได้ทำการวิจัยเวทมนตร์มิติ, และหลังจากที่ผ่านไปหนึ่งปีครึ่ง, เขาก็เริ่มเข้าใจหลักการควบคุมพวกมันอย่างคร่าวๆ
หนังสือเวทมนตร์เล่มนี้, แก่นแท้แห่งเพลิง, เองก็เริ่มสรุปจากปรากฎการณ์ลุกไหม้ที่พื้นฐานมากๆ มันเริ่มด้วยพื้นฐานง่ายๆก่อนที่จะพัฒนาไปอย่างมีเหตุผล, แล้วมันก็ถลำลึกเข้าไปในแก่นแท้ของเวทมนตร์ธาตุไฟมากขึ้นเรื่อยๆ
ในจุดประสงค์ที่หนึ่ง-ห้า, มันก็ไปถึงระดับที่แทบจะทำความเข้าใจไม่ได้แล้ว ลิงค์ตระหนักได้ว่าเขาต้องใช้มันสมองทั้งหมดในการทำความเข้าใจเนื้อหา
“หนังสือเล่มนี้อาจจะสามารถช่วยฉันฝ่าฟันสภาพปฏิเสธธาตุนี้ไปได้ก็ได้นะ, ฉันต้องอ่านมันให้ละเอียดแล้วหล่ะ!” หลังจากนั้นลิงค์ก็นั่งตัวตรง เขาพิจารณาแล้วว่าหนังสือเล่มนี้คู่ควรกับความสนใจทั้งหมดของเขา
เขาเริ่มอ่านหนังสือเล่มนี้อย่างจริงจัง หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง, ลิงค์ก็ลืมเวลาไปอย่างสมบูรณ์และเขาก็เริ่มหมกมุ่นอยู่กับความรู้อันน่าอัศจรรย์ที่หนังสือเล่มนี้มอบให้อย่างคลั่งไคล้
สภาพนี้เป็นไปอีกสองสามวัน
อย่างไรก็ตาม, เขาก็ต้องใส่ใจความรู้สึกของเซลีนด้วย เขาไม่ได้โหมอ่านอย่างบ้าคลั่งเหมือนเมื่อก่อนและสัญญากับตัวเองว่าจะพักผ่อนอย่างน้อยแปดชั่วโมงต่อวัน, รวมทั้งใช้เวลาส่วนตัวกับเซลีนด้วย
วันเวลาที่สดใสและมีความสุขนี้ดำเนินไปตลอดห้าวันเต็ม
ในเย็นวันหนึ่ง, ลิงค์เพิ่งจะเริ่มอ่านหนังสือเวทมนตร์ในตอนที่เขาได้ยินเสียงดังมาจากข้างหลังของเขา จากนั้นแสงสลัวๆในห้องทำงานก็สว่างขึ้น เขาเงยหน้าขึ้นมาเห็นเซลีน, ที่เข้ามาเพิ่มความสว่างให้กับห้องของเขา
จากนั้นเซลีนก็พูด “ฉันรู้ว่านายจะหมกมุ่นอยู่กับการวิจัยของนายอีกครั้ง แต่ว่ามีคนมาหายนายหล่ะ”
“ใครหรอ?” ลิงค์รู้สึกสับสนเล็กน้อยและมีความกลัวแฝงอยู่ด้วย เขากลัวว่าจะเป็นข่าวร้ายจากทางเหนือ
“คนที่สวยจนน่าตกใจคนนึง” เซลีนแกล้ง
“คนสวยหรอ?” ลิงค์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาจะสบายใจตราบใดที่มันไม่ใช่ข่าวจากทางเหนือ อย่างไรก็ตาม, เขาเห็นคนสวยมาหลายคนแล้วในฟิรุแมน ไม่ว่าจะเป็นเซลีน, เอร์เรร่า, มิลด้า, เอเลนอร์, แอนนี่, และลูซี่ ซึ่งพวกเธอนั้นต่างก็ถูกพิจารณาว่าสวยทั้งหมด อย่างไรก็ตาม, นอกจากเซลีนแล้ว, พวกเธอทุกคนก็เป็นแค่เพื่อนเท่านั้น มันเป็นเวลาหนึ่งทุ่มแล้ว; ทำไมพวกเธอถึงมาหาเขาในเวลานี้หล่ะ?
จากนั้นเซลีนก็ถอนหายใจ “ดูเหมือนว่านายจะลืมเธอไปแล้วสินะ ถ้าเธอมาเห็นนายในสภาพนี้, เธอต้องเสียใจแน่ๆ”
ลิงค์เกาหัวก่อนที่จะจ้องไปที่หนังสือเวทมนตร์ที่อยู่เบื้องหน้าเขา เขาได้อ่านหนังสือเล่มนี้, แก่นแท้แห่งเพลิง, มาเป็นเวลานานแล้ว อย่างไรก็ตาม, มันน่าเบื่อมากๆ, แล้วเขาก็อ่านเนื้อหาไปได้แค่สามส่วนเท่านั้น ซึ่งมันคงจะไม่พอที่จะอ่านหนังสือเล่มนี้ให้จบภายในเวลาหนึ่งเดือน นอกจากนี้, มันยังเป็นแค่เล่มแรก; เขายังมีอีกสองเล่มที่ต้องอ่าน
แต่ไม่ว่ายังไง, เขาก็จะทุ่มเทแรงกายทั้งหมดกับการวิจัยนี้ ส่วนเรื่องอื่นๆนั้นเขาไม่สนใจ
เซลีนรู้ว่าลิงค์เป็นคนยังไงแล้วเชิญคนๆนั้นเข้ามาโดยไม่ขอคำอนุญาติจากเขา “เฟลิน่า, เข้ามาสิ”
พอได้ยินชื่อนี้, ลิงค์ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
เฟลิน่า, นักรบมังกรแดง พวกเขาเคยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันในป่าทมิฬ เขาจำได้ว่าเธอสัญญากับเขาว่าจะพาไปหมู่บ้านมังกรในเวลาหนึ่งเดือน แต่เมื่อคิดกลับไป, ตอนนี้มันก็เกินหนึ่งเดือนแล้ว
เฟลิน่าเข้ามาในห้อง เธอมาในรูปร่างของผู้หญิงเผ่ามนุษย์ แน่นอนว่า, เธอยังสูง 6.2 ฟุต มีร่องรอยของความเซื่องซึมอยู่บนหน้าของเธอด้วย
พอเห็นลิงค์, เธอก็พูดออกมา “ข้าขอโทษที่มาช้า พอดีมีปัญหาบางอย่างในหมู่บ้านมังกรหน่ะ มาสเตอร์ลิงค์, ถ้าท่านว่าง, ข้าอยากให้ท่านไปที่หมู่บ้านมังกรกับข้าเดี๋ยวนี้เลย”
ลิงค์ขมวดคิ้วในขณะที่พูด “เกิดอะไรขึ้น?”
“ข้าก็ไม่รู้ ข้ารู้แค่ว่าสมดุลในโลกฟิรุแมนถูกทำลายแล้ว ราชินีเชื่อว่าท่านมีความสามารถและคุณสมบัติพอที่จะแจ้งเรื่องนี้ได้ เธอเป็นคนที่ส่งข้ามารับท่าน”
นี่ฟังดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริงจังมากเลยนะ ลิงค์คิดอยู่พักนึงก่อนที่จะเก็บหนังสือสามเล่มที่เขาคัดลอกออกมาแล้วพูดขึ้น “ก็ได้, ฉันขอไปเตรียมตัวก่อน, แล้วพวกเราจะออกเดินทางกัน!”