Advent of the Archmage – ตอนที่ 291: คนที่คุ้นเคย

อันที่จริง เสียงฝีเท้านั้นนุ่มนวลมากๆ ถ้าไม่ใช่เพราะคำเตือนของนานะ ลิงค์ก็คงจะมองข้ามมันไปแล้ว

 

ตุบ ตุบ

 

เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ มันเคลื่อนที่ด้วยจังหวะปกติ และประมาณ 3 นาทีต่อมา เงาสีดำก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านนอกของถ้ำ

 

เงาดำนี้มีส่วนสูงประมาณ 5 ฟุต 7 นิ้วและมีรูปร่างธรรมดา เขานั้นว่องไวถึงแม้ว่าเขาจะดูเหมือนไม่ได้ผ่านการฝึกพิเศษอะไรมาเลยก็ตาม

 

มีกองหินก้อนใหญ่อยู่ด้านหน้าถ้ำ และมีเถาวัลย์มากมายแทรกอยู่ มันเป็นเส้นทางที่ข้ามยาก คนๆนี้ได้กระโดดข้ามหินทีละก้อนอย่างระมัดระวัง

 

ในระหว่างกระบวนการนี้ ร่างกายของเขาดูเหมือนว่าจะเบามากๆ ราวกับว่าเขาสามารถอัญเชิญสายลมออกมาในขณะที่กระโดดด้วยแรงเล็กน้อยได้ แล้วลิงค์ก็สามารถสัมผัสได้ถึงคลื่นเวทมนตร์อ่อนๆด้วย ซึ่งนี่ทำให้ลิงค์รู้ว่านั่นคือนักเวทย์ที่ใช้เวทย์ลอย

 

ในตอนนั้นเอง เฟลิน่าก็ตื่นขึ้นมาแล้วเช่นกัน เธอลุกขึ้นนั่งอย่างระมัดระวังหลังจากที่สังเกตอยู่ซักพัก เธอกระซิบ “นี่มันแปลกมาก เขาเป็นนักเวทย์เผ่ามนุษย์นี่ ทำไมเขาถึงมาปรากฏตัวที่นี่?”

 

ทุ่งสีทองนั้นเป็นดินแดนของมนุษย์สัตว์ พวกเขาไม่ค่อยเป็นมิตรกับมนุษย์เท่าไหร่ ยกเว้นนักธุรกิจบางคนที่มีเส้นสายกับพวกเขามาตั้งแต่สมัยก่อน พวกเขามีปัญหาในการเชื่อใจมนุษย์คนอื่น

 

ยิ่งไปกว่านั้น เทือกเขาโคโรราโด้นี้ก็เต็มไปด้วยพื้นดินแห้งแล้งและป่าที่อันตราย ผู้ที่มาเยี่ยมที่นี่จึงมีน้อยมากๆ

แม้กระทั่งพวกมนุษย์สัตว์เองก็ไม่ชอบที่จะเดินทางในพื้นที่แห้งแล้งนี้ ดังนั้นการปรากฏตัวของนักเวทย์เผ่ามนุษย์คนนี้จึงน่าตกตะลึงเป็นอย่างมาก

 

“เขากำลังเข้ามา พวกเราสามารถใช้โอกาสนี้สอบปากคำเขาได้” ลิงค์พูด “นานะ พอเขาเข้ามาให้จับตัวเอาไว้เลยนะ”

 

นานะพยักหน้าและเตรียมตัว

 

เงากำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ในระหว่างที่เขาเดิน เขาก็บ่นออกมา “ไอพวกมนุษย์สัตว์ซื่อบื้อ นี่พวกแกคิดจริงๆหรอว่าจะจับข้าได้ด้วยความคิดงี่เง่าแบบนั้นหน่ะ หึ”

 

“งานนี้ข้าจะต้องรวยแน่ๆ ฮี่ฮี่ สมบัติของพวกเอลฟ์นี่มันน่าตื่นเต้นจริงๆ”

 

“พวกเรากำลังจะรวยกันแล้ว ใช่มั้ย เจ้าตัวน้อย”

 

จี๊ด! มันเป็นเสียงร้องแหลมของหนูตัวเล็กๆ

 

ในตอนที่เขาใกล้เข้ามา ลิงค์ก็เห็นสัตว์ตัวเล็กๆอย่างชัดเจน มันดูคล้ายกับกระรอกมากๆ มันนอนอยู่บนไหล่ของเงาดำนั้น โดยที่มือนึงกำลังเกาหัวในขณะที่มืออีกข้างกำลังถือลูกโอ๊กอยู่ ดูเหมือนว่ามันกำลังมีสมาธิกับงานของมันเป็นอย่างมาก

 

“หึม, ถ้ำนี่หน่า ดูเหมือนว่าจะเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนนะ”

 

เงาดำยิ่งกระโดดด้วยแรงที่มากกว่าเดิม ด้วยความช่วยเหลือของเวทย์ลอยของเขา เขาก็เข้ามาในถ้ำสูง 12 ฟุตได้อย่างง่ายดาย ในตอนที่เขามาถึงพื้น เขาก็เห็นอะไรบางอย่างกำลังพุ่งตรงมาทางเขา จากนั้นมีดก็มาจ่อที่คอของเขาก่อนที่เขาจะรู้สึกตัวซะอีก เงาดำนั้นยกมือของเขาขึ้นในทันที สัตว์ตัวน้อยที่อยู่ที่ไหล่ของเขาเองก็ม้วนตัวด้วยความหวาดกลัวในทันทีก่อนที่จะมุดเข้าไปในเสื้อผ้าของเขา

 

“เข้าใจผิดแล้ว! นี่มันเป็นการเข้าใจผิดนะ! ข้าไม่รู้ว่ามีคนอยู่ที่นี่ ข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ โอเคไหม?” เสียงของเงาดำนั้นฟังดูเสียใจ

 

เขานั้นพึ่งจะภาคภูมิใจกับตัวเองที่หนีการไล่ล่าของมนุษย์สัตว์มาได้ แต่ในเวลาต่อมา เขาก็พาตัวเขามาสู่อันตรายอีกครั้ง เพราะยังไงซะ, คนที่ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำของดินแดนแห้งแล้งแบบนี้จะเป็นคนใจดีอย่างงั้นหรอ?

 

ครั้งนี้มันอาจจะเป็นจุดจบของเขาแล้วก็ได้

 

จากนั้นลิงค์ก็ใช้เวทย์แสงสว่างเพื่อทำให้ทั้งถ้ำสว่างขึ้น และที่น่าแปลกก็คือ ในตอนที่เวทย์แสงสว่างปรากฏขึ้น ม่านโปร่งแสงก็สามารถมองเห็นได้ที่ทางเข้าของถ้ำ

 

นี่คือม่านบิดเบือนมิติ มันจะสะท้อนแสงจากเวทย์แสงสว่างกลับเข้ามาข้างในถ้ำ ใครก็ตามที่เห็นถ้ำจากภายนอกจะมองไม่เห็นถึงความผิดปกตินี้

 

ลิงค์สามารถมองเห็นหน้าของคนๆนี้ได้อย่างชัดเจน เขานั้นตกใจในทันทีที่เห็นแล้วพูดออกมา “มอริแกนหรอ? ราชาแห่งการผจญภัย มอริแกนใช่ไหม?”

 

คนที่อยู่ด้านหน้าของเขานั้นมีผมสีน้ำเงินและร่างกายที่แข็งแรง เขามีใบหน้าที่หยาบกร้านแสดงให้เห็นถึงความผันผวนในชีวิตของเขา ลิงค์เคยเห็นเขาที่โรงแรมบลูเฮอมิทมาก่อน มอริแกนออกไปในตอนที่เขาเห็นเอเลนอร์ และบอกว่าเธออันตราย

 

ความรู้สึกไวต่ออันตรายของเขานั้นทำให้ลิงค์ประทับใจมากในตอนนั้น

 

มอริแกนนั้นสับสนมาก เขามองไปมาระหว่างลิงค์ เฟลิน่าและนานะด้วยสีหน้าที่สับสน

 

พวกเขาทั้ง 3 คนนั้นแปลกประหลาด

 

หนึ่งในนั้นคือนักเวทย์ที่มีดวงตาสีดำ ซึ่งดวงตาคู่นั้นของเขาเหมือนกับว่าสามารถมองเห็นได้ทุกอย่าง พวกมันมองทะลุเข้ามาที่ส่วนลึกในจิตใจของเขา เขานั้นสวมผ้าคลุมที่ปกคลุมด้วยออร่าสีแดงเข้ม มันเป็นผ้าคลุมคุณภาพสูงอย่างเห็นได้ชัด และเวทย์ที่เขาใช้ก่อนหน้านี้ก็แปลกเช่นกัน ในฐานะที่เขาเป็นนักเวทย์เหมือนกัน มอริแกนก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามันเป็นเวทย์ประเภทไหน

 

มีเด็กสาวน่ารักบริสุทธิ์อยู่ด้วย เธอนั้นดูเหมือนกับเด็กทั่วๆไป แต่ว่าเธอกลับมีพละกำลังมหาศาล และยังมีผู้หญิงผมแดงอีกคนนึง เธอมีรูปร่างเย้ายวนและตัวตนที่ยิ่งใหญ่ เธอนั้นสูงกว่าเขามากและมีไหล่ที่กว้างด้วย แถมเธอยังปล่อยออร่าน่ากลัวออกมาอีก

 

แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องแปลกมากๆที่ได้เห็นกลุ่มคนแปลกๆแบบนี้มารวมตัวกันในเวลากลางคืนในพื้นที่แห้งแล้งแบบนี้

 

“โปรดอภัยให้ข้าด้วย ท่านคือ?”  มอริแกนได้ออกผจญภัยมาตลอดในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เขานั้นจำไม่ได้เลยว่าเขาเคยเห็นเด็กหนุ่มผมดำคนนี้จากที่ไหน

 

“หน้าหนาวที่แล้ว เมืองฮอทสปริง โรงแรงบลูเฮอมิท มีผู้หญิงผมสีน้ำตาลคนนึง และคุณก็ออกไปทันทีที่เห็นเธอ ผมน่าจะตามคุณออกไปข้างนอกโรงแรมนะ ทีนี้คุณจำได้รึยังหล่ะ?” ลิงค์ให้คำใบ้กับมอริแกน

 

มอริแกนนึกฉากนั้นออกในทันทีและตบหัวของเขาในขณะที่พูด “ข้านึกออกแล้ว ท่านคือชายหนุ่มผมดำที่มาจากสถาบันเวทมนตร์อีสโควฟ!”

 

จากนั้นเขาก็สังเกตลิงค์อีกครั้งและดูเหมือนว่าจะนึกอะไรบางอย่างออกก่อนที่ดวงตาของเขาจะเบิกกว้าง จากนั้นเขาก็พูด “ท่านคือ…ลิงค์?”

 

เสื้อคลุมผู้รวบรวมเปลวเพลิงที่ลิงค์สวมนั้นเป็นชุดที่น่าจดจำ ฉายาผู้ปราบปีศาจของเขาได้แพร่กระจายไปทั่วโลกนักเวทย์ แม้กระทั่งนักเวทย์พเนจรอย่างมอริแกนก็ยังได้ยินถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของเขา  เขานั้นต้องใช้เวลาเพียงแค่เล็กน้อยในการนึกถึงคนที่น่าเคารพที่อยู่ตรงหน้าเขา

 

ลิงค์พยักหน้าเพื่อยืนยันตัวตนของเขา ในขณะที่เขาส่งสัญญาณบอกนานะให้เอามีดลง

 

จากนั้นมอริแกนก็ทำความเคารพลิงค์อย่างสุภาพก่อนที่จะพูดออกมา “ช่างเป็นเกียรติยิ่งนักที่ได้พบท่านอีกครั้ง”

 

จากนั้นเขาก็มองไปที่เฟลิน่าและทักทายเธอด้วยท่าทีเดียวกันก่อนที่จะพูดออกมา “ถ้าข้าจำไม่ผิด ท่านคือเฟลิน่า นักรบมังกรแดงใช่มั้ย?”

 

เฟลิน่าหยุดระวังตัวในตอนที่เธอรู้ว่าเขาเป็นคนรู้จักของลิงค์ เธอรู้สึกสงสัยหลังจากที่ได้ยินคำพูดของมอริแกนและพูดขึ้น “เจ้าเคยได้ยินชื่อของข้างั้นหรอ?”

 

“เมื่อ 1 เดือนที่แล้วข้าไปอยู่ทางเหนือมา ผู้คนมากมายได้บอกข้าเกี่ยวกับความสำเร็จของท่านที่แบล็คฟอเรสเกี่ยวกับอุปกรณ์ระดับพระเจ้า ยิ่งไปกว่านั้น ท่านก็เป็นคนในชนเผ่ามังกร ซึ่งมันถือว่าเป็นเรื่องหายากที่เผ่าพันธุ์ของท่านจะออกมาจากหุบเขา ผู้คนมากมายต่างก็พูดถึงท่านราวกับว่ามันเป็นตำนาน”

 

ลิงค์กับเฟลิน่ามองหน้ากัน พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนรู้เรื่องเหตุการณ์นั้นมากขนาดนี้

 

ลิงค์สงสัยในตัวมอริแกนมากๆว่าเขามาทำอะไรในที่แห้งแล้งนี้ ดังนั้นเขาจึงถามขึ้น “สถานที่แห่งนี้อยู่ไกลจากอาณาจักรนอร์ตันอย่างน้อย 10,000 ไมล์ ถ้านายอยู่ทางเหนือเมื่อเดือนที่แล้ว ทำไมนายถึงเดินทางมาจนถึงที่นี่หล่ะ?”

 

“555” มอริแกนหัวเราะอย่างภาคภูมิพร้อมกับถาม “ขอข้านั่งได้ไหม?”

 

“เอาสิ” ลิงค์ก็นั่งลงเช่นกัน

 

จากนั้นมอริแกนก็เอาเสื่อที่ทำมาจากหนังสัตว์ออกมาและนั่งขัดสมาธิลงไป จากนั้นเขาก็หัวเราะ “ข้าได้ยินมาว่าอุปกรณ์ระดับพระเจ้าปรากฏขึ้นทางตอนเหนือ ข้าก็เลยรีบหนีออกมาจากสถานที่อันตรายแบบนั้นโดยไม่ลังเล แล้วก็โชคดีที่ ข้าได้ข้อมูลเกี่ยวกับโบราณสถานของไฮเอลฟ์มา ดังนั้นข้าจึงเช่ากริฟฟินและบินมาจนถึงชายแดนของอาณาจักรนอร์ตัน ก่อนที่จะขี่ม้ามายังทุ่งหญ้าสีทองนี้ ช่างเป็นการผจญภัยที่ดีจริงๆ! ข้าใช้ความพยายามมาเยอะเลยนะกว่าจะมาถึงที่นี่ได้ อันที่จริง ตอนนี้ข้ากำลังหนีมนุษย์สัตว์กลุ่มใหญ่อยู่ด้วย”

 

เฟลิน่าจับคำที่น่าสนใจในประโยคของเขาได้คำนึงแล้วถาม “โบราณสถานไฮเอลฟ์หรอ? ในเทือกเขาโคโรราโด้เนี่ยนะ? ไม่ใช่ว่าไฮเอลฟ์อาศัยอยู่ที่เกาะรุ่งอรุณหรอ? เจ้ามั่นใจนะว่าข้อมูลนี้ถูกต้องหน่ะ?”

 

มอริแกนพยักหน้าด้วยความมั่นใจและพูดต่อ “ถูกต้องสิครับ! ในตอนแรกข้าก็ไม่เชื่อมันเหมือนกัน ดังนั้นข้าก็เลยเริ่มจากการตรวจสอบแหล่งที่มาของมันก่อน ข้าเชื่อว่าโบราณสถานนี้คือสุสานของขุนนางไฮเอลฟ์เมื่อ 300 ปีที่แล้วก่อนปีที่เกิดเหตุการณ์ภัยภิบัติมานาขึ้น ท่านน่าจะรู้นะว่าก่อนหน้าปีที่เกิดเหตุการณ์นั้น ไฮเอลฟ์เป็นลอร์ดที่ปกครองทั่วทั้งโลกแห่งฟิรุแมน และทุ่งหญ้าสีทองนี้ก็เป็นดินแดนที่ขุนนางไฮเอลฟ์อาศัยอยู่จริงๆ ดูนี่สิ”

 

มอริแกนนั้นไม่ได้ระวังลิงค์เลยแม้แต่นิดเดียว เขาเปิดเผยทุกอย่างที่เขารู้โดยไม่ได้ปกปิดอะไรเอาไว้ จากนั้นเขาก็กางคัมภีร์โบราณออกและพูด “นี่คือบางส่วนที่ข้าคัดลอกมาจากหนังสือโบราณ ดูสิ 2,600 ปีก่อน ทุ่งหญ้าสีทองถูกเรียกว่าลีเบลสลิน ในภาษาของไฮเอลฟ์มันแปลว่าดินแดนแห่งทอง ชื่อของลอร์ดคนแรกที่ปกครองที่นี่มีชื่อว่าลีเบลสลินัน และเป็นที่รู้จักกันในชื่อตระกูลทองคำด้วย โบราณสถานที่ว่านั้นคือหลุมศพของลอร์ดคนสุดท้ายของตระกูลลีเบลสลินัน แดริค ลีเบลสลินัน ท่านรู้รึเปล่า? ตระกูลทองคำนั้นรวยมากๆ โดยเฉพาะแดริค เขานั้นโด่งดังในเรื่องความขี้เหนียวและเก็บสมบัติมากมายไว้กับตัวในตอนที่ตาย มีทั้งหนังสือเวทมนตร์ที่หายสาบสูญไปนาน อุปกรณ์เวทมนตร์ทรงพลัง วัตถุดิบที่หายากมากๆและอื่นๆอีกมากมายในหลุมศพของเขา…”

 

ในตอนนั้น เฟลิน่าก็หน้าบึ้งและพูดออกมา “นี่เจ้ากำลังวางแผนปล้นหลุมศพอย่างงั้นหรอ?”

 

ชนเผ่ามังกรนั้นมีโบราณสถานและหลุมศพมากมายที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางวัฒนธรรม พวกเขาจึงเกลียดพวกโจรปล้นหลุมศพ โดยปกติแล้ว พวกเขามักจะจัดการพวกโจรด้วยการใช้ลมหายใจมังกรอันทรงพลังของพวกเขาก่อนที่พวกโจรจะไปแตะต้องส่วนสำคัญของประวัติศาสตร์ของพวกเขา ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่ามอริแกนนั้นรู้จักกับลิงค์ เฟลิน่าก็คงจะลงมือไปแล้ว!

 

เฟลิน่านั้นเป็นมิตรกับลิงค์แค่คนเดียวเพราะว่าลิงค์นั้นทำให้เธอรู้สึกเคารพผ่านความแข็งแกร่งของเขา จากประวัติศาสตร์ เผ่ามังกรนั้นจะไม่ใจดีกับชนเผ่าอื่นอย่างเด็ดขาด

 

จากนั้นเหงื่อก็ไหลลงมาที่หน้าผากของมอริแกน เขารู้ตัวแล้วว่าเขาตื่นเต้นมากเกินไป แม้ว่าการพูดเรื่องนี้กับลิงค์จะไม่เป็นอะไร แต่การพูดเรื่องพวกนี้กับคนจากชนเผ่ามังกรนั้นถือว่าเป็นเรื่องต้องห้าม เพราะพวกเขาจะโกรธมากๆ ซึ่งเขานั้นตื่นเต้นเกินไปและลืมเรื่องนี้ไปเลย!

 

หลังจากนั้นซักพัก มอริแกนก็พูดพึมพำ “จริงๆแล้ว ข้าวางแผนที่จะเข้าไปดูเพื่อเติมเต็มความสงสัยของข้าเท่านั้น ข้าไม่คิดจะเอาอะไรไปหรอก ข้าสัญญา”

 

“เจ้าคิดว่าข้าโง่งั้นหรอ? ใครกันห้ะที่พูดเรื่องรวยตอนที่อยู่นอกถ้ำ?” เฟลิน่ากรอกตาของเธอในขณะที่ยืดเส้นยืดสายไปด้วย

 

มอริแกนเหงื่อออกเต็มไปหมดและหันไปหาลิงค์เพื่อขอความช่วยเหลือ เขาขอร้อง “มาสเตอร์ ข้ายอมแพ้แล้ว ข้าจะไม่ไปที่นั่นแล้ว ได้โปรดปล่อยข้าไปเถอะนะ?”

 

เฟลิน่าเองก็จ้องลิงค์เช่นกัน “ลิงค์ ข้าเกลียดพวกโจรปล้นสุสานมากที่สุด คนพวกนี้ไม่ให้เกียรติกับบรรพบุรษของพวกเขาเลย พวกเขามีชีวิตอยู่เพื่อทำลายสถานที่ที่เต็มไปด้วยความสำคัญทางวัฒนธรรม!”

 

 

ลิงค์ไม่ได้ตอบเฟลิน่า เขารู้ว่านี่คือความเกลียดชังของชนเผ่ามังกรที่มีต่อโจรปล้นสุสานและเขาก็ไม่อยากจะไปยุ่งกับมัน แต่ก็แน่นอนว่า เขาไม่ต้องการให้มอริแกนถูกฆ่าเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “มอริแกน นายบอกว่านายกำลังหนีจากการไล่ล่าของมนุษย์สัตว์สินะ แต่ว่า มันไม่น่ามีมนุษย์สัตว์อยู่แถวนี้นะ…เฟลิน่า เธอไม่คิดว่ามันแปลกหรอ?”

 

มนุษย์สัตว์นั้นไม่ค่อยจะออกมาที่เทือกเขาโคโรราโด้ ตอนที่อยู่ในเกมก็เป็นแบบนี้เช่นกัน แต่มีเพียงข้อยกเว้นเดียว ซึ่งนั่นก็คือกรณีของอิเซนดิลัน มังกรตัวนั้นต้องการจะขยายอำนาจของเขาและได้จับมนุษย์สัตว์มากมายมาเป็นทาสในฐานะนักรบที่จะทำตามเป้าหมายของเขา

 

ลิงค์เบี่ยงเบนความสนใจของเฟลิน่าได้สำเร็จด้วยคำพูดพวกนี้ เธอปล่อยเรื่องเล็กๆอย่างโจรปล้นสมบัติไปในทันทีและขมวดคิ้วในตอนที่พูด “นี่มันแปลกจริงๆนั่นแหล่ะ โจรปล้นสุสาน บอกข้ามา มนุษย์สัตว์พวกนั้นมีหน้าตาเป็นยังไง?”

 

มอริแกนถอนหายใจ เขารู้ว่าลิงค์ได้ช่วยเขาจากสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว เขานั้นรู้สึกขอบคุณมากๆ เขาหยุดพูดถึงแผนการปล้นสุสานและรายงานอย่างซื่อสัตย์ “กลุ่มมนุษย์สัตว์พวกนี้แตกต่างจากมนุษย์สัตว์ทั่วๆไป ผิวหนังของมันมีสีเทา-ดำ และมีดวงตาสีแดงฉาน พวกมันตัวใหญ่กว่ามนุษย์สัตว์ธรรมดาๆด้วย และพวกมันก็รวดเร็วและดุร้ายมาก พวกมันไม่ฟังเหตุผลอะไรเลย และที่สำคัญก็คือ มันแตกต่างจากมนุษย์สัตว์ในทุ่งหญ้าสีทองโดยสิ้นเชิง อย่างน้อยพวกในทุ่งหญ้าสีทองก็ยังเป็นมิตรมากกว่าพวกมัน”

 

เฟลิน่าคิดอยู่พักนึงก่อนที่จะพูด “เหตุการณ์นี้น่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับอิเซนดิลัน ดูเหมือนว่าข้าจะต้องสืบหาความจริงกับเรื่องนี้แล้วหล่ะ ลิงค์…”

 

ลิงค์ตอบในทันที “ฉันจะช่วยด้วย แต่ว่า คนๆนี้สามารถหนีจากพวกมนุษย์สัตว์ได้ เขาน่าจะเป็นคนนำทางที่ดีได้นะ”

 

 

“ขอบคุณนะ” เฟลิน่าขอบคุณลิงค์ด้วยน้ำเสียงสุภาพ จากนั้นเธอก็หันไปหามอริแกนและจ้องเขาด้วยรังสีอาฆาตก่อนที่จะออกคำสั่ง “โจรปล้นสุสาน ถ้าเจ้าไม่อยากตายหล่ะก็ นำทางไปซะ!

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset