หากมองให้ดี สัตว์อสูรตนนี้ก็คือสุนัขจริงๆ มันคือสุนัขตัวดำที่ไม่รู้ว่ามีขนาดใหญ่กว่าสุนัขธรรมดาที่เท่า
เมื่อมือของชายชราสัมผัสกับสุนัข แสงสว่างก็ส่องประกายออกมา ร่างของสุนัขสั่นสะท้านเล็กน้อยก่อนจะลืมตาจ้องมองชายชรา
“นี่มันเรื่องบัดซบอะไรกัน!” สุนัขตัวดำขนาดมหึมามองชายชราและกระโดดขึ้นจากพื้นด้วยความตกใจ แต่ด้วยพื้นที่อันคับแคบของชั้นที่เก้า ร่างของมันจึงกระแทกเข้ากับขอบเขตแดนลี้ลับและกระเด้งกลับมา
“สุนัขของข้า!” ชายชรายังคงเอื้อมมือออกไปหาสุนัขตัวดำ
“ผีหลอก! ช่วยข้าด้วย!” สุนัขตัวดำยักษ์วิ่งหนีไปรอบชั้นเก้า แต่ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่โตของมันกับพื้นที่ที่มีจำกัดมันก็วิ่งวนกลับมาหาชายชรา
“จงย่อ!” ร่างของสุนัขตัวดำยักษ์สั่นสะท้าน ทันใดนั้นร่างกายของมันก็หดตัวลงจนมีขนาดเท่ากับสุนัขทั่วไป ขนทั่วร่างของมันตั้งชันและวิ่งหลบหนีชายชรา
หลิงฮันอึ้งจนพูดๆไม่ออก ที่ชายชราเอ่ยถามถึงสุนัขของข้าซ้ำไปซ้ำมา แท้จริงแล้วกลับมีสุนัขอยู่ที่นี่จริงๆ
ชายชราเคลื่อนที่ไล่ตามสุนัข สำหรับเขาที่เชี่ยวชายอำนาจแห่งกฎเกณฑ์มิติเพียงแค่ก้าวไม่กี่ก้าวไล่ตามสุนัขตัวดำได้ทันและยื่นมือออกไปเพื่อคว้าหางของมัน
“ช่วยด้วย!” สุนัขตัวดำมองเห็นหลิงฮัน มันรีบพุ่งตัวเข้าหาเขาทันที
ชายชราปลดปล่อยจิตสังหารออกมา “เจ้ากล้าขโมยสุนัขของข้า?” เบ้าตาของเขามีโลหิตไหลออกมาราวกับเป็นน้ำตา ดูแล้วน่าขนลุกเป็นอย่างมาก
ขโมยน้องสาวเจ้าสิ ข้าไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย!
หลิงฮันรีบถอยห่างจากสุนัขตัวดำและเผ่นหนี
สุนัขตัวดำเองก็เจ้าเล่ห์เป็นอย่างมาก ไม่นึกว่ามันจะวิ่งไล่ตามหลิงฮันมาด้วย
“เจ้าสุนัขบัดซบ เจ้าจะตามข้ามาทำไม?” หลิงฮันโอดครวญ
“คืนสุนัขของข้ามา!” โลหิตไหลจากดวงตาของชายชราไม่หยุด น้ำตาโลหิตของเขาไหลนองท่วมจนแทบจะกลายเป็นทะเลสาป หากปล่อยไว้เช่นนี้มันจะต้องกลายเป็นมหาสมุทรในอีกไม่ช้าแน่นอน
“สุนัขบัดซบ ชายชรานั่นคือเจ้านายของเจ้า ทำไมยังไม่รีบกลับไปหาเขาอีก” หลิงฮันกล่าว
“เจ้าน่ะสิตัวบัดซบ ตระกูลของเจ้าคือตัวบัดซบ! ท่านสุนัขไม่รู้จักสัตว์ประหลาดที่มีแต่ผิวหนังเช่นนั้น!” สุนัขตัวดำร้องโอดครวญในขณะที่เผ่นหนีอย่างด้วยความเร็วสูง
สุนัขตัวนี้น่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก พลังของมันคือระดับดาราแต่ความเร็วกลับไม่ด้อยไปกว่าหลิงฮัน
“แง่งง” สุนัขตัวดำอ้าปากกัดข้อเท้าของหลิงฮัน “หืม นี่เจ้าเป็นตัวอะไรกัน ทำไมร่างกายถึงแข็งแกร่งเหมือนกับแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้?”
