มีนักเวทย์อยู่สองประเภท
หนึ่งคือนักเวทย์สายวิชาการ นักเวทย์สายดังกล่าวนั้นคือผู้ที่มีความเข้าใจการทำงานของเวทย์อย่างลึกซึ้ง โดยปกติพวกเขาจะร่ายเวทย์ได้ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก แต่พวกเขาไม่ใช่นักสู้ ดังนั้นเมื่ออยู่ภายใต้แรงกดดัน พวกเขาจึงมักจะทำผิดพลาดทุกรูปแบบ
โชคไม่ดีที่ อาจารย์ผู้สอนเวทย์มนต์ของสถาบันเวทย์มนต์ระดับต้นเฟลมมิ่งทุกคนนั้นเป็นนักเวทย์สายวิชาการ
ลิงค์ เห็นศพของแกรนท์อยู่หนึ่งในห้องพวกนี้ ศพของเขานอนอยู่บนพื้น มีหลุมเลือดลึกอยู่กลางหน้าอกของเขา เห็นได้ชัดว่า แกรนท์ ตื่นขึ้นมาแล้วตอนที่เขาถูกฆ่า
ที่พื้นนั้นเรียงรายไปด้วยซากศพ อากาศเต็มไปด้วยกลิ่นเลือดของพวกเขา ลิงค์ พยายามกลั้นใจของตัวเองไม่ให้อ้วกออกมา สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับเขาก็คือการที่ถึงแม้ว่าใบหน้าของ เซลีน จะยังคงซีดเผือดอยู่ แต่มันก็ได้คืนสภาพมาเป็นความใจเย็นตามปกติอย่างมาก
มันดูเหมือนว่าจิตวิญญาณของหญิงสาวและสปิริตนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าภาพลักษณ์ที่ละเอียดอ่อนของเธอ
เมื่อเขาได้เห็นคทาเวทย์ตกอยู่บนพื้น ลิงค์ ได้หยิบมันขึ้นมา จากนั้นเขาก็ส่งมันให้กับ เซลีน “รับไป”
เซลีน พยักหน้าแล้วรับคทาไปจากนั้นเธอก็หายใจเข้าไปเต็มฟอดและพยายามที่จะร่ายบอลเพลิง เธอใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการร่ายมันออกมา
“ไม่เลวนี่” ลิงค์ ยกย่องเธอ มันเป็นความพยายามที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักเวทย์ฝึกหัดทั่วๆไป
“ยังห่างชั้นจากนายอีกเยอะ” เซลีน ยิ้มออกมาอ่อนๆ ดูเหมือนว่าเธอจะสบายใจมากขึ้นกว่าก่อนหน้านี้
พวกเขาทั้งสองคนเดินลงบันไดไป ในห้องโถงชั้นแรก พวกเขาเห็นศพของมาดามแฟร์แฟกซ์ เธอนอนตายด้วยดวงตาที่เปิดกว้างและมีธนูปักอยู่ที่หน้าอกของเธอ
เขาถอนหายใจออกมา จากนั้น ลิงค์ ก็เดินผ่านศพของหญิงชราคนนี้และมุ่งหน้าออกจากหอของนักเวทย์ฝึกหัด
ขณะที่เขาเดินไปถึงทางออก ข้อความที่ดึงดูดสายตาก็ได้ปรากฏขึ้นมาในหัวของเขา
ส่วนที่สองของภารกิจ: หยุดสัญญาณ
รายละเอียด: ทำลายหอคอยวาร์ปของสถาบันนักเวทย์ หยุดดาร์กเอลฟ์จากการใช้หอคอยวาร์ปเพื่อติดต่อกับกองทัพดาร์กเอลฟ์ที่อยู่นอกเมือง
รางวัล: 20 โอมนิพ้อยท์
พอได้เห็นมัน ลิงค์ หัวเราะออกมาอย่างเจ็บปวดอยู่ข้างใน รางวัลคือ 20 โอมนิพ้อยท์ ซึ่งเป็นรางวัลที่สูงมาก แต่เขาต้องการหนีโดยการใช้ประตูวาร์ปที่หอคอย ถ้าเขาทำลายมัน แล้วเขาจะหนียังไงหล่ะ?
ช่างมันเถอะ เขาคิด, ฉันจะจัดการกับมันเมื่อเวลามาถึง ก่อนอื่นไปที่หอคอยวาร์ปก่อนดีกว่า ในส่วนของภารกิจ ฉันจะรับมันเอาไว้ก่อน แต่ฉันจะยกเลิกมันถ้าสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย
ค่าโอมนิเป็นสิ่งที่สำคัญก็จริง แต่ชีวิตของเขาสำคัญยิ่งกว่า เขาต้องปฏิบัติการอย่างชาญฉลาด
หลังจากที่พิจารณามันผ่านๆ ลิงค์ ก็ได้เลือกที่จะรับภารกิจเอาไว้
จากนั้น เขาก็เดินอย่างเมื่อยล้าไปกับ เซลีน
เสียงของการต่อสู้จากด้านนอกได้เงียบลง อาจารย์สอนเวทย์มนต์นั้นไม่ค่อยชำนาญทักษะด้านการต่อสู้เท่าไหร่ บวกกับข้อเสียเปรียบเรื่องจำนวนและการถูกดักโจมตีอย่างกระทันหันทำให้พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้กับพวกดาร์กเอลฟ์นักฆ่าที่ถูกฝึกมาอย่างดีได้
ที่ทางออกของหอพักนักเวทย์ฝึกหัด ลิงค์ ได้แตะเบาๆที่ เซลีน และตัวเขาด้วยคทาเวทย์มนต์ของเขา เขาร่ายเวทย์หายตัวระดับต้นขึ้นมาสองครั้ง
หายตัวระดับต้น
เลเวล 0 เวทย์มนต์
ผล:ปกปิดผู้ใช้ไว้ด้วยความมืดมิด จะส่งผลได้อย่างดีมากๆเมื่อซ่อนเร้นอยู่ในความมืด ผู้ใช้ต้องระวังแสงสว่าง
นี่เป็นเวทย์หายตัวที่พื้นฐานที่สุด เพราะมันไม่สามารถกลบเสียงฝีเท้าและกลิ่นได้ จึงทำให้แสงสว่างและหมานักล่าตรวจจับมันได้อย่างง่ายดาย แต่ในค่ำคืนนี้ มันก็เพียงพอแล้ว
“ตามฉันมาไกล้ๆนะ”
ลิงค์ ก้าวเข้าไปในความมืดเป็นคนแรก คอยนำทางตรงไปยังหอคอยวาร์ป ส่วน เซลีน ก็คอยเดินตามหลังเขาไปอย่างไกล้ชิด
ไม่ไกลจากหอพักนักเวทย์ฝึกหัดมากนักคือสวนสตารี่ของสถาบันนักเวทย์ ดอกไม้จากทุกฤดูกาลบานสะพรั่งอยู่ภายใต้การหล่อเลี้ยงของมานา ดอกโบตั๋น,กุหลาบ และทิวลิป— ที่สวนแห่งนี้มีดอกไม้ทุกๆชนิดที่ผู้คนสามารถคิดได้ มันคือสถานที่ที่สวยงามอย่างมาก
“นั่นคุณกลาสซ์นี่” เซลีน พูดออกมาเบาๆ
คุณ กลาสซ์ นักลวงตาระดับ 3 ทักษะการแปรสภาพเวทย์มนต์ของเขาแทบไม่สร้างอันตรายอะไรในการสู้รบ ลูกธนูได้ฝังลึกลงไปในหลังของเขา
เห็นได้ชัดว่า ภาพลวงตาของเขาไม่สามารถหลอกพวกดาร์กเอลฟ์ได้
ลิงค์ ได้เตรียมตัวมาสำหรับเรื่องนี้แล้ว หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่เหนือความคาดหมายเกิดขึ้น เขารู้ว่าพวกเขาจะเห็นศพของเหล่าอาจารย์เวทย์มนต์นอนเรียงรายอยู่เบื้องหน้าของพวกเขา
และนี่ยังเป็นแค่บทนำของการสังหารหมู่ที่เมืองแกลดสโตน
ขณะที่เขาคิด หลังจากนั้นไม่นานนัก พวกเขาก็ได้เจอร่างของครูสาวแสนสวย เวร่า เธอใส่เพียงแค่ชุดนอนผ้าแพรบางๆเท่านั้น ดูเหมือนว่าเธอจะพยายามหนีออกมาจากห้องของเธออย่างเร่งรีบหลังจากที่ได้ยินเสียงความวุ่นวาย แต่พวกดาร์กเอลฟ์ได้จับตัวเธอเอาไว้ก่อน
พวกดาร์กเอลฟ์ไม่ได้ซาบซึ้งกับความงามของเธอ ที่ท้องอันแบนราบของเธอมีแผลถูกแทงอยู่ ร่างของเธอนอนงอตัวอยู่บนพื้น เธอยังคงมีชีวิตและหายใจอยู่ เลือดได้ไหลออกมาจากบาดแผลในช่องท้องของเธอ ชุดนอนของเธอชโลมไปด้วยเลือด มันดูไม่แตกต่างไปจากเสน่ห์ชวนมองของกุหลาบแดงเมื่อแรกเห็น
ราวกับว่าได้ยินเสียงของพวกเขา ดวงตาที่งดงามของเธอได้จ้องมายังแหล่งที่มาของเสียง เรืองแสงออกมาอย่างแปลกประหลาดด้วยความต้องการมีชีวิตอยู่อย่างแรงกล้า
เธอยังคงเป็นสาวที่อายุน้อยกว่า 30 ปี ด้วยพรสวรรค์ด้านเวทย์มนต์ที่แข็งแกร่งของเธอ เธอจึงได้เป็นคอนจูเรอร์เลเวล 2 อนาคตของเธอนั้นมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จอย่างมาก แลความสวยของเธอก็ยังเป็นที่รู้จักกันดีทั้งทั้งสถาบัน
เธอยังไม่อยากตาย; ชีวิตของเธอเพิ่งจะเริ่มต้นเองนะ!
แต่อาการบาดเจ็บของเธอก็สาหัสมาก ไม่มีใครสามารถช่วยเธอได้ ลิงค์ รู้สึกหมดหนทาง
การได้เห็นพวกซากศพมันก็เรื่องนึง แต่การได้เห็นคนที่อยู่สุดขอบของความเป็นความตายนั้นเป็นเรื่องที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง— โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็นอาจารย์ที่รักยิ่งของทุกๆคน กำลังดิ้นรนเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ เรื่องนี้มันมากเกินไป
รูม่านตาของ ลิงค์ แคบลง และมือที่จับ เซลีน ไว้ก็แน่นขึ้น
ในขณะนั้น มันได้ตอกใส่เขาอย่างกระทันหันว่าเขาไม่มีทางย้อนกลับไปที่โลกได้อีกแล้ว ในอนาคตเขาจะเป็นเพียงแค่หนึ่งในสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนในโลกแห่งฟิรุแมน ,ดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดจากความมืดมิด
ฉันไม่ใช่แค่ผู้เล่นในเกมส์ที่ทำได้แค่เฝ้ามองจากขอบสนามอีกต่อไป ฉันเป็นหนึ่งในพวกเขา เขาเสียเปรียบจากเทพแห่งแสงจริงๆ!
เซลีน สัมผัสได้ถึงความรู้สึกของ ลิงค์ เธอใจเย็นยิ่งกว่าเขาในตอนนี้ จากนั้นเธอก็ตีมือของเขาเบาๆและถอนหายใจออกมา “เธอบาดเจ็บหนักเกินไป พวกเราช่วยอะไรเธอไม่ได้หรอก”
ลิงค์ พยักหน้าด้วยหัวใจที่หนักหน่วง จากนั้นเขาก็เดินขึ้นไปหาครูสาว เขาหยิบคทาของเขาขึ้นมาแล้วใช้ 2 มานาเพื่อร่ายเวทย์หลับใส่เธอ
เขาไม่สามารถช่วยเธอได้ แต่อย่างน้อยเขาก็สามารถทำให้เธอจากไปอย่างสงบได้
ภายใต้เวทย์หลับใหล เวร่า ค่อยๆปิดตาของเธอลงอย่างช้าๆ แล้วร่างกายของเธอก็หยุดนิ่ง
ในอีกไม่กี่ก้าวต่อมา พวกเขาก็ได้เห็นผู้เฒ่า วิลสัน หัวของเขาถูกสับในฉับเดียว มันวางอยู่ห่างจากร่างกายของเขาประมาณ 10 ฟุต
พวกเขาทุกคนต่างก็เป็นคนดี เมื่อได้เห็นพวกเขา ลิงค์ รู้สึกได้ถึงความจริงที่โหดร้ายของสงครามระหว่างแสงสว่างและความมืด สงครามก็เป็นเหมือนกับเคียว คอยพรากชีวิตเหมือนกับการเก็บเกี่ยว มันกวาดพวกเขาไปหย่อมใหญ่ด้วยกันเหวี่ยงเพียงครั้งเดียว
“มืดมนอะไรอย่างนี้ ช่างเป็นโลกที่น่าสยดสยองจริงๆ” ลิงค์ รู้สึกเศร้าโศกในหัวใจของเขาแล้วถอนหายใจออกมายาวๆ
ถัดจากสวนคือป่าขนาดเล็ก มีต้นไม้อยู่เพียงไม่กี่ต้นข้างในนั้น แต่พวกมันมีขนาดใหญ่มาก แต่ละต้นมีอายุมากกว่า 200 ปี มีเส้นทางเล็กๆเจาะผ่านเข้าไปในป่าด้วยแสงของโคมไฟถนนเป็นหย่อมๆซึ่งทำให้มันดูเหมือนพวกเอลฟ์ระดับสูง
ที่นี่เป็นสถานที่ที่นิยมกันในการนัดพบสำหรับคู่รักของสถาบันเวทย์มนต์
แต่ขณะที่ ลิงค์ เดินผ่านป่าไป เขาก็ได้พบกับหกศพนอนเรียงรายอยู่ตามทาง ทั้งหมดนั้นคือคู่รักที่นัดพบกันในค่ำคืน
คืนนี้ ป่าแห่งนี้ได้กลายเป็นสถานที่พักผ่อนสุดท้ายสำหรับคู่รักพวกนี้
“ดาร์กเอลฟ์พวกนี้ช่างเป็นพวกที่น่ารังเกียจที่นรกส่งมาเกิดจริงๆ!” ใบหน้าของ เซลีน เต็มไปด้วยความรังเกียจ
ลิงค์ หยุดเดินกระทันหัน เขาก้าวถอยหลังไปและดึง เซลีน เข้ามาในอ้อมแขนของเขา และมือใหญ่ๆก็ได้ปิดปากของเธอเอาไว้ขณะที่เขาพาเธอไปที่หลังต้นไม้เก่าแก่ต้นนึง
“ชูววววส์”
ดวงตาที่สวยงามของ เซลีน สั่นระรัว แต่เธอไม่ได้พูดอะไรออกมา
หลังจากนั้นครู่นึง พวกเขาก็ได้เห็นพวกดาร์กเอลฟ์วิ่งผ่านพวกเขาไปทางหอพักนักเวทย์ฝึกหัด
มีนักเวทย์ฝึกหัดหัดอยู่ในหอพักอย่างน้อย 30 คน ดารค์กเอลฟ์พวกนี้กำลังจะไปกำจัดพวกเขา
เซลีน ถามเขาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “ลิงค์ พวกเราจะไปช่วยพวกเขาไหม?”
ลิงค์ ส่ายหัวของเขาเล็กน้อย เขาไม่สามารถทำได้ เซลีน เข้าใจความรู้สึกของเขา แล้วดวงตาที่สดใสของเธอก็เต้นระรัว “ถ้างั้น นายช่วยฉันไว้ทำไม?” เธอถาม
ลิงค์ หยุดไปครู่นึงก่อนที่จะตอบคำถาม “ก็พวกเราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรอ?”
คำตอบที่คาดไม่ถึงของเขาทำให้ดวงตาของสาวน้อยสว่างขึ้นมา “นายเป็นเพื่อนที่ดีจัง ฉันขอถามอะไรนายหน่อยได้ไหม?”
