Advent of the Archmage
Chapter 484: หิมะละลาย
ชายคนนึงหอบเสียงดังจนสามารถได้ยินได้
ชายที่ลิงค์พามานั้นมีสีหน้าไร้อารมณ์ เขาดิ้นไปมาในตอนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ แม้ว่าเขาจะอยู่ท่ามกลางศพของพวกนักบวชที่ตายแล้วและมีเลือดนองเต็มพื้น เขาก็ดูเหมือนจะไม่ได้สนใจมันเลย
เขาจ้องมองจุดๆนึงอย่างเหม่อลอยราวกับว่าโลกรอบตัวไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเขาเลย
นักบวชทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างก็ตกตะลึงกับสภาพของเขา
“เขาใกล้จะเสียสติแล้ว พวกเราจะต้องรีบรักษาโดยด่วน” ลิงค์พูดกับหัวหน้าบาทหลวง ด้วยพลังมังกร ลิงค์ได้ยกหินขึ้นมาจากพื้นจนมันสูงถึงเท้าและก่อตัวเป็นรูปทรงกระบอก
จากนั้นลิงค์ที่ติดตั้งคริสตัลโปร่งแสงสีขาวที่ใหญ่เกือบเท่ากับหัวคนเอาไว้ที่แท่น
คริสตัลนี้มีทั้งหมด 12 หน้า และที่พื้นผิวของมันก็มีสภาพโปร่งแสง มันหนาเกือบ 1 นิ้ว และภายในคริสตัล รูนได้หมุนไปมาเหมือนกับหมอกสีขาว คนที่พยายามจะทำความเข้าใจรูปแบบการหมุนของมันนั้นสามารถเสียสติได้เลยทีเดียว
นี่คือคริสตัลรวบรวมพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ลิงค์ใช้เวลาทั้งคืนในการสร้างมันขึ้นมา
หัวหน้าบาทหลวงวางมือลงที่ด้านซ้ายของคริสตัล พร้อมกับลิงค์ที่อยู่ด้านขวา ทั้งสองมองหน้ากัน จากนั้นพวกเขาก็ปล่อยพลังเข้าไปในคริสตัล
ในตอนที่พลังของทั้งคู่เข้าไปในคริสตัล แสงสีขาวขุ่นก็เกิดขึ้นที่ฝั่งนึงในขณะที่อีกฝั่งเป็นสีแดง รูนที่อยู่ภายในนั้นหมุนด้วยความเร็วที่สูงกว่าเดิม สีของมันก็เปลี่ยนไปด้วย หลังจากที่พลังของทั้งคู่ถูกใส่เข้าไป คริสตัลก็ได้กลายเป็นสีขาวขุ่น
เสี้ยววินาทีต่อมา ก็มีเสียงดังขึ้นเบาๆ และแสงสีแดงอ่อนก็เปล่งออกมาจากคริสตัล
ลิงค์ได้ใช้เวทย์บิดเบือนมิติรอไว้ที่ด้านนอกคริสตัลแล้ว ในตอนที่ลำแสงไปโดนมิติบิดเบี้ยว มันจะสะท้อนไปที่ร่างของผู้ที่ติดเชื้อในทันที
ชายที่ติดเชื้อตัวสั่นอย่างรุนแรง ดวงตาที่ว่างเปล่าของเขาเบิกกว้าง ร่างกายของเขาสั่นอยู่นานถึง 20 วินาที ก่อนที่ตัวเขาจะร่วงไปกับพื้น เขานอนแน่นิ่งอยู่ตรงนั้น และไม่แสดงสัญญาณชีวิตออกมาเลย
หัวหน้าบาทหลวงกลืนน้ำลาย และพูดออกมาอย่างเป็นกังวล “เขาตายแล้ว”
การลบล้างเวทมนตร์ของพวกเขาล้มเหลว ตอนนี้ทั้งเมืองกำลังอยู่ในเงื้อมมือของโรคระบาด ถ้าเกิดว่าพวกเขาไม่หาอะไรมารับมือในเร็วๆนี้ ผู้ติดเชื้อก็จะวิ่งพล่านไปทั่วเมืองและอาจจะแพร่กระจายไปถึงเขตชายแดนของเมืองเลยก็ได้ หัวหน้าบาทหลวงไม่กล้าที่จะคิดไปถึงขั้นนั้นเลย
ด้วยความที่ไม่สะทกสะท้านกับเหตุการณ์นี้, ลิงค์คุกเข่าลงข้างๆ ศพพร้อมกับมือข้างนึงที่ถือเพลิงพิโรธแห่งสวรรค์เอาไว้ จากนั้นเขาก็เขียศพของชายติดเชื้อ, เพื่อตรวจดูความผิดปกติ
ครึ่งนาทีต่อมา, เขาก็ยืนขึ้น “ฉันรู้เหตุผลที่เวทย์ของเราไม่ได้ผลแล้ว”
โรคถูกชำระล้างออกไปจากร่างของชายคนนี้, แต่เขาไม่สามารถทนกับความวุ่นวายของการปะทะระหว่างพลังทั้งสองได้
ตอนนี้, เขารู้ว่าเขาแค่จำเป็นต้องเพิ่มเวทย์รักษาเข้าไปรอบๆเวทย์ชำระล้าง ซึ่งนี่จะช่วยฟื้นฟูความเสียหายจากการปะทะของพลังที่เกิดในร่างของผู้ติดเชื้อได้อย่างมาก
เขาเดินกลับไปที่คริสตัลรวมพลังและเริ่มทำการปรับแต่งเล็กน้อย
หัวหน้าบาทหลวงรออยู่ข้างๆอย่างอดทน, ในขณะที่นักบวชคนอื่นๆเริ่มแบกศพของพี่น้องนักบวชออกไป สามนาทีต่อมาก็มีความวุ่นวายเกิดขึ้นข้างนอกโบสถ์ มีเสียงร้องผิดมนุษย์มนาดังขึ้น, และท่ามกลางความโกลาหลนี้ ก็มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือ
เซลืนวิ่งออกไปจากประตูใหญ่ หลังจากนั้นสักพัก ก็มีเสียงปืนดังมาจากข้างนอก สิบวินาทีต่อมา, เซลีนก็กลับเข้ามาข้างใน, พร้อมกับสามัญชนจำนวนนึงที่เดินตามหลังเธอเข้ามาในสภาพตื่นตระหนก
“สถานการณ์เป็นยังไงบ้างครับ?” หัวหน้านักบวชถามเงียบๆ
“มีคนเริ่มแสดงอาการแล้วและตอนนี้ก็ไล่กัดคนอื่นไปทั่วเมืองเลย” เซลีนกระซิบ
หัวหน้านักบวชหน้าซีดเผือด, แล้วหันมาหาลิงค์ ลิงค์ยังคงปรับแต่งคริสตัลอยู่, ราวกับว่าเขาไม่ได้ยินบทสนทนาเมื่อสักครู่นี้ มือของเขาแผ่รัศมีสีแดงเข้มออกมา ซึ่งมันค่อยๆซึมเข้าไปในคริสตัลเหมือนกับหยดน้ำหมึกสีแดง
หากสังเกตุดูใกล้ๆจะเห็นว่าแสงสีแดงที่กระจายไปทั่วคริสตัลนั้นจริงๆแล้วเป็นเส้นบางๆเหมือนกับใยแมงมุม, ซึ่งแต่ละเส้นจะจัดการรูนในคริสตัลหนึ่งตัวด้วยการผ่าตัดที่แม่นยำ
ห้านาที่ผ่านไป, ลิงค์, ที่กำลังยุ่งอยู่กับคริสตัลก็ไม่ได้ขยับไปไหนเลยสักนิด, และจนในที่สุดเขาก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แสงสีแดงที่มือของเขาเลือนหายไป, และเขาก็ดูเหนื่อยมาก
ลิงค์ได้จัดการเรื่องเกี่ยวกับคริสตัล, และศึกษาเวทมนตร์ในการสร้างมันโดยไม่ได้พักเลยตั้งแต่ตอนที่เขาไปถึงแฮปเบิร์ก แม้ว่าสภาพร่างกายจะอยู่ในช่วงที่สุดที่สุด, แต่การรักษาสมาธิเป็นเวลาสิบนาที่เต็มนั้นก็ทำให้เกิดความตึงเครียดต่อสภาพจิตใจของเขาอย่างมาก
เซลีนคุ้นเคยกับสภาพร่างกายของลิงค์มากที่สุด พอเห็นใบหน้าที่เหนื่อยล้าของเขา, เธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง “นายอยากพักก่อนไหม?”
“ฉันไม่เป็นไร” ลิงค์ดึงสติกลับมา, จากนั้นก็พูดกับหัวหน้านักบวช “ตอนนี้น่าจะไม่มีปัญหาแล้วนะ”
เขากวาดตามองผู้คนที่เข้ามาในโบสถ์ สายตาของเขาเล็งไปที่ผู้หญิงวัยกลางคนคนนึงที่มีสีหน้าเหม่อลอย “เริ่มที่เธอคนนั้นเลย”
ณ จุดนี้, ลิงค์ไม่คิดจะขออนุญาติใครก็ตามที่จะถูกเขาใช้เป็นหนูทดลองแล้ว เขาไม่มีเวลามาโทษตัวเองสำหรับการฆ่ามนุษย์ทดลองเนื่องจากอุบัติเหตุในระหว่างการทดลอง ในตอนนี้, ลิงค์แค่ต้องการจัดการสิ่งที่จำเป็นในการปรับปรุงเวทมนตร์ของเขาจนมันมีผลรักษาโรคระบาดนี้ได้, ไม่ว่าเขาจะต้องล้มเหลวอีกกี่ครั้งก็ตาม
เนื่องจากพิจารณาว่าเป็นเหตุการณ์เร่งด่วน, หัวหน้านักบวชจึงไม่ได้คัดค้านกับเรื่องนี้ เขาเติมพลังศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในคริสตัลพร้อมกับพลังมังกรของลิงค์อีกครั้ง มีแสงสีแดงอ่อนเปล่งออกมาจากการรวมกันของพลังทั้งสองที่อยู่ในคริสตัล
ครั้งนี้, เส้นแสงดูเหมือนจะอ่อนลงกว่าตอนแรก และมองเห็นชั้นหมอกกระจายตัวอยู่รอบๆมันด้วย, ในขณะที่มันถูกยิงใส่หญิงวัยกลางคน
ร่างของหญิงคนนั้นเริ่มสั่นอย่างรุนแรงเป็นเวลาพักใหญ่ๆ
ในขณะที่เธอสั่น, นักบวชทุกคนที่อยู่ในโบสถ์ต่างก็จ้องมองใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น, โดยหวังว่าครั้งนี้เวทมนตร์จะได้ผล
หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งนาที, ผู้หญิงคนนั้นก็เริ่มสั่นช้าลงและในที่สุด, เธอก็หยุดสั่น ดวงตาไร้ชีวิตเมื่อก่อนหน้านี้ของเธอได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เธอมองดูรอบๆด้วยความสับสน “เกิดอะไรขึ้น? ข้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
การพูดของเธอฟังดูชัดเจน, และสีหน้าไร้ชีวิตเมื่อก่อนหน้านี้ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย, ตอนนี้แก้มของเธอกลับมามีสีเลือดฝาดซึ่งบ่งบอกถึงการมีชีวิตอยู่
มีชายวัยกลางคนอยู่ข้างๆเธอ, คาดว่าน่าจะเป็นสามีของเธอ, เขาตะโกนด้วยความดีใจ “มิเรีย, เจ้าหายแล้ว! นี่ช่างเป็นข่าวดีจริงๆ!”
จากนั้นเขาก็หันไปหาลิงค์กับหัวหน้าบาสถ์หลวง, และก้มคำนับกับพื้น เขาพูดพร้อมน้ำตาแห่งความปลื้มปิติ “โอ้เทพแห่งแสง, ข้าผู้ต่ำต้อยคนนี้ขอขอบคุณพวกท่านทั้งสองจากใจจริง!”
หัวหน้านักบวชกับนักบวชคนอื่นๆต่างก็พากันถอนหายใจด้วยความโล่งอก พวกเขาได้ยินมาว่าโรคระบาดจากทางเหนือนั้นไม่สา มารถรักษาได้, แม้ว่าจะเป็นเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ก็ตาม ในตอนที่พวกเขามาถึงที่นี่, สภาพเหมือนฝันร้ายก็ได้ทำให้พวกเขารู้สึกหนาวไปจนถึงสันหลัง, และพวกเขาก็กลัวว่าจะไม่มีอะไรที่พวกเขาสามารถทำได้ในจุดนี้
แต่ตอนนี้, ในที่สุดพวกเขาก็พบวิธีรักษาโรคระบาดนี้แล้ว!
หัวหน้านักบวชหันไปมองลิงค์แล้วพูดออกมา “มาสเตอร์ลิงค์,ขอบคุณสวรรค์จริงๆที่ท่านอยู่ที่นี่กับพวกเรา!”
