หอคอยเวทย์มนตร์ของ เบล
…
ไม่เพียงแค่เขาจะสามารถสร้างคำภีร์ได้ 15 แผ่นเท่านั้น, แต่คุณภาพของคำภีร์แต่ละแผ่นยังยอดเยี่ยมด้วยเนี่ยนะ? เดเร็ค จ้องไปที่คำภีร์เวทย์มนตร์ระดับต่ำที่กางอยู่บนโต๊ะเบื้องหน้าเขาอย่างไม่เชื่อสายตา
แม้กระทั่งผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ด้านเวทย์มนตร์ก็คงจะเข้าใจความงดงามของคำภีร์เวทย์มนตร์นี้อย่างแน่นอน ในสายตาของ เดเร็ค, ในฐานะนักเวทย์เต็มตัวได้มีคำพูดคำหนึ่งแล่นเข้ามาในหัวของเขา—สมบูรณ์แบบ
แม้ว่าจะใช้ม้วนกระดาษคุณภาพต่ำและหมึกเวทย์มนตร์ทั่วไปที่ได้มาจากหอคอยเวทย์มนตร์ก็ไม่สามารถปกปิดความงดงามผิดธรรมดาของออร่าเวทย์มนตร์สีเงินที่อักขระเวทย์บนคำภีร์ปล่อยออกมาได้
ออร่าของคำภีร์เวทย์มนตร์ดูสง่างามและรวดเร็วเหมือนกับปลาเทราท์สีเงินที่เวียนว่ายอยู่ในแม่น้ำที่อาบด้วยแสงจันทร์, ขณะที่ปกคลุมด้วยออร่าลึกลับของเวทยมนตร์ เดเร็ค ไม่สามารถละสายตาของเขาออกจากคำภีร์พวกนี้ได้; ในเวลานี้พวกมันน่าทึ่งมากจนมันแทบจะทำให้เขาหายใจไม่ออก
เดเร็ค คิดว่าคำภีร์เวทย์มนตร์สุดประเสริฐเหล่านี้มีค่าเกินกว่าที่จะถูกมือหยาบๆของพวกทหารป่าเถื่อนจับ, พวกมันควรจะมีชื่อเสียงและมีราคาสูงในฐานะผลงานศิลปะแทน!
ใช่, มันคงจะเหมาะสมกว่านี้หากขายในฐานะผลงานศิลป่ะแทนที่จะเป็นอาวุธถูกๆ แต่บางทีแค่นั้นก็อาจจะยังไม่พอสำหรับคำภีร์เวทย์มนตร์เหนือธรรมชาติพวกนี้
ข้อผิดพลาดเพียงนิดเดียวของพวกมันก็คือม้วนกระดาษเปล่ากับหมึกเวทย์มนตระดับต่ำ, รวมทั้งไม่มีอะไรที่สามารถทำได้เกี่ยวกับเวทย์มนตร์ต่ำ, เนื่องจากผู้สร้างเวทย์มนตร์พวกนี้เป็นแค่นักเวทย์ฝึกหัดมือใหม่เท่านั้นเอง ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถพัฒนาสองปัจจัยนี้ได้อย่างง่ายดายก็ตาม
ชนชั้นสูงหนุ่มสาวรักที่จะเก็บรวบรวมไอเทมเวทย์มนตร์และความมั่งคั่ง ส่วนพ่อค้าก็ชอบใช้พวกมันเพื่อตกแต่งหน้าร้านของพวกเขาเช่นกัน ถ้าฉันขายของพวกนี้ให้กับพวกเขา, ฉันมั่นใจเลยว่าพวกมันสามารถทำเงินได้อย่างน้อย 10 เหรียญทองต่อแผ่น
เดเร็ค กำลังเงินขาดมือ, ดังนั้นเขาต้องรีดพรสวรรค์ด้านการบริหารจัดการอันน้อยนิดที่เขาหมดหวังไปแล้วออกมา ในความเป็นจริง, แม้แต่เขาเองก็ยังตกใจกับตัวเองที่สามารถคิดสิ่งที่เขาพิจารณาว่าเป็นความคิดที่ฉลาดได้
เด็กคนนั้นสามารสร้างคำภีร์ได้ 15 แผ่นต่อวัน นี่ก็หมายความว่าจะมีรายได้วันละ 100 เหรียญทอง สำหรับเด็กคนนั้น, ฉันมั่นใจเลยว่าเงิน 10 เหรียญทองต่อวันก็ทำให้เขามีความสุขแล้ว
เดเร็ค กระแอมอย่างสุภาพแล้วบอกกับ วอร์วิค “ดีแล้ว, ฉันโล่งใจที่ไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ทำไมนายไม่รับคำภีร์เวทย์มนตร์พวกนี้ไปหล่ะ? ฉันซื้อพวกมันมาจากเมืองริเวอร์โควฟในราคาสูง แม้ว่าจะมีแค่ 20 แผ่น, แต่ฉันมั่นใจว่าอย่างน้อยพวกมันจะช่วยลดภาระอันตึงเครียดของนายได้อย่างแน่นอน”
“คำภีร์พวกนี้ราคาเท่าไหร่หรอครับ?” วอร์วิค ถามอย่างลังเล
ประสบการณ์สอน วอร์วิค ว่า เดเร็ค เป็นคนที่ขี้เหนียวมากๆ, เขาจะไม่มีทางจ่ายเงินให้กับอะไรก็ตามที่เขาจะไม่ได้รับผลกำไรในตอนจบ
แต่เขาก็ต้องประหลาดใจ, เดเร็ค แค่ปัดมือของเขาแล้วพูด “ครั้งนี้นายไม่ต้องจ่ายเงินหรอก แค่ทำงานของนายต่อไปแล้วทำหน้าที่ให้ลุล่วงก็พอ”
“ขอบคุณมากๆสำหรับความช่วยเหลือนะครับ, พี่ เดเร็ค” วอร์วิค พูดทั้งๆที่ตกตะลึง, หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกขอบคุณ เดเร็ค ตอบกลับไปด้วยการพยักหน้า
คำภีร์ยี่สิบแผ่นเป็นจำนวนที่ไม่มากเท่าไหร่นัก, แต่มันก็ยังพอๆกับการทำงานหนักของนักเวทย์ฝึกหัดธรรมดาๆถึงห้าวัน ดังนั้นตอนนี้เขามีคำภีร์เวทย์มนตร์ที่เสร็จแล้วอยู่ 440 แผ่น เหลือเวลาอีกสิบวันพวกเขาจำเป็นต้องเตรียมเพิ่มอีกแค่ 360 แผ่นซึ่งนั่นไม่ได้ยากเกินไปที่จะจัดการ
“แล้ว ลิงค์ ไปไหนหล่ะ?” เดเร็ค ถาม “ฉันอยากจะไปหาเขา”
“เขาเหนื่อยหลังจากที่สร้างคำภีร์เวทย์มนตร์หน่ะครับ, เพราะฉะนั้นเขาก็เลยออกไปเดินเล่นข้างนอก” เดเร็ค ตอบ
“เข้าใจหล่ะ ถ้างั้นหากเขากลับมา, บอกให้เขาไปหาฉันที่ห้องด้วยนะ” เดเร็ค พูด
“เข้าใจแล้วครับ” วอร์วิค ตอบกลับไป
ในขณะเดียวกัน, ลิงค์ ไม่ได้นึกเลยว่าเขากลายเป็นส่วนหนึ่งของแผนการของ เดเร็ค ได้ยังไง แม้ว่าเอาจริงๆแล้ว, เขาจะตั้งใจแสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ของเขาในคำภีร์เวทย์มนตร์เพราะเขาต้องการจะดึงดูดความสนใจของนักเวทย์ระดับสูงที่อยู่ในหอคอย แต่ถ้าเขายังขลุกอยู่กับนักเวทย์ฝึกหัดระดับต่ำ, ก็คงจะไม่มีหนทางสำหรับเขาที่จะสืบสวน เบล หรือศึกษาความลับของเขา
ในความเป็นจริง, ลิงค์ ไม่ได้ออกไปเดินเล่นเช่นกัน, แต่ไปที่หอคอยเวทย์มนตร์ของ มอยร่า แทน เขาไปที่นั่นภายใต้หน้ากากของการไปหาเพื่อนของเขา เอเลียร์ด, แต่ว่าแท้จริงแล้ว, เขาไปที่นั่นเพื่อทำการทดลองเวทย์มนตร์
หลังจากผ่านไปสิบวันของการเตรียมคำภีร์เวทย์มนตร์, ลิงค์ ก็ได้รับรายได้พิเศษมาบางส่วนจากการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิอย่างมาก
แม้เขาจะเป็นคนรักความสมบูรณ์แบบ แต่เขาก็ได้เรียนรู้วิธีการควบคุมมานาอย่างแม่นยำมากขึ้น ถ้าก่อนหน้านี้เขาสามารถรวบรวมมานาของเขาให้มีขนาดเล็กเท่าเส้นผมของมนุษย์ได้ ตอนนี้เขาก็พัฒนามากขึ้นจนสามารถรวบรวมมานาให้มีขนาดเท่ากับใยแมงมุมได้
ยิ่งเขาสามารถรวบรวมมานาให้เล็กลงได้มากเท่าไหร่ เส้นใยของมานาที่ใช้ในโครงสร้างของเวทมนตร์ก็จะยิ่งละเอียดขึ้นเท่านั้น ซึ่งนั่นก็หมายความว่ามานาที่จำเป็นต้องใช้ในแต่ละครั้งที่ร่ายเวทย์จะลดลงไปด้วยและจะทำให้สร้างเวทมนตร์ที่ซับซ้อนมากกว่านี้ได้
ตัวอย่างเช่น ตอนนี้ลิงค์ต้องการ 0.9 แต้มมานาเพื่อใช้ลูกแก้ว ด้วยพลังที่เท่ากันขณะที่นกหวีดใช้แค่ 3.5 แต้มเท่านั้น
แต่นั่นไม่ใช้ผลประโยชน์ที่ ลิงค์ ได้รับเพียงอย่างเดียว
ด้วยการสร้างคัมภีร์เวทมนตร์เกราะระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง เขาจึงได้รับแรงบันดาลใจในการดัดแปลงโครงสร้างของเวทมนตร์ หลังจากเปลี่ยนมาหลายครั้ง ในที่สุดเขาก็ได้ทำการดัดแปลงเวทย์ระดับสูงสุดสำหรับเวทมนตร์อันใหม่และยังรวบรวมมันเข้ากับเวทย์เลเวล 2 บาเรียป้องกัน ผลที่ได้ก็คือ เขาได้สร้างความเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงต่อเวทย์นั้นขณะที่เลเวลของมันก็เพิ่มขึ้นอีกด้วย!
บาเรียป้องกันดั้งเดิมนั้นจะปกคลุมตัวผู้ใช้ด้วยชั้นของเวทมนตร์ธาตุที่สามารถป้องกันการโจมตีจากการโจมตีด้วยเวทมนตร์ได้ แต่หลังจากการปรับปรุงแล้ว จะมีชั้นของพลังที่แข็งแกร่งถูกเพิ่มขึ้นบนบาเรียที่มีอยู่แล้วซ้ำอีกทีทำให้ผู้ใช้สามารถป้องกันการโจมตีทางกายภาพได้ด้วยเช่นกัน
ยังไงก็ตาม เพราะว่า ลิงค์ ใช้เวลาส่วนมากอยู่ที่หอคอยนักเวทย์ของ เบล ทำให้เวทย์นี้วนเวียนอยู่ในหัวของเขาเพียงเท่านั้น ไม่มีโอกาสได้ทดสอบมันจริงๆเลย ถึงแม้ว่าเขาจะลองจำลองมันในหัวของเขานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว แต่เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีข้อบกพร่องร้ายแรง เวทย์บาเรียป้องกันที่ปรับปรุงใหม่นี้ได้อัพเกรดเป็นเวทย์เลเวล 3 แล้ว ซึ่งนั่นก็หมายความว่ามันจะมีโอกาสเสี่ยงมากที่จะเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงจากการที่พลังไม่สมดุลกันแม้เพียงจุดเล็กน้อย ลิงค์ จะไม่เสี่ยงที่จะทดลองมันในห้องของเขาและคิดว่าทางที่ดีที่สุดคือทำในสภาวะแวดล้อมที่มีการป้องกันของบ่อแห่งธาตุ
เมื่อ ลิงค์ มาถึงหอคอยนักเวทย์ของมอยร่า เอเลียร์ด ก็มารอพบเขาอยู่ที่ประตูแล้ว สีหน้าของเขาดูร่าเริงขึ้นเมื่อเขาเห็น ลิงค์
“ลิงค์ ฉันไม่คิดเลยนะว่านายจะสามารถสร้างคัมภีร์เวทมนตร์ได้เร็วมากขนาดนี้! ฉันลองด้วยตัวเองแล้ว แต่ฉันไม่เคยทำได้เกิน 10 แผ่นต่อวันเลย แต่นายสามารถสร้างได้ตั้ง 15 แผ่นแหน่ะ! นายมันสัตว์ประหลาดชัดๆ!” เอเลียร์ด พูด
“ฉันคิดว่า ฉันฝึกมาเยอะมากกว่าหน่ะ ในตอนแรกที่ฉันเริ่มทำมันก็ไม่ได้เร็วมากหรอก” ลิงค์ พูดพลางหัวเราะไปด้วย
“ฉันมั่นใจว่าอัจฉริยะไม่หวั่นกับเรื่องแค่นี้หรอก ฉันหมายถึง ฉันไม่สามารถสร้างคัมภีร์เวทมนตร์ได้ยอดเยี่ยมเหมือนกับของนายได้ในเวลาล้านปีหรอก” เอเลียร์ด เข้าใจว่าการสร้างคัมภีร์เวทมนตร์นั้นยากขนาดไหน ดังนั้นเขาจึงรู้ว่านั่นมันเป็นความสำเร็จของ ลิงค์ มากกว่าการฝึกแบบหลับหูหลับตา
พวกเขาทั้งสองคุยและหัวเราะกันในขณะที่เดินเข้าไปในหอคอยนักเวทย์ นี่เป็นครั้งแรกที่ ลิงค์ มาที่นี่ และเขาก็สังเกตุเห็นว่าการตกแต่งภายในหอคอยนี้เหมือนกับของ เบล เลย เว้นแต่ว่าขนาดมันดูเล็กกว่าเล็กน้อยและมีบรรยากาศที่ดูอบอุ่นและใจดีแตกต่างกับบรรยากาศที่เย็นชาและเต็มไปด้วยการแข่งขันของหอคอยของ เบล
แถม ลิงค์ ยังสังเกตเห็นนักเวทย์ฝึกหัดที่หัวเราะและยิ้มในตอนที่พวกเขาคุยกัน-มันดูแตกต่างกับที่หอคอยของ เบล เมื่อพวกเขามาถึงห้องโถง นักเวทย์ฝึกหัดทุกคนก็หันมาหา เอเลียร์ด และทักทายเขาอย่างอบอุ่น
ถึงแม้ว่าทุกคนจะรู้ข่าวของอัจฉริยะแห่งคัมภีร์เวทย์มนตร์ที่หอคอยนักเวทย์ของ เบล แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้หน้าค่าตาของเขา
“เอเลน่า หยุดกวนผมได้แล้ว!” เอเลียร์ด พูดพร้อมกับผลักเด็กสาวออกไป มันดูน่าอายเล็กน้อย
ถึงแม้ว่าเสียงของเขาจะดูเย็นชา แต่ ลิงค์ ก็รู้สึกได้ถึงความรู้สึกผิดในน้ำเสียงของ เอเลียร์ด เขารู้ในทันทีว่าผู้หญิงที่ชื่อ เอเลน่า นั้นได้กุมเขาไว้ในกำมือเรียบร้อยแล้ว
เอเลียร์ด ที่น่าสงสาร ฉันคิดว่าความหล่อนี่นำภัยมาให้ตัวเองจริงๆ ลิงค์คิดอย่างเหน็บแนม
ลิงค์ เบนสายตาของเขาไปที่ เอเลน่า เธอดูเหมือนจะอายุประมาณ 18 ปีและเธอก็มีผมสีบลอนด์ยาว การกระพริบตาสีฟ้าอันใหญ่โตของเธอนั้นทำให้เธอดูเหมือนกับเด็กไร้เดียงสา แต่เมื่อดูจากความแข็งแกร่งของมานาของเธอแล้ว เธอน่าจะอยู่ในระดับนักเวทย์ฝึกหัดระดับสูงแล้ว ซึ่งนั่นทำให้เธอดูลึกลับและกระตือรือร้น
จากการมองในครั้งแรก เอเลน่า ดูเหมือนกับเป็นทั้งเด็กสาวที่ไร้เดียงสาและนักเวทย์ที่มีพรรสวรรค์ แต่จากการมองครั้งที่สองเขาก็ได้ทิ้งความประทับใจแรกของเธอลงไป เขารู้สึกได้ว่าเธอกำลังแสดง
ผ้าคลุมนักเวทย์ที่ห่อหุ้มเอวของเธออย่างพอเหมาะและดูเหมือนว่าเธอจะใช้เวลาและความพยายามอย่างมากในทรงผมที่ประณีตของเธอ ซึ่งนั่นมีผลกับความอยากรู้อยากเห็นของเธอเมื่อเธออยู่ข้างๆ เอเลียร์ด พอพิจารณาจากความเร็วในการสนิทกับ เอเลียร์ด ดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจในความหลงใหลในการเรียนรู้เวทมนตร์ของ เอเลียร์ด และจะใช้มันให้เป็นประโยชน์กับเธอ ความผิดพลาดเดียวของเธอก็คือเธอยังเด็กเกินไป ดังนั้นประสบการณ์จึงทำให้เธอแสดงออกมาอย่างแปลกๆต่อสายตาที่ช่างวิเคราะห์ของ ลิงค์, ลิงค์ คิดว่าเขาไม่สามารถประมาทผู้หญิงที่ดูไร้เดียงสาคนนี้ได้
เอเลน่า เอเลน่า… ชื่อมันคุ้นมาก ลิงค์ไม่สามารถบอกได้ว่าเขาเคยได้ยินจากไหน ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกคุ้นเคยกับมันมากก็ตาม
จากนั้น เอเลียร์ด ก็หันมาหา ลิงค์ เขาแนะนำ ลิงค์ ให้กับทุกคนในห้องโถงโดยไม่ขอคำอนุญาต ลิงค์ จึงพยักหน้าด้วยความยินยอม เขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปกปิดตัวตนที่นี่
“ทุกคน” เอเลียร์ด เริ่มพูดขึ้น “นี่คือ ลิงค์ อัจฉริยะแห่งคัมภีร์เวทมนตร์จากหอคอยนักเวทย์ของ เบล ทุกคนน่าจะเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเขาแล้ว ใช่มั้ย?”
“โอ้…!” ก่อนที่ เอเลียร์ด จะพูดจบ เสียงก็ดังก้องไปทั่วห้องโถง นักเวทย์ฝึกหัดต่างก็มองมาที่ ลิงค์ พวกเขาตรวจดู ลิงค์ ตั้งแต่หัวจรดเท้า พยายามจะดูว่าอัจฉริยะเป็นยังไง
นักเวทย์ฝึกหัดต่างก็ผิดหวังอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเพราะชีวิตความเป็นอยู่จะดีมากขึ้นในสถาบัน และ ลิงค์ ก็ได้เพิ่มน้ำหนักและส่วนสูงขึ้นเล็กน้อย แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยเสริมลักษณะภายนอกที่ดูธรรมดาและเรียบง่ายของเขาเลย
“ฉันคงจะไม่รู้จักเขาจาก อดัม” นักเวทย์ฝึกหัดคนนึงพูดด้วยเสียงที่ดูให้ความสำคัญน้อยลง
“เขามีออร่าที่อ่อนแอมาก” อีกคนพูด “พูดตรงๆเลยนะฉันไม่รู้ว่ามานาของเขาเพียงพอกับกระบวนการเตรียมคัมภีร์เวทมนตร์ทั้ง 15 แผ่นได้ยังไง”
“ฉันว่าข่าวลือนั้นพูดเกินจริง” หนึ่งในพวกเขาสรุป
“ไม่ พวกนายคิดผิดแล้ว! เอเลียร์ด เป็นอัจฉริยะที่แท้จริง ดังนั้นเพื่อนของเขาก็ต้องแข็งแกร่งมากเช่นกัน!”
นั่นคือ เอเลน่า เธอลบล้างคำพูดก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันก็ประจบ เอเลียร์ด โดยไม่ได้ไปก้าวก่าย ลิงค์
ด้วยเสียงโห่ที่ดังขึ้นหลังจากนั้น เอเลียร์ด ก็เริ่มรู้สึกหงุดหงิด เขาคิดว่าพวกนั้นทั้งหมดไม่มีไหวพริบและต้องการที่จะพูดเพื่อปกป้อง ลิงค์
“เอเลียร์ด ฉันมีเวลาไม่มากไปกันเถอะ” ลิงค์ พูดก่อนที่ เอเลียร์ด จะได้พูดอะไร เขาแอบออกมาจากหอคอยเวทมนตร์และมีเวลาเหลือเพียงแค่สองชั่วโมงที่เขาจำเป็นต้องกลับไป
“ได้ ตามฉันมาสิ” เอเลียร์ด เดินไปที่บันไดและ ลิงค์ ก็ตามเขาไปอย่างใกล้ชิด ไม่มีใครอยู่รอบๆแล้วเมื่อพวกเขามาถึงชั้นสอง
“เล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับ เอเลน่า หน่อยสิ พวกนายทั้งสองคนดูสนิทสนมกันมากเลยนะ นี่นายเจอคนรักของนายแล้วอะสิ หืม?” ลิงค์ เล่นมุก
“นายพูดเรื่องอะไรหน่ะ? ฉันไม่เคยคิดกับเธอแบบนั้นเลย” เอเลียร์ด ตอบ ด้วยรอยยิ้มที่บูดเบี้ยวบนใบหน้า “แต่เอเลน่าเป็นผู้หญิงที่ดีนะ เธอช่วยฉันเอาไว้เยอะ ดังนั้น ฉัน…โอเค..”
“โอเค ฉันเข้าใจ” ลิงค์ พูดพร้อมกับพยักหน้า ดูเหมือนว่า เอเลน่า จะเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่รู้ถึงจุดอ่อนของ เอเลียร์ด ความฉลาดของผู้หญิงไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่มันขึ้นอยู่กับว่าเธอใช้มันยังไง ลิงค์ ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่าง เอเลียร์ด กับ เอเลน่า ดังนั้นเขาจึงคิดว่าจะดีที่สุดที่จะอยู่ห่างๆและไม่ไปยุ่งระหว่างพวกเขา
ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงชั้นสามที่เป็นที่ตั้งของบ่อแห่งธาตุ
หน้าที่ของบ่อแห่งธาตุนั้นคือการควบคุมขนาดและจำกัดพลังของเวทมนตร์ เมื่อเวทย์ถูกร่ายในระยะของบ่อแห่งธาตุ แม้จะเป็นเวทย์ระดับสูงก็จะมีพลังเทียบเท่ากับเวทย์เลเวล 1
มันอนุญาตให้นักเวทย์สามารถทำการทดลองที่ใช้พลังงานมหาศาลโดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
ที่หอคอยนักเวทย์ของ เอร์เรร่า มีบ่อแห่งธาตุ 3 แห่ง บ่อหลักนั้นประกอบไปด้วยเวทย์เลเวล 5 และต่ำกว่า ขณะที่อีกสองแห่งนั้นประกอบไปด้วยเวทมนตร์เลเวล 3 และต่ำกว่า หนึ่งในบ่อธาตุขนาดเล็กเปิดให้นักเวทย์ฝึกหัดและกำหนดเวลาใช้ในแต่ละอาทิตย์เพื่อให้นักเวทย์ฝึกหัดสามารถใช้มันได้ฟรี เอเลียร์ด เป็นผู้ถือกุญแจเข้าสู่บ่อแห่งธาตุนี้
เอเลียร์ดมีเวลา 20 ชั่วโมงฟรีต่ออาทิตย์ในการใช้บ่อแห่งธาตุ เขาไม่เคยใช้เวลาของเขาหมด ดังนั้น ลิงค์ จึงยืมเวลาที่เหลืออยู่ของเขาในการทำการทดลองของเขาที่นี่
การทดลองที่ ลิงค์ มีในใจวันนี้นั้นเป็นแบบง่ายๆ เขาใช้บ่อแห่งธาตุเพียงเพื่อระมัดระวังเป็นพิเศษเท่านั้น ดังนั้นในท้ายที่สุดเขาก็ใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงที่นี่
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ลิงค์ ได้พัฒนาเวทย์ป้องกันที่ดัดแปลงใหม่จนเสร็จสมบูรณ์
เวทย์ใหม่นั้นแตกต่างจากบาเรียป้องกันอันเก่าอย่างมาก หลังจากร่ายเวทย์เสื้อผ้าของ ลิงค์ จะไม่ได้ถูกปกคลุมด้วยบาเรียคล้ายแก้วอีกแล้วแต่จะถูกปกคลุมด้วยแสงที่ดูคลุมเครือแทน แสงนั้นยืดออกห่างจากตัวประมาณ3ฟุต และบาเรียธาตุที่รวมตัวกันเป็นแสงจนสามารถเห็นได้จากระยะไกล มันลักษณะคล้ายกับลูกบอลฝ้ายสีขาวนุ่ม
ฉันจากเรียกมันว่า เอเดิลไวส์ ละกัน ลิงค์คิด
เอเดิลไวส์
เวทย์ป้องกันระดับสูงเลเวล3
มานาที่ใช้: 25แต้ม
ระยะเวลาร่ายเวทย์: 0.9 วินาที
ผล: มีผลป้องกันทั้งการโจมตีทางการภาพและเวทมนตร์
(หมายเหตุ:นี่คือดอกเอเดิลไวส์ของ ลิงค์)
เมื่อเขาทดลองเวทย์ใหม่เสร็จ การแจ้งเตือนที่คุ้นเคยก็เด้งขึ้นมา ประกอบไปด้วยข้อความสองอย่าง
ผู้เล่นลิงค์ได้สร้างเวทย์ระดับสูงสุดเลเวล 2 อันใหม่สำเร็จ รางวัล 10 โอมนิพ้อยท์
อีกอันนึงคือภารกิจอัพเกรด
ผู้เล่น ลิงค์ ได้เชี่ยวชาญเวทย์เลเวล 3 และได้เลื่อนขั้นเป็นเลเวล 3 รางวัล 40 โอมนิพ้อยท์
เวทย์อัพเกรดเลเวล 4 เปิดใช้งาน
รายละเอียดภารกิจ:เชี่ยวชาญเวทย์เลเวล 4 และกลายเป็นนักเวทย์เลเวล4
รางวัลตอบแทน: 70 โอมนิพ้อยท์
ตอนนี้ ลิงค์ มีแต้มโอมนิ 125 แต้มและมีเวลาเหลือไม่ถึง 20 วันก่อนที่ผลของโรคป่วยมานาของเขาจะหายไป
ในตอนนี้มานาสูงสุดของเขาน่าจะเป็น 1480 แต้ม ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเขาสามารถใช้เวทย์เลเวล 4 ระเบิดเพลิงได้อีกครั้ง แถมตอนนี้เขายังมีคริสตัลจักรวาลเลเวล 5 อีก ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะมีการก้าวกระโดดในพลังของเขาในเร็ว ๆ นี้!
ลิงค์ มองการณ์ไกลเป็นอย่างมาก
หลังจากออกจากบ่อแห่งธาตุ ลิงค์ ได้บอกลา เอเลียร์ด และมุ่งหน้ากลับหอคอยนักเวทย์ของ เบล ในทันที ในตอนที่เขาเปิดประตู วอร์วิค ได้รอเขาอยู่แล้ว
“ลิงค์ เดเร็คอยากเจอนายหน่ะ” วอร์วิค พูด
ได้โอกาสแล้ว! ช่วงเวลาที่ ลิงค์ รออยู่ได้มาถึงแล้ว