ห้องของ เดเร็ค อยู่ที่ชั้นสองของหอคอยเวทย์มนตร์ของ เบล ด้วยความที่เขาเป็นนักเวทย์อย่างเป็นทางการและยังเป็นคนจัดการในเรื่องการขายอุปกรณ์เวทย์มนตร์ระดับต่ำถึงกลาง, เขาจึงได้รับกาดูแลที่ดีกว่าคนอื่น
สิ่งแรกที่ดึงดูดความสนใจของ ลิงค์ ในตอนที่เขาเข้าไปในห้องก็คือพื้นที่รับประทานอาหารเล็กๆที่มีพื้นที่มากกว่า 40 ตารางเมตร ข้างๆพื้นที่ทำอาหารเป็นชั้นหนังสือ ลิงค์ มองเข้าไปใกล้ขึ้นและสังเกตุเห็นหนังสือเวทย์มนตร์สองสามเล่ม, ขณะที่ที่เหลือเป็นหนังสือทั่วไปพวกนวนิยายและบทประพันธ์, ซึ่งไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับนักเวทย์
จำนวนของหนังสือเวทย์มนตร์ที่นักเวทย์มีนั้นเป็นตัวกำหนดสถานะของเขา จากการได้มองมัน, เดเร็ค ทำได้ไม่ดีนัก นักเวทย์พวกนี้มักจะถูกครอบงำด้วยเงินเป็นพิเศษ เนื่องจากมันสามารถช่วยยกระดับสถานะของพวกเขาได้
ลิงค์ รู้ได้ด้วยการมองครั้งเดียวว่ามันคงจะง่ายที่จะหลอก เดเร็ค เขาอาจจะต้องการเวลาแค่ไม่กี่อาทิตย์ก็พอแล้ว
อีกฝั่งนึงของพื้นที่รับประทานอาหารนั้นคือชั้นอีกชั้นนึงซึ่งแสดงทรัพยากรและงานฝีมือที่เกี่ยวกับเวทย์มนตร์ ความสนใจของ ลิงค์ ถูกดึงดูดด้วยวัตถุไม้ทรงกลมขนาดประมาณกำปั้น มันมีจุดสีเขียวเข้มเล็กๆเต็มไปทั่ว
มันคือรากวิญญาณป่าเงียบสงบ!
ลิงค์ จำมันได้แทบจะทันที มันดูเหมือนกับคำอธิบายของไอเทมตอนที่อยู่ในเกมส์จริงๆ และด้วยความที่เป็นนักเวทย์ในตำนานมาก่อน, ลิงค์ จึงรู้เรื่องของไอเทมทุกอย่างภายในเกมส์เหมือนกับว่ามันเป็นหลังมือของเขา
วิญญาณป่าคือชนิดของสิ่งมีชีวิตเวทย์มนตร์ที่ครอบครองคุณสมบัติของทั้งพืชและสัตว์ รากของมันมีความสามารถในการดูดซึมสูงมาก แค่ฝังเข้าไปในดินและรดน้ำมัน ก็จะได้เห็นมันฟักแทบจะทันที
สิ่งมีชีวิตที่มีพลังชีวิตแข็งแกร่งเช่นนี้ แน่นอนว่ามันเก็บพลังเวทย์มนตร์เอาไว้เป็นจำนวนมาก, ทำให้มันเป็นทรัพยากรในการร่ายเวทย์ที่ดี
รากวิญญาณป่าเงียบสงบนั้นถูกพิจารณาว่าเป็นวัสดุในการร่ายเวทย์ระดับกลางและใช้กันอย่างแพร่หลายในเวทย์มนตร์หลายๆอย่าง ซึ่งเวทย์มนตร์พวกนี้ส่วนใหญ่มักจะเป็นเวทย์ที่เกี่ยวกับพืชในธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม, หนึ่งในพวกมันก็ตกเข้าไปในดินแดงแห่งความมืดแล้ว
มันคือเวทย์คืนชีพแล้วก็ตามชื่อของมัน, มันคือเวทย์ที่ทำให้ผู้ใช้ได้รับความเป็นอมตะ
อย่างไรก็ตาม, เวทย์แบบนี้ได้ก้าวล้ำขอบเขตของพระเจ้าไปแล้ว มนุษย์ผู้ใดก็ตามที่ปราถนาในความเป็นอมตะก็ถือได้ว่าตกเข้าสู่ด้านมืด, เนื่องจากมันเป็นไปไม่ได้ที่จะสำเร็จอย่างสมบูรณ์ มนุษย์อาจจะสามารถเป็นอมตะได้, แต่แน่นอนว่าต้องเสียสละอุปนิสัยที่สำคัญอื่นๆไป
เดเร็ค มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดหาทรัพยากรเวทย์มนตร์ให้กับ เบล รากวิญญาณป่าเงียบสงบนี้ต้องเป็นนักเวทย์เลเวล 4 หรือสูงกว่าเท่านั้นถึงจะใช้ได้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่า เดเร็ค ยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะใช้มัน, เพราะฉะนั้นมันต้องเป็นของ เบล แน่ๆ
ดูเหมือนว่า เบล จะตกสู่ด้านมืดแล้วสินะ
ลิงค์ ถอนหายใจออกมา เหตุผลที่ เบล ถูกเวทย์มนตร์แห่งความมืดครอบงำนั้นง่ายมาก เบล กลัวความตายและเขาก็อายุอย่างน้อย 60 ปีแล้ว วิธีเดียวที่จะยืดชีวิตของเขาอย่างไม่มีขีดจำกัดได้ก็คือเวทย์มนตร์แห่งความมืด
เดเร็ค คงไม่มีทางจินตนาการได้เลยว่าวัสดุในการร่ายเวทย์แบบง่ายๆที่วางอยู่บนชั้นของเขาจะปรากฏข้อมูลมากขนาดนั้น ในสายตาของเขา, ลิงค์ คือตัวทำเงิน เขาให้การต้อนรับ ลิงค์ อย่างอบอุ่นด้วยรอยยิ้มเชื้อเชิญ “เข้ามาสิ, นั่งก่อนแล้วก็นี่ไวน์แรงๆของฉัน”
จริงๆแล้ว เดเร็ค ไม่ได้เคารพ ลิงค์ เลย เขารู้สึกว่าที่ ลิงค์ สามารถเข้ามาในหอคอยเวทย์มนตร์นี้ได้ก็เพราะเส้นสายเท่านั้น ลึกลงไป, เขารู้สึกอิจฉาด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม, เพื่อบัญชีเหรียญทองของเขา, เดเร็ค สวมหน้ากากและปฏิบัติกับ ลิงค์ ดีเป็นพิเศษ
ลิงค์ นั่งลงและแสดงความประหม่าออกมาขณะที่เขาจิบไวน์ก่อนที่จะถามอย่างระมัดระวัง “พี่เรียกผมหรอครับ?” ท่าทางที่ดูเก้ๆกังๆของ ลิงค์ ทำให้ความหาญกล้าของ เดเร็ค เพิ่มขึ้น เขาเอาคำภีร์เกราะป้องกันระดับต่ำของ ลิงค์ ออกมาแล้วถาม “ฉันพูดถูกไหมที่นายเป็นคนเขียนสิ่งนี้?”
“ครับพี่” ลิงค์ พยักหน้า
“มันเขียนได้ดีมากๆเลยนะ”
เดเร็ค พูดจากก้นบึ้งของหัวใจ จากนั้นเขาก็พูดต่อ “อย่างไรก็ตาม, สำหรับงานที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้, นายกลับได้รับเงินแค่หนึ่งเหรียญเงิน นี่มันเหมือนกับของธรรมดา, หรือพอๆกับม้วนกระดาษคุณภาพคุณภาพต่ำ! ซึ่งฉันคิดว่ามันไม่ยุติธรรมเกินไป!”
ลิงค์ จงใจแสดงความเคลื่อนไหวในดวงตาของเขาแต่ก็ยังเงียบอยู่ เดเร็ค มีแรงจูงใจที่จะบอกเรื่องนี้กับเขาเป็นอย่างมากอย่างแน่นอน
เมื่อดูจากสีหน้าของ ลิงค์, เดเร็ค หัวเราะออกมาเบาๆแล้วถาม “นายอยากสร้างโชคลาภจากการเขียนคำภีร์ไหม?”
“โชคลาภอะไรหรอครับพี่?” ลิงค์ จงใจทำน้ำเสียงให้ฟังดูกระตือรือร้นและหิวกระหาย
เดเร็ค หัวเราะ ปฏิกริยาของ ลิงค์ เหมือนกับกระจกที่สะท้อนตัวเขาคนเก่า เขายกนิ้วขึ้นหนึ่งนิ้ว “ฉันจะให้นายหนึ่งเหรียญทองสำหรับคำภีร์เวทย์มนตร์ทุกแผ่น—ซึ่งก็คือสิบเท่าของเงินที่นายได้รับในตอนนี้! ถ้านายสามารถเขียนได้ 15 แผ่นต่อวัน, นายก็จะสามารถได้รับเงิน 15 เหรียญทองทุกวัน นี่นับว่าเป็นโชคลาภใช่ไหมหล่ะ?”
ดวงตาของ ลิงค์ สดใสขึ้นด้วยความสุขแล้วเขาก็พยักหน้าอย่างปลาบปลื้ม “แน่นอนครับ! แล้วผมต้องทำอะไรบ้าง?”
“นายไม่ต้องทำอะไรเพิ่มไปมากกว่านี้หรอก, แค่สร้างคำภีร์เวทย์มนตร์คุณภาพระดับพรีเมียมทุกๆวันก็พอแล้ว จาก 15 แผ่นที่นายสร้าง, นายเอามาให้ฉัน 7 แผ่นแล้วฉันจะแทนที่พวกมันด้วยคำภีร์ที่ฉันเขียน” เดเร็ค ยอมวางความภาคภูมิใจของเขาลงและเขียนคำภีร์เวทย์มนตร์เลเวล 0 เพื่อรายได้พิเศษนี้ นอกจากนี้, คำสั่งก็จะไม่ล่าช้าด้วย
“ผมคิดว่าได้อยู่ครับ…” ลิงค์ ใช้เวลาอยู่ครู่นึงก่อนที่จะตอบตกลง
เห็นได้ชัดว่า เดเร็ค ได้จดจ่อสายตาของเขาไปที่มูลค่าตลาดของคำภีร์ของเขา การร่วมมือนี้จะผูกเขากับ ลิงค์ ไว้ในสัญญาผลประโยชน์ร่วมกัน—นี่คือก้าวแรกในการสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดขึ้นและการเปิดตัวของเขาเพื่อสืบสวนนักเวทย์ เบล
รอยแตกแรกปรากฏขึ้นแล้ว ลิงค์ รู้ว่าวันที่จะเปิดเผยความลับของ เบล นั้นอยู่อีกไม่ใกล
“ถ้างั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ขอบคุณครับพี่”
ลิงค์ ทำท่าเก้ๆกังๆ
“จำเอาไว้นะ, คำภีร์ธรรมดาไม่จำเป็นต้องไปเขียนอย่างปราณีตหรอก เพราะพวกทหารรับจ้างคงไม่สามารถซาบซึ้งถึงมันได้ อย่างไรก็ตาม, ใส่ความพยายามสำหรับคำภีร์ที่นายจะส่งมาให้ฉันเยอะๆหล่ะ แล้วก็ดูแลสุขภาพด้วยอย่าทำงานหนักเกินไป” เดเร็ค เตือนอย่างอ่อนโยน
“ครับพี่, ผมจะจำเอาไว้ให้ขึ้นใจ” แล้ว ลิงค์ ก็ออกไปจากห้องของ เดเร็ค
เดเร็ค อดที่จะหัวเราะออกมาเบาๆไม่ได้หลังจากที่ ลิงค์ ปิดประตูห้อง “เด็กนั่นคือขุมทรัพย์ขนานแท้เลย!” ความก้าวหน้าของเขาที่จะเป็นนักเวทย์เลเวล 3 ตอนนี้ขึ้นอยู่กับ ลิงค์ ทั้งหมดแล้ว
มันคือค่ำคืนที่เงียบสงบ
…
วันต่อมา, เดเร็ค ได้ส่งม้วนกระดาษเวทย์มนตร์คุณภาพสูงและขวดหมึกทองคำราคาแพงไปที่ห้องของ ลิงค์, ลิงค์ เองก็เขียนคำภีร์เวทย์มนตร์ในห้องของเขาอย่างตั้งใจและจะหยุดในตอนสี่โมงเย็น
อันดับแรก ลิงค์ จะส่งคำภีร์ธรรมดาให้ วอร์วิค, ก่อนที่จะส่งคำภีร์คุณภาพสูงไปที่ห้องของ เดเร็ค
เดเร็ค กำลังรอเขาอยู่ ประตูเปิดแทบจะทันทีหลังจากที่เขาเคาะ เดเร็ค อยู่ข้างหลังประตูด้วยความร่าเริงและรอยยิ้มตามธรรมชาติบนใบหน้าของเขา
“นายมาแล้ว นี่คือคำภีร์ที่สำเร็จตามที่ฉันขอใช่ไหม?” เดเร็ค มองไปที่กองคำภีร์ที่ ลิงค์ กำลังถืออยู่