หลิงฮันกัดฟัน กายหยาบของเขาไร้เทียมทานก็จริง แต่สุนัขตัวนี้ไม่รู้ว่ามันไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนถึงได้กัดจนทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดได้ “สุนัขบัดซบ ปล่อยปากของเจ้าเดี๋ยวนี้!”
“แง่งๆๆ ท่านสุนัขจะสังหารเจ้า ข้าจะกัดเจ้าให้ตาย!” สุนัขตัวดำเจ้าคิดเจ้าแค้นมาก
“สุนัขบัดซบ อย่ากัดข้า ชายชราจะไล่ตามมาแล้ว!” หลิงฮันพยายามสะบัดสุนัขตัวดำออกจากขา สุนัขตัวนี้หนักเป็นอย่างมากซึ่งส่งผลต่อความเร็วของเขา แต่แรงกัดของมันเองก็หนักหน่วงจนเขาไม่สามารถสลัดมันทิ้งได้
“ชดใช้ที่ด่าท่านสุนัขมาเป็นแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์หมื่นก้อนแล้วท่านลุงสุนัขผู้นี้ยอมปล่อย” สุนัขตัวดำกล่าว
“ไสหัวไป!”
หลิงฮันคิดว่าตัวเขาหน้าด้านมากแล้ว แต่เมื่อเทียบสุนัขตนนี้แล้วเขาถือว่าด้อยไปเลย
น้ำตาโลหิตของชายชราก่อให้เกิดเป็นทะเลสาบจำนวนมาก ทะเลสาปแต่ละแห่งเชื่อมต่อกันจากทะเลสาปขนาดเล็กกลายเป็นทะเลสาปขนาดใหญ่และในที่สุดทั่วทั้งชั้นเก้าก็จะค่อยๆกลายเป็นมหาสมุทรโลหิต
ทะเลสาบโลหิตน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก หลิงฮันไม่กล้าแม้แต่จะเอาเท้าลงไปสัมผัส เขาสัมผัสได้ว่าอำนาจของทะเลสาปสามารถกัดกร่อนกายหยาบของเขาให้ละลายได้ในพริบตา
เขาเหาะเกินอยู่บนท้องฟ้า แต่น้ำหนักอันมหาศาลของสุนัขตัวดำทำให้เขารู้สึกหนักหน่วงราวกับกำลังแบกภูเขา
“สุนัขบัดซบ อย่าหาว่าข้าโหดร้ายแล้วกัน” หลิงฮันปล่อยหมัดออกไปด้วยอำนาจทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์
“สัตว์ประหลาด!” สุนัขตัวดำหวาดกลัวจนเผลอปล่อยปากออกจากขาหลิงฮัน แม้ตัวมันจะหนังหนาแค่ไหนก็ยังหวาดกลัวต่อทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์
เป็นไปได้อย่างไรที่มนุษย์จะใช้อำนาจแห่งสวรรค์ได้หากไม่ใช่สัตว์ประหลาด
หลิงฮันโคจรย่างก้าวไล่ตามดาราและพยายามอยู่ในห่างจากสุนัขตัวดำให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากหนีไม่พ้นจริงๆเขาก็จะหลบเข้าไปในหอคอยทมิฬ
สุนัขตัวดำไม่ยอมแพ้ มันยังคงไล่ตามหลิงฮันไม่ปล่อย ด้านหลังของพวกเขาทั้งสองคือชายชราที่ค่อยๆใกล้เข้ามา
ทะเลสาบโลหิตทุกแห่งผสานรวมเข้าด้วยกันจนปกคลุมไปทั่วทั้งชั้นที่เก้า
ชายชราแข็งแกร่งเกินไปขนาดที่ว่าแม้แต่วิหารก็ไม่สามารถต้านทานพลังของเขาได้ มหาสมุทรโลหิตที่พลุกพล่านได้กัดกร่อนวิหารอย่างรวดเร็ว
“ถึงเวลา…แล้วงั้นรึ?” เสียงราวกับเด็กน้อยดังขึ้นจากความว่างเปล่า
ชายชราหยุดแน่นิ่งไม่ขยับ ขนทั่วร่างของสุนัยสีดำตั้งชัน สีหน้าของหลิงฮันเปลี่ยนเป็นบูดบึ้ง เขารับรู้ได้ว่าเขาถูกลากเข้ามาพัวพันกับบางสิ่งที่เหลือเชื่อเข้าอีกแล้ว
ทำไมต้องเป็นเขาด้วย?
