Advent of the Archmage – ตอนที่ 337: ชนเผ่ายับบ้าที่กำลังถูกสังหารหมู่

ในตอนแรก ลิงค์ไม่ได้สนใจพวกเผ่ายับบ้าเพราะว่าป้อมโอริด้ากำลังตกอยู่ในอันตราย ยังไงก็ตาม เขานั้นรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ

 

เขารู้สึกว่าการที่ไอมอนส์ปกปิดข้อมูลจากป่าทมิฬนั้นไม่ใช่แค่เพราะจะเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีครั้งสุดท้ายเท่านั้น บางทีไอมอนส์อาจจะใช้ประโยชน์จากการที่มนุษย์กลัวอุปกรณ์ระดับพระเจ้าในการแอบโจมตีเมืองยับบ้าอย่างลับๆก็ได้

 

ถ้าเกิดว่าพวกดาร์กเอลฟ์ได้ปืนเวทมนตร์อันทรงพลังและเรือเหาะมาในศึกสุดท้ายหล่ะก็ มันคงจะกลายเป็นหายนะของป้อมโอริด้าและอาณาจักรนอร์ตันทั้งหมด!

 

ซึ่งความกังวลนี้ก็ทำให้ลิงค์อยากรู้สถานการณ์ปัจจุบันของเผ่ายับบ้า

 

เขารออย่างอดทนอยู่ในป่าเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง และในที่สุดปีศาจปีกโหยหวนก็จากไป พวกมันไม่ได้ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือที่มีป่าทมิฬอยู่แต่ว่าพวกมันกลับไปทางตะวันตกเฉียงเหนือแทน

 

นี่หมายความว่าพวกมันอาจจะมีภารกิจอื่นอีก ซึ่งมันก็ยิ่งเพิ่มความกังวลของลิงค์

 

“ไปดูกันเถอะ”เขากระซิบ

 

สคินอร์สเป็นคนเดินนำ ส่วนลิงค์ก็เป็นคนตาม ทั้งสองใช้ต้นไม้ในป่าเป็นที่กำบังและแอบย่องผ่านเรือเหาะที่กำลังไหม้อยู่ไป ไฟนั้นได้เบาลงมามากแล้ว และพวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกถึงความร้อนจากมันอีก

 

 

พอเดินไปที่ศพของชาวยับบ้า สคินอร์สก็เริ่มตรวจสอบอย่างระมัดระวัง “ยับบ้าผู้ชายคนนี้สวมชุดนายช่าง เขาน่าจะเป็นวิศกรนะครับ มีเครื่องหมายรูปปีกสีน้ำเงินกับฟันเฟืองอยู่ด้วย ท่านครับ ท่านรู้รึเปล่าว่ามันคืออะไร?”

 

ลิงค์คิดกลับไปถึงสมัยที่เขาเล่นเกมและได้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาอย่างรวดเร็ว “สัญลักษณ์ปีกและฟันเฟืองนั้นน่าจะเป็นสัญลักษณ์ของเมืองบนท้องฟ้า, พอลโล เมืองพอลโลนั้นเป็นหนึ่งในเมืองสำคัญของเผ่ายับบ้า พวกเขาเชี่ยวชาญในการสร้างเรือเหาะ…สถานการณ์ในตอนนี้ดูท่าจะไม่ดีแล้วนะ ตามหาเบาะแสต่อไปกันเถอะ พวกเราจะต้องรู้ให้ได้ว่าพวกมันคิดจะทำอะไร”

 

สคินอร์สพยักหน้า เขาเดินวนรอบเรือเหาะเพื่อตรวจสอบศพทั้งหมด

 

มีศพของปีศาจมากมายกองอยู่ที่พื้น แต่นอกจากเกราะแข็งๆที่ปีศาจสวมอยู่แล้ว พวกเขาก็ไม่พบร่องรอยอย่างอื่นเลย ดังนั้นสคินอร์สกับลิงค์จึงไม่สามารถหาข้อมูลอื่นได้นอกจากระบุว่าพวกมันเป็นปีศาจประเภทไหน มีดาร์กเอลฟฟ์อยู่ประมาณ 7-8 คน พวกเขาทุกคนมีสัญลักษณ์อยู่บนเสื้อเกราะ มันเป็นรูปดอกชมจันทร์ที่พันรอบดาบเปื้อนเลือด

 

“ไอพวกนี้คือทหารอากาศระดับสูงของดาร์กเอลฟ์, ปีกแห่งแสงจันทร์ ทำไมพวกมันถึงมาอยู่ที่นี่?” เสียงของสคินอร์สเต็มไปด้วยความตกใจ และความกังวลบนหน้าของเขาก็เพิ่มมากขึ้น เห็นได้ชัดเจนว่าเขากำลังคิดถึงอะไรบางอย่าง

 

หลังจากที่ตรวจสอบอยู่พักใหญ่ๆ ในที่สุดเขาก็ตะโกนออกมา “ท่านครับ, ดูนี่สิยับบ้าผู้ชายคนนี้มีจดหมายลับซ่อนอยู่ด้วย”

 

จดหมายนั้นซ่อนอยู่ลึกภายในเสื้อชั้นในของศพ ก่อนหน้านี้พวกปีศาจได้ค้นตัวของเขาไปแล้วแต่ก็หามันไม่พบ

 

ซึ่งนี่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของสคินอร์ส ความหลักแหลมของเขานั้นเหมือนกับสัญชาติญาณ และเขาก็สามารถหาเบาะแสที่สำคัญได้อย่างง่ายดาย

 

เขายื่นจดหมายให้ลิงค์ มันมีสัญลักษณ์เหมือนกับเมืองที่อยู่บนท้องฟ้า แต่ว่ามันไม่มีตราผนึกเวทมนตร์ ดังนั้นมันจึงไม่มีออร่าเวทมนตร์อยู่ เขาเปิดซองจดหมายดู แต่ว่ามันว่างเปล่า ไม่มีอะไรอยู่ข้างในนั้นเลย

 

“จดหมายเปล่างั้นหรอ? ทำไมเขาถึงต้องซ่อนมันไว้ลึกขนาดนี้ด้วยล่ะ?” สคินอร์สกำลังดูมันอยู่ และเขาก็รู้สึกว่ามันแปลกๆ

 

“มันไม่ได้ว่างเปล่าหรอก” ลิงค์ส่ายหัว นักเวทย์สายเสริมพลังทุกคนนั้นมีสัญชาตญาณที่อ่อนไหวต่อองค์ประกอบของวัตถุดิบ ลิงค์เองก็เช่นกัน ในตอนที่เขาได้รับจดหมายมา เขาก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่

 

“ตรวจสอบองค์ประกอบ” ลิงค์ร่ายเวทย์เสริมพลังเลเวล 1

 

กิ๊ง บอลแสงจางๆปรากฏขึ้นบนอากาศและพุ่งเข้าไปในจดหมาย  จากนั้นสิ่งแปลกๆก็เกิดขึ้น

 

ในกระดาษเปล่านั้นมีตัวอักษรอยู่จริงๆ ด้วยความที่มีวัตถุดิบแตกต่างกัน, มันจึงดูดซับผงตรวจสอบธาตุที่แตกต่างกันเช่นกัน และตัวอักษรก็ปรากฏขึ้นมาในทันที

 

จดหมายนี้ถูกเขียนด้วยภาษายับบ้า สคินอร์สอ่านไม่ออก แต่ว่าลิงค์สามารถอ่านได้ ดังนั้นเขาจึงอ่านออกเสียงด้วยภาษามนุษย์

 

“เรียนท่านนายพลชาวมนุษย์ที่เคารพ ชนเผ่าของพวกเราได้รับการโจมตีจากกองทัพแห่งความมืดอย่างหนักหน่วง พวกเราไม่รู้ว่าพวกมันมีมากแค่ไหน แต่ว่าจากสถานการณ์ปัจจุบันนั้น ดูเหมือนว่าจะมีทหารมากกว่า 30,000 คน ครึ่งนึงของพวกมันเป็นปีศาจ เมืองของพวกเราตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง พลเมืองเกือบทั้งหมดในเมืองใกล้เคียงถูกสังหารไปหมดแล้ว…ลาลิเอลเองก็ตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน…ในฐานะนายกรัฐมนตรีของสภาภูเขาสูงข้าขอการสนับสนุนจากท่านด้วยเถิด”

 

นี่คือจดหมายร้องขอกำลังเสริม มันเขียนถึงดยุคอาเบลแห่งป้อมโอริด้า

 

ลิงค์มองกลับไปที่เรือเหาะ จากความเสียหายด้วยเปลวเพลิง เขาคิดว่านี่ไม่ใช่เรือเหาะหลักที่ชาวยับบ้าใช้อยู่เป็นประจำ กลับกัน มันคือเรือเหาะที่เร็วมากๆเอาไว้ใช้สำหรับการจู่โจมอย่างกระทันหัน มันยาวกว่าและเรียวกว่าลำที่ลิงค์เคยนั่ง และมันก็มีปืนเวทมนตร์ติดอยู่น้อยกว่าด้วย

 

เห็นได้ชัดว่าเรือลำนี้ได้ฝ่าการปิดล้อมมาเพื่อร้องขอความช่วยเหลือแต่ว่ามันก็ไม่สามารถหนีจากกองกำลังแห่งความมืดได้

 

ยิ่งสคินอร์สคิดถึงมันเท่าไหร่เขาก็ยิ่งตกใจเท่านั้น “ไม่แปลกใจเลยที่ช่วงนี้ไม่มีการเคลื่อนไหวในป่าทมิฬ ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกมันจะโจมตีเมืองยับบ้าโดยที่พวกเราไม่รู้ตัว พวกมันต้องอยากได้ปืนเวทมนตร์กับเรือเหาะมาไว้ใช้ในสงครามแน่ๆๆ!”

 

ลิงค์พยักหน้าและพูด “แค่จดหมายฉบับนี้ยังไม่เพียงพอหรอก ไปตามหาร่องรอยและชาวยับบ้าที่เหลือรอดกันเถอะ”

 

เรือเหาะยับบ้านั้นรุกไหม้มานานมากแล้วก่อนที่มันจะร่วงลงมา มันได้เกิดการระเบิดขึ้นระหว่างที่บินมาและทิ้งชิ้นส่วนมากมายเอาไว้ตามพื้น และร่องรอยนั้นก็ชัดเจนมาก

 

ทั้งสองคนเดินตามชิ้นส่วนเรือเหาะที่มองเห็นได้และไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ หลังจากผ่านไปประมาณ 1 ไมล์ พวกเขาก็มาถึงโซนที่มีหญ้าหนาขนาดใหญ่ และอยู่ๆสคินอร์สก็หยุดลง

 

“ท่านครับ” เขากระซิบ “ข้ารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ข้าคิดว่ามีคนสะกดรอยตามพวกเราอยู่”

 

ลิงค์เองก็รู้สึกตัวเช่นกัน คู่ต่อสู้นั้นมีทักษะแปลกๆที่สามารถมองเห็นพวกเขาผ่านเวทย์ไร้ร่องรอยของลิงค์ได้ ยังไงก็ตาม ลิงค์ก็ไม่ได้รู้สึกถึงอันตรายเลยแม้ว่าเขาจะมองอยู่ก็ตาม

 

หลังจากคิดอยู่พักนึง เขาก็พูด “เขาน่าจะเป็นยับบ้าผู้เหลือรอด ถ้าฉันคิดไม่ผิดตอนนี้ปืนเวทมนตร์ของเขาคงกำลังเล็งมาที่หัวของพวกเราอยู่”

 

“การปล่อยให้ปืนเวทมนตร์ของพวกเขาเล็งมาที่หัวของข้านี่….มันรู้สึกไม่ดีเอาซะเลยนะครับ”

 

ใบหน้าอันหล่อเหลาของสคินอร์สมีรอยย่นและรอยยิ้มแหยๆ

 

ในฟิรุแมน เผ่าคนแคระนั้นเป็นเผ่าแรกที่คิดค้นปืนเวทมนตร์ขึ้นมา พวกคนแคระและยับบ้าอาศัยอยู่ในแถบเทือกเขา และพวกเขาก็ทำการแลกเปลี่ยนกันบ่อยๆ  ปืนเวทมนตร์นั้นทรงพลังและไม่ต้องใช้เรี่ยวแรงมากดังนั้นเผ่ายับบ้าที่ตัวเล็กจึงชอบมัน พวกเขาสร้างอาวุธและปืนที่ทรงพลังมากมาย ด้วยการที่มีพวกมันอยู่ พวกเขาจึงได้กลายเป็นนักแม่นปืนแห่งแผ่นดินใหญ่

ในฟิรุแมน และ “การปล่อยให้ปืนของยับบ้าเล็งมาที่หัว” ก็กลายเป็นสำนวนที่แปลว่าตายแน่ๆ

 

ในอีกด้านนึง ลิงค์กำลังหาชาวยับบ้าอยู่ หลังจากผ่านไปประมาณ 3 วินาที เขาก็สะบัดคทาของเขา และจุดแสงสีขาวขนาดเท่ากับเมล็ดงาก็ลอยออกไปโดยไม่มีเสียง

 

พรึ่บ ด้วยเสียงเบาๆ บอลมิติก็ขยายตัว และจับเป้าหมายที่อยู่ในระยะ 150 ฟุตได้สำเร็จ จากนั้นประกายไฟก็สว่างขึ้นจากในโพรงหญ้า นักแม่นปืนคงจะเผลอลั่นไกลเพราะอาการตกใจ

 

แต่ก็น่าเศร้าที่มันไม่ได้ผล

 

“ไปกันเถอะ เขาอยู่ตรงนั้น”

 

สคินอร์สรีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว เขาเห็นชาวยับบ้า 2 คนซ่อนตัวอยู่ในหญ้า-เป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน ผู้ชายนั้นนอนจมกองเลือดแน่นิ่งอยู่ตรงพื้น ในขณะที่ผู้หญิงนั่งคุกเขาอยู่ ปืนที่มีลำกล้องวางอยู่ที่เข่าของเธอ และเล็งมาที่พวกเขา

 

แน่นอนว่าสองคนนี้ไม่ใช่ภัยคุกคามอีกต่อไปแล้ว พวกเขาถูกบอลมิติจับอยู่และเคลื่อนไหวได้ช้ามากๆจนเหมือนกับถูกแช่แข็ง

 

ในมิติที่แปลกประหลาด สคินอร์สเห็นบางอย่างผิดปกติ

 

เขาเห็นประกายไฟที่สวยงามออกมาจากปากกระบอกปืนของยับบ้าหญิง ภายในเปลวเพลิงนั้น กระสุนที่หมุนกำลังค่อยๆลอยมาทีละนิด มันดูช้ามากๆ แต่ว่ากระสุนก็ยังสามารถสร้างรอยแหวกอากาศได้

 

มันสวยงามมาก

 

เวทย์ของมาสเตอร์ลิงค์ช่างอัศจรรย์จริงๆ เขาคิดและรู้สึกประทับใจ

 

ลิงค์เองก็เดินมาเช่นกัน เขามองไปที่ทั้งสองคนและสังเกตดูพร้อมกับพูดออกมา “ฝั่งผู้ชายบาดเจ็บหนักเกินไปและเสียเลือดมาก เขาคงไม่รอดแล้วแหล่ะ ส่วนผู้หญิงถ้าเกิดว่าไม่รักษาแผลที่ขาของเธอ เธอก็คงมีชีวิตอยู่รอดได้ไม่เกิน 3 วัน”

 

ในตอนที่เขาพูด ลิงค์ก็ใช้เวทย์กำแพงเสียงและคลายเวทย์มิติออก

 

นักแม่นปืนชาวยับบ้าขยับเร็วขึ้น แต่เสียงปืนนั้นเงียบหายไปภายในกำแพงเสียง จากนั้นลิงค์ก็คลายเวทย์ออก

 

“เจ้าเป็นใครกัน?” ใบหน้าของนักแม่นปืนเต็มไปด้วยเลือดและความหวาดระแวง เธอไม่ได้โง่-ในตอนที่เธอพูด เธอก็เล็งปืนคาบศิลาไปที่พื้น

 

ลิงค์แนะนำตัวเอง “ฉันลิงค์ โมรานี่ ลอร์ดแห่งเฟิร์ด อย่างที่เธอเห็น ฉันเป็นนักเวทย์”

 

สคินอร์สเองก็แนะนำตัวเช่นกัน “ส่วนข้าเป็นที่โด่งดังในชื่อศาลเตี้ยพเนจร สคินอร์ส…อ้าว,  นี่เจ้าฟังข้าอยู่รึเปล่า? ทำไมเจ้าถึงร้องไห้หล่ะ? นี่ข้าเจ๋งขนาดนั้นเลยหรอ?”

 

ก่อนที่เขาจะพูดจบ นักแม่นปืนยับบ้าก็โผเข้ามากอดพวกเขาและน้ำตาก็เริ่มไหลออกมาจากดวงตาอันสดใส

 

“มาสเตอร์ลิงค์ เมืองของพวกเราถูกทำลายแล้ว” ยับบ้าหญิงพูดออกมาโดยไม่สนใจสคินอร์ส “กองทัพแห่งความมืดได้บุกเข้ามาในเมืองแห่งท้องฟ้าและฆ่าทุกคนที่พวกมันเห็น พ่อของข้า แม่ของข้าและน้องชายทุกคนของข้าถูกฆ่าตายหมด พวกมันถึงขั้นกินน้องชายของข้าด้วย…พวกเขาตายหมดแล้ว เมืองกลายเป็นทะเลเพลิง ข้าไม่มีบ้านอยู่อีกต่อไปแล้ว”

 

ใครคือสคินอร์สเธอไม่รู้จัก แต่ลอร์ดแห่งเฟิร์ด นักเวทย์ชาวมนุษย์ที่เก่งที่สุด ลิงค์ นั้นเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งทวีป ลิงค์ทำงานกับพวกยับบ้าบ่อย แถมเลดี้ฟอทูน่าเอลินเองก็พูดชื่นชมเขาเอาไว้อย่างดี ดังนั้นชาวยับบ้าทุกคนจึงคุ้นเคยกับชื่อของเขา

 

ในสายตาของพวกเขา ลิงค์นั้นทรงพลัง ยุติธรรม มีเมตตา ใจดี ฉลาดและทุกๆอย่างที่เป็นด้านดี

 

ซึ่งในตอนนี้ นักแม่นปืนยับบ้าคนนี้เพิ่งจะผ่านประสบการณ์โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเธอมา และเมื่อเธอเจอคนที่แข็งแกร่งพอที่จะพึ่งพาได้ ความรู้สึกตึงเครียดของเธอจึงหายไปและต่อมน้ำตาก็แตกขึ้นมา

 

สคินอร์สนั้นรู้สึกผิดหวังในตอนแรกแต่เมื่อได้ฟังเรื่องราวของเธอ เขาก็เงียบลงไปเช่นกัน เขาเพิ่งจะเข้าร่วมกองทัพได้ไม่นาน แต่ว่าเขาก็ได้พบเจอกับโศกนาฏกรรมมามากพอแล้ว เขาคิดถึงพรรคพวกของเขาที่ตายไปในสนามรบทางตอนเหนือ เสียงโห่ร้องสุดท้ายของพวกเขา และคิดถึงเด็กใหม่ที่สิ้นหวังเมื่ออยู่ต่อหน้าปีศาจ

 

เขายังจำได้ดีว่ามีอยู่ภารกิจนึง เขาได้ผู้หญิงที่ฉลาดมาเป็นลูกน้องของเขา ชื่อของเธอคือลิลลี่ เธอนั้นมีดวงตาสีน้ำเงินเข้มและปากที่สวยงามราวกับเชอรี่ เธอชอบสคินอร์สมาก เธอชอบวิ่งตามหลังเขา ถามคำถามเขา และเรียกเขาว่า “พี่ชาย” แถมเธอยังพลีกายให้เขาด้วย ในตอนนั้น สคินอร์สถึงขั้นคิดที่จะแต่งงานกับเธอ

 

แต่ว่าในป่าทมิฬนั้น เธอได้ถูกปีศาจแห่งความกลัวฉีกเป็นชิ้นๆ หัวของเธอหลุดออก และมันก็กลิ้งมายังจุดที่สคินอร์สซ่อนตัวอยู่ ดวงตาสีน้ำเงินเข้มทั้งสองดวงจ้องมาที่เขาอย่างไร้ชีวิตราวกับกำลังถามเขาอยู่ว่าทำไมถึงไม่ช่วยเธอ

 

สคินอร์สรู้สึกว่าดวงตาของเขาเริ่มร้อนและภาพก็เริ่มเบลอ

 

“ข้าจะไปสำรวจดูนะว่าแถวนี้มีอะไรบ้าง” เขาไม่คิดที่จะร้องไห้ต่อหน้าคนอื่น หลังจากที่เขาพูด เขาก็หันหลังไปและเริ่มตรวจสอบดูรอบๆ

 

ส่วนลิงค์นั้นหนีไม่ได้ ในตอนนี้เขาต้องทำหน้าที่เป็นผู้ใหญ่ใจดี เขาตบไหล่ของนักแม่นปืนและพูด “เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น ส่วนตอนนี้ เดี๋ยวฉันจะรักษาแผลให้เธอนะ แล้วก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฉันฟังอย่างละเอียดด้วย โอเคไหม?”

 

“ได้ค่ะ” เธอเช็ดน้ำตาและพยักหน้า

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset