Alchemy Emperor of the Divine Dao – ตอนที่ 1322

“ข้าไม่คิดเลยว่าจะมีสถานที่แบบนี้อยู่ในดาวดวงนี้” ฉือหวงหัวเราะ จากนั้นชั่วครู่เขาก็เรียกพาหนะออกมาจากด้านหลัง

พาหนะที่เขานำออกมาจะเรียกว่ารถม้าคงไม่ค่อยเหมาะสม จะดีกว่าถ้าเรียกเกวียน เพราะมันถูกลากโดยอสูรกระทิงทองม่วง

มันคือพาหนะที่ทรงพลังที่สุดของฉือหวง ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาจากวัสดุระดับเซียนทั้งหมด มันฟุ่มเฟือยมากจนถึงขั้นอธิบายไม่ได้

“พวกเจ้าทุกคน อย่าพูดให้เสียเวลาและรีบขึ้นมาซะ!” ฉือหวงกล่าวและกระโดดขึ้นไปบนที่นั่งคนขับ แล้วร่างของเขาก็หดเหลือสามนิ้วตามกระบวนการเมื่อขึ้นไปนั่ง

“เจ้าสามารถขยายเกวียนของเจ้าให้ใหญ่กว่านี้ได้หรือไม่?” เป่ยหวงกล่าวอย่างไม่พอใจ

“มันถูกสร้างขึ้นมาจากวัสดุศักดิ์สิทธิ์ ข้าไม่อาจควบคุมมันได้” ฉือหวงหยักไหล่ ” เจ้าจะขึ้นมาหรือไม่?”

ทุกคนมองหน้ากัน ก่อนที่จะกระโดดขึ้นไปบนเกวียนและร่างของพวกเขาก็หดเล็กลงเช่นกัน มิฉะนั้นพวกเขาจะไม่สามารถขึ้นไปบนเกวียนได้และเหยียบมันแทน

เหยียบย่ำอุปกรณ์ระดับเซียน? หน่ำซ้ำตั้งสองชิ้น มันจะเป็นการรนหาที่ตายหรือไม่?

โดยเฉพาะอย่างยิ่งอสูรกระทิงม่วงทอง เมื่อใดที่ปัญญาเปิด มันจะแข็งแกร่งเท่าระดับเซียน!

แล้วใครจะกล้าขี่มัน

โชคดีที่การลดขนาดร่างกายชั่วคราวเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับตัวตนระดับพระเจ้าอย่างพวกเขา พวกเขาหดตัวเหลือสามนิ้วและยืนอยู่บนเกวียน

บนหลังเกวียนมีคนไม่มากนัก นอกจากฉือหวงกับเป่ยหวงแล้ว คนที่โดยสารขึ้นมาด้วยคือหลิงฮัน สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งวิหคอมตะ อู๋เมี่ยน หยางหลิน เย่วหยิง แม่นางหยุนและโจวเฉวียน ส่วนคนอื่นๆไม่มีสิทธิ์ขึ้นมา

แม้ว่าเย่วหยิงจะไม่ได้เป็นหนึ่งในเก้าราชา แต่ความแข็งแกร่งของนางก็เป็นที่ประจักษ์ของทุกคน ส่วนโจวเฉวียนเองก็เป็นจอมยุทธระดับดาราที่ฉือหวงไม่อาจมองข้ามได้

แน่นอนว่าฉื้อหวงจี่ไม่มีทางได้ขึ้นเกวียน นั่นเป็นเพราะอีกฝ่ายเป็นจอมยุทธจากดินแดนใต้พิภพ แม้ว่าตอนนี้จะไม่ได้ต่อสู้กัน แต่ก็ไม่อาจรักษาสันติภาพดังกล่าวได้นาน

เกวียนเริ่มขยับ

ในไม่ช้าพวกเขาก็ไปอยู่ในระยะไกลและทิ้งกลุ่มฝูงชนไว้ด้านหลัง ความเร็วของเกวียนคันนี้รวดเร็วมาก แม้แต่ราชาอย่างฉื้อหวงจี่และถ้วป้าตงก็ตามไม่ทัน

แต่หลังจากที่พวกเขาเดินทางได้อย่างน้อยครึ่งวัน ด้านหน้าของพวกเขาก็ยังคงเป็นพื้นที่ราบที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่ความว่างเปล่า ราวกับไม่มีที่สิ้นสุด แต่พวกเขาก็ไม่เป็นกังวล เพราะยิ่งกว้างใหญ่แค่ไหน ความลับที่ซ่อนอยู่กันอาจจะน่าทึ่งมากขึ้นเท่านั้น

ปัง!

เกวียนหยุดกระทันหัน ราวกับว่ามันชนเข้ากับอะไรบางอย่างและเกือบจะล่ม โชคดีที่มันถูกสร้างขึ้นมาจากวัสดุระดับเซียน ทำให้มันมีความแข็งและมั่นคงเป็นอย่างมาก

แต่มันชนกับอะไร?

ต้องทราบก่อนว่าการที่ถูกชนโดยอสูรกระทิงม่วงจะต้องถูกบดขยี้ แรงปะทะของมันเทียบได้กับการโจมตีของจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงสุด

ฉือหวงหยุดเกวียนและหันไปมองด้านหลัง

“เลือด!” เป่ยหวงอุทาน

เมื่อทุกคนหันไปมอง ทุกคนก็ต้องใช้มือปิดปากปิดจมูกทันที  มันมีกลิ่นเหม็นเน่าลอยโชยมาทางพวกเขา ราวกับว่าเป็นกลิ่นศพเน่าหลายร้อยปี

แคร๊ก พื้นดินปรากฏรอยราวอย่างกะทันหัน ทันใดนั้นเองก็เกิดรอยร้าวเป็นใยแมงมุม พื้นดินสั่นไหวเลกน้อย และมีมือโผล่ขึ้นมา

มือของมันเต็มไปด้วยหนองดำและส่งกลิ่นที่น่ารังเกียจ

ทันใดนั้น มือก็ดันร่างขึ้นมาจากพื้นดินและสิ่งชั่วร้ายที่น่ารังเกียจที่หาที่เปรียบมิได้ก็ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน ซึ่งกลิ่นอายของมันคล้ายคลึงกับสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายที่ถูกจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์สี่คนฆ่าก่อนหน้านี้ มันก็เป็นระดับวารีนิรันดร์เช่นกัน

สิ่งมีชีวิตชั่วร้ายจ้องมองทุกคนที่อยู่บนเกวียนและทันใดนั้นเองมันก็อ้าปากและพยายามดูดทุกคนเข้ามา ลมดูดที่รุนแรงเริ่มก่อตัวขึ้น แต่โชคดีที่ว่ามันดูด ถ้ามันหายใจออก กลิ่นเหม็นเน่าของมันอาจทำให้หลายคนเป็นลม

ลมดูดที่รุนแรงเริ่มส่งเสียงกรีดร้อง แต่ทุกคนบนเกวียนก็ยังยืนอยู่ที่เดิม

เกวียนนี้ไม่ใช่เกวียนธรรมดา แต่สร้างขึ้นมาจากวัสดุระดับเซียนสองชิ้น แล้วสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายระดับวารีนิรันดร์จะสั่นคลอนได้อย่างไร?

“ฆ่ามัน!” ฉือหวงตะโกนและกระโดดลงจากเกวียน ทันใดนั้นเองเขาก็พุ่งเข้าไปโจมตี พร้อมกับอสูรกระทิงทองม่วงและแสงสีม่วงก็ถูกยิงออกไปใส่สิ่งมีชีวิตชั่วร้าย

แสงมีความรวดเร็วมากและทะลวงผ่านหน้าอกของสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายไปจนกลายเป็นรู

แต่สิ่งมีชีวิตชั่วร้ายดูเหมือนจะไม่ได้รับความเสียหายมากนัก จากนั้นมันก็เริ่มส่งเสียงกรีดร้องและใช้มือที่ใหญ่ยักษ์ของมันตบไปที่เกวียน

ตู้ม!

มือยักษ์ตบไปที่เกวียน แต่เกวียนมีม่านพลังที่ป้องกันการโจมตีของมัน ด้านในเกวียนทุกคนทุกคนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าฝ่ามือของมันประกอบด้วยซากศพถึงสิบเจ็ดร่าง บางร่างไร้หัว บางร่างไร้แขนขา และมีหนองในสีแดงดำ ซึ่งทำให้ทุกคนอย่างจะอาเจียนออกมา

ถ้าเกวียนไม่มีม่านพลัง ทุกคนคงถูกบดขยี้ภายใต้ฝ่ามือของมันไปแล้ว ยกเว้นเป่ยหวง ในขณะเดียวกันเป่ยหวงและอสูรกระทิงม่วงก็โจมตีใส่สิ่งมีชีวิตชั่วร้ายอีกครั้ง

เมื่อสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายได้รับความเสียหายมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งก้าวร้าวมากขึ้นเท่านั้น  ด้วยการโจมตีของอสูรกระทิงม่วง ทำให้มันได้รับบาดเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่า และยังคงโจมตีอย่างไม่หยุดหย่อน

เมื่อสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายได้รับบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายก็ถูกบดขยี้กลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและกลายเป็นซากศพอีกครั้ง ถือว่ากำจัดมันได้สำเร็จ

เป่ยหวงรีบขับเกวียนออกไปจากที่นี่ทันที กลิ่นเหม็นเน่าของมันนั้นรุนแรงมาก

ตลอดที่เดินทาง พวกเขาถูกสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายโจมตีหลายครั้ง แต่ความแข็งแกร่งของพวกมันแต่ละตัวนั้นไม่เท่ากัน บางตัวแข็งแกร่งเท่าจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ แต่บางตัวก็แค่แข็งแกร่งเท่าจอมยุทธระดับดาราเท่านั้น

หลังจากที่เดินทางมาเกือบครบวัน เบื้องหน้าของพวกเขาก็ปรากฏหมอกขึ้นอย่างกะทันหันและไม่มีใครสามารถมองทะลุหมอกนี้ไปได้

เมื่อฉือหวงหยุดเกวียน ทุกคนก็ดูลังเล

จะมุ่งหน้าต่อหรือเดินทางกลับ?

ที่นี่มันแปลกประหลาดมาก ถ้าพวกเขาเดินทางหน้า หนทางข้างหน้าอาจมีอันตรายมากยิ่งขึ้น

“ตราบใดที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตระดับสร้างสรรพสิ่งอยู่ที่นี่ ก็จะไม่มีอะไรหยุดยั้งเกวียนนี้ได้!” ฉือหวงกล่าวด้วยท่าทางมั่นใจ

ทุกคนมองหน้ากัน จากนั้นก็พยักหน้าอย่างช้าๆ

“มุ่งหน้าต่อ!”

Alchemy Emperor of the Divine Dao

Alchemy Emperor of the Divine Dao

อ่านนิยายจีนAlchemy Emperor of the Divine Dao เรื่องย่อ หลิงฮันสุดยอดจอมยุทธ์และจักรพรรดิปรุงยาเพียงหนึ่งเดียว เสียชีวิตลงในการบรรลุสู่การเป็นเทพเจ้า ในหนึ่งหมื่นปีต่อมาด้วยคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ เขาได้เกิดใหม่ในร่างของเด็กหนุ่มที่ชื่อเหมือนกัน จากนั้นทั้งสายลมและเมฆจะต้องแหวกออกเมื่อเขาได้ต่อกรกับเหล่าอัจฉริยะในยุคใหม่นับไม่ถ้วน เส้นทางในการเป็นตำนานของเขาได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง ในทุกยุคสมัย ภายใต้สวรรค์ ข้าแกร่งที่สุด!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset