10 วันผ่านไปราวกับลมพัด และตอนนี้ ลิงค์ ได้ผลิตคัมภีร์เวทมนตร์เกราะระดับต่ำ 150 แผ่นแล้ว ซึ่งมากกว่าครึ่งนั้นใช้ชื่อของ เดเร็ค คำสั่งของทหารที่สั่งคัมภีร์ 800 แผ่นนั้นเสร็จสิ้นได้ทันตามกำหนดเช่นกัน วอร์วิค คงหายใจได้สะดวกแล้วในตอนนี้ และเขาก็รู้สึกขอบคุณ ลิงค์ อย่างลึกซึ้ง
วอร์วิค ได้พัฒนาขึ้นจากประสบการณ์นี้เช่นกัน หลังจาก 20 วันของการทำงานหนักที่ฝืนขีดจำกัดของตัวเองด้วยการผลิตคัมภีร์จำนวนมาก เขาก็ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองและได้กลายเป็นนักเวทย์เลเวล 1 เต็มตัว
เขามี 2 ทางเลือกหลังจากที่ได้เป็นนักเวทย์เต็มตัว หนึ่งคือการกลายเป็นนักเวทย์อิสระที่จะออกไปข้างนอกและทำการต่อสู้ ขณะที่ทางเลือกที่สองคืออยู่ที่หอคอยนักเวทย์ต่อ วอร์วิคเลือกข้อแรกดังนั้น จึงมีตำแหน่งว่างในตำแหน่งผู้ดูแลการผลิตคัมภีร์เวทมนตร์
นักเวทย์ฝึกหัดจำนวนมากต่างก็แข่งขันกันเพื่อตำแหน่งนั้นที่มาพร้อมกับอภิสิทธ์และผลประโยชน์มากมาย เพราะว่า เดเร็ค มีอำนาจที่สามารถแต่งตั้งใครก็ได้ให้อยู่ในตำแหน่งนั้น กองทัพของนักเวทย์ฝึกหัดจึงมารออยู่แทบเท้าของ เดเร็ค พร้อมที่จะทำทุกอย่างให้กับเขา นักเวทย์ฝึกหัดหญิงบางคนถึงกับยอมพลีกายและกลายเป็นคนรักของ เดเร็ค นี่คือช่วงเวลาที่ เดเร็ค รู้สึกว่าเขาได้อยู่ที่จุดสูงสุดของโลก ถูกมอมเมาด้วยอำนาจของพลัง
ยังไงก็ตาม ในวันที่สิบสอง ลิงค์ ก็ได้มาที่ห้องของ เดเร็ค และยื่นคัมภีร์เวทมนตร์อันปราณีต 15 แผ่นให้กับเขา
“พี่เดเร็ค ผมอยากเป็นหัวหน้าของฝ่ายผลิตคัมภีร์เวทมนตร์” เขากระซิบ
“อะไรนะ?” เดเร็ค ตกใจ นี่เป็นครั้งแรกที่ ลิงค์ ขอข้อเรียกร้องพิเศษ สัญชาติญาณของเขาได้บอกให้ปฏิเสธเพราะว่าเขาได้สัญญาที่จะจองตำแหน่งนี้ให้กับนักเวทย์ฝึกหัดที่ชื่อว่า เอเวอลิน ไปแล้ว ด้วยเหตุผลง่ายๆ เพราะผู้หญิงแสนสวยคนนี้ให้สัญญาว่าจะเป็นคนรักของเขาและเธอจะให้เขาในทุกๆสิ่งที่เขาต้องการ ไม่ว่าเขาจะต้องการอะไรก็ตาม
แรงกระตุ้นที่จะปฏิเสธของเขาต้องชะงักลงเมื่อเขานึกขึ้นได้ว่าคัมภีร์ของ ลิงค์ นั้นนำโชคลาภมาให้เขามากเพียงใด ในทุกๆวัน เขานำคัมภีร์เวทมนตร์ของ ลิงค์ ไปที่เมืองสปริงและขายมันในราคาแผ่นละ 10 เหรียญทอง ไม่เพียงแค่มันจะขายหมดในทุกๆวันเท่านั้น แต่ยังมีผู้คนพากันมาหาเขาเพื่อซื้อคัมภีร์อันมหัศจรย์นี้ด้วย คัมภีร์เวทมนตร์ของ ลิงค์ นั้นเป็นที่นิยมมากกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้ ยิ่งไปกว่านั้น เมืองหลวงก็เต็มไปด้วยคนร่ำรวย
ในช่วง 10 วันที่ผ่านมานี้ ลิงค์ ได้ทำเงินให้เขาถึง 1000 เหรียญทอง ซึ่งนั่นเป็นจำนวนที่เขาไม่เคยแม้แต่จะฝันถึงมาก่อนในอดีต
เวลาหนึ่งชั่วโมงในบ่อแห่งธาตุของอาจารย์นั้นมีค่าใช้จ่าย 100 เหรียญทอง แต่ว่านั่นไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปเพราะตอนนี้เขามีเงินแล้ว ด้วยคัมภีร์เวทมนตร์ของ ลิงค์ เขามีรายได้วันละเกือบ 100 เหรียญทอง ดังนั้นเขาจึงสามารถใช้เวลาครึ่งขั่วโมงในบ่อแห่งธาตุได้ในทุกๆวัน และด้วยเหตุนั้น เขาจึงพัฒนาได้อย่างรวดเร็วและเชี่ยวชาญเวทย์เลเวล 2 บอลเพลิงยักษ์แล้ว ดังนั้นตอนนี้เขาจึงเป็นนักเวทย์เลเวล 3
ในสายตาของนักเวทย์นั้น ไม่มีอะไรสำคัญไปมากกว่าความสามารถทางเวทมนตร์ ด้วยความที่เป็นนักเวทย์เลเวล 3 เพื่อนร่วมงานของเขาจึงเริ่มที่จะปฏิบัติกับเขาด้วยความเคารพมากขึ้น ซึ่งสิ่งนี้มันให้ความพึงพอใจกับ เดเร็ค มากกว่าผู้หญิงคนใดมาให้ความสุขทางอารมณ์แก่เขาเสียอีก
“ไม่ต้องกังวลไป” เดเร็ค พูด” ฉันตัดสินใจว่าจะแต่งตั้งนายให้เป็นผู้ดูแลการผลิตคัมภีร์เวทมนตร์เอาไว้อยู่แล้ว ฉันจะประกาศมันให้คนอื่นๆรู้ในวันพรุ่งนี้”
“ขอบคุณมากครับ พี่ เดเร็ค” ลิงค์ พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเคารพ จากนั้นเขาก็นำคัมภีร์อื่นออกมาอีก
“เมื่อเร็วๆนี้ผมได้เชี่ยวชาญเวทย์แสงเลเวล 0 และได้ดัดแปลงโครงสร้างของมันเล็กน้อยเพื่อปรับความสวยงามของมัน ด้วยวิธีนี้ผู้คนจะสามารถใช้เวทย์นี้เพื่อเป็นเครื่องประดับได้ ผมมั่นใจว่าคัมภีร์เวทมนตร์ของเวทย์นี้จะต้องขายได้ดีกว่าคัมภีร์เวทย์เกราะระดับต่ำแน่ๆ”
แม้ว่า เดเร็ค จะไม่ได้แสดงอาการรำคาญต่อคำขอของ ลิงค์ จนถึงตอนนี้ แต่เขาก็ยังต้องการที่จะทำให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดความรู้สึกลำบากใจระหว่างทั้งสอง คัมภีร์เวทมนตร์นั้นเป็นของขวัญที่เตรียมมาให้ เดเร็ค เพื่อให้การเจรจาง่ายขึ้น แต่ทำไมเขาถึงไม่ให้มันตั้งแต่ก่อนที่เขาจะทำการยื่นคำขอหล่ะ?
เพราะ ลิงค์ ต้องการจะส่งข้อความให้เขา เขาจะเสนอคัมภีร์เวทมนตร์ใหม่ก็ต่อเมื่อ เดเร็ค ตกลงที่จะแต่งตั้งเขาในตำแหน่งที่เขาต้องการ ซึ่งเป็นการบอกโดยนัยว่า ลิงค์ จะตอบแทนเขาสำหรับทุกๆคำขอที่เขาตอบรับ ยิ่ง เดเร็ค ตอบสนองให้เขาได้มากเท่าไหร่ เขาก็จะยิ่งได้ของขวัญมากขึ้นเท่านั้น
เดเร็ค เข้าใจถึงข้อความที่ ลิงค์ พยายามส่งและนั่นทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด ถึงแม้ว่าเขาจะตั้งใจที่จะไม่แสดงมันออกว่า ลิงค์ อยู่เหนือกว่าเขาในสถานการณ์ในตอนนี้ก็ตาม เดเร็ค ระงับความโกรธและเริ่มกางคัมภีร์เวทมนตร์อันใหม่ของ ลิงค์ ออก
เดเร็ค ตกใจในทันทีที่เปิดคัมภีร์ออก สิ่งที่เขาเห็นไม่ใช่แค่ลวดลายเส้นของคัมภีร์เวทมนตร์เท่านั้น แต่มันคือม้า-ม้าได้ถูกวาดด้วยลายเส้นนับไม่ถ้วนของมานาและมันก็ดูเหมือนจริงมากจนเหมือนกับมันจะกระโจนออกมาจากคัมภีร์ได้ตลอดเวลา และสิ่งที่โดดเด่นกว่านั้นก็คือตัวของม้าที่เรืองแสงและการผสมผสานของแสงและเงาที่ทำให้มันดูเป็นสามมิติ นัยต์ตาของม้าดูเหมือนจะเรืองแสงด้วย มันดูเหมือนกับม้าที่มีชีวิตอยู่จริงๆเลย
“มันคืออะไรเนี่ย?” เดเร็ค ถามแบบงงๆ
“มันคือม้าครับ” ลิงค์ พูด “แต่มันก็ยังเป็นโครงสร้างของเวทย์แสงอีกด้วย ผมได้ดัดแปลงมันเล็กน้อยเพื่อให้แสดงถึงความสวยงามและความสมจริงของแสงและเงา แถมผมยังใช้เวทย์รักษาเวทมนตร์ใส่มันด้วย ดังนั้นมันน่าจะอยู่ได้อย่างน้อย 50 ปีโดยที่แสงไม่ดับครับ”
ตามที่ ลิงค์ ได้อธิบาย เดเร็ค สามารถเห็นโครงสร้างของเวทย์แสงในตัวม้าในได้ในที่สุด แต่ว่ามันดูแตกต่างจากรูปแบบเดิมของมันมาก ลิงค์ ได้สร้างนวัตกรรมบางอย่างที่ไม่มีใครสามารถลอกเลียนแบบได้!
เดเร็ค สามารถคาดเดาได้ว่าคัมภีร์เวทมนตร์นี้จะได้รับการตอบรับที่ดีแค่ไหนในเมืองสปริง ฉันจะไม่ปล่อยให้คัมภีร์เวทมนตร์พวกนี้หลุดออกไปจากมือฉันแน่ ถ้าไม่ได้รับเงินแผ่นละ 20 เหรียญทอง! เดเร็ค คิดด้วยความมุ่งมั่นที่อัดแน่น
เห็นได้ชัดว่า เดเร็ค ขาดทักษะในการเป็นผู้ประกอบการจากความคิดนี้ ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าที่เก่งๆคนไหนก็สามารถรู้ได้ว่าคัมภีร์พวกนี้สามารถทำเงินได้อย่างน้อยแผ่นละ 100 เหรียญทองเป็นอย่างต่ำ!
แน่นอนว่า ลิงค์ จะไม่เปิดเผยความจริงต่อ เดเร็ค แม้ว่าเขาจะได้ยินความคิดของ เดเร็ค ก็ตาม ยังไงซะการผลิตคัมภีร์เวทมนตร์กับเขาก็เป็นแค่ทางผ่านเพื่อให้ใกล้ชิดกับ เบล เพียงเท่านั้น แม้ว่าเขาต้องการที่จะเริ่มทำมันอย่างจริงจังเพื่อหาเงิน แต่เขาก็คงจะทำมันทีหลังและจะไม่เชื่อใจคนโง่ๆอย่าง เดเร็ค ในการที่จะให้จัดการเรื่องต่างๆให้กับเขาอย่างแน่นอน
“ฉันจะจ่ายให้นาย 3 เหรียญทองต่อหนึ่งแผ่นสำหรับคัมภีร์นี้” เดเร็ค พูด พร้อมกับชี้ไปที่คัมภีร์ที่อยู่ตรงหน้าเขา ความโกรธเคืองของเขาที่มีต่อ ลิงค์ เมื่อก่อนหน้านี้ได้หายไปจนหมดแล้วเมื่อเขาได้เห็นคัมภีร์พวกนี้
“ขอบคุณครับ พี่ เดเร็ค!” ลิงค์ ตอบ โดยที่ไม่ลืมที่จะทำท่าทางดีใจ
เมื่อ ลิงค์ ออกจากห้อง เดเร็ค ก็จมอยู่กับความคิดของตนเอง เขารู้สึกตัวแล้วว่า ลิงค์ ไม่ใช่นักเวทย์ฝึกหัดธรรมดา และเขาก็มีความรู้สึกว่าเหมือนเขากำลังตกลงไปในกับดักของ ลิงค์ แต่ปัญหาคือ เขารู้สึกว่ากับดักนี้มันช่างล่อลวงเขาไม่ให้หลบหนีซะเหลือเกิน เพราะว่ามันเต็มไปด้วยเหรียญทอง ความรู้สึกยินดีที่เขามีเหรียญทองกองเท่าภูเขาที่เขาสามารถใช้ได้มากมายตามที่เขาต้องการนั้นคือสิ่งที่เขาไม่สามารถสลัดมันทิ้งได้ แม้ว่านั่นจะหมายความว่าเขาต้องตกไปอยู่ในกับดักของใครก็ตาม
“เจ้าเด็กบ้านั่น มันเล่นงานฉันซะอยู่มัดเลย!” เดเร็ค สาปแช่ง เขาลุกขึ้นและออกจากห้องเพื่อไปหา เอเวอลีน เขาต้องไปเอาใจคนรักใหม่ของเขาหน่อย
แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเติมเต็มคำสัญญาที่เขาให้แก่เธอได้ แต่เขารู้ว่าเหตุผลเดียวที่เธอต้องการตำแหน่งนี้ก็เพราะว่าเธอถูกดึงดูดโดยอภิสิทธ์มากมายที่มาด้วยกันกับมัน และตอนนี้เขาก็มีเหรียญทองมากมาย เขามั่นใจว่าเธอคงจะโกรธเขาแค่ไม่นาน
ไม่มีอะไรที่ฉันให้ไม่ได้เพื่อที่จะได้ร่างกายอันสวยงามนั่นมาเป็นของฉันแค่คนเดียว เดเร็คคิด ตอนนี้เขาเต็มไปด้วยความคิดที่หื่นกาม เขากระตือรือร้นที่จะได้พบกับคนรักของเขาโดยที่เขาไม่ได้สังเกตุเห็นเลยว่า ลิงค์ ได้เฝ้าดูการเคลื่อนไหวทุกฝีก้าวของเขาจากมุมๆหนึ่งอยู่
นี่เขายอมแพ้ต่อชะตากรรมของเขาแล้วงั้นเหรอ? ลิงค์ สามารถอ่านความคิดของ เดเร็ค ได้อย่างง่ายดายด้วยการมองการกระทำของเขา
เดเร็ค เป็นเหมือนกับกบที่ ลิงค์ เอาไปขังไว้ในหม้อที่ใส่น้ำเย็น แล้วค่อยๆเพิ่มอุณหภูมิขึ้นอย่างช้าๆโดยที่ไม่สามารถรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงได้จนมันสายเกินไป พูดตามตรงก็คือ ตอนนี้ เดเร็ค เป็นกบที่ถูกต้ม-ไม่ใช่อุปสรรคของลิงค์อีกต่อไปแล้ว
