กำเนิดใหม่จากเถ้าถ่านคือทักษะลึกลับประจำตัวของเผ่าวิหคเพลิงอมตะ มีเพียงวิหคเพลิงอมตะที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ที่สุดเท่านั้นถึงจะสามารถฟื้นคืนชีพโดยการกำเนิดใหม่จากเถ้าถ่านได้
แน่นอนว่าหลิงฮันยังห่างไกลกับวิหคเพลิงอมตะที่แท้จริง
แต่เนื่องจากที่นี่คือหอคอยทมิฬที่เขาเป็นผู้กำหนดทุกสิ่ง เมื่อเขาเข้าใจความลึกลับบางส่วนของคัมภีร์สวรรค์ได้เขาจึงกำเนิดใหม่จากเถ้าถ่านได้สำเร็จ
แต่ปัญหาก็คือเขายังไม่เข้าใจหลักการของกำเนิดใหม่จากเถ้าถ่านอย่างสมบูรณ์ เขาจึงเกิดใหม่ด้วยร่างกายของทารก
“บัดซบ เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้?” หลิงฮันมองไปยังแขนและขาอันเล็กจิ๋วของตัวเอง
พลังต่อสู้กับพลังบ่มเพาะของเขายังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ปัญหาก็คือร่างกายในของเขาตอนนี้ที่กลายเป็นเด็กทารก
ไม่รู้ว่าหลิงฮันน้อยของเขาจะยังใช้งานได้อยู่รึเปล่า…
โชคดีที่เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนกับสุ่ยเยี่ยนยวี่ไปยังดินแดนแห่งเซียนแล้ว ไม่งั้นแล้วพวกนางจะไม่ร้องไห้ตรอมใจตายเลยรึไง?
หลิงฮันกล่าวอย่างบูดบึ้ง “หอคอยน้อย ข้าจะกลับคืนร่างเดิมได้อย่างไร?”
“ง่ายมาก เมื่อเวลาผ่านไปอีกสิบเจ็ดสิบแปดปี ร่างของเจ้าก็เติบโตจนเหมือนเดิมเอง” หอคอยน้อยกล่าว แต่คงเพียงคนโง่เท่านั้นที่จะไม่สังเกตว่าน้ำเสียงของมันกำลังกลั้นหัวเราะอยู่
บัดซบ แม้แต่หอคอยก็ยังหัวเราะใส่เขา เห็นได้ชัดว่าสภาพของหลิงฮันตอนนี้น่าอนาถขนาดไหน
แม้ในหอคอยทมิฬจะมีเสื้อผ้าเก็บไว้มากมายแต่ไม่มีแม้แต่ตัวเดียวที่หลิงฮันสามารถสวมได้พอดี เขาต้องฉีกพวกมันเป็นชิ้นๆและนำมาคลุมร่างเอาไว้ก่อน “ไม่มีหนทางอื่นเลยรึ?”
“มีแน่นอน!” ครั้งนี้หอคอยน้อยกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ร่างกายของเจ้ากลายเป็นทารกก็เพราะเจ้ายังไม่รู้แจ้งถึงการกำเนิดใหม่จากเถ้าถ่านอย่างถ่องแท้ เพราะงั้นแล้วตราบที่เจ้าเข้าใจหลักการของมันอย่างแท้จริงเจ้าก็จะคืนร่างกลับเป็นเหมือนเดิมได้”
หลิงฮันรู้สึกโล่งใจและกล่าว “งั้นก็เปิดฝาเตาเลย ข้าจะขัดเกลาร่างกายเดี๋ยวนี้”
“ไม่ได้!” หอคอยน้อยส่ายหน้า “ด้วยสภาพของหอคอยทมิฬในตอนนี้จำเป็นต้องรอเวลาสามเดือนเจ้าถึงจะขัดเกลากายหยาบด้วยเพลิงนิรันดร์ได้อีกครั้ง การขัดเกลาครั้งแรกนี้ใช้เวลาเกินกว่าที่ข้าคาดเอาไว้ทำให้การซ่อมแซมหอคอยทมิฬล้าช้าไปอย่างน้อยสามแสนปี!”
ใบหน้าของหลิงฮันกลายเป็นหน้าเกลียดทันที “เจ้าหมายความว่าข้าต้องอยู่ในสภาพเช่นนี้ไปอีกสามเดือน?”
“สามเดือนเป็นแค่การคาดการณ์ในกรณีที่เจ้าใช้เวลาสั้นที่สุด ถ้าหากครั้งต่อไปเจ้ายังไม่สามารถเข้าใจหลักการณ์ได้อย่างถ่องแท้อีกครั้งเจ้าก็ยังกลับร่างเดิมไม่ได้” หอคอยน้อยกล่าว “ข้าไม่ได้จะดูถูกเจ้านะ แต่ด้วยความสามารถของเจ้าเกรงว่าเจ้าคงต้องผ่านการกำเนิดใหม่จากเถ้าถ่านอย่างน้อยร้อยครั้งเจ้าถึงจะทำความเข้าใจได้อย่างสมบูรณ์”
“ถ้าหากเป็นเช่นนั้น… มันก็ยังต้องใช้เวลาสิบเจ็บถึงสิบแปดปีอยู่ดี สุดท้ายเจ้าก็ต้องรอไปก่อนถึงจะคืนร่างเดิมได้”
เมื่อกล่าวประโยคสุดท้ายจบ หอคอยน้อยก็หัวเราะลั่น
จบสิ้นแล้ว ศักดิ์ศรีที่ข้าสั่งสมมาจบสิ้นแล้ว!
ถ้าหากยังไม่ได้มาพบกับสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์หลิงฮันก็คงไม่รังเกียจที่จะรอคอยสิบเจ็ดถึงสิบแปดปีให้ร่างกายเติบโตไปเอง เพราะอย่างไรบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ระยะเวลาแค่นั้นก็ไม่นับว่ายาวนานอะไร
แต่ตอนนี้เขาพบหน้ากับสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์แล้ว ถ้าเขาไม่ปรากฏตัวให้นางเห็นเลยตั้งสิบเจ็ดสิบแปดปี สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์จะต้องเป็นกังวลแน่นอน บางทีนางอาจจะคิดว่าเขาเสียชีวิตในสนามรบสองดินแดนแห่งนี้ไปแล้วด้วยซ้ำ
หลิงฮันโคจรปราณก่อเกิด ‘พรึบ’ ร่างของเขาค่อยขนาดใหญ่ เมื่อบรรลุระดับพระเจ้าแล้วการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของร่างกายนั้นเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย ภายในพริบตาร่างของก็กลับเป็นเหมือนก่อนหน้านี้ เพียงแต่ไม่ว่าอย่างไรร่างนี้ก็ยังเป็นเพียงของปลอม หากพบเจอกับจอมยุทธที่ระดับพลังสูงกว่าเขาอีกฝ่ายก็สามารถมองเห็นร่างกายที่แท้จริงของเขาได้
โชคดีที่ถึงแม้ระดับพลังของสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์จะสูงกว่าเขาแต่ก็ไม่มากเท่าไหร่
“เม็ดยา… เข้าต้องกินเม็ดยาเพื่อยกระดับพลังให้บรรลุระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุดให้เร็วที่สุด!” หลิงฮันโอดครวญ
เขานำเม็ดยาปราณโลหิตคลั่งออกมายัดเข้าปากและนั่งลงใต้ต้นสังสารวัฏ
ตอนนี้ร่างของเขาถูกสร้างขึ้นมาใหม่ พิษของเสียในร่างจึงไม่ลงเหลืออยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงกินเม็ดยาปราณโลหิตคลั่งได้อีกครั้ง
เขามอบเม็ดยาปราณโลหิตคลั่งให้เจ้ากระต่ายกินเช่นกัน อีกฝ่ายบรรลุระดับสุริยันจันทราแล้ว แถมที่นี่ยังเป็นภายในหอคอยทมิฬที่เขาสามารถช่วยเหลือเจ้ากระต่ายได้หากมันทนรับความรุนแรงของเม็ดยาไม่ไหว
โสมเฒ่ารู้สึกอิจฉา ตัวมันยังไม่ก้าวเข้าสู้ระดับสุริยันจันทราจึงไม่สามารถกินเม็ดยาปราณโลหิตคลั่งได้ ไม่เช่นนั้นร่างของมันคงระเบิดตาย
แต่การบ่มเพาะพลังของมันก็พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วอยู่ดีเนื่องจากในหอคอยทมิฬมีต้นสังสารวัฏ
“พรวด!” เซียนหวู่เซียงที่ลอยอยู่บนก้านของต้นสังสารวัฏเมื่อเห็นหลิงฮันก็หัวเราะลั่นออกมา
เจ้ากระต่ายกับโสมเฒ่ามองไม่ให้การแปลงโฉมของหลิงฮันพวกมันจึงไม่เจ้าใจว่าเซียนหวู่เซียงตลกอะไร
“พี่ชาย ท่านหัวเราะอะไรรึ?” เจ้ากระต่ายสงสัย เมื่อมันรู้ว่าบอลแสงวิญญาณก้อนนี้คือเซียนมันจึงมีท่าทีนับถืออีกฝ่ายเป็นธรรมดา ถ้าหากในอนาคตมันมีเซียนเป็นสหาย ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มันก็ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวนอน
“ห้ามพูด!” หลิงฮันหงุดหงิด เมื่อรู้ว่ายังมีดินแดนแห่งเซียนที่อยู่เหนือขึ้นไปอีก ความเลื่อมใสในตัวตนระดับสร้างสรรพสิ่งของเขาจึงลดลง
“อยู่เงียบกันด้วย ข้าจะบ่มเพาะพลัง!” หลิงฮันกล่าวและนั่งลงเพื่อดูดซับเม็ดยาปราณโลหิตคลั่ง
ในขณะที่กำลังดูดซับเม็ดยาเขาได้พบว่าครั้งนี้แตกต่างกับครั้งก่อน
ครั้งแรกที่เขาดูดซับเม็ดยาปราณโลหิตคลั่งนั้นร่างของเขาแทบจะระเบิด แต่ครั้งนี้ไม่เป็นเช่นนั้น ดูเหมือนว่ากายหยาบของเขาจะมีความสามารถในการต้านทานที่สูงยิ่งขึ้น
นั่นหมายความว่าหลังจากการกำเนิดใหม่จากเถ้าถ่าน กายหยาบของเขาได้พัฒนาขึ้น
“อ้ากกก” ในขณะเดียวกันเจ้ากระต่ายได้ร้องโอดครวญออกมา มันกินเม็ดยาปราณโลหิตคลั่งเข้าไปเช่นกัน ต่อให้หอคอยน้อยควบคุมหอคอยทมิฬเอาไว้ไม่ให้ร่างของเจ้ากระต่ายระเบิดตาย แต่ความเจ็บปวดที่เกินขึ้นก็ยังยากจะทนไหวอยู่ดี
หลิงฮันไม่ร้องโอดครวญแม้แต่นิดเดียว เขาเคยกินเม็ดยาปราณโลหิตคลั่งมาก่อนแล้วแถมกายหยาบของเขาก็ยังแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมทำให้อดทนได้ดีขึ้น
พลังของเขาเพิ่มสูงขึ้นอย่างบ้าคลั่ง และด้วยต้นสังสารวัฏความเข้าใจในอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของเขาก็สูงขึ้นตามมาติดๆ
สามวันถัดมาจู่ๆหลิงฮันก็ลืมตาขึ้น
ระดับสุริยันจันทราขั้นต้นชั้นปลาย!
ยอดเยี่ยม… นอกจากที่ร่างกายของเขาถูกย่อส่วนแล้ว ทุกอย่างทำให้เขาพึงพอใจอย่างมาก
“เห้อ!” หลิงฮันถอนหายใจ เขายังไม่คุ้นชินกับมือและเท้าที่เล็กจิ๋วเช่นนี้เสียที
“แถมดูเหมือนว่าส่วนนั้นก็ถูกย่อขนาดลงไปด้วย” หลิงฮันก้มมองน้องชายของตน “หากมีสตรีมายั่วยวนข้าตรงหน้า ข้าจะสามารถพิชิตพวกนางได้อย่างไร?”
เขาถอนหายใจและตัดสินใจออกไปด้านนอก ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องรออีกสามเดือนถึงจะขัดเกลากายหยาบด้วยเพลิงนิรันดร์ได้อีกครั้ง
“อะไรกัน เหตุใดข้าถึงดวงดีขนาดนี้?” ทันทีที่ออกจากหอคอยทมิฬ หลิงฮันก็มองเห็นผลึกหินขนาดเท่าฝ่ามือตกอยู่ที่พื้นด้านหน้าตัวเขา
นี่คือ… ศิลาวิญญาณปฐพี!