“ว่ามา”
“นายเรียนเวทย์มนต์มากมายขนาดนี้ในเวลาอันสั้นแบบนี้ได้ยังไง? แล้วใช้พวกมันได้อย่างคล่องแคล่วขนาดนี่ได้ยังไง?” ดวงตาของเธอลุกไหม้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“คือว่า…บางทีเธออาจจะคิดว่ามันเป็นการเปิดเผยจากพระเจ้าก็ได้นะ ตอนที่ฉันตื่นขึ้นมา บางสิ่งบางอย่างได้เข้ามาอยู่ในหัวของฉัน” ลิงค์ ตอบกลับไปด้วยการพูดอย่างอ้อมแอ้ม
“อ๋อ อย่างงั้นหรอ” สายตาของ เซลีน ร่อนเร่ไป เธอไม่ได้เซ้าซี้ไปมากกว่านี้ เธอชี้ไปที่หอคอยวาร์ปแล้วพูดออกมาอย่างชัดเจน “ถ้างั้น ก็ไปกันเถอะ”
พวกดาร์กเอลฟ์ได้ผ่านไปแล้ว ลิงค์ พยักหน้าแล้วเดินหน้าต่อไปกับ เซลีน
เมื่อผ่านป่ามาได้ พวกเขาได้ผ่านเงาในทางเดินแห่งความจริงไปอย่างเร่งรีบจากนั้นไปอีกประมาณ 30 หลาก่อนที่พวกเขาจะเลี้ยวซ้าย แล้วพวกเขาก็ได้มาถึงหอคอย
หอคอยวาร์ปนั้นต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อสร้างมัน มันมีขนาดเล็ก และสามารถส่งวัตถุทางกายภาพได้เพียงแค่ไม่เกิน 6 ไมล์ แม้ว่าหอคอยดังกล่าวนี้จะต้องใช้เงินกว่าหนึ่งหมื่นทองเพื่อสร้างมัน ซึ่งนับเป็นภาษีครึ่งนึงที่เมืองแกลดสโตนรวบรวมได้ในแต่ละปีก็ตาม
สิ่งก่อสร้างนี้อาจจะมีราคาแพง แต่มันก็ใช้ประโยชน์ได้อย่างมาก มันไม่ได้สร้างไว้เพื่อเป็นของสะสมแต่ค่อนข้างจะเป็นแหล่งข้อมูล มันสามารถส่งวัตถุดิบไปยังสถานที่ที่ไกลมากขึ้นได้ แม้แต่สถานที่ที่ห่างไกลออกไปกว่า 300 ไมล์ มันจึงมีประโยชน์อย่างมากในแง่นี้
และเพราะเหตุนี้เองพวกดาร์กเอลฟ์ถึงให้ความสำคัญกับหอคอยวาร์ปแห่งนี้เช่นกัน ลิงค์ เห็นดาร์กเอลฟ์นักรบที่แข็งแกร่งสามตัวยืนอยู่หน้าหอคอย เขาต้องเผชิญหน้ากับพวกมัน
พวกมันคอยป้องกันหอคอยวาร์ปจากอันตราย ถ้า ลิงค์ จำไม่ผิด ดาร์กเอลฟ์นักเวทย์จะมาถึงที่นี่ในอีกไม่นานนี้ ดาร์กเอลฟ์นักเวทย์จะใช้หอคอยวาร์ปเพื่อส่งรายงานกลับไปหากองทัพดาร์คเอลฟ์ที่อยู่ห่างจากที่นี่ไป 30 ไมล์
หนึ่งในนักรบสามตัวนั้นได้ถือโล่ที่เต็มไปด้วยอักษรเวทย์มนต์อยู่ นักรบตัวนั้นห่อหุ้มตัวมันทั้งตัวด้วยเกราะต่อต้านเวทย์มนต์ตั้งแต่หัวจรดเท้า และไม่แม้แต่จะเปิดเผยใบหน้าของมันให้เห็น
ลิงค์ เขม่นตามอง เขารู้จักนักรบตัวนี้ ในช่วงชีวิตสุดท้ายบนโลกของเขา เขาเคยพบนักรบตัวนี้ในช่วงที่เขาทำภารกิจหลบหนี
นักรับตัวนี้ชื่อว่า จิ้ก มันเป็นผู้บัญชาการของหน่วยลอบโจมตีที่สถาบันเวทย์มนต์ นักรบเลเวล 3 ที่มาพร้อมกับกลิ่นอายการต่อสู้ มันรู้จักทักษะการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง ผนวกกับเกราะต่อต้านเวทย์มนต์ทั้งตัว มันจึงสามารถเพิกเฉยต่อเวทย์มนต์โจมที่ที่เลเวลน้อยกว่า 3 ทุกชนิดได้อย่างสมบูรณ์
ในเกมส์ เขารู้จักมันในฐานะนักฆ่าเมจ นักเวทย์เริ่มต้นทุกคนต่างก็หาหนทางที่จะหนีจากเมืองแกลดสโตนโดยหลีกเลี่ยงมันที่เหมือนกับภัยพิบัติ
นักรบอีกสองตัวที่ขนาบข้างมันเป็นลูกน้องของมัน พวกมันทั้งคู่มีเลเวล 2 แม้ว่าอุปกรณ์ของพวกมันจะไม่ดีเท่ากับ จิ้ก แต่คุณสมบัติป้องกันเวทย์มนต์ของมันก็ไม่ได้อ่อนแอเช่นกัน
ตอนนี้ ลิงค์ มีค่าโอมนิอยู่ 18 และเหลือมานาอยู่ 7 การปะทะกับพวกดาร์กเอลฟ์นักรบที่แข็งแกร่งทั้งสามตัวนั้นดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้
แต่เขาไม่มีทางเลือก
ลิงค์ สูดหายใจเข้าไปเต็มปอด แล้วเขาก็ซื้อเวทย์เลเวล 0 มาเพิ่มอีก 2 อัน
หลังจากนั้นเขาก็ใช้ค่าโอมนิไปอีก 3 พ้อยท์ เพื่อเพิ่มค่ามานาสูงสุดอีก 30 ตอนนี้เขามีค่ามานาสูงสุดคือ 61 และเหลือมานาที่ใช้ได้อยู่ 37 ส่วนในด้านความเร็วในการฟื้นฟูมานานั้น ก็ใช้เวลาสั้นลงแต่มันก็ยังไม่มีประโยชน์อะไรในตอนนี้
เขาเหลือค่าโอมนิอยู่ 13 พ้อยท์ หลังจากทำการเตรียมตัวของเขา
จากนั้นเขาก็หันไปหา เซลีน เพื่อบอกเป็นนัยให้เธอรู้ว่าเธอควรที่จะซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ต่อไป แล้ว ลิงค์ ก็เดินออกมาจากเงาด้วยตัวของเขาเอง ปล่อยให้แสงจันทร์สีเงินเผยให้เห็นรูปร่างของเขา
ลิงค์ ที่จดจ่ออยู่กับการสังเกตุฝ่ายตรงข้ามของเขา ไม่ได้สังเกตุเลยว่า เซลีน เปิดปากของเธอออกมาเหมือนจะพูดอะไรซักอย่าง จากนั้นเธอก็หยุดตัวเอง สาวน้อยที่งดงามตัดสินใจที่จะกลับไปอยู่ในเงา
ช่างเด็กโง่นั่นเถอะ เธอคิด, ฉันจะช่วยเขาออกมาขณะที่สถานการณ์ดำเนินไปเรื่อยๆ
ในตอนนั้น ลิงค์ เห็นเพียงแค่ฝ่ายตรงข้ามของเขาเท่านั้น
เขาโบกคทาของเขาเป็นการทักทาย “เห้ย พวกเอลฟ์ชั้นต่ำ พวกแกกำลังทำอะไรอยู่?”
เขาไม่ได้พูดออกมาดังนัก แต่พวกเอลฟ์ทั้งสามตัวก็ได้ยินเขาค่อนข้างชัดเจน พวกมันหันหัวมาพร้อมกัน จดจ่อสายตาอันแดงก่ำของพวกมันมาที่เขา