Advent of the Archmage Chapter 487:การต่อสู้ระดับตํานาน (3)
“พวกเขาจะต่อสู้กันตรงนั้น!”
บนเนินสูงที่อยู่ใกล้กับเส้นทางแห่งราชาสคินอร์สคอยเฝ้าดูสถานการณ์ภายในค่ายด้วยกล้องส่องทางไกล
คาร์โนสแอนนี่ นักเวทย์มอริแกนและนักบวชโมย่าก็อยู่ข้างๆเขา
สคินอร์สมองมาที่พวกเขาและรายงานสถานการณ์อย่างใกล้ชิด“สถานการณ์ไม่ค่อยดีเลย ฝั่งดยุคอาเบลมีกันสามคนในขณะที่มาสเตอร์ลิงค์ตัวคนเดียว แถมเขายังต้องคอยคุ้มครองราชาลีออนและคำนึงถึงทหารที่อยู่รอบๆด้วย เขามีข้อจำกัดมากเกินไป พวกเราจะช่วยสู้ยังไงดี?”
ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่พอมีประสบการณ์ต่อสู้อยู่บ้างก็น่าจะมองออกว่าสถานการณ์เช่นนี้มันเป็นปัญหาขนาดไหน
มาสเตอร์ลิงค์มีแต่จะต้องต่อสู้ด้วยพลังทั้งหมดหรือไม่ก็หนีออกไปจากที่นี่โดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นถ้าเกิดว่าเขาต้องคอยมาระวังพวกทหารอยู่ เขาอาจจะต้องตายโดยไม่เหลือแม้แต่ซากศพก็เป็นได้
พอได้ฟังเช่นนี้คาร์โนสก็รู้สึกกังวลมาก ลิงค์เป็นผู้ช่วยชีวิตของเขาและเคยเอาชีวิตมาเสี่ยงเพื่อช่วยเหลือเขาตอนสงครามทางเหนือ ดังนั้นตอนนี้ เขาจึงอยู่เฉยไม่ได้ “ไม่ ข้าไม่สามารถทนดูอยู่เฉยๆได้ ข้าจะออกไปต่อสู้ด้วย”
“ข้าไปด้วย”แอนนี่พูด
เธอต้องการไปดูด้วยตัวเองถ้าพ่อของเธอพร้อมที่จะไปกับพวกที่เรียกว่าอกาธา นากา เธอก็จะยอมตัดใจ และในฐานะที่เป็นลูกสาวเธอจะมอบชีวิตให้กับเขา
และเธอก็จะไม่มีวันปล่อยให้ลิงค์ตายอย่างเด็ดขาด!
คาร์โนสอุ้มแอนนี่ขึ้นมาและเตรียมพร้อมที่จะกระโดดลงไป
สคินอร์สรีบหยุดคาร์โนสในทันที“ขอถามตรงๆเลยนะ ทำไมพวกเจ้าทั้งคู่ถึงชอบทำอะไรรีบร้อนนัก? มาสเตอร์ลิงค์เป็นนักเวทย์มิติไม่ใช่รึไง?ถ้าเกิดว่าเขากำลังจะแพ้ เขาก็สามารถหนีเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว!”
“จะให้พวกเรามัวแต่เฝ้าดูสถานการณ์ที่นี่ไม่ได้หรอก”คาร์โนสขมวดคิ้ว
สคินอร์สถอนหายใจออกมาเขาหันไปหาโมย่ากับมอริแกน “สหาย พวกเราทำสิ่งนั้นตอนนี้เลยได้ไหม?”
โมย่าพยักหน้า“พวกเราคงเฝ้ารอต่อไปไม่ได้แล้วหล่ะนะ มาเริ่มกันเถอะ”
มอริแกนรู้สึกเจ็บปวด“โถ่ นั่นมันสมบัติของข้าเลยนะ ตอนนี้จะต้องเสียมันไปแล้วหรอเนี่ย”
ในตอนที่เขาพูดจบเขาก็หยิบแผ่นดิสสีขาว-ทองออกมาจากกำไลมิติของเขา มันมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 นิ้ว มีรูนไหลอยู่ทั่วแผ่นดิส และมันยังเปล่งแสงออกมาหลากสีด้วย ดูจากสภาพของมันแล้ว มันต้องไม่ใช่ของธรรมดาอย่างแน่นอน
“ข้าเจอมันที่สุสานของไฮเอลฟ์มันมีชื่อว่าแผ่นดิสทลายขีดจำกัด มันใช้ในการทำให้คนๆนึงส่งพลังมหาศาลไปหาอีกคนนึงได้ พวกเรามีเวลาไม่มากแล้ว พวกเขากำลังจะเริ่มต่อสู้กัน มาเริ่มเลยเถอะ!”
หลังจากนั้นมอริแกนก็ชี้คทาของเขาไปที่แผ่นดิสมานาไหลเข้าไปในนั้น และแสงหลากสีก็รุนแรงยิ่งกว่าเดิม นักบวชโมย่าเองก็เดินเข้ามา แสงสีขาวเข้มอันศักดิ์สิทธิ์ถูกปล่อยออกมาจากมือของเธอและไหลเข้าไปในแผ่นดิส
วิ้งแสงหลากสีได้กระจายตัวออกไปประมาณ 3 ฟุต แผ่นดิสสีขาว-ทองนี้แทบจะอยู่ในสภาพโปร่งแสงไปแล้ว
“สคินอร์สองค์หญิงแอนนี่” มอริแกนเรียก “เร็วเข้ารีบใส่พลังทั้งหมดเข้าไป อย่ายั้งมือหล่ะ ส่วนคาร์โนส เจ้าไม่ต้อง!”
สคินอร์สกับแอนนี่เดินเข้ามาออร่าของพวกเขาปรากฏขึ้นที่มือ และพวกเขาก็จับแผ่นดิส ตอนนี้สคินอร์สเป็นนักฆ่าเลเวล 8ในขณะที่แอนนี่นั้นอยู่ที่จุดสูงสุดของเลเวล 7 แม้ว่าเธอจะอ่อนแอ แต่ออร่าต่อสู้ของเธอก็ฟื้นฟูขึ้นมาเยอะแล้วในระหว่างที่ได้พักผ่อน ในตอนที่พลังของพวกเขาเข้าไปในแผ่นดิส แสงหลากสีก็ขยายออกเป็นรัศมี 9 ฟุต
หลังจากนั้นมอริแกนก็ผลักด้านที่เรืองแสงของแผ่นดิสไปทางคาร์โนสและเปิดใช้งานรูน แกร๊ก ด้วยเสียงเบาๆ แผ่นดิสก็แตกออก ในตอนแรก รอยแตกได้กระจายไปทั่วพื้นผิวของมัน จากนั้นมันก็แตกเป็นเสี่ยงๆ และในที่สุดมันก็กลายเป็นจุดแสงจำนวนนับไม่ถ้วน พวกมันหลอมรวมไปกับอากาศเหมือนกับน้ำแข็งที่โดนอบในเตา
ในเวลาเดียวกันนั้นเองทุกคนนอกจากคาร์โนสก็ใช้พลังของตัวเองไปจนหมดและล้มฟุบไปกับพื้น
ต่อมาแสงหลากสีในอากาศก็หดตัวลง มันได้แปลงเป็นลูกบอลรูนแสงขนาดเท่ากำปั้น มันลอยเข้ามาสัมผัสกับหน้าอกของคาร์โนส และเข้าไปในร่างของเขา
เขาถอยหลังไปเพราะแรงกระแทกและ 1 วินาทีต่อมาเขาก็ทรงตัวได้ ร่างกายของเขาเริ่มเปล่งแสง โดยเฉพาะที่ดวงตา มันเปล่งแสงสว่างจ้าออกมาจนคนอื่นไม่สามารถมองตาเขาได้เลย
คาร์โนสมองลงมาที่มือของเขา“ข้ารู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน” เขาพูด
มอริแกนทำสีหน้า“ก็ใช่หน่ะสิ เจ้าเป็นนักรบเลเวล 9 แผ่นดิสทลายขีดจำกัดจะเพิ่มพลังของคนๆนึงขึ้นไป 1 เลเวล ตอนนี้เจ้ามีเลเวล 10 และอยู่ในระดับตำนานแล้ว เห็นได้ชัดเลยว่าเจ้ามีพลังที่แข็งแกร่งมาก แต่ว่าสมบัติของข้ามัน…”
สคินอร์สหยิบเศษหินขึ้นมาและโยนใส่คาร์โนส“จะมัวรออะไรอยู่อีกหล่ะ? เวลาไม่ค่อยมีนะ เจ้ามีเวลาแค่ 5 หรือ 6 นาทีเท่านั้น เห้อ ความรู้สึกอ่อนแอแบบนี้มันน่ากลัวจริงๆ ข้าเคยร่วมหลับนอนกับมนุษย์สัตว์เพศหญิงในตอนที่ยังหนุ่ม แต่ว่าในตอนนั้นมันยังไม่เหนื่อยเท่าตอนนี้เลย”
คาร์โนสไม่สนใจประโยคหลังของสคินอร์สและพยักหน้า“เข้าใจแล้ว!”
หลังจากนั้นเขาก็กลับหลังหันและกระโดดลงไปจากเนินสูง ด้วยการระเบิดพลัง เขาวิ่งไป 900 ฟุตและพุ่งตัวไปทางค่ายเหมือนกับลูกธนู
ในตอนนั้นเองดยุคอาเบลก็ชักดาบออกมาอย่างช้าๆ “ข้าเรียกดาบนี้ว่าพลบค่ำของผู้กล้า” เขาพูดอย่างมืดมน “ลิงค์ เจ้าเป็นลูกคนสุดท้องในตระกูลขุนนางเล็กๆ เจ้าไม่ควรได้อะไรซักอย่าง แต่เจ้าก็สามารถก้าวข้ามโชคชะตาและขึ้นมาเป็นนักเวทย์ระดับตำนานได้ เจ้าถือเป็นผู้กล้าสำหรับข้า ดังนั้นข้าจะใช้ดาบเล่มนี้กับเจ้า”
ใครก็ตามที่สามารถข้ามผ่านห่วงโซ่แห่งโชคชะตาได้คนเหล่านั้นต่างก็เป็นผู้กล้ากันทั้งนั้น!
ในตอนที่เขาพูดจบลิงค์ก็เดินออกมาอยู่ข้างหน้าราชาลีออน “ฝ่าบาท” เขากระซิบ “พาพวกนักรบกลับไปเถอะครับ”
ดยุคอาเบลเย้ยหยัน“เจ้าต้องการจะปกป้องพี่ชายข้าอย่างงั้นหรอ? เอาเถอะไม่ว่ายังไง เขาก็มีชะตาที่จะต้องตายในวันนี้ มันก็แค่ยืดเวลาออกไปอีกหน่อยเท่านั้นเอง”
สีหน้าของลิงค์ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยความเยือกเย็นของเขานั้นยากที่จะหาคนมาเปรียบได้ เหมือนกับกระจก เขาสามารถสะท้อนความเปลี่ยนแปลงทุกอย่างของโลกภายนอกออกไปได้โดยที่ไม่ส่งผลกับลักษณะนิสัยของเขา
ซึ่งนี่เป็นผลจากการต่อสู้ด้วยเวทมนตร์มาเป็นเวลานาน.ไอลีนโนเวล.
ในตอนที่ราชาลีออนเริ่มถอยเขาก็ชักดาบราชามังกรพิโรธออกมา เขาพร้อมแล้ว
ในเวลาเดียวกันนั้นเองก็มีแสงกระพริบขึ้นมาในทัศนวิสัยของเขาเขารู้ว่ามันคือภารกิจ มันบอกให้เขาจัดการดยุคอาเบล เขาข้ามส่วนอื่นๆไป และรับภารกิจในทันที
ที่อีกด้านนึงนากานักบวชโมลิน่าเองก็เริ่มถอยออกไปเหมือนกัน พลังของเธอใช้ในการสนับสนุนมากกว่า ดังนั้นการไปซ่อนตัวจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด คาทูช่าเดินมาอยู่ข้างๆดยุคอาเบลและเตรียมพร้อมที่จะโจมตีลิงค์จากอีกทางหนึ่ง
ลิงค์ไม่ได้ขยับไปไหนเขายืนอยู่นิ่งๆราวกับรูปปั้นไม่มีชีวิต แต่ถึงกระนั้นเขาก็ปล่อยแรงกดดันอันมหาศาลออกมา คาทูช่าค่อยๆเคลื่อนที่เข้าไปทีละน้อย เธอกลัวว่าถ้าก้าวพลาดลิงค์จะทำการโจมตีในทันที
ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังดูเชิงกันอยู่แรงกดดันอันมหาศาลก็แผ่ไปทุกทิศทาง นายพล นักเวทย์ นักบวชและนักรบที่อยู่ไกลออกไปต่างก็รู้สึกหนักอึ้งและไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ พวกเขาทำได้แค่ถอยไปเรื่อยๆเท่านั้น
ดยุคอาเบลปล่อยให้พวกเขาถอยไปพวกเขาสามารถถอยไปได้แค่ 300 ฟุตในขณะที่มันใช้เวลาแค่ชั่วพริบตาในการเริ่มการต่อสู้ระดับตำนาน
เวลาค่อยๆผ่านไปเรื่อยๆทุกวินาทีนั้นยาวนานจนน่ากลัว มันยาวนานเหมือนกับผ่านไปเป็นปีๆ
2วินาทีต่อมาลิงค์ก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง
มีคนกำลังมาที่นี่เขามีพลังระดับตำนาน และก็ให้ความรู้สึกเหมือนคาร์โนสด้วย ลิงค์รู้สึกดีใจมาก ดังนั้นเขาจึงเริ่มลงมือโดยไม่ลังเลอะไรอีก
เขาเปิดใช้งานออร่าปาฏิหาริย์
ผลของมันมีระยะ1,500 ฟุตและจะปกป้องทุกอย่างที่อยู่ภายใต้ออร่านี้ พอเปิดใช้งานแล้ว แสงสีขาวก็ถูกปล่อยออกมาจากตัวลิงค์เหมือนกับคลื่น และในชั่วพริบตา โล่บางๆก็ปรากฏขึ้นบนตัวของเหล่านักรบทั้งหลาย
และโล่นี้ก็ปรากฏขึ้นที่ตัวคาร์โนสที่กำลังจะมาถึงที่นี่ด้วย
ที่ฝั่งตรงข้ามลิงค์คาทูช่าได้ตอบสนองในทันที “ตายซะ!” เธอตะโกน
เธอควงหอกและแทงมันออกไป จากนั้นหอกก็พุ่งเป็นระยะกว่า 90 ฟุตระหว่างพวกเขา
ในตอนที่หอกพุ่งมาจิตใจของลิงค์หวั่นไหวเล็กน้อย เขารู้สึกได้ว่าถูกเล็งเป้าอยู่
เขารู้ว่าในความเป็นจริงนั้นมันต่างกับในเกมภายในเกม คาทูช่าจะใช้หนามแห่งโชคชะตาทุก 2 วินาที แต่ว่าในชีวิตจริง ทุกครั้งที่เธอแทงจะเป็นการใช้หนามแห่งโชคชะตา
หอกนั้นเร็วมากตั้งแต่ที่มันเริ่มออกตัวจนมาถึงด้านหน้าลิงค์ มันใช้เวลาไม่ถึงเสี้ยววินาที แถมมันเป็นจังหวะที่ลิงค์กำลังร่ายเวทย์อยู่ด้วยดังนั้นเขาจึงร่ายเวทย์อื่นไม่ได้
ถ้าเป็นเมื่อวันก่อนลิงค์คงจะตายไปแล้วหรือไม่ก็ต้องให้เซลีนช่วย แต่ในตอนนี้ ดาบราชามังกรพิโรธสามารถตัดช่วงเวลาที่ส่งผลกับมันได้
เขาเอี้ยวตัวไปด้านข้างและใช้ดาบป้องกันหอกหอกแห่งชัยชนะของคาทูช่านั้นเปลี่ยนเส้นทางตามที่ลิงค์ขยับในทันที และดาบของเขาเองก็เช่นกัน ภายในช่วงเสี้ยววินาที อาวุธทั้งสองได้เคลื่อนไหวไปทั้งสิ้น 15 ครั้ง ซึ่งอาวุธทั้งสองชิ้นนี้รวดเร็วมากจนดูเหมือนกับภาพลวงตา
แต่ว่าในเสี้ยววินาทีต่อมาอาวุธทั้งสองก็ปะทะกันเหมือนกับโชคชะตาได้กำหนดเอาไว้ และในระหว่างที่ปะทะกัน ทั้งสองฝ่ายก็มีเลเวลเท่ากัน
ลิงค์นั้นมีพลังมังกรและมีเลเวล11 ส่วนคาทูช่าก็เป็นนากา และเธอเองก็มีความแข็งแกร่งทางกายภาพเช่นกัน อย่างไรก็ตามพลังของเธออ่อนแอกว่าเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ได้เปรียบในการโจมตีก่อน ดังนั้นพวกเขาจึงเสมอกัน
เกร๊ง
ในพริบตาต่อมาเสียงปะทะก็ดังขึ้น ภายใต้เสียงดังแหลมนี้ มีชั้นแสงสีขาวกระจายออกมาจากการปะทะกัน หลังจากที่แสงกระจายออกไป 15 ฟุต มันก็กลายเป็นคลื่นลมกรรโชก ทรายและเศษหินกระเด็นไปทั่ว เต็นท์ที่อยู่ภายในค่ายต่างก็ถูกพัดปลิวไปจนหมด
ถ้าไม่มีออร่าปาฏิหาริย์ของลิงค์คงจะมีคนตายไปมากมาย แต่ด้วยแสงสีขาวที่ห่อหุ้มพวกเขาอยู่ จึงไม่มีทหารคนไหนได้รับบาดเจ็บเลย
คาทูช่าตกใจมาก“เป็นไปได้ยังไงกัน!?”