แสงสว่างเจิดจ้าส่องออกมาจากวิหาที่ถูกกัดกร่อน มหาสมุทรโลหิตค่อยๆสลายหายไปจนเห็นพื้นดินอีกครั้ง
“เจ้าเป็นใคร?” ชายชราเอ่ยถาม
“เจ้าควรถามว่า ‘ข้าเป็นใคร’ มากกว่า” เสียงของเด็กน้อยกล่าว น้ำเสียงของเขานั้นองอาจราวกับเป็นพระเจ้าผู้อยู่เหนือสรรพสิ่ง
“ข้าเป็นใคร?” ชายชราที่มีเพียงผิวหนังกล่าว
“เจ้าคือผิวหนังชีวิตที่ห้าของข้า” เสียงของเด็กน้อยกล่าว แต่เมื่อหลิงฮันได้ยินเช่นนั้นเขาก็เกิดความหวาดกลัวทันที
หลิงฮันคิดว่าชายชราพบเจอกับศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวจนถูกถลกหนังออกมา แต่ที่จริงแล้วเจ้าของร่างกลับเป็นฝ่ายถลกหนังของตนเองออกมา แล้วที่บอกว่าชีวิตที่ห้า… หรือว่าคนคนนี้จะมีชีวิตมาแล้วถึงห้าชาติภพ?
หรือว่าถ้ำจ้าวสมุนไพรทั้งเก้าชั้นจะเป็นเขตแดนลี้ลับที่คนคนี้สร้างขึ้นมา?
ผลต้นกำเนิดวิถีสวรรค์ถูกผสานเอาไว้ด้วยบางสิ่งบางอย่าง นั่นอาจจะเป็นร่างกายหรือวิญญาณของคนผู้นี้?
สัตว์ประหลาดแบบใดกำลังจะเกิดขึ้นบนโลกกันแน่?
“ที่แท้ก็… เป็นเช่นนั้น!” ชายชราที่มีแต่ผิวหนังพึมพำ เขานั่งขัดสมาธิพร้อมกับร่างกายได้ส่องแสงสว่างออกมาราวกับกำลังสู่สุขคติ
ก่อนหน้านี้ชายชราติดอยู่ในห่วงที่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครและต้องการตามหาสุนัข และตอนนี้เมื่อเขาหาสุนัขพบแล้วแถมรู้ว่าตนเองเป็นใครห่วงที่เหนี่ยวรั้งเขาไว้ก็หมดสิ้น ดังนั้นในฐานะที่เป็นคนตายเขาก็ต้องกลับสู่วัฏจักรของโลก เพราะอย่างไรเขาก็ไม่ได้มีชีวิตอยู่แล้ว
หลิงฮันตกตะลึง ชายลึกลับผู้นี้เป็นไปได้ว่าจะมีชีวิตมาแล้วถึงเก้าชีวิต แต่หากเป็นเช่นนั้นเขาไปหาดอกวิญญาณอมตะมากมายขนาดนั้นมาได้อย่างไรถึงสามารถคืนชีพได้หลายต่อหลายครั้ง?
“ฮ่าๆ หนุ่มน้อย เจ้าคิดเยอะเกินไปแล้ว” เสียงของเด็กน้อยกล่าว “ชีวิตแต่ละชีวิตข้าอาศัยเพียงพลังของตัวเอง ทุกๆชีวิตข้าล้วนแต่มีอายุเกินกว่าล้านปี วิญญาณทั้งเก้าชีวิตจะผสานรวมกันเป็นร่างอันแท้จริงในชีวิตที่สิบและข้าจะถือก่อเกิดเป็นนิจนิรันดร์!”