Advent of the Archmage Chapter 404: การต่อสู้กลางอากาศ!
ฟิ้วว!
เรือเหาะลําเล็กขนาดประมาณ 6 ฟุตบินเข้ามาใกล้ลิงค์เรือเหาะนั้นมีรูปทรงเหมือนไข่ และค่อนข้างแบน บนพื้นผิวทุกส่วนของเรื่อถูกปกคลุมเอาไว้ด้วยรูปบบเวทมนตร์ธาตุลม
ในตอนที่เรือทั้ง 3 ลําเข้ามาใกล้ลิงค์ แลนนี่ก็วิ่งไปที่เรือที่อยู่ใกล้ที่สุดและตะโกนบอกนักบิน “ลงมาซะ ข้าจะขับเรือเหาะลํานั้นเอง!”
ทันใดนั้นเอง เรือก็ลดระดับลงมาอยู่ที่ความสูงประมาณ 3 ฟุตเหนือพื้นดิน มันหยุดลง และใต้ท้องเรือก็เปิดออก จากนั้นก็มีชาวยับบ้ากระโดดลงมา เขาทําความเคารพให้กับแลนนี่ในทันที
“พันตรี!”
แลนนี่ยิ้มให้กับลิงค์และพูด “ลิงค์ ข้าไปก่อนนะ!”
จากนั้นแลนนี่ก็เริ่มเพิ่มระดับความสูงของ(เรือ)เธอเตรียมตัวออกเดินทาง
ยังไงก็ตาม ลิงค์ก็ได้กระโดดขึ้นไปบนเรือและเคาะไปที่กระจกคริสตัล เขาตะโกนเรียกแลนนี่ที่กําลังตกใจ “ฉันไปด้วย เดี๋ยวฉันจะจัดการพวกปีศาจปีกโหยหวนให้เอง!”
“โอเค ถ้างั้นก็จับแน่นๆนะ!” แลนนี่ตอบกลับ จากนั้นเรือเหาะก็พุ่งออกไปเหมือนกับม้าที่ปราดเปรียว
ลิงค์เอามือจับโครงเรือแน่น ร่างกายของเขาถูกปกคลุมด้วยแสงสีแดงสดใส ลมพัดใส่เขาอย่างรุนแรงในขณะที่เรือเหาะเริ่มเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ
นี่เป็นครั้งแรกที่ลิงค์ได้มีประสบการณ์แบบนี้ และเขาก็ไม่คุ้นเคยกับมันเลย เขาทําได้แค่จับเรือเอาไว้ให้แน่นเพื่อไม่ให้ตกลงไปเท่านั้น
หลังจากผ่านไปประมาณ 10 วินาที พวกเขาก็บินขึ้นไปสูงกว่า 300 ฟุต ในตอนนี้ ลิงค์เริ่มชินกับความรู้สึกนี้แล้ว และความรู้สึกไม่สบายตัวที่เขารู้สึกก็ค่อยๆหายไป เขาชี้ดาบราชามังกรพิโรธที่อยู่ในมือเขาไปทางปีศาจปีกโหยหวนที่กําลังพุ่งไปยังเรือเหาะลําใหญ่
“เล็งไปที่ตัวนั้น!”
ทักษะการบินของแลนนี่ยอดเยี่ยมมาก ในตอนที่เธอได้ยินลิงค์ เธอก็หันเรือเหาะของเธอไปยังปีศาจตัวนั้นในทันที
เรือเหาะหักเลี้ยวในอากาศเล็กน้อย เพื่อหลบพวกการ์กอยและกระสุนจากเรือเหาะลําอื่นๆ จากนั้นมันพุ่งตรงไปยังปีศาจปีกโหยหวน
เอลินอยู่บนเรือเหาะลําใหญ่ ด้วยความที่ปีศาจปีกโหยหวนกําลังพุ่งเข้ามา บรรยากาศบนเรือเหาะจริงตึงเครียดมากๆ
“เร็วเข้า รีบหยุดมันซะ!”
“ยิ่งต่อไป อย่าให้มันเข้ามาได้!”
“ไม่นะ บ้าเอ้ย มันกําลังเร็วขึ้นเรื่อยๆ พวกเราต้านทานไม่ไหวแล้ว เตรียมรับแรงกระแทก!”
แม้ว่าเรือเหาะนั้นจะมีขนาดยาว 240 ฟุต แต่พอเจอกับปีศาจเลเวล 8 มันก็ไม่มีความหมายอะไรเลย ถ้าปีศาจขึ้นมาบนเรือได้ มันคงจะจัดการทุกคนที่อยู่บนเรือ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลายครั้งในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ พวกยับบ้าได้ปล่อยเรือเหาะออกมา 15 ลํา และ 12 ลําในนั้นก็ถูกทําลายด้วยวิธีการนี้ ในขณะที่อีก 3 ลําที่เหลือนั้นรอดมาได้เพราะว่าพวกเขาหนีออกมาทัน
ภายใต้ความวุ่นวาย อยู่ๆลูกเรือบนเรือเหาะคนนึงก็ชี้ไปยังที่ไกลๆ “เฮ้ย ดูนั่นสิ! ใครกันหน่ะ? นักรบเผ่ามนุษย์หรอ?”
ร่างกายของลิงค์ถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีแดงเพลิงซึ่งมันดึงดูดความสนใจมากๆ
พวกยับบ้ามองไปพร้อมกับส่ายหัว เอดินเองก็มองไปเช่นกัน เมื่อเธอเห็นว่าเขาเป็นใคร เธอก็ตกตะลึง “นั่นมันลิงค์นี้ เขากําลังเข้ามาช่วยพวกเรา!”
“ท่านลิงค์หรอ? เขาเป็นนักเวทย์ไม่ใช่หรอ?”
เห็นได้ชัดว่านักรบเผ่ามนุษย์ที่อยู่บนเรือนั้นถือดาบและสวมผ้าคลุมของนักรบอยู่ ตัวตนของเขาดูแข็งแกร่ง, เขาดูไม่มีความอ่อนโยนและความรอบรู้แบบที่นักเวทย์ควรจะมีเลย
เอดินกําลังจะพูดอะไรบางอย่างในตอนที่ลิงค์กระโดดออกจากเรือเหาะไปหาปีศาจ เรือเหาะที่เขาเกาะมานั้นกําลังพุ่งไปหาปีศาจอยู่แล้ว ดังนั้นในตอนที่เขากระโดดออกไป มันจึงมีแรงผลักในอากาศจํานวนมหาศาล
ความเร็วของลิงค์นั้นสูงมาก เขาพุ่งผ่านท้องฟ้าราวกับสายฟ้าฟาด และมันก็ดูเหมือนกับสายฟ้าที่ผ่าใส่ร่างของปีศาจปีกโหยหวน ทันใดนั้นเอง ร่างของปีกศาจปีกโหยหวนก็ถูกผ่าออกเป็นสองซีก
ผู้บัญชาการที่อยู่บนเรือถึงกับตะลึง
“อะไรวะเนี่ย!”
“ช่างเร็วอะไรอย่างนี้!”
“ไม่น่าเชื่อเลย นี่มันพลังแบบไหนกัน?”
ที่กลางอากาศ เลือดสีดําของปีศาจได้กระจายไปทุกทิศทาง ลิงค์ออกจากจุดนั้นมานานแล้ว แนวกระโดดของเขาได้พาเขาไปยังเรืออีกลํานึง ในตอนที่เขาลงมาถึงพื้นเรือ เขาก็กระโดดออกอีกครั้งทันที และพุ่งไปทางการ์กอย
การ์กอยไม่มีเวลาที่จะตอบโต้ ลิงค์รวดเร็วเกินไป ลิงค์ไม่ได้ฟันเข้าไปที่การ์กอย เขาเพียงแค่เหยียบแรงๆลงไปที่การ์กอยและกระโดดออก เป้าหมายของเขาคือปีศาจปีกโหยหวนที่อยู่ห่างออกไป
แน่นอนว่า ร่างของการ์กอยนั้นไม่สามารถทนรับแรงขนาดนี้ได้ หลังจากที่โดนเหยียบ ร่างของมันก็ถูกอัดลงพื้น ตู้ม! มีหลุมขนาดใหญ่เกิดขึ้น หลังจากที่ฝุ่นกระจายออกไป หมด ภายในหลุมนั้นก็มีเศษซากการ์กอยที่ถูกบดเป็นชิ้นๆแล้ว
ลิงค์กระโดดในแนวราบเป็นระยะประมาณ 300 ฟุตก่อนที่จะไปเหยียบการ์กอยอีกตัวนึงและกระโดดออกไปอีก นี่ทําให้เขาพุ่งไปหาปีศาจปีกโหยหวนได้อย่างรวดเร็ว
กรีซซ! ปีศาจปีกโหยหวนส่งเสียงร้องออกมา มันมีเลเวล 8 และมันก็มั่นใจว่าสามารถสู้กับลิงค์ได้
ลิงค์ระเบิดพลังมังกรออกมา เขาฟันใส่ปีศาจปีกโหยหวน
เกร๊ง! มีเสียงปะทะกันเกิดขึ้น เมื่อพลังระดับตํานานและพลังเลเวล 8 เข้าปะทะกัน ท้องฟ้ารอบๆก็เกิดการสั่นสะเทือน
ในพริบตาต่อมา ปีศาจก็ถูกผ่าออกเป็นสองส่วนด้วยดาบราชามังกรพิโรธ
พวกยับบ้าต่างก็ช็อคจนพูดไม่ออก นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?
นักเวทย์ต้องเป็นฝ่ายสนับสนุนพวกเขาไม่ใช่หรอ? แล้วทําไมถึงกลายเป็นนักรบได้หล่ะ? ยิ่งไปกว่านั้น นักรบคนนี้เก่งขนาดไหนกัน? เขาต่อสู้ตัวต่อตัวกับปีศาจเลเวล 8 แล้วเอาชนะได้ นี่มันน่าเหลือเชื่อสุดๆ!
หลังจากที่ฆ่าปีศาจได้ ลิงค์ก็เริ่มลดระดับความสูงและความเร็วลง
ฟิ้วว!
ที่ด้านข้าง มีเรือเหาะเลี้ยวมาหาลิงค์ และรับเขาเอาไว้ ลิงค์ไม่ได้สนใจว่าใครเป็นคนมารับเขา เขาเพียงแค่ชี้ไปที่เรือเหาะอีกลําและออกคําสั่ง “พาฉันไปตรงนั้น”
เรือเหาะนั้นต้องมีขนาดใหญ่ระดับนึงถึงจะทนรับการพุ่งของเขาได้โดยไม่ถูกแรงกระแทกของเขาดีดไปข้างหลัง ถ้าเขากระโดดออกจากเรือลําเล็กๆ เขาจะฟังเรือเป็นชิ้นๆ โครงสร้างของเรือขนาดเล็กไม่สามารถทนแรงของเขาได้ เรือขนาดกลางนั้นมีขนาดใหญ่พอ ยังไงก็ตาม พวกมันก็ยังทนไม่ค่อยไหวอยู่ดี
จากนั้นเรือเหาะก็พาลิงค์ไปที่เรือลําใหญ่ในทันที
พอเข้ามาใกล้เรือเหาะลําใหญ่ เรือลําเล็กก็ลดความเร็วลงทันที ลิงค์ใช้แรงเฉื่อยจากความเร็วเดิมของเรือในการกระโดดไปที่เรือลําใหญ่ เมื่อเขาไปถึง เขาก็มองหาปีศาจปีกโหยหวนตัวใหม่ที่อยู่ห่างออกไป 240 ฟุตแล้วรวบรวมแรงกระโดดเพื่อพุ่งตัวเข้าไปหามัน
ฟิบ! ลิงค์กระโดดออกจากเรือที่มีขนาดยาว 240 ฟุต แม้ว่าเรือนั้นจะมีขนาดใหญ่ แต่มันก็ยังสันเพราะแรงกระแทกจากการกระโดดของลิงค์ มันแรงมากจนทําให้เรือหลุดจากเส้นทางการบินเดิมของมันไปเล็กน้อย
“ปรับทิศทางการบิน! ตามเขาไปและคอยสนับสนุนเขา!” ผู้บัญชาการเรือเหาะออกคําสั่ง
เขาเข้าใจแผนของลิงค์ ลิงค์นั้นกําลังจะไปจัดการพวกปีศาจเลเวล 8 ทั้งหมดที่อยู่บนฟ้า ซึ่งสิ่งที่เขาต้องการก็คือ แท่นเหยียบที่จะทําให้เขาดีดตัวได้
การต่อสู้นั้นกําลังมาถึงจุดจบแล้ว แลนนี่ขับเรือเหาะของเธอ พุ่งผ่านศัตรูและพรรคพวกเหมือนกับปลาที่แหวกว่ายอยู่ในน้ำ ในตอนที่เธอบิน เธอได้ยิงการ์กอยร่วงไปหลายตัวแล้ว
ในขณะเดียวกัน นักเวทย์เลเวล 7 กรีนก็ได้ไปอยู่บนดาดฟ้าของเรือขนาดกลาง เขาใช้เวทย์อัญเชิญสายฟ้าออกมาในอากาศ และใช้มันโจมตีปีศาจที่บินอยู่ แม้กระทั่งปีศาจเลเวล 8 ก็ไม่สามารถมองข้ามการโจมตีแบบนี้ได้
นอกจากนี้เรือเหาะเองก็ยิงปืนใหญ่เวทมนตร์ออกมาด้วย พวกเขาโจมตีปีศาจที่อยู่ทั้งบนฟ้าและบนบก
กองทัพแห่งความมืดถูกโจมตีอย่างรุนแรงจนพวกเขาไม่มีโอกาสได้ตอบโต้เลย
พวกเขามีเพียงแค่ปีศาจปีกโหยหวนประมาณ 10 ตัวและปีศาจระดับต่ำ 1,000 ตัวบนท้องฟ้า ส่วนบนพื้นดินนั้นมีปีศาจอยู่ไม่มากนัก และเนื่องจากถูกระดมยิงจากเรือเหาะ พวกเขาจึงไม่มีทางตอบโต้และทําได้แค่รับการโจมตีไปเรื่อยๆ
ตู้ม! ตู้ม! พวกดาร์กเอลฟ์ได้เอาปืนใหญ่เวทมนตร์ที่ชิงมาจากพวกยับบ้าออกมา ปืนใหญ่พวกนี้สร้างปัญหาให้กับเรือเหาะ
แต่ถึงอย่างนั้น พวกยับบ้าก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้ปืนใหญ่เวทมนตร์อย่างแท้จริง ไม่ว่าพวกเขาจะได้ยินเสียงปืนใหญ่เวทมนตร์มาจากไหน พวกเขาก็จะยิงสวนกลับศัตรูได้อย่างแม่นยํา
10 นาทีต่อมา ปีศาจปีกโหยหวนที่เหลืออยู่ 4 ตัวก็ตัวสั่นและเริ่มถอยกลับไปที่ปาทมิฬ จากนั้นพวกปีศาจระดับต่ำเองก็เริ่มถอยตามไป
ปีศาจที่บินได้นั้นยังพอมีความหวังในการหนีเอาตัวรอดอยู่บ้าง แต่ในอีกด้านนึง พวกปีศาจที่อยู่บนพื้นนั้นไม่มีหวังเลย พวกมันถูกระดมยิงจากบนฟ้าและไม่มีวิธีโต้กลับ ซึ่งในท้ายที่สุด ก็ไม่มีใครรู้ว่าปีศาจที่อยู่บนพื้นดินหนีไปได้กี่ตัว แต่ถึงยังไงจํานวนนั้นก็คงจะน้อยมากจนน่าสงสาร
ในการต่อสู้นี้ เห็นได้ชัดว่ากองกําลังแห่งความมืดอ่อนแอกว่าพวกยับบ้าอย่างไม่ต้องสงสัย และเมื่อรวมลิงค์เข้าไปด้วยแล้ว มันก็ยิ่งเพิ่มโอกาสชนะขึ้นไปอีก
ครึ่งชั่วโมงต่อมา การต่อสู้ก็มาถึงจุดจบ สนามรบเงียบสงบลง มีเพียงแค่เสียงปืนคาบศิลาเท่านั้นที่ดังขึ้นเป็นช่วงๆในตอนที่พวกยับบ้ายิ่งใส่ปีศาจที่ยังเหลืออยู่
ลิงค์ไม่จําเป็นต้องสะสางงานพวกนี้ ด้วยความช่วยเหลือของเรือเหาะขนาดเล็ก ลิงค์ก็มุ่งหน้าไปที่เรือเหาะที่เอดินอยู่
เอดินได้มารอลิงค์อยู่ที่ดาดฟ้าเรือพร้อมกับผู้บัญชาการคนอื่นๆ ในทันทีที่ลิงค์ลงมายังดาดฟ้าเรือ โดยที่ไม่รอให้เขาลงมาถึงพื้นดี เอลินก็วิ่งมาหาเขาแล้วกระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของเขา ลิงค์รีบยื่นมือออกมารับเธอไว้ในทันที
“ลิงค์! ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าจะต้องมา! ข้าเห็นเจ้าจากในความฝัน!” เอลินหัวเราะ ยังไงก็ตามดวงตาของเธอก็แดงก่ำเพราะน้ำตา ในเวลาต่อมารอยยิ้มของเธอก็หายไป แล้วเธอก็เริ่มร้องไห้ในอ้อมแขนของลิงค์ เธอได้สลัดคราบนักเวทย์ระดับสูงของเธอทิ้งในขณะที่เธอกําลังร้องไห้
ลิงค์ลูบหลังของเธอเบาๆ และพูดปลอบใจ “เอลิน เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีขึ้น มันจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน”
เอลินส่งเสียงสะอื้น “ในตอนที่ข้ากลับมา เมืองแห่งท้องฟ้าพอลโลวถูกทําลายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทุกคนตายหมดเลย แม่ของข้า พี่ชายข้า น้องสาวข้า ตอนนี้มีประชากรเหลืออยู่ไม่ถึงสองล้านคนแล้ว”
ในตอนแรก ชาวยับบ้านั้นมีประชาการอยู่ 20 ล้านคน พวกเขาสูญเสียประชากรไปมากกว่า 90% ในสงครามนี้ มันคือโศกอนาถกรรมที่สามารถล้างบางชนเผ่ายับบ้าได้เลย
แต่ก็แน่นอนว่า นี่เป็นสถานการณ์ที่ดีกว่าตอนที่อยู่ในเกม ภายในเกม เผ่ายับบ้าได้สูญพันธุ์ไปแล้ว และแน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ลิงค์ไม่สามารถพูดได้ ลิงค์อุ้มเอลินเอาไว้และเดินไปหาเหล่าผู้บัญชาการ
ลิงค์นั้นคุ้นเคยกับเหล่าผู้บัญชาการมาก เขาคือเมอลิน คนที่พาลิงค์ไปที่เมืองผีทางตอนใต้ ลิงค์จําได้ว่าเขาเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีมาก แต่ตอนนี้ใบหน้าของเขาซีดเซียว มันดูไม่มีชีวิตชีวาเลย
เมอลินทักทายลิงค์และทําความเคารพ “ลอร์ดลิงค์ ขอบคุณสําหรับความช่วยเหลือนะครับ เชิญทางนี้เถอะ ลอร์ดแฟลงคลินกําลังรอท่านอยู่ เขาได้รับบาดเจ็บจนขยับไปไหนไม่ได้ หวังว่าท่านจะไม่ถือสาอะไรนะครับ”
ของสภาช่างฝีมือและเป็นหัวหน้าของชนเผ่ายับบ้า เขามีอายุ 90 ปีแล้ว ในตอนที่เขายังหนุ่ม เขาได้รับบาดเจ็บที่ขาเพราะอุบัติเหตุและนั่งเก้าอี้ล้อเลื่อนมาตั้งแต่ตอนนั้น ดังนั้นเขาจึงเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “ขุนนางเก้าอี้ล้อเลื่อน”
นี่เป็นเนื้อเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นภายในเกม ในตอนนั้นเมื่อมนุษย์ได้ข่าวว่ากองทัพแห่งความมืดโจมตีพวกยับบ้า พวกเขาก็ตายไปหมดแล้ว เขารู้จักแฟลงคลินจากเอดินและสามารถบอกได้จากท่าทีของเธอว่า เขาเป็นคนที่เธอให้ความเคารพเป็นอย่างมาก
ลิงค์ทําความเคารพเล็กน้อย “ฉันรู้สึกเป็นเกียรติจริงๆที่จะได้พบกับเขา”
ในขณะที่พวกเขาเดินอยู่ภายในเรือเหาะ พวกเขาได้เดินผ่านนักรบยับบ้ามากมาย เอลินรู้สึกอายที่เธอถูกลิงค์อุ้มและเริ่มดิ้น จากนั้นลิงค์จึงปล่อยเธอลง เมื่อเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาของเธอ เขาก็อดบีบจมูกและแหย่เธอไม่ได้ “เช็ดน้ำตาด้วย เจ้าแมวน้อย”
เอลินหัวเราะอย่างเขินอายแล้วเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดหน้าของเธอ
เมื่อพวกเขามาถึงสะพานเดินเรือ ลิงค์ก็เห็นชายแก่หนวดขาวคนนึง เขานั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้ล้อเลื่อนที่ลอยอยู่ เขาคือลอร์ดแฟลงคลิน
เมื่อเขาเห็นลิงค์ เขาก็ทักทายด้วยความเคารพก่อนที่จะกลับไปยังตําแหน่งเดิมของเขา “ลอร์ดลิงค์ อย่างที่ท่านเห็น พวกเราเองก็อยู่ในสถานการณ์ที่ลําบากมากเหมือนกัน แต่ก็ถึงอย่างนั้น พวกเราก็จะส่งกําลังเสริมไปช่วยเหลือป้อมโอริด้า พวกเรามาคุยเรื่องแผนโจมตีกันดีกว่า?”
ลิงค์จริงจังขึ้นมา แม้ว่าเขาจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเอลิน แต่ว่ามันก็เป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องส่วนตัวนั้นจะต้องถูกพักไว้ก่อนในตอนที่มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสองชนเผ่า
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ การที่พวกยับบ้ายินดีส่งกําลังเสริมไปที่ป้อมโอริด้านั้นถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี ยังไงก็ตาม มันก็ยังมีเรื่องเกี่ยวกับสายบัญชาการ พวกเขาไม่เพียงแค่จะต้องทํางานตามสายการบัญชาการเท่านั้น แต่ว่าพวกเขายังต้องเจรจากันในเรื่องสงครามและปัญหาอื่นๆอีกด้วย
ลิงค์เป็นตัวแทนของทั่วทั้งอาณาจักรนอร์ตัน เขาคว้าเก้าอี้มานั่งแล้วเริ่มเจรจา แต่ในตอนนั้นเอง ลูกเรือที่คนนึงก็ชี้ไปที่เมืองลาริเอลและตะโกน “ดูนั่นสิ! มีบางอย่างผิดปกติที่ตาข่ายเวทมนตร์!”