ตอนนี้ความจริงได้กระจ่างแล้ว
ทุกอย่างสามารถรวมเข้าด้วยกันและอธิบายได้อย่างสมบูรณ์ แต่ปัญหายังคงมีอยู่ เพราะหลิงฮันไม่อาจหยุดยั้งวิธีการสังเวยโลหิตได้ และตระกูลฉังยังคงดำเนินตามแผนต่อไป
วันพรุ่งขึ้น จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์จะเดินทางมาที่นี่ด้วยตัวเองและเอาเก้าดาบชั่วร้ายไป
อย่างน้อยมันต้องเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับที่สิบสาม เมื่อใดที่ใช้มันจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์ก็จะไร้ซึ่งผู้ต่อต้านอีกต่อไป
มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะสังเวยโลหิตมหาศาลขนาดนี้ เพราะพวกเขาจะอยู่ยงคงกระพันหลังจากที่ได้รับเก้าดาบชั่วร้าย แล้วทำไมพวกเขาจะต้องสนใจชีวิตของผู้อื่นด้วย?
หลิงฮันเป็นห่วงเล็กน้อย แต่เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย
ตอนนี้มีราชาเก้าเพลิงสวรรค์อยู่ที่นี่ หากเขาออกไปก็จะต้องตาย มันไม่มีความเป็นไปได้ที่สอง
“ความหวังเดียวคือจักรวรรดินีและหินต้นกำเนิดสวรรค์ที่สามารถดูดซับการโจมตีได้ทั้งหมด การโจมตีของจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ก็ไม่มีข้อยกเว้น แต่ปัญหาคือหินต้นกำเนิดสวรรค์มีขนาดเล็กเกินไป มันป้องกันได้แค่จุดเล็กๆเท่านั้น”
“แล้วข้าควรทำเช่นไรดี?”
หลิงฮันระดมสมองคิด แต่ต่อหน้าพลังที่เด็ดขาด แม้จะมีแผนการหรือกลยุทธ์ที่สมบูรณ์แบบขนาดไหน แค่เขาถูกราชาเก้าเพลิงไพศาลตบหน้า ชีวิตของเขาก็จบลงแล้ว
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ การสังเวยโลหิตยังคงดำเนินต่อไปและพลังชีวิตมากมายก็ถูกดูดซับโดยแท่นบูชาไปที่ดาบเก้าอสูรกาย
วันต่อมาทุกคนจะสัมผัสได้ว่าแท่นบูชาเต็มไปด้วยปราณชั่วร้าย
นั่นไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร ในทางตรงกันข้ามเป็นสัญญาณว่าการสังเวยโลหิตใกล้จะถึงจุดสิ้นสุดแล้ว เพราะปราณชั่วร้ายจากดาบลดลงไปมาก
“หืม!”
ในขณะนั้น ดาบเก้าอสูรกายระเบิดพลังที่น่าสะพรึงกลัวออกมา แสงดาบที่พุ่งออกมาเป็นเหมือนกับโลหิตที่ไหลทะลักออกมาจากทะเลสาบและทำลายแท่นบูชาได้อย่างง่ายดาย ทำให้ซากศพและโลหิตกระจายออกมา
แค่แสงดาบที่ระเบิดออกมาจากดาบเก้าอสูรกายก็อยู่ในระดับดาราแล้ว นักโทษที่อยู่ในห้องขังหรือแม้แต่ผู้คุมก็ไม่สามารถต้านทานได้ เพียงแค่สัมผัสโดนแสงร่างกายของพวกเขาก็กลายเป็นเศษเนื้อ ถึงขั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ราชาเก้าเพลิงสวรรค์ดูไม่แปลกใจ เขาดูมีความสุขและระเบิดเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกับพูดว่า “ช่างเป็นอาวุธที่ทรงพลังยิ่งนัก! ทั้งที่ยังไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ เพียงแค่ด้ามดาบก็แสดงพลังที่น่าสะพรึงกลัวออกมาได้ขนาดนี้ หากมันอยู่ในสภาพสมบูรณ์ อย่างน้อยที่สุดมันน่าจะอยู่ในระดับวารีนิรันดร์ แล้วการฆ่าจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ขั้นต้นก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป!”