ด้านหลังของเธอนากานักบวชเองก็ตกตะลึงเธอกำลังร่ายเวทย์วิญญาณเพื่อตามหามือปืนที่สามารถยับยั้งหอกแห่งชัยชนะได้ แต่ว่าก่อนที่เธอจะหามือปืนเจอ หอกก็ถูกป้องกันไปได้ซะก่อน
โมลิน่านั้นไม่มีเวลาจะมาคิดเรื่องนี้เพราะมีคนโจมตีมาทางเธอแล้วมันคือพลปืนที่ลิงค์พามาด้วย
อาวุธของพวกเขาสามารถยิงได้จากระยะ3,000 ฟุตและตอนนี้พวกเขาก็ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางกลุ่มผู้คน แถมพวกเขาก็มีออร่าปาฏิหาริย์อยู่ด้วย พวกเขาสามารถส่งห่ากระสุนมาทางดยุคอาเบลได้โดยไม่ต้องกังวลอะไรเลย
กระสุนพวกนี้มีเลเวล6 บางส่วนยิงโดนโล่ของลิงค์แต่ว่าส่วนใหญ่นั้นจะไปโดนกลุ่มของดยุคอาเบล
กลุ่มพวกที่เข้าฝั่งดยุคอาเบลนั้นถูกโจมตีด้วยกระสุนในทันทีดยุคอาเบลเองก็ไม่สามารถโจมตีได้เช่นกัน เขาถูกบังคับให้ต้องใช้ดาบป้องกันกระสุน
“บ้าชะมัด!”โมลิน่ารีบร่ายเวทย์ศักดิ์สิทธิ์วงแหวนทำลายล้างในทันที!
วงแหวนทำลายล้าง
เวทย์ศักดิ์สิทธิ์
ผล:ภายในระยะของวงแหวนโล่แห่งการทำลายล้างจะปรากฏขึ้นที่เป้าหมายที่เป็นพวกเดียวกันทุกคน และทำลายการโจมตีทุกอย่างที่เข้ามา
(หมายเหตุ:แทนการป้องกันด้วยการโจมตี!)
ในทันทีที่โล่ปรากฏขึ้นกระสุนก็ไร้ผล ในตอนที่พวกมันมาปะทะกับโล่สีแดง พวกมันก็จะกลายเป็นประกายแสงและถูกทำลายในทันที
อย่างไรก็ตามแม้ว่าโล่จะสามารถทำลายกระสุนเลเวล 6 ได้ แต่มันก็ไม่ค่อยมีผลกับพลังระดับตำนานซักเท่าไหร่
ในอีกด้านนึงคาทูช่ากำลังตกตะลึงที่หอกของเธอล้มเหลว ซึ่งลิงค์เองก็ได้ชิงโอกาสนั้น เขาแทงดาบออกไป และทำการโจมตีแทนที่จะป้องกัน
ในตอนที่ดาบกำลังจะแทงเข้าไปที่คอของเธอคาทูช่าก็ควงหอกของเธอกลับมาในองศาที่ไม่น่าเป็นไปได้ แกร๊ง เธอป้องกันดาบของลิงค์ได้
แต่ถึงแม้เธอจะป้องกันได้ความแตกต่างของพลังก็มากเกินไป หอกแห่งชัยชนะถูกดันกลับ และการเคลื่อนไหวของเธอก็เริ่มผิดเพี้ยน
“ข้าจะช่วยเจ้าเอง!”ดยุคอาเบลเห็นว่าคาทูช่ากำลังจะเสียเปรียบก็เลยรีบวิ่งเข้ามา
ลิงค์นั้นแข็งแกร่งแต่ว่าเขาก็ตัวคนเดียวและมีภาระผูกพัน ถ้าพวกเขาทั้งสามคนร่วมมือกัน พวกเขาอาจจะสามารถฆ่าเขาได้!
แต่ว่าในตอนที่เขาก้าวออกมาก็มีเงาพุ่งออกมาจากข้างหลังลิงค์ จากนั้นสายฟ้าสีขาวก็พุ่งเข้ามาขวางทางดยุคอาเบลเอาไว้
คาร์โนสมาถึงแล้ว!