ลิงค์เองก็รู้สึกดีใจกับเรื่องนี้ แต่เขารู้ว่านี่เป็นแค่การเริ่มต้น “เอาไว้คอยดีใจทีหลังนะ, ตอนนี้พวกเรายังไม่มีเวลามาฉลอง ยังมีผู้คนอีกมากที่ต้องการความช่วยเหลือ”
เขายื่นมือที่เปล่งแสงสีแดงเหมือนกับก่อนหน้านี้ออกมา, และปล่อยแสงเข้าไปในคริสตัลอีกครั้ง พอเห็นแบบนี้, หัวหน้านักบวชก็สานงานต่อ, และใส่พลังศักดิ์สิทธิ์ตามเข้าไปในคริสตัล
มีลำแสงประมาณสิบเส้นถูกยิงออกมาจากคริสตัลในเวลาเดียวกัน, และพุ่งไปใส่ผู้ลี้ภัยที่เหลืออยู่ในโบสถ์
ไม่เหมือนกับหญิงวัยกลางคน, อีกสิบคนที่เหลือนั้นเชื้อยังไม่ได้รุนแรง ในตอนที่ลำแสงอาบตัวพวกเขา, ร่างของพวกเขาก็สั่นเหมือนกัน แต่ไม่ได้รุนแรงเหมือนก่อนหน้านี้ มีเด็กหนุ่มคนนึงมีอาการช็อคไปสองสามวินาทีก่อนที่จะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
เขากระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ, แล้วพูดออกมา “ข้าไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้มาก่อนเลย!”
“นั่นสิ, ข้าเองก็เหมือนกัน ข้อต่อของข้าไม่ได้เจ็บเหมือนเมื่อก่อนแล้ว” ชายแก่คนนึงพูด นี่ต้องเป็นผลข้างเคียงของการที่ลิงค์ใส่การรักษาด้วยพลังมังกรลงไปอย่างแน่นอน
แม้ว่าจะไม่มีใครรู้จักหัวหน้านักบวชคนนี้, แต่พวกเขาก็เคยได้ยินข่าวลือของนักเวทย์ที่รู้จักกันในชื่อลิงค์
ตอนนี้รักษาโรคได้แล้ว, ทุกคนต่างก็พร้อมกันเข้ามาข้างหน้าเพื่อแสดงความขอบคุณที่รักษาพวกเขา
แต่ก็แน่นอนว่า, ลิงค์ไม่มีเวลาสำหรับเรื่องพวกนี้ เขาหันไปหาหัวหน้านักบวชกับนักบวชคนอื่นๆที่อยู่ข้างหลัง “ไปที่จตุรัสหน้าโบสถ์กันเถอะ ยังมีผู้ติดเชื้ออีกมากมายที่วิ่งพล่านอยู่ในเมือง พวกเราต้องร่ายเวทย์ชำระล้างวงกว้าง”
เวทย์ชำระร้างนี้ใช้กับสามัญชนทั่วไป ซึ่งปริมาณพิษที่อยู่ในร่างของมนุษย์ปกตินั้นต่ำมาก, เขาใช้พลังมังกรไม่ถึง 0.1 แต้มในการร่ายเวทย์นี้ให้ใครซักคน
นักบวชทุกคนมีเลเวลอยู่ประมาณ 6, พวกเขามีพลังศักดิ์สิทธิ์อย่างน้อย 10,000 แต้ม, ซึ่งมากพอที่จะเอาชนะนากานักบวชเลเวล 8 ที่เป็นคนแพร่โรคระบาด ในทางทฤษฎีนั้น, พวกเขาสามารถขจัดโรคระบาดได้อย่างสมบูรณ์ด้วยพลังในระดับนี้
แต่ก็แน่นอนว่า, พวกเขาจะถึงเส้นตายแล้ว เพราะผู้ติดเชื้อกระ จายไปทั่วเมืองแล้ว เพื่อเร่งกระบวนการให้เร็วขึ้น, พวกเขาจำเป็นต้องใช้เทคนิคเฉพาะ
ซึ่งมีแค่ลิงค์เท่านั้นที่รู้วิธีนี้
ในตอนที่ทุกคนมาถึงจตุรัสหน้าโบสถ์, ลิงค์ก็เริ่มสลักรูนเวทมนตร์ทั่วจตุรัส เขากำลังใช้เทคนิคผนึกเวทมนตร์ระดับสูง
พลังมังกรแผ่ออกมาจากตัวเขา, และเริ่มก่อตัวเป็นรูนในอากาศจากนั้นรูนก็ปะทะกับพื้นด้วยเสียงดังตูม, ทำให้ดินฟังขึ้นมา หลังจากนั้นไม่นาน, รูนเวทมนตร์ก็กระจายออกไปทั่วพื้นที่อย่างเห็นได้ชัด และมีแถบแสงส่งเสียงนิ่งๆ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ารูนได้ถูกชาร์จพลังเต็มแล้ว
สามนาทีต่อมา, ผนึกเวทมนตร์ที่มีรัศมีกว่าสิบฟุตก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง มันถูกเปิดใช้ในทันที่ที่ผนึกสำเร็จ ที่เหนือผนึก, มีภาพเงากึ่งโปร่งแสงที่มีรัศมีกว่าหนึ่งร้อยฟุตลอยอยู่กลางอากาศ
ลิงค์โยนคริสตัลรวมพลังไปที่ภาพเงานั้น แล้วคริสตัลก็ห้อยอยู่ในเงาโปร่งแสงราวกับว่ามันถูกแขวนด้วยเส้นใยที่มองไม่เห็น หลังจากนั้นในทันที, รูนก็วิ่งออกมาจากคริสตัลจนมันปกคลุมภาพเงาในอากาศอย่างสมบูรณ์
ตอนนี้ภาพเงากลายเป็นคริสตัลรวมพลังเวอร์ชันเพิ่มขนาด
จากนั้นลิงค์ก็ตะโกนบอก “นักบวชทุกคน, ใสพลังศักดิ์สิทธิ์เข้าไปได้เลย!”
ด้วยความตกตะลึงไปชั่วครู่, นักบวชก็เรียกสติกลับมาในทันทีและทำตามที่บอก ลิงค์ก้าวไปข้างหน้าและถ่ายพลังมังกรเข้าไปในภาพเงาเช่นกัน
ด้วยการผสมของพลังทั้งสอง, ภาพเงาก็สว่างขึ้นเรื่อยๆจนแสงจ้าเกือบมองไม่เห็น, ราวกับดวงอาทิตย์ได้ตกลงมาที่โลก
นักบวชทุกคนต่างก็ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ไปจนเกือบหมด, มีบางคนล้มลงไปกองกับพื้นเนื่องจากความเหนื่อยล้า แม้กระทั่งหัวหน้านักบวชเองก็ไม่สามารถทนกับความตึงเครียดได้ เขาเดินโซเซจนเกือบจะล้ม, แต่ก็ถูกผู้คนในเมืองแกลดสโตนที่ได้รับการรักษาจากเขาช่วยพยุงเอาไว้
ในตอนนี้ ลิงค์มีพลังมังกรเหลืออยู่แค่ 3,000 แต้ม
“ตอนนี้แหละ!”
ลิงค์ทำให้ลูกบอลแสงลอยขึ้นไปในอากาศ เขาลอยตามไปด้วยและพอเขากับลูกบอลขึ้นมาถึงความสูง 2,000 ฟุตเขาก็หยุดลง
ในตอนนี้, ไม่มีใครเห็นลิงค์อยู่บนฟ้าเลย, เพราะเขาถูกแสงอันเจิดจ้าจากลูกบอลปกคลุมอยู่
บอลแสงนี้มีพลังศักดิ์สิทธิ์จำนวนมหาศาลไหลเวียนอยู่, และทุกคนในเมืองแกลดสโตนก็แหงนหน้าขึ้นฟ้า บนถนนหลักห่างออกไป 80 ไมล์, ดยุคอาเบล, คาทูช่า, กับโมลิน่าเอง, ก็สัมผัสได้ถึงรัศมีพลังจากลูกบอลนี้
“พลังอะไรกันเนี่ย!”
พวกเขามองหน้ากันด้วยความหวั่นเกรงและความตกใจ
กลับไปที่เมืองแกลดสโตน, บอลแสงลอยอยู่กลางอากาศเป็นเวลาไม่กี่วินาที, จากนั้นมันก็ระเบิดตูมเหมือนกับดอกไม้ไฟ
ลำแสงสีแดงจำนวนนับไม่ถ้วนได้ตกลงมาจากท้องฟ้าเหมือนกับฝนดาวตก และฝนแสงนี้เองก็ร่วงลงมาทั่วเมืองแกลดสโตนเหมือนกับพรจากเทพแห่งแสง
บนพื้นดิน, หัวหน้านักบวชกับนักบวชของเขา, รวมทั้งผู้คนที่ถูกรักษาที่โบสถ์, ต่างก็คุกเข่าลงกับพื้น, และเอามือสองข้างผสานกันเป็นการสวดภาวนา
“เทพแห่งแสงผู้ยิ่งใหญ่, ข้าขอขอบคุณแสงของพระองค์ที่ประทานมาให้พวกเรา องค์เทพแห่งแสงผู้มีความเอื้ออารีอย่างถึงที่สุด,ข้าขอขอบคุณที่ท่านประทานเด็กแห่งแสงมาให้พวกเรา
ก่อนหน้านี้, ข่าวลือที่ว่าลิงค์เป็นผู้ถูกเลือกของเทพแห่งแสงนั้นไม่เคยมีใครเชื่ออย่างจริงจังเลย, แต่ตอนนี้, ทุกคนที่จตุรัสหน้าโบสถ์เชื่ออย่างสุดใจว่าลิงค์, ที่สร้างปาฏิหารนี้ให้พวกเขา, คือตัวแทนของเทพแห่งแสงในร่างมนุษย์
แสงสีแดงสลัวได้อาบไปทั่วเมือง, และทันใดนั้นเอง, เหมือนกับหิมะบริสุทธิ์ภายใต้ดวงอาทิตย์, โรคระบาดได้ละลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย
หัวหน้านักบวชรู้สึกถึงมันได้ เขากระซิบ “หิมาถูกละลายแล้ว”
ห่างออกไปหนึ่งร้อยฟุต, ดยุคอาเบลกับคนอื่นๆเองก็รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันนี้ นากานักบวช, โมลิน่าเป็นคนที่รู้สึกได้ชัดเจนที่สุด เธอหยุดเดินแล้วถอนหายใจออกมา “ไม่อยากเชื่อเลยว่ามันสามารถกำจัดโรคระบาดได้จริงๆ”
“เจ้าหมายความว่ายังไง?” คาทูช่าตกใจ
ดยุคอาเบลก็หันไปมองเธอ, รอฟังคำอธิบายจากเธอ
พวกเขาทั้งคู่ได้ยินคำพูดโมลิน่าอย่างชัดเจน, แต่คำพูดของเธอนั้นฟังดูไม่น่าเชื่อเลยสักนิด
มีผู้คนในเมืองแกลดสโตนกว่า 10,000 คน และผู้ติดเชื่อส่วนใหญ่ก็กระจายไปทั่วเมือง การทำให้พวกเขาติดเชื้อนั้นเป็นงานง่ายๆ ทั้งหมดที่ต้องทำก็มีแค่การปล่อยพิษเข้าไปในน้ำประปาของเมือง
ในอีกด้านนึง, การกำจัดเวทย์ทำลายเช่นนี้ถือว่าเป็นปัญหาที่ยาก
ผู้ร่ายจำเป็นต้องแยกพลังแห่งความมืดและพลังแห่งการทำลายออกมาจากร่างของผู้ติดเชื้อ, และปกป้องร่างจากความเสียหายที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน
การรักษาคนๆเดียวนั้นเป็นไปได้, แต่การรักษาคนหนึ่งหมื่นคนในเวลาเดียวกันมันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่ออย่างมาก
ความสำเร็จเช่นนี้ไม่ต่างอะไรกับการคลายกองเชือกที่พันกันอย่างมั่วซั่วและแน่นหนา
“ข้าไม่รู้ว่ามันทำได้ยังไง หรือว่านี่คือพลังของนักเวทย์ระดับตำนาน?” โมลิน่าถอนหายใจอีกครั้ง
“ตอนนี้เอายังไงต่อหล่ะ?” ดยุคอาเบลถาม ด้วยความที่โรคระบาดสลายไป, เขาก็สูญเสียความชอบทำทั้งหมดในการสังหารหมู่ประชาชนในเมืองแกลดสโตน
เคาทูช่าหัวเราะอย่างเย็นชา “ทำไมหรอ, พวกเราก็เดินหน้าตามแผนสิ มีแค่พวกเราที่รู้ว่าโรคระบาดสลายไปแล้ว, แต่ทหารไม่รู้ ในเมื่อเจ้าเป็นแม่ทัพที่นี่, ใครจะหยุดเจ้าจากการทำสิ่งที่ต้องการได้หล่ะ?”
ดยุคอาเบลหยุดคิดเรื่องนี้ จากนั้นก็พยักหน้า “ก็ได้, ถ้างั้นเดินหน้ากันต่อเถอะ!”
ตอนนี้เขาเป็นข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของเทพแห่งการทำลาย