Advent of the Archmage – ตอนที่ 86: ช่างน่าสงสารอะไรอย่างนี้!

มีจตุรัสสองแห่งอยู่ข้างในสถาบันเวทย์มนตร์อีสโควฟ จตุรัสแรกอยู่ใกล้กับทางเข้าเรียกว่าจตุรัสแห่งเกียรติยศ, ส่วนอีกจตุรัสนึงเป็นลานเล็กๆอยู่ข้างในสถาบันเรียกว่าลานแห่งแรงบันดาลใจของ ไบรอันท์

 

แล้ว ไบรอันท์ เป็นใครกันหล่ะ?

 

เขาเป็นนักเวทย์คนเดียวที่ไปถึงระดับตำนานในช่วงเกือบหนึ่งพันปีมานี้, ไบร์อันท์ เป็นชื่อที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วในอาณาจักรนอร์ตัน ในวงการนักเวทย์, เขาเป็นที่รู้จักในชื่อ “เด็กแห่งการทำลาย”

 

ว่ากันว่าลานแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เขาได้รับแรงบันดาลใจจนพัฒนาตัวเองไปถึงระดับตำนานได้ในภายหลัง หนึ่งร้อยปีต่อมา, สถาบันเวทย์มนตร์อีสโควฟก็ถูกสร้างขึ้นบนหุบเขาแห่งนี้, เพื่อเป็นเกียรติแก่จอมเวทย์ ไบรอันท์ ดินแดนที่สงบสุขแห่งนี้ถูกเก็บรักษาเอาไว้แล้วถูกเปลี่ยนเป็นลานกว้าง

 

มีข่าวลือว่าเคยมีนักเวทย์ได้รับพรจาก ไบรอันท์, พวกเขาจะได้รับแรงบันดาลใจจากนักเวทย์ในตำนานผู้ซึ่งหาที่เปรียบไม่ได้ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาทะลวงเลเวลปัจจุบันของพวกเขาแล้วไปถึงเลเวลที่สูงกว่า แน่นอนว่าคำบอกเล่านี้ไม่มีมูลความจริง, แล้วก็ไม่มีนักเวทย์คนไหนเก็บมาคิดจริงจังด้วย

 

อย่างไรก็ตาม, มีแค่ ลิงค์ ที่รู้ว่าสถานที่ที่เรียกว่าลานแห่งแรงบันดาลใจนี้น่าจะเรียกว่าลานแห่งการจองจำมากกว่า, เพราะอันที่จริงแล้วลึกลงไปใต้พื้นดินของลานแห่งนี้คือสถานที่ที่ปีศาจ ทาร์วิส ถูกจองจำเอาไว้!

 

มีน้อยคนมากๆที่รู้, และไม่มีใครในสถาบันที่รู้เรื่องนี้

 

เหตุการณ์ที่นำไปสู่การจับตัวและกักขังปีศาจ ทาร์วิส เกิดขึ้นเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน อดีตที่น่าสยดสยองได้เลือนหายผ่านไปตามฟันเฟืองของกาลเวลา ทุกวันนี้, ลานกว้างได้กลายเป็นสถานที่เล็กๆที่เอาไว้พักผ่อนหย่อนใจที่มีสวนที่ถูกตัดแต่งอย่างปราณีตและรายล้อมไปด้วยต้นไม้และลำธาร ในความเป็นจริงตอนนี้มันคือสถานที่โปรดปรานของเหล่านักเวทย์เพื่อใช้เดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจในเวลาที่พวกเขาต้องการพักหรือไม่ก็ช่วงเวลาที่พวกเขามีเรื่องลำบากใจ

 

ลิงค์ และ เอเลียร์ด ตกลงมาพบกันที่นี่

 

ลิงค์ เดินผ่านพื้นที่สีเขียวชอุ่ม, เดินไปรอบๆสวนน้ำพุแล้วในที่สุดก็มาถึงป่าต้นหลิวเล็กๆที่อยู่ตามลำธาร เขามองเห็น เอเลียร์ด นั่งอยู่ใต้ต้นหลิวจากที่ใกลๆ

 

มีโต๊ะกับเก้าอี้อยู่ใต้เงาของร่มไม้ ลิงค์ เดินตรงไปแล้วเห็น เอเลียร์ด กำลังง่วนอยู่กับนักสือเรียนเวทย์มนตร์

 

“เฮ้, วันนี้นายมาเช้าจังนะ” ลิงค์ พูด, จากนั้นก็นั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้าม เอเลียร์ด เขาเอื้อมมือไปหากล่องไม้ที่อยู่บนโต๊ะ, เปิดฝา, แล้วเขาก็ถูกโจมตีด้วยกลิ่นของอาหารอันหอมหวลที่หลุดออกมาจากข้างใน

 

“ว้าว…ซุปปลากระพง, ขนมปังข้าวสาลี, เห็ดแล้วก็เบคอน…น่ากินจัง! เอเลียร์ด, นายมันโชคดีชมัด; พ่อครัวที่เก่งที่สุดในโลกอยู่ในหอคอยเวทย์มนตร์ของนาย!”

 

ลิงค์ ฉีกขนมปังเป็นชิ้นๆ มันทั้งหอมและอ่อนนุ่ม, แถมมันยังมีเนยที่ปรุงรสตามฤดูกาลอยู่ข้างในอีกด้วย—มันเป็นแค่ขนมปังชิ้นนึงแท่ๆ, แต่มันกลับอร่อยจนอดใจไม่ได้

 

ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณ เอร์เรร่า, นางฟ้าแห่งแสง, หรือที่รู้จักกันในชื่อที่ปรึกษา มอยร่า, ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของนักเรียนของเธอเป็นพิเศษ เธอจ้างพ่อครัวที่ดีที่สุดเข้ามาในสถาบันเพื่อมาทำงานในหอคอยเวทย์มนตร์ของเธอ นักเวทย์ฝึกหัดในหอคอยเวทย์มนตร์ของเธอแค่ต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งเท่านั้น แล้วพ่อครัวก็จะเตรียมอาหารสุดหรูให้กับพวกเขา

 

เมื่อไหร่ก็ตามที่ เอเลียร์ด มา, เขาจะเอาอาหารมากับเขาด้วยเพื่อแบ่งมันให้กับ ลิงค์

 

เอเลียร์ด วางหนังสือลง, จากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นมา “อาหารเป็นแค่สิ่งเดียวที่นำความสุขมาให้กับร่างกาย และสิ่งเดียวที่สามารถเสริมสร้างจิตวิญญาณและทำให้จิตวิญญาณเป็นสุขได้ก็คือเวทย์มนตร์”

 

“ฉันไม่มีปัญหาหรอกนะหากได้ดื่มด่ำกับความฟุ่มเฟือยทางโลกพวกนี้” ลิงค์ ตอบกลับไปพลางหัวเราะ

 

ลิงค์ กินขนมปังของเขาเสร็จ, เช็ดมือ, จากนั้นก็เปิดหนังสือที่อยู่ในมือของ เอเลียร์ด มันคือหนังสือที่เขาเคยอ่านมาก่อนที่มีชื่อว่า กระบวนการเวทย์มนตร์

 

“นายเริ่มเรียนเวทย์มนตร์เลเวล 1 แล้วสินะ, เอเลียร์ด?” ลิงค์ ถามด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย

 

“ใช่แล้ว, ฉันเพิ่งจะเริ่มดื่มด่ำกับมันได้สักพักเอง” เอเลียร์ด พยักหน้า

 

ลิงค์ อดที่จะรู้สึกประหลาดใจกับการเปิดเผยนี้ไม่ได้ เอเลียร์ด สมควรเรียกว่าอัจฉริยะที่ไร้ผู้เทียบเคียงจริงๆ เมื่อหนึ่งเดือนก่อน, เขายังเป็นแค่มือใหม่ในด้านเวทย์มนตร์ที่ไม่มีทักษะหรือความรู้เลยสักนิด แต่ตอนนี้, เขาก้าวหน้าอย่างรวดเร็วจนไปถึงเวทย์มนตร์เลเวล 1 แล้ว ลิงค์ ไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่านักเวทย์ฝึกหัดในสถาบันคนอื่นจะตกใจแค่ไหนถ้าพวกเขารู้

 

นักเวทย์ฝึกหัดคนไหนก็ตามที่สามารถเริ่มเรียนเวทย์มนตร์เลเวล 1 ได้ภายในเวลาหกเดือนก็นับว่าเป็นอัจฉริยะแล้ว แต่ในเวลาแค่หนึ่งเดือน, เอเลียร์ด ก็สามารถบรรลุสิ่งที่อัจฉริยะคนอื่นจำเป็นต้องใช้เวลาถึงครึ่งปีในการทำให้สำเร็จได้—นี่คือหลักฐานที่หักล้างไม่ได้ของความสามารถที่น่าเกรงขามของเขา!

