Advent of the Archmage Chapter 472: ปัญหาอยู่ข้างหน้า
นักฆ่ากําลังไล่หลังพวกเขามา 600 ฟุต, 500 ฟุต, 400 ฟุต -ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายเริ่มลดลง
เขาได้รับบาดเจ็บหนักที่ท้องจากฝีมือของศัตรู, ที่เป็นนักรบเลเวล 9 เหมือนกับเขา มีแค่ความตายเท่านั้นที่รอเขากับเจ้าหญิงแอนนี่อยู่ถ้าเขาดึงดันจะสู้กับอีกฝ่ายในสภาพแบบนี้
เขาวิ่งผ่านปา, มองซ้ายมองขวาเพื่อหาที่ปลอดภัยสําหรับซ่อน
มีเลือดไหลออกมาจากปากแผลที่เปิดอยู่แล้วหยดไปตามพื้นคาร์โนสรู้สึกว่าตัวเองค่อยๆอ่อนแอลงทุกนาที แล้วทันใดนั้นเอง,เขาก็ได้ยินเสียงที่อ่อนแรงของแอนนี่ดังมาจากอ้อมแขนของเขา
“คาร์โนส, ทิ้งข้าเอาไว้เถอะ…ขะ….ข้าไปต่อไม่ไหวแล้วเอาจดหมายนี้ไปทางเหนือ, ส่งมันให้กับลิงค์”
มีเลือดหยดลงมาที่มือของแอนนี่ ซึ่งทําให้ตัวจดหมายเปื้อนเลือดไปด้วย ตอนนี้ใบหน้าของเธอซีดเผือด, และดวงตาของเธอก็ขุ่นตัวอย่างเห็นได้ชัดคาร์โนสเริ่มหวั่นวิตกเมื่อเห็นภาพนี้
“อดทนไว้นะครับ, องค์หญิง! อดทนอีกหน่อยนะครับ!” คาร์โนสกัดฟันของเขาแล้วใช้แรงเฮือกสุดท้ายทิ้งระยะห่างระหว่างพวกเขากับนักฆ่า
เขาเป็นนักรบ, และเขาคงจะต้องสาปแช่งตัวเองแน่ๆถ้าเขาปล่อยให้เจ้าหญิงแอนนี่ตายที่นี่พร้อมกับเขา!
แต่ถึงจะมุ่งมั่นแค่ไหน, มันก็ไม่มีทางต่อต้านสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
การเร่งความเร็วของคาร์โนสอยู่ได้ไม่นานนัก สามนาที่ต่อมา, คามเหนื่อยล้าก็ครอบงําเขาในที่สุด เนื่องจากการฝืนตัวเอง, บาดแผลที่เอวของเขาจึงเปิดกว้างกว่าเดิม ครึ่งร่างของเขาชาไปหมด,และขาทั้งสองข้างก็หนักราวกับลูกตะกั่วในตอนนี้, มันเหมือนกับว่าเขากําลังเดินอยู่ในโคลนที่ลึกไปจนถึงหัวเข่าของเขา
ในอ้อมแขน, เจ้าหญิงแอนนี่เงียบไปแล้ว ดูเหมือนว่าเธอจะหมดสติไป, แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็กําจดหมายของลิงค์เอาไว้แน่น, ซึ่งตอนนี้มันถูกขยําเป็นลูกบอลและชุ่มไปด้วยเลือดของเธอ
เบื้องหน้าของพวกเขายังไม่มีอะไรนอกจากปาที่เริ่มหนาทึบขึ้นเรื่อยๆในขณะที่เขาเดินลึกเข้าไป ความรู้สึกของเขาด้านชา, เขาสับสนทิศทางและไม่รู้ว่าตอนนี้ทางที่เขากําลังวิ่งอยู่คือทางไหน
ไม่นานนัก, ทัศนวิสัยของเขาก็เริ่มพร่ามัว เขาหัวเราะเยาะตัวเองอย่างขมขื่น “ข้าต้องมาจบแบบนี้หรอเนี่ย?”
ไม่กี่วินาทีต่อมา, ก็มีเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเกิดขึ้น
คาร์โนสเห็นว่าร่างของเขากําลังวิ่งนําหน้าไป เหมือนกับผู้สังเกตการณ์จากภายนอก, ตอนนี้เขากําลังดูร่างของตัวเองวิ่งตรงไปโดยไม่รอเขา
นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไป
เขาก้มดูตัวเอง, แล้วเห็นว่าแขนขาของเขาโปร่งแสง, เจ้าหญิงแอนนี่เองก็เช่นกัน มันเหมือนกับว่าเขากําลังโอบอากาศเอาไว้ในอ้อมแขน
คาร์โนสหยุดวิ่ง “นี่ข้าเป็นวิญญาณหรอ? หรือว่าตอนนี้ข้าตายไปแล้ว?”
ในตอนที่เขาหยุดสงสัยกับสภาพปัจจุบัน, ก็มีเสียงเรียกเขาจากใต้ต้นไม้ต้นนึง “อย่ามัวแต่ยืนอยู่สิ, รีบมาเร็ว!”
คาร์โนสหันไปทางต้นเสียง, แต่ก็ไม่เห็นอะไรเลย แล้วเขาก็รู้สึกตัวได้ว่านี่ต้องเป็นฝีมือของนักเวทย์แน่ๆ
เขาเดินไปที่ต้นไม้, แล้วเขาก็ต้องตกใจ, เพราะมีคนสามคนอยู่ใน
นน
เขาจําสกินอร์สที่อยู่ในกลุ่มคนเหล่านี้ได้ในทันที ส่วนอีกสองคนที่เหลือเป็นหญิงสาวผมหยักศกกับชายวัยกลางคนที่สวมหมวกปีกกว้างสีน้ําเงินตัดสินจากลักษณะของเขาแล้ว, คาร์โนสคิดว่าคนที่สวมหมวกต้องเป็นนักเวทย์แน่ๆ
เขากําลังจะอ้าปากพูด, แต่ก็ถูกสคนอร์สเอานิ้วปิดปากเอาไว้ “ชูว,เงียบก่อน”
จากนั้นสคนอร์สก็เอากําไลมิติของแอนนี่ออกมาจากข้อมือของเธอแล้วเอาหน้าไม้ออกมาจากกําไล
“นี่มันของดีเลยนี่!” สคนอร์สกระซิบด้วยความพึงพอใจ,จากนั้นเขาก็เอาซองกระสุนหน้าไม้ออกมาจากกําไล แล้วหันไปคุยกับพรรคพวก“เอาหล่ะตอนนี้กําลังมีนักฆ่ามุ่งหน้ามาที่นี่ทําให้มั่นใจด้วยนะว่าพวกนั้นจะไม่เห็นเรา”
คาร์โนสกั้นหายใจ, แล้วมือข้างนึงก็กําดาบเอาไว้แน่น
หลังจากผ่านไปซักพัก, นักฆ่าก็วิ่งผ่านต้นไม้ไปโดยไม่สังเกตุเห็นพวกเขาเลย, นักฆ่ากําลังไล่ตามภาพลวงตาเวทมนตร์ที่ยังคงวิ่งไปข้างหน้าอย่างใจจดใจจ่อ
พอเห็นแบบนี้, สคนอร์สก็ซนิ้วโป้งให้นักเวทย์, แล้วขยับปากพูดโดยไม่มีเสียง “มอริแกน, เวทย์ของนายทํางานเหมือนยาเสน่ห์เลย!”
นักเวทย์ยิ้มให้เขากลับ,ด้วยความพอใจอย่างเห็นได้ชัด
ตอนนี้นักฆ่าไล่ตามภาพลวงตาเวทมนตร์หายเข้าไปในส่วนลึกของปาแล้ว
จากนั้นสคนอร์สก็ลุกขึ้นพูด “ที่นี่ไม่ปลอดภัย, พวกเรารีบออกเดินทางจะดีกว่านะ ส่งองค์หญิงมาให้ข้าเถอะ, คาร์โนส”
ตอนนี้คาร์โนสอ่อนแอลงมากเนื่องจากเสียเลือดไปเยอะ,ดังนั้นเขาจึงยอมส่งแอนนี่ให้เขา
พอเหลือบเห็นองค์หญิง, สคนอร์สก็ขมวดคิ้วแล้วพูดกับหญิงสาวที่อยู่ข้างเขาด้วยน้ําเสียงร้อนใจ “เธอสาหัสมาก ข้าแทบไม่รู้สึกถึงจังหวะการเต้นของหัวใจเลยโมย่า, เร็วเข้า, เธอต้องการเวทย์ศักดิ์สิทธิ์โดยด่วน!”
หญิงสาวไม่จําเป็นต้องรอให้พูดซ้ําสอง ตอนนี้มีบอลแสงสีขาวอยู่ที่มือของเธอแล้ว, ซึ่งเธอเอามันมาทาบที่หน้าอกของแอนนี่แล้วคาร์โนสก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าการหายใจของแอนนี่เริ่มมั่นคงขึ้น
มันช่างโชคดีจริงๆที่มีนักบวชอยู่ในกลุ่มพวกเขา
จากนั้นสคนอร์ศก็กวักมือเรียกพวกเขา “เอาหล่ะ, ออกเดินทางกันเถอะ นากาอาจจะกลับมาหาพวกเราในเร็วๆนี้”
พอพูดจบ, เขาก็เริ่มนําทางเข้าไปในปา ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นกนที่คุ้นเคยกับปาแห่งนี้มากที่สุด หลังจากเดินไปตามเส้นทางแคบๆผ่านปา,จู่ๆก็มีเสียงน้ําไหลเข้ามาในหูของพวกเขาจากข้างหน้าหลังจากนั้นสักพัก เบื้องหน้าพวกเขาก็มีหน้าผาปรากฏขึ้น, มันอยู่สูงจากพื้นดินหนึ่งร้อยฟุต และมีน้ําตกกําลังไหลลงไปตามผิวหน้า ผาด้วย
“ทางนี้, ทุกคนมาทางนี้ มอริแกน, ฝากด้วยนะ”
จากนั้นสคนอร์สก็เอาเชือกผูกเอวของทุกคนเอาไว้,ในขณะที่มอริแกนเริ่มร่ายเวทย์ลอยใส่สมาชิกแต่ละคน
“ตอนนี้แหล่ะ กระโดดเลย!”
สคนอร์สเป็นคนแรกที่กระโดดลงหน้าผา, และพรรคพวกของเขาอีกสองคนก็กระโดดตามไป คาร์โนสยังรู้สึกไม่แน่ใจกับเรื่องนี้แต่เขาก็ยอมกระโดดตามคนอื่นไปอยู่ดี
พวกเขาทั้งห้าเริ่มตกลงมาตามน้ําตกอย่างเป็นอิสระและพอมถึงระยะ 50 ฟุตจากพื้นดินที่ช่วงกลางของน้ําตก,มอริแกนก็ร่ายเวทย์เลเวล 3 ลมกรรโชก
ด้วยสายลมกรรโชกที่ปรากฏขึ้นอย่างกระทันหัน, พวกเขาทงห้าก็ถูกพัดไปทางน้ําตกในขณะที่ลอยอยู่กลางอากาศ ในตอนที่พวกเขากําลังจะชนกับน้ําตก, มอริแกนก็สบัดคทาอีกครั้งแล้วหินก็โผ่ออกมาจากน้ําซึ่งมันได้แยกกระแสน้ําตกออกเป็นสองฝั่ง มีรูกว้างสามฟุต, สูงสองฟุตปรากฏขึ้นที่หลังน้ําตก
ทั้งกลุ่มลอยเข้าไปในรูนั้น, และหินที่อยู่ข้างหลังพวกเขาก็ปิดลง,นําม่านน้ํากลับมาที่ผิวหน้าผา
ถ้ําที่พวกเขาเข้ามานั้นมีความกว้าง 100 ฟุต, และอากาศข้างในก็อับชื้น ด้วยการโบกคทา, มอริแกนก็รวบรวมน้ําทั้งหมดในอากาศแล้วสร้างเป็นลูกบอลน้ําเล็กๆ จากนั้นเขาก็ใช้คทาบังคับให้บอลน้ําออกไปจากถ้ําผ่านรูที่อยู่ใต้น้ําตก ทันใดนั้นเอง, ถ้ําก็ให้ความรู้สึกแห้งขึ้นและสบายขึ้นกว่าตอนแรก
สคนอร์สอธิบายด้วยเสียงหัวเราะ “นี่คือรูสาหรับซ่อนตัวที่มอริแกนใช้หินเวทมนตร์สลักหน้าผาเอาไว้ มันสะดวกใช้ได้เลยหล่ะด้วยน้ําตกที่คอยปิดบังตนตนของพวกเราอยู่ข้างนอก,นากาก็น่าจะหาพวกเราไม่เจอนะ”
ในขณะที่พูด, เขาก็วางแอนนี่เอาไว้บนแผ่นหิน, แล้วปล่อยให้นักบวชเริ่มทําการรักษาบาดแผลของเจ้าหญิง คาร์โนสถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วเอายารักษาระดับสูงออกมาดื่ม
“ถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าจะไม่ดื่มยาตอนนี้หรอกนะ” โมย่าพูดขึ้นมาอย่างกระทันหันโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองคาร์โนส เธอกําลังค่อยๆใช้มีดผ่าตัดผ่าเอาเศษไม้ออกมาจากหลังของแอนนี่
คาร์โนสรู้สึกประหลาดใจ, แต่เขาก็วางขวดยาลง “แล้วข้าควรทํายังไงหล่ะ?”
“นอนตรงนั้นแหละ เสร็จจากนี้แล้วข้าจะไปรักษาเจ้าต่อ” โมย่าพูด
ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาในกลุ่มคนเหล่านี้คาร์โนสยักไหล่แล้วไปนอนบนแผ่นหินอีกแผ่นนึง
สคนอร์สยิ้มกว้างให้คาร์โนส, แล้วชี้ไปที่โมย่า, จากนั้นก็ยกนิ้วโป้งให้เขาพร้อมกับกระซิบออกมา “เธอเป็นหัวหน้าของกลุ่มนี้, คําพูดของเธอคือกฎของที่นี่”
คาร์โนสยิ้มกลับไปอย่างอ่อนแรง เขารู้ว่าเขาสามารถเชื่อใจสคนอร์สได้, แม้ว่าเขาจะมีนิสัยชอบล่าสมบัติก็ตามเขานอนพักผ่อนอยู่บนแผ่นหิน
“มอริแกน, ข้าอยากได้น้ําสะอาด” โมย่าพูด
“เดี๋ยวจัดให้” มอริแกนเดินไปที่น้ําตกแล้วเอาชามเงินไปรองน้ํามีบอลเพลิงปรากฏขึ้นที่ปลายคทาของเขาแล้วเขาก็เอาจุ่มลงไปในน้ํา, จากนั้นน้ําก็เริ่มเดือดอย่างรุนแรง ประมาณสิบวินาทีต่อมา, มอริแกนก็ดึงเอาบอลเพลิงออก, แล้วอุณหภูมิของน้ําก็ลดลงในทันทีและนี่ก็ส่งผลให้สิ่งสกปรกถูกกําจัดออกไปจากน้ําอย่างสิ้นซาก
มอริแกนเอาน้ําไปให้โมย่า พอเห็นหลังของแอนนี่,เขาก็ถอนหายใจออกมา “บาดแผลของเธอลึกมากเลย”
โมย่าใช้น้ําล้างมีดผ่าตัดและทําความสะอาดแผลของแอนนี่ “ถือว่าโชคดีนะที่ไม่โดนจุดสําคัญ อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้ก็คือการเอาเศษไม้ทุกชิ้นออกมาจากร่างของเธอ ถ้าข้าพลาดไปแม้แต่ชิ้นเดียว, มันอาจจะมีภาวะแทรกซ้อนได้”
โมย่าเสกบอลแสงขึ้นมาในมือเธออีกครั้งและเริ่มทําการซ่อมแซมเส้นเลือดที่เสียหาย
ในขณะที่เธอกําลังมีสมาธิกับการรักษาแอนนี่, ในอีกฝั่งนึงของถ้ํา, สคนอร์สกับคาร์โนสก็เริ่มพูดคุยกัน
สคนอร์สถาม “ทําไมเจ้าถึงถูกพวกนากาไล่ตามมาหล่ะ?”
คาร์โนสรู้สึกสับสน “นากาหรอ? เจ้าหมายถึงนักฆ่าสองคนนั้นใช่ไหม?”
“ใช่ เจ้าไม่สังเกตุเห็นความพิเศษของร่างกายพวกมันหรอ? พวกเราบังเอิญเจอเมื่อสัปดาห์ก่อน….ตอนนั้นข้าคงจะตายไปแล้วอย่างแน่นอนถ้าข้าหนี้ไม่เร็วพอ” สคนอร์สพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“เหอะ, ข้าต่างหากหล่ะที่เป็นคนช่วยเจ้าเอาไว้ ตอนนั้นเป้ากางเกงของเจ้าแหวกเป็นรูใหญ่ด้วยน” มอริแกนพูดเสริม
สคนอร์สโมโหกลบเกลื่อน “ข้าแค่ใช้รูนวาร์ปไม่ทันต่างหากหล่ะพวกเจ้ามีซักอันไหมหล่ะ?”
เขาเอาหินปูนสีแดงออกมาแล้วเริ่มควงมันต่อหน้าคนอื่น
คาร์โนสถามด้วยความตกตะลึงกับสิ่งนี้ “เจ้าได้มันมาจากมาสเตอร์ลิงค์ใช้ไหม?”
“ไอ้หมอนี่มันโกงมาต่างหากหล่ะ!” มอริแกนพูดขัด
“การหลอกลวงผู้อื่นก็ถือเป็นพรสวรรค์เหมือนกันนะ, แต่ก็น่าเสียดายที่มีแค่ไม่กี่คนที่มีพรสวรรค์นี้” สคนอร์สพูดอย่างมีเลศนัยจากนั้นเขาก็เก็บหินปูนแล้วถามขึ้น “ข้าเห็นพวกเจ้าทั้งคู่กําลังมุ่งหน้าไปทางใต้และมีจดหมายอยู่ในมือของเจ้าหญิงแอนนี่ด้วย ข้าขอถามได้ไหมว่าจดหมายนี้เขียนถึงใคร?”
สคนอร์สเอาจดหมายที่เปื้อนเลือดของเจ้าหญิงออกมา
คาร์โนสไม่ได้คิดจะปิดบังความจริงเรื่องนี้ “พวกเราต้องส่งมันไปให้มาสเตอร์ลิงค์ตามคําสั่งของแม่ทัพ…ดูเหมือนว่าท่านแม่ทัพจะเจอปัญหาบางอย่าง”
“งั้นหรอ เข้าใจแล้ว, ถ้างั้นข้าขออ่านจดหมายหน่อยได้ไหม?” สคนอร์สถาม
“ไม่ได้นะ, มันคือจดหมายของมาสเตอร์ลิงค์อะ, นี่เจ้า…”
สคนอร์สฉีกซองออกมาแล้ว “อย่าเข้มงวดไปหน่อยเลยหนะ, สคนอร์สข้าแค่แอบดูจดหมายนิดเดียว, ไม่ได้จะกลืนมันลงไปซะหน่อย
เขาเอาจดหมายออกมา, และหลังจากที่อ่านไปได้สองสามรอบ,เขาก็ขมวดคิ้ว,ด้วยความรู้สึกกังวลกับเนื้อหาอย่างเห็นได้ชัด
ในตอนที่เขาอ่านจดหมายจบ, สคนอร์สก็กลืนน้ําลาย, พร้อมกับเอาลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งเผือดของเขา, แล้วจากนั้นก็จ้องไปที่พรรคพวก “พวกนาย,ดูเหมือนว่าจะมีปัญหาแล้วหล่ะ!”เขาพูดด้วยน้ําเสียงแหบแห้ง