“ผู้นำหลง ท่านสงบสติอารมณ์รึยัง? พวกเราจะได้คุยกันเสียที” หลิงฮันกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ใบหน้าของผู้นำตระกูลหลงกลายเป็นมืดมน “ถึงว่าทำไมเจ้าถึงกล้าสร้างปัญหา ที่แท้พลังของเจ้าก็แข็งแกร่งเพียงนี้! เพียงแต่ที่นี่คือตระกูลหลง พวกเรามีเซียนคอยคุ้มครองอยู่ถึงสองคนเจ้าคิดว่าจะแข็งแกร่งเหนือกว่าพวกเขา?”
“ท่านช่างไร้เหตุผลเหลือเกิน!” หลิงฮันกล่าว “ข้ามาสู่ขอแต่งงานเข้าตระกูลท่านด้วยความเป็นมิตรแต่ท่านกลับใช้ความรุนแรง นี่รึวิธีที่ท่านปฏิบัติต่อแขก?”
ผู้นำตระกูลหลงรู้สึกเกรี้ยวกราด ปัญหาคือสิ่งที่เจ้าร้องขอมันเกินไปต่างหาก เจ้าคิดจะให้ตระกูลหลงพังพินาศโดยการยกเลิกการหมั้นหมายกับขุมอำนาจของราชาเซียน?
เขาปลดปล่อยอำนาจมังกรเพื่อตอบโต้
เพียงต่อว่าต่อหน้าหลิงฮันผู้นำตระกูลหลงดูราวกับไม่ต่างอะไรกับเด็กน้อย เขาทั้งระเบิดอำนาจมังกรและกระตุ้นพลังของสายเลือดก็แล้ว
ไม่ว่าจะฝืนดิ้นรนขนาดไหนผลสุดท้ายก็เป็นเขาที่เหนื่อยหอบในขณะที่หลิงฮันยืนนิ่งผ่อนคลายอย่างมาก
ผู้นำตระกูลหลงตกตะลึงอย่างแท้จริง ความต่างของเขากับหลิงฮันมีมากขนาดไหนกันแน่? เขากัดฟันก่อนจะนำดาบออกมาจากอุปกรณ์มิติ ใบดาบของดาบมีสีขาวโพลนเนื่องจากถูกสร้างขึ้นจากกระดูก ตามพื้นผิวของมันมีรูปแบบอาคมศักดิ์สิทธิ์ประทับเอาไว้และปลดปล่อยประกายแสงออกมา
กระดูกที่ใช้สร้างดาบเล่มนี้คือกระดูกสันหลังของหนึ่งในประมุขตระกูลหลงรุ่นก่อน!
มันคืออุปกรณ์เซียน!
‘ครืนน’ ดาบกระดูกมังกรถูกกระตุ้น ด้วยการที่ผู้นำตระกูลหลงเป็นคนของตระกูลหลงเขาจึงสามารถดึงพลังของดาบออกมาใช้ได้ถึงขีดจำกัด ร่างเงาของมังกรแท้จริงสีชาดลอยออกมาจากตัวดาบและพุ่งทะยานเข้าใส่หลิงฮัน
ดวงตาของหลิงฮันเปิดกว้างเล็กน้อยด้วยความรู้สึกสนใจ เขากระตุ้นใช้งานรูปแบบอาคมสังหารในร่างและควบแน่นพลังปราณเป็นคลื่นดาบทะลวงเข้าใส่มังกรแท้จริง
และแล้วก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ร่างของมังกรแท้จริงนั้นจู่ๆก็รีบสะบัดหางหันหลังพุ่งกลับเข้าไปยังดาบกระดูกมังกร
หวาดกลัวจนเผ่นหนี!
ผู้นำตระกูลหลงกลายเป็นไร้คำพูด ดาบกระดูกมังกรหวาดกลัวหลิงฮัน!
ดาบเล่มนี้ถูกสร้างขึ้นจากกระดูกสันหลังของอดีตประมุขตระกูลหลงเพราะงั้นจึงมีเศษเสี้ยววิญญาณของประมุขสถิตอยู่ และด้วยการที่มันกลายเป็นอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว ความรู้สึกเดียวที่หลงเหลืออยู่ในเศษเสี้ยวดวงวิญญาณคือต้องปกป้องผู้ถือครองให้ได้
นี่หลิงฮันต้องทรงพลังขนาดไหนกันถึงทำให้อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ฟื้นคืนความรู้สึกหวาดกลัวกลับมาได้?
หลิงฮันเผยรอยยิ้ม “ผู้นำตระกูลหลง พวกเราจะคุยกันดีๆได้รึยัง?”
“คุยก็คุย” ผู้นำตระกูลหลงรู้สึกปวดหัว
ซึ่งแน่นอนว่าการสนทนาหลังจากนั้นของพวกเขาก็ไม่มีความหมาย ผู้นำตระกูลหลงอธิบายเหตุผลต่างๆนาๆออกไปแต่หลิงฮันก็ไม่รับฟังแม้แต่น้อย เขาดื้อรั้นที่จะสร้างปัญหาไม่หยุด
หลังจากพูดคุยกันได้สักพักหลิงฮันก็ขอตัว หลงอวี่ซานเองก็ทำตามแผน นางแพร่การจายข่าวเรื่องที่หลิงฮันต้องการสู่ขอนางแต่งงานออกไป
ผ่านไปไม่นานข่าวนี้ก็ถึงหูฉงปาตู้
ปัง!
ฉงปาตู้ทุบโต๊ะหินเบื้องหน้าและลุกยืนพรวดพราด แววตาของเขาโหดเหี้ยมปลดปล่อยจิตสังหารอันรุนแรง
ก่อนหน้านี้ที่เขาไม่สังหารหลิงฮันเพราะไม่อยากล่วงเกินประมุขตระกูลหลง แต่ไม่ว่าคาดว่าหลิงฮันจะกล้าถึงขนาดคิดแย่งชิงสตรีที่เขาเพ่งเล็งอยู่!
ยอมไม่ได้!
“นายน้อย!” จิ่งอี้และหยางจือเกอเดินเข้ามา
ฉงปาตู้ระงับความโกรธและพาดมือไว้ด้านหลัง ไม่ว่าอย่างไรเรื่องนี้ก็ยังเป็นเพียงข่าวลือ ตระกูลหลงจะกล้ายกเลิกงานแต่งของเขาได้อย่างไร พวกเขาไม่หวาดกลัวความเกรี้ยวกราดของราชาเซียนรึ?
เพียงแต่ดูเหมือนเรื่องราวจะไม่เป็นดั่งที่เขาคิด ผ่านไปไม่นานก็มีข่าวแพร่กระจายต่ออีกว่าหลงอวี่ซานนั้นมีใจให้หลิงฮัน ประมุขตระกูลหลงก็ถึงกับต้องออกมาจากการบ่มเพาะพลังเพื่อจัดการงานแต่งใหม่
เรื่องนี้ทำให้ฉงปาตู้ไม่อาจนิ่งเฉยได้อีกต่อไป ตระกูลหลงกล้ายกเลิกงานแต่งงานจริงๆ?
เขาไม่ได้ชื่นชอบเพียงแค่ความงดงามและพรสวรรค์ของหลงอวี่ซาน สิ่งที่เขาสนใจยิ่งกว่าคือสายเลือดมังกรแท้ของนาง หากเขากับนางได้ครองคู่กัน ทายาทที่ถือกำเนิดในอนาคตจะต้องทรงพลังหาผู้ใดเปรียบเป็นแน่
ซึ่งงานแต่งครั้งนี้ก็เป็นคำสั่งโดยตรงจากราชาไค่หยุนที่เขาจะต้องทำให้ลุล่วงให้ได้ ยิ่งกว่านั้นเรื่องงานแต่งงานก็เป็นที่รู้กันไปทั่วดินแดนต้องห้ามเปิดเมฆาแล้ว หากจู่ๆงานแต่งถูกยกเลิกเขาจะยังมีหน้าไปพบใครในดินแดนต้องห้ามเปิดเมฆาได้อีก?
ฉงปาตู้รีบไปตามหาหลงอวี่ซานทันที แต่นางก็เก็บตัวเงียบไม่ยอมออกมาพบ ซึ่งทำให้อารมณ์ของเขากลายเป็นบูดบึ้งยิ่งกว่าเดิม
อีกไม่กี่วันต่อมาหลิงฮันได้ทำการขอท้าประลองฉงปาตู้
เงื่อนไขคือหากฉงปาตู้ชนะหลิงฮันจะยอมปัดตูดจากไป แต่หากฉงปาตู้แพ้ฉงปาตู้จะต้องยอมเพิกถอนงานแต่งด้วยตัวเอง
ช่างโอหังนัก! ฉงปาตู้เกรี้ยวกราด เขาคือทายาทของดินแดนต้องห้ามเปิดเมฆา ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยถูกใครเหยียดหยามขนาดนี้มาก่อน
เขาตอบรับคำท้าประลองของหลิงฮันอย่างไม่ลังเล
ฉงปาตู้แสยะยิ้มในใจ เดิมทีเขาตั้งใจว่าจะหาโอกาสสังหารหลิงฮันในตอนที่อีกฝ่ายออกไปจากตระกูลหลง แต่ตอนนี้ในเมื่อหลิงฮันรนหาที่ตายเองเขาก็ยินดีจะเติมเต็มความปรารถนาให้
ทั้งสองตกลงกันว่าจะสู้กันบนห้วงอวกาศในอีกสามวัน
สามวันต่อมา หลิงฮันและฉงปาตู้ได้มาถึงห้วงอวกาศเป็นที่เรียบร้อย หยางจือเกอและจิ่งอี้ยืนนิ่งอยู่ด้านหลังฉงปาตู้ในขณะที่ทางฝั่งของหลิงฮันไม่มีใคร ตระกูลหลงเองก็ตั้งตนเป็นกลางยืนคั่นระหว่างทั้งสอง
หลงเซียงเยว่คิดอยากจะให้กำลังหลิงฮันแต่นางก็ถูกหลงอวี่ซานห้ามเอาไว้
“หลิงฮัน!” ฉงปาตู้คำรามด้วยเสียงดังสนั่นราวกับฟ้าผ่า ที่ไม่คาดคิดคือเสียงของเขาแฝงเอาไว้ด้วยร่องรอยของอำนาจมังกร
ดูเหมือนว่าที่ตระกูลฉงต้องการแต่งงานกับหลงอวี่ซานจะมีความหมายอื่นแฝงอยู่อีก
หลิงฮันปิดหูก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉื่อยชา “ทำไมต้องตะโกนเสียงขนาดนั้น? ข้าไม่ได้หูหนวกเสียหน่อย”
“ข้าไม่ได้คิดว่าเจ้าหูหนวกเพียงอย่างเดียว แต่เจ้ายังตาบอดอีกด้วย!” ฉงปาตู้แสยะยิ้ม “หากเจ้ามีตาเจ้าจะรู้ว่าตนเองไม่สมควรที่จะเป็นศัตรูกับข้า ต่อให้เจ้าเป็นเซียน โชคชะตาของเจ้าก็หนีไม่พ้นที่จะกลายเป็นเศษซากด้วยอำนาจของดินแดนต้องห้ามเปิดเมฆาของข้า!”
ฉงปาตู้จ้องหลิงฮันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวต่อ “เจ้ามาจากขุมอำนาจใด?”
หากไม่มีราชาเซียนอยู่เบื้องหลัง อีกฝ่ายจะกล้าต่อต้านเขาได้อย่างไร?
“ข้าหลิงฮัน เป็นจอมยุทธพเนจร” หลิงฮันกล่าวอย่างไม่แยแส
“ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็ตายไปซะ” ฉงปาตู้ไม่ทนอีกต่อไป ร่างของเขาปลดปล่อยพลังอำนาจออกมาเพื่อหวังบดขยี้หลิงฮันเป็นเศษซาก