ลิงค์ กลับไปที่ห้องเล็กๆของเขา เขาไม่ได้เตรียมที่จะสร้างคัมภีร์หรืออ่านหนังสือ แต่เขากลับเริ่มเขียนวิทยานิพนธ์แทน
ทฤษฎีในวิทยานิพนธ์ของ ลิงค์ เป็นพื้นฐานของการดัดแปลงเวทย์ เอเดลไวซ์ ซึ่งเขาคิดว่าเป็นความสำเร็จอย่างมาก สิ่งนี้ทำให้ ลิงค์ ตระหนักถึงความเป็นไปได้อันยิ่งใหญ่ของวิทยานิพนธ์ที่ยังไม่เสร็จของเขา ดังนั้นเขาจึงมีแรงจูงใจในการทำงานมากขึ้นในตอนนี้
วันนี้ค่อนข้างเป็นวันที่ดี เขามีแรงบัลดาลมากมายในการเขียนสมมุติฐานใหม่ เขาทำงานอย่างหนักเป็นเวลา 1 ชั่วโมงเต็มก่อนที่เขาจะรู้สึกเหนื่อยและไม่สามารถตั้งสมาธิได้ ลิงค์ เห็นว่าเขาไม่ควรฝืนตัวเองเขาจึงวางปากกาขนนกลงและหยิบหนังสือขึ้นมาแทน
เวทย์เลเวล 3 ยังไม่ทรงพลังพอสำหรับเขา ลิงค์ คาดว่าวันที่ผลของโรคมานาของเขาหมดเขาจะมีมานาทั้งหมด1480แต้ม ซึ่งเพียงพอที่จะร่ายเวทย์เลเวล 5
ยังไงก็ตามคุณภาพของเวทย์ที่ซื้อมาจากระบบของเกมนั้นต่ำเกินไป ไม่เพียงแค่พลังของมันจะน่าผิดหวังเท่านั้น แต่ความเร็วในการร่ายก็ช้าด้วย ซึ่งทำให้มันไร้ประโยชน์ในการต่อสู้อย่างสมบูรณ์ เว้นแต่ว่ามันจะสำคัญจริงๆ ลิงค์ ก็จะไม่ยอมเสียค่าโอมนิในการซื้อเวทย์จากระบบของเกมอีก นับจากนี้เขาจะเรียนเวทย์มนตร์และเชี่ยวชาญมันด้วยความพยายามของเขาเอง
การเรียนรู้เวทมนตร์นั้นเป็นงานที่ซับซ้อน เนื่องจากทฤษฎีมีความสลับซับซ้อนและเข้าใจยาก ลิงค์ จึงต้องก้าวข้ามผ่านความจริงแต่ละจุดอย่างช้าๆ อย่างไรก็ตามความคืบหน้าของเขานั้นถึงจะช้าแต่มันก็มั่นคง
เวลาผ่านไปและตอนนี้ก็ถึงตอนกลางคืนแล้ว แต่ในพื้นที่เล็ก ๆ ใต้บันไดที่คับแคบในหอคอยเวทย์มนตร์ของ เบล ก็ยังมีนักเวทย์หนุ่มที่ยังคงทำงานหนัก
ขณะนี้ เดเร็ค ยังคงยุ่งอยู่กับการหยอกล้อคนรักใหม่ของเขา นักเวทย์อัจฉริยะ เอเลียร์ด นอนไปแล้วหลังจากผ่าน 1 วันอันยาวนาน และนางฟ้า เอร์เรร่า ก็อยู่ในหอคอยของเธอ เพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาที่เงียบสงบพร้อมกับจิบไวน์มังกรหวานที่นำเข้ามาจากทางใต้
ในเมืองแห่งสรวงสวรรค์ของความสุขที่ชื่อว่า มอลเลนดัน ที่อยู่ในสมาคมการค้าเสรีทางภาคใต้ เด็กผู้หญิงผมดำได้มองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ในทะเลของดวงดาวที่เปล่งประกาย และมีดาวตกพุ่งผ่านท้องฟ้า
“ตอนนี้เธอจะเป็นยังไงบ้างนะ ลิงค์?” เจ้าหญิงปีศาจแสนสวยพึมพำอยู่ท่ามกลางอากาศอันหนาวเหน็บ มีลมพัดผ่านตัวเธอไปและเธอก็ดึงฮู้ดขึ้นเพื่อปกปิดใบหน้าของเธอและหนีเข้าไปในความมืดอย่างรวดเร็ว ที่ด้านหลังของเธอคือผู้ไล่ล่าที่กำลังพยายามตามล่าเธอ