จากบนท้องฟ้า จะมองเห็นแผ่นดินที่ถูกทําลายเละเทะอยู่ทั่วปา เกอเวนท์เนื่องจากสงครามที่เพิ่งจะผ่านมาเมื่อเร็วๆนี้
กองทัพของเดลอนก้าได้ถูกจัดการย่อยยับในสงครามกับกองทัพของเฟิร์ด นอกจากนี้ยังต้องเผชิญกับความจริงที่ว่านักเวทย์ระดับตํานานลิงค์เป็นผู้ปกครองของเฟิร์ดอีก ดังนั้นทางฝั่งเดลอนก้าจึงไม่มีทางเลือกนอกจากยอมถอยกลับไปแต่โดยดี
แต่ก็โชคไม่ดีที่ มันเป็นไปตามที่พวกเขาคาดเอาไว้ ศัตรูคู่แค้นของเดลอนก้า อาณาจักรเซาท์มูนนั้นไม่ได้ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไปและเข้ามาโจมตีในทันที
ในตอนนี้ อาณาจักรเซาท์มูนวางแผนที่จะทําลายอาณาจักรเดลอนก้าในตอนที่พวกเขาอ่อนแอ
ด้วยความที่เฟิร์ดกับเซาท์มุนเป็นพันธมิตรกัน ลิงค์จึงคิดว่าเขาโชคดีมากๆ
ในตอนที่อาณาจักรเซาท์มูนจัดการอาณาจักรเดลอนก้าได้สําเร็จการทําธุรกิจระหว่างเฟิร์ดกับเซาท์มูนก็จะราบรื่นขึ้นเยอะ
ในขณะที่หัวของลิงค์เต็มไปด้วยเรื่องเหล่านี้ นักบินที่อยู่ด้านหน้าเขาก็พูดขึ้น “ท่านลอร์ด พวกเรามาถึงสถาบันอีสโควฟแล้ว ท่านจะลงข้างในเลยไหม?”
“ไม่ต้องหรอก หาที่จอดใกล้ๆกับสถาบันก็พอ ฉันไม่อยากทําให้พวกคนที่อยู่ข้างในตกใจ”
ตอนนี้เขาเป็นนักเวทย์ระดับตํานาน และก็เป็นนักเวทย์ระดับตํานานอย่างเป็นทางการคนแรกของเผ่ามนุษย์ด้วย ถ้าข่าวการกลับมาของเขาเล็ดลอดออกไป ทุกคนที่อยู่ในสถาบันก็จะออกมาต้อนรับเขาอย่างเต็มกําลังและมันก็จะทําให้เขาเสียเวลาอย่างมาก
เรือเหาะได้ลงจอดตรงพื้นที่ว่างภายในปาที่อยู่ห่างออกไปจากสถาบันเล็กน้อย ลิงค์ลงจากเรือเหาะและเริ่มมุ่งหน้าไปยังสถาบันเวทมนตร์อีสโควฟ หลังจากที่เดินไปได้ซักพัก เขาก็ทําการคํานวนและใช้เวทย์ข้ามมิติ
ฟุบ เกิดแสงสีขาวขึ้น และร่างของลิงค์ก็หายไปในทันที ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาก็มายืนอยู่ที่หน้าหอคอยเวทมนตร์ของเอร์เรร่า
สถาบันแห่งนี้ยังคงเงียบสงบเหมือนเช่นเคย มีนักเวทย์ฝึกหัดจํานวนนึ่งกําลังวิ่งลงมาตามทางลาดหินที่ทอดยาวไปถึงหอคอยเวทมนตร์ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ทันสังเกตุเห็นลิงค์ ที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นที่นี่
ลิงค์เดินไปที่ทางเข้าหอคอยเวทมนตร์ จากนั้นเขาก็เคาะรูนบนประตูทางเข้าเบาๆ เสียงกริ่งข้างในดังขึ้น หลังจากผ่านไปสักพักประตูก็เปิดออก และมีนักเวทย์ฝึกหัดที่ดูแล้วอายุไม่น่าเกิน 15 หรือ 16 ปี โผล่หน้าออกมา
เขามองมาที่ลิงค์และตกใจไปชั่วขณะนึงก่อนที่จะถามออกมา “สวัสดีครับ มีอะไรให้ข้าช่วยไหม?”
ลิงค์สวมชุดนักฆ่าสีน้ำเงินเข้มพร้อมกับมีดาบห้อยอยู่ที่เอวของเขา เมื่อตัดสินจากกล้ามเนื้อของเขา นักเวทย์ฝึกหัดจึงคิดว่าเขาน่าจะเป็นนักรบ มันคือร่างกายของนักรบที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์เวทมนตร์อันน่าทึ่ง และพอได้ข้อสรุปนี้ นักเวทย์ฝึกหัดก็ไม่ได้ตั้งสมมุติฐานอะไรเกี่ยวกับบุคคลที่อยู่ตรงหน้าเขาอีก
“มาสเตอร์มอยร่าอยู่ที่นี่รึเปล่า? ฉันมีธุระกับเธอหน่ะ”
“ท่านอยากจะพบกับอาจารย์หรอ? คือว่า ตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ในหอคอยนะครับ”
ลิงค์รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยและถามอีกครั้ง แล้วนายรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?”
“เธออยู่ที่หนามสวรรค์ครับ เธอน่าจะกลับมาในเร็วๆนี้”
“งั้นหรอ ว่าแต่ นักเวทย์ไรไลอยู่ข้างในรึเปล่า?” ลิงค์ถามอีกครั้งและตัดสินใจที่จะไปหาลูกศิษย์ของเขา
“เธออยู่ข้างใน รอแปบนะครับ ข้าจะไปตามเธอมาให้”
“โอเค” ลิงค์ยืนคอยเขาอยู่หน้าประตู
นักเวทย์ฝึกหัดบิดประตูที่อยู่ข้างเขา พอผ่านไปสักพักประตูก็เปิดออกอีกครั้ง และไรไลก็เดินยิ้มออกมาจากหอคอย
ในตอนแรกเธอรู้สึกสับสนเล็กน้อย เพราะว่าเธอไม่มีคนรู้จักที่เป็นนักรบเลย แต่พอเห็นลิงค์ ใบหน้าของเธอก็ฉีกยิ้มออกมาในทันที และเธอก็ตะโกนอย่างดีใจ “อาจารย์ ลมอะไรหอบท่านมาที่นี่เนี่ย?”
ลิงค์ยิ้มกลับไปอย่างอ่อนโยน “ฉันมาหาอาจารย์หนะ รวมทั้งลูกศิษย์ของฉันด้วย เธอจะให้ฉันเข้าไปไหม?”
“ได้สิคะ เข้ามาเลย อีกสักพักเดี๋ยวป้าเอร์เรร่าก็กลับมาแล้ว” ไรไลกระโดดโลดเต้นเหมือนกับเด็กในตอนที่เธอนําทาง
ท่าทางเล่นใหญ่ของเธอทําให้นักเวทย์ฝึกหัดมือใหม่บางคนที่อยู่ในห้องโถงใหญ่ถึงกับตกใจ
“นักรบที่อยู่กับไรไลเป็นใครหน่ะ ทําไมเธอดูสนิทกับเขาจัง?” นักเวทย์ฝึกหัดที่เป็นคนเปิดประตูให้ลิงค์ถามขึ้น
“ข้าก็ไม่รู้ ข้าไม่เคยได้ยินเลยนะว่าช่วงนี้ทางอาณาจักรมีนักรบที่แข็งแกร่งแบบนี้ด้วย…แล้วทําไมนักเวทย์ฝึกหัดคนอื่นถึงยืนขึ้นกันหมดเลยหล่ะ?” นักเวทย์ที่มาใหม่ถาม
เขารู้สึกว่าเขาถูกเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆดึงให้ลุกขึ้นเหมือนกัน แล้วก็มีเสียงกระซิบเบาๆเข้ามาในหูเขา “เจ้านั่งอยู่เฉยๆได้ยังไงกัน นั่นคือลอร์ดเฟิร์ดนะ!”
“อะไรนะ, ลอร์ดเฟิร์ดหรอ? เหวอ!” นักเวทย์ตกใจเพราะนึกขึ้นมาได้อย่างกระทันหันและเขาก็ลุกพรวดพราดขึ้นมา เกิดอาการเจ็บปวดขึ้นที่เข่าของเขา และเขาก็สะดุดไปข้างหน้า ล้มลงไปชันเข่าอยู่กับพื้น
ลอร์ดเฟิร์ดก็คือลิงค์, หนึ่งในรุ่นพี่ของสถาบันแห่งนี้และยังเป็นนักเวทย์ระดับตํานานคนแรกของทวีปใช่ไหม? ทําไมเขาถึงจําไม่ได้กันนะ?
เด็กหนุ่มที่เปิดประตูให้ลิงค์บ่นพึมพําอยู่ข้างๆเด็กใหม่ “โถ่ พลาดโอกาสดีๆแบบนี้ไปได้ยังไง…จําเขาไม่ได้แบบนี้ข้านี่สมควรควักลูกตาออกมาจริงๆ!”
ท่ามกลางเหตุการณ์เหล่านี้ ลิงค์ได้เดินตามไรไลไปที่ชั้นสองของหอคอยเวทมนตร์ ในตอนแรกไรไลต้องการที่จะให้เขารออยู่ที่ชั้นสอง แต่ว่าลิงค์ก็ยิ้มให้กับเธอและพูดออกมา “ไม่หล่ะ ไปรอที่ห้องโถงใหญ่ชั้นบนสุดกันเถอะ”
เขาเดินนําไป และครั้งนี้ก็เป็นไรไลที่เป็นฝ่ายตาม
พอมาถึงทางเข้าของห้องโถงใหญ่ที่ชั้นบนสุด ลิงค์ก็ใส่รหัสผ่านลงไปในรูนที่อยู่ข้างประตู ด้วยเสียงดังกริก ประตูก็เปิดออก
รหัสผ่านนั้นยังคงเหมือนกับตอนที่เขาเป็นนักเวทย์ฝึกหัดในสถาบันนี้
ในตอนที่พวกเขาเข้ามาในห้องโถงใหญ่ ลิงค์ก็ไปนั่งบนม้านั่งและจากนั้นก็กวักมือเรียกไรไลด้วยรอยยิ้ม “มานั่งตรงหน้าฉันสิแล้วเอาสมุดจดออกมาด้วย ฉันจะช่วยตอบปัญหาให้เธอเอง”
“ได้ค่ะ” ไรไลผ่อนคลายอย่างเห็นได้ชัดในตอนที่เธอนั่งลงและเธอก็ส่งสมุดจดของเธอให้กับลิงค์
ลิงค์เปิดสมุดดูอยู่ประมาณ 10 นาทีและก็เข้าใจความก้าวหน้าในด้านเวทมนตร์ของไรไลได้ เข้าชี้ให้เธอดูตรงการวิเคราะห์เวทย์เลเวล 3 ที่มีชื่อว่าวงแหวนน้ำแข็งแล้วพูด “ตรงนี้เธอทําผิดนะ ที่อุณหภูมิห้อง ธาตุน้ำจะมีความเหลวเป็นพิเศษ ในการที่จะให้มันมีความแหลมคมเหมือนกับเหล็กนั้น โครงสร้างเวทมนตร์จะต้องเป็นแบบนี้”
ลิงค์ยื่นนิ้วออกมาและเขียนโครงสร้างเวทมนตร์ที่ปรับปรุงใหม่บนอากาศ
ไรไลจมอยู่ในห้วงความคิด 10 นาทีต่อมา สีหน้าของเธอก็สดใสขึ้น “อย่างนี้นี่เอง ไม่แปลกใจเลยว่าทําไมหนูถึงผนึกหุ่นเชิดเวทมนตร์สําหรับทดลองด้วยวงแหวนน้ำแข็งของหนูไม่ได้”
เธอถามต่อ “แล้วเวทย์วารีบําบัดของหนูหล่ะคะ? ครั้งที่แล้วที่หนูลองรักษากระต่ายตามที่ได้รับคําแนะนํามา แต่สุดท้ายมันก็ตายอยู่ดี ถึงแม้ว่าอุบัติเหตุแบบนั้นจะเกิดขึ้นได้ยาก แต่หนูก็ค่อนข้างรู้สึกกลัวการใช้เวทมนตร์บทใหม่ๆ”
ลิงค์เปิดไปหน้าที่เธอเขียนถึงวารีบําบัด เธอได้บันทึกผลการทดลองเอาไว้ด้วย เมื่อดูจากกระบวนการทั้งหมดที่เธอบันทึกเอาไว้แล้ว เธอคงจะรู้สึกผิดมากที่ฆ่ากระต่ายไป
หลังจากอ่านมันลิงค์ก็เข้าใจเหตุผลที่ทําไมกระต่ายถึงตายและยิ้มให้กับเธอ “ไม่เป็นไรนะ มันไม่ได้มีปัญหาที่เวทย์ของเธอหรอก ปัญหามันอยู่ที่กระต่ายตัวนั้นต่างหากหล่ะ เธอเขียนเอาไว้ว่าทั่วทั้งร่างของกระต่ายมีตุ่มบวมเต็มไปหมด และก็มีของเหลวหนืดๆไหลออกมาจากตาของมัน ใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะ มันน่าสงสารมากๆเลย”
จากนั้นมันก็ถึงเวลาที่ลิงค์ทําการวิเคราะห์ปัญหาให้ฟัง “มันน่าจะเกิดจากการที่ธาตุไม่สมดุลนะ มันทรมานจากการบวมน้ำ เพื่อรักษาตัวเอง ร่างกายจะดูดซับน้ำในปริมาณมากตามสัญชาติญาณ เพื่อที่จะขับไล่สารพิษออกจากร่างกาย และพอมาถึงจุดนี้ ร่างกายของมันก็จะเต็มไปด้วยน้ำ และพอได้รับเวทย์วารีบําบัดของเธอเข้าไปอีก สมดุลของธาตุก็เลยถูกทําลาย ทําให้ระบบภายในของกระต่ายพังลงในที่สุด”
“อ้าว ถ้างั้นหนูก็เป็นคนฆ่าใช่ไหมคะ?” ดวงตาของไรไลนั้นเต็มไปด้วยน้ำตา
“ก็ไม่เชิงหรอก สภาพของมันอยู่ในระยะสุดท้ายตั้งแต่แรกแล้วคิดซะว่าเป็นการทําให้มันจากไปอย่างสงบแล้วกันนะ เถอะหน่า ไม่ต้องร้องหรอก ฉันจะอธิบายกฎพื้นฐานในการรักษาด้วยเวทมนตร์ให้กับเธอเอง ครั้งหน้าเธอจะได้ไม่ทําพลาดอีก”
“โอเคค่ะ” ไรไลเช็ดน้ำตาออก
จากนั้นลิงค์ก็เขียนข้อความเอาไว้ที่ใต้บันทึกวารีบําบัดของไรไล : “กุญแจสําคัญในการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพคือการรักษาสมดุลภายใน การทําให้ธาตุภายในตัวสมดุลนั้นจะช่วยให้โอกาสในการรักษาโรคเพิ่มมากขึ้น แต่ก็แน่นอนว่า ทุกอย่างมันไม่ได้ง่ายเสมอไป
ลิงค์เริ่มสอนลูกศิษย์ของเขาถึงกฏเหล็กในการใช้เวทย์รักษา ไรไลฟังอย่างตั้งใจ และทุกครั้งที่เธอเจอปัญหา เธอก็จะสับสนอยู่พักนึง แต่พอเธอขอคําอธิบายจากลิงค์เพิ่มเธอก็จะเข้าใจมันได้
ลิงค์นั้นจะตอบคําถามของเธอเพียงแค่ประโยคเดียว หรืออาจจะแค่คําเดียวในบางครั้ง และไรไลก็จะรู้ลึกมากขึ้นในทุกๆคําตอบ
เวลาผ่านไปอย่างเงียบสงบในตอนที่ทั้งอาจารย์และลูกศิษย์ได้มานั่งอยู่ด้วยกัน พวกเขาก็พูดคุยกันอย่างจริงจัง ทันใดนั้นเอง อยู่ๆก็มีเสียงดังมาจากประตูห้องโถงใหญ่ มีใครบางคนกลับมาแล้ว
โดยที่ไม่ต้องหันไปดู ลิงค์ก็รู้ว่าเอร์เรร่าได้เข้ามาในห้องแล้ว เสียงของเธอนั้นดังมาจากข้างนอกของห้องโถงใหญ่ “อ้ะ ดูเหมือนว่าวันนี้พวกเราจะมีแขกนะ”
เธอเข้ามาในห้องโถงพร้อมกับรอยยิ้มอันอบอุ่นและอ่อนโยน
ลิงค์ยืนขึ้นและทําความเคารพเธอ “อาจารย์”
แม้ว่าเขาจะสําเร็จการศึกษาไปนานแล้ว แต่เขาก็ยังรู้สึกขอบคุณที่เคยได้รับการชี้แนะจากเธอในอดีต
เอร์เรร่ามองมาที่ลิงค์ เธอเองก็ถูกครอบงําด้วยอารมณ์ “เห้อ เวลาช่างผ่านไปไวจริงๆ เผลอแป๊บเดียว เจ้าก็ไปถึงจุดที่ไม่เคยมีมนุษย์คนไหนไปถึงมาก่อนแล้ว”
ในตอนที่ทั้งสองคนนั่งลง ลิงค์ก็ถามขึ้น “อาจารย์ ดูเหมือนว่าวันนี้คุณจะดูเศร้าๆนะ มีปัญหาอะไรรึเปล่า?”
แม้ว่าใบหน้าของเอร์เรร่าจะยิ้มอยู่ แต่ลิงค์ก็รู้จักกับเธอมาเป็นเวลานานแล้วจนรู้ว่าเธอมีเรื่องกลุ้มใจบางอย่าง หางคิ้วของเธอตกลงเล็กน้อย และเธอก็ลืมตาไม่เท่ากับปกติ ลิงค์คุ้นเคยกับสีหน้าของอดีตอาจารย์ของเขาดี
ด้วยความตกใจเล็กน้อย เอร์เรร่าก็ฝืนยิ้มให้ลิงค์ “นี่ข้าถูกอ่านง่ายขนาดนี้เลยหรอ?”
“ไม่หรอก ผมแค่รู้จักอาจารย์ดีเกินไปเท่านั้นเอง” ลิงค์พูดพร้อมกับหัวเราะ
เอร์เรร่าถอนหายใจ “มันมีปัญหาจริงๆนั่นแหล่ะ มีเมืองเล็กๆอยู่ทางเหนือชื่อว่าการ์ราซอน ที่นั่นมีโรคประหลาดแพร่ระบาดอยู่ มันจะทําให้คนที่ติดโรคกลายเป็นคนไร้เหตุผลและได้รับพลังมหาศาล จากนั้นคนที่ติดเชื้อก็จะโจมตีทุกคนที่เห็นอย่างบ้าคลั่ง โรคนี้ติดต่อกันได้ง่ายมาก; การกัด รอยข่วน หรือแม้กระทั่งการสัมผัสกับตัวผู้ที่ติดเชื้อด้วยกันเอง และอาการของโรคก็จะเกิดขึ้นภายใน 10 นาทีหลังจากที่ได้รับเชื้อด้วย”
ลิงค์รู้สึกตกใจ “นักบวชรักษาคนพวกนั้นไม่ได้หรอ?”
จากการเล่าของเอร์เรร่า มันดูเหมือนกับโรคระบาดเลย
“นั่นและคือเรื่องที่น่ากลัวที่สุด โรคนี้ไม่มีเวทย์ศักดิ์สิทธิ์บทไหน ที่รักษาได้เลย!”
ลิงค์ตกอยู่ในความเงียบ ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาก็ถามขึ้น “สภาพของเมืองการ์ราซอนดูไม่ค่อยดีเลยใช่ไหม?”
เอร์เรร่าเคาะหัวของเธอ “ดูเหมือนว่าถึงจะปิดบังเจ้าไปก็คงไม่มีประโยชน์อะไรสินะ อันที่จริงคือ การ์ราซอนนั้นเป็นแค่แหล่งกําเนิดของโรคระบาด ตอนนี้โรคได้แพร่กระจายไปด้วยอัตราที่น่ากลัวจนไปถึงเมืองชายแดนแล้ว และตอนนี้ มันก็กําลังจะถึงจุดที่ควบคุมไม่ได้แล้ว”