Advent of the Archmage – ตอนที่ 358: ช่วงเวลาก่อนศึกสุดท้าย ส่วนที่3

Chapter 358: ช่วงเวลาก่อนศึกสุดท้าย ส่วนที่3

 

ตุ้มเต็ม!

 

ครึ่งไมล์ออกไปนอกเมืองหลวงวิทยาศาสตร์ลาริเอล ปืนใหญ่เวทมนตร์ที่เป็นของพวกดาร์กเอลฟ์กําลังระดมยิงใส่บาเรียป้องกันเวทมนตร์ของเมืองลาริเอล

 

ลาริเอลนั้นไม่มีกําแพงเมือง แต่มันถูกแทนที่ด้วย บาเรียเวทมนตร์รูปแบบโดม บาเรียนี้แข็งแกร่งมากๆและมีพลังอยู่ที่จุดสูงสุดของเลเวล 9 มันใหญ่มากๆ มันหนาอย่างน้อย 30 ฟุต และมีเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า2.5ไมล์

 

กระสุนปืนใหญ่เวทมนตร์ทุกนัดนั้นมีพลังเท่ากับจุดสูงสุดของเลเวล 6 แต่ถึงอย่างนั้น พวกดาร์กเอลฟ์ก็ยังคงระดมยิงใส่เมืองอย่างต่อเนื่องมา 3 วันแล้วและใช้กระสุนปืนใหญ่ไปมากกว่า 1,000 นัด โดยที่บาเรียเวทมนตร์บางลงไปแค่นิดเดียวเท่านั้น

 

ในตอนที่ไอมอนส์มาถึงที่นี่ ปืนใหญ่ก็ยังคงยิงอย่างต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน

 

“สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?” ไอมอนส์ไปที่ค่ายผู้บัญชาการในทันทีและถามลูกศิษย์ของเขา ลอนเดล

 

ในการลอบโจมตีชนเผ่ายับบ้าน ไอมอนส์เป็นผู้บัญชาการภาพรวม ผู้บัญชาการพวกปีศาจก็คือเมียสเมอร์ ในขณะที่ลอนเดลเป็นรองผู้บัญชาการของไอมอนส์ และเป็นผู้ช่วยที่ดีของเขาอีกด้วย

 

“พลังของบาเรียได้ลดลงไปได้ 8.3% จากเมื่อ 3 วันก่อน ถ้าเป็นแบบนี้ พวกเราจะสามารถลดพลังของมันให้เหลือต่ำ กว่า 50% ได้ภายใน 20 วันครับ และในตอนนั้น ด้วยพละกําลังของปีศาจที่รวมเข้ากับดาร์กเอลฟ์ พวกเราจะสามารถบุกเข้าไปยึดเมืองลาริเอลได้สําเร็จอย่างแน่นอน” ลอนเดลรายงาน เขาทําการคาดการณ์อย่างแม่นยํา

 

“20วันเลยรึ? คริสตัลเวทมนตร์สามารถทนต่อการใช้งานนานขนาดนั้นได้ด้วยหรอ?”ไอมอนส์ถาม

 

ปืนใหญ่เวทมนตร์นั้นได้รับพลังงานจากคริสตัลเวทมนตร์ แบบพิเศษที่ได้มาจากพวกยับบ้า พวกเขาได้รับเทคโนโลยีนี้มาจากเมืองของยับบ้าที่พวกเขาเข้าไปยึด ส่วนเรื่องคริสตัลเวทมนตร์นั้น ทางเดียวที่จะได้มันมาคือจากเมืองลอยฟ้าพอลโลล เพราะว่าที่นั่นเป็นที่เดียวที่มีโรงงานผลิตคริสตัลพวกนี้ คริสตัลพวกนี้จึงมีจํากัดมากๆ

 

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าจํานวนที่มีจํากัดของคริสตัล พวกเขาก็คงจะยิงมากกว่า 1,000 ลูกแล้วในช่วง 3 วันที่ผ่านมานี้ ถ้าจะให้พูดจริงๆ ตอนนี้พวกเขาอาจจะทะลวงผ่านบาเรียได้แล้วก็ได้

 

ลอนเดลตอบอย่างมั่นใจ “เรื่องนั้นไม่มีปัญหาครับ จริงๆ แล้วข้าได้ไปเจอพิมพ์เขียวของโรงงานคริสตัลมา และข้าก็กําลังสร้างโรงงานคริสตัลสําหรับพวกเราอยู่ มันน่าจะพร้อมทํางานภายในเวลาครึ่งเดือน และเมื่อถึงตอนนั้นอัตราการยิงของพวกเราก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล!”

 

ไอมอนส์ยิ้มออกมาเล็กน้อย เขาชอบที่จะเห็นท่าทางที่เต็มไปด้วยความมั่นใจของลูกศิษย์ จากนั้นเขาก็ถาม “ตอนนี้พวกเรามีปืนใหญ่เท่าไหร่? แล้วเรือบินหล่ะ? ข้าต้องการตัวเลขที่แน่นอน”

 

ลอนเดลรู้สึกได้ว่าคําถามมันแปลกๆ แต่เขาก็รายงายตัวเลขไปอยู่ดี “พวกเรามีปืนใหญ่ 500 กระบอก โดยมี 200 กระบอกที่กําลังใช้อยู่ในบรรดาอาวุธเหล่านี้ มี 50 ก ระบอกที่พวกเราเป็นคนสร้าง แต่มันก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพซักเท่าไหร่ และพวกเรายังมีเรือบินอีก 5 ลํา ซึ่งบนเรือบินแต่ละลํานั้นมีปืนใหญ่ 50 กระบอก แม้ว่าตอนนี้พวกเรา จะสามารถควบคุมให้มันบินได้ แต่ว่ายังคงต้องใช้การฝึกอีกเล็กน้อยถึงจะสามารถใช้ในการต่อสู้ได้อย่างเชี่ยวชาญ”

 

“เรือบินยังใช้การไม่ได้อีกหรอ? ไม่ใช่ว่าพวกเรามีทีมนักบินของยับบ้าอยู่หรอกหรอ?”

 

ลอนเดลตอบ “ท่านอาจารย์ ข้ากําลังจะรายงานท่านอยู่พอดีเลย หุ่นเชิดยับบ้าที่ถูกควบคุมโดยอสรพิษทมิฬนั้นไร้ประโยชน์มาก การควบคุมเรือบินเป็นกระบวนการที่ละเอียดอ่อน จิตใจของหุ่นเชิดพวกนี้ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดและพวกมันก็ไม่สามารถควบคุมเรือได้ ความจริงก็คือ พวกมันได้ทําเรือบินพังไปแล้วลํานึงด้วยครับ”

 

เมื่อได้ยินรายงานนี้ ไอมอนส์ก็ยืนคิดอยู่เงียบๆ

 

จากนั้นไอมอนส์ก็ไปที่แนวหน้าของสนามรบ ในตอนที่เขาปรากฏตัวขึ้น มีกระสุนหลายนัดทุ่งมาทางเขาด้วยฝีมือของนักแม่นปืนยับบ้า พวกเขานั้นแม่นยําและรุนแรง และเป็นเพราะพวกเขานี่แหละที่ทําให้กองทัพแห่งความมืด ได้รับความเสียหายมากขนาดนี้

 

แน่นอน การโจมตีพวกนี้ไม่มีผลกับไอมอนส์ รอบตัวเขามีบาเรียปรากฏขึ้น แกร๊ง แกร๊ง แกร๊ง เมื่อปะทะเข้ากับบาเรีย กระสุนก็ร่วงลงพื้น

 

ไอมอนส์มองไปที่บาเรียเวทมนตร์อันหนาแน่นรอบๆลาริเอลแล้วถอนหายใจ

 

บาเรียเวทมนตร์ของยับบ้านั้นไม่เพียงแค่หนามากๆ แต่มันยังถูกออกแบบมาดีมากๆด้วย

 

มันไม่ใช่แค่บาเรียหนาๆที่จะสลายไปเมื่อพังมันได้ มันถูกสร้างขึ้นมาจากชั้นของบาเรียเล็กๆหลายๆชั้น เพราะฉะนั้น ต่อให้พวกมันบางส่วนถูกทําลายไป ชั้นอื่นก็ยังคงไม่ได้ รับผลกระทบ

 

สําหรับการป้องกันแบบนี้ ต่อให้ไอมอนส์ใช้อุปกรณ์ระดับพระเจ้าโจมตีเข้าไปมันก็คงจะไม่มีประโยชน์ ทั้งหมดที่เขาทําได้ก็คือเปิดรูกําแพงเป็นจุดๆเพื่อให้กองกำลังของเขาสามารถใช้เป็นทางเข้าได้ ซึ่งมันจะถูกโจมตีจากยับบ้าทุกคนที่อยู่รอบๆมัน และก็จะทําให้การโจมตีของเขาล้มเหลว

 

ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ชนเผ่ายับบ้าโบราณได้ถูกโจมตีอยู่หลายครั้ง ประวัติศาตร์ของพวกเขานั้นสั้นกว่า ชนเผ่ายับบ้าโบราณแค่เพียงนิดเดียวเท่านั้น

 

หลังจากที่ยืนสังเกตุการณ์อยู่อีก 10 วินาที ไอมอนส์ก็หันกลับมาและพูดกับลอนเดล “เตรียมตัวถอย!”

 

ลอนเดลตกใจ” ท่านอาจารย์ ไหงจู่ๆถึง?”

 

ไอมอนส์ตอบด้วยการอธิบายที่ไม่ค่อยเหมือนการอธิบายซักเท่าไหร่ ยังไงก็ตาม เขารู้ว่าลูกศิษย์ของเขาจะต้องเข้าใจ “ลิงค์เชี่ยวชาญเวทย์ระดับตํานานแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น มันได้กลับไปที่ป้อมโอริด้า พร้อมกับข่าวการโจมตีของพวกเราด้วย”

 

ลอนเดลหยุดพูดในทันที

 

เขารู้ว่าการโจมตียับบ้านั้นเป็นการโจมตีแบบลับๆ นี่เป็นเหตุผลว่าทําไมพวกเขาถึงทําทุกอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลรั่วไหล ถ้าเกิดว่ากองกําลังพันธมิตรได้ยินข่าวเรื่องนี้ กองทัพแห่งความมืดก็จะถูกโจมตีจากสองฝั่ง ยิ่งไปกว่านั้น ลิงค์ได้เชี่ยวชาญเวทย์ระดับตํานานโดยที่ไม่มีใครคาดคิด ซึ่งนั่นทําให้เขากลายเป็นนักเวทย์ระดับตํานาน นี่เขาเลื่อนขั้นด้วยความเร็วขนาดนี้ได้ยังไงกัน?

 

ไอมอนส์พูดต่อ “เมียสเมอร์กับข้าได้พยายามหยุดมันแล้ว แต่ในท้ายที่สุด เมียสเมอร์ก็ถูกฆ่า และข้าก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องวาปหนีออกมา ไม่เพียงแค่มันจะเชี่ยวชาญเวทย์ระดับตํานานเท่านั้น แต่หุ่นเชิดเวทมนตร์ของมัน ยังมีพลังมากพอที่จะต้านทานอุปกรณ์ระดับพระเจ้าอีกด้วย ข้าคิดว่าลิงค์น่าจะได้รับความรู้บางอย่างมาจากการต่อสู้กับอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ของมังกร”

 

ลอนเดลถึงกับตะลึง แต่ว่าภายในใจของเขาก็ยังคง คิดแผนการอย่างรวดเร็ว “ถ้าเป็นอย่างนั้น พวกเราก็ต้องโจมตีป้อมโอริด้าก่อนที่คู่ต่อสู้จะพร้อม ไม่ว่ายังไงพวกเราก็ต้องทําลายป้อมนั้นให้ได้”

 

“ถูกต้อง” ไอมอนส์ดีใจกับลูกศิษย์ของเขา ไม่ว่าเขาจะมอบหมายอะไรให้ลูกศิษย์ของเขา มันก็จะสําเร็จตามความพึงพอใจของเขาได้โดยที่ไม่มีข้อบกพร่อง

 

“ท่านอาจารย์ การให้กองทัพของพวกเราถอยคงไม่มีปัญหาอะไรหรอก แต่ว่าพวกปีศาจหล่ะ?” พวกปีศาจนั้นไม่ได้ทํางานภายใต้คําสั่งของดาร์กเอลฟ์และเมื่อเมียสเมอร์ตายไป พวกเขาจึงสูญเสียสายบังคับบัญชาไป

 

“เรื่องนั้นข้าจัดการเอง ข้าจะไปติดต่อกับเจ้านรก โนโซ ม่า”

 

หลังจากที่ออกมาจากแนวหน้า ไอมอนส์ก็ไปอัญเชิญบ่อเลือดออกมาในทันที

 

ทางเข้าของบ่อเลือดนั้นอยู่ลึกเข้าไปในป่า รอบๆมันมีปีศาจระดับสูงมากมายคอยปกป้องมันอยู่ มันถูกป้องกันอย่างแน่นหนาถึงแม้ว่าจะบินไปก็ไม่สามารถเข้าได้ แม้กระทั่งไอมอนส์เองที่เป็นผู้อัญเชิญปีศาจออกมาก็ยังไม่สามารถเข้าออกได้ตามใจชอบ

 

ในตอนที่เขาเข้ามาในป่า เขาก็ถูกปีศาจแห่งความกลัวหยุดเอาไว้ “ท่านไอมอนส์ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาของการอัญเชิญ ท่านมีธุระอะไรอย่างงั้นรึ?”

 

ไอมอนส์รู้ว่าปีศาจแห่งความกลัวไม่ใช่การ์ดคนเดียวในบริเวณนี้ รอบๆพวกเขานั้นยังมีปีศาจมิติซ่อนอยู่อีกอย่างน้อย 3 ตัว ถ้าเกิดว่าเขาทําอะไรที่น่าสงสัย เขาก็จะ ถูกปีศาจพวกนี้โจมตีในทันที เขาพยามยามรักษาท่าทางของเขาเอาไว้และพูด “ข้ามีเรื่องสําคัญบางอย่างจะปรึกษากับเจ้านายของเจ้า ได้โปรดนําทางให้ด้วย”

 

ปีศาจแห่งความกลัวเงียบไปพักนึง ความจริงคือเขาดูลังเล ไอมอนส์รู้ว่าพวกปีศาจนั้นใช้วิธีลับในการคุยกันระหว่างพวกปีศาจที่ปกป้องบ่อเลือดอัญเชิญอยู่ ดังนั้นเขาจึงรออย่างเงียบๆ

 

หลังจากผ่านไปพักนึง ปีศาจแห่งความกลัวก็ถามขึ้น “ผู้บัญชาการเมียสเมอร์อยู่ที่ไหน? ทําไมเธอถึงไม่อยู่ที่นี่?”

 

“นั่นคือเรื่องที่ข้าจะไปปรึกษากับนายของเจ้า เมียสเมอร์พบกับจุดจบที่ไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่”

 

ปีศาจแห่งความกลัวตกตะลึง “อะไรนะ! เธอตายได้ยังไงกัน? ใครเป็นคนฆ่าเธอ?”

 

ไอมอนส์เริ่มหมดความอดทนแล้ว “นั่นแหละคือเรื่องที่ข้าจะปรึกษากับนายของเจ้า!”

 

ปีศาจแห่งความกลัวดูลังเลอีกครั้ง และในที่สุดหลังจากผ่านไปพักนึง เขาก็ขยับออกด้านข้าง “เชิญเข้ามา”

 

ไอมอนส์เดินไปข้างหน้า และเข้าไปในหมอกหนา ในหมอกนั้นเป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยปริศนา ในตอนที่เขาเดินเข้าไปข้างใน ไอมอนส์ก็รู้สึกว่ามิติและเวลาถูกทําให้บิดเบี้ยว

 

เขารู้ว่านี่คือประตูวาป แม้ว่ามันจะดูสั้น แต่จริงๆแล้วมันมีความยาวมากกว่า 250 ไมล์และพาตรงเข้าไปยังหุบเขาลึกที่อยู่ภายในป่าทมิฬ

 

มันเป็นแบบนี้ไปประมาณ 5 นาที หลังจากนั้นเขาก็พบว่าเขามาอยู่ในทุ่งกว้าง มีควันสีแดงดําผุดขึ้นมาจากพื้นดินและทําให้อากาศเต็มไปด้วยกลิ่นของซัลเฟอร์และฮีเลี่ยม ท้องฟ้านั้นเป็นสีแดงเลือด และข้างในนั้นก็เต็มไปด้วย คลื่นเป็นริ้วๆเหมือนกับว่ามันเป็นทะเลเลือดเลย 

 

ในทุ่งนี้ มีบ่อเลือดทรงกลมที่มีความกว้างกว่า 90 ฟุตอยู่ เลือดที่อยู่ภายในนั้นมีฟองขึ้นมาปุดๆ และปล่อยแก๊สสีขาวออกมา และในตอนที่แก็สสีขาวนี้พุ่งออกมา มันก็ได้ก่อร่างขึ้นเป็นใบหน้าอันน่าสยดสยอง

 

มันดูน่ากลัวมากๆ

 

ในขณะที่รักษาความสงบของเขาเอาไว้ ไอมอนส์ก็ใช้ให้อสรพิษทมิฬแบกเขาไปข้างหน้า หลังจากเดินไปได้ 30 ฟุต เงาดําก็ปรากฏขึ้นมาข้างๆเขาโดยไม่มีเสียง

 

เงาดํานั้นสูง5.5ฟุต เมื่อเทียบกับขนาดปกติของปีศาจแล้วนั้น มันค่อนข้างเล็ก ร่างของมันถูกคลุมด้วยผ้าคลุมที่ใหญ่กว่าขนาดตัว มันไม่มีเสียงเลยในตอนที่มันขยับ ราวกับว่าทุกส่วนของมันคือแก๊ส

 

ไอมอนส์ไม่กล้าที่จะทําตัวผ่อนคลายกับคนแบบนี้ เขาสามารถรู้สึกได้ว่าพลังของเขานั้นอยู่ในระดับสูงสุดของเลเวล 9 ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เขาก็รู้ว่าคนๆนี้คือนักฆ่าที่แข็งแกร่งที่สุดของโนโซม่า โนย่า และชื่อเล่นของเขาก็คือ “ผู้นําทางสู่ยมโลก”

 

อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ นักฆ่าคนนี้ได้ปรากฏตัวขึ้นมาแค่ 3 ครั้งในโลกฟิรุแมน แต่ละครั้งที่เขาปรากฏตัว เขาจะก่อให้เกิดการล่มสลายของราชวงค์มากมายในทางเหนือไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม ความสําเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาก็คือการลอบฆ่าราชินีเอลฟ์และล่าถอยกลับมาได้โดยไร้รอยขีดข่วน

 

หลังจากที่โนย่าปรากฏตัวขึ้น เขาก็ไม่ได้พูดอะไรเลยนอกจากเดินตามไอมอนส์ หลังจากผ่านไประยะนึง เขาก็หายไปในอากาศ เขามาและเขาก็ไป และในตอนที่เขาหายไปนั้นแม้แต่ไอมอนส์ก็ยังไม่รู้เลย

 

ที่ด้านหน้าของบ่อเลือดอัญเชิญ ไอมอนส์ได้หยุดนิ่งและสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นเขาก็เริ่มร่ายเวทย์สื่อสาร

 

ในระหว่างที่เขาร่ายเวทย์ ฟองอากาศในบ่อเลือดก็เริ่มถี่มากขึ้น และมันก็เริ่มลอยขึ้นมา หลังจากผ่านไป 1 นาที เงาคนสีแดงเลือดก็ได้ยืนอยู่ที่ใจกลางของบ่อเลือด 

 

“เจ้าเรียกข้ามาทําไมกัน ไอมอนส์?” เสียงนี้ทําให้ไอมอนส์สะดุ้ง เสียงมันดังสนั่น นุ่มลึกและทําให้รู้สึกสบายใจเมื่อได้ฟัง

 

ถ้าไม่ใช่เพราะสิ่งแวดล้อมที่น่ากลัว และฟังแค่เสียงเพียงอย่างเดียว ไอมอนส์คงจะคิดไม่ถึงว่ามันคือเสียงของจ้าวปีศาจที่น่ากลัวที่สุดในฟิรุแมนอย่างแน่นอน

 

“นายท่าน เมียสเมอร์ถูกลิงค์ฆ่าไปแล้ว”

 

“ข้ารู้เรื่องนี้แล้ว ข้าได้เก็บวิญญาณส่วนที่เหลือของเมียสเมอร์มาแล้ว เธอเล่าทุกอย่างให้ข้าฟัง มันไม่ใช่ข่าวที่ดีเลย”

 

ไอมอนส์ไม่มีอะไรจะตอบ เขาเงียบไปพักนึง จากนั้นเขาก็พูดต่อ “การลอบโจมตีชนเผ่ายับบ้าของพวกเราได้ถูกค้นพบแล้ว ข้าวางแผนว่าจะรีบรวมรวบกองทัพของข้าไปโจมตีป้อมโอริด้าในทันที ข้าหวังว่ากองทัพของท่านจะสามารถช่วยเหลือพวกข้าได้”

 

กองเลือดจ้องมาที่ไอมอนส์และถามอย่างจริงจัง “หืมม? เจ้าไม่กลัวว่าพวกยับบ้าจะไปช่วยเหลือป้อมโอริด้างั้นเหรอ”

 

“พวกยับบ้านั้นกลัวกองทัพของพวกเราไปแล้ว ตราบใดที่พวกเราทิ้งปืนใหญ่เวทมนตร์ของพวกเราเอาไว้และยิงเข้าไปที่เมืองของพวกมันต่อไป พวกมันก็จะไม่มีทางรู้ว่าพวกเราถอยออกมาแล้ว อย่างน้อยก็ซักพักนึง เมื่อพวกเราไปถึงป้อมโอริด้า โดยใช้พลังของอสรพิษทมิฬ ข้าเชื่อว่าพวกเราจะสามารถเข้ายึดปราสาทได้อย่างรวดเร็ว” ไอมอนส์อธิบายแผนที่เขาได้เตรียมการมาอย่างยาวนาน

 

แต่เดิมแล้ว ไอมอนส์วางแผนที่จะรวบรวมกําลังพลก่อนที่จะมุ่งหน้าไปป้อมโอริด้า ถ้าได้แบบนั้น หลังจากที่พวกเขายึดป้อมโอริด้าได้ พวกเขาก็จะขยายขอบเขตการรบได้อย่างรวดเร็วและได้รับชัยชนะอย่างรวดเร็ว ยังไงก็ตาม ตอนนี้มันทําแบบนั้นไม่ได้แล้ว

 

โนโซม่าไม่ได้ตอบว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เขาตกอยู่ในความเงียบ

 

ในขณะที่มองไปที่ก้อนเลือด ไอมอนส์ไม่สามารถเดาได้ว่าจ้าวปีศาจกําลังคิดอะไรอยู่ เขาทําได้แค่รอ

 

หลังจากผ่านไปหลายนาที เสียงของโนโซม่าก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ข้าจะให้โนย่าตามเจ้าไป ส่งนักฆ่าบางคนไปกับเขาด้วย เขาจะช่วยเจ้าจัดการกับลิงค์ได้ ถ้าเป็นแบบนี้ พวกมันก็จะไม่สามารถรับมือกับอสรพิษทมิฬได้แล้ว”

 

ไอมอนส์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ขอบคุณมากๆเลยครับ!”

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset