“นายท่าน ข้างหน้ามีภูเขาแปลกๆที่มีควันลอยอยู่ด้านบนด้วยค่ะ” นานะพูดในขณะที่วิ่ง เสียงของเธอดูหายใจไม่ทันเล็กน้อย
ลิงค์นั้นยังคงมึนหัวอยู่ แต่ว่าความรู้สึกอบอุ่นที่ไหลผ่านร่างกายของเขาก็ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมากแล้ว พอเขาได้ยินสิ่งที่นานะพูด เขาก็พยายามลืมตาขึ้นแล้วมองไปที่ภูเขา
ตอนนี้พวกเขาถูกล้อมรอบด้วยพื้นที่ราบที่มีหญ้าสูงเท่ากับตัวคน ที่ระยะไกลออกไปมีเมืองที่เบื้องหน้ามีป่าโปร่งอยู่ ป่านั้นได้ขยายไปถึงครึ่งนึงของภูเขา
เหนือขึ้นไปบนภูเขา ไม่มีต้นไม้อีกแล้ว มีเพียงต้นหญ้า ตะไคร่น้ำและก้อนหินเท่านั้น และสูงขึ้นไปอีก ก็ไม่มีหญ้าอยู๋เลย มีแต่ก้อนหินสีดำที่หลงเหลืออยู่เท่านั้น และที่ด้านบนสุดของยอดเขาก็เหมือนกับที่นานะพูด มันมีกลุ่มควันออกมาจากยอดเขา
มันมีรูปร่างที่เป็นเอกลักษณ์ และลิงค์ก็จำมันได้ในทันที “มันคือภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ พวกเราได้มาถึงพื้นที่ใจกลางของอาณาจักรนอร์ตันแล้ว ภูเขาไฟนี้มีชื่อว่า ภูเขาไฟแอซซาโร่ และมันจะปะทุในทุกๆ 10 ปี ที่ยอดของมันมีหลุมลาวาที่มีแมกมาร้อนมากๆอยู่ข้างใน ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่ทำไมมันถึงปล่อยควันออกมา”
“ว้าว” นานะดูสนใจมากๆ ยังไงก็ตาม ตอนนี้พวกเขากำลังถูกปีศาจปีกโหยหวนไล่ล่าและกำลังปีนขึ้นเนินเขาอยู่ทำให้ความเร็วของพวกเขาลดลงอย่างมาก เธอนั้นเตรียมตัวที่จะวิ่งวนรอบภูเขา
“อย่าวิ่งวน ขึ้นไปด้านบนเลย มันจะมีรูแมกม่าอยู่ระหว่างทางขึ้น พวกเราจะใช้มันเพื่อสลัดพวกปีศาจออก!”ลิงค์พูด เขานั้นคุ้นเคยกับเส้นทางในอุโมงค์ที่เชื่อมต่อกันในภูเขาไฟเป็นอย่างดี
ภายในเกม มีทางเข้าที่แตกต่างกันมากมายในภูเขาไฟแอซซาโร่ ในชีวิตก่อนของเขา ลิงค์ได้สำรวจมันมากกว่า 200 ครั้งและคุ้นเคยกับทางเดินจนเขาสามารถหลับตาเดินผ่านพวกมันได้โดยไม่หลงเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นนี่จึงเป็นสถานที่ที่ดีมากๆในการจัดการกับคนที่ไล่ตามมา
การจัดการคนที่ไล่ตามมานั้นก็เป็นเหตุผลนึง แต่จริงๆแล้วมันมีเหตุผลอื่นอีกที่ลิงค์ต้องการในสถานที่แห่งนี้
ในตอนแรกที่เขามองไปที่ภูเขาเขาได้นึกถึงอุณหภูมิอันมหาศาลของลาวาที่อยู่ข้างในนั้น แต่ด้วยเหตุผลบางประการ เขารู้สึกได้ว่าเขาต้องเข้าไปหามัน ราวกับว่ามันมีอะไรบางอย่างกำลังเรียกหาเขาอยู่
มันเป็นความรู้สึกที่แปลกมากๆสำหรับนักเวทย์ ปกติลิงค์จะเป็นคนใจเย็นและควบคุมอารมณ์ได้ เขาจะรู้สึกตื่นเต้นแค่ตอนที่ได้เรียนเวทมนตร์ใหม่ แต่นอกนั้นจิตใจของเขาก็จะเย็นเหมือนกับสายน้ำ
ความรู้สึกที่อยู่ๆก็เกิดขึ้นมาในจิตใจของเขานี้ผิดปกติ และด้วยความที่ไม่สามารถหาคำอธิบายให้กับมันได้ ลิงค์จึงตัดสินใจที่จะเชื่อความรู้สึกนี้
ยังไงซะ การไปดูลาวานั้นก็ไม่มีอันตรายซักหน่อย
เดิมทีนานะตั้งใจจะไปทางนั้นอยู่แล้ว ดังนั้นในตอนที่ลิงค์สั่งให้เธอขึ้นไปบนเขา เธอจึงรีบตรงขึ้นไปบนเขาในทันที
ตอนนี้พวกปีศาจปีกโหยหวนนั้นอยู่ห่างไม่ถึง 1,500 ฟุตแล้ว แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะเดินทางด้วยความเร็วที่ใกล้เคียงกัน แต่นานะนั้นได้ถูกจำกัดความเร็วด้วยภูมิประเทศของพื้นดินและความปลอดภัยของลิงค์ ในขณะที่พวกปีศาจนั้นกำลังค่อยๆไล่ตามมา
ณ ตอนนี้ พวกปีศาจรู้ตัวแล้วว่านานะกำลังมุ่งหน้าไปที่ยอดของภูเขา พวกมันหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “พี่น้องตามข้ามา! พวกเราจะไปอ้อมดักพวกมันที่ด้านหน้า!”
การไต่ขึ้นเนินเขานั้นแน่นอนว่าต้องใช้เวลามากขึ้นและทำให้นานะช้าลง ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังต้องเดินสวนทิศทางลมอีกต่างหาก เทียบกับเธอแล้ว พวกปีศาจนั้นสามารถบินได้ ดังนั้นภูมิประเทศของภูเขาจึงไม่เป็นปัญหาสำหรับพวกมัน
ถ้าเป็นแบบนี้พวกมันไล่ตามทันแน่
ในตอนที่นานะมาถึงด้านข้างของภูเขา พวกปีศาจก็ไล่ตามเข้ามาอยู่ในระยะ 600 ฟุตแล้ว และกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
“ไปทางซ้าย ประมาณ 600 ฟุต เธอเห็นหินสีเทารึเปล่า?” ลิงค์ชี้
นานะพยักหน้า
“พุ่งไปตรงนั้นเลย”
ภายใน 2 วินาที นานะก็วนรอบหินบนภูเขาที่มีอยู่มากมายและมาถึงจุดที่ลิงค์ชี้ ในตอนนี้ พวกปีศาจปีกโหยหวนได้เข้ามาใกล้อีก 300 ฟุตแล้ว
“ไปที่ด้านหลังของหินก้อนนี้ มันจะมีกำแพงบางๆอยู่…เห็นมันรึเปล่า? ถีบมันให้แรงที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย!” ลิงค์สั่ง
นานะถีบมันด้วยเท้าของเธอ ครืน กำแพงพังลงและเปิดให้เห็นช่องว่างที่เป็นทางอุโมงค์ เธอพุ่งเข้าไปข้างในนั้น
ลิงค์ได้ร่ายเวทย์แสงเลเวล 0 เพื่อทำให้ทางสว่าง เขาพยายามประหยัดมานาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพียงแค่เวทย์เบื้องต้นก็ทำให้เขาปวดหัวแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะระบบเกมได้แจ้งเตือนสถานะวิญญาณอ่อนแอกับเขา เขาก็คงจะคิดว่ามานาในร่างของเขาหมดเกลี้ยงไปแล้ว
ในตอนที่พวกเขาเข้ามาในถ้ำ พวกปีศาจปีกโหยหวนก็ได้มาถึงทางเข้าอุโมงค์
พวกมันมีทั้งหมด 11 ตัวและมารวมตัวกันอยู่ด้านหน้าถ้ำที่มีความสูง 6 ฟุต พวกมันต่างก็มองหน้ากัน
“ไอ้นักเวทย์นี่มันเป็นหนูรึไง? ทำไมมันวิ่งหนีเข้าไปในถ้ำตลอดเลย?” คราวก่อนตอนที่อยู่หุบเขาโหยหวนก็ครั้งนึงแล้ว ยังจะมาครั้งนี้อีก ลิงค์ได้หนีเข้าไปในถ้ำซึ่งพวกมันที่มีความสูง 12 ฟุตไม่สามารถเข้าไปได้
“จริงๆแล้วอุโมงค์ไม่ได้เล็กขนาดนั้นนะ พวกเราสามารถทำลายทางและฝ่าเข้าไปได้ แต่ที่สำคัญกว่านั้น ทำไมพวกมันถึงรู้ว่ามีถ้ำอยู่ตรงนี้หล่ะ?” หนึ่งในพวกปีศาจทำสีหน้าครุ่นคิด
“พวกมันจะต้องเคยมาที่นี่และคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้อย่างแน่นอน ถ้าเป็นแบบนี้หากพวกเราเข้าไป พวกเราจะต้องงานเข้าแน่ๆ”
“งั้นพวกเราจะเอายังไงกันดี?”
“รอท่านผู้บัญชาการก่อนเถอะ”
ดังนั้น กลุ่มพวกปีศาจก็รออยู่ด้านนอกอุโมงค์เพื่อรอให้ซัคคิวบัสเมียสเมอร์มาถึง
ปีกของเมียสเมอร์นั้นได้ถูกลิงค์ทำลายไป เธอจึงต้องเดินทางด้วยเท้า และความเร็วของเธอก็ช้าลงมาก พวกปีศาจรออยู่เป็นเวลา 1 ชั่วโมงก่อนที่เมียสเมอร์จะมาถึงในที่สุด
“พวกแกมัวทำอะไรกันอยู่? ไอ้นักเวทย์มันอยู่ที่ไหน?”
ปีศาจตัวนึงได้ชี้ไปที่ทางเข้าอุโมงค์ “พวกมันอยู่ข้างในครับ เห็นได้ชัดว่าพวกมันรู้จักสถานที่นี้เป็นอย่างดี พวกเราจึงไม่มีทางเลือกนอกจากรอคำสั่งจากท่านครับ”
ในตอนนี้ เมียสเมอร์ได้ฟื้นฟูความสามารถในการต่อสู้ของเธอกลับมาแล้ว เธอเดินไปที่ทางเข้าถ้ำและตรวจสอบมัน เธอมองเข้าไปในอุโมงค์มืดๆและกัดริมฝีปาก “ไอ้นักเวทย์ยังพยายามดิ้นรนร่ายเวทย์อยู่อีกหรอ ตอนนี้มันอ่อนแอมากแล้ว สิ่งเดียวที่พวกเราต้องระวังก็คือหุ่นเชิดของมัน แต่ไม่ว่าหุ่นเชิดของมันจะแข็งแกร่งขนาดไหน มันก็มีแค่ตัวเดียว พวกเราจะไล่ตามมันเข้าไป!”
โอกาสในการฆ่าลิงค์นั้นไม่ค่อยจะมีนัก ถ้าเกิดว่าพวกเขาทำพลาด แล้วลิงค์ฟื้นตัวกลับมาได้ พวกเขาอาจจะต้องเผชิญหน้ากับนักเวทย์ระดับตำนาน!
เมื่อได้ยินคำสั่งของเธอ ปีศาจปีกโหยหวนก็มองหน้ากัน จากนั้น พวกมันคนนึงก็เดินออกมาและฟันเข้าไปที่กำแพงหิน ครืนน… ในชั่วพริบตา ทางเข้าอุโมงค์ก็ขยายขึ้นเป็นสูง 24 ฟุตและกว้าง 15 ฟุต
“พอเห็นมันกว้างขนาดนี้ ข้าก็ค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย!” ปีศาจตัวนึงพูดขึ้นมา เขากังวลว่าพื้นที่แห่งนี้จะแคบเกินไปและอาจทำให้คู่ต่อสู้ใช้ประโยชน์จากขนาดตัวที่เล็กในการซ่อนตัวและลอบโจมตีได้ เขาคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาตายยังไง แต่พอเห็นว่าพื้นที่ขยายขึ้นมาก เขาก็สามารถใช้พลังและขนาดตัวได้แบบรู้สึกกลัวน้อยลงแล้ว
“เข้าไปข้างในซะ” เมียสเมอร์สั่ง
ปีศาจปีกโหยหวนพากันกรูเข้าไปในอุโมงค์ หลังจากเข้าไปได้ 150 ฟุต ปีศาจตัวที่อยู่ด้านหน้าก็พูดขึ้น “ท่านผู้บัญชาการครับ มันมีทางแยกอยู่ข้างหน้า”
“เจ้าได้กลิ่นไหมว่ามันไปทางไหน?” เมียสเมอร์ถามจากตรงกลางกลุ่ม
เสียงดมกลิ่นดังขึ้นมาจากด้านหน้า หลังจากนั้นสักพัก ปีศาจก็ตอบกลับมา “มีกลิ่นของมนุษย์จากทั้งสองฝั่งเลย ยิ่งไปกว่านั้น อุโมงค์นี้เป็นอุโมงค์เปิด มีลมพัดผ่านอยู่ตลอด เราไม่มีทางรู้เลยว่าพวกมันไปทางไหน”
“ใจเย็นหน่า หากรวมข้าไปด้วยพวกเราก็มีกันทั้งหมด 12 คน พวกเราจะแยกกันหาฝั่งละ 6 คน” เมียสเมอร์พูดหลังจากคิดอยู่พักนึง
จากนั้นเธอก็ทำการแยกพวกปีศาจออกเป็นกลุ่ม
ในหมู่พวกปีศาจ มี 6 ตัวที่เป็นเลเวล 7 และอีก 5 ตัวที่เป็นเลเวล 8 หลังจากแยกกลุ่มกัน กลุ่มแรกนั้นมีปีศาจเลเวล 8 อยู่ 4 ตัว เลเวล 7 อยู่ 2 ตัว และกลุ่มที่สองมีเลเวล 8 อยู่ 1 ตัว เลเวล 7 อยู่ 4 ตัวรวมถึงตัวเธอเองด้วย ซึ่งมันทำให้พลังต่อสู้ของทั้งสองทีมนั้นเท่ากัน
“เอาหล่ะ ไปกันได้แล้ว ถ้าพวกเจ้าเจออะไร ให้ตะโกนเรียกเลยนะ แล้วพวกข้าจะรีบตามไป”
“รับทราบครับ ท่านผู้บัญชาการ!”
ปีศาจทั้งสองกลุ่มแยกออกไปทางซ้ายและขวาของอุโมงค์
หลังจากที่เดินไปได้อีก 300 ฟุต ปีศาจที่นำหน้าอยู่ก็พูดขึ้นมาอีกครั้งอย่างรู้สึกรำคาญ “ผู้บัญชาการ มีทางแยกข้างหน้าอีกแล้วครับ ครั้งนี้ มันแยกออกเป็นสามทาง”
เมียสเมอร์เดินมาข้างหน้าเพื่อตรวจสอบดู ทางข้างหน้านั้นเป็นห้องกว้างที่มีเส้นทาง 4 เส้น เส้นแรกคือที่ๆพวกเขากำลังอยู่ในตอนนี้ ในขณะที่อีก 3 เส้นนั้นนำทางลึกเข้าไปในภูเขา มันมีกลิ่นกำมะถันจางๆจากทุกเส้นทางและแน่นอนว่ามันมีกลิ่นของมนุษย์เช่นเดียวกัน
ตอนนี้พวกเขามีกันอยู่แค่ 6 คน ถ้าพวกเขาแยกออกเป็น 3 กลุ่มแบบเมื่อสักครู่นี้ พวกเขาก็จะไม่สามารถรับมือกับการลอบโจมตีของหุ่นเชิดเวทมนตร์ได้
“ไอ้รูบัดซบเอ๊ย!”
เมียสเมอร์สบถเบาๆ หลังจากที่คิดอยู่พักนึง เธอก็พูดกับปีศาจเลเวล 8 อีกตัว “พวกเราจะพาปีศาจไปกันคนละสองและไปสำรวจในสองเส้นทาง เจ้าเอาพวกนั้นไป ส่วนข้าจะเอาพวกนี้ไปเอง อย่าลืมทำสัญลักษณ์ระหว่างทางและอย่าหลงทางด้วยหล่ะ แล้วถ้าเจ้าเจออะไรบางอย่างให้ตะโกนเรียกข้าในทันที”
เมียสเมอร์เคยสู้กับนานะมาก่อน เธอรู้ว่านานะนั้นมีพละกำลังเท่ากับนักรบเลเวล 8 ดังนั้น ด้วยทีมที่มีปีศาจเลเวล 8 อยู่ในทีม แม้ว่าพวกเขาอาจจะไม่สามารถจัดการนานะได้ แต่พวกเขาก็น่าจะสามารถถ่วงเวลาเพื่อให้เธอไปถึงได้
“ได้ครับ” ปีศาจดูไม่พอใจเล็กน้อย แต่ว่าเขาไม่มีทางเลือก
ทั้ง 2 ทีมได้แยกกันไปในอุโมงค์ที่ตัวเองได้รับมอบหมายให้ไปสำรวจ
…
ที่ด้านนอกอุโมงค์มีเงาเล็กๆโผล่ขึ้นมา นั่นคือยับบ้าหญิงเมอลินดา เธอแบกปืนขนาดเท่าตัวคนมาด้วย และยังมีกระเป๋าที่ติดอยู่กับเอวของเธอซึ่งมีแมวดำอยู่ข้างใน ในตอนนี้ เธอกำลังพยายามปีนขึ้นหินก้อนใหญ่อยู่
“พวกเขาอยู่ไหน?” เมลินดาเช็ดเหงื่อที่หน้าผากของเธอ หลังจากที่รีบตรงมายังที่แห่งนี้ เธอนั้นรู้สึกเหนื่อยมากๆ บาดแผลที่ขาของเธอยังรู้สึกเจ็บอยู่และดูเหมือนว่าแผลจะเปิดด้วย ซึ่งสามารถดูได้จากเลือดที่ไหลออกมา
ยังไงก็ตาม เธอนั้นไม่ได้สนใจ สิ่งเดียวที่เธอสนใจในตอนนี้ก็คือ การช่วยลิงค์ ถ้าเกิดว่าเธอช่วยเขาได้ จะให้เธอเสียสละแม้แต่วิญญาณของเธอก็ยังได้
“มันอยู่ข้างหย้า ดูฉิ ตรงยั้นมีทางข้าวอุโมงค์อยู่ ไปตรงย้าน แต่ระวางจ้วยนะ พวกปีฉาจเองก็อยู่ในอุโมงค์ย่วย” แมวดำพูด เนื่องจากมันโดนถอนฟันออก คำพูดของมันจึงไม่ชัดและฟังยากมาก ปากของมันนั้นเต็มไปด้วยเลือด และขนบนหัวของมันก็ม้วนพันกันอย่างวุ่นวาย มันดูน่าสงสารอย่างน่าประหลาด
ตอนนี้มันมีความคิดแค่อย่างเดียว ซึ่งนั่นก็คือการตามหาลิงค์ พอเขาเจอลิงค์แล้ว เขาก็จะรีบไปให้ห่างจากยัยยับบ้าหญิงเสียสตินี่และกลับไปอยู่ข้างกายลิงค์
แม้ว่าวิธีการของลิงค์นั้นจะห่าม แต่เขาก็ยังพยายามจะต่อรองกับเขา ไม่เหมือนกับยับบ้าหญิง ด้วยเหตุผลอะไรไม่รู้ เธอเริ่มที่จะเกลียดเขา ช่างน่าสงสารอะไรเยี่ยงนี้!