 

“เอเลียร์ด นี่มันยอดมากเลยนะ!” ลิงค์ ประทับใจจริงๆ ลิงค์ รู้ว่าเหตุผลเดียวที่ตัวเขาสามารถคืบหน้ามาได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้เป็นเพราะความช่วยเหลือจากเทพแห่งแสง แต่ในด้านของ เอเลียร์ดนั้น, เขาเป็นอัจฉริยะที่บริสุทธิและไร้ซึ่งสิ่งเจือปนอย่างแท้จริง!

 

“นายกำลังล้อฉันเล่นใช่ไหม” เอเลียร์ด พูดอย่างขำขันขณะที่มอง ลิงค์ ด้วยรอยยิ้มที่บูดเบี้ยว “ฉันเก่งกว่านายแค่เรื่องความแข็งแกร่งของมานาเท่านั้นแหล่ะ ส่วนเรื่องอื่นๆ, ฉันยังตามหลังนายอีกตั้งเยอะ”

 

เขาชื่นชมความเข้าใจอันลึกซึ้งในทฤษฎีเวทย์มนตร์ของ ลิงค์ แล้วเขาก็รู้ว่าเขายังต้องเดินทางอีกใกลกว่าที่เขาจะสามารถไปถึงระดับความรู้ของ ลิงค์ ได้ แต่โชคร้ายที่มานาตามธรรมชาติของ ลิงค์ น้อยเกินไป, แล้ว เอเลียร์ด ก็กลัวว่าเส้นทางในอนาคตของ ลิงค์ อาจจะมีขีดจำกัดเพราะมัน

 

แม้ว่า ลิงค์ จะบอกเขาไปแล้วว่าที่มานาของเขาน้อยเป็นเพราะอาการบาดเจ็บ, แต่ เอเลียร์ด ก็คิดอยู่เสมอว่านี่เป็นสิ่งที่ ลิงค์ เชื่อเพื่อให้กำลังใจตัวเองแล้วไม่เก็บมันมาคิดจริงจัง

 

“ก็ได้, ก็ได้, หยุดประจบกันเองเถอะ” ลิงค์ พูด “เอานี่, ฉันเอาคำภีร์เวทย์มนตร์หนามพสุธามาให้นายหกแผ่น”

 

จากนั้น ลิงค์ ก็ยื่นคำภีร์เวทย์มนตร์ที่เขาปล้นมาจากหอคอยเวทย์มนตร์ของเขาให้กับ เอเลียร์ด

 

เอเลียร์ด เป็นศิษย์รักของ มอยร่า แล้วเธอก็ไม่ได้มีนักเวทย์ฝึกหัดมากนักในหอคอยเวทย์มนตร์ของเธอ, ดังนั้น เอเลียร์ด จึงกลายเป็นหัวหน้านักเวทย์ฝึกหัดของเธออย่างรวดเร็ว ซึ่งตอนนี้เขาทำหน้าที่บริหารรายได้ของหอคอย ทั้งรายได้และสถานะของหอคอยเวทย์มนตร์ของ มอยร่า นั้นพอๆกับของ เบล

 

คำภีร์เวทย์มนตร์และยาที่นักเวทย์ฝึกหัดเตรียมเอาไว้, ตลอดจนวัสดุเวทย์มนตร์ที่พวกเขารวบรวมมาจะถูกส่งให้ เอเลียร์ด  ทั้งหมดเพื่อให้เขาเอามันไปขาย ดังนั้น ลิงค์ จึงส่งคำภีร์ของเขาเพื่อฝากให้เขาเอาไปขายด้วย, ซึ่ง ลิงค์ คิดว่านี่คือการจัดการที่สะดวกที่สุด

 

เอเลียร์ด เปลี่ยนมาเข้าสู่โหมดจริงจังอย่างกระทันหันขณะที่เขาตรวจสอบคำภีร์เวทย์มนตร์อย่างระมัดระวัง

 

ลิงค์, คุณภาพของคำภีร์เวทย์มนตร์ของนายนี่ดีขึ้นเรื่อยๆเลยนะ!” เอเลียร์ด พูด, “โครงสร้างนี้เป็นหนึ่งในโครงสร้างที่นายดัดแปลงใหม่หรอ?”

 

เขาตรวจสอบคำภีร์โดยไม่ได้ตรวจสอบแค่คุณภาพเท่านั้นเพราะเขารู้ว่ามันมักจะสุดยอดเสมอ—สิ่งที่เขาชื่นชมในตอนนี้ก็คือรายละเอียดเล็กๆที่ถูกเพิ่มเข้าไปในคำภีร์

 

ลิงค์ มองจุดที่ เอเลียร์ด ชี้แล้วพยักหน้า

 

“ใช่แล้ว” ลิงค์ ตอบกลับไป

 

โครงสร้างที่พิเศษเหล่านี้มีอยู่แค่ในคำภีร์ที่เขาส่งให้ เอเลียร์ด เท่านั้น ส่วนพวกที่ส่งให้ วอร์วิค ทั้งหมดเป็นแค่คำภีร์ธรรมดาๆ

 

“ตอนที่ฉันกำลังสร้างมัน, ฉันก็รับรู้ขึ้นมาอย่างกระทันหันว่าวิธีการเขียนแบบธรรมดานั้นสามารถรับประกันความสำเร็จของคำภีร์เวทย์มนตร์ได้ยังไง แต่มันก็ไม่ใช่พลังสูงสุดของเวทย์มนตร์ ดังนั้น, ฉันจึงซ่อมแซมแล้วปรับเปลี่ยนเล็กน้อย แม้ว่าตอนนี้กระบวนการเตรียมการจะซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย, แต่พลังของหนามพสุธาก็จะเพิ่มขึ้นประมาณ 50% ซึ่งนี่ทำให้มันแรงขึ้น”

 

“นั่นมันเหลือเชื่อมากเลย!” เอเลียร์ด อุทาน “ฉันจะไปเจรจากับพ่อค้าดู ฉันคิดว่าคำภีร์พวกนี้น่าจะขายได้ราคาถึงหนึ่งเหรียญทองนะ ลิงค์, นายรู้ไหมว่าคำภีร์ของพวกเราขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลยหล่ะ? พ่อค้าบอกฉันมาว่ามีทหารรับจ้างหลายคนปฏิญาณต่อพวกมัน แถมพวกเขายังตั้งชื่อเล่นให้หนามพสุธาของนายด้วยนะ—พวกเขาเรียกพวกมันว่า ‘หอกแห่งความตาย’ ถ้านายสามารถปรับแต่งคำภีร์เวทย์มนตร์ได้อีกหล่ะก็, ฉันมั่นใจเลยว่ายอดขายของพวกเราจะพุ่งทะลุเพดานแน่ๆ!”

 

ลิงค์ พยักหน้า เขาได้ยินเรื่องคล้ายๆกันแบบนี้มาจาก วอร์วิค แล้ว

 

“ไม่มีปัญหา, ฉันจะเตรียมปรับแต่งเกราะป้องกันระดับต่ำ, ความคมพื้นฐาน แล้วก็หายตัวระดับต่ำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วฉันจะเอาพวกมันมาให้นายในครั้งหน้าที่พวกเราพบกันอีกนะ”

 

ลิงค์ ไม่ได้ซ่อนพลังที่แท้จริงของเขาจาก เอเลียร์ด เพราะเขาไม่สามารถซ่อนได้แม้ว่าเขาจะต้องการก็ตาม, เนื่องจากพวกเขาได้สนทนาเรื่องทฤษฎีเวทย์มนตร์อย่างลึกซึ้งในจดหมายของพวกเขา พวกเขาจึงรับรู้ทักษะและความรู้ของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี

 

แถม, ใครจะไปปฏิเสธการรับเงินเพิ่มหล่ะ?

 

ตัว ลิงค์ เองไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะสร้างชื่อของตัวเองได้จากธุรกิจเล็กๆอย่างการขายคำภีร์เวทย์มนตร์ มันเป็นเหมือนกับว่าเขาได้สะดุดเข้ากับบ่อทองที่เขาแทบจะไม่ได้คิดเลย เขาถึงกับมีแรงบันดาลใจขึ้นมาอย่างกระทันหันในการเริ่มธุรกิจขายอุปกรณ์เวทย์มนตร์กับพวกอาวุธ แล้วขยายมันไปทั่วทวีปฟิรุแมน

 

ถ้าธุรกิจเติบโต, มันสามารถเปลี่ยนให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีได้เลย!

 

แต่แน่นอนว่า, เป้าหมายหลักของ ลิงค์ ก็ยังคงเป็นการเรียนรู้เวทย์มนตร์ สำหรับเรื่องหาเงินนั้น, เขาพิจารณาว่ามันเป็นแค่ความบันเทิงเล็กๆ, เป็นแค่สิ่งที่จะช่วยสนับสนุนในการเรียนเวทย์มนตร์ของเขา ซึ่งเขาไม่ได้เร่งรีบกับมันแล้วทำมันไปทีละขั้นๆ, ค่อยๆสร้างชื่อเสียงของเขาขึ้นมาอย่างช้าๆ

 

“ถ้างั้นถือว่าเป็นอันตกลงนะ”

 

เอเลียร์ด ไม่ได้กังวลเรื่องความเร็วที่ ลิงค์ ต้องใชในการสร้างคำภีร์เวทย์มนตร์เวอร์ชันปรับแต่งเลยสักนิด

 

เขาเก็บคำภีร์เวทย์มนตร์แล้วนักเวทย์ทั้งสองก็เริ่มเอ็นจอยกับอาหารกลางวันที่ เอเลียร์ด นำมา หลังจากที่พวกเขากินเสร็จ, พวกเขาก็พักผ่อนอยู่พักนึง, จากนั้นพวกเขาก็แลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ์ด้านเวทย์มนตร์ตามปกติ

 

ไม่มีข้อสงสัยในความเป็นอัจฉริยะของ เอเลียร์ด เลย บนโลกนี้, IQ ของเขาคงจะมากกว่า 200 อย่างแน่นอน ลิงค์ เคยเป็นอาร์คเมจมาก่อนในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา, และยิ่งไปกว่านั้นเขายังได้รับการสนับสนุนจากเทพแห่งแสง, ดังนั้นพลังสมองของเขาจึงไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว

 

ควรมเร็วในการคิดของเด็กหนุ่มทั้งสองนั้นรวดเร็วและตื่นตัวจนน่าประหลาดใจ หนึ่งในพวกเขาพูดแค่ไม่กี่คำ, อีกคนนึงก็ตามความหมายได้ในทันที จากนั้นพวกเขาก็จะตอบคำถามด้วยมุมมองของพวกเขา, และมุมมองพวกนี้ก็มักจะคมกริบและมีประโยชน์

 

ถ้ามีคนมาได้ยินบทสนทนาของพวกเขา, พวกเขาก็อาจจะคิดว่าทั้งสองกำลังพูดเรื่องไร้สาระกัน

 

แต่นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนที่สองความคิดที่ไม่ธรรมดามาสนทนาและพัวพันกัน การสนทนาของพวกเขามักจะไปอย่างรวดเร็ว, มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์อยู่เสมอ มันจะดีที่สุดถ้าไม่ไปพยายามทำความเข้าใจในความคิดของพวกเขาเพราะมันก็คงได้มาแค่ความงงงวยและความสับสนเพียงเท่านั้น

 

ด้วยความที่ ลิงค์ เป็นคนที่มีมุมมองในด้านทฤษฎีและความจริงในเวทย์มนตร์ที่ลึกซึ้ง, เขาจึงเป็นคนนำในหัวข้อสนทนาส่วนใหญ่ของพวกเขา

 

“ช่วงนี้ฉันกำลังศึกษาเวทย์บอลเพลิงเลเวล 1 อยู่และฉันคิดว่าโครงสร้างของเวทย์บอลเพลิงมันยังห่างใกลจากคำว่าสมบูรณ์และสามารถพัฒนาที่ตำแหน่ง C ได้ นายคิดว่ายังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้?” เอเลียร์ด ถามขณะที่เขาร่างโครงสร้างลงบนกระดาษหนังแพะ

 

ลิงค์ จ้องมันแล้วส่ายหัว, จากนั้นก็ลบส่วนเล็กๆของโครงสร้างที่ เอเลียร์ด แสดงให้เขาดูส่วนนึงแล้วเพิ่มการเปลี่ยนแปลงในสองจุดที่แตกต่างกัน

 

“บางทีแบบนี้น่าจะดีกว่านะ” ลิงค์ พูด

 

“โอ้…นายพูดถูก, นี่มันดีกว่ามากเลย เดี๋ยวนะ, นี่มันคือโครงสร้างเริ่มต้นของเวทย์หายตัวไม่ใช่หรอ? หรือว่านี่คือบอลเพลิงล่องหน?” เอเลียร์ด ถามด้วยความสับสนอย่างเต็มที่

 

“5555, มันคือสิ่งที่ฉันคิดขึ้นมาในตอนที่ฉันกำลังศึกษาเวทย์หายตัวอยู่” ลิงค์ ตอบ “นายเห็นไหม, การเปลี่ยนแปลงพวกนี้จะช่วยลดแสงของบอลเพลิงได้มากเลยนะ, ซึ่งมันจะมีประโยชน์มากในตอนที่ลอบโจมตี…แต่นี่มันก็เป็นแค่ทฤษฎี นายต้องไปคิดวิธีที่จะทำให้ร่ายเวทย์ได้จริงๆด้วยตัวเองนะ”

 

จากนั้น เอเลียร์ด ก็หายเข้าไปในความคิดของเขา เขากำลังคิดถึงความเป็นไปได้ของโครงสร้างที่ ลิงค์ เสนอขึ้นมา เขาเชื่อว่าไม่มีปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างที่ร้ายแรงเพราะข้อเสนอของ ลิงค์ มันฟังดูมีทฤษฏีและมีเหตุผล

 

อา, ทำไมมานาของ ลิงค์ ถึงต้องอ่อนแอขนาดนี้ด้วยนะ? ถ้ามีวิธีที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของมานาแต่กำเนิดของเขาได้หล่ะก็, เขาคงจะกลายเป็นหนึ่งในนักเวทย์ที่เก่งที่สุดในสถาบันเวทย์มนตร์อีสโควฟอย่างแน่นอน ช่างน่าสงสารอะไรอย่างนี้!

 

ไม่มีความอิจฉาในหัวใจของ เอเลียร์ด ทั้งหมดที่เขารู้สึกกับ ลิงค์ ก็คือความเห็นอกเห็นใจและความสงสารอย่างแท้จริง

 

เวลาได้ล่วงเลยผ่านไป, และก่อนที่นักเวทย์ทั้งสองจะรู้ตัว, มันก็ได้ผ่านไปสองชั่วโมงแล้ว ทั้ง เอเลียร์ด ทั้ง ลิงค์ ต่างก็รู้สึกว่าพวกเขาได้เรียนรู้อะไรมากมายจากการสนทนาของพวกเขา

 

ลิงค์ ยืนขึ้นแล้วยืดตัว, จากนั้นก็พูดออกมา “มันสายแล้ว, ตอนนี้ฉันต้องกลับแล้ว”

 

เอเลียร์ด พยักหน้า, จากนั้นก็หยิบจดหมายออกมาแล้วส่งมันให้กับ ลิงค์

 

“ที่ปรึกษาของฉันต้องการให้ฉันเอาจดหมายนี้มาให้นาย” เอเลียร์ด พูด

 

ลิงค์ มักจะถามที่ปรึกษาของ เอเลียร์ด, มอยร่า เกี่ยวกับเรื่องเวทย์มนตร์และ เอเลียร์ด ก็มักจะเป็นคนส่งสารระหว่างทั้งสองคนนี้ ดังนั้นการติดต่อกันระหว่าง ลิงค์ กับ มอยร่า จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับ เอเลียร์ด

 

อย่างไรก็ตาม, ลิงค์ ก็รู้สึกตกใจ เพราะ เอเรร์ร่า ได้ตอบคำถามล่าสุดที่เขาให้ไปเมื่อสองวันก่อนแล้ว แล้วทำไมเขาถึงส่งจดหมายมาให้เขาอีกฉบับเร็วขนาดนี้หล่ะ?

 

หรือว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น?

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset