Advent of the Archmage Chapter 432: เสียงเรียกให้ช่วยของผู้หญิงจากในป่า
เพราะผลกระทบของออร่าแห่งความว่างเปล่า ทําให้ทัศนวิสัยภายในปานั้นแย่มาก มีจุดสีม่วงเข้มที่คอยบดบังแสงสว่างอยู่ตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้าง
มีเสียงลมหวนเหมือนกับอยู่ในช่องแคบ มันเป็นเสียงเดียวที่สามารถได้ยินได้ในตอนนี้ เสียงร้องแหลมๆของนกที่เคยดังไปทั่วปาตอนนี้มันไม่มีแล้ว
“ช่วยด้วย! ช่วยข้าด้วย!” เสียงร้องขอให้ช่วยดังขึ้นมา มันเป็นเสียงที่สูงและแหลม ซึ่งยากมาที่จะไม่ได้ยินมัน
เฟลินาจงใจไม่สนใจเสียงนั้น เธอเอามือปิดหูและเดินหน้าต่อ เธอกลัวว่าลิงค์จะเอาตัวเข้าไปยุ่งและเตือนเขา “อย่าไปฟังมันนะ ปิดหูไปก็ไม่มีประโยชน์ เจ้าจะยังได้ยินเสียงจากข้างในจิตใจอยู่ดี”
เมื่อเห็นว่าเฟลิน่ากังวล ลิงค์ก็เข้าสู่สถานะระวังตัวเต็มที่ เขาตามเฟลิน่าไปติดๆ และคอยมองดูรอบๆเผื่อในกรณีที่พวกเขาโดนลอบโจมตี
หลังจากเดินไปได้ประมาณ 30 ฟุต เขาก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง “เสียงร้องขอให้ช่วยเปลี่ยนไปตามทิศทางลม แล้วเราก็จะไม่ได้ยินเสียงในตอนที่เราปิดหู มันดูไม่เหมือนกับสัตว์หลอกลวงแห่งความว่างเปล่าเลยนะ?”
“หืม?” เฟลิน่าตกตะลึง เธอลองปิดหูดู และเธอก็พบว่าเธอไม่ได้ยินเสียงอีกแล้ว หลังจากที่เธอเอามือออก เธอก็ได้ยินเสียงอีกครั้ง นี่แสดงว่ามันไม่ใช่สัตว์หลอกลวงแห่งความว่างเปล่าแต่มันคือเสียงร้องขอความช่วยเหลือจริงๆ
“มีคนกําลังมีปัญหาอยู่จริงๆหรอ?” เฟลิน่ายังคงลังเล
“ฉันก็ไม่แน่ใจ พวกเราลองไปดูกันเถอะ” ลิงค์พูด
สําหรับเรื่องสัตว์แห่งความว่างเปล่า ลิงค์นั้นพอมีความเข้าใจนิสัยของมันอยู่เล็กน้อย ในช่วงท้ายของเกมมีรอยแตกของมิติเกิดขึ้นมากมายทั่วทวีป และด้วยเหตุนั้นสัตว์แห่งความว่างเปล่าจึงถูกดูดเข้ามาในฟิรุแมนมากมายเต็มไปหมด ในตอนนั้น มีผู้เล่นอย่างน้อย 5% ที่ขึ้นไปถึงระดับตํานาน ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องยากมากนักในการจัดการกับสัตว์แห่งความว่างเปล่า
แน่นอนว่า มันมีสัตว์จํานวนนับไม่ถ้วนในความว่างเปล่า มันมีความเป็นไปได้ที่สัตว์ระดับสูงจะปรากฏตัวขึ้นในฟิรุแมน และสัตว์พวกนั้นก็จะถูกพิจารณาให้เป็นบอส
ลิงค์และกลุ่มของเขาได้ฆ่าพวกบอสไปหลายตัวสิ่งที่ยาก ที่สุดที่พวกเขาเจอก็คือไม่มีบอสตัวไหนเลยที่มีลักษณะเหมือนกัน พวกมันมีรูปร่างและขนาดที่หลากหลาย และความสามารถที่แตกต่างกัน ชนิดของสัตว์ที่ออกมานั้นมีได้ไม่จํากัด สิ่งเดียวที่มีจํากัดก็คือจินตนาการของผู้เล่น
ก่อนหน้านี้ ลิงค์ยังคิดอยู่เลยว่าบริษัทเกมเป็นคนเขียนสคริปและรู้สึกประทับใจในจินตนาการของพวกเขามาก แต่ตอนนี้ เขารู้แล้วว่าพวกเขานั้นอาจจะได้รับแรงบัลดาลใจมาจากฟิรุแมนของจริง
เพราะความรู้พวกนี้ ทําให้ลิงค์ไม่มั่นใจว่าเสียงเรียกขอความช่วยเหลือนั้นมาจากคนหรือสัตว์ร้ายกันแน่
ถ้าเกิดว่ามีใครบางคนกําลังมีปัญหาและพวกเขาผ่านมาเจอ พวกเขาก็ควรจะหาทางช่วยเหลือคนๆนั้น และในอนาคตก็จะเป็นแบบเดียวกัน ถ้าพวกเขามีปัญหา คนอื่นก็จะยื่นมือมาช่วยเหลือพวกเขา นี่เป็นกฎที่ไม่ได้มีเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรในหมู่นักพจญภัย
ลิงค์และเฟลิน่าได้หันกลับไปทางเสียงเรียกขอความช่วยเหลือ และเตรียมตัวที่จะสํารวจ
เพื่อป้องกันอันตราย ลิงค์ได้ร่ายเวทย์ไร้ร่องรอยใส่เฟลิน่าและตัวเขาเอง จากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็หายตัวไป
“ช่วยด้วย! ช่วยข้าด้วย!”
ยิ่งพวกเขาเข้าใกล้มากเท่าไหร่ เสียงก็ยิ่งชัดเจนมากเท่านั้น และเสียงร้องไห้ก็ชัดเจนยิ่งขึ้น เสียงร้องไห้นั้นฟังดูน่าสงสารและทําให้ใครก็ตามที่ได้ยินรู้สึกเห็นใจขึ้นมา
เฟลิน่าเดินช้าลงและพูด “เสียงนี้เหมือนกับเสียงของผู้หญิงเลย แปลกจัง ผู้หญิงจะมาทําอะไรในที่แบบนี้?”
ลิงค์เองก็คิดว่ามันแปลก เขามีความรู้สึกว่าถ้าเกิดว่าพวกเขายังคงมุ่งหน้าต่อไป พวกเขาก็จะเจอกับสัตว์ประหลาดและความรู้สึกนั้นก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ลิงค์รู้สึกได้ถึงเหงื่อที่ไหลอยู่ที่หลังของเขา
“เดี๋ยว หยุดก่อน” ลิงค์สั่งให้เฟลิน่าหยุด ลิงค์เกือบจะมั่นใจแล้วว่าเสียงนั้นมาจากสัตว์แห่งความว่างเปล่า ที่ซึ่งสามารถใช้วิธีการแบบนี้ในการดึงดูดนักพจญภัยได้ และมันก็จัดการได้ยากมาก
แถวนี้มีใบไม้หนามาก และทัศนวิสัยก็ย่ำแย่ มันเหมือนกับการเดินทางตอนกลางคืน แต่ก็โชคดีที่ ทั้งลิงค์และเฟลิน่านั้นเป็นนักรบเผ่ามังกรที่แข็งแกร่ง สายตาของพวกเขานั้นดีกว่าคนทั่วไป อย่างน้อยพวกเขาก็มองเห็นสภาพแวดล้อมรอบตัวพวกเขา
ลิงค์รู้สึกได้ว่าใจของเขาเต้นรัว เขาสูดหายใจเข้าเต็มปอดแล้วบอกกับเฟลิน่า “นี่อาจจะเป็นสัตว์แห่งความว่างเปล่าที่แข็งแกร่งมาก พวกเราจะเสี่ยงไม่ได้ไปกันเถอะ!”
ตั้งแต่ที่เขาเลื่อนขึ้นเป็นระดับตํานาน นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ลิงค์รู้สึกกลัวขนาดนี้ ขนาดตอนที่เขาเจอกับเจตจํานงศักดิ์สิทธิ์ของเทพแห่งการทําลายล้างที่เมืองราลิเอล เขาก็ยังไม่รู้สึกกลัวขนาดนี้
แน่นอนว่า นี่ไม่ได้หมายความว่าสัตว์แห่งความว่างเปล่าตัวนี้แข็งแกร่งกว่าเทพแห่งการทําลายล้าง แต่มันเป็นเพราะว่าสัตว์ร้ายตัวนี้ได้มายังฟิรุแมนและข่มขู่เขาโดยตรง
พวกเขาทั้งคู่ถอยอย่างรวดเร็ว
ยังไงก็ตาม หลังจากที่ถอยไปได้ 60 ฟุต เสียงร้องขอให้ช่วยก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง “เร็วเข้า ใครก็ได้ ข้ากําลังจะตายแล้ว มีสัตว์ร้ายตัวใหญ่ 2 ตัวกําลังจะกินข้า! ช่วยด้วย!!!”
เสียงนั้นดังยิ่งกว่าเดิมอีก มันดูเหมือนกับห่างจากพวกเขาไปแค่ 300 ฟุต ด้วยความที่มันดังขึ้นมาอย่างกระทันหัน มันจึงทําให้เฟลิน่าตกใจจนตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ลิงค์เองก็ตกใจเช่นกัน แต่เขาก็เปลี่ยนเป็นตั้งท่าป้องกันในทันที
“ดูเหมือนว่าเธอจะวิ่งมาทางเรานะ” เฟลิน่าพูดด้วยน้ำเสียงอันสันเครือ เธอมองซ้ายมองขวา และดูกังวลว่าอาจจะมีสัตว์ร้ายตัวใหญ่กระโดดออกมาจากความมืด
ลิงค์มองไปรอบๆอย่างว่องไวและตะโกน “อย่าตกใจไป ค่อยๆถอย พวกเราจะกลับไปทางถนนเดิมที่พวกเรามา”
พวกเขาทั้งคู่ถอยต่อไป หลังจากผ่านไปประมาณ 150 ฟุต เสียงเรียกขอความช่วยเหลือก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง ยังไงก็ตาม ในครั้งนี้มันอยู่ไกลออกไป ประมาณ 600 ฟุต
สิ่งนี้ทําให้ลิงค์และเฟลิน่าถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“มันน่าจะเดินวนไปมาและเพิ่งจะผ่านพวกเราไปเมื่อไม่นานมานี้” ลิงค์คิด
“มันคือตัวอะไรกัน?” เฟลิน่าถามเบาๆ ใบหน้าของเธอซีดเผือด นี่คือหลักฐานที่บ่งบอกว่าเธอกลัวมากๆ
ลิงค์ก็ไม่รู้เหมือนกัน “มีสิ่งมีชีวิตอยู่มากมายในความว่างเปล่า ไม่มีทางรู้ได้หรอกว่ามันคือตัวอะไร?”
ในระหว่างที่พวกเขาพูด ทั้งสองคนก็ถอยออกไปได้ถึง 900 ฟุต ต้นไม้ลดน้อยลงไปมาก และมันก็สว่างมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งสองคนไม่ได้ชักช้าอีกต่อไปแล้ว พวกเขารีบมุ่งหน้าไปยังหุบเขามังกร
ยังไงก็ตาม หลังจากที่เดินทางไปได้ 2 ไมล์ ก็มีเสียงระเบิดดังมาจากด้านหลัง ตุ้ม! แรงระเบิดได้สร้างคลื่นกระแทกซัดใส่ลิงค์กับเฟลิน่า มันเสียงดังจนทําให้หูหนวก เฟลิน่านั้นกําลังจะกระโดดข้ามคลอง แต่ด้วยความที่เกิดการระเบิดขึ้นอย่างกระทันหัน มันจึงทําให้เธอตกใจและเสียสมดุล
ลิงค์รีบยื่นมือออกไปจับเธอไว้ และช่วยป้องกันไม่ให้เธอล้มลงไป
หลังจากที่ทรงตัวขึ้นมาได้ พวกเขาก็มองกลับไป
พวกเขาเห็นว่าภายในปาที่พวกเขาเพิ่งจะออกมานั้น มีลูกบอลเพลิงสีน้ำเงินเข้มลอยออกมา บอลเพลิงนั้นมีความกว้าง 120 ฟุต จากระยะไกล มันดูเหมือนกับดวงอาทิตย์ขนาดจิ๋วเลย
ยังไงก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นน่าตกใจยิ่งกว่า
หลังจากที่บอลเพลิงลอยขึ้นไปได้ 180 ฟุต ไม่เพียงแค่มันจะไม่ใหญ่ขึ้นเท่านั้น มันกลับเล็กลงและอ่อนลงเรื่อยๆด้วย หลังจากนั้นมันก็ลดขนาดลงจนหายไปในที่สุด มันเหมือนกับว่ามียักษ์กินเพลิงได้กินเอาบอลเพลิงนั้นไป
“มันมาจากทางเสียงขอความช่วยเหลือนี่” เฟลิน่าพูดอย่างเป็นกังวล
“ใช่แล้ว” ลิงค์ตอบ “เวทย์เมื่อสักครู่นี้คือเวทย์เพลิงเลเวล 9 “ระเบิดซูเปอร์โนว่า มันรุนแรงมากพอที่จะทําให้ป้อมปราการเล็กๆกลายเป็นผุยผงได้เลย ดูจากวิธีการการร่ายเวทย์แล้ว นักเวทย์ที่ร่ายมันจะต้องเป็นคนแคระแน่ๆ…สถานการณ์ของพวกเขาไม่ค่อยจะดี ออร่านักเวทย์นั้นหายไปอย่างรวดเร็ว”
“ หรือว่าพวกเขาจะเป็นสมาชิกจากสมาคมมรกตที่มาประชุมที่นี่?” เฟลิน่าถามขึ้นมา
“ก็เป็นไปได้นะ พวกเขาน่าจะโดนเสียงเรียกขอความช่วยเหลือหลอกเหมือนกัน เดี๋ยวก่อน ดูนั่นสิ นั่นมันมังกรนี้!”
ลิงค์หายใจเข้าลึกๆ มังกรตัวนั้นกําลังจะบินขึ้นหนี แต่ทันใดนั้นเองมันก็ร้องด้วยความเจ็บปวด
เพราะระยะห่างของพวกเขา ลิงค์จึงมองไม่เห็นว่าอะไรเป็นคนโจมตีมังกรตัวนั้น ทั้งหมดที่พวกเขาเห็นก็คือร่างของมังกรที่ค่อยๆผอมลีบลงอย่างรวดเร็ว ในเวลาไม่ถึง 2 วินาที มังกรตัวนั้นก็กลายเป็นโครงกระดูก
ศพร่วงลงมาที่พื้น และปาก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
ภาพนี้น่าตกใจมาก ลิงค์กับเฟลิน่าต่างก็ยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่พูดอะไรออกมา
หลังจากผ่านไปครึ่งนาที เฟลิน่าพูดขึ้น “ข้ารู้จักมังกรตัวนั้น เขามีชื่อว่าโฟล เขาอยู่ที่จุดสูงสุดของเลเวล 8 และกําลังจะขึ้นเลเวล 9 เขาได้รับหน้าที่ให้ไปรับนักเวทย์คนแคระที่มีชื่อว่าไกมิน”
“ฉันเกรงว่าสองคนนั้นจะตายไปแล้วนะ ดูเหมือนว่า พวกเขาจะถูกสัตว์ประหลาดที่มีเสียงเหมือนกับหญิงสาวฆ่า” ลิงค์ตอบ
และตอนนั้นเองก็มีอะไรบางอย่างโผล่ขึ้นมาในทัศนวิสัยของลิงค์ ลิงค์มองดู มันคือภารกิจใหม่
ภารกิจ: หญิงสาวในป่า
รายละเอียด: มีหญิงสาวร้องขอความช่วยเหลืออยู่ภายในป่า ยังไงก็ตาม ใกล้ๆกับเธอ ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 2 ได้ถูกฆ่าไป สํารวจป่าและสืบหาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
รางวัล: สายตาแห่งความจริงของนักฆ่า(อีพิค)
เวลาจํากัด: 3 วัน
(หมายเหตุ: โปรดทําภารกิจนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้เพื่อป้องกันผลลัพธ์ที่เลวร้ายกว่านี้)
พอเห็นรายละเอียดของภารกิจ ลิงค์ก็สบถออกมา ระบบได้ใช้ของรางวัลระดับตํานานในการล่อเขาอีกแล้ว เขาคิดเกี่ยวกับมันอยู่พักนึง และลิงค์ก็ตัดสินใจรับมัน
นี่คือภารกิจสืบสวน และสิ่งที่เขาต้องทําก็มีแค่การสืบว่าเกิดอะไรขึ้น มันคุ้มค่าพอที่จะเสี่ยงเพื่อที่จะเอาอุปกรณ์ระดับตํานานมา
เมื่อคิดถึงจุดนี้ ลิงค์ก็หันไปหาเฟลิน่าและพูด “เธอกลับไปที่หุบเขามังกรก่อนเลย ฉันจะไปดูเองว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ข้าจะไปกับเจ้าด้วย… ก็ได้ ข้าจะกลับไปก่อน”
ด้วยสายตาที่จริงจังของลิงค์ เฟลิน่าจึงยอมแพ้ เธอรู้ว่าเธออยู่ไปก็ช่วยอะไรลิงค์ไม่ได้และอาจจะกลายเป็นตัวถ่วง
“ฝากบอกราชินีด้วยนะว่าฉันจะรีบไปในตอนที่รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น”
“เข้าใจแล้ว”
“ระวังตัวด้วย ฉันไปหล่ะ”
หลังจากนั้น ลิงค์ก็ร่ายเวทย์ไร้ร่องรอยใส่ตัวเองและมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่พวกเขาเห็นบอลเพลิง
หลังจากที่เดินทางไปได้ 1 ไมล์ เขาก็ได้ยินเสียงเรียกขอความช่วยเหลืออีกครั้ง
เสียงนั้นดูเจ็บปวดและน่าสงสารอย่างมาก ราวกับว่าคนที่กําลังขอความช่วยเหลืออยู่นั้นอยู่ในสถานที่ที่น่ากลัวอย่างมาก ยังไงก็ตาม ในตอนที่ลิงค์ได้ยินมัน เขาก็รู้สึกหนาวไปถึงขั้วกระดูก