“ครับพี่” ลิงค์ ส่งกองคำภีร์ให้
“ขอฉันตรวจสอบพวกมันแปบนึงนะ” เดเร็ค ลังเลที่จะรับพวกมันและเริ่มตรวจสอบ
เขาเปิดคำภีร์แผ่นแรกอย่างระมัดระวังและเริ่มหวาดกลัวผลงานศิลปะที่แสดงอยู่เบื้องหน้าของเขา
บนกระดาษเวทย์มนตร์หนาๆมีแสงสีเขียวอ่อนตามธรรมชาติ, เส้นสีทองลึกลับและละเอียดอ่อนดูเหมือนจะโลดเต้นอย่างสง่างาม ออร่าเวทย์มนตร์ที่ดูกลมกลืนและสะอาดสะอ้านเองก็ไหลออกมาจากคำภีร์ ที่ด้านขอบ, ลิงค์ ได้เขียนขึ้นอย่างพิถีพิถันในรูปแบบที่แตกต่างกัน, แต่ก็งดงามเหมือนกัน พวกมันดูเป็นธรรมชาติและผสมผสานกันอย่างลงตัวกับเส้นที่อยู่ตรงกลาง คำภีร์ดูมีน้ำหนักและยอดเยี่ยมมาก
คำภีร์นี้แทบจะเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ
หลังจากที่สังเกตุอย่างระมัดระวัง, เดเร็ค ก็ตระหนักได้ว่ารูปแบบที่ซับซ้อนบนขอบกระดาษนั้นไม่ใช่แค่เพื่อตกแต่งอย่างเดียว, แต่ในความจริงแล้วมันคือเวทย์มนตร์เฉพาะ
มันคือเวทย์ความเสถียรขั้นพื้นฐานเลเวล 0
นี่คงจะปกป้องคำภีร์จากความเสียหายและผลของมันคงจะใช้ได้จนกว่าเวทย์มนตร์จะสลายตัว
ถ้าคำภีร์นี้ถูกซื้อเป็นของสะสม, เวทย์มนตร์นี้ก็คงจะสามารถยืดอายุการใช้งานของมันให้มากขึ้นและทำให้มันส่งต่อไปได้หลายชั่วอายุเพื่อเป็นมรดกของครอบครัว
“สมบูรณ์แบบ! สมบูรณ์แบบจริงๆ! ลิงค์ นายมันเป็นอัจฉริยะของแท้เลย!” เดเร็ค อดที่จะอุทานออกมาไม่ได้ ตอนแรกเขากลัวว่า ลิงค์ จะไม่สามารถทำตามมาตรฐานของเขาได้, แต่ตอนนี้เขารู้สึกสบายใจอย่างเต็มที่แล้ว คำภีร์พวกนี้สามารถขายได้ในราคาสูงอย่างแน่นอน
ลิงค์ ทำท่าเก้ๆกังๆแล้วพยักหน้า “ถ้างั้นผมขอตัวกลับห้องก่อนนะครับ”
“เดี๋ยวก่อน…เอานี่แปดเหรียญทอง—สำหรับค่าคำภีร์ของนาย รับไปสิ” เดเร็ค จ่ายเงินให้ ลิงค์ ล่วงหน้า เขามั่นใจแล้วว่าคำภีร์จะสามารถขายได้ในราคาสูง
ลิงค์ รับเหรียญทองมาแล้วออกจากห้องไปหลังจากที่โค้งให้ เดเร็ค อย่างสุภาพ
“ช่างเป็นเด็กที่ซื่อจริงๆ” เดเร็ค รู้สึกยินดีอย่างมากกับประสิทธิภาพของ ลิงค์
แต่เขาก็หารู้ไม่ว่า ลิงค์ แค่ปล่อยให้เขาใช้ความสะดวกสบายของเงินที่รวดเร็วเช่นนี้ แล้วในตอนที่เขาเคยชินกับการใช้ชีวิตที่ฟุ่มเฟือยด้วยคำภีร์เวทย์มนตร์ที่จัดเตรียมให้เขา, เขาก็จะยิ่งพึ่งพา ลิงค์ มากขึ้น ตอนนี้, เขาก็เหมือนกับกบที่อยู่ในม่อน้ำอุ่นที่ถูกต้มอย่างช้าๆ