Advent of the Archmage – ตอนที่ 414: ยมทูตจากทางใต้

Advent of the Archmage Chapter 414: ยมทูตจากทางใต้

 

ในป่าทมิฬ

 

ดาร์กเอลฟ์ลอนเดล มาร์กินส์มองไปที่ป้อมโอริด้าจากระยะไกลๆ

 

ในตอนที่ลิงค์มาถึง เขาก็เริ่มทําการต่อสู้กวาดล้างพวกปีศาจ ซึ่งลอนเดลได้เฝ้ามองเขามาโดยตลอด

 

ในตอนท้ายของการต่อสู้ ไม่มีปีศาจตัวไหนหนีออกมาจากป้อมได้เลย พวกมันทั้งหมดถูกฆ่า

 

ด้วยการที่ใช้เวทย์ดวงตานกอินทรีย์ เขาเห็นกําแพงแสงที่ปกป้องใจกลางของป้อมโอริด้าหายไป จากนั้น กลุ่มคนก็ออกมาต้อนรับลิงค์ ถึงแม้ว่าจะฆ่าปีศาจไปมากกว่า 1,000 ตัว เขาก็ยังไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย อันที่จริง เมื่อดูจากการเดินของเขา มันเหมือนว่าเขายังเหลือเรียวแรงอีกเพียบเลยด้วยซ้ํา

 

ลอนเดลมองลิงค์ที่ถูกกองกําลังเผ่ามนุษย์พาเข้าไปในป้อม ท่าที่ที่พวกมนุษย์ปฏิบัติกับลิงค์นั้นเสมือนเขาเป็นเทพจุติลงมาจากสวรรค์

 

“จากที่เห็น ดูเหมือนว่าเจ้าหญิงซาโรวินี่ที่เจ้าพูดถึงจะตายไปแล้วนะ” มีเสียงของผู้หญิงดังขึ้นที่ข้างหูของลอนเดล มันเป็นเสียงที่ทุ่มและแหบแห้ง

 

ลอนเดลถอนหายใจออกมายาวๆ “กองทัพปีศาจพ่ายแพ้แล้ว และคนของข้าก็ถูกฆ่าไปประมาณ 80-90% ส่วนอุปกรณ์ระดับพระเจ้าเองก็ถูกขับไล่ออกจากฟิรุแมน ตอนนี้พวกมนุษย์มีนักเวทย์ระดับตํานานแล้ว…พวกเราพ่ายแพ้อย่างหมดท่าเลยหล่ะ”

 

“นั่นคือความจริงที่เกิดขึ้น” เสียงของผู้หญิงฟังดูเห็นด้วย เธอเดินสายร่างกายที่งดงามของเธอมาอยู่ที่ด้านข้างของลอนเดล พร้อมกับพูดขึ้น “แต่ถึงยังไง มันก็ไม่มีชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ใดที่คงทนถาวรหรอก ทั้งหมดที่เจ้าต้องการก็คือการสร้างกองกําลังใหม่”

 

ลอนเดลไม่ได้ตอบกลับ เขากําลังสับสน หลังจากผ่านไปซักพัก เขาก็พูดขึ้น “อาชาลี พวกเราพึ่งรู้จักกันได้แค่ 3 วันเอง ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าต้องการอะไร”

 

“มันก็ใช่หล่ะนะ” อาชาลีตอบ เธอหันหลังกลับและเดินเข้าไปในส่วนลึกของป่าทมิฬ ในระหว่างที่เธอเดิน เธอก็พูดออกมา “ พวกเราต่างจากพวกปีศาจ เราไม่ชอบการต่อสู้ ซึ่งๆหน้า และไม่ชอบอะไรที่ไม่สามารถคาดเดาได้ พวกเราสนุกกับการควบคุมกระแสของการต่อสู้และค่อยๆโอบกอดชัยชนะอย่างช้าๆ หลังจากที่เจ้าคิดได้แล้ว เจ้าสามารถมาหาข้าได้ทุกเมื่อ”

 

หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็กระโจนไปข้างหน้าและหายเข้าไปในป่าทมิฬ

 

โรแมนด์เองก็อยู่เช่นกัน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไร แต่หลังจากที่อาชาลีจากไป เขาก็พูดออกมาเบาๆ “ลอนเดล ข้าคิดว่าตอนนี้พวกเรามีทางเลือกอยู่ 2 หนทาง ทางแรกคือหาพรรคพวกที่แข็งแกร่งและทําหน้าที่ของเราต่อ ส่วนทางที่สองคือกลับไปยังภพแห่งความมืดและต่อสู้เพื่อแย่งชิงพื้นที่กับสัตว์ประหลาดที่นั่นไม่ว่าเจ้าจะเลือกทางไหน ข้าก็จะอยู่ข้างเจ้า”

 

ลอนเดลนั้นอายุยังไม่ถึง 30 ปีเลยด้วยซ้ํา แต่ว่าเขากลับต้องเผชิญหน้ากับการตัดสินใจที่จะเป็นตัวตัดสินอนาคตของเผ่าพันธุ์ เขานั้นรู้สึกเหมือนกับว่ากําลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังและต้องการที่จะจบมันลงทั้งหมด

 

ยังไงก็ตาม เขารู้ดีว่าเขาไม่สามารถทําเช่นนั้นได้ นี่คือช่วงเวลาสําคัญ ถ้าเกิดว่าพวกเขารอจนราชาของอาณาจักรนอร์ตันกวาดล้างกองกําลังทางใต้ไปจนหมด พวกเขาอาจจะต้องเจอกับการแก้แค้นของอาณาจักรนอร์ตันแน่ๆ และถึงแม้ว่าพวกเขาจะล่าถอยเข้าไปในป่าทมิฬ พวกมนุษย์ก็จะไล่ตามพวกเขาเข้าไปข้างในป่าและกวาดล้างพวกเขาจนหมด

 

ไม่มีใครสามารถสู้กับพลังของนักเวทย์ระดับตํานานได้

 

ประธานสภาแห่งซิลเวอร์มูน โรแมนด์นั้นเป็นนักเวทย์อัจฉริยะ ยังไงก็ตาม เขาไม่เชี่ยวชาญในการควบคุมกองทัพ และตัวเขาเองก็ตระหนักถึงความจริงข้อนี้ ดังนั้น เขาจึงฝากเรื่องทั้งหมดเอาไว้กับลอนเดล

 

เวลาผ่านไปอย่างเงียบๆ 5 นาทีต่อมา ลอนเดลก็พูดขึ้น “ท่านครับ ถ้าเกิดว่าพวกเราจะหาพรรคพวก พวกเราก็ควรจะพึ่งพวกเธอ แต่ก็ต้องคอยระวังตัวตอนอยู่กับพวกเธอให้ดี แต่ถึงยังไง ทางนั้นก็น่าจะดีกว่าการกลับไปยังโลกที่ทรุดโทรมนะครับ ”

 

โรแมนด์พยักหน้า “เจ้าพูดถูก เขาเข้าใจดี พวกปีศาจนั้นแข็งแกร่ง แต่ว่าพวกมันเชื่อใจไม่ได้และปาเถื่อน ถ้าเกิดว่าพวกเราจะไปหาพรรคพวก พวกเราก็ควรจะไปหาคนที่แข็งแกร่ง!”

 

พวกสัตว์ประหลาดที่เรียกตัวเองว่าอกาธาร์ นากานั้นก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่แย่ อาชาลีนั้นอยู่ระดับสูงของเลเวล 9 อ้างอิงจากที่เธอพูด ผู้คนของเธอนั้นมีคนที่อยู่ระดับตํานานด้วยและสามารถสู้กับอาณาจักรนอร์ตันได้

 

ด้วยการสนับสนุนของโรแมนด์ ลอนเดลก็ตัดสินใจได้ เขาหันไปทางป่าทมิฬ “เวลามีไม่มากแล้ว พวกเราจะต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ ไปหาอาชาลีกันเถอะ”

 

ในขณะเดียวกัน ลิงค์ที่ถูกพาเข้ามาในป้อมโอริด้าก็กําลัง ล่าย้อนถึงตอนที่พวกเขาหลบหนีและการขึ้นมาสู่ระดับตํานานของเขา

 

ในที่สุด เขาก็เอาสร้อยคอหนามออกมาส่งให้กับโรมิลสัน

 

“เจ้าหญิงมิลด้าเลือกที่จะอยู่ในอารากู่เพื่อที่จะต่อสู้กับ เจ้าหญิงปีศาจ เธอสั่งให้ฉันนํามันไปส่งให้กับองค์ราชินี”

 

โรมิลสันถอนหายใจออกมา แต่เขาก็เข้าใจว่ามันคือการตัดสินใจของเธอ “ ขอบคุณนะ” เขาพูดเบาๆ

 

ลิงค์หันไปหาดยุคอาเบล “ท่านดยุค ท่านคิดจะทําอะไรต่อไป? ไปทางใต้เพื่อเสริมกําลังเมืองฮอทสปริง? หรือจะเริ่มการซ่อมแซมและเสริมกําลังให้ป้อมโอริด้าที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ทางตอนเหนือ?” ลิงค์ถาม

 

พวกเขายังกําจัดปีศาจที่อยู่ทางเหนือไม่หมด มีพวกที่หนีไปได้ประมาณ 2,000 ตัว ส่วนใหญ่แล้วพวกมันจะอยู่ในปาทมิฬ แต่ก็มีส่วนหนึ่งที่หนีไปทางใต้ เศษซากที่เหลือพวกนี้จะเป็นภัยได้ถ้าหากว่ามีใครบางคนรวบรวมพวกมันเข้าด้วยกัน

 

ดยุคอาเบลได้เตรียมแผนการเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เขาตอบกลับ “พวกเราไม่สามารถทิ้งป้อมโอริด้าได้! แต่ว่าสําหรับทางใต้นั้น…

 

ดยุคอาเบลมองไปที่ลิงค์ในทันที

 

พลังของลิงค์ได้ขึ้นสู่ระดับตํานานแล้ว ตอนนี้เขาเป็นภัยคุกคามสําหรับทุกคน เขาเชื่อว่าถ้าลิงค์เดินทางลงใต้ เขาก็สามารถบังคับให้อาณาจักรเดลอนก้าถอยทัพกลับได้อย่างง่ายดาย

 

ลิงค์เข้าใจความตั้งใจของเขา “ผมมีแผนที่จะเดินทางลงใต้…ถ้าเกิดว่าไม่มีอะไรแล้ว ในเร็วๆนี้ผมจะออกเดินทางต่อเลย”

 

ความปลอดภัยของเซลีนนั้นเป็นเรื่องที่ลิงค์ให้ความสําคัญอยู่เสมอ ถ้าสถานการณ์ทางเหนือไม่ส่งผลกระทบไปทั่วฟิรุแมน ลิงค์ก็คงไม่มีทางขึ้นเหนืออย่างแน่นอน

 

ดยุคอาเบลโล่งใจ เขาเอาคัมภีร์บางอย่างออกมาแล้วยื่นมันให้กับลิงค์ “ท่านลอร์ด ถ้าเกิดว่าท่านไม่ว่าอะไร ตอนที่ท่านผ่านป้อมปราการในขณะที่เดินทางลงใต้ ได้โปรดส่งคัมภีร์พวกนี้ให้กับพวกเขาด้วย ตอนนี้ป้อมโอริด้าอ่อนแอมาก พวกเราต้องการกําลังเสริมและทรัพยากรจากป้อมปราการเหล่านี้”

 

“เข้าใจแล้ว” ลิงค์รับคัมภีร์มาจากดยุคอาเบล เขาไม่ได้วางแผนที่จะอยู่นานกว่านี้ เขาหันไปหาพวกผู้บัญชาการที่เหลือแล้วพูด “ทุกท่าน ตอนนี้ทางเหนือขึ้นอยู่กับพวกท่านแล้วนะ”

 

จากนั้นลิงค์ก็หายเข้าไปในแสงสีขาวเนื่องจากเขาได้วาร์ปออกไปจากป้อมโอริด้า

 

ในชั่วพริบตาต่อมา ลิงค์ก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านนอกป้อมโอริด้า หลังจากที่ทําการวาร์ปไปอีกหลายครั้ง ลิงค์ก็กลับมาถึงเรือเหาะของแลนนี่

“ไปกันเถอะ ปัญหาได้ถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว ไปรวมกลุ่มกับพวกที่เหลือกัน” ลิงค์พูด

 

“ข้าเห็นมันหมดแล้ว! เจ้ากําจัดพวกปีศาจทั้งหมดเลย!” แลนนี่พูดด้วยความตื่นเต้น เธอไม่สามารถเข้าใจถึงขอบเขตพลังของลิงค์ได้

 

“ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ถ้ามีเวทมนตร์” ลิงค์พูดพร้อม กับหัวเราะ “ไปกันเถอะ อย่ามัวแต่เสียเวลาอยู่เลย”

 

“โอเค” แลนนี่ตอบ เธอพบสิ่งที่น่าเคารพใหม่ในตัวลิงค์ แลนนี่บังคับเรือเหาะของเธอ มันก็ลอยขึ้นฟ้าอย่างรวดเร็ว แล้วมุ่งหน้าไปทางใต้

 

ลิงค์กลับมายังที่ตั้งแคมป์ของพวกยับบ้าอย่างรวดเร็ว เขาไม่ได้อยู่ที่นั้นนานเช่นกัน หลังจากที่บอกพวกเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ในป้อมโอริด้าและพูดคุยเกี่ยวกับแผนของพวกเขาในการเดินทางลงใต้ ลิงค์ก็ออกเดินทางอีกครั้ง

 

พวกเขาเดินทางไปยังป้อมปราการต่างๆ เพื่อส่งคัมภีร์ที่ดยุคอาเบลฝากมาให้พวกเขา เพื่อส่งข้อความให้กับพวกผู้บัญชาการคนอื่นเกี่ยวกับข่าวของป้อมโอริด้าและพวกยับบ้า

 

ในขณะเดียวกัน เขาก็ได้รับข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์สงครามทางตอนใต้มาจากผู้บัญชาการเหล่านี้ มันไม่ได้ดีมาก แต่มันก็ยังมีเรื่องที่ดีอยู่บ้าง

 

สถาบันเวทมนตร์อีสโควฟยังคงได้รับการคุ้มครองจากเวทมนตร์ป้องกันของพวกเขา ยังไงก็ตาม พวกเขาไม่สามารถส่งกองทัพออกไปช่วยเหลือสงครามได้เพราะว่าพวกเขาถูกกองทัพอันเดธของแอนดรูวล้อมอยู่

 

ข่าวร้ายที่สุดก็คือเมืองฮอทสปริงถูกทําลายแล้วและกลายเป็นซากไปเรียบร้อยแล้ว ในช่วงเวลาสุดท้าย ราชาลีออนได้หนีออกมาจากเมืองภายใต้การคุ้มกันของนักเวทย์หลวง

 

และเป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้ ราชาลีออนได้หนีไปจนถึงดินแดนเฟิร์ดและได้ถูกลิซคนนึงช่วยเหลือไว้

 

ภายในความวุ่นวาย ลิซได้ทําให้แอนดรูวบาดเจ็บและบังคับให้พวกเขาต้องถอยกลับไปยังปาเกอแวนท์ แต่ถึงอย่างนั้น แอนดรูวก็ยังถูกโจมตีและถูกนักแม่นปืนที่มีชื่อว่า เซลืนฆ่าตาย เขาไม่สามารถหนีเอาตัวรอดได้เลย

 

อ้างอิงจากข่าวลือ นักแม่นปืนที่มีชื่อว่าเซลีนนั้นแข็งแกร่งมาก เธอเป็นที่รู้จักในชื่อ “ยมทูต” เธอนั้นแฝงตัวอยู่ในป่าเกอเวนท์และฆ่าผู้บัญชาการของอาณาจักรเดลอนก้า ไปมากมาย

 

เขาพูดกันว่าผู้บัญชาการของศัตรูนั้นกลัวมากจนไม่กล้าที่จะเปิดเผยตัวเองออกมาด้วยซ้ํา พวกเขาจะคอยวางแผนการอยู่ในส่วนลึกของค่าย ในระหว่างการต่อสู้ พวกเขาจะไม่มีทางใส่ชุดผู้บัญชาการของพวกเขาและจะไม่แยกออกจากกลุ่มทหารของพวกเขาอีกด้วย

 

ด้วยการกระทําของเธอ ทําให้ราชาลีออนสามารถหนีมายังเฟิร์ดได้อย่างปลอดภัย

 

ในขณะเดียวกัน อาณาจักรเดลอนก้าที่ยึดครองป่า เกอแวนท์ก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด ที่ด้านใต้ของพวกเขาคือเฟิร์ดในขณะที่ทางเหนือของพวกเขาก็คือกองกําลังพันธมิตรของอาณาจักรนอร์ตัน พวกเขาถูกกองกําลังขนาดใหญ่ขนาบทั้งสองข้างและต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

 

นี่เป็นข่าวดีสําหรับลิงค์จริงๆ โดยเฉพาะเรื่องที่เซลีนยังสบายดีอยู่

 

แต่เดิมนั้น เขาวางแผนที่จะมุ่งหน้ากลับเฟิร์ดเลย ยังไงก็ตาม ในตอนที่พวกเขากําลังบินผ่านป่าเกอเวนท์ แลนนี้ก็ชี้ไปยังจุดดําๆที่อยู่ข้างนอกหน้าต่างของเธอ “นายท่าน! มีบางอย่างอยู่ตรงนั้น มันเหมือนกับมังกรเลย!”

 

สิ่งนี้ทําให้ลิงค์ที่กําลังจดจ่ออยู่กับหนังสือเวทมนตร์ต้องเงยหน้าขึ้นมาดู

 

ลิงค์นั้นตกใจ เขามองออกไปและเห็นมังกรสีแดงตัวใหญ่ประมาณ 30 ฟุตกําลังต่อสู้กับอัศวินอีกริฟฟิน

 

กริฟฟินพวกนี้ดูแปลกมาก ดวงตาของพวกมันเป็นสีแดงเลือด และปีกของพวกมันก็เป็นสีเทา ในตอนที่พวกมันบินจะมีร่องรอยออร่าแห่งความมืดตามหลังพวกมันด้วย ดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่รู้จักความเจ็บปวดและความกลัว พวกมันจึงต่อสู้กับมังกรอย่างบ้าคลั่ง พวกอัศวินที่ขี่หลังกริฟฟินอยู่เองก็โจมตีและยิ่งไปที่มังกรอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน

 

ต่อให้มังกรนั้นแข็งแกร่ง แต่เมื่อเจอกับการโจมตีพลีชีพอย่างบ้าคลั่งแบบนี้ ต่อให้เป็นมังกรก็ต้องเจ็บตัวบ้าง ลิงค์เพ่งสายตาดูและเห็นว่าเขารู้จักกับมังกรตัวนั้น เธอคือเฟลิน่า!

 

“นั่นคือเฟลิน่า! บางทีเธอน่าจะมาที่นี่เพื่อตามหาฉัน” ลิงค์พูด เขาสั่งแลนนี่ “ไปช่วยเธอกันเถอะฉันรู้จักกับมังกร

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset