Advent of the Archmage Chapter 426: อดีตคนทรยศ
ไฮเอลฟ์ที่อยู่ข้างหน้าเขาดูเหมือนกับคนอายุ 23-24 ปี แต่ด้วยความที่ไฮเอลฟ์มีอายุขัยมากกว่ามนุษย์ 2 เท่า เธอจึงมีอายุราวๆ40ปี
สําหรับเรื่องรูปลักษณ์ ไฮเอลฟ์ทุกคนนั้นมีรูปร่างที่สวยงาม ลิงค์รู้สึกได้ว่าเธอสวย เธอสวมผ้าคลุมสีเขียวเข้มที่มีลายสีทองแบบที่นักเวทย์ของไฮเอลฟ์สวมกัน และที่หน้าผากของเธอก็มีที่คาดหน้าผากใบไม้ในแบบที่ไฮเอลฟ์ชอบใส่ออร่าของเธอปรากฏขึ้นเพียงชั่วแวบ มันเบาบางมากๆ น่าจะมีเลเวลประมาณ 9
ซึ่งนี่ก็หมายความว่าไฮเอลฟ์สาวคนนี้ เป็นนักเวทย์เลเวล 9
แม้ว่าความหนาแน่นของมานาสูงที่ขึ้นจะทําให้นักเวทย์เพิ่มเลเวลได้ง่ายขึ้น แต่เลเวล 9 นั้นก็ยังคงสูงมากอยู่ดี เท่าที่ลิงค์ รู้ในตอนนี้ แม้แต่ราชินีของไฮเอลฟ์เองก็ยังไม่ได้ขึ้นสู่ระดับตํานาน
ดังนั้นมันจึงเห็นได้ชัดว่านี่ต้องเป็นใครบางคนที่มาจากพวกระดับสูงของไฮเอลฟ์ แต่ว่าทําไมคนแบบนั้นถึงมาขโมยสมุดของเขาหล่ะ?
ลิงค์ไม่อยากจะเชื่อเลย
ไม่ว่าจะเป็นนิสัยของราชินีและเจ้าหญิงมิลด้าหรือไฮเอลฟ์จากในเกม พวกเขาต่างก็เป็นชนเผ่าที่อดทนและภูมิใจในตัวเอง พวกเขาอาจจะใช้ทริคเล็กน้อย แต่พวกเขาจะใช้มันก็ต่อเมื่อพวกเขาไม่สามารถไปถึงเป้าหมายของพวกเขาได้ด้วยวิธีธรรมดา โดยปกติแล้ว พวกเขาจะทําการแลกเปลี่ยนอย่างเป็นธรรม
ถ้าเกิดว่าไฮเอลฟ์มอบหนังสือเวทมนตร์ให้ลิงค์เพื่อแลกกับสมุดของเขา เขาก็จะตอบตกลงอย่างแน่นอน มิลด้าเองก็ทําแบบนั้นและเธอก็มักจะพกหนังสือเวทมนตร์ระดับตํานานติดตัวอยู่เสมอ และนี่ก็หมายความว่าพวกไฮเอลฟ์นั้นมีความรู้ในระดับตํานานมากเพียงพอ
ถ้าพวกเขาสามารถใช้วิธีธรรมดาเพื่อเอามันมาได้ แล้วทําไมพวกเขาถึงเลือกที่จะขโมยหล่ะ? พวกเขาจะเสียศักดิ์ศรีถ้าถูกจับได้ไม่ใช่หรอ?
