หลิงฮันโจมตีสังหารศัตรู ใครที่กล้าขวางทางไม่ให้เขาไปช่วยเหลือภรรยา พวกมันจะต้องตาย!
ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!
จิตสังหารของเขาเดือดพล่านราวกับเทพปีศาจ
เนื่องจากการโจมตีพุ่งมาจากด้านนอกเมือง ในตอนแรกเหล่าผู้บุกรุกถึงนึกว่าหลิงฮันเป็นพรรคพวกตนเอง แต่ไม่นานก็มีคนพบว่ามีบางอย่างแปลกๆ สำหรับปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งนั้น พวกเขาต้องจดจำรูปลักษณ์ของตัวตนระดับนั้นได้หมดอยู่แล้ว
“เจ้าเป็นใคร?” เสียงอันเย็นชาเอยถาม
หลิงฮันคร้านที่จะพล่ามไร้สาระ เขาตั้งใจจะไปให้ถึงเมืองจักรพรรดิโดยไม่เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์แม้แต่วินาทีเดียว
หลิงฮันสะบัดมือ ‘โพล๊ะ’ คนที่เอ่ยถามเขาถูกบดขยี้ทันทีพร้อมกับโลหิตที่สาดกระกายราวกับห่าฝน ร่างของหลิงฮันทะยานต่อไปโดยไม่หยุด
เมื่อเป็นเช่นนี้เขาจึงกลายเป็นเป้าโจมตีของทุกคนไปโดยปริยาย
“มีไส้ศึก!”
“จัดการเขา!”
“ฆ่า!”
พริบตาเดียวจอมยุทธเกินกว่าสิบคนก็โจมตีใส่หลิงฮัน พวกเขาทั้งหมดเป็นจอมยุทธระดับสุริยันจันทรา เหล่าปรมาจารย์ระดับดารานั้นเหาะเหินออกคำสั่งอยู่บนท้องฟ้า พวกเขาไม่มีทางไปรายงานตัวตนระดับนั้นเพียงเพราะว่ามีศัตรูปรากฏขึ้นแค่คนเดียว
หลิงฮันไม่ต้องการเสียเวลาโจมตีตอบโต้ เพราะอย่างไรกายหยาบของเขาก็แข็งแกร่งเทียบเท่าแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ระดับสิบสอง ต่อให้ถูกรุมโจมตีโดยจอมยุทธระดับสุริยันจันทราหลายร้อยล้านคนเขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บ เขาปลดปล่อยออร่าของระดับดาราออกมาและพุ่งทะยานไปจากเบื้องล่าง
หากเหาะเหินขึ้นไปบนท้องฟ้าเขาจะกลายเป็นเป้าโจมตีของปรมาจารย์ระดับดารา ดังนั้นการเคลื่อนที่จากพื้นดินจึงเป็นไปอย่างรวดเร็วกว่า
ต้องรู้ก่อนว่าจักรวรรดิราชวงศ์นภาสีครามนั้นไม่ใช่จักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาเพียงหนึ่งล้านปี พวกเขามีทั้งปรมาจารย์ระดับดาราขั้นต้น ขั้นกลางไปจนถึงขั้นสูงสุด
หากต้องคอยระวังการโจมตีของจอมยุทธระดับดาราขั้นสูงสุด เขาก็จะเคลื่อนไหวได้เชื่องช้าลง
‘ครืนน’ ออร่าอันเกรี้ยวกราดของหลิงฮันกวาดผ่านไปทั่วบริเวณ เหล่าจอมยุทธระดับสุริยันจันทราที่ล้อมเขาอยู่ร่างสั่นสะท้านและกลายเป็นเศษเนื้อทันที
“ไม่ใช่… ศัตรูไม่ใช่ระดับสุริยันจันทราแต่เป็นระดับดารา!” ใครบางคนอุทานออกมา
“รีบแจ้งให้เบื้องบนทราบ!”
หลังจากนั้นไม่นาน จอมยุทธระดับดาราคนหนึ่งที่ควบคุมสถานการณ์อยู่บนท้องฟ้าก็รับรู้ถึงความผิดปกติและจ้องมองมายังหลิงฮัน
“ช่างกล้าหาญนักที่ลอบกัดโจมตีกองกำลังที่ข้าดูแล!” จอมยุทธระดับดาราผู้นั้นลงมือ แม้เขาจะอยู่ห่างไกลว่าสิบไมล์แต่พริบตาเดียวมือปราณก่อเกิดขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นด้านหน้าหลิงฮัน
หลิงฮันไม่หลบหลีกหรือโจมตีตอบโต้แต่เลือกที่จะพุ่งเข้าใส่มือขนาดใหญ่ตรงๆ
ตูม!
ร่างของหลิงฮันโผล่ทะลุออกมาจากมือปราณก่อเกิด ในขณะที่มือปราณก่อเกิดได้ปรากฏรูขนาดใหญ่ จอมยุทธระดับดาราที่อยู่บนต้องฟ้าใบหน้าเปลี่ยนเป็นมืดมน ที่มือขวาของเขาปรากฏหลุมโลหิตหลายจุด
เขาตกตะลึงเพราะรู้ว่าหลิงฮันนั้นไม่ได้ปลดปล่อยการโจมตีใดๆ แต่เป็นพลังโจมตีของเขาเองที่ปะทะกับร่างของหลิงฮันและเป็นฝ่ายพังทลายเอง
กายหยาบที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้จะเปรียบเทียบง่ายๆเลยก็คือแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ในรูปร่างของมนุษย์!
“ใช้ทุกอย่างหยุดเขาเอาไว้ให้ได้!” จอมยุทธระดับดาราผู้นั้นกล่าว
ทันใดนั้นเองเหล่าจอมยุทธเบื้องล่างก็ร่วมมือกันเพื่อหยุดยั้งหลิงฮัน
ตูม!
หลิงฮันพุ่งทะลวงใส่จอมยุทธเหล่านั้น ร่างของแต่ละคนลอยกระเด็นขึ้นฟ้าโดยที่ไม่อาจยับยั้งเขาไว้ได้แม้แต่น้อย บางคนถึงขนาดร่างกายถูกบดขยี้กลางอากาศ ไม่ว่าจะจอมยุทธระดับภูผาวารีหรือระดับดาราก็ไม่อาจหยุดยั้งเขาไว้ได้
เมื่อเป็นเช่นนี้ เหล่าปรมาจารย์ระดับดาราที่อยู่บนฟ้าก็เปลี่ยนสีหน้าทันใด
เหลือเชื่อ!
จอมยุทธระดับสุริยันจันทราไม่ได้แข็งแกร่งเท่าระดับดาราก็จริง แต่ประเด็นสำคัญคือหากจอมยุทธระดับสุริยันจันทรานับหมื่นคนนับแสนร่วมมือกันอย่างน้อยก็สมควรมีพลังที่จะต้านทานจอมยุทธระดับดาราเอาไว้ได้บ้าง
หลิงฮันเป็นดั่งกระทิงคลั่ง เขาไม่ได้ใช้อำนาจแหง่กฎเกณฑ์หรือทักษะใดๆออกมา ในการบุกทะลวงเขาพึ่งพาเพียงพลังจากร่างกายอย่างเดียวเท่านั้น
“ฮึ่ม!” ปรมาจารย์ระดับดาราอีกคนลงมือ คลื่นดาบถูกโจมตีไล่หลังหลังหลิงฮันไปอย่างรวดเร็ว
หลิงฮันขมวดคิ้ว คนที่โจมตีมาเป็นปรมาจารย์ระดับดาราขั้นสูงซึ่งสามารถทำให้เขาเจ็บปวดได้เล็กน้อย
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องไปต่อ!
หลิงฮันตัดสินใจมุ่งหน้าทะลวงฝ่าวงล้อมต่อไป
ตอนนี้รูปแบบอาคมป้องกันถูกปิดโดยไม่ทราบสาเหตุ ในเมืองจักรพรรดิต้องกำลังตกอยู่ในความโกลาหลแน่ ดังนั้นเขาจำเป็นต้องรีบถึงที่นั่นให้ไวที่สุด
ตูม!
คลื่นดาบปะทะเข้ากับแผ่นหลังหลิงฮัน เสื้อของเขาขาดกระจายออกเป็นเศษเล็กเศษน้อย บริเวณแผ่นหลังของเขาปรากฏรอยช้ำและมีโลหิตไหลซึมออกมา
เมื่อเห็นภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้า เหล่าปรมาจารย์ระดับดาราของจักรวรรดิราชวงศ์นภาสีครามก็แสดงสีหน้าหวาดกลัวทันที
บ้าไปแล้ว กายหยาบนั่นมันอะไรกัน? เจ้าจะผิดมนุษย์มนาเกินไปแล้ว!
ต้องรู้ก่อนว่าปรมาจารย์ระดับดาราที่โจมตีเมื่อครู่นั้นเป็นจอมยุทธระดับดาราขั้นสูงที่เป็นอัจฉริยะสี่ดาว คลื่นดาบของเขาสมควรมีพลังทำลายเทียบเท่าการโจมตีของระดับดาราขั้นสูงสุดชั้นสูงสุด ใครบ้างจะกล้ารับการโจมตีนั่นด้วยร่างกายตนเอง?
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่น่าตกใจที่สุด ผ่านไปครู่หนึ่งเหล่าปรมาจารย์ระดับดาราก็ต้องสูดหายใจลึกด้วยความตะลึง
พวกเขามองเห็นบาดแผลบนแผ่นหลังของหลิงฮันค่อยๆพื้นสภาพด้วยความเร็วที่มองทันด้วยตาเปล่าจนไม่เหลือแม้แต่รอยขีดข่วน!
หากไม่มีคราบเลือดติดอยู่ ใครจะเชื่อว่าเมื่อครู่หลิงฮันถูกการโจมตีกระแทกใส่จริงๆ?
หลิงฮันละทิ้งความคิดทุกอย่างและมุ่งหน้าไปยังเมืองจักรพรรดิอย่างไม่คิดชีวิต
ด้วยความเร็วของจอมยุทธระดับดารา จะใช้เวลานานเท่าไหร่กันเชียว?
เหล่าจอมยุทธของจักรวรรดิราชวงศ์นภาสีครามแสยะยิ้ม การเข้าไปในเมืองจักรพรรดิในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับการนำพาตนเองเข้าสู่กับดักที่จะร่วงหล่นไปพร้อมกับเมือง
หลิงฮันเข้าเมืองจักรพรรดิได้อย่างรวดเร็วและปลดปล่อยสัมผัสสวรรค์ออกมา เขาพบว่ามีออร่าที่ทรงพลังแปดจุดรวมตัวกันอยู่ในบริเวณหนึ่งจึงมุ่งหน้าไปนั่นทันที
เบื้องหน้าเขา มีฉีเชียวเซวี่ยและผู้อาวุโสซ้ายขวายืนอยู่ด้วยกัน
“เกิดอะไรขึ้น เหตุใดรูปแบบอาคมป้องกันถึงได้สลายไป?” หลิงฮันถาม
ฉีเชียวเซวี่ยและคนอื่นตั้งท่าป้องกันทันที ตอนนี้ไม่ว่าใครหากเป็นบุคคลภายนอกล้วนแต่มีสิทธิที่จะเป็นศัตรู
หลิงฮันกวาดสายตามองและพบกับแม่ทัพหลายคนที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน แต่เขากวาดสายตามองได้เพียงชั่วครู่ก็ต้องขมวดคิ้ว “แล้วติงหลีอันล่ะ?”
มีจอมยุทธระดับดาราอยู่กันเพียงแปดคน
ใบหน้าของผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายเปลี่ยนเป็นมืดมนและกล่าว “วันนี้เป็นวันที่ติงหลีอันต้องควบคุมรูปแบบอาคมป้องกัน!”
“นั่นหมายความว่าหมอนั่นจงใจทำลายรูปแบบอาคมเพื่อให้ศัตรูเข้ามา?” หลิงฮันเข้าใจเรื่องราวทันทีและรีบหันไปหาฉีเชียวเซวี่ย “จักรพรรดินีเก็บตัวอยู่ที่ไหน พาข้าไปเดี๋ยวนี้!”