ราชาเก้าเพลิงสวรรค์ดูมีความสุขมากและเปิดเผยความลับออกมามากมาย
นั่นเป็นเพราะอย่างแรกนี่ยังไม่ใช่ดาบอสุรกายที่สมบูรณ์ มันยังได้รับความเสียหายอยู่ อย่างที่สองดาบเก้าอสูรกายแตกออกเป็นหลายส่วนที่แสดงออกมาให้เห็นที่นี่คือด้ามจับเท่านั้น และอย่างที่สามตระกูลฉังอาจมีส่วนที่เหลือของดาบเก้าอสูรอยู่อีก
กล่าวคือแท่นบูชาอาจไม่ได้มีแค่ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น!
หัวใจของหลิงฮันกระตุก คำถามในตอนนี้คือด้ามจับดาบคือส่วนสุดท้ายของดาบเก้าอสูรกายใช่หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นพลังต่อสู้ของอีกฝ่ายก็จะก้าวกระโดดไปอยู่ที่ระดับวารีนิรันดร์
นี่คืออำนาจพลังที่เด็ดขาดในดวงดาวนี้!
แสงที่เปล่งออกมาจากด้ามจับดาบเริ่มเจิดจรัสมากยิ่งขึ้น ดังนั้นราชาเก้าเพลิงสวรรค์จึงไม่กล้าอยู่ที่นี่อีกต่อไป เขาไม่มีพลังที่จะต่อต้านและก็ไม่คุ้มเสี่ยงที่จะทำเช่นนั้น มันจะเป็นการเปลืองพลังโดยใช่เหตุ ในอีกไม่ช้าแท่นบูชาคงพังทลาย ดังนั้นเขาจึงไม่คิดถึงหลิงฮันอีกต่อไป
– ข้าเชื่อว่าหากอีกฝ่ายยังคงอยู่ในแท่นบูชา เจ้าเด็กนั่นจะต้องถูกพลังของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ฆ่าตายอย่างแน่นอน หากไม่ตายมันคงไร้เหตุผลเกินไป
ครืน ครืน ครืน เกิดเสียงอึกทึกดังก้องไปทั่ว ในที่สุดแท่นบูชาที่สูงเท่าภูเขาก็พังทลายกลายเป็นซากปรักหักพัง แต่แสงของดาบเก้าอสูรกายยังคงเปล่งแสงเจิดจรัสออกมาไม่หยุด มันฉีกกระชากท้องฟ้าและแสดงพลังอันยิ่งใหญ่ออกมาให้ประจักษ์
ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่รุนแรงที่สุดของดาบเก้าอสูรกาย
พรึบ!
มีร่างของคนผู้หนึ่งปรากฏตัวออกมาจากอากาศที่ว่างเปล่า เขาเป็นชายร่างสูงสวมเสื้อคลุมยาวและมีกลิ่นอายที่น่าเกรงขามที่ทำให้ทุกคนต้องสยบ ด้านหลังเขามีแสงสีดำเก้าจุดลอยอยู่ด้านหลัง มันไม่ใช่เปลวเพลิง แต่เป็นบางอย่างที่ปลดปล่อยกลิ่นอายแห่งความมืด
“พี่ชาย!” ราชาเก้าเพลิงสวรรค์กล่าวทักทาย
จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์เป็นหนึ่งในสามคนที่มีพลังอำนาจเหนือกว่าเขาในดาวดวงนี้!
ใบหน้าของเขาดูมืดมัวราวกับไม่ใช่ใบหน้าที่แท้จริงและสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เหมือนกับจักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิราชวงศ์ดาราหายนะที่มีเพียงคนแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของนาง
จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์หยุดเคลื่อนไหว ร่างที่สูงใหญ่ของเขาเหมือนกับว่าเขาสามารถแบกรับสวรรค์และปฐพีได้ เมื่อยืนต่อหน้าเขา แม้แต่สวรรค์และปฐพียังดูเล็กไปเลย เขากวาดสายตามองและพูดว่า “ดีมาก ปราณชั่วร้ายในดาบเก้าอสูรกายได้ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างสมบูรณ์แล้ว”
“มันคืออาวุธบรรพบุรุษของตระกูลฉังของข้า มันจะต้องเชื่อมต่อกับสายเลือดตระกูลฉังที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของข้าอย่างแน่นอน เมื่อได้ที่ข้าได้รับมันมา ข้าจะรวมมันด้วยวิธีการลับ แล้วมันก็จะกลายเป็นของข้าอย่างสมบูรณ์”
“พี่ชาย ข้าขอแสดงความยินดีกับท่านด้วย!” ราชาเก้าเพลิงสวรรค์หัวเราะเสียงดัง “ด้ามจับเป็นส่วนที่ง่ายที่สุดที่จะเก็บรวบรวม แล้วหลังจากที่รวบรวมส่วนที่เหลือของดาบอีกสามส่วน ดาบเก้าอสูรกายก็จะฟื้นคืนชีพอีกครั้ง”
“แต่พี่ชาย ดาบเก้าอสูรกายถูกฝังมานานหลายร้อยปี มันเป็นดาบที่ดุร้ายมาก แม้ว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับสายเลือดของท่าน พี่ชายก็ไม่ควรประมาท”
จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์หัวเราะและพูดว่า “เรื่องนั้นข้าทราบดี!” เขาแสดงสีหน้าภาคภูมิใจและพูดต่อว่า “เมื่อใดที่ข้าได้ครอบครองดาบเก้าอสูรกาย ข้าก็จะสามารถทำลายจักรวรรดิราชวงศ์นภาสีครามและจักรวรรดิราชวงศ์ดาราหายนะได้อย่างง่ายดาย แล้วหลังจากนั้นข้าก็จะพาจักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิราชวงศ์ดาราหายนะมาที่พระราชวังของข้า!”
ถึงเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานแค่ไหน เขาก็ยังหมายที่จะครอบครองจักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิราชวงศ์ดาราหายนะ
แม้ว่าเขาจะเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานที่จะกวาดล้างจักรวรรดิราชวงศ์ทั้งสอง แต่ประโยคสุดท้ายก็ได้แสดงให้เห็นเป้าหมายที่แท้จริงของเขา
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เขาจะมีพลังอำนาจมากแค่ไหน เขาก็ยังคงหมกมุ่นอยู่กับจักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิราชวงศ์ดาราหายนะ นี่แสดงให้เห็นว่าจักรพรรดินีมีเสน่ห์มากแค่ไหน
เจ้าโรคจิตเอ้ย!
หลิงฮันแอบด่าสาปแช่งอยู่ในใจ แต่ตอนนี้เขาทำได้แค่จับตาดูเท่านั้น ความรู้สึกที่ไร้สึกพลังอำนาจทำให้เขาไม่พอใจตัวเองเป็นอย่างยิ่ง
“ฮ่าฮ่าฮ่า คงถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะสะสางความบาดหมางกับจักรวรรดิราชวงศ์นภาสีคราม!” ราชาเก้าเพลิงสวรรค์แสดงให้เห็นถึงจิตสังหารของเขา
“ไม่เลว!” จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์แสยะยิ้ม แววตาของเขาเองก็เต็มไปด้วยจิตสังหารที่เดือดพล่าน
แสงดาบยังคงเปล่งประกายเจิดจ้าไปทั่วท้องฟ้า แต่ในตอนนั้นเองแสงที่เปล่งออกมาก็เริ่มมัวหมองและก่อตัวเป็นปราณชั่วร้ายร่างมนุษย์ขนาดใหญ่ มันจ้องมองไปที่จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์และราชาเก้าเพลิงสวรรค์
“พี่ชาย ท่านไปเก็บรวมรวบดาบเก้าอสูรกายได้เลย ส่วนข้าจะจัดการเจ้าตัวนี้ให้ท่านเอง!” ราชาเก้าเพลิงสวรรค์กล่าวและกระโจนออกไป
“ดี!” จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์พึงพอใจและเคลื่อนที่ผ่านมันไปที่ซากปรักหักพังของแท่นบูชา จากนั้นเขาก็โคจรพลังปราณเป็นฝ่ามือขนาดยักษ์เทียบเท่ากับภูเขาและเริ่มขุดดิน
เมื่อปราณชั่วร้ายร่างยักษ์เห็น มันกำหมัดแน่นเพื่อที่จะทุบอีกฝ่าย
“คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้า!” ราชาเก้าเพลิงสวรรค์คำราม