ขนทั่วร่างของหลิงฮันลุกชูและรู้สึกสิ้นหวัง
เจ้าของเสียงคือชายชราที่มีเพียงผิวหนังไม่ผิดแน่ ขนาดเขาหนีมาไกลขนาดนี้แล้วก็ยังไม่สามารถหลบหลีจากตัวตนระดับนั้นได้
ชายชราจ้องมองไปยังผลต้นกำเนิดวิถีสวรรค์ด้วยสายตาระลึกถึงความหลัง
หลังจากชายชราจ้องมองอยู่ชั่วครู่ จู่ๆเขาก็ก้าวเดินไปด้านหน้าและเอื้อมมือไปคว้าผลต้นกำเนิดวิถีสวรรค์
ไม่ได้การแล้ว!
หลิงฮันรีบเผ่นหนี สมุนไพรเซียนต้นนี้ถูกคุ้มกันเอาไว้ด้วยรูปแบบอาคมสังหารใต้หล้า แม้แต่ราชาเซียนก็ยังถูกบดขยี้หากสัมผัสกับมัน หากเขาได้รับผลกระทบไปด้วยคงตกตายในพริบตาแน่นอน
‘ครืนนน’ รูปแบบอาคมสังหารถูกกระตุ้นและปลดปล่อยพลังทำลายล้างเข้าใส่ชายชรา คลื่นแสงนับร้อยล้านคลื่นระเบิดอย่างต่อเนื่อง คลื่นแสงแต่ละคลื่นพลังทำลายเทียบเท่ากับการโจมตีของเซียนระดับสูง ด้วยจำนวนการโจมตีนับร้อยล้านคลื่นต่อให้เป็นราชาเซียนก็ต้องสิ้นชีพ
มีเพียงราชาเซียนที่ขัดเกลาพลังขนบรรลุขั้นสมบูรณ์เท่านั้นถึงจะมีโอกาสรอด
‘ตูม ตูม ตูม’ คลื่นแสงทำลายล้างระเบิดออกนับไม่ถ้วน ‘ตุบ’ ร่างหนึ่งลอยกระเด็นออกมาก่อนจะตกลงสู่พื้นด้วยสภาพแบนราบคราบจั๊กจั่น
ร่างแบนนั้นคือผิวหนังมนุษย์!
รูปแบบอามคมทำลายล้างจู่โจมเสร็จสิ้นและกลับสู่ความสงบ
‘พรึบ’ ผิวหนังมนุษย์ราวกับว่าถูกสูบลมเข้าไปและพองนูนอย่างรวดเร็วก่อนจะคืนสภาพกลับเป็นชายชราอีกครั้ง ใบหน้าของเขามึนงงราวกับไม่รู้ว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น
ปากของหลิงฮันกระตุก รูปแบบอาคมสังหารใต้หล้านั้นสามารถสังหารได้แม้แต่ราชาเซียน แต่ชายชรากับเพียงแค่ถูกเป่าลอยกระเด็นออกมาโดยไม่บาดเจ็บแม้แต่นิดเดียว
หากชายชรามีพลังระดับสร้างสรรพสิ่งจริงเขาก็ต้องขัดเกลาพลังบ่มเพาะจนบรรลุขั้นสมบูรณ์! หรือไม่ก็… อาจจะแข็งแกร่งกว่านั้น
ระดับโลกียนิพพาน!
“สุนัขของข้า เจ้าเห็นสุนนัขของข้ารึไม่?” ชายชราเอ่ยถามหลิงฮันอีกครั้ง
หลิงฮันรีบส่ายหัวและเดินเข้าทางขึ้นชั้นหก ตอนนี้เขาคิดอยู่เพียงอย่างเดียวคือต้องสำเร็จเขตแดนลี้ลับให้ครบเก้าชั้นและเก็บสมุนไพรให้มากที่สุด
การทดสอบครั้งนี้คือการทดสอบปรุงยา
ตำราเม็ดยาปรากฏออกมา การหลอมจะมีโอกาสล้มเหลวเพียงสิบครั้ง หากล้มเหลวทั้งสิบครั้งแล้วก็จะถูกขับไล่ออกจากเขตแดนลี้ลับไปทันที ยิ่งล้มเหลวน้อยและทำเวลาได้ดีก็จะได้ระยะเวลาสำรวจชั้นต่อไปมาก
หลังจากหลิงฮันหยิบตำราเม็ดยามาดู เขาก็พบว่าเม็ดยาที่ต้องหลอมเป็นเพียงเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าเท่านั้นซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก แต่เม็ดยาชนิดนี้เขาไม่เคยเห็นและเม็ดยาก็เป็นเม็ดยาที่แปลกประหลาดมาก
ด้วยศักยภาพของจักรพรรดิแห่งศาสตร์ปรุงยา ต่อให้เม็ดยาจะแปลกประหลาดเท่าไหร่ แต่หากเป็นเพียงเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ระดับห้า อย่างมากเขาแค่ลองผิดลองถูกเพียงสองสามครั้งก็หลอมได้สำเร็จ เพียงแต่ว่าหลิงฮันไม่คิดจะผลีผลามและหลับตานึกถึงชนิดของสมุนไพรที่จำเป็นอย่างถี่ถ้วน
เวลาผ่านไปพอสมควรหลิงฮันได้ลืมตาขึ้น แม้จะยังไม่ได้ลองหลอมแต่เขาก็มั่นใจว่าเพียงแค่หลอมครั้งเดียวเขาก็สามารถหลอมเม็ดยาชนิดนี้ให้มีคุณภาพยอดเยี่ยม
เนื่องจากเขาจดจำคุณสมบัติของสมุนไพรได้ทุกชนิด เขาจึงสามารถจำลองขั้นตอนการหลอมสมุนไพรเป็นเม็ดยาได้
เขาเปิดเตาลงมือหลอมเม็ดยาจนเสร็จสิ้น สมุนไพรแต่ละชนิดถูกชำระล้างด้วยเพลิงจนรีดเค้นประสิทธิภาพออกมาจนสูงสุดโดยไม่สูญเสียแก่นแท้ใดๆไป
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นเขาก็ยังได้เวลาเพิ่มขึ้นมาเพียงเก้าวันเท่านั้น
เห็นได้ชัดว่าเม็ดยาที่เขาหลอมออกมายังไม่ได้มีคุณภาพสมบูรณ์ที่สุดจึงไม่ได้เวลาเพิ่มสิบวัน
หลิงฮันไม่ได้รู้สึกผิดหวังอะไร เพราะอย่างไรเขาก็ใช้เวลาหลอมไปเพียงครึ่งวันเท่านั้น ใครใช้ให้เขาไม่เคยหลอมเม็ดยาชนิดนี้มาก่อนล่ะ?
ห้องหินพังลงมาพร้อมกับทางเข้าสู่ชั้นที่หกได้ปรากฏขึ้นด้านหน้าเขา
ชั้นที่หกเป็นโลกแห่งโลหะที่มีแสงสว่างสีทองและสีเงินส่องประกายไปทั่วพื้น ไม่ว่าที่ไหนก็สามารถมองเห็นภูเขาทองคำและภูเขาเงิน หากมนุษย์ทั่วไปมาที่นี่พวกเขาจะต้องตาลุกวาวแน่นอน
แม้แต่หลิงฮันก็ยังแสดงสีหน้าดีใจ ที่ชั้นนี้เป็นไปได้ว่าเขาจะหาแร่โลหะระดับสูงพบ
“สุนัขของข้า เจ้าเห็นสุนัขของข้ารึไม่?” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น ชายชราที่ร่างกายมีแต่ผิวหนังปรากฏขึ้นด้านหลังหลิงฮันอีกครั้ง
พอเสียที่เถอะ ทำไมเจ้าต้องเพ่งเล็งข้าด้วย?
หลิงฮันกลายเป็นไร้คำพูดเมื่อต้องถูกผิวหนังมนุษย์เดินได้ไล่ตามไปทุกที่ เขาเกิดความคิดที่จะนำอีกฝ่ายเข้าไปในหอคอยทมิฬ แต่หากทำเช่นนั้นไม่มีอะไรมารับประกันว่าจะทำได้สำเร็จ
หากล้มเหลวแล้วชายชรากลายเป็นศัตรูของเขาล่ะก็คงไม่ใช่เรื่องสนุกแน่
เช่นนี้ในเมื่อชายชายจะตามรังควานเขาก็คงต้องปล่อยไป
“ไม่เห็น!” หลิงฮันกล่าวตอบ เขาสะบัดตัวออกสำรวจเก็บเกี่ยวสมุนไพร
“บนร่างของเจ้ามีกลิ่นอายที่คุ้นเคย” ชายชรากล่าวอีกครั้งและไล่ตามเขามา
ตลอดทางชายชราเอาแต่ก่อกวนเขาไม่หยุด เขาเอาแต่ถามแต่ว่าเห็นสุนัขของข้ารึไม่กับเอาแต่บอกว่าบนร่างของหลิงฮันมีกลิ่นอายที่เขาคุ้นเคย เขาทำแบบนี้วนไปมาโดยไม่เบื่อ
หลิงฮันรู้สึกเหนื่อยมากที่ต้องตอบคำถามเดิมซ้ำไปซ้ำมาหลายพันครั้ง เขาพยายามอดกลั้นเพื่อไม่ให้ตนเองบ้าคลั่ง
แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย เมื่อมีตัวตนที่แข็งแกร่งเช่นชายชราตามมาด้วย สัตว์อสูรที่พบเจอต่างก็หวาดกลัวและเผ่นหนีกันหมดทำให้หลิงฮันสามารถเก็บเกี่ยวสมุนไพรได้อย่างง่ายดาย แต่ปัญหาก็ยังมีอยู่คือเมื่อใดที่ชายชราเห็นสมุนไพรระดับสูง เขาจะรีบพุ่งไปถอนสมุนไพรทันที
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้หลิงฮันไม่รู้จะพูดอะไร ตลอดทางสมุนไพรระดับสูงที่สุดที่เขาเก็บเกี่ยวได้ก็คือสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ระดับสิบ ส่วนระดับที่สูงกว่าถูกชายชราถอนออกมากินจนหมด
หลังจากสำรวจชั้นนี้จนพอใจ หลิงฮันก็มาถึงบริเวณลึกที่สุดของชั้นหก
วิหารจิตวิญญาณทารก (子心宫)
หลิงฮันค่อนข้างประหลาดใจที่พลังของอักษรทั้งสามยังไม่เลือนราง แต่ในขณะที่เขาคิดจะดูดพลังของอักษรเหล่านั้นเขากลับพบว่าไม่สามารถทำได้
ชายชราเองก็เลียนแบบหลิงฮัน แต่สิ่งไม่คาดคิดคืออักษะทั้งสามส่องประกายและพลังงานลึกลับก็ถูกดูดเข้าไปในร่างของชายชราโดยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ชายชราแข็งแกร่งเกินไป สำหรับเขาพลังเล็กน้อยเช่นนี้ก็เปรียบเสมือนกับเม็ดฝนที่หยดลงมหาสมุทร
ช่างเสียของ!
หลิงฮันหน้าบูดบึ้งทันที เจ้าแข็งแกร่งขนาดนั้นแล้วจะยังแย่งชิงพลังกับข้าเพื่ออะไร
“สุนัขของข้า เจ้าเห็นสุนัขของข้ารึไม่?” ผ่านไปครู่หนึ่งชายชราก็เปิดปากพูดจนหลิงฮันหมดอารมณ์
ตอนนี้หลิงฮันยิ่งรู้สึกสงสัยขึ้นไปอีก สุนัขแบบใดกันที่ชายชราทำหายและไม่อาจลืมเลือนได้แม้จะตายไปแล้ว
ผลต้นกำเนิดวิถีสวรรค์ของชั้นที่หกปรากฏตรงหน้าอีกครั้ง มันยังคงมีบางสิ่งบางอย่างผสานเอาไว้เช่นเคย
ชายชราเดินเข้าไปใกล้อย่างไร้ความกลัว รูปแบบอาคมสังหารถูกกระตุ้นแต่เขาก็ยังไร้บาดแผลและลุกขึ้นมาถามหลิงฮันถึงสุนัขของตน
เจ้าจะเปลี่ยนคำพูดหน่อยไม่ได้รึไง?
การทดสอบของชั้นหกคือการประกอบสมุนไพรซึ่งง่ายมากสำหรับหลิงฮัน เขาทดสอบสำเร็จและได้รับเวลาเพิ่มมาอีกสิบวันพร้อมกับตำราเม็ดยายี่สิบชนิด