ลิงค์ไม่เข้าใจ ดังนั้นเขาจึงไม่รีบออกไป เขาเพียงแค่เฝ้ามองจากเงามืด
ที่ด้านล่างของประภาคาร ไฮเอลฟ์คนนั้นหยิบหนังสือขึ้นมาและอ่านอย่างระมัดระวัง ในตอนแรก เธอนั้นจริงจังมาก แต่หลังจากผ่านไปซักพัก คิ้วของเธอก็ขมวด เธอยื่นมือไปข้างหน้าและแสงก็ปรากฏขึ้น หนังสือได้ถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน
เธอเงยหน้าขึ้นและพูดกับท้องฟ้า “หนังสือเล่มนี้เป็นของปลอม เจ้าแอบตามมาใช้ไหมหล่ะ? หยุดซ่อนตัวแล้วโผล่หัวออกมาซะ”
ไม่มีเหตุผลที่จะต้องซ่อนอีกต่อไปแล้ว ลิงค์เดินออกจากเงามืด เขาหยุดลงที่ระยะห่าง 100 ฟุตและพูดออกมา “ฉันไม่เข้าใจเลย”
หญิงสาวพูดเยาะเย้ย “เจ้ามันก็แค่มนุษย์ต่ำต้อย เมื่อ 3,000 ปีก่อน พวกเจ้าก็เป็นแค่ทาสของพวกเรา เลือดของมุนเดนไหลเวียนอยู่ในตัวพวกเจ้า เจ้าคิดว่าเจ้ารู้จักเผ่าเราดีเพียงเพราะเจ้าได้เรียนเวทมนตร์และรู้จักกับมิลด้าอย่างงั้นหรอ? ข้าจะบอกอะไรให้นะ เจ้ามันไม่รู้อะไรเลย!”
คําพูดของเธอนั้นเป็นการดูถูกแบบไม่มีเหตุผลเลย เธอเพียงแค่ระบายความรู้สึกของเธอออกมา และด้วยคําพูดหยาบคายเหล่านั้น ไฮเอลฟ์หน้าตางดงามคนนี้จึงดูน่าเกลียดขึ้นมาในทันที
ถ้าเกิดว่าเธอไม่ใช่นักเวทย์ไฮเอลฟ์ ลิงค์ก็คงจะร่ายเวทย์ฉีกมิติในทันทีเพื่อทําให้เธอได้รู้ถึงผลของการลบหลู่นักเวทย์ระดับตํานาน ยังไงก็ตาม เธอนั้นเป็นไฮเอลฟ์ระดับสูง คนแบบนี้จะต้องไม่มาขโมยหนังสือโดยไม่มีเหตุผลแน่ๆ ถ้าเกิดว่าเขาจะลงโทษเธอ เขาก็จําเป็นจะต้องรู้เหตุผลของเธอก่อน
แต่ก็แน่นอนว่า เขาจะทนฟังอยู่เฉยๆไม่ได้เหมือนกัน
เขาควบคุมพลังมังกรของเขาอย่างผ่อนคลาย คลื่นความร้อนแผ่ออกไปเป็นระยะ 50 ฟุตรอบตัวเขา แสงคริสตัลสีแดงหมุนวนอยู่ที่ปลายคลื่นเหมือนกับเปลวไฟ พลังมังกรที่ปกคลุมร่างกายของลิงค์นั้นได้สร้างรูปร่างเสมือนมังกรขึ้นมา
รูปเสมือนนี้มองลงมาดูไฮเอลฟ์เหมือนกับที่เทพเจ้ามองลงมาที่มนุษย์
“ไฮเอลฟ์ ระวังปากซะบ้างก็ดีนะ!” เสียงของลิงค์นั้นทั้งเข้มแข็งและหนักแน่น มันเหมือนกับฟ้าผ่า
นี่เป็นการบดขยี้ด้วยพลัง ไฮเอลฟ์คิดไม่ถึงว่าจู่ๆลิงค์จะปล่อยออกมา เธอตัวซีดเผือดและเดินถอยหลังไปจนเกือบจะล้ม ยังไงก็ตาม สิ่งที่ทําให้ลิงค์ตกใจก็คือหลังจากที่เธอตั้งตัวได้ เธอยังคงจ้องกลับมาที่ลิงค์และพูดเยาะเย้ยต่อ
“ลิงค์ เจ้าไม่รู้หรอว่าข้าเป็นใคร?”
ลิงค์ขมวดคิ้ว เขามองไปที่ไฮเอลฟ์ รอให้เธอพูด
ไฮเอลฟ์ยืดหน้าอกของเธอขึ้นและหายใจเข้าลึกๆ เผชิญหน้ากับพลังระดับตํานานของลิงค์ เธอได้ประกาศออกมา “ข้าชื่อราเวนน่า แม่ของข้าชื่อโอคน่า และพ่อของข้าชื่อลาซุน ส่วนปู่ของข้าชื่อไบรอัน ถ้าเกิดว่าเจ้ากล้าทําร้ายข้า เจ้าจะต้องชดใช้อย่างมหาศาล ดินแดนเฟิร์ดของเจ้าจะกลายเป็นเถ้าถ่านอย่างแน่นอน!”
“ราเวนน่า? นักพยากรณ์ไบรอัน?” ลิงค์นั้นตะลึงกับชื่อของ 2 คนนี้ เขาเคยได้ยินชื่อพวกนี้มาก่อนภายในเกม พวกเขาทุกคนต่างก็เป็นคนที่มีชื่อเสียง
คนแรกคือคนทรยศที่น่าอับอายที่สุดของไฮเอลฟ์ สายเลือดราชวงค์ไฮเอลฟ์ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเธอ ภายในเกม เธอได้เข้าร่วมกับกองทัพแห่งแสง แต่ว่าเธอนั้นชอบดูถูกชนเผ่าอื่น โดยเฉพาะมนุษย์ เธอได้ทุบตีและทําให้ทหารชาวมนุษย์ของเธอต้องอับอาย และเธอก็มีชื่อเสียงที่ย่ำแย่ภายในกองทัพ
ในระหว่างการต่อสู้ กองทัพนักเวทย์ของเธอได้ถูกพวกปีศาจโจมตี และทุกคนก็ตายกันหมด พวกเขาได้ปกป้องเธอเอาไว้ ดังนั้นเธอจึงรอดชีวิตมาได้และถูกจับไปเป็นๆ ไม่มีใครรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น แต่ว่าในท้ายที่สุด เธอก็ได้ปรากฏตัวขึ้นในป้อมปราการปีศาจในฐานะบอส
เธอนั้นเป็นความอับอายของเผ่าไฮเอลฟ์
อีกคนนึงก็คือ นักพยากรณ์ไบรอัน ภายในเกมตัวละครตัวนี้ลึกลับมากและแทบจะไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าผู้เล่นเลย ต่อให้เขาปรากฏตัวขึ้น เขาก็จะสวมผ้าคลุมหนาๆ ที่ปิดหน้าของเขาเอาไว้
นอกเหนือจากชื่อของเขาแล้ว ก็ไม่มีหลักฐานโดยตรงที่บ่งบอกว่าเขาเกี่ยวข้องกับนักเวทย์ชาวมนุษย์ไบรอันจากเมื่อ 300 ปีก่อน พวกไฮเอลฟ์ไม่เคยเปิดเผยตัวตนของไบรอันแบบชัดเจน
แต่ผู้เล่นก็ยังคงเชื่อมั่นในตัวตนของเขาผ่านรายละเอียดหลายๆอย่าง ว่าเขานั้นอาจจะเป็นอดีตมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุด
พอได้ฟังแบบนี้ เขาก็คลายพลังมังกรของเขา “แปลกแฮะ เมื่อ 300 ปีก่อน ปูของเธอเองก็เป็นนักเวทย์เผ่ามนุษย์ระดับตํานานไม่ใช่หรอ เธอเองก็น่าจะมีเลือดของมนุษย์-”
“หุบปาก!” ราเวนน่าตะโกน เธอโบกคทาของเธอและแสงสีเขียวก็พุ่งมาหาลิงค์ มันคือลําแสงแยกส่วนเลเวล 7 มันเป็นท่าที่รุนแรงถึงตาย
แต่ก็แน่นอนว่า มันไม่สามารถทําอะไรลิงค์ได้เขารู้สึกได้ ถึงมันในตอนที่ราเวนน่าเริ่มใช้ความคิดของเธอ ในชั่วพริบตาที่ลําแสงปรากฏขึ้น มิติที่อยู่ด้านหน้าของลิงค์ก็บิดเบี้ยวไปแล้ว และมันก็ได้เบียงลําแสงออกไปด้านข้าง
ท่านี้เป็นแค่การระเบิดของอารมณ์ และราเวนน่าก็หยุดในทันทีที่ลิงค์ป้องกันได้ “ปูของข้าได้รับพรจากต้นไม้แห่งโลก” เธอตะโกน “เขาถูกชําระล้างเลือดมนุษย์ออกไปตั้งนานแล้ว”
ลิงค์มองบน เขารู้สึกได้ว่าราเวนน่านั้นควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้แย่มากและรังเกียจมนุษย์ ท่าทีที่เย่อหยิ่งของเธอมาจากความไม่พอใจของตัวเองล้วนๆ
ซึ่งเหตุผลก็ง่ายมาก ราเวนน่านั้นเป็นฮาฟเอลฟ์
เมื่อเจอกับนิสัยแบบนี้ของเธอ เห็นได้ชัดว่าลิงค์ไม่ควรพูดเรื่องชนเผ่าหรือสายเลือดกับเธอ เขาคลายพลังมังกรของเขาและพูดอย่างเยือกเย็น “ไม่ว่ายังไง การลักขโมยก็เป็นเรื่องน่าอับอาย และเธอก็จะต้องชดใช้ ในฐานะลอร์ดแห่งเฟิร์ด ฉันจะต้องจัดการเรื่องนี้ กลับไปที่เทือกเขามอดไหม้กับฉันซะ แล้วฉันจะติดต่อกับราชินีไฮเอลฟ์เพื่อฟังข้อเสนอของเธอ”
ถ้าเกิดว่าราเวนน่าแค่อยากรู้อยากเห็นและต้องการที่จะอ่านหนังสือของเขา ลิงค์ก็จะปล่อยเธอไปถ้าเกิดว่าเธอขอโทษในตอนนี้ เขาจะทําเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่างมากที่สุด เขาก็คงจะทําแค่บอกให้ราชินีไฮเอลฟ์คอยดูคนของเธอให้ดี
แต่ว่าราเวนน่านั้นต่างออกไป เธอมาด้วยความคิดเชิงลบและเต็มไปด้วยการดูถูก สบประมาท ลิงค์จะต้องหาจุดประสงค์ที่แท้จริงของเธอให้ได้ ไม่อย่างนั้น ถ้าข่าวนี้เผยแพร่ออกไป พวกไฮเอลฟ์ก็จะคิดว่าพวกเขาถูกรังแกได้
“ไม่มีวัน!” ราเวนน่าไม่ขยับไปไหน เธอยังคงจ้องมาที่ลิงค์ด้วยความดูถูก “ข้าจะไม่มีวันเข้าไปเหยียบในเมืองสกปรกๆของมนุษย์หรอก เมืองของเจ้ามันเต็มไปด้วยของเสีย อย่าคิดว่าข้าจะก้าวเข้าไปในนั้นเลย”
“ฉันเกรงว่าเธอจะไม่มีทางเลือกนะ” ลิงค์นั้นไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆออกมาทั้งสิ้น
“ช่างตื้นเขินจริงๆ!” ราเวนน่าเริ่มเดินถอยหลัง “ข้ายอมรับว่าข้าแพ้ ข้าไม่สามารถเอาหนังสือของเจ้าไปได้ในครั้งนี้ แต่ถ้าเจ้าขัดขวางไม่ให้ข้าหนี ก็อย่ามาว่าละกัน ถ้าเกิดว่าข้าสู้กลับ คนอื่นๆอาจจะกลัวพลังของเจ้า แต่ข้าไม่กลัว”
ลิงค์ไม่เข้าใจว่าทําไมเธอถึงยังหัวแข็งได้ขนาดนี้ เขาขมวดคิ้ว “ฉันจะพูดอีกแค่ครั้งเดียวนะ กลับไปที่เทือกเขามอดไหม้กับฉัน”
“ไม่ ฝันไปเถอะ เจ้าคนต่ำช้า เจ้าไม่มีสิทธิ์มาสั่งข้า ข้ามีพลังที่เจ้าไม่มีทางจินตนาการได้ อย่ามาบังคับให้ข้าต้องสู้กับเจ้าเลย” ราเวนน่ายังคงเดินถอยอยู่แต่ว่าเดินช้าลง ดูเหมือนว่าเธอก็ไม่ได้อยากจะต่อสู้เหมือนกัน
นี่เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ถึงแม้ว่าราเวนน่าจะดูถูกพวกมนุษย์ แต่เธอก็ไม่ได้โง่พอที่จะทําให้นักเวทย์ระดับตํานานโกรธ
เห็นได้ชัดว่าเธอไม่อยากให้ตัวเองโดนจับได้ เธอแอบขโมยหนังสืออย่างลับๆและปลอมตัวอย่างแนบเนียน แต่ตอนนี้เธอโดนจับได้แล้ว เธอจึงต้องการที่จะหนี
ลักษณะนิสัยของเธอนั้นเหมือนกับเด็กหัวดื้อ เธอต้องการที่จะทําตามใจตัวเองแต่ว่าเธอก็ไม่ต้องการที่จะรับผิดชอบในตอนที่เธอทําพลาด
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ลิงค์ก็นึกขึ้นมาได้ว่าปูของเธอคือไบรอัน บางทีเธออาจจะมีอุปกรณ์เวทมนตร์ที่ทรงพลังบางอย่าง และอารมณ์ของเธอก็ไม่มั่นคงและอาจจะทําให้มันสูญเสียการควบคุมได้อย่างง่าย เมื่อพิจารณาถึงสิ่งนี้ เขาจึงตัดสินใจที่จะปล่อยเธอไป
นี่ไม่ใช่การพบกันที่ดี แต่เขาก็ไม่มีความจําเป็นที่จะต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
“เห็นแก่ที่ปูของเธอเคยช่วยฉันเอาไว้ ไปซะ และอย่าให้ฉันเห็นหน้าเธออีก”
ราเวนน่าไม่ได้รู้สึกดีใจ “เหอะ” เธอเยาะเย้ย “ไอ้ขี้ขลาด” ในตอนที่เธอถอย เธอก็พูดต่อ “เจ้าจะไม่บอกองค์ราชินีใช่มั้ย?”
ลิงค์ส่ายหัวของเขา “ขอโทษด้วยละกัน ฉันต้องบอกให้เธอรู้”
ราเวนน่าหัวเราะ “เหอะ เจ้าไม่มีหลักฐาน ไม่มีใครเชื่อเจ้าหรอก”
ลิงค์หัวเราะ เขาจะไปทําเรื่องผิดพลาดแบบนั้นได้ยังไง? ในตอนที่เขารู้ว่าโจรคือไฮเอลฟ์ เขาก็ได้เปิดใช้คริสตัลความทรงจําเอาไว้ แต่ถึงกระนั้น ราเวนน่าก็รู้ถึงมัน เธอหยุดลง
“เอาคริสตัลความทรงจําของเจ้ามา”
“นั่นมันจะไม่มากไปหน่อยหรอ” ลิงค์หรี่ตาของเขา ความโกรธเริ่มปะทุขึ้นภายในตัวเขา
ราเวนน่าหยุดพูดแต่เธอก็หยุดหนีเช่นกัน ไม่กี่วินาทีต่อมาเธอก็พูด “หนีไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ข้าจะไปเทือกเขามอดไหม้กับเจ้า”
“เป็นตัวเลือกที่ฉลาดมาก ตามฉันมาสิ” ลิงค์ไม่คิดว่าเธอจะยอมแพ้ เขาหันหลังกลับและเริ่มเดินไปทางเทือกเขามอดไหม้
ในตอนที่เขาหันหลัง เขาก็รู้สึกว่าหัวใจถูกบีบรัด มีอันตราย…นี่เธอชั่วช้าและโง่เง่าขนาดนี้เลยเหรอ? เธอคิดจะฆ่าฉันในตอนที่ฉันไม่สนใจเธอเนี่ยนะ?
เขารู้สึกตัวในทันที
ในตอนนั้นเอง เขาก็ได้ทําการโต้ตอบ ความคิดแล่นผ่านหัวของเขาอย่างรวดเร็ว ฉันระวังตัวน้อยไปเอง เธอไม่ได้กลัวการถูกทําให้อับอายหลังจากที่คนอื่นรู้เรื่องนี้ มันน่าจะยังมีเหตุผลอื่นที่ไม่สามารถพูดออกมา!