Chapter 413: พูดตรงๆนะ, พวกแกทุกตัวก็ ไม่ต่างจากศพหรอก
ฟึบ ลิงค์กระโดดออกจากเรือเหาะแล้วเข้าไปในป่าที่อยู่ห่างออกมาทางใต้ของป้อมโอริด้า
“รออยู่แถวนี้นะ!” เขาพูด หลังจากที่โบกมือลาแลนนี่ที่อยู่ในข้างในเรือเหาะ, เขาก็เริ่มวิ่งไปทางป้อมโอริด้า
หลังจากผ่านไปพักนึง, เขาก็เดินออกมาจากป่าตรงไปทางถนนกว้าง ที่นี่, เขาเดินพร้อมกับสังเกตุรอยเท้าบนพื้นไปด้วย มันเพิ่งจะมีฝนตกเมื่อไม่กี่วันก่อน, และพื้นก็ยังเป็นโคลนอยู่ เขาสามารถสังเกตรอยเท้าได้อย่างง่ายดาย
ครู่ต่อมา, เขาก็ถอนหายใจ มีรอยเท้าของปีศาจอยู่แต่มีไม่เยอะเท่าไหร่ ปีศาจพวกนี้เองก็สติกระเจิงไปแล้ว, ดังนั้น พวกมันจึงวิ่งอย่างไม่เป็นระเบียบ ซึ่งมันไม่ได้ถือว่ามีปัญหาเลย
พอยืนยันได้แล้วว่าไม่มีปีศาจกลุ่มใหญ่กําลังอพยพไปทางใต้, ลิงค์ก็ผ่อนคลายมากขึ้น เขาร่ายเวทย์หายตัวใส่ตัวเองแล้วเร่งฝีเท้าไปทางป้อม
สิบนาทีต่อมา, เขาก็มาอยู่ใต้ป้อมโอริด้า
มันพึ่งผ่านไปแค่สิบวันตั้งแต่การต่อสู้สุดท้าย พวกปีศาจเองก็ยังไม่ได้เคลียร์สนามรบ, ดังนั้นป้อมจึงยังเหมือนกับวันนั้นอยู่
ดินทั้งหมดเป็นสีแดงและมีศพนอนเกลื่อนไปหมด ด้วยความที่มันเป็นฤดูหนาวและอุณหภูมิก็ต่ำ, ศพจึงเน่าเปื่อยไปแค่เล็กน้อย อากาศเต็มไปด้วยกลิ่นของความตาย ข้างนอกป้อม, มีสุนัขป่าและอีแร้งอยู่ทั่วไปหมด พวกมันรุมทึ้งซากศพที่มีอยู่นับไม่ถ้วน
พอมาถึงกําแพงชั้นแรก, ลิงค์ก็เห็นปีศาจเลเวล 1 กําลัง แทะศพริมฝีปากของมันส่งเสียงแจ้บๆราวกับว่ามันกําลังเพลิดเพลินกับอาหารอยู่ลิงค์ไม่สนใจปีศาจตัวนี้แล้วเดินผ่านมันไป
บางทีมันอาจจะเป็นเพราะเขาอยู่ใกล้ ปีศาจระดับต่ำตัวนี้จึงรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างแล้วหยุดกิน จากนั้นมันก็ส่งเสียงแล้วมองมาทางลิงค์ ดวงตาแหลมคมสีเหลืองจ้องมายังจุดที่ลิงค์ยืนอยู่ด้วยความสงสัย
ลิงค์ตัดสินใจเดินไปหา เขาแกว่งดาบของเขาแล้วแทงเข้าไปที่หัวของปีศาจตัวนั้น ด้วยเสียงฉีกเบาๆ, ปีศาจก็นอนลงกับพื้น
ความวุ่นวายนั้นเล็กน้อยมากมันจึงไม่ได้ไปกระตุ้นให้ปีศาจระดับสูงรู้สึกตัว ลิงค์ดึงดาบออกมาแล้วเดินหน้าต่อ
ที่จตุรัสภายในของป้อมโอริด้านั้น, สถานการณ์เลวร้ายยิ่งกว่านรก มีศพอย่างน้อยสามชั้นกองอยู่บนพื้น เลือดไหลมารวมกันเป็นแอ่งน้ำเล็กๆหลายแห่ง ศพของมนุษย์, ดาร์คเอลฟ์, และปีศาจกองกันเป็นภูเขา
มีปีศาจหลายตัวนั่งอยู่ท่ามกลางทะเลเลือดและภูเขาซากศพ มันดูเหมือนกับช่วงเวลารับประทานอาหาร พวกปีศาจต่างก็คว้าศพมากินอย่างสบายใจเฉิบ บางตัวกินมนุษย์, แต่ส่วนใหญ่จะกินดาร์คเอลฟ์
เหตุผลนั้นง่ายมาก: ลิงค์ได้ทําการปรุงรส(ย่างสด)พวกดาร์คเอลฟ์แล้ว, และพวกมันก็อยู่ในสภาพที่ไม่ค่อยเน่า ดังนั้นพวกมันจึงมีรสชาติดี
กร๊อบ, ฉึก อึก…
เสียงหักกระดูก, ฉีกเนื้อ, และดื่มเลือดผสมเข้าด้วยกัน มันทําให้รู้สึกหนาวไปจนถึงสันหลัง
นี่มันคือนรกที่แท้จริง
ขนาดลิงค์ที่เคยเห็นโศกนาฏกรรมมานับไม่ถ้วนแล้ว, ก็ยังชาไปทั้งตัว ทั้งหมดที่เขาอยากทําในตอนนี้ก็คือเผาพวกมันให้หมด!
เขานับปีศาจที่อยู่เบื้องหน้าเขา มีประมาณ 18,000 ตัว อย่างน้อยนี้ก็ช่วยประหยัดเวลาให้ลิงค์จากการตามหาพวกมันทุกตัว
ในขณะที่ยืนอยู่ตรงช่องประตู, ลิงค์ก็เริ่มร่ายเวทย์ แต่แทนที่มันจะเป็นเวทย์โจมตี, เขากลับใช้ลูกบอลมิติ
ฟึบ, ฟึบ ลูกบอลมิติลอยออกมาสองลูก ลูกนึงลอยไปตกตรงที่กว้างในขณะที่อีกลูกตกไปในหลุมที่อยู่ไม่ไกลออกไป จากนั้นก็เกิดระเบิดขึ้น, และยับยั้งมิติก็ปรากฏขึ้นสองจุด, แล้วปิดกันทางออกเอาไว้
“ห้ะ?”
“ใครกัน?”
“เกิดอะไรขึ้น?”
ปีศาจประหลาดใจ พวกมันหยุดกินแล้วมองไปที่ประตูลิงค์ยกเลิกเวทย์หายตัวแล้วเผยให้เห็นตัวตนของเขา ด้วยการกวาดสายตามองรอบจตุรัส, เขาก็พูดออกมา “ฉันกลับมาแล้ว”
ปีศาจมองหน้ากัน
“นั่นใครกัน?”
“มันมีหมอกคลุมอยู่ ข้ามองไม่เห็นหน้ามันเลย”
“มันอยู่คนเดียว หรือว่ามันจะมาเป็นอาหารให้พวกเรา?”
ปีศาจที่อยู่ใกล้ลิงค์ที่สุดคํารางอย่างดุร้ายแล้ววิ่งมาหาเขา มันคือปีศาจดาบเลเวล 6 มันสูงกว่าแปดฟุต, และมือของมันก็เปลี่ยนเป็นดาบ ร่างกายของมันเหมือนกับตั๊กแตนตําข้าว, ดังนั้นมันจึงมีอีกชื่อนึง — ปีศาจตั๊กแตน-
มันเข้าสู่โหมดไล่ล่าแล้วกระโจนเข้าใส่ลิงค์
ลิงค์ไม่ได้ขยับไปไหน เขาเปิดใช้ผลการโจมตีรอบตัวของดาบราชามังกรพิโรธ ในเวลาเดียวกันนั้นเอง, เขาก็เปิดใช้แส้ผู้สังหารปีศาจ จากนั้นแม้เส้นบางๆก็ฟาดไปทางปีศาจตั๊กแตน
เพี้ยะ! ด้วยเสียงแปลกๆ, ปีศาจก็ถูกซัดกระเด็นขึ้นไปในอากาศ ตัวแส้นั้นร้อนจัด, และมีไอร้อนแผ่ออกมา
ปีศาจตัวอื่นกําลังเตรียมพร้อม, แต่พอเห็นภาพนี้, พวกมันก็ตัวแข็งทื่อ มีหลายตัวที่พยายามจะหนีด้วย
“ข้านึกออกแล้ว มันคือลิงค์, นักเวทย์เผ่ามนุษย์!”
“เจ้าหญิงไปตามจับมันแล้วไม่ใช่หรอ? แล้วท่านไปไหนหล่ะ?”
“หรือว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ?”
เจ้าหญิงจากไป, แต่นักเวทย์มนุษย์ผู้น่าสะพรึงกลัวกลับมา แถมเขายังปิดผนึกทางออกด้วย นี่เขาคิดจะทําอะไรกัน? หรือว่านี้กําลังจะเป็นการสังหารหมู่?
ปีศาจมองหน้ากันอย่างอึดอัด พวกมันทั้งรู้สึกสงสัยและรู้สึกหวั่นเกรง พวกมันไม่มีผู้นาและไม่รู้เลยว่าพวกมันควรทํายังไงดี
ลิงค์เดินมาข้างหน้า จิตสังหารของเขารุนแรงมาก เขากลายเป็นคนที่เย็นชาและสงบนิ่งเหมือนกับทะเลสาบน้ำแข็ง “ พูดตรงๆนะ, สําหรับฉันตอนนี้พวกแกทุกตัวก็ไม่ต่างจากศพหรอก” เขาพูดด้วยน้ำเสียงอันเย็นยะเยือก
“ไร้สาระ! ฆ่ามันซะ!” ปีศาจเพลิงโฟดอร์ตัวนึงพุ่งไปทางลิงค์
“มันมาแค่คนเดียว!”
“พวกเราไม่ได้ล้มเหลวเหมือนพวกดาร์คเอลฟ์!”
การต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว!
ปีศาจเริ่มพุ่งเข้ามา, แต่ลิงค์ไม่ได้เคลื่อนที่ไปข้างหน้า, เขาถอยออกมาแทน ยับยั้งมิติ, ก้าวพริบตา, แส้ผู้สังหารปีศาจ, ผลโจมตีหมู่, และเปิดใช้ผลทั้งหมดของเสื้อคลุมนักฆ่าพร้อมกับร่ายในทันที
หมอกสีแดงเพลิงปรากฏขึ้นและปกคลุมทั้งจตุรัสในหนึ่งวินาที จากนั้นมันก็สว่างขึ้นเรื่อยๆ มันสว่างมากจนบดบังทัศนวิสัยทั้งหมด
ป้อมโอริด้า
ดยุคอาเบลเดินลาดตระเวนอยู่ในป้อมเหมือนปกติ มีแค่ช่วงเวลานี้เท่านั้นที่เขาสามารถข่มความไม่สงบในใจเขาได้
มันผ่านมาสิบวันแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววของลิงค์เลย เขารู้สึกกังวล
แต่ว่าในฐานะแม่ทัพ, เขาไม่สามารถแสดงอารมณ์พวกนี้ออกมาได้ ในขณะที่กําลังลาดตระเวน, เขาก็จะให้กําลังใจเหล่าทหารอย่างไม่รู้จบ มันพึ่งผ่านมาแค่สิบวัน, แต่เขาก็เหนื่อยล้าทั้งทางร่างกายและทางจิตใจแล้ว
ตอนนี้, ข่าวดีมีแค่เรื่องที่ปีศาจข้างนอกป้อมกําลังลดจํานวนลง เขาไม่รู้ว่าทําไมแต่มันก็ยังช่วยเพิ่มกําลังใจได้
ในขณะนั้นเอง, ทหารคนนึงก็วิ่งเข้ามา
อาเบลขมวดคิ้ว เขาจําได้ว่าทหารคนนี้คือคนเฝ้าดาดฟ้า “รีบร้อนอะไรกัน?”
“มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นในป้อมครับ ดยุค, ข้าคิดว่าท่านควรมาดูด้วยตัวเอง”
หัวใจของดยุคอาเบลเต้นรัว “ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ มีใครรู้อีกไหม?”
“นายพลคาร์โนส, องค์หญิงแอนนี่, ไฮเอลฟโรมิลสัน, แล้วก็คนอื่นๆที่อยู่ที่นี่ครับ” คนเฝ้าดาดฟ้ารายงาน
ในตอนที่พูดจบ, ดยุคอาเบลก็มาถึงดาดฟ้าแล้ว เขาสามารถมองดูป้อมทั้งหมดได้จากที่นี่ และด้วยการมองลงมา, เขาก็พบหมอกเพลิงสีแดงฉานอยู่เหนือจตุรัสในระยะไกลๆ
หมอกนั้นหนามากจนเขามองไม่เห็นสถานการณ์ข้างในและเนื่องจากมีบาเรียอยู่เขาจึงไม่ได้ยินเสียงจากข้างนอกป้อมเช่นกัน
“มีใครรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?” ดยุคอาเบลถาม
ไม่มีใครตอบกลับ หลังจากผ่านไปครึ่งนาที, โรมิลสันก็พูดอย่างลังเล “มันดูเหมือนกับพลังของมาสเตอร์ลิงค์, แต่ว่ามันไกลเกินไป ข้าก็เลยไม่มั่นใจนัก”
“คาร์โนส, เจ้าคิดว่ายังไง?” ดยุคเอาเบลถาม
คาร์โนสส่ายหัว “ข้าไม่คิดว่าจะเป็นเขานะ ดูหมอกนั่นสิ มันเป็นสีแดงฉานแล้วก็ดูโปร่งแสงนิดๆด้วย แทนที่จะเป็นหมอก, มันดูเหมือนกับน้ำมากกว่า…ไม่ส, มันเหมือนกับลูกบอลเพลิง ดูนั่น, อากาศที่อยู่เหนือหมอกมันดูบิดเบี้ยว มันน่าจะเป็นคลื่นความร้อนนะ มาสเตอร์ลิงค์คงไม่แข็งแกร่งขนาดนั้นหรอก”
“ดูสิ, ปีศาจตัวนั้นพยายามตะเกียกตะกายออกมา” แอนนี่ชี้ไปทางจุดดําๆบนกําแพง
ทุกคนหันไปดูและเห็นปีศาจเพลิงโฟดอร์ตัวนึงปรากฏขึ้นบนกําแพงสูง มันดูตื่นตระหนกจริงๆ ทั่วทั้งร่างของมันเต็มไปด้วยรอยไหม้สีดํา, และมีควันลอยขึ้นจากตัวมันด้วย
ไม่ใช่แค่นั้น ร่างกายของมันยังติดไฟอยู่ไฟนี้แปลกมาก–มันคือไฟที่งดงามเหมือนกับคริสตัล ปีศาจเพลิงโฟดอร์ใช้พละกําลังของมันอย่างต่อเนื่องเพื่อดับไฟแต่ก็เปล่าประโย ชน์
ไม่เพียงแค่ไฟจะไม่ดับเท่านั้น แต่มันยังรุนแรงขึ้นด้วย
ดูเหมือนว่าปีศาจตัวนั้นกําลังร้องโอดครวญอยู่ ทั่วทั้งร่างของมันติดไฟ, มันเดินบนกําแพงได้ไม่กี่ก้าวก่อนที่จะล้มลงกับพื้น
ไฟยังคงลุกไหม้ต่อไป ภายใต้สายตาของทุกคน ปีศาจตัวนั้นถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน
“มันช่างเป็นพลังธาตุไฟที่บริสุทธิ์มากจริงๆ” โรมิลสันอดพูดออกมาไม่ได้ “ข้าไม่เคยเห็นไฟแบบนี้มาก่อนเลย มันน่าเหลือเชื่อมาก!”
คาร์โนสมองไปทางหมอกสีแดงแล้วกระซิบ “เห็นได้ชัดว่า มีคนที่แข็งแกร่งมากๆมาถึงแล้ว มันเป็นไปได้สูงว่านั่นคือกําลังเสริมทีมาสเตอร์ลิงค์พบ พลังนี้ทําให้ข้านึกถึงมังกรระดับตํานานเลย”
ดยุคอาเบลเองก็มองตาไม่กระพริบ หมอกสีแดงนั้นจะสลายไปในเร็วๆนี้, และพวกเขาก็จะได้เห็นความจริง
มันใช้เวลาไม่นาน หลังจากที่ผ่านไปประมานสิบนาที, หมอกก็เริ่มบางลง จากนั้นด้วยเสียงฟุบ, หมอกก็สลายไป มีเด็กหนุ่มผมดําในชุดผ้าคลุมสีน้ำเงินเข้มกระโดดขึ้นมาบนกําแพง
“นั่นมันมาสเตอร์ลิงค์!” มีใครบางคนตะโกน
“เป็นไปได้ยังไง?”
“เขาแข็งแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
ในขณะที่ทุกคนกําลังตกใจ, ปีศาจมิติตัวนึงก็ปรากฏขึ้นข้างหลังลิงค์ ร่างของมันถูกปกคลุมด้วยไฟราวกับว่ามันอยากจะทําการโจมตีพลีชีพ
ทุกคนอ้าปากค้างโดยไม่รู้ตัว แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็เห็นลิงค์แทงดาบไปข้างหลังโดยไม่แม้แต่จะหันกลับไปด้วยซ้ำ ดาบของเขาคมกริบ, และปีศาจตัวนั้นก็ถูกผ่าเป็นสองส่วน มันส่งเสียงร้องแล้วตกจากกําแพงไป
พอเห็นภาพนี้, ดยุคอาเบลก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “พวกเราปลอดภัยแล้ว ปิดการทํางานของโล่แล้วเปิดประตูซะ” เขาสั่ง “แล้วก็เตรียมต้อนรับการกลับมาของลอร์ดเฟิร์ดด้วย!
เขาไม่รู้ว่าทําไมจู่ๆลิงค์ถึงกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้, แต่พวกปีศาจแพ้แล้ว และแค่นั้นมันก็พอแล้ว