Advent of the Archmage – ตอนที่ 298: สมดุลที่เอนเอียง, สมดุลที่หายไป

โรมแรมมังกรราตรี

 

เอลินปิดผ้าม่านและเอาเทียนสีดำออกมา เธอจุดมันและแปลกมาก ไฟของมันมีสีฟ้าน่ากลัว และรอบๆเปลวไฟก็มีอักขระรูนลอยอยู่รอบๆเหมือนกับดวงดาว

 

“นี่คือเทียนนำวิญญาณที่ข้าเป็นคนสร้างขึ้นมา มันสามารถช่วยนำทางในภพวิญญาณได้” เอลินอธิบาย

 

ลิงค์สับสน “พวกเราจะไม่เอากายเนื้อเข้าไปในภพวิญญาณงั้นหรอ?” เขายังไม่เคยเอาแค่วิญญาณอย่างเดียวไปภพวิญญาณเลย ไม่แม้กระทั่งตอนที่อยู่ในเกม

 

เอลินส่ายหัวของเธอ “ไม่ ทำแบบนั้นมันหยาบเกินไป ถ้าเกิดเอากายเนื้อเข้าไปในภพวิญญาณด้วยมันจะมีผลข้างเคียงหลายอย่างและมันก็ลดประสิทธิภาพของพลังวิญญาณลงไปเยอะด้วย และที่สำคัญกว่านั้น ในภพวิญญาณสามารถหลงได้ง่ายมากและอาจจะไม่สามารถกลับออกมาได้อีกเลย”

 

ในระหว่างที่เอลินพูด เธอก็เดินมาหาลิงค์และจับหัวของเขา “เอาหล่ะ” เธอพูดอย่างอ่อนโยน “มองไปที่เทียนสิ ใช่ แบบนั้นแหละ อย่าคิดถึงเรื่องอื่น ตอนนี้พวกเราปลอดภัยอยู่ และนานะจะเป็นคนปกป้องพวกเราเอง…ไป!”

 

หลังจากคำพูดนั้น ลิงค์ก็รู้สึกว่าหัวของเขาเริ่มเบลอๆ ทัศนวิสัยของเขาก็เบลอเช่นกัน และเมื่อมันกลับมาชัดเจนอีกครั้ง เขาก็พบว่าเทียนนำวิญญาณได้หายไปแล้ว มันถูกแทนที่ด้วยแสงสลัวๆอันอบอุ่นแทน

 

ภาพภายในแสงนั้นแปลกมากๆ ลิงค์เห็นตัวของเขาเอง

 

 

เขาเห็นตัวเองนั่งอยู่นิ่งๆบนเก้าอี้ที่อยู่หน้าโต๊ะ จ้องไปที่อะไรบางอย่างโดยไม่กระพริบตา เอลินยืนอยู่ข้างเขา ใบหน้าของเธอก็ไม่ขยับไปไหนเหมือนกัน เธอจ้องมาทางเดียวกับลิงค์ตาไม่กระพริบ

 

เสียงอันสดใสดังขึ้นข้างๆเขา-นั่นคือเอลิน “นั่นคือร่างกายของพวกเรา มิติที่อยู่ภายใต้แสงของเทียนนำวิญญาณนั้นทำให้เกิดสภาวะมิติทับซ้อนกัน และนี่เองก็เป็นจุดยึดเหนี่ยวที่พวกเราใช้ในการสำรวจภพวิญญาณ ไม่ว่าพวกเราจะเดินทางไปที่ไหนในภพวิญญาณ หรือมีอะไรเกิดขึ้น พวกเราก็สามารถกลับมาที่จุดยึดเหนี่ยวนี้ได้ในทันทีและกลับไปที่ภพกายภาพ”

 

“นี่มันเหมือนกำลังฝันอยู่เลย” ลิงค์มองลงมาที่ตัวเอง ร่างกายเขายังคงอยู่ที่นี่ แต่มันรู้สึกไม่ชัดเจน แขนขาของเขาดูโปร่งแสงเล็กน้อยและไม่สมจริงเอาซะเลย เมื่อมองไปที่เอลิน เขาก็เห็นว่าตัวเธอนั้นกึ่งโปร่งแสงเช่นกันและโปร่งแสงยิ่งกว่าเขาซะอีก เขานั้นแทบจะไม่เห็นเธอเลย

 

นี่อาจจะเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ร่างกายได้หลุดไปยังโลกอื่น

 

เอลินศึกษาลิงค์อย่างระมัดระวังและชื่นชม “ลิงค์ วิญญาณของเจ้าแข็งแกร่งมากๆ มันน่าจะแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นมาเลยหล่ะ เจ้าพูดถูก มันเหมือนกับกำลังฝัน มันเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดในการเข้ามายังภพวิญญาณ โอเค ตามข้ามาดีๆนะ”

 

เธอเดินไปที่ประตู และลิงค์ก็เดินตามเธอไป

 

ในภพวิญญาณ พวกเขาเองก็อยู่ในโรงแรมมังกรราตรี แต่ว่าทุกอย่างนั้นได้กลายเป็นสีขาว-ดำ มันเงียบมากเช่นกัน และนั่นก็คือจุดที่น่ากลัว

 

ที่ประตู เอลินเดินตรงเข้าไปที่ประตูแทนที่จะเปิดมัน ลิงค์ทำตามเธอ เขาเดินไปโดนไม่สนใจประตู หลังจากที่เดินทะลุมันก็มีเสียงฟุบเบาๆ จากนั้นมันก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่ามีบางอย่างผ่านร่างกายของเขาไป และเมื่อมองกลับไป เขาก็มาอยู่ด้านนอกของประตูแล้ว

 

“การทะลุประตูนั้นคือเวทมนตร์พื้นฐาน วิญญาณสามารถเดินผ่านทุกสิ่งที่ไม่มีชีวิตได้ แต่ก็แน่นอนว่า ต้องทำมันเฉพาะตอนที่เจ้ามั่นใจว่าด้านหลังของมันจะไม่มีอะไรนะ” เอลินโบกมือให้ลิงค์จากด้านหน้า “ตามข้ามาดีๆอย่ามัวแต่ลังเลหล่ะ เทียนนำวิญญาณสามารถอยู่ได้แค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น พวกเราจะต้องทำการสำรวจวิหารมังกรให้เสร็จภายในเวลาที่ว่านี้”

 

“โอเค” ลิงค์ตามเอลินไปติดๆ

 

ทั้งสองคนออกจากโรงแรมอย่างรวดเร็ว ที่ด้านนอก ลิงค์มองไปบนท้องฟ้าและพบว่ามันมีสีเทา หมอกได้บดบังทัศนวิสัยของเขาในระยะใกล้  บางครั้ง ก็มีเงาสีเทา-ขาวเดินผ่าน พวกมันมีลักษณะเหมือนกับหมอก เดินวนไปมาอย่างไร้จุดหมายในหมู่บ้านห้วยไม้

 

“นี่คือวิญญาณของพวกที่ไม่เชื่อในพระเจ้าของหมู่บ้านห้วยไม้” เอลินอธิบาย “พวกเขาไม่มีความเชื่อใดๆเลยในชีวิต ดังนั้นหลังจากที่ตายแล้ว พวกเขาจึงไม่มีเทพองค์ไหนมานำทางให้เลย พวกเขาเพียงแค่ทำตามสัญชาติญาณและกลับมาวนเวียนอยู่ในที่ๆพวกเขาเคยอาศัยอยู่ โดยปกติแล้วพวกเขาจะหายไปเมื่อผ่านไปปีนึงหรือนานกว่านั้น”

 

วิญญาณนั้นไม่ตาย มันเหมือนกับบอลเพลิง พวกมันจะดับลงในซักวันหนึ่ง เมื่อคุณเป็นฟืน ไฟจะดับลงภายในชั่วพริบตา แต่ถ้าเกิดว่าคุณจุดไฟศักดิ์สิทธิ์ได้ คุณก็จะกลายเป็นเหมือนกับดวงอาทิตย์ เมื่อเปรียบเทียบกับคนทั่วไปที่มีชีวิตอยู่ชั่วคราว คุณนั้นจะสามารถมีตัวตนอยู่ได้ตลอดไป

 

ลิงค์ศึกษามาดี ดังนั้นเขาจึงมีความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับมัน เขานั้นไม่ได้ตกใจมาก

 

เอลินเดินทางไปตามถนนที่นำทางไปยังวิหารมังกร เธอนั้นเร็วมากๆ แทบจะเรียกว่าบินได้เลย เธอเดินทาง 30 ฟุตได้ในชั่วพริบตา ลิงค์เองก็เร็วเหมือนกัน ดังนั้นเขาจึงสามารถไล่ตามเธอได้อย่างง่ายดาย

 

เอลินถอนหายใจ “มีหมอกเต็มไปหมด มองทางแทบไม่เห็นเลย ไม่อย่างนั้น พวกเราคงจะใช้ความคิดเทเลพอร์ทไปที่วิหารมังกรได้แล้ว” วิญญาณนั้นไม่มีน้ำหนัก และร่างกายของพวกเขาก็จะไปอยู่ในที่ๆพวกเขาคิด ยังไงก็ตาม พวกเขาไม่รู้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในหมอก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าที่จะเสี่ยง

 

ในระหว่างที่พวกเขาพูด พวกเขาก็ได้มาถึงทางเดินบนเขาที่อยู่ด้านนอกหมู่บ้านห้วยไม้แล้ว “หมอกพวกนี้คืออะไรกันแน่นะ?” ลิงค์ถามด้วยความสงสัย “ฉันเคยเข้าภพวิญญาณมาก่อนตอนที่อยู่ทางเหนือ มันเป็นทุ่งน้ำแข็ง และทิวทัศน์ก็สวยงามมาก แต่พอฉันเข้าไปในป่า หมอกก็เข้ามา และที่นั่นก็มีหมอกหนากว่าที่นี่อีก”

 

เอลินไม่ได้หวงความรู้เลย “หมอกพวกนี้เกิดจากวิญญาณที่แหลกสลาย นอกเหนือจากวิญญาณของสิ่งมีชีวิตระดับสูงแล้ว พวกมันยังมีวิญญาณของพืชหรือสัตว์ที่ตายแล้วด้วย  พวกมันอ่อนแอมากและแหลกสลายในทันทีที่ตาย มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ในป่ามากมาย และวิญญาณจำนวนมากก็มารวมตัวกันกลายเป็นหมอก”

 

ที่สองข้างทางของทางเดินบนเขานั้นมีป่าอยู่ ในตอนที่พวกเขาทั้งสองออกมาจากหมู่บ้านห้วยไม้ หมอกก็หนาขึ้น เอลินเองก็เดินทางช้าลงเช่นกัน

 

“ในภพวิญญาณ ป่านั้นคือที่ๆอันตรายที่สุด ไม่มีใครรู้เลยว่ามีอะไรซ่อนอยู่หลังหมอกสีขาว…หยุดก่อน! ตามข้ามา!” อยู่ๆน้ำเสียงของเธอก็มีความกังวลขึ้น

 

ร่างกายเล็กๆของเธอส่องแสงและไปหลบอยู่หลังต้นไม้ที่ข้างถนน ลิงค์เองก็ตามเธอไปและพบว่าต้นไม้นั้นมีความแข็ง มันน่าจะเป็นเพราะว่ามันยังมีชีวิตอยู่และมีวิญญาณ

 

หลังจากซ่อนตัวอยู่ไม่ถึงนาที เงายักษ์ที่ส่องแสงสีแดงเพลิงก็เดินมาจากหัวมุมข้างหน้า มันยากที่จะมองผ่านหมอก แต่พอมันเข้ามาใกล้ ลิงค์ก็เห็นว่ามันคือวิญญาณของมังกร

 

วิญญาณของมังกรนั้นมีความสูง 22 ฟุตและยาว 50 ฟุต  มันโปร่งแสงอย่างสมบูรณ์เหมือนกับคริสตัล และมีแสงไฟพุ่งออกมาจากมันเป็นระยะ 3 ฟุต มันน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก

 

เขาเดินลงมาตามเส้นทางบนเขาราวกับว่ากำลังลาดตระเวนอยู่ พอเขาเดินไปไกลแล้ว เอลินก็กระซิบ “นั่นคือการ์ดวิญญาณมังกร เขาทำหน้าที่คอยสอดส่องดูเพื่อทำให้มั่นใจว่าจะไม่มีใครแอบเดินทางผ่านภพวิญญาณ เขาทรงพลังมากๆ ถ้าเกิดว่าเจ้าไม่ได้รับการฝึกพิเศษมา ต่อให้เป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ก็สู้กับเขาไม่ได้ บนเส้นทางนี้มียาม 3 คน พวกเราจะต้องคอยหลบพวกเขา”

 

“เข้าใจแล้ว” ลิงค์พยักหน้า จากการกระทำเมื่อก่อนหน้านี้ ลิงค์สามารถรู้สึกได้ว่าวิญญาณของเขานั้นมีตัวตนมากกว่าแต่ว่าอ่อนแอกว่า

 

ถ้าให้พูดเชิงอุปมาอุปมัย วิญญาณของเขาก็คือก้อนเหล็กหยาบๆหนัก 2 ปอนด์ในขณะที่ของอีกฝ่ายนั้นคือหินแกรนิตหนัก 1 ตันที่ถูกเจียระไนมาอย่างดี เขานั้นเทียบไม่ติดเลย

 

พอยามเลี้ยวตรงหัวโค้งไป เอลินก็ออกมาจากหลังต้นไม้และเดินทางต่อ วิหารมังกรนั้นอยู่สูงมากๆ และระหว่างทางก็มีลมแรง เอลินกับลิงค์เดินไปนานกว่า 10 นาทีและหลบจากยามวิญญาณมังกรอีก 2 คนก่อนที่วิหารมังกรจะปรากฏขึ้นในที่สุด

 

จากมุมมองของวิญญาณ วิหารมังกรนั้นดูสว่างไสวมาก

 

หมอกรอบๆวิหารได้กระจายออกไป  วังมังกรนั้นถูกปกคลุมด้วยชั้นของแสงสีแดงหนา และที่ใจกลางของมัน ก็มีลำแสงสีแดงพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า จากระยะไกลๆ มันให้ความรู้สึกถึงพลังที่ยิ่งใหญ่

 

มันเหมือนกับภาพของอาณาจักรแห่งเทพ

 

มีกลุ่มการ์ดมังกรอยู่ในบริเวณรอบๆเช่นกัน พวกเขาไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับการ์ดวิญญาณมังกรที่เจอก่อนหน้านี้ แต่พวกเขาก็ไม่ควรถูกมองข้าม และพวกเขาก็มีจำนวนมากด้วย

 

เอลินไม่กล้าเข้าใกล้ เธอซ่อนตัวอยู่ที่มุมและแอบมองพวกเขา ลิงค์เองก็แอบมองเช่นกัน แต่เขานั้นสับสนด้วย “ทุกอย่างก็ดูปกติดีนี่”

 

ที่นี่ เขาสัมผัสได้แค่พลังอันน่าหวาดกลัวและไร้ขีดจำกัดของเผ่ามังกรแดง เขาก็ไม่สามารถสัมผัสถึงอย่างอื่นได้เลย

 

เอลินส่ายหน้า “มันก็แค่ภายนอกเท่านั้นแหล่ะ ตามข้ามา”

 

เธอนำทางไปในขณะที่พยายามอยู่ให้ห่างจากวิหารอันงดงาม ระหว่างทางพวกเขาต้องไปในเส้นทางที่คับแคบและยากลำบากยิ่งกว่าเดิม แต่สำหรับวิญญาณแล้วมันไม่มีปัญหา หลังจากเดินไปเป็นครึ่งวงกลม พวกเขาก็มาถึงด้านหลังของวิหารมังกร

 

ที่นี่ มีบางอย่างเปลี่ยนไป แสงอันสง่างามที่อยู่ด้านหน้าวิหารมังกรได้หายไป กลับกันมันมีจัตุรัสกว้าง มันถูกปกคลุมด้วยแสงสีแดงเหมือนกัน แต่ว่าที่ด้านบนของจตุรัสนั้นมีบอลแห่งความมืดลูกใหญ่ลอยอยู่

 

บอลแห่งความมืดนั้นมีความกว้างมากกว่า 30 ฟุต และที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือการที่มีมังกรแดงตัวใหญ่มากๆอยู่ข้างล่างนั่น ซึ่งมันก็น่าจะเป็นวิญญาณเช่นกัน แต่ว่าร่างกายของเธอนั้นเกือบจะเป็นของแข็งจริงๆ และหนาแน่นยิ่งกว่าของลิงค์ มันแทบจะเหมือนกับที่ภพกายภาพเลย

 

มังกรตัวนั้นนอนเหยียดอยู่ที่จัตุรัส เธอมีความสูง 50 ฟุตและความยาว 200 ฟุต เปลวไฟสีแดงที่เธอพ่นออกมานั้นมีความยาวมากกว่า 10 ฟุต

 

เมื่อเอาเธอมาเปรียบเทียบแล้ว ยามวิญญาณมังกรนั้นดูกระจอกไปเลย ยังไงก็ตาม พลังของบอลแห่งความมืดก็ดูเลวร้ายมากๆ ด้วยแรงกดดันของแสงจากลูกบอล วิญญาณมังกรทำได้แค่นอนอยู่ตรงนั้นขยับไปไหนไม่ได้ ทั้งๆที่เปลวเพลิงของเธอยังคงลุกโชนอยู่, แต่ว่าออร่าแห่งความมืดก็ยังคงกดดันลงมา ค่อยๆปนเปื้อนร่างกายของเธออย่างช้าๆ

 

“นั่นใครกัน?” ลิงค์ตกใจ “หรือว่าจะเป็น…”

 

“เจ้าคิดถูกแล้ว นี่คือราชินีมังกรแดงเกรเทล ลูกบอลแห่งความมืดน่าจะเป็นอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับตำนานของมังกร-เวิธแดม มีความหมายว่าสมดุลเท่าเทียม”

 

 

“สมดุลเท่าเทียมหรอ?” ลิงค์อุทาน “มันคือสมดุลของแสงสว่างและความมืดใช่ไหม? แต่ว่าตอนนี้มันเป็นสีดำสนิทเลยนะ”

 

อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ของมังกรเวิธแดมนั้นเป็นอุปกรณ์เวทมนตร์ที่พิเศษมากๆ มันจะสะท้อนสมดุลของโลกที่มังกรแดงจะปกป้อง ด้วยการใช้เวิธแดม มังกรจะสามารถตามหาสถานที่ที่เกิดความแตกแยกในโลกแห่งฟิรุแมนและตามไปแก้ไขได้ จากมุมมองนี้ อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์นั้นมีพลังอันน่าเหลือเชื่อ

 

แต่ตอนนี้สมดุลเท่าเทียมกันนั้น ไม่เท่ากันอีกต่อไปแล้ว มันเอนไปทางความมืดอย่างสมบูรณ์ และนั่นก็คือข่าวร้าย

 

เอลินถอนหายใจ “ใช่ มันคือสมดุลระหว่างแสงสว่างและความมืด แต่ตอนนี้ มีใครบางคนควบคุมมันและตอนนี้มันก็ไม่เท่ากันอีกต่อไปแล้ว มันได้กลายเป็นสมดุลแห่งความมืด”

 

นี่เป็นข่าวร้ายอย่างแท้จริง

 

ลิงค์เห็นมังกรที่ทรงพลังมากๆยืนอยู่ข้างราชินีมังกรแดง คอยให้พลังเธอด้วยทุกอย่างที่มี ยังไงก็ตาม มันก็ช่วยได้แค่ทำให้เธอถูกความมืดครอบงำช้าลงเท่านั้น

 

เมื่อเจอกับพลังของอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่ราชินีมังกรแดงในตำนานก็ไร้พลัง

 

ซึ่งตรงนี้แหละที่เป็นปัญหา พวกเขานั้นมีเลเวลแค่เริ่มต้นของเลเวล 8 และเลเวล 7 แล้วพวกเขาจะไปสู้กับพลังที่มหาศาลแบบนี้ได้ยังไงกัน?

 

“ฉันคิดว่าพวกเราทำอะไรไม่ได้หรอก” ลิงค์พูดเบาๆ

 

เอลินเองก็โกรธเช่นกัน “ใช่ แต่ถ้าพวกเราไม่หาวิธีแก้ หุบเขามังกรแห่งนี้ก็จะจบสิ้นหลังจากที่ราชินีมังกรตกสู่ด้านมืด และพวกเราเองก็จะจบสิ้นเหมือนกัน”

 

ปัญหาในตอนนี้นั้นไม่ได้อยู่ที่ว่าพวกเขาควรจะเข้าไปเกี่ยวข้องดีไหมแต่คือพวกเขาจะเอาตัวรอดยังไงต่างหาก! ลิงค์เองก็จนปัญญา แต่ในตอนที่เขากำลังหัวร้อน ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากในใจของเขา

 

ตรวจจับได้ถึงความหนาแน่นจำนวนมากที่เพิ่มขึ้นจากบริเวณรอบๆ เร่งการดูดซับพลัง…เตรียมพร้อมบันทึกแต้มโอมนิ เริ่มให้รางวัลที่ค้างไว้ในอดีต

 

ภารกิจระดับอีพิคเปิดใช้งาน: หุบเขามังกรแดง

ภารกิจแรก: ผู้ร้าย

รายละเอียดภารกิจ: ตามหาตัวคนร้ายที่ทำให้อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์เวิธแดมเสียหาย

รางวัลภารกิจ:100 แต้มโอมนิ

 

ลิงค์ยอมรับมันในทันที จากนั้นคลื่นความร้อนก็ไหลเข้ามาในตัวเขา มันคือแต้มโอมนิจำนวนมาก เขาตรวจสอบมันและพบว่าตอนนี้เขามีทั้งหมด 560 แต้มแล้ว

 

รางวัลจากภารกิจที่แบล็คฟอเรสและการค้นพบเวทย์สูงสุดจากทุกๆวันของเขาได้ถูกส่งมอบ นี่มันเป็นผู้ช่วยชีวิตของเขาอย่างแท้จริง!

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset