ณ ป่าข้างกระท่อม
ซัคคิวบัสเมียสเมอร์ได้โผล่ออกมาเป็นคนแรก แต่ว่าเธอก็ไม่ใช่คนสุดท้าย
มีเสียงกระพือปีกดังขึ้นบนท้องฟ้า มันคือปีศาจปีกโหยหวน จากเสียงของมัน พวกมันน่าจะอยู่สูงขึ้นไป 150 ฟุตและห่างออกไป 300 ฟุต แถมลิงค์ยังเห็นเทวดาตกสวรรค์อีกด้วย
เขายังไม่ตาย แต่อย่างน้อยเขาก็อ่อนแอลงไปกว่าตอนแรกมาก แต่ถึงแม้ว่าเขาจะเสียแขนไปหนึ่งข้างและดูน่าสงสารมากๆ เขาก็ยังคงมีพลังเหนือกว่าเลเวล 8 อยู่ดี
ในตอนนี้ เขากำลังถือหินรูนที่มีเส้นสีเงินวิ่งผ่านพื้นผิวของมันอยู่ เส้นพวกนี้ขยายออกจากหินเหมือนกับใยแมงมุม มันกระจายออกไป 90 ฟุตก่อนที่จะหายไป
เขามองไปที่ลิงค์และพูด “หินรูนเกรโด้ เจ้ารู้จักสิ่งนี้รึเปล่านักเวทย์?”
300 ปีก่อน นักเวทย์มิติที่มีชื่อว่าเกรโด้ได้สร้างมันขึ้นมา หินรูนนี้ไม่ค่อยมีประโยชน์กับนักเวทย์ระดับต่ำเท่าไหร่ ผลเดียวของมันก็คือการปิดกั้นมิติ ภายในมิตินี้ เวทย์มิติทั้งหมดจะไร้ผล ดังนั้นการใช้มันกับลิงค์จึงได้ผลมากๆ
แต่ก็แน่นอนว่าการใช้หินรูนนี้ต้องจ่ายหนักอยู่พอสมควร มันต้องให้คนที่มีเลเวล 8 ขึ้นไปใส่มานาเข้าไปในหินอย่างต่อเนื่องเพื่อใช้งาน ยิ่งไปกว่านั้น มันสามารถใช้ได้แค่ 20 นาทีเท่านั้น
หลังจากผ่านไป 20 นาที หินรูนก็จะสลายไป
และด้วยความที่เขาเป็นนักเวทย์มิติ ลิงค์เองก็ค่อนข้างคุ้นเคยกับหินรูนประเภทนี้อยู่แล้ว แน่นอนว่ารวมถึงวิธีการทำลายมันด้วย
“เหอะ นายดูถูกฉันมากเกินไปนะ” ลิงค์หัวเราะ
แน่นอนว่าพวกปีศาจนั้นมีเยอะมาก แต่ลิงค์ก็ยังมีลูกเล่นที่เขาเก็บเอาไว้อยู่ ตอนนี้ มานาของเขาเต็มแล้ว เขามีมานาทั้งหมด 19,000 แต้ม ผลสมองปลอดโปร่งของผ้าคลุมผู้รวบรวมเปลวเพลิงถูกเปิดใช้งาน และเขายังมีแต้มโอมนิเหลืออีก 500 แต้ม
ซึ่งมันเป็นแต้มโอมนิจำนวนมหาศาล และมากพอที่จะทำให้ลิงค์ซื้อเวทย์ในตำนานเลเวล 10 ได้ ที่สำคัญกว่านั้น เขายังมีมานาเพียงพอที่จะร่ายมันอีกด้วย
จริงๆแล้ว ในตอนนี้การ์ดเวทมนตร์ได้ปรากฏขึ้นในทัศนวิสัยของลิงค์แล้ว การ์ดระดับตำนานที่ส่องแสงหลากสีได้ล้อมรอบตัวเขาอยู่ รอให้เขาทำการเลือกมัน
ณ จุดนี้ เสียงของชายแก่ก็ได้ดังขึ้นมาจากป่าที่อยู่ด้านข้างเขา “ลิงค์ ข้าคิดว่าเจ้าเข้าใจผิดแล้ว พวกเราไม่เพียงแค่เคารพเจ้าเท่านั้น แต่พวกเรายังอยากที่จะฆ่าเจ้าอีกด้วย”
ในตอนที่เสียงดังขึ้น งูดำยักษ์ก็ได้เลื้อยออกมา บนหัวของมันมีชายแก่ผมขาวที่สวมผ้าคลุมสีดำนั่งอยู่
มันสามารถดูได้อย่างชัดเจนตั้งแต่แรกเห็นเลยว่าชายแก่คนนี้ไม่มีแขนขา ซึ่งนั่นทำให้เขาดูตัวเล็กมากๆ
เมื่อมองไปที่ชายคนนี้ ลิงค์ก็ถอนหายใจ “ไอมอนส์ ฉันไม่คิดเลยว่าจะเจอแกที่นี่”
“เพราะว่าเป็นเจ้ายังไงหล่ะ ข้าเลยต้องมา” ไอมอนส์ก็ถอนหายใจเช่นกัน ในครั้งนี้ เขาต้องทำให้แน่ใจว่าเขาจะฆ่าลิงค์ได้อย่างแน่นอน
พวกเขามีปีศาจมากมายและยังมีอุปกรณ์เวทมนตร์ อสรพิษทมิฬ ไม่มีนักเวทย์คนไหนในโลกนี้ที่มีความสามารถมากพอที่จะหนีจากการลอบโจมตีนี้ได้ มันไม่มีแม้แต่ความเป็นไปได้ด้วยซ้ำ
การรวมตัวเช่นนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ!
ลิงค์ถอนหายใจอีกครั้งอย่างช้าๆ เขาทำสีหน้าแบบไร้ทางสู้ “ฉันรู้ว่าฉันไม่มีโอกาสสู้ได้ และฉันเองก็ไม่อยากดิ้นรนอย่างเปล่าประโยชน์ด้วย ไอมอนส์ ถ้าฉันยอมแพ้จะเป็นยังไง? ฉันเข้าร่วมกับดาร์กเอลฟ์จะได้มั้ย?”
คิ้วของไอมอนส์กระตุก มันเป็นข้อเสนอที่ดี ถึงแม้ว่าพวกดาร์กเอลฟ์จะดูรุ่งโรจน์ในตอนนี้ แต่ในความเป็นจริง พวกเขาเองก็พบกับปัญหาภายในมากมาย และปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็คือพวกปีศาจ
พวกเขาอัญเชิญปีศาจออกมามากเกินไป ยังไงก็ตาม พวกเขาไม่มีทางเลือกถ้าพวกเขาต้องการที่จะจัดการกับพวกยับบ้าที่รุกรานมาจากทางตะวันตกและกองกำลังผสมมนุษย์ไฮเอลฟ์ ถ้าไม่มีการสนับสนุนจากพวกปีศาจ ดาร์กเอลฟ์ก็คงจะล่มสลายไปแล้ว
แต่เดิมแล้ว พวกเขาไม่จำเป็นต้องไปโจมตีพวกยับบ้า ยังไงก็ตาม พวกเขาได้เปลี่ยนความคิด อสรพิษทมิฬนั้นมีเวลาอยู่ในโลกจำกัด
ความกดดันนี้ทำให้พวกดาร์กเอลฟ์รีบเพิ่มความแข็งแกร่งทางการทหารของพวกเขาเผื่อในกรณีที่พวกเขาถูกโจมตีในอนาคต ในการต่อสู้กับมนุษย์พวกเขาจะต้องเอาชนะอย่างรวดเร็วแทนที่จะสู้กันอย่างยืดเยื้อ
ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการเทคโนโลยีจากพวกยับบ้า – เรือเหาะและปืนใหญ่เวทมนตร์
ในตอนนี้ พวกดาร์กเอลฟ์นั้นเหมือนกับเปลวเพลิงที่ลุกโชติช่วง ยังไงก็ตาม หลังจากที่เพลิงดับลง มันก็มีแนวโน้มสูงมากที่พวกเขาจะถูกกำจัด
ถ้าลิงค์เข้าร่วมกับดาร์กเอลฟ์ มันก็จะช่วยเหลือในการพัฒนาเผ่าดาร์กเอลฟ์ได้อย่างมากมายมหาศาลแน่ๆ แม้ว่าไอมอนส์จะไม่เชื่อว่าลิงค์จะยอมแพ้จริงๆ แต่เขาก็อ่อนไหวกับข้อเสนอนี้
แม้ว่าความเป็นไปได้นั้นจะไม่มาก แต่เขาก็ตั้งใจที่จะทดสอบลิงค์ดู ยังไงก็ตามก่อนที่เขาจะได้ทำ เมียสเมอร์กก็ได้พูดขึ้น “ข้าเกรงว่านั่นคงเป็นไปไม่ได้ เจ้านรก โนโซม่าของพวกเราได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วว่าจะเด็ดหัวของเจ้า!”
เมียสเมอร์ได้แย่งการเป็นผู้นำของเขาไป ไอมอนส์รู้สึกไม่พอใจ แต่ว่าต่อหน้าศัตรูมากมายขนาดนี้ เขาไม่สามารถแสดงความไม่พอใจกับเมียสเมอร์ออกมาได้และต้องอดทนกลืนมันลงไป
แกร๊ง! ลิงค์ได้โยนคทาเพลิงพิโรธแห่งสวรรค์ไปทางเมียสเมอร์อย่างคาดไม่ถึง
ในตอนที่มันตกถึงพื้น ลิงค์ก็กางแขนออกและพูด “โอเคถ้างั้น เมียสเมอร์ ช่วยให้ฉันตายแบบสบายๆที เธอเป็นหัวหน้าผู้บัญชาการของกองกำลังนี้ ใช่มั้ย? เอาเลย ตัดสินใจซะว่าจะให้ฉันตายยังไง”
จากนั้นลิงค์ก็หลับตาลง
“อะไรกัน…?” ปีศาจทุกตัวพากันมึนตึ้บ
จู่ๆภารกิจของพวกเขาก็ง่ายลงกว่าที่พวกเขาคิดเอาไว้มาก ก่อนที่เหตุการณ์จะเป็นแบบนี้ ทุกคนรวมทั้งไอมอนส์ เมียสเมอร์ และเทวดาตกสวรรค์ต่างก็คิดว่าลิงค์จะสู้จนตัวตาย และอันที่จริง พวกเขาได้เตรียมใจสำหรับไพ่ตายที่ลิงค์ยังไม่ได้ใช้เอาไว้ด้วย
ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงระดมพลมาเสมือนกับว่าพวกเขากำลังเจอศัตรูจำนวนมหาศาล ให้ความสนใจกับรายละเอียดเล็กๆทุกอย่างเพื่อให้มั่นใจว่าแผนการนี้จะสำเร็จ ยังไงก็ตาม ในท้ายที่สุดแล้ว คู่ต่อสู้ของพวกเขากลับยอมแพ้โดยที่ยังไม่ได้สู้เลยด้วยซ้ำ!
ความรู้สึกนั้นเหมือนกับชายพเนจรที่อยากจะพบกับราชินีแสนสวยและพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อที่จะได้พบกับเธอ แต่เขาก็ต้องพบว่าการพบเจอแห่งโชคชะตาครั้งแรกของพวกเขานั้น เธอได้ถ่างขาให้ในทันทีเพื่อเชื้อเชิญเขา
ยังไงก็ตาม พวกเขาก็ไม่ได้สงสัยในการยอมแพ้ของลิงค์เลย ยังไงซะ เขาก็ได้โยนคทามาให้ศัตรูแล้ว ซึ่งนั่นเท่ากับว่าเขาไม่มีอะไรที่จะป้องกันตัวเองได้อีก
นักเวทย์ที่ทิ้งคทาของตัวเองก็เหมือนกับนักรบที่ทิ้งดาบของตัวเอง มันดูน่าเหลือเชื่อ
เมียสเมอร์หยิบคทาที่ลิงค์โยนขึ้นมาดูและก็ต้องตกใจ
ตอนแรกเธอสงสัยว่าเป็นของปลอมจึงหยิบขึ้นมาตรวจสอบดู คทานี้เป็นสีแดงเพลิง โปร่งแสงเล็กน้อย และผลงานนั้นก็มีความประณีตไร้ข้อตำหนิ คทานั้นส่องแสงสีแดงเพลิงและดูเหมือนจะมีพลังอันไร้ชอบเขต ภายในแสงนั้นยังมีประกายไฟออกมาเป็นครั้งคราวอีกด้วย
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าคทาที่ลิงค์ได้โยนมานั้นเป็นคทาระดับตำนานที่มีคุณภาพสูงมากจริงๆ
ยังไงก็ตาม เมียสเมอร์ไม่ใช่นักเวทย์และไม่เชี่ยวชาญเรื่องคทา เธอจึงส่งคทาให้กับไอมอนส์และพูด “นักเวทย์ เช็คดูสิว่ามันเป็นของจริงรึเปล่า”
ไอมอนส์นั้นเป็นจอมเวทย์จึงรู้ได้เองโดยไม่ต้องตรวจสอบให้ละเอียดเลยด้วยซ้ำว่าคทาเป็นของจริงรึเปล่า เขาพยักหน้าและพูด “คทาเป็นของจริง ดูเหมือนว่ามันไม่ได้วางแผนที่จะขัดขืนอีกแล้ว ในเมื่อเหตุการณ์เป็นแบบนี้ ท่านก็ควรจะรีบจบชีวิตของมันนะ”
ไอมอนส์รู้สึกเสียดายจริงๆ
ในความคิดเห็นของเขา ในเมื่อคู่ต่อสู้ทิ้งการป้องกันทั้งหมดไปแล้ว มันก็แสดงว่าการยอมแพ้เมื่อก่อนหน้านี้เป็นของจริง การที่จะต้องเสียนักเวทย์ที่มีความสามารถขนาดนี้สำหรับดาร์กเอลฟ์แล้วมันช่างน่าเสียดายจริงๆ!
ยังไงก็ตาม เมียสเมอร์ก็ได้บอกไปแล้วว่าโนโซม่าต้องการชีวิตของเขา มันไม่คุ้มค่าเลยที่ไอมอนส์จะยอมต่อต้านกับโนโซม่าเพื่อนักเวทย์คนเดียว ถ้าเขาทำอย่างนั้น พวกปีศาจที่ตอนนี้เป็นพันธมิตรกับดาร์กเอลฟ์จะต้องหันมาเป็นศัตรูกับเขาแน่ๆ
ในเมื่อขึ้นมาบนหลังเสือแล้ว การจะลงมาก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ซึ่งนี่เป็นสถานการณ์ที่ไอมอนส์กำลังเผชิญอยู่
เมียสเมอร์เห็นด้วย เธอยักไหล่ของเธอและเดินไปหาลิงค์ จากนั้นในตอนที่เธออยู่ห่างจากลิงค์ 90 ฟุตเธอก็หยุด “หุ่นเชิดเวทมนตร์ของเจ้าแข็งแกร่งเกินไป สั่งให้มันทำลายตัวเองซะ!”
ที่เมืองผีทางตอนใต้ เธอได้เห็นพลังหุ่นเชิดของลิงค์และและรู้ดีว่าเธอจัดการยากขนาดไหน
“นานะ ทำลายตัวเอง” ลิงค์สั่ง เขามองไปที่นานะโดยไม่กระพริบตา
“รับทราบค่ะ” เสียงของนานะสดใสเหมือนทุกที เธอหยิบฝันร้ายสิ้นสุดออกมาด้วยมือข้างที่ถนัดและปาดคอของตัวเอง และตัดมันขาดครึ่ง ตุบ ร่างของนานะล้มลงกับพื้นไม่ขยับ ดวงตาของเธอปิดลงและมีดของเธอก็ตกลงกับพื้น
มันดูเหมือนกับว่าเธอได้ตายไปแล้วจริงๆ
“555 เจ้าหนู ดูเหมือนว่าเจ้าเตรียมพร้อมที่จะตายแล้วจริงๆสินะ มาเถอะ เดี๋ยวข้าจะทำให้เจ้าได้ตายสบายๆเอง!”
เมียสเมอร์เก็บแส้ของเธอและหยิบมีดออกมาจากฝักที่ขาของเธอ มีดนั้นปล่อยออร่าสีดำออกมาอย่างแน่นหนา เมียสเมอร์ค่อยๆเดินมาทางลิงค์อย่างระมัดระวัง
ลิงค์ยืนอยู่ที่เดิม ไม่ขยับไปไหน และหลับตาอยู่ มานาในร่างกายของเขาไม่ได้แสดงความผันผวน ดูเหมือนว่าเขาเตรียมตัวที่จะตายจริงๆ
ภายในกระท่อม สคินอร์สไม่สามารถเข้าใจได้ว่าลิงค์คิดอะไรอยู่
เขาคิดว่าลิงค์จะแกล้งทำเป็นย้อมแพ้เพื่อให้พวกดาร์กเอลฟ์และปีศาจทะเลาะกันเพื่อสร้างโอกาสในการโต้กลับ แต่ว่า เขากลับโยนคทาของตัวเองทิ้งและให้นานะทำลายตัวเอง สคินอร์สไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นกันแน่
“นี่ท่านตั้งใจจะยอมแพ้จริงๆหรอ? แม้ว่าในสถานการณ์แบบนี้ ต่อให้เป็นข้าก็ไม่รู้ว่าจะหนียังไงเหมือนกัน แต่ท่านไม่ได้ดูเหมือนกับพวกยอมแพ้ง่ายๆซะหน่อย”
สคินอร์สไม่สามารถเข้าใจได้ ในใจเขา ลิงค์นั้นเป็นคนประเภทที่จะต่อสู้แม้ว่าจะเหลือเป็นคนสุดท้ายหรือว่าไม่มีโอกาสแล้วก็ตาม หรือว่าเขาคิดผิดกันแน่นะ?
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าลิงค์คิดจะยอมแพ้จริงๆ ทำไมเขาถึงสั่งให้สคินอร์สเอาข่าวไปส่งล่ะ?
ในห้องใต้ดิน เมอลินดาเองก็ได้ยินบทสนทนาจากภายนอก ในตอนที่เธอได้ยินว่าลิงค์จะยอมแพ้ เธอก็เริ่มสั่นด้วยความกลัว หลังจากนั้น ในตอนที่เธอได้ยินเสียงนานะทำลายตัวเอง เธอก็รู้สึกเหมือนว่าเธอกำลังจะเป็นลม นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้วจริงๆ
ห้องใต้ดินนั้นเย็นและอับชื้น บาดแผลที่ขาของเธอยังไม่หายดี ดังนั้นเธอจึงวิตกกังวลจนเป็นลมลงไปจริงๆ
บนกิ้งไม้ของต้นไม้ต้นหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลออกไป แมวดำอีโลดิมเองก็มองดูสถานการณ์นี้อยู่อย่างลับๆ เขาเองก็สับสนเช่นกัน
“ลิงค์ เจ้าจะตายทั้งแบบนี้จริงๆหรอ? ข้าคิดว่าจะได้ดูการแสดงโชว์ดีๆซักหน่อยนะเนี่ย…”
เขานั้นคิดว่าเขาจะได้ดูการต่อสู้ที่ทำให้โลกสะเทือน แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันกลับกลายเป็นแบบนี้
ช่างน่าเบื่อ น่าเบื่อจริงๆ