ถึงแม้ว่าจะรู้สึกสงสัย แต่ ลิงค์ ก็รับจดหมายแล้วพูดออกมา “เอเลียร์ด ส่งคำทักทายของฉันไปให้อาจารย์ของนายด้วยนะ”
“แน่นอน” เอเลียร์ด เก็บของที่อยู่บนโต๊ะหินแล้วก็กลับไปหลังจากที่นัดแนะวันที่จะเจอกันครั้งต่อไปเสร็จ
ลิงค์ ไม่ได้ออกไปในทันที เขามองดูรอบๆและหลังจากที่มั่นใจได้ว่าไม่มีใครมองอยู่ เขาก็เปิดจดหมายของ เอร์เรร่า ขึ้น จดหมายมีเนื้อหาแค่บรรทัดเล็กๆหนึ่งบรรทัดเพียงเท่านั้น มันไม่ได้เขียนเป็นภาษามนุษย์ แต่เป็นภาษาที่หายสาบสูญไปนานจากอารยธรรมของโลกวิญญาณโบราณ ลิงค์เรียนภาษาพวกนี้โดยเฉพาะเพื่อที่จะใช้คุยกับ เอร์เรร่า
“ฉันขอโทษที่ต้องรบกวน เพื่อนของฉัน สถานการณ์ในครั้งนี้ค่อนข้างพิเศษ มาสเตอร์ แอนโทนี่ ได้แจ้งฉันถึงการที่เวทย์ตรวจจับของสถาบันตรวจจับพลังงานความมืดแปลกๆได้ที่ป่าเกอเวนท์อีกครั้ง ขณะที่มันกำลังซ่อนตัวอย่างระมัดระวัง พลังงานที่ล้นออกมาได้บอกว่าผู้ใช้นั้นทรงพลังมาก อาจจะเทียบเท่ากับนักเวทย์เลเวล 6 ระดับพื้นฐานได้เลย ฉันได้ส่งอีกาเวทมนตร์ออกไปตรวจสอบเรียบร้อยแล้ วและฉันก็จะไปจัดการด้วยตัวเองหากได้หลักฐานที่เป็นรูปธรรมแล้ว ยังไงก็ตามเพื่อไม่ให้ไปเพิ่มความสงสัยของนักเวทย์ เบล นี่จึงเป็นภารกิจลับ ฉันอาจจะต้องการความช่วยเหลือจากนักเวทย์คนอื่นๆด้วย ถ้าเธอต้องการที่จะเดินทางไปกับฉัน ให้ติดต่อมาหาฉัน ฉันจะได้เตรียมสิ่งที่จำเป็นให้ ฉันจะหาเหตุผลดีๆเพื่อที่เธอจะได้ออกจากสถาบันได้ และคาดว่าการเดินทางน่าจะมีขึ้นในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า มันอันตรายอย่างมาก ถ้าเธอต้องการที่จะเดินทางไปกับฉันจริงๆ ก็เตรียมตัวเอาไว้ด้วย”
ในตอนที่ ลิงค์ อ่านจดหมายจบ จดหมายก็ถูกเผาด้วยเปลวไฟที่ลุกโชน และในเวลาเดียวกัน ภารกิจใหม่ก็ปรากฏขึ้นในสายตาของเขา
ภารกิจใหม่: เดินทางไปด้วยกัน
ภารกิจ:ออกจากสถาบันในเวลาที่เหมาะสมเพื่อช่วย เอร์เรร่า ในการสำรวจที่มาของพลังงานแห่งความมืดในป่าเกอแวนท์
ค่าตอบแทน: 100 โอมนิพ้อยท์
ลิงค์ ขนลุกเมื่อได้เห็นรางวัลที่มากมายของภารกิจ นี่ต้องเป็นภารกิจที่ยากแน่ๆ แต่เขาจะปฏิเสธคำขอของ เอร์เรร่า ได้ยังไงกันหล่ะ? แน่นอนว่าไม่อยู่แล้ว! เอร์เรร่า เป็นนางฟ้าแห่งแสงและพันธมิตรที่แข็งแกร่งในการต่อสู้กับกองทัพแห่งความมืด ถ้าเธอร้องขอความช่วยเหลือ เขาก็ยินดีที่จะช่วย
ลิงค์ ตกลงรับภารกิจ
โชคดีที่ยังมีเวลาอีกหนึ่งเดือนก่อนที่ภารกิจจะเริ่ม เมื่อถึงตอนนั้น ลิงค์ จะหายจากโรคมานาและโดมิงโก้คริสตัลของเขาก็จะฟอกเสร็จ นอกจากนี้เขาน่าจะคิดค้นเวทย์ระดับสุดยอดได้อีกเล็กน้อยเมื่อถึงตอนนั้น แล้วหากเอาค่าโอมนิที่มีอีกเล็กน้อยมารวมด้วย เขาก็น่าจะกลายเป็นนักเวทย์เลเวล 4 ที่แข็งแกร่งมากๆ
แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วสำหรับภารกิจ
ยังไงก็ตาม แม้จะมีอุปกรณ์และอยู่เวทมนตร์มากมาย แต่ ลิงค์ ก็ยังคงรู้สึกหวาดกลัวอยู่ดี เขารู้ว่าความมืดจะออกมาจากหนทางใหม่เสมอแม้ว่าทางอื่นจะถูกปิดไป แม้ว่า ลิงค์ จะมีความรู้เกี่ยวกับการออกมาของพวกมันจนถึงตอนนี้ แต่เขาก็ไม่มีข้อมูลเบื้องหลังเกี่ยวกับเส้นทางใหม่นี้เลย
ถ้าเขายังคงเขียนประวัติศาสตร์ใหม่เรื่อยๆ เขาก็จะค่อยๆเสียความได้เปรียบในการรู้อนาคตลงอย่างช้าๆ
ความมืดมักจะคงอยู่เสมอ มันจะหาทางออกอื่นเพื่อปลดปล่อยพลังของมัน ฉันสงสัยจังว่าจะเกิดภัยพิบัติแบบไหนขึ้นเมื่อถึงตอนที่มันอยู่นอกเหนือการควบคุม ลิงค์ ถอนหายใจ
มันเป็นเวลา 4 โมงเย็นแล้วและพระอาทิตย์ก็กำลังจะตกดิน ลิงค์ มีช่วงเวลา 1 วันที่วุ่นวายและเดินกลับไปที่หอคอยนักเวทย์ของ เบล ตามปกติ เพื่อเตรียมตัวที่จะพักผ่อน ในตอนที่เขามาถึงห้องโถง เขาก็เห็นนักเวทย์ฝึกหัดมารวมตัวกันอยู่ที่หน้าโพเดียมและดูเหมือนว่า เดเร็ค จะประกาศอะไรซักอย่างที่สำคัญในฐานะที่เป็นผู้จัดการของหอคอยนักเวทย์
ลิงค์ ไปที่ที่นั่งของเขาอย่างเงียบๆและนั่งฟัง
“โดยรวมแล้ว กองทัพหลวงได้ให้คำสั่งที่ยิ่งใหญ่มาและพวกเขาก็ความคาดหวังในคุณภาพเอาไว้สูง โดยเฉพาะความเสถียรของอุปกรณ์ พวกเราจะต้องทำตามคำสั่งให้ทันเวลาและส่งอุปกรณ์ที่มีคุณภาพที่สุดของพวกเราให้กับพวกเขา..” เสียงของ เดเร็ค เต็มไปด้วยพลังและแรงบัลดาลใจ แต่ว่านักเวทย์ฝึกหัดที่ฟังเขาอยู่ต่างก็แสดงสีหน้าเบื่อหน่าย
หลังจากฟังไปได้ซักพัก ลิงค์ ก็เข้าใจ ดูเหมือนว่าอาณาจักรนอร์ตันกำลังเตรียมตัวที่จะแก้แค้นอาณาจักรพาแลคของ ดาร์กเอลฟ์ ในป่าแห่งความมืด พวกเขาต้องการทรัพยากรณ์ที่หลากหลายเช่นคัมภีร์เวทมนตร์และโพชั่นในการต่อสู้
ในเกมนั้น หลังจากการสังหารหมู่ในแกลดสโตน พวกดาร์กเอลฟ์ก็ได้รับพรศักดิ์สิทธ์จากราชินีแมงมุม ลอร์ธ และได้อาวุธศักดิ์สิทธ์มาไว้ในมือ อาณาจักรนอร์ตันต้องทนทุกข์ทรมานกับความพ่ายแพ้นับตั้งแต่ตอนนั้น
ประวัติศาสตร์ได้เปลี่ยนไปแล้ว ฉันสงสัยจังว่าผลจะออกมาเป็นยังไงในคราวนี้? ด้วยเหตุผลแปลกๆบางอย่าง ลิงค์ รู้สึกกังวลเป็นพิเศษ
ด้วยความที่ ลิงค์ มาสาย เขาจึงตรงไปหา วอร์วิค เพื่อสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับภารกิจ “วอร์วิค นี่เป็นภารกิจแบบไหนกันครับ?”
วอร์วิค ดูมีปัญหาอย่างเห็นได้ชัด เขากางนิ้วทั้งห้าออกแล้วพูด “นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุกคนจะต้องเขียนม้วนคัมภีร์ 5 แผ่นต่อวัน เป็นเวลาทั้งหมด 20 วัน หอคอยนักเวทย์ของพวกเราถูกสั่งให้เขียนคัมภีร์เวทมนตร์เลเวล 0 800แผ่น ฉันก็จะช่วยในการเขียนนี้ด้วย”
ลิงค์ เข้าใจในทันที ที่หอคอยนักเวทย์แห่งนี้มีนักเวทย์ฝึกหัดเพียงแค่ 7 คนเท่านั้นที่มีหน้าที่ในการเขียนคัมภีร์เวทมนตร์ เมื่อรวม วอร์วิค เข้าไปแล้ว ก็จะเป็น8คน เพื่อที่จะสร้างคัมภีร์ 800 แผ่นในเวลา 20 วัน นั่นก็หมายความว่า 1 คนจะต้องผลิตคัมภีร์ให้ได้ 100 แผ่น และผลิตให้ได้ 5 แผ่นต่อวัน
ยังไงก็ตาม มานาและพลังงานของนักเวทย์ฝึกหัดนั้นมีจำกัด ยิ่งพวกเขาเขียนคัมภีร์เยอะเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสพลาดสูงเท่านั้น คัมภีร์เวทมนตร์ 5 แผ่นต่อวันนั้นเป็นภาระที่หนักหน่วงสำหรับนักเวทย์ฝึกหัดระดับต่ำ
ในฐานะที่เป็นนักเวทย์ฝึกหัดระดับสูงที่รับหน้าที่เขียนคัมภีร์เวทมนตร์ วอร์วิค น่าจะเติมเต็มส่วนที่ขาดไปที่นักเวทย์ฝึกหัดระดับต่ำไม่สามารถทำได้
วอร์วิค รู้สึกแย่มากเมื่อคิดถึงวันข้างหน้า
ลิงค์ คิดบางอย่างขึ้นมาได้ “มีข้อบังคับพิเศษสำหรับคัมภีร์ไหมครับ?” ลิงค์ ถาม
“มี พวกทหารต้องการแต่คัมภีร์เวทย์สนับสนุน ความคมขั้นต้นและเกราะระดับต่ำ”
“แต่ผมรู้แค่เวทย์เกราะระดับต่ำเองนะ”
ถ้า ลิงค์ บอกว่าเขาเชี่ยวชาญในเวทย์ทั้งสองแล้ว คงจะเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ขึ้นในหอคอยนักเวทย์ การเชี่ยวชาญเวทย์เลเวล 0 ภายในเวลา 2 อาทิตย์มันดูไม่ถูกต้อง
“อะไรนะ? นายเรียนรู้เวทย์เกราะระดับต่ำได้แล้วเหรอ? ตาของ วอร์วิค มีประกายขึ้นมา เขาไม่ได้นับ ลิงค์ ลงไปด้วยในการคำนวณของเขา เพราะ ลิงค์ เขียนแต่คัมภีร์หนามพสุธามาโดยตลอดในเวลาที่ผ่านมา”
“ผมเพิ่งเรียนรู้มันและยังไม่ค่อยชินกับการใช้มันเท่าไหร่ครับ ผมก็เลยกลัวที่จะบอก” เขาเอานิ้วออกมาเคาะตัวเองเบาๆ หลังจากนั้นก็มีแสงสีเขียวเกิดขึ้นบนร่างกายของเขา
แน่นอนนั่นมันคือเวทย์เลเวล 0 เกราะระดับต่ำ
วอร์วิค ถึงกับพูดไม่ออก
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นมีปัญหา แค่ฝึกอีกนิดหน่อยเดี๋ยวนายก็จะชินไปกับมันเอง ฮ่า ช่างเป็นข่าวดีจริงๆ!” นี่ก็หมายความว่ามีคนทำงานได้ทั้งหมด 9 คน วอร์วิค รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก
เมื่อ เดเร็ค พูดจบ วอร์วิค ก็รวบรวมนักเวทย์ฝึกหัดและประกาศ “เวลามีไม่มากแล้วและพวกเราก็มีคัมภีร์ที่ต้องทำเป็นจำนวนมาก มาเริ่มทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้กันเถอะ” เขาแจกม้วนกระดาษเปล่า 10 แผ่นและขวดหมึกให้กับทุกคน
นักเวทย์ฝึกหัดทั้งหมดถอนหายใจขณะที่เก็บหมึกและม้วนกระดาษของพวกเขา ในอีกด้านหนึ่ง ลิงค์ ยังคงเงียบ เขาไม่มีความกังวลเกี่ยวกับการสร้างคัมภีร์เวทมนตร์เลย และเขาก็เดินกลับไปที่ห้องของเขาเพื่ออ่านหนังสือ
ส่วนคัมภีร์เวทมนตร์นั้น เขาจะทำมันหลังจากที่เขาเบื่อจากการอ่านหนังสือและไม่มีแรงบัลดาลใจในการเขียนวิทยานิพนธ์ของเขาแล้ว มันเป็นงานที่ง่ายมากๆ
ข่าวดีมักจะมาพร้อมกับข่าวร้าย วันต่อมาได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น นักเวทย์ฝึกหัดสองคนกังวลเกี่ยวกับการเขียนคัมภีร์มากเกินไป ทำให้พวกเขาใช้เวลาทั้งหมดในคืนนั้นเพื่อพยายามที่จะทำมันให้เสร็จ ด้วยความเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก พวกเขาจึงทำพลาดและก่อให้เกิดการย้อนกลับของมานาเข้าไปในตัวพวกเขา ทำให้เกิดความเสียหายภายในอย่างรุนแรง แต่พวกเขาก็ยังมีชีวิตอยู่เนื่องจากมานาของพวกเขาอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งพวกเขาต้องการการพักฟื้นเป็นเวลา 1 เดือนเพื่อรักษา และนั่นก็ทำให้นักเวทย์ฝึกหัดทั้งสองคนนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้เวทมนตร์ตลอดทั้งเดือน
เช่นนั้นเองทำให้จำนวนคนที่เขียนคัมภีร์เวทมนตร์ลดลงเหลือ 7 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือลิงค์ ที่ยังเป็นมือใหม่สำหรับเวทย์นี้ วอร์วิค ทำได้เพียงแต่หวังว่าจะไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นไปมากกว่านี้อีก!
“5แผ่นต่อวัน ห้ามทำมากไปกว่านั้น ถ้าเกิดว่ารู้สึกเหนื่อยอย่าพยายามฝืนตัวเองเพื่อให้เสร็จภารกิจ ฉันจะคิดหาวิธีเอง!” วอร์วิค กลัวว่านักเวทย์ฝึกหัดของเขาจะทำงานหนักเกินไปและเน้นไปที่ประเด็นเรื่องสุขภาพ
ในอีกด้านหนึ่ง ตัว วอร์วิค เองกำลังจะเป็นบ้าจากการเขียนคัมภีร์เวทมนตร์ด้วยความกลัวที่งานจะไม่ทันตามคำสั่ง เขาเขียนคัมภีร์ 8 เล่มในคืนเดียว เขาเสียสละด้วยความตั้งใจและสุขภาพจิตของเขา
วอร์วิค วางแผนที่จะซื้อคัมภีร์จากตลาดเพื่อที่จะทำจำนวนได้ แต่ยังไงก็ตาม คัมภีร์เวทมนตร์ในตลาดก็ถูกพวกทหารซื้อไปหมดแล้ว แม้ว่าเขาต้องการที่จะจ่ายเงินเพิ่มสำหรับค่าคัมภีร์ แต่เขาก็ไม่สามารถหามันเจอได้
ช่างเป็นคนที่น่าสงสารอะไรอย่างนี้ ลิงค์ รู้สึกผิดต่อเขาและตัดสินใจที่จะยื่นมือเข้าช่วย และเขายังใช้โอกาสนี้ในการสร้างความเคลื่อนไหวในหอคอยนักเวทย์อีกด้วย