Advent of the Archmage – ตอนที่ 404: การต่อสู้กลางอากาศ!

 

Advent of the Archmage Chapter 404: การต่อสู้กลางอากาศ!

 

ฟิ้วว!

 

เรือเหาะลําเล็กขนาดประมาณ 6 ฟุตบินเข้ามาใกล้ลิงค์เรือเหาะนั้นมีรูปทรงเหมือนไข่ และค่อนข้างแบน บนพื้นผิวทุกส่วนของเรื่อถูกปกคลุมเอาไว้ด้วยรูปบบเวทมนตร์ธาตุลม

 

ในตอนที่เรือทั้ง 3 ลําเข้ามาใกล้ลิงค์ แลนนี่ก็วิ่งไปที่เรือที่อยู่ใกล้ที่สุดและตะโกนบอกนักบิน “ลงมาซะ ข้าจะขับเรือเหาะลํานั้นเอง!”

 

ทันใดนั้นเอง เรือก็ลดระดับลงมาอยู่ที่ความสูงประมาณ 3 ฟุตเหนือพื้นดิน มันหยุดลง และใต้ท้องเรือก็เปิดออก จากนั้นก็มีชาวยับบ้ากระโดดลงมา เขาทําความเคารพให้กับแลนนี่ในทันที

 

“พันตรี!”

 

แลนนี่ยิ้มให้กับลิงค์และพูด “ลิงค์ ข้าไปก่อนนะ!” 

 

จากนั้นแลนนี่ก็เริ่มเพิ่มระดับความสูงของ(เรือ)เธอเตรียมตัวออกเดินทาง

 

ยังไงก็ตาม ลิงค์ก็ได้กระโดดขึ้นไปบนเรือและเคาะไปที่กระจกคริสตัล เขาตะโกนเรียกแลนนี่ที่กําลังตกใจ “ฉันไปด้วย เดี๋ยวฉันจะจัดการพวกปีศาจปีกโหยหวนให้เอง!”

 

“โอเค ถ้างั้นก็จับแน่นๆนะ!” แลนนี่ตอบกลับ จากนั้นเรือเหาะก็พุ่งออกไปเหมือนกับม้าที่ปราดเปรียว

 

ลิงค์เอามือจับโครงเรือแน่น ร่างกายของเขาถูกปกคลุมด้วยแสงสีแดงสดใส ลมพัดใส่เขาอย่างรุนแรงในขณะที่เรือเหาะเริ่มเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ลิงค์ได้มีประสบการณ์แบบนี้ และเขาก็ไม่คุ้นเคยกับมันเลย เขาทําได้แค่จับเรือเอาไว้ให้แน่นเพื่อไม่ให้ตกลงไปเท่านั้น

 

หลังจากผ่านไปประมาณ 10 วินาที พวกเขาก็บินขึ้นไปสูงกว่า 300 ฟุต ในตอนนี้ ลิงค์เริ่มชินกับความรู้สึกนี้แล้ว และความรู้สึกไม่สบายตัวที่เขารู้สึกก็ค่อยๆหายไป เขาชี้ดาบราชามังกรพิโรธที่อยู่ในมือเขาไปทางปีศาจปีกโหยหวนที่กําลังพุ่งไปยังเรือเหาะลําใหญ่

 

“เล็งไปที่ตัวนั้น!”

 

ทักษะการบินของแลนนี่ยอดเยี่ยมมาก ในตอนที่เธอได้ยินลิงค์ เธอก็หันเรือเหาะของเธอไปยังปีศาจตัวนั้นในทันที

 

เรือเหาะหักเลี้ยวในอากาศเล็กน้อย เพื่อหลบพวกการ์กอยและกระสุนจากเรือเหาะลําอื่นๆ จากนั้นมันพุ่งตรงไปยังปีศาจปีกโหยหวน

 

เอลินอยู่บนเรือเหาะลําใหญ่ ด้วยความที่ปีศาจปีกโหยหวนกําลังพุ่งเข้ามา บรรยากาศบนเรือเหาะจริงตึงเครียดมากๆ

 

“เร็วเข้า รีบหยุดมันซะ!”

 

“ยิ่งต่อไป อย่าให้มันเข้ามาได้!”

 

“ไม่นะ บ้าเอ้ย มันกําลังเร็วขึ้นเรื่อยๆ พวกเราต้านทานไม่ไหวแล้ว เตรียมรับแรงกระแทก!”

 

แม้ว่าเรือเหาะนั้นจะมีขนาดยาว 240 ฟุต แต่พอเจอกับปีศาจเลเวล 8 มันก็ไม่มีความหมายอะไรเลย ถ้าปีศาจขึ้นมาบนเรือได้ มันคงจะจัดการทุกคนที่อยู่บนเรือ

 

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลายครั้งในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ พวกยับบ้าได้ปล่อยเรือเหาะออกมา 15 ลํา และ 12 ลําในนั้นก็ถูกทําลายด้วยวิธีการนี้ ในขณะที่อีก 3 ลําที่เหลือนั้นรอดมาได้เพราะว่าพวกเขาหนีออกมาทัน

 

ภายใต้ความวุ่นวาย อยู่ๆลูกเรือบนเรือเหาะคนนึงก็ชี้ไปยังที่ไกลๆ “เฮ้ย ดูนั่นสิ! ใครกันหน่ะ? นักรบเผ่ามนุษย์หรอ?”

 

ร่างกายของลิงค์ถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีแดงเพลิงซึ่งมันดึงดูดความสนใจมากๆ

 

พวกยับบ้ามองไปพร้อมกับส่ายหัว เอดินเองก็มองไปเช่นกัน เมื่อเธอเห็นว่าเขาเป็นใคร เธอก็ตกตะลึง “นั่นมันลิงค์นี้ เขากําลังเข้ามาช่วยพวกเรา!”

 

“ท่านลิงค์หรอ? เขาเป็นนักเวทย์ไม่ใช่หรอ?”

 

เห็นได้ชัดว่านักรบเผ่ามนุษย์ที่อยู่บนเรือนั้นถือดาบและสวมผ้าคลุมของนักรบอยู่ ตัวตนของเขาดูแข็งแกร่ง, เขาดูไม่มีความอ่อนโยนและความรอบรู้แบบที่นักเวทย์ควรจะมีเลย

 

เอดินกําลังจะพูดอะไรบางอย่างในตอนที่ลิงค์กระโดดออกจากเรือเหาะไปหาปีศาจ เรือเหาะที่เขาเกาะมานั้นกําลังพุ่งไปหาปีศาจอยู่แล้ว ดังนั้นในตอนที่เขากระโดดออกไป มันจึงมีแรงผลักในอากาศจํานวนมหาศาล

 

ความเร็วของลิงค์นั้นสูงมาก เขาพุ่งผ่านท้องฟ้าราวกับสายฟ้าฟาด และมันก็ดูเหมือนกับสายฟ้าที่ผ่าใส่ร่างของปีศาจปีกโหยหวน ทันใดนั้นเอง ร่างของปีกศาจปีกโหยหวนก็ถูกผ่าออกเป็นสองซีก

 

ผู้บัญชาการที่อยู่บนเรือถึงกับตะลึง

 

“อะไรวะเนี่ย!”

 

“ช่างเร็วอะไรอย่างนี้!”

 

“ไม่น่าเชื่อเลย นี่มันพลังแบบไหนกัน?”

 

ที่กลางอากาศ เลือดสีดําของปีศาจได้กระจายไปทุกทิศทาง ลิงค์ออกจากจุดนั้นมานานแล้ว แนวกระโดดของเขาได้พาเขาไปยังเรืออีกลํานึง ในตอนที่เขาลงมาถึงพื้นเรือ เขาก็กระโดดออกอีกครั้งทันที และพุ่งไปทางการ์กอย

 

การ์กอยไม่มีเวลาที่จะตอบโต้ ลิงค์รวดเร็วเกินไป ลิงค์ไม่ได้ฟันเข้าไปที่การ์กอย เขาเพียงแค่เหยียบแรงๆลงไปที่การ์กอยและกระโดดออก เป้าหมายของเขาคือปีศาจปีกโหยหวนที่อยู่ห่างออกไป

 

แน่นอนว่า ร่างของการ์กอยนั้นไม่สามารถทนรับแรงขนาดนี้ได้ หลังจากที่โดนเหยียบ ร่างของมันก็ถูกอัดลงพื้น ตู้ม! มีหลุมขนาดใหญ่เกิดขึ้น หลังจากที่ฝุ่นกระจายออกไป หมด ภายในหลุมนั้นก็มีเศษซากการ์กอยที่ถูกบดเป็นชิ้นๆแล้ว

 

ลิงค์กระโดดในแนวราบเป็นระยะประมาณ 300 ฟุตก่อนที่จะไปเหยียบการ์กอยอีกตัวนึงและกระโดดออกไปอีก นี่ทําให้เขาพุ่งไปหาปีศาจปีกโหยหวนได้อย่างรวดเร็ว

 

กรีซซ! ปีศาจปีกโหยหวนส่งเสียงร้องออกมา มันมีเลเวล 8 และมันก็มั่นใจว่าสามารถสู้กับลิงค์ได้

 

ลิงค์ระเบิดพลังมังกรออกมา เขาฟันใส่ปีศาจปีกโหยหวน

 

เกร๊ง! มีเสียงปะทะกันเกิดขึ้น เมื่อพลังระดับตํานานและพลังเลเวล 8 เข้าปะทะกัน ท้องฟ้ารอบๆก็เกิดการสั่นสะเทือน

 

ในพริบตาต่อมา ปีศาจก็ถูกผ่าออกเป็นสองส่วนด้วยดาบราชามังกรพิโรธ

 

พวกยับบ้าต่างก็ช็อคจนพูดไม่ออก นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?

 

นักเวทย์ต้องเป็นฝ่ายสนับสนุนพวกเขาไม่ใช่หรอ? แล้วทําไมถึงกลายเป็นนักรบได้หล่ะ? ยิ่งไปกว่านั้น นักรบคนนี้เก่งขนาดไหนกัน? เขาต่อสู้ตัวต่อตัวกับปีศาจเลเวล 8 แล้วเอาชนะได้ นี่มันน่าเหลือเชื่อสุดๆ!

 

หลังจากที่ฆ่าปีศาจได้ ลิงค์ก็เริ่มลดระดับความสูงและความเร็วลง

 

ฟิ้วว!

 

ที่ด้านข้าง มีเรือเหาะเลี้ยวมาหาลิงค์ และรับเขาเอาไว้ ลิงค์ไม่ได้สนใจว่าใครเป็นคนมารับเขา เขาเพียงแค่ชี้ไปที่เรือเหาะอีกลําและออกคําสั่ง “พาฉันไปตรงนั้น”

 

เรือเหาะนั้นต้องมีขนาดใหญ่ระดับนึงถึงจะทนรับการพุ่งของเขาได้โดยไม่ถูกแรงกระแทกของเขาดีดไปข้างหลัง ถ้าเขากระโดดออกจากเรือลําเล็กๆ เขาจะฟังเรือเป็นชิ้นๆ โครงสร้างของเรือขนาดเล็กไม่สามารถทนแรงของเขาได้ เรือขนาดกลางนั้นมีขนาดใหญ่พอ ยังไงก็ตาม พวกมันก็ยังทนไม่ค่อยไหวอยู่ดี

 

จากนั้นเรือเหาะก็พาลิงค์ไปที่เรือลําใหญ่ในทันที

 

พอเข้ามาใกล้เรือเหาะลําใหญ่ เรือลําเล็กก็ลดความเร็วลงทันที ลิงค์ใช้แรงเฉื่อยจากความเร็วเดิมของเรือในการกระโดดไปที่เรือลําใหญ่ เมื่อเขาไปถึง เขาก็มองหาปีศาจปีกโหยหวนตัวใหม่ที่อยู่ห่างออกไป 240 ฟุตแล้วรวบรวมแรงกระโดดเพื่อพุ่งตัวเข้าไปหามัน

 

ฟิบ! ลิงค์กระโดดออกจากเรือที่มีขนาดยาว 240 ฟุต แม้ว่าเรือนั้นจะมีขนาดใหญ่ แต่มันก็ยังสันเพราะแรงกระแทกจากการกระโดดของลิงค์ มันแรงมากจนทําให้เรือหลุดจากเส้นทางการบินเดิมของมันไปเล็กน้อย

 

“ปรับทิศทางการบิน! ตามเขาไปและคอยสนับสนุนเขา!” ผู้บัญชาการเรือเหาะออกคําสั่ง

 

เขาเข้าใจแผนของลิงค์ ลิงค์นั้นกําลังจะไปจัดการพวกปีศาจเลเวล 8 ทั้งหมดที่อยู่บนฟ้า ซึ่งสิ่งที่เขาต้องการก็คือ แท่นเหยียบที่จะทําให้เขาดีดตัวได้

 

การต่อสู้นั้นกําลังมาถึงจุดจบแล้ว แลนนี่ขับเรือเหาะของเธอ พุ่งผ่านศัตรูและพรรคพวกเหมือนกับปลาที่แหวกว่ายอยู่ในน้ำ ในตอนที่เธอบิน เธอได้ยิงการ์กอยร่วงไปหลายตัวแล้ว

 

ในขณะเดียวกัน นักเวทย์เลเวล 7 กรีนก็ได้ไปอยู่บนดาดฟ้าของเรือขนาดกลาง เขาใช้เวทย์อัญเชิญสายฟ้าออกมาในอากาศ และใช้มันโจมตีปีศาจที่บินอยู่ แม้กระทั่งปีศาจเลเวล 8 ก็ไม่สามารถมองข้ามการโจมตีแบบนี้ได้

 

นอกจากนี้เรือเหาะเองก็ยิงปืนใหญ่เวทมนตร์ออกมาด้วย พวกเขาโจมตีปีศาจที่อยู่ทั้งบนฟ้าและบนบก

 

กองทัพแห่งความมืดถูกโจมตีอย่างรุนแรงจนพวกเขาไม่มีโอกาสได้ตอบโต้เลย

 

พวกเขามีเพียงแค่ปีศาจปีกโหยหวนประมาณ 10 ตัวและปีศาจระดับต่ำ 1,000 ตัวบนท้องฟ้า ส่วนบนพื้นดินนั้นมีปีศาจอยู่ไม่มากนัก และเนื่องจากถูกระดมยิงจากเรือเหาะ พวกเขาจึงไม่มีทางตอบโต้และทําได้แค่รับการโจมตีไปเรื่อยๆ

 

ตู้ม! ตู้ม! พวกดาร์กเอลฟ์ได้เอาปืนใหญ่เวทมนตร์ที่ชิงมาจากพวกยับบ้าออกมา ปืนใหญ่พวกนี้สร้างปัญหาให้กับเรือเหาะ

 

แต่ถึงอย่างนั้น พวกยับบ้าก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้ปืนใหญ่เวทมนตร์อย่างแท้จริง ไม่ว่าพวกเขาจะได้ยินเสียงปืนใหญ่เวทมนตร์มาจากไหน พวกเขาก็จะยิงสวนกลับศัตรูได้อย่างแม่นยํา

 

10 นาทีต่อมา ปีศาจปีกโหยหวนที่เหลืออยู่ 4 ตัวก็ตัวสั่นและเริ่มถอยกลับไปที่ปาทมิฬ จากนั้นพวกปีศาจระดับต่ำเองก็เริ่มถอยตามไป

 

ปีศาจที่บินได้นั้นยังพอมีความหวังในการหนีเอาตัวรอดอยู่บ้าง แต่ในอีกด้านนึง พวกปีศาจที่อยู่บนพื้นนั้นไม่มีหวังเลย พวกมันถูกระดมยิงจากบนฟ้าและไม่มีวิธีโต้กลับ ซึ่งในท้ายที่สุด ก็ไม่มีใครรู้ว่าปีศาจที่อยู่บนพื้นดินหนีไปได้กี่ตัว แต่ถึงยังไงจํานวนนั้นก็คงจะน้อยมากจนน่าสงสาร

