Advent of the Archmage Chapter 455: รับไปเถอะ, ไม่ต้องสวมก็ได้
ตราประทับสีดำนั้นคือแหวนเวทมนตร์ลิงค์ศึกษามันอย่างระมัดระวัง, และข้อมูลก็ปรากฎขึ้นในทัศนวิสัยของเขา
ผนึกออบซิเดียนของดยุคมังกร(สามารถชาร์จได้)
ตำนาน
ผลที่1:สร้างโล่เลเวล 12 ได้ในทันทีหลังจากที่เปิดใช้ (3/3)
ผลที่2:เทเลพอร์ทได้ตั้งแต่ 5 ถึง 50 ไมล์ (3/3)
ผลที่3:อัญเชิญราชินีมังกรแดง!
(หมายเหตุ:ตามประเพณีของมังกรแล้ว, มังกรที่ครอบครองตราประทับสีดำนั้นจะกลายเป็นผู้มีสิทธิ์เพียงหนึ่งเดียวที่จะได้เป็นคู่ชีวิตของราชินีมังกรแดง)
ตราประทับนี้มีประโยชน์มันคือโล่ที่สามารถเคลื่อนย้ายเขาได้—มันเป็นไอเทมช่วยชีวิตจริงๆ แต่หมายเหตุนั้นถึงกับทำให้ลิงค์พูดไม่ออก “ผู้มีสิทธิ์เพียงหนึ่งเดียวนี่” สรุปแล้วมันก็หมายถึงสามีในอนาคตใช่ไหม?
ราชินีมังกรแดงทำเรื่องแบบนี้โดยไม่บอกเขาอีกแล้ว
ไม่,ฉันรับมันไม่ได้ มันจะกลายเป็นปัญหาในอนาคต หลังจากนี้ฉันจะอธิบายกับเซลีนยังไงดีเนี่ย?
ลิงค์กังวลอยู่กับเรื่องนี้เป็นเวลาพักใหญ่ๆและในที่สุด, เขาก็ใช้มือแห่งนักเวทย์วางตราประทับเอาไว้บนโต๊ะที่อยู่ข้างๆ และด้วยเสียงแกร๊กเบาๆ, เขาก็หยุดคิดถึงมัน
แสดงของรางวัล,เขาพูดกับระบบเกมส์
ติ้ง!ทัศนวิสัยของเขาสว่างขึ้นและของที่เหมือนกับถุงเงินก็ปรากฎขึ้นในมือเขา เขาลองเปิดดูแล้วเห็นโจกุที่ดูเหมือนกับหมากโกะสีขาวจำนวน 50 ชิ้น
เขาได้มา50 ชิ้นจากภารกิจนี้ เมื่อรวมกับ 25 ชิ้นจากผลิตก่อน, ตอนนี้เขามี 75 โจกุ ไอเซนิสบอกว่าถ้าลิงค์ให้เขา 300 โจกุ, เขาจะบอกวิธีซ่อมแซมรอยแตกให้
ตอนนี้มันเกือบจะครึ่งทางแล้ว
อย่างไรก็ตาม,เขาคงไม่ได้รับภารกิจระดับอีพิคทุกวันหรอก ลิงค์ตั้งใจว่าหลังจากที่ร่างกายของเขาหายดีแล้ว, เขาจะไปที่โบราณสถานเพื่อตามหาโจกุ ใช่, แล้วเขาก็สามารถให้รางวัลกับคนที่ช่วยเขาตามหาได้ด้วย
นอกจากโจกุแล้ว,ยังมีเข็มขัดสีน้ำเงินเข้มด้วย พอสังเกตุดู, ข้อความก็ปรากฎขึ้น
เข็มขัดราชันมังกรนักฆ่า
ตำนานระดับต่ำ(11)
ผล:เปิดใช้ผลพลังมังกรนิรันดร์ พลังมังกรของผู้ใช้จะมีอัตราฟื้นฟู 1,000% เป็นเวลา 20 วินาที ผลนี้สามารถใช้ได้หนึ่งครั้งต่อเดือน
(หมายเหตุ:ด้วยสิ่งนี้, คุณจะไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้พลังมังกรหมดอีกต่อไป)
“เยี่ยมเลย”แล้วลิงค์ก็เก็บเข็มขัด
ตอนนี้เขาไม่มีอะไรทำแล้ว,ดังนั้นเขาจึงเอาหนังสือมังกรออกมาอ่าน เขาศึกษาเนื้อหาของมันมาครึ่งเดือนแต่เขาก็ยังรู้แค่พื้นฐาน ถ้าเขาต้องการศึกษาทั้งหมด, เขาคงจะต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งหรือสองปี
ลิงค์มีความคิดอยู่มังกรกับมนุษย์นั้นมีต้นกำเนิดมาจากจุดเดียวกัน ถ้าเขาสามารถหาความลับของพลังมังกรและเปลี่ยนมันเป็นศิลปะการต่อสู้ได้, ก็จะมีมนุษย์ที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้น และเมื่อถึงตอนนั้น, พวกเขาก็จะไม่ถูกเผ่าอื่นรังแกอีกต่อไป
ด้วยเป้าหมายนี้ในใจ,ลิงค์ก็จริงจังกับมันมากขึ้น
เวลาได้ผ่านไปครึ่งวันแล้วจากนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างกระทันหัน ลิงค์หันไปมองแล้วเห็นเกรเทลเดินเข้ามาพร้อมกับอาหาร
เธอเดินเข้ามาแล้วเห็นว่าลิงค์วางตราประทับดำเอาไว้บนโต๊ะซึ่งนั่นถึงกับทำให้เธอสะดุด, แต่เธอก็ไม่ได้หยุด เกรเทลเดินมาข้างหน้าต่อแล้ววางอาหารเอาไว้บนโต๊ะ จากนั้นเธอก็ไปหยิบตราประทับขึ้นมา, แล้วถาม “เจ้าวางมันเอาไว้ตรงนี้ได้ยังไง?”
ลิงค์ยังคงมีสมาธิกับหนังสือพอได้ยินคำถาม, เขาก็เงยหน้าขึ้น พอเห็นว่าเกรเทลกำลังถือตราประทับอยู่, เขาก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาในทันที หลังจากหยุดไปพักนึง, เขาก็ยักไหล่ “ผมเคยเห็นหนังสือเล่มนึงในห้องสมุด, มันชื่อว่าอำนาจประเพณี ซึ่งมันได้อธิบายเกี่ยวกับตราประทับเอาไว้ด้วย ผมคิดว่าผมไม่เหมาะสมกับตำแหน่งดยุคนะ”
จริงๆแล้วเขาไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนั้นหรอก,แต่เขาเคยเห็นชื่อหนังสือที่ห้องสมุดจริงๆ, ดังนั้นเขาจึงยืมชื่อมาใช้
“ช่วงชีวิตของมนุษย์สั้นนิดเดียวจะให้ข้ารอไปอีก 100 ปีก็ยังได้นะ” ในเมื่อลิงค์รู้แล้ว, เกรเทลจึงไม่ปิดบังอะไรอีก แล้วเธอก็ส่งตราประทับให้กับเขา
ลิงค์รู้สึกอึดอัดนี่เป็นครั้งแรกที่เขาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้, ราชินีมังกรแดงมีชีวิตมา 2,000 ปีแล้ว เธอสามารถรักษาใบหน้านิ่งสงบกับเรื่องพวกนี้ได้แต่ลิงค์ทำไม่ได้หรอก
เขาไม่รู้ว่าต้องทำยังไงดีถ้าเขาปฎิเสธ, เขาก็รู้สึกว่าใจร้ายกับเธอเกินไปหน่อย แต่ถ้าเขายอมตกลง, เขาก็คงจะโหดร้ายกับเซลีน ตอนนี้เขาตัดสินใจไม่ถูกเลย
พอเห็นเขาอยู่ในสภาพนี้,เกรเทลก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา แล้วเธอก็ตระหนักขึ้นมาได้ในทันทีว่านักเวทย์ระดับตำนานผู้แข็งแกร่งคนนี้ก็เป็นแค่เด็กหนุ่มอายุ 20 ปีและเธอก็กลัวจะถูกเขาปฏิเสธมากเลยด้วย
นี่ทำให้เธอได้เปรียบทางด้านจิตวิทยาเธอโยนตราประทับใส่หน้าตักของลิงค์, แล้วพูด “เจ้าหนู, รับไปเถอะหน่า มีแค่ผู้อาวุโสเท่านั้นที่รู้ประเพณีนี้ พวกมังกรหนุ่มสาวไม่รู้หรอก รับๆไปเถอะ เจ้าไม่ต้องสวมมันก็ได้; แค่เก็บเอาไว้ป้องกันตัวเองก็พอ และในตอนที่เจ้าคิดดีแล้ว, ก็สวมมันเอาไว้ที่นิ้วกลางข้างซ้ายซะ, แล้วข้าจะสัมผัสถึงมันได้”
นี่เป็นการพูดที่ดีและบรรเทาความกังวลของลิงค์ได้ในทันทีเขาเป็นคนมีเหตุผล พอได้ยินคำพูดของราชินี, เขาก็รีบเก็บตราประทับอย่างรวดเร็ว “ถ้างั้นผมจะเก็บเอาไว้ก็ได้”
ด้วยรอยยิ้ม,เกรเทลก็เอาชามซุบมาวางแล้วจัดช้อนให้ “ข้าพร้อมจะป้อนอาหารให้เจ้านะ มีคนมากมายอยากให้ข้าป้อนอาหารให้, แต่ข้ารู้ว่าเจ้าคงไม่ยอมหรอก เอานี่, กินเองแล้วกัน ซุบนี้ทำมาจากมันสัมปะหลังจันทราม่วงที่เติบโตในป่าแสงจันทร์ทางตอนใต้ของหมู่บ้านมังกร มันช่วยในการฟื้นฟูร่างกายได้ดีมากเลยหล่ะ รีบกินตอนร้อนๆหล่ะ”
“โอ้,โอเคครับ” ลิงค์ดมดู, และกลิ่นหอมละมุนก็ตีเข้าจมูกของเขา ความอยากอาหารของเขาถูกปลุกขึ้นมา เขาลองจิบดู; แล้วรสชาติอ่อนๆของซุบก็ให้ความรู้สึกอันยอดเยี่ยมกับเขา จากนั้นเขาก็รีบซดซุบที่เหลืออย่างรวดเร็ว
เกรเทลนั่งอยู่ข้างเตียงพอเห็นลิงค์ที่มีความสุขกับการรับประทานอาหาร, เธอก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ตามที่คาดเอาไว้, ถึงจะเป็นนักเวทย์ระดับตำนาน, แต่เขาก็เป็นแค่เด็กคนนึงที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์เท่าไหร่นัก
เจ้าเด็กแก่แดด
ในตอนที่ลิงค์กินเสร็จ,เกรเทลก็ถาม “เป็นไงบ้าง?”
ลิงค์รู้สึกถึงความอบอุ่นที่ไหลผ่านท้องของเขาเขาลูบท้องเบาๆ ก่อนหน้านี้มันรู้สึกเจ็บ, แต่ด้วยความอบอุ่นนี้, ความเจ็บปวดก็หายไป
เขาพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง“มันอร่อยมากเลย”
“ยังมีอีกนะแต่มันสำปะหรังนี้มีไว้สำหรับข้าคนเดียวตอนนี้ข้าจะไปเอามาให้อีก, เจ้าไม่ต้องไปไหนหรอก แต่เจ้าต้องชดใช้คืนด้วยหล่ะ”
“หืม…ยังไงหล่ะ?”
“เจ้าเป็นนักเวทย์เสริมพลังนี่เพราะฉะนั้นก็รับหน้าที่แทนพวกสมาคมมรกต แล้วทำรูนให้สเถียรซะ…”
ลิงค์หัวเราะเบาๆ“เรื่องนั้นเองหรอกหรอ? ของง่ายๆ พรุ่งนี้เป็นไง? ผมสามารถเริ่มงานได้วันพรุ่งนี้เลย”
เกรเทลรีบส่ายหัวในทันที“ไม่จำเป็นต้องรีบขนาดนั้นหรอก เจ้าพักก่อนสักสองสามวันเถอะ, ข้าจะจัดการส่วนที่ง่ายๆให้ แล้วเหลือส่วนที่ยากเอาไว้ให้เจ้าจัดการ”
“ไม่มีปัญหา”
“อ้ะ,แล้วก็นี่” เกรเทลเอาสมุดเวทมนตร์เล่มนึงออกมาให้ลิงค์ “ลูเซีย ซิลเวอร์สตาร์บอกว่าให้มอบสิ่งนี้ให้เจ้า มันคือสมุดโน๊ตของเธอ”
พอได้ยินแบบนี้,ลิงค์ก็ลืมเรื่องอาการบาดเจ็บแล้วลุกขึ้นนั่งในทันที, พร้อมกับยื่นมือไปหาสมุด นี่คือความรู้ของบุคคลระดับตำนาน มันมีค่ากว่าประเทศด้วยซ้ำ!
มีคำว่าพลังลึกลับเขียนอยู่อย่างงดงามที่ปกสมุดดูเหมือนว่าลูเซีย ซิลเวอร์สตาร์จะเชี่ยวชาญเวทย์ลึกลับ และก็ช่างบังเอิญจริงๆที่มันเป็นสิ่งที่ลิงค์กำลังขาดอยู่พอดี
เขาลองไล่เปิดดูและตรวจสอบคร่าวๆดวงตาของลิงค์เป็นประกาย เขาไม่เคยเห็นความรู้มากมายที่อธิบายเอาไว้ในหนังสือเล่มนี้เลย เนื้อหาพวกนี้มันเปิดโลกทัศน์เกี่ยวกับเวทย์ลึกลับให้เขาจริงๆ เขาเคยเสียเปรียบเพราะเรื่องนี้มาก่อน
ในขณะที่เก็บสมุดอย่างระมัดระวัง,ลิงค์ก็ถามขึ้น “ตอนนี้ซิลเวอร์สตาร์เป็นยังไงบ้างหล่ะ?”
“เธอไปพักผ่อนยังสถานที่ที่บรรพบุรุษของเธออยู่แล้วข้าส่งนักรบคนนึงไปคุ้มครองเธอ พวกเราจะไม่ได้เห็นเธออีก” เกรเทลรู้สึกเสียใจเล็กน้อย ซิลเวอร์สตาร์เป็นเพื่อนเก่าของเธอ, แต่ตอนนี้วิญญาณของเธอได้จากไปแล้ว ซึ่งนี่ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากความตาย
ลิงค์เองก็รู้สึกเสียใจเหมือนกันเพราะการจากไปของซิลเวอร์สตาร์, ฟิรุแมนจึงเสียบุคคลระดับตำนานไปหนึ่งคน มันช่างน่าเศร้าจริงๆ
“เอาเถอะ,พักผ่อนเยอะๆหล่ะ เดี๋ยวอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้เจ้าจะต้องยุ่งแล้ว”
ลิงค์ใช้เวลาไปกับการพักผ่อนในวิหารมังกรสามวันหลังจากนั้น, บาดแผลส่วนใหญ่ของเขาก็เริ่มหายดี, ดังนั้นเขาจึงเริ่มทำการคงสภาพรูน
รูนพวกนี้ซับซ้อนมากๆหากไม่ใช่บุคคลระดับตำนานคงไม่สามารถทำอะไรกับพวกมันได้ แม้ว่าลิงค์กับเกรเทลจะช่วยกันทำงาน, แต่รูนหนึ่งอันก็ยังต้องใช้เวลาถึงสามวัน, แต่พวกเขาจำเป็นต้องอย่างน้อยสิบอัน ซึ่งนี่หมายความว่ามันจะต้องใช้เวลาหนึ่งเดือนถึงจะสำเร็จ
ลิงค์คิดว่ามันเป็นการฝึกฝนทักษะเสริมพลัง
ในขณะที่กำลังสร้างหินรูนพวกนี้,เขาก็จะถกปัญหาเวทมนตร์กับเกรเทล ซึ่งเขารู้สึกสนใจคุณสมบัติในการรักษาของพลังมังกรเป็นพิเศษ
และก็แน่นอนว่า,เกรเทลไม่ได้กั๊กคำตอบเอาไว้เลย
หนึ่งเดือนต่อมา,หินรูนก็สำเร็จ, และลิงค์ก็ได้เรียนรู้เวทย์รักษามานิดหน่อย พวกมันไม่ได้ส่งผลกับร่างกายของเขาซักเท่าไหร่, เพราะร่างกายของเขาแข็งแกร่งเกินไป แต่เวทย์นี้คงจะเหมือนกับเวทย์ศักดิ์สิทธิ์สำหรับคนธรรมดา
หลังจากที่สร้างหินรูนเสร็จแล้ว,พวกเขาก็ไปที่เทือกเขาโคโรลาโด้เพื่อติดตั้งพวกมัน ซึ่งมันก็สำเร็จไปได้ด้วยดีเช่นกัน หลังจากติดตั้งรูนพวกนี้, รอยแตกก็ถูกผนึกเอาไว้ข้างในโดม มันแทบจะถูกแยกจากภพฟิรุแมนเลยก็ว่าได้
อย่างไรก็ตาม,นี่ก็ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตรงจุด มานาจะสะสมไปเรื่อยๆจากข้างในโดม และในสักวันหนึ่งความหนาแน่นก็จะเกินขีดจำกัดของรูน, ซึ่งนั่นจะทำให้โดมรั่วแล้วมานาก็จะทะลักออกมา แล้วหลังจากนั้นความหนาแน่นของมานาทั่วฟิรุแมนก็จะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวในทันที
การระเบิดอย่างกระทันหันของมานานั้นคงจะไม่ได้สร้างความเสียหายซักเท่าไหร่,แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องดีเช่นกัน เพื่อให้ตอบโต้กับเหตุการณ์นี้ได้ทันเวลา, ลิงค์กับเกรเทลจึงติดตั้งอุปกรณ์เตือนภัยเอาไว้รอบๆรูนด้วย พอมานาใกล้จะถึงขีดจำกัด, อุปกรณ์แจ้งเตือนก็จะทำงานโดยอัตโนมัติ
ในขณะที่มองพื้นที่แบ่งแยกในเทือกเขา,ลิงค์ก็คาดการณ์ออกมา “มันน่าจะอยู่ได้อย่างน้อยสิบปีนะ ในระหว่างนี้, ผมจะหาวิธีซ่อมแซมรอยแตกดู”
“ข้ามองออกนะว่าเจ้ามีความคิดอยู่,ใช่ไหมหล่ะ?” เกรเทลถามพร้อมกับหัวเราะออกมา หลังจากที่ใช้เวลาร่วมกันมามาก, เธอก็รู้จักลิงค์ดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่น, ตอนนี้คิ้วของเขาผ่อนคลายในขณะที่กำลังพูดอยู่ แม้ว่าจะพูดเจาะจงไม่ได้, แต่เกรเทลก็รู้ว่าเขามีแผนอยู่ในใจแล้ว
ลิงค์ยิ้ม“ผมหลอกคุณไม่ได้จริงๆสินะ ผมรู้จักนักเวทย์พเนจรที่แข็งแกร่งมากๆคนนึง เขาบอกว่ามีแผนอยู่, แต่เขาต้องการสิ่งแลกเปลี่ยนบางอย่าง”
พอพูดจบ,ลิงค์ก็เอาโจกุออกมาแล้วส่งให้เกรเทล “เขาต้องการสิ่งนี้จำนวน 300 ชิ้น คุณเคยเห็นมาก่อนไหม?”
เกรเทลศึกษาโจกุแล้วส่ายหัว“มันเหมือนกับหินธรรมดาเลย เจ้าไปเจอที่ไหนหล่ะ?”
“ในโบราณสถานคนโบราณน่าจะเคยใช้มันเป็นของตกแต่ง”
พอได้ยินแบบนี้,ราชินีมังกรแดงก็หัวเราะออกมาอย่างเหน็บแนม “เจ้าอยากปล้นสุสานสินะ?”
ลิงค์ยักไหล่“เมื่อเทียบกับความปลอดภัยของฟิรุแมนแล้ว, มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยนะ”
“เจ้าพูดถูกส่งตัวอย่างมาให้ข้าสักชิ้นสิ แล้วข้าจะส่งนักรบไปตามหาให้ทั่วทวีป และเมื่อเก็บรวบรวมได้มากพอแล้ว, ข้าจะส่งมันให้กับเจ้า”
“ไม่มีปัญหา”
พอเห็นว่าเริ่มมืดแล้ว,ลิงค์ก็พูดออกมา “บาดแผลของฉันหายดีแล้ว ฉันคงไม่ต้องอยู่ในหมู่บ้านมังกรอีก เฟลิน่า, ฉันคงต้องรบกวนเธออีกแล้วหล่ะ”
“ไม่มีปัญหาค่ะ,ท่านดยุค” เฟลิน่าพูดพร้อมกับหัวเราะออกมา เธอแปลงร่างเป็นมังกร, และให้ลิงค์ขี่เธอ
“ถ้าว่างๆก็มาเยี่ยมกันบ้างนะ”เกรเทลโบกมือลา
“ได้สิ”ลิงค์เองก็โบกมือลาเช่นกัน
เฟลิน่าเริ่มออกบินครั้งนี้, เธอไม่เหนื่อยเลย ในตอนที่เธอเหนื่อย, ลิงค์จะเติมพลังมังกรบริสุทธิ์ให้กับเธอ, และเธอก็จะกลับมากระปรี้กระเปร่าในทันที
เธอพาลิงค์มุ่งหน้าไปทางตะวันออกและถึงเฟิร์ดในเวลาครึ่งวันเฟลิน่าไม่ได้กลับไปที่หมู่บ้านมังกร เธออยู่ที่เฟิร์ดในฐานะการ์ดประจำตัวของดยุคลิงค์
ใช่แล้ว,ตอนนี้ลิงค์คือดยุคของหมู่บ้านมังกร นี่ไม่ได้เป็นแค่คำนำหน้าอันทรงเกียรติ เขามีอำนาจอยู่จริงๆและเป็นที่รู้กันของทั้งเผ่ามังกรด้วย
แต่ก็แน่นอนว่า,เขาคงจะไม่ใช้อำนาจนี้พร่ำเพรื่อเว้นเสียแต่ว่าเขาจะไม่มีทางเลือกจริงๆ
ลิงค์เดินไปทางหอคอยเวทมนตร์ของเขาที่ทางเข้า, เขาเห็นคนรู้จักคนนึง คนๆนั้นคือสคินอร์สจาก MI3 เขากำลังปลอมตัวเป็นศาลเตี้ยพเนจรอยู่
“ครั้งนี้มาหาฉันด้วยเรื่องอะไรหล่ะ?”ลิงค์ถามด้วยรอยยิ้ม
สีหน้าของสคินอร์สไม่ดีเลยเขามองซ้ายมองขวาแล้วกระซิบ “ลอร์ด, ข้ารอท่านตั้งนานแหน่ะ ข้ามีเรื่องอยากจะคุยกับท่านเป็นการส่วนตัว!”