Akashic Record – บันทึกอาคาชิคของหนูน้อยหมวกแดง – ตอนที่ 1

R/C – 1-1

เกิดใหม่

 

ความรู้สึกปวดแสบปวดร้อนแผ่ขยายไปทั่วหัวของเรด เธอรู้สึกราวกับว่าหัวของเธอก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนได้กระแทกเข้ากับของแข็งบางอย่างมา

แต่เธอไม่ยักจะจำได้ว่าก่อนหน้านี้หัวของเธอไปกระแทกอะไรมา หรือว่าตอนนอนหลับบนโซฟาเธอเผลอกลิ้งจนหัวฟาดขอบโต๊ะ?

ไม่รู้สิ เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะเมื่อวานเธอเหนื่อยมาก พอทิ้งตัวลงบนเตียงเธอก็หลับสนิทเลย หลับเป็นตายในระดับที่รู้สึกว่าพอหลับตาก็ลืมตาตื่นมาอีกทีตอนเช้าได้เลยละมั้ง… ดวงตาของเรดค่อยๆ ลืมขึ้นอย่างช้าๆ สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอคือเพดานของห้องที่ไม่คุ้นเคย

มันเป็นเพดานไม้ที่ไม่คุ้นเคยซึ่งถูกกั้นไว้ด้วยคานไม้ที่ธรรมดา แม้สติของเรดจะยังคงเบลอๆ หลังการตื่นนอน แต่เธอมั่นใจว่าที่นี่น่าจะไม่ใช่ห้องของเธอ อีกทั้งเตียงที่นอนอยู่ตอนนี้ยังรู้สึกแข็งมากกว่าเตียงปกติที่เธอนอนซะอีก..

จะอย่างไรก็ตามแต่ ก่อนที่เรดจะหลับ เธอจำได้ว่า ตัวเองนอนอยู่บนโซฟาไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมตอนนี้ถึงได้มานอนอยู่บนเตียงแข็งๆ ..?

มีใครพาเธอมาไว้บนเตียงเหรอ.. จะเป็นแบบนั้นได้ไงล่ะ ก็เธออยู่คนเดียวในอพาร์ทเม้นเล็กๆ จะมีใครมาหาได้ยังไงล่ะ? .. แต่ก่อนหน้านั้นเลยนะ ที่นี่มันไม่ใช่แม้แต่ในห้องของเธอด้วยซ้ำ

ภายใต้ความสับสนนั้นเอง เสียงเคาะประตูด้านหน้าก็ดังขึ้นแทบจะทันที ตามมาด้วยเสียงของผู้หญิงสูงวัยคนหนึ่งที่ไม่คุ้นหู

“เรด ได้เวลาตื่นแล้วนะ รีบตื่นได้แล้ว ลืมแล้วเหรอว่าวันนี้พวกเราต้องไปจ่ายตลาดในเมืองกันน่ะ?”

“ใครน่ะ?!”

แม้จะไม่เคยรู้จักกับเสียงนี้แต่เสียงอ่อนโยนนี้ของอีกฝ่ายทำให้เรดเกิดความรู้สึกประหลาดยิ่งกว่าเดิม

แถมอีกฝ่ายยังเรียกชื่อเธออย่างเป็นมิตรเหมือนกับอยู่ด้วยกันมานานอย่างไรอย่างนั้น..

แต่พออีกฝ่ายพูดแบบนั้นด้วย ไอ้การพูดที่ดูสนิทสนมจนเกินไปแบบนั้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเรดไม่รู้จักเธอมาก่อนพอถูกพูดแบบนั้นใส่เธอเลยรู้สึกขนลุกซู่อย่างช่วยไม่ได้… ไม่มีทางที่มีคนแปลกหน้ามาทำตัวสนิทสนมเหมือนอยู่ด้วยกันมานาน จะดูน่าเชื่อถือหรอกใช่ไหมล่ะ ?

แต่ต่อให้ตัดเรื่องน่าขนลุกนั่นออกไป เรดก็มั่นใจว่าตัวของเธอนั้นไม่มีใครที่สนิทขนาดนี้อย่างแน่นอน นอกจากพี่สาวที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ หลังจากถูกไล่ออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าน่ะนะ แต่ไม่มีทางที่พี่สาวของเธอจะมีเสียงที่ดูอายุเยอะขนาดนี้หรอก

และดูเหมือนว่าพอเรดอุทานแบบนั้นออกไป ผู้หญิงลึกลับที่อยู่อีกฟากประตูก็ถึงกับตกใจและทำเสียงอ่อนลงยิ่งกว่าเดิมแต่มีความงุนงงแทรกเข้ามาด้วยเล็กน้อย

“ใครน่ะ.. งั้นเหรอ พูดเรื่องอะไรไร้สาระแบบนั้นกับแม่ตัวเองน่ะ วัยต่อต้านหรือไงเนี่ย? ช่างเถอะ ถ้าตื่นแล้วก็ลงมาทานข้าวแม่ทำอาหารเสร็จแล้ว”

“เดี๋ยวส—”

เรดพยายามจะเรียกตามอีกฝ่ายเอาไว้ แต่พอเธอก้าวลงจากเตียงเท่านั้นแหละ เหมือนเจ้าตัวจะคิดว่าตัวเองขายาวกว่านี้ละมั้ง

พอยื่นขาลงเตียงโดยไม่ดูว่าขาตัวเองยังยั้งไม่ถึงพื้น ทำให้เรดก้าวพลาดเหยียบโดนแต่พื้นอากาศที่ว่างเปล่าและหกล้มไปด้านหน้าพร้อมกับผ้าห่มที่พันรอบเอวเล็กๆ ของเธอ..

เสียงหกล้มของเรดไม่ได้อึกทึกอะไรมากก็จริง แต่หน้าของก็ยังฟาดเข้าที่พื้นแรงพอสมควร จนทำให้ความเจ็บแสบแผ่ไปทั่วใบหน้าพร้อมกับเสียงร้องเล็กๆ ของเธอที่หลุดออกมาจากปาก

“โอ๊ย..”

เธอเอามือกุมจมูกทั้งสองข้างที่กระแทกเข้ากับพื้นอย่างจัง พร้อมด้วยความสับสนว่านี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่?

ทำไมเมื่อสักครู่เหมือนกับว่าร่างกายเธอหดเล็กลงจนเหยียบไม่ถึงพื้นงั้นแหละ..

เหมือนกับว่าขาเธอสั้นลงยังไงยังงั้น… แต่มันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไงล่ะถูกไหม ถึงโลกนี้จะเต็มไปด้วยวิทยาศาสตร์ก้าวหน้ามากมายก็ตามทีนะ

ไม่ว่าจะเป็นยานที่สามารถบินออกนอกอวกาศได้ เครื่องปริ้นสามมิติที่ปริ้นวัตถุออกมาได้โดยตรง สิ่งของเหล่านี้ล้วนมีในยุคที่เธออยู่

แต่โลกไม่มีวิทยาการอย่างย่อส่วนร่างกายหรือหดร่างกายให้เล็กลงสักหน่อยนะ .. เรดพยายามคิดในแง่บวกเข้าไว้เพื่อไม่ให้เกิดอาการแพนิค

เพราะเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์สับสนตัวเธออาจจะเกิดอาการแพนิคได้.. แต่เหมือนในมือของเธอที่ยกขึ้นมากุมจมูกก็มีกระปุกยาประปุกหนึ่งกำแน่นอยู่ในมือ

“เอ้ะ.. ทำไมขวดยา..มันใหญ่ขึ้น?”

เธอที่เห็นกระปุกยาที่ตัวเองพึ่งซื้อมาเมื่อวานก่อนจะนอนหลับแล้วก็ตื่นมาในสถานที่แปลกๆ เหล่านี้

ขวดยาขวดนี้แทบจะเป็นสิ่งที่เรดเห็นทุกวี่ทุกวัน ต่อให้ไม่มีขวดยาอยู่ในมือ เธอก็สามารถวาดภาพขนาดขวดยาได้ชัดเจน เพราะขวดยาจะมีขยาดพอดีกับมือของเธอชัดเจน แต่เมื่อมองขวดยาที่อยู่ในมือเธอตอนนี้ ขวดยานี้กลับใหญ่กว่ามือเธอซะด้วยซ้ำ ?

ไม่สิ.. ไม่ใช่ เมื่อเรดมองมือทั้งสองข้างตัวเองดีๆ แล้ว มันไม่ใช่ขวดยาใหญ่ขึ้น แต่เป็นร่างกายเธอต่างหากที่หดเล็กลง!จะบอกว่าร่างกายเธอถูกทำให้เล็กลงอย่างนั้นเหรอ..

แต่ทำไมถึงเป็นแบบนั้นไปได้ล่ะ?

ไม่.. ไม่ใช่แล้ว มันเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงต่างหาก ไม่ใช่แค่ร่างกายที่หดเล็กลงจนกลายเป็นเหมือนเด็ก แต่นี่แทบไม่เหมือนร่างกายของเรดตอนเป็นเด็กเลย!

ในชาติก่อนผิวของเรดค่อนข้างคล้ำกว่านี้นิดหน่อย แต่ในทางตรงกันข้ามผิวของเธอในตอนนี้กลับขาวบริสุทธิ์ผุดผ่องราวกับเป็นเด็กสาววัยแรกแย้มยังไงยังงั้น

ไม่เพียงแค่นั้นไม่ว่าจะเป็นสรีระร่างกายหรือลักษณะทางกายภาพมันเหมือนกับเธอไม่ใช่ผู้ชายเลยด้วยซ้ำนะ

ไม่ว่าจะเป็นแขนที่เรียวและเล็กกว่าตอนที่เรดเป็นเด็ก ผิวขาวบริสุทธิ์ยังกับถูกเลี้ยงมาอย่างดีเยี่ยมดุจดั่งไข่ในหิน

เธอก้มมองลงไปส่วนล่างของตัวเองไม่ว่าจะท้อง หรือเอว.. แม้เอวจะถูกพันด้วยผ้าห่มแต่ก็ยังเห็นชัดว่ารอบเอว หน้าท้องของเธอหดเล็กลงไม่ต่างจากเด็ก

เรดเริ่มที่จะสับสนยิ่งกว่าเดิม

ก่อนที่เธอจะมองเห็นหัวไหล่ตัวเองที่มีผมยาวลงมาถึงบ่าของตัวเอง.. ผมสีเทาของเธอแม้จะไม่ยาวจนไปถึงแผ่นหลังแต่ก็ยังยาวกว่าปกติที่ควรจะเป็นมาก เธอเป็นผู้ชายที่ไว้ผมสั้น จะมาผมยาวขนาดนี้ได้ยังไงกันล่ะ ?

แต่ผมของเธอในตอนนี้มันยาวจนถึงประมาณไหล่ไม่ต่างอะไรจากเด็กผู้หญิงเลยล่ะ.. แถมสีผมของเธอในตอนนี้ยังกลายเป็นสีเทาออกน้ำตาลบางๆ ด้วย..? เธอมั่นใจว่าตัวเองนั้นมีชีวิตอยู่มายี่สิบกว่าปีกับผมสีดำนี่น่า..

ภายใต้ความสับสนไม่ว่าจะเป็นสถานที่ที่ไม่รู้จัก ร่างกายที่ไม่รู้จัก หัวใจของเธอเต้นระรัวขึ้นด้วยความกระวนกระวาย

เป็นความหวาดกลัวกังวล เมื่อประสบพบเจอสถานการณ์ที่ไม่รู้จักหรือไม่สามารถเข้าใจได้

ความกังวล ความสับสน.. มันมักจะถาโถมเข้ามาหาเธออย่างเลี่ยงไม่ได้ เรดไม่ใช่เด็กมัธยมปลายช่างฝันแต่อย่างใด เธอไม่เคยอ่านนวนิยายแนวต่างลงต่างโลกอะไรเทือกนั้น

หากเป็นเหล่าเด็กนักเรียนช่างฝันพวกเขาคงจะรู้ทันทีว่านี่คือการเกิดใหม่

แต่นั่นไม่ใช่สำหรับเรด เธอเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างจากคนธรรมดาไปไกลมาก สิ่งแรกที่เธอต้องการในชีวิตตอนสิบกว่าขวบ

คือเงิน.. เงินมันสำคัญมากแค่ไหนสำหรับเธอไม่มีใครรู้เลยนอกจากตัวของเธอเอง เธอไม่มีเวลามาคิดเรื่องอย่างอื่นนอกจากหาเงิน

มันเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ที่จะรู้สึกวิตกกังวลเมื่อมายืนอยู่ในสถานการณ์ที่คาดไม่ออกนึกไม่ถึงแบบนี้

ใช่แล้ว.. เรดเองก็เช่นกัน เธอกำลังอยู่ในสถานการณ์วิตกกังวล

เธอต้องการจะยืนยันบางสิ่งบางอย่าง.. เรดหันซ้ายหันขวาเพื่อหากระจก และดูเหมือนว่าจะโชคดีที่ในห้องนี้มีกระจกอยู่ที่มุมห้อง

เรดค่อยๆ ใช้มือยันพื้นก่อนที่จะดันตัวเองขึ้นไปอาจจะเพราะยังไม่ชินกับร่างกายเลยทำให้การกระทำค่อนข้างติดขัด

แต่ถึงแบบนั้นต่อให้เปลี่ยนร่างกายมนุษย์ก็มีสัญชาตญาณในการปรับตัวอยู่มาก ทำให้เรดก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถควบคุมร่างกายได้เลยทีเดียว

เธอค่อยๆ ยืนขึ้นและสังเกตเห็นว่ามุมมองที่เธอเห็นมันต่ำลงกว่าเดิมมาก… เรดค่อยๆ เดินไปทางกระจกผ้าห่มที่พันอยู่รอบเอวค่อยๆ คลายออก

.. ลมเย็นๆ พัดเข้ามาจากร่องของกำแพงที่สร้างจากไม้ทำให้เรดตัวสั่นเล็กน้อยเพราะเหมือนร่างเธอจะใส่แค่เสื้อบางๆ

เธอเดินมาหยุดอยู่ที่หน้ากระจก.. ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างขึ้นด้วยความงุนงงยิ่งกว่าเดิม.. เพราะสิ่งที่สะท้อนอยู่ในกระจกมันไม่ใช่ใบหน้าที่เธอรู้จัก

แต่เป็นเด็กผู้หญิงที่น่ารักคนหนึ่งสะท้อนออกมาจากกระจกต้องหน้าเธอ เด็กผู้หญิงคนนั้นอายุเพียงแค่ประมาณสิบเอ็ดขวบเท่านั้น ผมสีเทาออกน้ำตาลบางๆ ของเธอยาวลงมาจนถึงบ่า

ร่างกายที่เล็กบางของเธอใส่ด้วยเสื้อซับในที่เป็นเสื้อของผู้หญิงใส่ กางเกงก็ใส่เป็นกางเกงผ้าฝ้ายบางๆ

แต่เพียงแค่มองเรดก็มั่นใจได้แน่นอน ว่าภายใต้เสื้อซับในนั้นมีหน้าอกที่เป็นของผู้หญิงอย่างแน่นอน..

จากความสับสนและกังวล กลายเป็นความรู้สึกที่พูดไม่ออก ปากของเธออ้าขึ้นก่อนจะยกมือขึ้นแตะใบหน้าของตัวเองเพื่อยืนยันอะไรบางอย่าง

ภาพที่สะท้อนในกระจกก็ทำแบบเดียวกัน… อันที่จริงนอกจากนี้ที่หัวของเรดยังมีผ้าที่วางอยู่บนหัวซึ่งมีสีแดงอยู่

ถึงจะบอกว่าเป็นผ้าแต่มันก็ดูเป็นหมวกสีแดงได้ด้วย เรดได้แต่ยืนงึนงงกับภาพที่สะท้อนอยู่ในกระจกซึ่งภาพที่สะท้อนอยู่ในกระจกไม่มีทางเป็นใครได้นอกจากเป็นตัวเธอเองที่ตอนนี้ได้กลายมาเป็นผู้หญิง!

..ถ้าจะพูดให้ถูกคือเป็นเด็กผู้หญิง

แต่ตลอดมา.. เรดมีชีวิตอยู่ในฐานะผู้ชาย ในฐานะครูสอนเด็กอนุบาล..

แต่แล้วทำไม…

ตอนนี้ถึงได้กลายเป็นสาวน้อยไปซะอย่างนั้น?!!

Akashic Record – บันทึกอาคาชิคของหนูน้อยหมวกแดง

Akashic Record – บันทึกอาคาชิคของหนูน้อยหมวกแดง

Status: Ongoing
อ่านเรื่อง Akashic Record – บันทึกอาคาชิคของหนูน้อยหมวกแดง ชื่อเรื่อง : Akashic Record – บันทึกอาคาชิคของหนูน้อยหมวกแดง เรื่องย่อ – เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มที่มีความผิดปกติทางจิต เขาจึงต้องคอยเดินทางไปรักษากับจิตแพทย์อยู่บ่อยครั้ง แต่ถึงแบบนั้นมันก็ไม่เป็นปัญหากับชีวิตเขามากเท่าไหร่.. ละมั้งนะ ? เขามีชื่อว่า ‘เรด’ เป็นอาจารย์สอนโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในเมืองธรรมดาๆ แน่นอนว่าด้วยความที่เป็นอาจารย์สอนโรงเรียนอนุบาลทำให้เขาศึกษานิทานพื้นบ้านอยู่หลายเรื่อง.. หนึ่งในนั้นคือนิทานเรื่องหนูน้อยหมวกแดง หนูน้อยหมวกแดงเป็นนิทานพื้นบ้านสอนเด็กที่ตัวของเรดได้อ่านให้เด็กๆ ฟังบ่อยๆ เพราะมันมีการให้ข้อคิดว่าไม่ควรออกนอกลู่นอกทางอะไรแบบนั้น …… แต่ทว่าอยู่มาวันหนึ่งเรดก็พลันหายตัวไปราวกับผีได้ลักซ่อนตัวของเขา

Comment

Options

not work with dark mode
Reset