 

ในการต่อสู้นี้ เห็นได้ชัดว่ากองกําลังแห่งความมืดอ่อนแอกว่าพวกยับบ้าอย่างไม่ต้องสงสัย และเมื่อรวมลิงค์เข้าไปด้วยแล้ว มันก็ยิ่งเพิ่มโอกาสชนะขึ้นไปอีก

 

ครึ่งชั่วโมงต่อมา การต่อสู้ก็มาถึงจุดจบ สนามรบเงียบสงบลง มีเพียงแค่เสียงปืนคาบศิลาเท่านั้นที่ดังขึ้นเป็นช่วงๆในตอนที่พวกยับบ้ายิ่งใส่ปีศาจที่ยังเหลืออยู่ 

 

ลิงค์ไม่จําเป็นต้องสะสางงานพวกนี้ ด้วยความช่วยเหลือของเรือเหาะขนาดเล็ก ลิงค์ก็มุ่งหน้าไปที่เรือเหาะที่เอดินอยู่

 

เอดินได้มารอลิงค์อยู่ที่ดาดฟ้าเรือพร้อมกับผู้บัญชาการคนอื่นๆ ในทันทีที่ลิงค์ลงมายังดาดฟ้าเรือ โดยที่ไม่รอให้เขาลงมาถึงพื้นดี เอลินก็วิ่งมาหาเขาแล้วกระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของเขา ลิงค์รีบยื่นมือออกมารับเธอไว้ในทันที

 

“ลิงค์! ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าจะต้องมา! ข้าเห็นเจ้าจากในความฝัน!” เอลินหัวเราะ ยังไงก็ตามดวงตาของเธอก็แดงก่ำเพราะน้ำตา ในเวลาต่อมารอยยิ้มของเธอก็หายไป แล้วเธอก็เริ่มร้องไห้ในอ้อมแขนของลิงค์ เธอได้สลัดคราบนักเวทย์ระดับสูงของเธอทิ้งในขณะที่เธอกําลังร้องไห้

 

ลิงค์ลูบหลังของเธอเบาๆ และพูดปลอบใจ “เอลิน เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีขึ้น มันจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน”

 

เอลินส่งเสียงสะอื้น “ในตอนที่ข้ากลับมา เมืองแห่งท้องฟ้าพอลโลวถูกทําลายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทุกคนตายหมดเลย แม่ของข้า พี่ชายข้า น้องสาวข้า ตอนนี้มีประชากรเหลืออยู่ไม่ถึงสองล้านคนแล้ว”

 

ในตอนแรก ชาวยับบ้านั้นมีประชาการอยู่ 20 ล้านคน พวกเขาสูญเสียประชากรไปมากกว่า 90% ในสงครามนี้ มันคือโศกอนาถกรรมที่สามารถล้างบางชนเผ่ายับบ้าได้เลย 

 

แต่ก็แน่นอนว่า นี่เป็นสถานการณ์ที่ดีกว่าตอนที่อยู่ในเกม ภายในเกม เผ่ายับบ้าได้สูญพันธุ์ไปแล้ว และแน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ลิงค์ไม่สามารถพูดได้ ลิงค์อุ้มเอลินเอาไว้และเดินไปหาเหล่าผู้บัญชาการ

 

ลิงค์นั้นคุ้นเคยกับเหล่าผู้บัญชาการมาก เขาคือเมอลิน คนที่พาลิงค์ไปที่เมืองผีทางตอนใต้ ลิงค์จําได้ว่าเขาเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีมาก แต่ตอนนี้ใบหน้าของเขาซีดเซียว มันดูไม่มีชีวิตชีวาเลย

 

เมอลินทักทายลิงค์และทําความเคารพ “ลอร์ดลิงค์ ขอบคุณสําหรับความช่วยเหลือนะครับ เชิญทางนี้เถอะ ลอร์ดแฟลงคลินกําลังรอท่านอยู่ เขาได้รับบาดเจ็บจนขยับไปไหนไม่ได้ หวังว่าท่านจะไม่ถือสาอะไรนะครับ”

 

ของสภาช่างฝีมือและเป็นหัวหน้าของชนเผ่ายับบ้า เขามีอายุ 90 ปีแล้ว ในตอนที่เขายังหนุ่ม เขาได้รับบาดเจ็บที่ขาเพราะอุบัติเหตุและนั่งเก้าอี้ล้อเลื่อนมาตั้งแต่ตอนนั้น ดังนั้นเขาจึงเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “ขุนนางเก้าอี้ล้อเลื่อน”

 

นี่เป็นเนื้อเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นภายในเกม ในตอนนั้นเมื่อมนุษย์ได้ข่าวว่ากองทัพแห่งความมืดโจมตีพวกยับบ้า พวกเขาก็ตายไปหมดแล้ว เขารู้จักแฟลงคลินจากเอดินและสามารถบอกได้จากท่าทีของเธอว่า เขาเป็นคนที่เธอให้ความเคารพเป็นอย่างมาก

 

ลิงค์ทําความเคารพเล็กน้อย “ฉันรู้สึกเป็นเกียรติจริงๆที่จะได้พบกับเขา”

 

ในขณะที่พวกเขาเดินอยู่ภายในเรือเหาะ พวกเขาได้เดินผ่านนักรบยับบ้ามากมาย เอลินรู้สึกอายที่เธอถูกลิงค์อุ้มและเริ่มดิ้น จากนั้นลิงค์จึงปล่อยเธอลง เมื่อเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาของเธอ เขาก็อดบีบจมูกและแหย่เธอไม่ได้ “เช็ดน้ำตาด้วย เจ้าแมวน้อย”

 

เอลินหัวเราะอย่างเขินอายแล้วเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดหน้าของเธอ

 

เมื่อพวกเขามาถึงสะพานเดินเรือ ลิงค์ก็เห็นชายแก่หนวดขาวคนนึง เขานั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้ล้อเลื่อนที่ลอยอยู่ เขาคือลอร์ดแฟลงคลิน

 

เมื่อเขาเห็นลิงค์ เขาก็ทักทายด้วยความเคารพก่อนที่จะกลับไปยังตําแหน่งเดิมของเขา “ลอร์ดลิงค์ อย่างที่ท่านเห็น พวกเราเองก็อยู่ในสถานการณ์ที่ลําบากมากเหมือนกัน แต่ก็ถึงอย่างนั้น พวกเราก็จะส่งกําลังเสริมไปช่วยเหลือป้อมโอริด้า พวกเรามาคุยเรื่องแผนโจมตีกันดีกว่า?”

 

ลิงค์จริงจังขึ้นมา แม้ว่าเขาจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเอลิน แต่ว่ามันก็เป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องส่วนตัวนั้นจะต้องถูกพักไว้ก่อนในตอนที่มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสองชนเผ่า

 

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ การที่พวกยับบ้ายินดีส่งกําลังเสริมไปที่ป้อมโอริด้านั้นถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี ยังไงก็ตาม มันก็ยังมีเรื่องเกี่ยวกับสายบัญชาการ พวกเขาไม่เพียงแค่จะต้องทํางานตามสายการบัญชาการเท่านั้น แต่ว่าพวกเขายังต้องเจรจากันในเรื่องสงครามและปัญหาอื่นๆอีกด้วย 

 

ลิงค์เป็นตัวแทนของทั่วทั้งอาณาจักรนอร์ตัน เขาคว้าเก้าอี้มานั่งแล้วเริ่มเจรจา แต่ในตอนนั้นเอง ลูกเรือที่คนนึงก็ชี้ไปที่เมืองลาริเอลและตะโกน “ดูนั่นสิ! มีบางอย่างผิดปกติที่ตาข่ายเวทมนตร์!”

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset