เวทย์มนตร์เป็นหัวข้อที่เข้มงวด, ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เขียนลงไปในหนังสือ, นั่นหมายความว่ามันได้รับการทดลองนับครั้งไม่ถ้วนมาก่อน
ทำไมนี่ถึงสำคัญขนาดนั้นหน่ะหรอ?
เหตุผลง่ายๆ—ความผิดพลาดใดๆก็ตามที่เกิดขึ้นในการร่ายเวทย์อาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นได้ยังไงหล่ะ นี่มันขึ้นอยู่กับชีวิตหรือความตาย, และเหล่านักเวทย์ที่ไม่ค่อยระมัดระวังตัวในการทดลองของพวกเขาก็จะถูกขับไล่จากอุบัติเหตุที่พวกเขาเป็นสาเหตุ
ลิงค์ หยุดความปราถนาของเขาในการปรับแต่งและพัฒนาเวทย์มนตร์ แล้วเริ่มอ่านตำราเวทย์มนตร์อย่างตั้งอกตั้งใจ, พยายามที่จะซึมซับความรู้และภูมิปัญญาที่สืบทอดมาจาก ลิงค์ คนก่อน
ขณะที่เขาอ่าน, เขาหมกมุ่นอยู่กับมันอย่างลึกซึ้ง เขาลืมแม้กระทั่งเรื่องวิทยานิพนธ์ของเขา
มีตำราเวทย์มนตร์ 63 เล่มในจี้ของเขา, พวกมันทั้งหมดเกี่ยวกับความรู้พื้นฐานทางด้านเวทย์มนตร์
ข้อเท็จจริงที่ถูกบันทึกลงไปในตำราเหล่านี้ได้รับการรับรองจากนักเวทย์ทุกคนและได้รับการพิสูจน์ความจริงด้วยการทดลองกว่าร้อยกว่าพันครั้ง ดังนั้นต่อให้ระดับความรู้จะเป็นแค่ระดับพื้นฐาน, แต่มันก็ผ่านการสะสมความรู้และภูมิปัญญามาเป็นเวลาหลายปี บางคนถึงขนาดยอมจ่ายให้มันด้วยชีวิตของพวกเขา!
ลิงค์ อ่านอย่างละเอียด, แล้วความทรงจำที่ผิดธรรมดาของเขาก็ทำการบันทึกเนื้อหาแต่ละส่วนลงไปในหัวของเขา แถมพลังสติปัญญาที่เพิ่งได้รับมาใหม่ของเขาเองก็ช่วยให้เขาเข้าใจปรัชญาในหนังสือได้อย่างง่ายดาย
เขาลืมแม้กระทั่งการนอนหลับและละเลยการรับประทานอาหารไป!
หลังจากที่ผ่านไปได้สองสัปดาห์, ลิงค์ ตัวผอมลงอย่างมากจากการกินแค่ขนมปังข้าวสาลีสากๆสามชิ้นต่อวัน ดวงตาของเขาจมเข้าไปในหน้าของเขา, และรูปร่างของเขาก็ดูผอมโซ แต่ดวงตาสีดำทั้งสองข้างของเขาในตอนนี้ยังคงดูเหมือนกับทะเลสาบที่เงียบสงบซึ่งเต็มไปด้วยความรู้
ในช่วงสองสัปดาห์มานี้, เอเลียร์ด ได้เขียนจดหมายให้เขามาสองฉบับ, ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับความคืบหน้าในสถาบัน เอเลียร์ด มีพรสวรรค์ที่น่าประทับใจอย่างแท้จริง ในช่วงระยะเวลาแค่สั้นๆ, เขาก็เชี่ยวชาญเวทย์มนตร์เลเวล 0 ได้หนึ่งเวทย์แล้ว แถมยังได้รับการยอมรับจากครูผู้ดูแลนักเวทย์เลเวล 5 ที่ชื่อว่า มอยร่า ในฐานะลูกบุญธรรมของเธออีกด้วย
ในตอนที่ ลิงค์ อ่านถึงจุดนั้นเขาก็พึมพำออกมา “มอยร่า หรอ— ฟังเหมือนชื่อของผู้หญิงเลยนะ โชคอะไรกันเนี่ยมันถึงเกิดมาหล่อขนาดนี้!”
แต่การที่ เอเลียร์ด เข้ากับสถาบันได้เป็นอย่างดี, ก็นับว่าเป็นเรื่องดี
ในด้านของ ลิงค์, เขาได้บอกกับ เอเลียร์ด ถึงข่าวที่น่าสนใจจากเมืองลีเวอร์โควฟ เขามักจะทำให้มั่นใจว่าได้เขียนสิ่งที่อ่านแล้วร่าเริงลงไป— ไม่มีสักครั้งที่เขาเขียนเรื่องความยากลำบากที่เขากำลังเผชิญอยู่ และเขาก็มักจะเพิ่มคำถามที่เขามีเกี่ยวกับเวทย์มนตร์ลงไปในจดหมายที่ให้กับ เอเลียร์ด อีกด้วย, โดยหวังว่าเขาจะสามารถช่วยเขาในเรื่องเหล่านี้ได้
แน่นอนว่า, ลิงค์ ไม่ได้คาดหวังไว้จริงๆว่า เอเลียร์ด จะสามารถตอบคำถามพวกนี้ได้ด้วยตัวเอง เพราะไอโชคดีนั่นมีครูผู้ดูแลคอยช่วยเหลืออยู่ถูกไหมหล่ะ?
ความรู้สึกผิดและความกังวลของ เอเลียร์ด ลดลงอย่างมากในแต่ละครั้งที่เขาได้รับจดหมายจาก ลิงค์ ขณะที่เขาปักหลักอยู่ในสถาบัน, เขามักจะกังวลเรื่องของ ลิงค์ อยู่เสมอ, และเฝ้ารอข่าวจากเขาด้วยความเป็นห่วงและความกังวลใจ แต่ตอนนี้ที่เขาได้รู้ว่า ลิงค์ ไม่ได้แย่ขนาดนั้น, เอเลียร์ด ก็รู้สึกดีขึ้นมาก
สำหรับคำถามที่ ลิงค์ แนบมาในจดหมาย, เขาไม่ค่อยเข้าใจพวกมันมากนัก, แต่เขาก็ยังคงยอมทำทุกๆอย่างเพื่อช่วย ลิงค์, ในความเป็นจริง, ไม่ว่าโอกาสอะไรก็ตามที่จะช่วย ลิงค์ ได้ มันจะทำให้เขารู้สึกพึงพอใจ
ดังนั้นเขาจึงนำคำถามเหล่านี้ไปให้กับครูผู้ดูแลของเขา, มอยร่า
มอยร่า เอาใจใส่ เอเลียร์ด เป็นพิเศษ เธอจะตอบทุกๆคำถามที่เขาถามเธอ แต่ เอเลียร์ด ก็ไม่ได้รับรู้ถึงความพิเศษที่เขาได้รับเลย
จากนั้น เอเลียร์ด จะลอกคำตอบของ มอยร่า สำหรับคำถามที่ได้รับมาลงไปในจดหมายของเขาที่เขียนให้ ลิงค์
ด้วยวิธีนี้, มันเหมือนกับว่า ลิงค์ เองก็มีนักเวทย์เลเวล 5 คอยให้คำปรึกษาเขาขณะที่เขากำลังเรียนอยู่เหมือนกัน และการติดต่อนี้ก็เป็นเหตุผลใหญ่ที่ทำไม ลิงค์ ถึงสามารถอ่านตำราพื้นฐานทั้ง 63 เล่มจบในสองสัปดาห์ได้
เขาค่อยๆพลิกหน้าสุดท้ายของตำราเวทย์มนตร์เล่มสุดท้ายที่เขาอ่าน— หนทางของนักเวทย์— มันมีชื่อของคนเขียนอยู่บนหนังสือด้วย,คนเขียนคนนั้นชื่อว่า ไบรอันท์, เขาเป็นจอมเวทย์จากเมื่อสามร้อยปีก่อน และเขาก็เป็นมนุษย์เพียงคนเดียวที่ได้กลายเป็นนักเวทย์ในตำนาน
“ผู้สืบทอดของข้า, พวกเราข้ามอุปสรรคของเวลาและติดต่อกันผ่านคำพูด, และถ้อยคำเหล่านี้คือคำพูดของข้า— จงจำเอาไว้ว่า, เวทย์มนตร์สามารถมอบทุกๆอย่างให้เจ้าได้, รวมทั้งชีวิตที่เป็นอมตะ จงเดินบนเส้นทางนี้อย่างมั่นคงเถิด, มุ่งหน้าต่อไปเรื่อยๆ, และบางทีสักวันนึงพวกเราอาจจะได้พบกัน”
ข้อความเหล่านี้ดูเหมือนจะมีความหมายซ่อนอยู่, แต่ ไบรอันท์ ตายไปแล้วเมื่อสามร้อยปีก่อน ชนชั้นสูงทั้งหมดในอาณาจักรนอร์ตันได้เข้าร่วมงานศพของเขา และมีเรื่องราวบันทึกเอาไว้อย่างชัดเจนในเอกสารประวัติศาสตร์— ซึ่งไม่มีเหตุผลอะไรที่จะสงสัยในความถูกต้องของเอกสารพวกนี้
ดังนั้น ลิงค์ จึงถือว่าข้อความเหล่านี้เป็นคำคมของคนตายและไม่คิดอะไรไปมากกว่านี้อีก
เขาค่อยๆใส่หนทางของนักเวทย์ร่วมกับหนังสือทั้งหมดที่เขาอ่าน
เขาไม่เพียงแค่อ่านหนังสือพวกนี้จบ, แต่เขายังจำได้ทุกรายละเอียดและทำความเข้าใจและจำแนกข้อมูลแต่ละชิ้นได้อีกด้วย
ตอนนี้, ลิงค์ ไม่ใช่มือใหม่ในด้านเวทย์มนตร์, และไม่ใช่นักเรียนต่ำต้อยของสถาบันเวทย์มนตร์ระดับต้นเฟลมมิ่งอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เขาเข้าใจความรู้ซึ่งเป็นแก่นแท้ของพื้นฐานของเวทย์มนตร์แล้ว
ดังนั้น, มันถึงเวลาแล้วที่ ลิงค์ จะทบทวนความคิดในการปรับแต่งโครงสร้างของเวทย์บอลเพลิง ตอนนี้เขามีความคิดใหม่ๆมากมายที่จะใช้ในการเริ่มต้น
เขาเอาคทานิวมูนของเขาออกมาจากนั้นเขาก็หลับตาลงแล้วรวบรวมสมาธิ ความเข้าใจที่เขาได้รับจากสองสัปดาห์แห่งการเรียนค่อยๆผุดขึ้นมาในหัวของเขา
ความเข้าใจเหล่านี้ได้ผสานกับความรู้ในโครงสร้างบอลเพลิงของเขา, เหมือนกับการเติมน้ำมันร้อนๆเข้าไปในกองไฟ, การระเบิดของแรงบันดาลใจและความคิดได้ก่อตัวขึ้นมา
หลังจากผ่านไปห้านาที, เนื่องจากความสามารถในการจินตนาการอันยอดเยี่ยมของ ลิงค์, โครงสร้างเวทย์มนตร์ใหม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ในหัวของเขา
จากนั้น, ลิงค์ ก็ลืมตาขึ้น
และในจังหวะนั้น, ดวงตาที่มัวหมองจากโรคมานาก็กลับมามีชีวิต เขายื่นมือที่ถือคทาออกไป, จากนั้นมานาก็ไหลเข้าไปในคทา แล้วอักษรเวทย์มนตร์บนคทาก็ค่อยๆส่องแสงขึ้นมาจนในที่สุด, ที่ส่วนปลายของคทานิวมูนก็มีส่องแสงออกมาด้วย
ในอากาศที่อยู่เบื้องหน้าคทา, ประกายแสงได้ปรากฏขึ้นมา ในตอนที่สังเกตุอย่างระมัดระวัง, ธาตุไฟในประกายแสงกำลังหมุนอยู่ด้วยความเร็วสูง, แต่มันไม่ใช่การหมุนแบบธรรมดา มันเป็นการหมุนเวียนภายใน, ด้วยโครงสร้างแบบน้ำวน
มันดูราวกับว่าในแก่นของประกายแสงมีหลุมดำที่ดูดธาตุไฟจากรอบๆมันอยู่, และการหมุนของธาตุไฟก็ไปในทางที่รักษาเสถียรภาพของโครงสร้าง
วินาทีต่อมา, ประกายแสงได้ขยายใหญ่ขึ้นจนมีขนาดเท่ากับลูกแก้วหินอ่อน— ขนาดมาตรฐานของบอลเพลิงธรรมดา
แต่มีจุดที่แตกต่างกันอยู่ บอลเพลิงที่ ลิงค์ เคยสร้างเป็นสีขาว, ที่มีคลื่นอยู่ล้อมรอบมัน, และเปล่งแสงมัวๆออกมา แต่อันนี้มีแกนกลางเป็นสีน้ำเงิน, พื้นผิวของมันเรียบมาก, และไม่มีความร้อนแผ่ออกมาที่ผิวนอก มันดูเหมือนกับลูกแก้วหินอ่อนจริงๆ
เวทย์มนตร์สำเร็จแล้ว!
ลิงค์ เปิดหน้าต่างห้องใต้หลังคา ข้างนอก, มีแสงแดดจ้า เขาเล็งไปที่ต้นยางที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 100 ฟุต แล้วชี้คทาของเขาไปที่ทิศทางของต้นไม้, และยิงบอลเพลิงออกไปในทันที
ปัง! มีการระเบิดเกิดขึ้น, และบอลเพลิงก็บินฝ่าอากาศไปโดนลำต้นของต้นไม้อย่างแม่นยำ เศษไม้กระจายออกไปทุกทิศทางและมีรูขนาดเท่าถ้วยชาปรากฏขึ้นมาบนลำต้น
สำหรับบอลเพลิงปกติ, ระยะทางที่พวกมันพุ่งไปได้ไม่มีทางเกิน 60 ฟุต ต่อให้บอลเพลิงได้รับการกระตุ้นจากคทาระดับสูง, แรงก็แทกก็ไม่ได้รุนแรงไปมากกว่าดอกไม้ไฟอันใหญ่ๆ, ที่อย่างมากก็ทำได้แค่เผาเปลือกนอกของต้นไม้เท่านั้น
บอลเพลิงพิเศษจาก ลิงค์ นั้นมีข้อดีมากกว่าบอลเพลิงปกติจนเทียบไม่ติด, ไม่ใช่แค่ระยะที่มันพุ่งไปได้, แต่ยังรวมถึงพลังทำลายของมันด้วย
ระยะทางที่ไกลที่สุดที่มันสามารถไปได้น่าจะประมาณ 200 ฟุต, และพลังของมันน่าจะพอๆกับบอลเพลิงเลเวล 1 ถ้าฉันใช้คทาคริสตัลเพลิงพลังกับระยะทางของมันหน้าจะเพิ่มขึ้นอีกนิดนึงนะ แถมมานาที่ใช้ก็น่าจะน้อยลงด้วย, ดังนั้นต่อให้ฉันจะอยู่ในสภาพแบบนี้, ฉันก็น่าจะสามารถปล่อยพวกมันได้ต่อเนื่องกัน 24 ลูก แต่ระยะเวลาการร่ายมันเพิ่มขึ้นมาเยอะเลย, นั่นเป็นข้อเสียเพียงอย่างเดียวของมัน
ลิงค์ สามารถร่ายบอลเพลิงปกติได้ภายในเวลาไม่ถึง 0.05 วินาที ด้วยความช่วยเหลือจากระบบเกมส์ แต่ตอนนี้บอลเพลิงที่ดัดแปลงมาใหม่นั้นมีโครงสร้างที่ซับซ้อนมากขึ้น, และมันยังไม่เสถียรดี, ลิงค์ จึงต้องใช้ความพยายามที่มากขึ้นในการรักษารูปแบบของมันเอาไว้ เขาจำเป็นต้องใช้เวลาถึงแปดวินาทีในการร่ายเวทย์ครั้งแรก
ไม่เป็นไร ด้วยการฝึกฝน, ฉันมั่นใจว่าฉันสามารถทำมันได้เร็วกว่านี้
ขณะที่เขาตั้งใจจะทำอะไรบางอย่าง, เขาจะจมปรักอยู่กับมันในทันที เขาเริ่มฝึกบอลเพลิงที่ได้รับการดัดแปลงเช่นเดียวกับที่เขาฝึกบอลเพลิงปกติมาก่อน เขารวบรวมธาตุไว้ที่ปลายคทาจากนั้นก็ดูดกลืนมานาของเขากลับมาโดยไม่ปล่อยมันออกไป
เขายังคงฝึกต่อไปและใช้สมาธิทั้งหมดของเขาจดจ่ออยู่กับมัน
ครึ่งวันได้ผ่านไป, และผลลัพธ์ก็แสดงออกมาอย่างโดดเด่น
ลิงค์ ค่อยๆโบกคทาของเขา, แล้วลูกแก้วเพลิงสีฟ้าก็ปรากฏขึ้นมาที่ปลายของคทา จากนั้น, ขณะที่เขายกคทา, บอลเพลิงก็หายไป จากนั้นเขาก็โบกคทาอีกครั้ง, และบอลเพลิงก็ปรากฏขึ้น เขายกมันขึ้น, แล้วมันก็หายไปอีกครั้ง
มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนไม่น่าเชื่อ เขาสามารถทำมันได้เร็วพอๆกับที่เขาร่ายบอลเพลิงปกติ
แต่ ลิงค์ รู้ว่าในความเป็นจริงมันยังคงช้ากว่า, แม้ว่ามันจะช้ากว่าแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ถ้าเวทย์บอลเพลิงปกติใช้เวลา 0.05 วินาที, ขีดจำกัดที่เร็วที่สุดสำหรับเวอร์ชั่นดัดแปลงก็น่าจะประมาณ 0.07 วินาที
ยิ่งโครงสร้างของเวทย์มนตร์ซับซ้อนเท่าไหร่, ก็ยิ่งใช้เวลาในการสร้างมากขึ้นเท่านั้น, และนั้นก็จะทำให้ใช้เวลาในการร่ายเวทย์มากขึ้น นี่คือหลักการแบบสากลที่เรียบง่าย
อย่างไรก็ตาม, สำหรับบอลเพลิงเวอร์ชันดัดแปลงนี้, ความเร็วในการร่ายอาจจะช้ากว่าเล็กน้อยที่ 0.07 วินาที, แต่พลังงานที่รวบรวมมาได้นั้นก็พอๆกับเวทย์มนตร์เลเวล 1 (ความแตกต่างในมาตราส่วนแทบจะเทียบกันไม่ได้เลย) นอกจากนี้มันยังมีประสิทธิภาพจากระยะทางที่น่าประทับใจประมาณ 200 ฟุต, แต่มานาที่ใช้นั้นกลับพอๆกับบอลเพลิงปกติลูกนึงเท่านั้นเอง นี่ช่างเป็นเวทย์มนตร์ที่น่ากลัวจริงๆ!
ความเร็วในการร่ายน่าจะลดลงได้อีกนะ ฉันว่าฉันลองฝึกอีกซักนิดนึงดีกว่า
ต่อให้ลดความเร็วในการร่ายลงได้อีกแค่นิดเดียวมันก็ยังมีค่าเพราะมันอาจจะมีอิทธิพลต่อผลลัพธ์ในการต่อสู้อย่างมหาศาล ดังนั้น, ลิงค์ จะไม่ตัดใจและผลักดันตัวเองอย่างหนักหน่วงเพื่อพัฒนาความเร็วของเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่เขาจะสามารถทำได้ เพราะฉะนั้นเขาก็เลยฝึกต่อ
ลิงค์ ใช้เวลาต่อไปอีกสามชั่วโมงในการดัดแปลงเวทย์บอลเพลิง เขาฝึกมันจนกระทั่งเขาไม่รู้สึกถึงความคืบหน้าอีก, จนกระทั้งเขามาถึงขีดจำกัด จากนั้น ลิงค์ ก็สังเกตุเห็นการแจ้งเตือนปรากฏขึ้นในหน้าอินเตอร์เฟส
เขาตรวจสอบมันและพบว่ามันคือประกาศจากระบบเกมส์
ผู้เล่นได้สำเร็จในการดัดแปลงเวทย์บอลเพลิงเลเวล 0 โปรดตั้งชื่อให้เวทย์ใหม่
ลิงค์ หัวเราะออกมาเบาๆ, ด้วยความรู้สึกเพลิดเพลินและตื่นเต้นที่เขามีพลังในการตั้งชื่อเวทย์มนตร์ใหม่ เขาคิดถึงรูปลักษณ์ที่เป็นของแข็งที่มีลักษณะคล้ายแก้ว, แล้วเขาก็พูดออกมา “เรียกมันว่าลูกแก้วละกัน ลูกแก้วของ ลิงค์ 555”
เวทย์มนตร์ชื่อ “ลูกแก้ว”
ผู้เล่นสำเร็จในการดัดแปลงเวทย์มนตร์เลเวล 0, ได้รับรางวัลเป็น 1 โอมนิพ้อยท์
ฮ่า, นี่ฉันได้รับรางวัลโอมนิพ้อยท์จากเรื่องนี้ด้วยหรอ, ไม่เลวเลยนะเนี่ย ลิงค์ มีแรงจูงใจมากขึ้นในตอนนี้
ตอนนี้เขามีค่าโอมนิทั้งหมด 106 พ้อยท์ แต่เพราะเขายังคงอยู่ภายใต้ผลของโรคมานา, ต่อให้เขาใช้พ้อยท์ทั้งหมดของเขาไปกับการเพิ่มมานาสูงสุดของเขา, เขาก็เพิ่มได้สูงสุดเพียงแค่ 106 เท่านั้น แถมอีกแค่สามเดือนหลังจากนี้มันก็จะฟื้นฟูกลับมาแล้ว และเขาก็ไม่ได้ต้องการมานาจำนวนมากในตอนนี้, ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะเก็บค่าโอมนิพ้อยท์พวกนี้ไว้ใช้ทีหลัง
แต่ละพ้อยท์ก็เหมือนกับไพ่ที่อยู่ใต้แขนเสื้อของเขา, ดังนั้นเขาคิดว่ามันจะฉลาดกว่าถ้ามีค่าโอมนิพ้อยท์อยู่ในมือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
หลังจากที่เขาอ่านตำราเวทย์มนตร์จบและดัดแปลงบอลเพลิงได้สำเร็จ, ความคิดของ ลิงค์ ก็กลับมาที่วิทยานิพนธ์ของเขาในที่สุด
ครั้งนี้, เพราะเขาได้รับความคิดใหม่ๆมากมายจากตำรา, เขาจึงกลับมาพยายามในเรื่องกฏของแรงโน้มถ่วงสากลต่อ มันพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว, จนกระทั่งกระบวนการการอนุมานมันลึกซึ้งเกินไปจนกฏการอนุมานกลายเป็นบางสิ่งที่ไม่สามารถจดจำได้อย่างสมบูรณ์
ในตอนสุดท้าย, เขาไม่เข้าใจแม้กระทั่งข้อสรุปที่การอนุมานของเขาพาเขาไป
แต่ครั้งนี้, การอนุมานของ ลิงค์ จบลงเร็วกว่าที่คาดเอาไว้มาก, ไม่ใช่เพราะไม่มีความคิดเพิ่มอีก, แต่เป็นเพราะกระดาษหนังแพะของเขาหมดเกลี้ยงแล้ว หมึกที่ใช้ก็หมดแล้วเช่นกัน มันถึงเวลาแล้วสำหรับเขาที่จะเติมเครื่องเขียนของเขาแล้ว
เขาคลำกระเป๋าเงินของเขา, จากนั้นเขาก็รู้สึกอับอายในสถานการณ์ของตัวเอง เขามีเงินเหลืออยู่น้อยมากๆ— เหลือแค่ประมาณสามเหรียญเงินเท่านั้น
“ฉันจำเป็นต้องหาเงินเพิ่มแล้วหล่ะ”
กระเป้าตังของเขาแทบจะว่างเปล่า ถ้าเขาไม่ออกไปหาเงินในตอนนี้, เขาอาจจะต้องไปขอทานตามข้างถนนในเร็วๆนี้